ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปะทะศึก
ตอนที่1
        ณ บ้าน ธรรมาภิรักษ์ ในบ้านมีสมาชิกอยู่ทั้งหมด6 คน เป็นบ้านใหญ่ใจกลางซอยที่รู้กันว่าร่ำรวยทำธุรกิจใหญ่โต สมาชิกที่เป็นหัวหอกสำคัญคือ วิชชุ ชายวัยกลางคนที่ยังหนุ่มอยู่วัย52 ปี และภรรยาคือ ภารดี หญิงสาวสวย ทั้งคู่มีลูกด้วยกันทั้งหมด 4 คน คือ ภีรดา พี่สาวคนโตที่เรียนร้อย อ่อนหวาน วัย25 ปี หรือชื่อเล่นว่าพิมพ์ รองลงมาคือ ภัทรา หรือ ผึ้ง หญิงสาวที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ และเจ้าอารมณ์ วัย24 ปี พิพัฒน์ หรือ พุก วัย 22 ปีที่มีนิสัย เลือดร้อน โมโหง่าย และคนสุดท้องคือ ภาพวาด หรือ  ภาพ หนุ่มที่มีความผิดปรกติทางขาทำให้เดินขากระเผลก ภาพนั้นมีนิสัยเรียนร้อย พูดน้อย และขี้กลัว วัย 19 แต่ทั้ง 4 คนนั้นกลับเห็นหน้าวิชชุผู้เป็นพ่อได้ไม่กี่ครั้ง เนื่องจากวิชชุติดงานและไม่มีเวลาให้ครอบครัว วันนี้เป็นวันแรกที่ พิมพ์ จะไปทำงานที่บริษัทของวิชชุ พิมพ์จัดแจงแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วเดินลงบันไดมา เห็น ภีรดาผู้เป็นแม่กำลังนั่งดื่มกาแฟ และอ่านหนังสืออยู่ จึงเข้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่ \" วันนี้พิมพ์จะไปทำงานวันแรก คุณแม่อวยพรหน่อยสิคะ\"
ภีรดามองลูกสาวแล้วก็ยิ้ม \" แหมทำยังกะจะไปทำงานที่ไหร บริษัทที่ทำก็เป็นบริษัทของคุณพ่อเขานะ เอ้า ให้ก็ได้ ขอให้พิมพ์ทำงานได้ดีๆ ไม่ต้องโดนคุณพ่อเขาดุมาอีกดีไหม\"
พิมพ์หน้าเจื่อนหุบยิ้มไป ใช่สิพ่อมักจะโมโหและมาลงที่เธอเสมอ ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ผู้เป็นแม่เข้าใจความรู้สึกของลูกจึงรีบบอกให้ไปทำงานได้แล้ว ชักช้าเดี๋ยวจะโดนว่าเอาได้ พิมพ์หอมแก้ม ภีรดา อีกหลายฟอด แล้วเดินออกไปขับรถ ภีรดามองลูกสาวอย่างสงสาร และฌสร้าใจ เธอขึ้นไปที่ห้องของตัวเองแล้วไปเปิดลิ้นชักที่ล็อกอยู่ หยิบรูปถ่ายของเธอกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งในภาพก็มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆวัยแรกคลอด อยู่ด้วย มองรูปไปเธอก็ร้องไห้ไป \" ฉันอยากให้คุณได้มาเห็นความสำเร็จของพิมพ์จังเลยค่ะ แกถอดแบบคุณมาเปี๊ยบเลย คุณคงมองดูแกจากที่ไหนอยู่ใช่ไหมคะ ภีรดามองออกไปอย่างไร้จุดหมาย คิดทบทวนในสิ่งที่ได้ทำลงไป
        ส่วนพิมพ์ไปถึงที่บริษัทแล้วก็เจอเลขาของวิชชุเรียนไป \" เชิญทางนี้เลยค่ะคุณพิมพ์ คุณวิชชุเรียนเข้าพบหน่อยค่ะ \" พิมพ์พยักหน้าแล้วเดินตามไป เลขาให้พิมพ์เข้าไปในห้อง วิชชุนั่งอยู่ที่โต๊ะกำลังเขียนอะไรอยู่ พิมพ์เห็นจึงเดินเข้าไปหยุดที่หน้าโต๊ะ \" เสียมรรยาท ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ ไม่มีก้นนั่งหรือไง\" พิมพ์หน้าเสียแล้วนั่งลงที่เก้าาอี้ วิชชุนั่งทำงานเหมือนพิมพ์ไม่มีตัวตน พิมพ์ทนไม่ไหวจึงถาม \" คุณพ่อรู้หรือเปล่าว่าพิมพ์นั่งอยู่ อย่าทำเหมือนพิมพ์ไม่มีตัวตนสิคะ\" วิชชุเงยหน้าขึ้นมามอง \" แล้วไง ฉันมีหน้าที่ต้องมาแคร์ความรู้สึกของคนอื่นหรือไง ตาฉันไม่ได้บอดนี่ถึงไม่รู้ว่าแกนั่งอยู่ แกไปทำงานได้แล้วไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก\" พิมพ์รู้สึกโกรธและโมโห แต่ก็ลุกขึ้นไปเตรียมจะออก วิชชุเรียกเอาไว้ก่อน พิมพ์หันมามองว่าเรียกทำไม วิชชุบอกว่า\" ถ้าจะมาทำงานที่นี่ อย่าคิดว่ามีเส้นสาย ถ้าแกทำงานได้ไม่ดี ฉันก็ไล่แกออกได้ หวังว่าคงไม่มาทำเบ่งบารมีที่นี่เข้าใจไหม\" พิมพ์รับคำแล้วเดินออกไปด้วยความน้อยใจ เมื่อไปถึงที่ห้องทำงานของเธอ พิมพ์นั่งลงอย่างเหนื่อยใจคิดว่าตัวเองจะทนได้แค่ไหน แต่มาคิดอีกทีเธอไม่ต้องการให้พ่อดูถูกจึงจะอยู่ให้ถึงที่สุด พักเที่ยงพิมพ์เห็นเลขาจะเอากาแฟไปให้วิชชุจึงเรียกไว้ บอกว่าเดี๋วเอาไปให้เองไม่ต้องลำบาก พิมพ์ว่าแล้วก็เดินไปในห้อง วางกาแฟลงวิชชุหันมามอง:\" งานตัวเองไม่มีหรือไงถึงได้ต้องมาเสนอหน้าช่วยงานคนอื่น กาแฟนี่เอาไปทิ้งซะฉันไม่อยากกิน แล้วจะไปไหนก็ไป ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าบ่อยๆ\" พิมพ์เหลืออด จึงพูด \" ทำไมคุณพ่อต้องทำท่ารังเกียจพิมพ์ด้วย พิมพ์เป็นลูกคุณพ่อนะ หรือว่าไม่ใช่ \" วิชชุเงยหน้าขึ้นมามองแล้วไล่\" นับวันแกยิ่งจะเถียงแกนักนะ แกไปได้สายเลือดของใครมาฮะ หรือแม่แกเขาตามใจจนเสียคนฮะ\" พิมพ์โกรธจนจึงบอกไปว่าสงสัยคงได้นิสัยที่ไม่ดีมาจากพ่อ วิชชุตบหน้าพิมพ์ดังเพี้ยแล้วบอกว่า \"แกได้เลือดชั่วมาจากคนอื่นล่ะสิ จะไปไหนก็ไป หรือถ้าแกไม่ไปฉันก็จะไปเอง\" วิชชุเดินออกไปจากห้องโดยไม่แยแสพิมพ์ซักนิด พิมพ์ได้แต่มองและร้องไห้อย่างเสียใจ
                                                                                  ********************************************************
        ส่วนที่บ้านอีกหลังหนึ่งก็วุ่นวายไม่แพ้กัน มีสิตาเป็นหัวหอกใหญ่ของบ้าน ความจริงแล้วเธอเป็นภรรยาหลวงของวิชชุ ทั้งคู่มักจะมีปากเสียงกันบ่อยๆ สิตามีลูกอีก 3 คนคือ สัตยา หรือ แยม หญิงสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ นิสัย เอาแต่ใจ เจ้าอารมณื เนื่องจากวิชชุมักจะตามใจจนเหลิง เริงฤทธิ์ หรือ หยุ่น วัยไล่เลี่ยงกับ พุก และ สุรัศวดี หรือ ดาว หญิงสาวที่บอบบาง อ่อนต่อโลก วัยไล่เลี่ยกับ ภาพ และวันนี้ก็เช่นเดียวกันที่บ้าน หยุ่ยและแยมต่างเทลาะกันอยู่ \" นี่ ฉันบอกให้หยุดไง ไอ้หยุ่น หยุดเดี๋ยวนี้นะ \" แยมวิ่งทันคว้าข้อมือของหยุ่นไว้แล้วต่อว่าๆเแอาเงินของเธอไป ใช่ไหม20000 บาท หยุ่นปฎิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นแต่พิมพ์ไม่สนใจเอามือเข้าไปล้วงในกระเป๋าสะพายของหยุ่น เจอเงินหล่นลงมาเป็นแบงค์พันหลายใบ จึงหยิบเงินขึ้นมาแล้วถามว่านี่อะไร \" แล้วนี่มันอะไรฮะ ไปติดนิสัยโจรมาจากใครล่ะ หรือ ยัยแม่นันท์แฟนตัวดีของเธอ อยากจะได้อะไรล่ะฮะถึงต้องมาขโมยเงินของฮัน ไม่ละอายใจหรือไง\" หยุ่นโกรธบอกว่านันท์ไม่เกี่ยวที่ขโมยไปเพราะจะไปซื้อให้เอง นันท์ไม่ได้ขอเลย แต่แยมไม่เชื่อ ในระหว่างนั้นมีรถเบนซ์ขันงามขับเข้ามา ธันวินนั่นเองซึ่งเป็นแฟนของแยม ธันวินถามว่ามีเรื่องอะไรกัน แยมได้ทีจึงฟ้อง\" ก็ไอ้หยุ่นน่ะสิคะ ไปติดนิสัยโจรมาจากใครก็ไม่รู้โขมยเงินแยม นี่ถ้าไม่จับได้คาหนังคาเขาก็คงปากแข็งไม่รับสารภาพหรอกค่ะ\" สิตาได้ยินเสียงเอะอะจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น หยุ่นบอกว่าเปล่าเตรียมเดินหนี ธันวินเรียกไว้และเดินตาม ธันวินให้เงินหยุ่นไว้ 10000 บอกว่าเงินพี่ก็เหมือนเงินแยมรับไปเถอะ หยุ่นมองเงิน แล้วบอกขอบใจกระชากเงินไปและเดินออกจากบ้าน แยมว่าไม่ต้องให้ก็ได้ เสียดายเงิน ธันวินบอกว่าไม่เป็นไรและให้แยมไปแต่งตัวเดี๋ยวมีนัดทานข้าวกัน แยมยิ้มแล้ววิ่งไปแต่งตัวข้างบนห้อง ธันวินจึงมาทักทายสิตา\" สวัสดีครับคุณอา สบายดีหรอครับ \" สิตารับไว้แล้วบอกว่าสบายดี ไม่เจ็บไม่ป่วย \" เที่ยวให้สนุกก็แล้วกันนะ เดี๋ยวอาก็มีนัดกับคุณหญิงพวงร้อยเหมือนกัน กะว่าจะไปดูเพชรสักหน่อย\" ครับ ชายหนุ่มรับคำ แยมเดินลงมาทำให้ธันวินถึงกับอึ้งชมไม่ขาดปากว่าแยมสวยมาก หญิงสาวยิ้มเขินแล้วออกไปกับธันวิน แต่ไม่ลืมลา สิตา  ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งพิมพ์ และแยมต่างใจตรงกันเลือกมาทานที่นี่ แยมนั้นนั่งกอดกับธันวิน ส่วนพิมพ์กำลังจะทาลิปสติกเพราะสีซีดไป ไม่ทันระวังลิปสติกตกลิ้งไปตกที่โต๊ะของธันวินและแยม พิมพ์จึงเดินมาเก็บเห็นอยู่ใต้เท้าแยมจึงบอกให้เก็บให้หน่อย แต่แยมไม่รู้และไม่ได้ฟังเพราะมัวแต่นั่งกอดอยู่กับธันวินจึงเหยียบเนื้อลิปเข้าไปเต็มๆจนลิปเสียใช้ไม่ได้ พิมพ์โกรธจึงต่อว่า
\" นี่คุณ ที่นี่มันร้านอาหารนะไม่ใช่โรงแรมถึงได้มานั่งกอดออเซาะกันแบบนี้ แถมยังมาทำของฉันเสียหายอีก \" แยมและธันวินต่างหันหน้ามา แวบแรกที่เห็นพิมพ์ถึงกับชะงักในความสวยแต่พิมพ์ไม่สังเกตุ แยมงง จึงถามไป\" ฉันไปทำอะไรของคุณพังไม่ทราบ ไหนล่ะอยู่ไหน \" พิมพ์ผลักแยมให้หนีออกไปแล้วไปเก็บลิปสติกที่หล่นอยู่ ทั้งแยมและวินเห็นสภาพต่างก็มองหน้ากัน\" ยังจะให้ฉันบอกอีกไหมว่าคุณใช้ส่วนไหนทำลายของๆฉัน\" แยมไปเกาะแขนธันวินไว้ แล้วบอก\" แยมไม่ได้ตั้งใจนะคะ มันเป็นอุบัติเหตุ ใครเขาจะตั้งใจเหยียบลิปของเธอล่ะ\" ธันวินกลัวว่าเรื่องจะไปกันใหญ่จึงรีบขอโทษ\" ยังไงผมก็ขอโทษแทนแฟนผมด้วยนะครับ เธอคงไม่ตั้งใจเอาเป็นว่าผมจะชดใช้ค่าเสียหายให้คุณก็แล้วกัน\" ธันวินหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วควักแบงค์1000ให้พิมพ์ พิมพ์รับเงินมาแล้ววางกลับไปที่โต๊ะ \" คุณเก็บเงินของคุณไว้เถอะ ลิปของฉันมันไม่ได้ราคาแพงหรอก และฉันก็ไม่ต้องการเงินด้วยแต่ฉันอยากได้คำขอโทษจากแฟนคุณมากกว่า\" ธันวินมองหน้าของแยม แยมจึงบอกว่า\" ทำไมต้องขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจนี่ เธอไม่เอาเงินเองแล้วจะมาเรียกร้องเอาอะไล่ะ\" ธันวินมองหน้าแยมอย่างดุๆ แยมกลัวธันวินโกรธจึงขอโทษไปอย่างไม่เต็มใจ พิมพ์ว่าถ้าไปเจอคนอื่นเขาคงไม่ยกโทษให้ง่ายๆแล้วเดินไปที่โต๊ะวางเงินไว้เป็นค่าอาหารแล้วเดินออกไป แต่ไม่ลืมหันกลับมามองธันวินและแยม แยมมองอย่างโกรธๆแล้วพูดกับธันวิน\' ผู้หญิงอะไร จองหองชะมัดเลยแยมไม่มีอารมณ์กินแล้วล่ะค่ะ กลับกันเถอะ\" แยมมองหน้าของธันวินเห็นมอง ไม่ละสายตาจาก พิมพ์ จึงเรียกซะเสียงดัง จนธันวินตกใจ แยมโกรธธันวินจึงเดินหนีออกมาจากร้าน ธันวินจึงเดินตาม \" เดี๋ยวสิเป็นอะไรล่ะแยม\" แยมหันหน้ามาแล้วถาม
\" แล้วทำไมพี่วินต้องมองผู้หญิงคนนั้นแบบไม่วางตาเลยล่ะ ทั้งๆที่แยมก็ยืนหัวโด่อยู่อะ สนใจอะไรผู้หญิงคนนั้นล่ะ\" ธันวินยิ้มนิดๆแล้วหัวเราะ
\" แยมอย่าคิดมากสิ โกรธง่ายเดี๋ยวหน้าแก่นะ พี่ก็แค่มองเขาเฉย ไม่เชื่อใจพี่หรอไงล่ะ\" แยมยิ้มแล้วบอกว่าเชื่อ ทั้งคู่เดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไป
**********************************************************
                พิมพ์กลับไปนั่งทำงานต่อ สักพักเลขาของวิชชุจึงมาเรียกบอกว่าวิชชุเรียกเข้าพบ  แยมคิดในใจว่าจะมาเรียกทำไมนักหนา แต่ก็ไม่ขัดเดินตามไปในห้อง วิชชุกำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่จึงรีบวางหู พิมพ์จึงถามไป\" คุณพ่อมีธุระอะไรหรือคะ เรียกพิมพ์ในเวลางาน\" วิชชุจึงบอกว่า\" เอางานนี้ไปทำซะ เสร็จภายในวันนี้\" วิชชุไม่พูดเปล่าพลางโยนแฟ้มงานปึกใหญ่กว่า10 แฟ้มมาให้พิมพ์ พิมพ์ดูแล้วถึงกับอึ้งจึงถาม\" ทั้งหมดนี่พิมพ์จะทำเสร็จหมดได้ยังไง ถ้างานมันยังไม่รีบพิมพ์ก็จะทยอยทำให้นะคะ\" พิมพ์กล่าวพร้อมกับหยิบแฟ้มขึ้นมาแต่วิชชุรีบดักคอ \" เดี๋ยว ถึงแม้ว่างานจะไม่จำเป็นต้องเสร็จในวันนี้แต่ฉันต้องการเวลาในการตรวจดูความเรียบร้อย  และต้องการภายในวันนี้ ถ้าไม่เสร็จก็อยู่ทำให้เสร็จ เพราะมันเป็นหน้าที่ของแก\" พิมพ์มองหน้าวิชชุอย่างน้อยใจแต่วิชชุไม่สนใจแล้วพูดต่อ โดยไม่ให้พิมพ์ปฎิเสธได้ \" อ้อ เดี๋ยวบอกเลขาฉันด้วยว่าฉันจะไปธุระ ไม่เข้าบริษัทแล้ว \" วิชชุเดินออกจากห้องไปโดยไม่สนใจพิมพ์แม้แต่น้อยที่ยืนเอ๋ออยู่
****************************************************************   
              พิมพ์นั่งทำงานต่อด้วยความเหนื่อยอ่อน ยิ่งมองงานที่วางกองอยู่ก็ยิ่งมีมากขึ้นไม่รู้จักหมด พนักงานคนอื่นต่างกลับบ้านกันไปหมดแล้ว ในเวลานี้พิมพ์ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว และ ง่วงด้วย แต่ต้องการอยู่เครียร์งานให้เสร็จก่อน มองดูเวลาแล้วถึงกับตกใจว่า 4 ทุ่มแล้ว \" เป็นไงเป็นกัน พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อก็แล้วกัน เฮ้ย\" พิมพ์บิดขี้เกียจนิดหน่อยแล้วเก็บข้าวของให้เรียบร้อย เดินออกไปสตารท์รถกลับบ้าน ระหว่างทางที่ขับออกไปอยู่ดีๆรถก็ดับเฉย \" ไอ้บ้าเอ้ย มาดับเอาอะไรแถวนี้ \" พิมพ์หยิบโทรศัพท์มาจะกดไปหาที่บ้านให้มารับแต่โทรเท่าไรก็ไม่ติดเพราะตอนนั้นสาวใช้ที่บ้านกำลังคุยกับเพื่อนอย่างเมามันเลยไม่ติด พิมพ์เครียดมากไม่รู้จะทำยังไง จึงกดไปหา ผึ้ง \" ฮัลโหล สวัสดีค่ะผึ้งพูดค่ะ\" ผึ้งหรอ นี่พี่นะ รถพี่เสียช่วยให้คนที่บ้านมารับหน่อยสิเนี่ย พี่อยู่แถว.\" ผึ้งรีบบอกว่าจะไปรับให้เร็วแล้วรีบแต่งตัวลงมาข้างล่าง เจอสาวใช้นั่งคุยโทรศัพท์อยู่จึงรู้ว่าทำไมพิมพ์จึงจึงโทรไม่ติด \" รู้แล้ว ว่าทำไมใครโทรเข้ามาถึงไม่ติด ที่แท้เธอก็คุยเพลินอยู่นี่เอง เดี๋ยวสิ้นเดือนเมื่อไหร่ฉันจะหักเงินเดือนเธอมาจ่ายเป็นค่าโทรศัพท์\" สาวใช้หน้าเสียรีบวางโทรศัพท์ลงแล้วขอโทษยกใหญ่ ผึ้งว่าไม่ต้องมาพูดมากรีบไปเปิดประตู สาวใช้ว่าจะไปไหนอีกมือค่ำ\" ถามมากอย่างงี้ระวังสิ้นเดือนจะได้กลับบ้านนอกหรอก บอกให้ไปเปิดก็เปิดสิ ถามมากจริง\"  \" ได้ค่ะ\" สาวใช้ไปเปิดประตูให้ ผึ้งขับรถออกไปเป็นจังหวะที่พุกสวนเข้ามา สาวใช้จึงถาม\" คุณพุกไปไหนมาหรอคะ กลับซะมืดค่ำ \" พุกตอบอย่างหมดอารมณ์ \" ไม่รู้สักเรื่องจะได้ไหม แล้วพี่ผึ้งเขาไหไหนล่ะ\" สาวใช้รีบว่า \" อ๋อ แฮ่ๆ ไม่ทราบค่ะ ก็ไม่เห็นบอก\" พุกส่ายหัวแล้วว่าถามอะไรก็ไม่รู้สักเรื่องแล้วรีบเดินขึ้นห้องไป
***********************************************************
              ผึ้งขับรถมาเรื่อยๆ แต่ดันหลงทางเพราะเป็นทางที่ไม่เคยมา ถึงกับอารมณ์เสีย หงุดหงิด พิมพ์เองก็รอผึ้งว่าทำไมไม่มาสักที ด้วยความกระวนกระวายใจจึงลงจากรถมาดูแต่ไม่ทันระวังตัว เพราะมีจิ๊กโก๋ 2 คนที่เดินผ่านมามองพิมพ์อย่างหิวกระหาย แต่พิมพ์ไม่สงสัยจึงขอความช่วยเหลือ
\" พี่คะ ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าแถวนี้มีอู่ที่ไหนบ้างหรือเปล่าคะ พอดีรถมันเป็นอะไรก็ไม่รู้อ่ะค่ะ\"  จิ๊กโก๋ 2 คนนั้นมองพิมพ์ด้วยสายตาที่มุ่งร้าย 1 ใน 2 คนบอกว่า
\" แถวนี้ไม่มีอู่รถหรอก ไม่มีอะไรสักอย่าง มีแต่พวกพี่ 2 คนเนี่ย ให้ความสุขน้องได้นะจ๊ะ\" พิมพ์เห็นท่าไม่ดีจึงรีบบอกปฎิเสธและจะขึ้นรถหนี แต่ จิ๊กโก๋นั้นไม่ลดละ ตามมาจับแขนพิมพ์ไว้แล้วลากเข้าข้างทาง พิมพ์ร้องให้คนช่วย แต่ 1 ในนั้นกลับเอามือมาปิดปากพิมพ์ไว้พร้อมกับชักมีดออกมาขู่ว่าอย่าร้อง ไม่งั้นจะแทงให้ไส้แตก  พิมพ์กลัวจึงรีบเงียบ ก่อนที่เธอจะถูกพวกจิ๊กโก๋นั่นรุมโทรมเอาก็มีคนมาช่วยเธอไว้ \" เฮ้ย จะทำอะไรน่ะ \" ธันวินนั่นเองที่มาช่วยพิมพ์เอาไว้
\" คุณ \" ทั้ง พิมพ์ และ ธันวิน ถึงกับตกใจที่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เพราะไม่คาดคิดมาก่อน
\" อย่ามายุ่งนะเว้ย ถ้ไม่อยากเจ็บตัว จะไปไหนก็รีบไสหัวไปเลย\" พิมพ์มองดูชายหนุ่มว่าจะมาช่วยเธอหรือไม่ ธันวินขึ้นรถไปแล้วขับออก พิมพ์รู้สึกเสียใจ และผิดหวัง แต่สิ่งที่ธันวินทำก็เธอขับรถเข้าชน 2 โจร นั่น จนแตกฮือกันไปคนละทาง พวกโจรกลัวจนลนลานจึงรีบวิ่งหนีไป พิมพ์ถึงกับเขาอ่อนทรุดลงกับพื้น ธันวินจึงเข้าไปประคองไว้พลางถาม
\"  คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ พวกนั้นมันทำอะไรคุณบ้าง\"  พิมพ์ส่ายหน้าปฎิเสธ \" เปล่าค่ะ ฉันแค่ตกใจ ไม่เป็นอะไร ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน ถ้าไม่มีคุณฉันต้องแย่แน่ๆ\"
ธันวินกอดหญิงสาวตอบแล้วว่าจะพาไปส่งที่บ้าน ด้วยความกลัวพิมพ์จึงรีบรับคำ ธันวินพาพิมพ์ขึ้นรถไปส่งที่บ้านให้
  ทางด้านแยมนั้นกำลังเดินขึ้นบันไดบ้าน สาวใช้ก็มาบอกว่าคุณวิชชุโทรมาบอกว่าจะไม่กลับบ้าน แยมว่า\" อีกแล้วหรอ เฮ้ย เซ็งจริงๆเลย กะว่าจะขอเงินคุณพ่อเพิ่มสักหน่อย เฮ้ย\"
แยมเดินขึ้นบันไดบ้าน ในขณะนั้นสิตามาพอดีจึงรีบพูด \" จะไปขอเงินคนพรรค์นั้นใช้ทำไม  เงินที่ให้มาเหมือนให้ทานนั่นน่ะฉันไม่อยากจะมองด้วยซ้ำไป\" 
\" ทำไมคุณแม่พูดแบบนี้หล่ะคะ ถึงคุณพ่อจะไม่ใช่พ่อที่ดีของแยม ไม่มีเวลาให้ แต่ยังไงคุณพ่อก็รักแยม รักน้องทุกคน\" สิตาโกรธไม่น้อยที่ได้ยินอย่างนั้นจึงต่อว่าไป
\" อ๋อ แล้วฉันไม่รักพวกแกหรือไง ก็เอาสิ เทิดทูลกันเข้าไป ถ้าฉันไม่ได้เป็นคนคลอดแก แกก็คงจะไม่เห็นหัวฉันใช่ไหม\" แยมมองสิตา
\" มันคนละเรื่องกันเลยนะคะคุณแม่ คุณแม่โกรธคุณพ่อแต่ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องมาโกรธพวกเรา อย่าเอาคนละเรื่องมาเกี่ยวกันสิคะ\" สิตาค้อนวับไป ในจังหวะนั้นหยุ่น และ ดาว เข้ามาในบ้าน สิตาจึงเรียกไว้
\" นี่ใจคอพวกแกเห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง ดีจังเลยนะบ้านนี้ใครจะไปใครจะมาแม่มันไม่มีความหมายอะไรเลย\" หยุ่นที่ด้วยความโมโหเป็นทุนเดิมจากเรื่องที่มหาวิทยาลัยจึงตอบไปอย่างใช้อารมณ์
\"แม่เลิกทำตัวขี้น้อยใจสักทีเถอะ ผมรำคาญจะแย่อยู่แล้ว ต้องฟังเสียงแม่ทุกวันๆเนี่ย เหนื่อยจากเรื่องเรียนแล้วยังต้องมาเหนื่อยกับรื่องที่บ้านอีก น่าเบื่อที่สุด\" สิตาอึ้งไม่เชื่อว่าลูกชายจะกล้าพูดแบบนี้ถึงกับนั่งทรุดที่บันได ดาว เดินมาประคองแม่
\"แม่คะ แม่อย่าเสียใจเลยนะคะ พี่หยุ่นเขากำลังอารมณ์เสีย เลยพูดแบบไม่คิด\" สิตาที่ตอนนี้พูดไม่ออกได้แต่นั่งร้องไห้ แยม มองแม่แล้วส่ายหัวเดินขึ้นบันไดไม่สนใจ ในขณะนี้มีแค่2คนเท่านั้นที่นั่งร้องไห้กอดกันอยู่ ดาว รู้แล้วว่าสถานการณ์ที่บ้านจะต้องเครียดลงไปทุกที
************************************************
        วิชชุกลับมาที่บ้านเจอ ภารดี ด้วยความเป็นห่วงลูกจึงถามไปว่าทำไม พิมพ์ ยังไม่กลับบ้าย วิชชุ ตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว
\"สงสัยไปตายแล้วมั้ง ช่างมันเถอะจะห่วงอะไรกันนักหนา โตขนาดนี้และ\" วิชชุพูดแบบนั้น ภารดี ถึงกับโมโห
\"นี่คุณใช้อะไรพูดฮะ ลูกทั้งคนไม่ห่วงหรือไง\" วิชชุที่กำลังเดินขึ้นบันไดจะไปนอนหันหน้ามามองแล้วอดขำในสิ่งที่ได้ยินไม่ได้
\"ลูกหรอ มันลูกคุณคนเดียวต่างหากอย่าให้ผมต้องไปเกลือกกลั้วกับสายเลือดของไอ้.....
\"หยุดนะ\"ยังไมทันที่วิชชุจะพูดออกมา ภารดี ก็ขัดเสียก่อนทั้งคู่มองหน้ากันแบบไม่มีใครยอมใคร แล้ว ภารดี ก็พูดต่อแบบที่ใช้ขู่
\"เราตกลงกันแล้วใช่ไหมว่าจะไม่รื้อฟื้นเรื่องนี้อีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน\" ภารดีเดินไปอีกทาง วิชชุมองตามแล้วทิ้งเสื้อคลุมอย่างโกรธจัด ขณะนั้น ภาพ เดินผ่านมาแล้วมองผู้เป็นพ่ออย่างกลัวๆ จนวิชชุตะเพิดไล่
\" มองอะไรฮะ ไม่เคยเห็นคนหรือไง\" ภาพกลัวจนตัวสั่นจึงรีบปฎิเสธ \" เปล่าครับ ภาพแค่มองเฉยๆ ภาพพูดเหมือนคนไม่มีเสียง ตาต่ำมองดูพื้น วิชชุจึงส่ายหน้าว่าจะไปไหนก็ไป แล้วเดินขึ้นห้อง ภาพได้แต่มองพ่อที่เดินขึ้นบันไดอย่างน้อยใจ
**********************************************
          ภารดีมารอ พิมพ์ ที่หน้าประตูบ้านแต่ไร้วี่แวว สาวใช้ว่าเข้าไปรอในบ้านเถอะข้างนอกอากาศมันหนาว ภารดี เห็นด้วยจึงเข้าไปในบ้าน สักพักรถของ ธันวินจึงมาจอดแต่เยื้องจากบ้าน พิมพ์ ไปหน่อย ธันวินหันมามองหญิงสาวที่ยังมีอาการตกใจกลัวอยู่บ้างจึงถาม \" คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ ลืมมันซะเถอะนะครับ มันก็แค่ฝันร้าย พอพรุ่งนี้คุณตื่นมา มันก็จะหายไปเอง\" พิมพ์ หันหน้ามามองชายหนุ่มแล้วพยักหน้า \" ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง ขอบคุณจริงๆ ฉันดีขึ้นมากแล้วค่ะ \" พิมพ์ลงจากรถไป ธันวินหันมายิ้มให้อีกรอบ พิมพ์ เองก็ยิ้มตอบ พอรถไปแล้วจึงเข้าบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่ผึ้งขับเข้ามา
ผึ้งบีบแตรรถ พิมพ์หันหน้ามา เห็นเป็นผึ้งก็โล่งใจ จึงเปิดประตูมาถามว่าหายไปไหนมา พิมพ์ ว่าให้เข้าบ้านก่อนแล้วจะเล่าให้ฟัง
          เมื่อทุกคนนั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โต๊ะอาหาร พิมพ์ เล่าเรื่องให้ฟังที่เกือบถูกจิ๊กโก๋รุมทำร้าย แต่มีคนมาช่วยเธอไว้ ภารดี ฟังแล้วเกือบจะเป็นลม วิชชุจึงถาม
\" ก็ดีแล้วนี่ที่แกรอดมาได้ แล้วใครมาช่วยแกไว้ล่ะ\" พิมพ์ มองหน้าวิชชุ แล้วตอบ
\" ไม่ทราบค่ะ ไม่รู้จักชื่อ\" วิชชุอดค่อนแคตไม่ได้ \" ไม่รู้จักแต่แกยังกล้าขึ้นรถเขามาอีกเนอะ นี่ถ้ามันพาแกไปข่มขืนต่อ ก็คงจะเจริญกันล่ะทีนี้ ไม่รู้ว่าเอาหน้ากันไปว้ที่ไหน\" ผึ้งทนไม่ไหวจึงตัดบท
\" พี่พิมพ์กลับมาอย่างปลอดภัยก็ควรจะดีใจไม่ใช่หรอคะ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งว่ากันเลยนะคะ\" วิชชุโกรธ
\" แก เงียบปากไปเลย แกก็ระวังตัไว้ให้ดีเถอะ เป็นสาวเป็นแส้แต่งตัวโป๊แล้วยังชอบเที่วกลางคืนอีก \" พุกจึงเสริมต่อ
\" ระวังจะโดนดีเข้าสักวันเถอะ\" ภารดีเห็นท่าจะไปกันใหญ่จึงบอกให้หยุด อย่ามาเทลาะกันที่นี่ ภาพเสริมต่อว่าควรที่จะไปนอนกันได้แล้วแล้วลุกขึ้น ทุกคนเห็นดีด้วยจึงต่างแยกย้ายกันไปนอน เหลือแค่ ภารดี กับ วิชชุ 2 คน ภารดี จึงกล่าว \" เมื่อไรคะ เมื่อไรที่คุณจะรักแกบ้าง เมื่อไรที่จะคิดว่าพิมพ์เป็นลูกคนหนึ่ง ฉันเหนื่อยแล้วนะคะ\" วิชชุหันมามองหน้าแล้วว่าฉาดใหญ่
\" แค่ผมให้มันเกิดก็ถือว่าเป็นบุญของมันแล้ว จะเรียกร้องอะไรกันนักหนา แค่ผมต้องทนเห็นหน้ามันทุกวันๆ เนี่ย ผมก็จะอ้วกตายอยู่แล้ว ถ้าต้องให้แสดงความรักกับมันอีก ประหนึ่งว่ามันเป็นลูกคนหนึ่งของผม ผมขอตายดีกว่า\" เพี้ย พอสิ้นคำของวิชชุ ฝ่ามือของภารดี ทั้ง 5 นิ้วก็ฟาดไปที่ใบหน้าของวิชชุอย่างแรงจนแม้แต่วิชชุเองก็ยังตกใจไม่น้อย ถึงกับเอามือลูบไปที่ใบหน้า ภารดีพูดทั้งน้ำตา
\" ฉันคิดผิดจริงๆ คิดผิดที่ร่วมมือกับคุณ คิดผิดที่แต่งงานกับคุณ คิดผิดที่ทรยศคุณโสภณ ฉันมันโง่เองที่แต่งงานกับคุณ ที่กลัวจนเกินไป ฉันถึงต้องเป็นแบบนี้\"
ภารดีหันหลังให้วิชชุ แล้วรื้อฟื้นความหลังอย่างเจ็บแค้นใจตัวเอง วิชชุจึงเสริมขึ้น\" แล้วคุณจะโทษใครได้ ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันก็เกิดจากตัวคุณทั้งนั้น คุณจะมาโทษผมไม่ได้นะ \" ทั้งวิชชุ และ ภารดี ต่างมองต่างมองหน้ากันอย่างเจ็บปวดใจ กับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต โดยหารู้ไม่ว่าเรื่องราวทั้งหมดนั้น พิมพ์ ได้รับรู้หมดแล้ว เพราะเธอลืมของเอาไว้จึงกลับมาเอา แต่สิ่งที่เธอได้รับคือความเจ็บปวดใจแทน เมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมด พิมพ์ วิ่งกลับขึ้นไปที่ห้องนอน ปิดประตูไว้แล้วลงกลอน นั่งหลังพิงประตูอย่างหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ปากก็พึมพำ\" แม่ใจร้าย แม่ใดำ ไม่จริง \" อย่างคนเสียสติ 
        ณ บ้าน ธรรมาภิรักษ์ ในบ้านมีสมาชิกอยู่ทั้งหมด6 คน เป็นบ้านใหญ่ใจกลางซอยที่รู้กันว่าร่ำรวยทำธุรกิจใหญ่โต สมาชิกที่เป็นหัวหอกสำคัญคือ วิชชุ ชายวัยกลางคนที่ยังหนุ่มอยู่วัย52 ปี และภรรยาคือ ภารดี หญิงสาวสวย ทั้งคู่มีลูกด้วยกันทั้งหมด 4 คน คือ ภีรดา พี่สาวคนโตที่เรียนร้อย อ่อนหวาน วัย25 ปี หรือชื่อเล่นว่าพิมพ์ รองลงมาคือ ภัทรา หรือ ผึ้ง หญิงสาวที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ และเจ้าอารมณ์ วัย24 ปี พิพัฒน์ หรือ พุก วัย 22 ปีที่มีนิสัย เลือดร้อน โมโหง่าย และคนสุดท้องคือ ภาพวาด หรือ  ภาพ หนุ่มที่มีความผิดปรกติทางขาทำให้เดินขากระเผลก ภาพนั้นมีนิสัยเรียนร้อย พูดน้อย และขี้กลัว วัย 19 แต่ทั้ง 4 คนนั้นกลับเห็นหน้าวิชชุผู้เป็นพ่อได้ไม่กี่ครั้ง เนื่องจากวิชชุติดงานและไม่มีเวลาให้ครอบครัว วันนี้เป็นวันแรกที่ พิมพ์ จะไปทำงานที่บริษัทของวิชชุ พิมพ์จัดแจงแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วเดินลงบันไดมา เห็น ภีรดาผู้เป็นแม่กำลังนั่งดื่มกาแฟ และอ่านหนังสืออยู่ จึงเข้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่ \" วันนี้พิมพ์จะไปทำงานวันแรก คุณแม่อวยพรหน่อยสิคะ\"
ภีรดามองลูกสาวแล้วก็ยิ้ม \" แหมทำยังกะจะไปทำงานที่ไหร บริษัทที่ทำก็เป็นบริษัทของคุณพ่อเขานะ เอ้า ให้ก็ได้ ขอให้พิมพ์ทำงานได้ดีๆ ไม่ต้องโดนคุณพ่อเขาดุมาอีกดีไหม\"
พิมพ์หน้าเจื่อนหุบยิ้มไป ใช่สิพ่อมักจะโมโหและมาลงที่เธอเสมอ ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ผู้เป็นแม่เข้าใจความรู้สึกของลูกจึงรีบบอกให้ไปทำงานได้แล้ว ชักช้าเดี๋ยวจะโดนว่าเอาได้ พิมพ์หอมแก้ม ภีรดา อีกหลายฟอด แล้วเดินออกไปขับรถ ภีรดามองลูกสาวอย่างสงสาร และฌสร้าใจ เธอขึ้นไปที่ห้องของตัวเองแล้วไปเปิดลิ้นชักที่ล็อกอยู่ หยิบรูปถ่ายของเธอกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งในภาพก็มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆวัยแรกคลอด อยู่ด้วย มองรูปไปเธอก็ร้องไห้ไป \" ฉันอยากให้คุณได้มาเห็นความสำเร็จของพิมพ์จังเลยค่ะ แกถอดแบบคุณมาเปี๊ยบเลย คุณคงมองดูแกจากที่ไหนอยู่ใช่ไหมคะ ภีรดามองออกไปอย่างไร้จุดหมาย คิดทบทวนในสิ่งที่ได้ทำลงไป
        ส่วนพิมพ์ไปถึงที่บริษัทแล้วก็เจอเลขาของวิชชุเรียนไป \" เชิญทางนี้เลยค่ะคุณพิมพ์ คุณวิชชุเรียนเข้าพบหน่อยค่ะ \" พิมพ์พยักหน้าแล้วเดินตามไป เลขาให้พิมพ์เข้าไปในห้อง วิชชุนั่งอยู่ที่โต๊ะกำลังเขียนอะไรอยู่ พิมพ์เห็นจึงเดินเข้าไปหยุดที่หน้าโต๊ะ \" เสียมรรยาท ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ ไม่มีก้นนั่งหรือไง\" พิมพ์หน้าเสียแล้วนั่งลงที่เก้าาอี้ วิชชุนั่งทำงานเหมือนพิมพ์ไม่มีตัวตน พิมพ์ทนไม่ไหวจึงถาม \" คุณพ่อรู้หรือเปล่าว่าพิมพ์นั่งอยู่ อย่าทำเหมือนพิมพ์ไม่มีตัวตนสิคะ\" วิชชุเงยหน้าขึ้นมามอง \" แล้วไง ฉันมีหน้าที่ต้องมาแคร์ความรู้สึกของคนอื่นหรือไง ตาฉันไม่ได้บอดนี่ถึงไม่รู้ว่าแกนั่งอยู่ แกไปทำงานได้แล้วไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก\" พิมพ์รู้สึกโกรธและโมโห แต่ก็ลุกขึ้นไปเตรียมจะออก วิชชุเรียกเอาไว้ก่อน พิมพ์หันมามองว่าเรียกทำไม วิชชุบอกว่า\" ถ้าจะมาทำงานที่นี่ อย่าคิดว่ามีเส้นสาย ถ้าแกทำงานได้ไม่ดี ฉันก็ไล่แกออกได้ หวังว่าคงไม่มาทำเบ่งบารมีที่นี่เข้าใจไหม\" พิมพ์รับคำแล้วเดินออกไปด้วยความน้อยใจ เมื่อไปถึงที่ห้องทำงานของเธอ พิมพ์นั่งลงอย่างเหนื่อยใจคิดว่าตัวเองจะทนได้แค่ไหน แต่มาคิดอีกทีเธอไม่ต้องการให้พ่อดูถูกจึงจะอยู่ให้ถึงที่สุด พักเที่ยงพิมพ์เห็นเลขาจะเอากาแฟไปให้วิชชุจึงเรียกไว้ บอกว่าเดี๋วเอาไปให้เองไม่ต้องลำบาก พิมพ์ว่าแล้วก็เดินไปในห้อง วางกาแฟลงวิชชุหันมามอง:\" งานตัวเองไม่มีหรือไงถึงได้ต้องมาเสนอหน้าช่วยงานคนอื่น กาแฟนี่เอาไปทิ้งซะฉันไม่อยากกิน แล้วจะไปไหนก็ไป ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าบ่อยๆ\" พิมพ์เหลืออด จึงพูด \" ทำไมคุณพ่อต้องทำท่ารังเกียจพิมพ์ด้วย พิมพ์เป็นลูกคุณพ่อนะ หรือว่าไม่ใช่ \" วิชชุเงยหน้าขึ้นมามองแล้วไล่\" นับวันแกยิ่งจะเถียงแกนักนะ แกไปได้สายเลือดของใครมาฮะ หรือแม่แกเขาตามใจจนเสียคนฮะ\" พิมพ์โกรธจนจึงบอกไปว่าสงสัยคงได้นิสัยที่ไม่ดีมาจากพ่อ วิชชุตบหน้าพิมพ์ดังเพี้ยแล้วบอกว่า \"แกได้เลือดชั่วมาจากคนอื่นล่ะสิ จะไปไหนก็ไป หรือถ้าแกไม่ไปฉันก็จะไปเอง\" วิชชุเดินออกไปจากห้องโดยไม่แยแสพิมพ์ซักนิด พิมพ์ได้แต่มองและร้องไห้อย่างเสียใจ
                                                                                  ********************************************************
        ส่วนที่บ้านอีกหลังหนึ่งก็วุ่นวายไม่แพ้กัน มีสิตาเป็นหัวหอกใหญ่ของบ้าน ความจริงแล้วเธอเป็นภรรยาหลวงของวิชชุ ทั้งคู่มักจะมีปากเสียงกันบ่อยๆ สิตามีลูกอีก 3 คนคือ สัตยา หรือ แยม หญิงสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพ์ นิสัย เอาแต่ใจ เจ้าอารมณื เนื่องจากวิชชุมักจะตามใจจนเหลิง เริงฤทธิ์ หรือ หยุ่น วัยไล่เลี่ยงกับ พุก และ สุรัศวดี หรือ ดาว หญิงสาวที่บอบบาง อ่อนต่อโลก วัยไล่เลี่ยกับ ภาพ และวันนี้ก็เช่นเดียวกันที่บ้าน หยุ่ยและแยมต่างเทลาะกันอยู่ \" นี่ ฉันบอกให้หยุดไง ไอ้หยุ่น หยุดเดี๋ยวนี้นะ \" แยมวิ่งทันคว้าข้อมือของหยุ่นไว้แล้วต่อว่าๆเแอาเงินของเธอไป ใช่ไหม20000 บาท หยุ่นปฎิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นแต่พิมพ์ไม่สนใจเอามือเข้าไปล้วงในกระเป๋าสะพายของหยุ่น เจอเงินหล่นลงมาเป็นแบงค์พันหลายใบ จึงหยิบเงินขึ้นมาแล้วถามว่านี่อะไร \" แล้วนี่มันอะไรฮะ ไปติดนิสัยโจรมาจากใครล่ะ หรือ ยัยแม่นันท์แฟนตัวดีของเธอ อยากจะได้อะไรล่ะฮะถึงต้องมาขโมยเงินของฮัน ไม่ละอายใจหรือไง\" หยุ่นโกรธบอกว่านันท์ไม่เกี่ยวที่ขโมยไปเพราะจะไปซื้อให้เอง นันท์ไม่ได้ขอเลย แต่แยมไม่เชื่อ ในระหว่างนั้นมีรถเบนซ์ขันงามขับเข้ามา ธันวินนั่นเองซึ่งเป็นแฟนของแยม ธันวินถามว่ามีเรื่องอะไรกัน แยมได้ทีจึงฟ้อง\" ก็ไอ้หยุ่นน่ะสิคะ ไปติดนิสัยโจรมาจากใครก็ไม่รู้โขมยเงินแยม นี่ถ้าไม่จับได้คาหนังคาเขาก็คงปากแข็งไม่รับสารภาพหรอกค่ะ\" สิตาได้ยินเสียงเอะอะจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น หยุ่นบอกว่าเปล่าเตรียมเดินหนี ธันวินเรียกไว้และเดินตาม ธันวินให้เงินหยุ่นไว้ 10000 บอกว่าเงินพี่ก็เหมือนเงินแยมรับไปเถอะ หยุ่นมองเงิน แล้วบอกขอบใจกระชากเงินไปและเดินออกจากบ้าน แยมว่าไม่ต้องให้ก็ได้ เสียดายเงิน ธันวินบอกว่าไม่เป็นไรและให้แยมไปแต่งตัวเดี๋ยวมีนัดทานข้าวกัน แยมยิ้มแล้ววิ่งไปแต่งตัวข้างบนห้อง ธันวินจึงมาทักทายสิตา\" สวัสดีครับคุณอา สบายดีหรอครับ \" สิตารับไว้แล้วบอกว่าสบายดี ไม่เจ็บไม่ป่วย \" เที่ยวให้สนุกก็แล้วกันนะ เดี๋ยวอาก็มีนัดกับคุณหญิงพวงร้อยเหมือนกัน กะว่าจะไปดูเพชรสักหน่อย\" ครับ ชายหนุ่มรับคำ แยมเดินลงมาทำให้ธันวินถึงกับอึ้งชมไม่ขาดปากว่าแยมสวยมาก หญิงสาวยิ้มเขินแล้วออกไปกับธันวิน แต่ไม่ลืมลา สิตา  ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งพิมพ์ และแยมต่างใจตรงกันเลือกมาทานที่นี่ แยมนั้นนั่งกอดกับธันวิน ส่วนพิมพ์กำลังจะทาลิปสติกเพราะสีซีดไป ไม่ทันระวังลิปสติกตกลิ้งไปตกที่โต๊ะของธันวินและแยม พิมพ์จึงเดินมาเก็บเห็นอยู่ใต้เท้าแยมจึงบอกให้เก็บให้หน่อย แต่แยมไม่รู้และไม่ได้ฟังเพราะมัวแต่นั่งกอดอยู่กับธันวินจึงเหยียบเนื้อลิปเข้าไปเต็มๆจนลิปเสียใช้ไม่ได้ พิมพ์โกรธจึงต่อว่า
\" นี่คุณ ที่นี่มันร้านอาหารนะไม่ใช่โรงแรมถึงได้มานั่งกอดออเซาะกันแบบนี้ แถมยังมาทำของฉันเสียหายอีก \" แยมและธันวินต่างหันหน้ามา แวบแรกที่เห็นพิมพ์ถึงกับชะงักในความสวยแต่พิมพ์ไม่สังเกตุ แยมงง จึงถามไป\" ฉันไปทำอะไรของคุณพังไม่ทราบ ไหนล่ะอยู่ไหน \" พิมพ์ผลักแยมให้หนีออกไปแล้วไปเก็บลิปสติกที่หล่นอยู่ ทั้งแยมและวินเห็นสภาพต่างก็มองหน้ากัน\" ยังจะให้ฉันบอกอีกไหมว่าคุณใช้ส่วนไหนทำลายของๆฉัน\" แยมไปเกาะแขนธันวินไว้ แล้วบอก\" แยมไม่ได้ตั้งใจนะคะ มันเป็นอุบัติเหตุ ใครเขาจะตั้งใจเหยียบลิปของเธอล่ะ\" ธันวินกลัวว่าเรื่องจะไปกันใหญ่จึงรีบขอโทษ\" ยังไงผมก็ขอโทษแทนแฟนผมด้วยนะครับ เธอคงไม่ตั้งใจเอาเป็นว่าผมจะชดใช้ค่าเสียหายให้คุณก็แล้วกัน\" ธันวินหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วควักแบงค์1000ให้พิมพ์ พิมพ์รับเงินมาแล้ววางกลับไปที่โต๊ะ \" คุณเก็บเงินของคุณไว้เถอะ ลิปของฉันมันไม่ได้ราคาแพงหรอก และฉันก็ไม่ต้องการเงินด้วยแต่ฉันอยากได้คำขอโทษจากแฟนคุณมากกว่า\" ธันวินมองหน้าของแยม แยมจึงบอกว่า\" ทำไมต้องขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจนี่ เธอไม่เอาเงินเองแล้วจะมาเรียกร้องเอาอะไล่ะ\" ธันวินมองหน้าแยมอย่างดุๆ แยมกลัวธันวินโกรธจึงขอโทษไปอย่างไม่เต็มใจ พิมพ์ว่าถ้าไปเจอคนอื่นเขาคงไม่ยกโทษให้ง่ายๆแล้วเดินไปที่โต๊ะวางเงินไว้เป็นค่าอาหารแล้วเดินออกไป แต่ไม่ลืมหันกลับมามองธันวินและแยม แยมมองอย่างโกรธๆแล้วพูดกับธันวิน\' ผู้หญิงอะไร จองหองชะมัดเลยแยมไม่มีอารมณ์กินแล้วล่ะค่ะ กลับกันเถอะ\" แยมมองหน้าของธันวินเห็นมอง ไม่ละสายตาจาก พิมพ์ จึงเรียกซะเสียงดัง จนธันวินตกใจ แยมโกรธธันวินจึงเดินหนีออกมาจากร้าน ธันวินจึงเดินตาม \" เดี๋ยวสิเป็นอะไรล่ะแยม\" แยมหันหน้ามาแล้วถาม
\" แล้วทำไมพี่วินต้องมองผู้หญิงคนนั้นแบบไม่วางตาเลยล่ะ ทั้งๆที่แยมก็ยืนหัวโด่อยู่อะ สนใจอะไรผู้หญิงคนนั้นล่ะ\" ธันวินยิ้มนิดๆแล้วหัวเราะ
\" แยมอย่าคิดมากสิ โกรธง่ายเดี๋ยวหน้าแก่นะ พี่ก็แค่มองเขาเฉย ไม่เชื่อใจพี่หรอไงล่ะ\" แยมยิ้มแล้วบอกว่าเชื่อ ทั้งคู่เดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไป
**********************************************************
                พิมพ์กลับไปนั่งทำงานต่อ สักพักเลขาของวิชชุจึงมาเรียกบอกว่าวิชชุเรียกเข้าพบ  แยมคิดในใจว่าจะมาเรียกทำไมนักหนา แต่ก็ไม่ขัดเดินตามไปในห้อง วิชชุกำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่จึงรีบวางหู พิมพ์จึงถามไป\" คุณพ่อมีธุระอะไรหรือคะ เรียกพิมพ์ในเวลางาน\" วิชชุจึงบอกว่า\" เอางานนี้ไปทำซะ เสร็จภายในวันนี้\" วิชชุไม่พูดเปล่าพลางโยนแฟ้มงานปึกใหญ่กว่า10 แฟ้มมาให้พิมพ์ พิมพ์ดูแล้วถึงกับอึ้งจึงถาม\" ทั้งหมดนี่พิมพ์จะทำเสร็จหมดได้ยังไง ถ้างานมันยังไม่รีบพิมพ์ก็จะทยอยทำให้นะคะ\" พิมพ์กล่าวพร้อมกับหยิบแฟ้มขึ้นมาแต่วิชชุรีบดักคอ \" เดี๋ยว ถึงแม้ว่างานจะไม่จำเป็นต้องเสร็จในวันนี้แต่ฉันต้องการเวลาในการตรวจดูความเรียบร้อย  และต้องการภายในวันนี้ ถ้าไม่เสร็จก็อยู่ทำให้เสร็จ เพราะมันเป็นหน้าที่ของแก\" พิมพ์มองหน้าวิชชุอย่างน้อยใจแต่วิชชุไม่สนใจแล้วพูดต่อ โดยไม่ให้พิมพ์ปฎิเสธได้ \" อ้อ เดี๋ยวบอกเลขาฉันด้วยว่าฉันจะไปธุระ ไม่เข้าบริษัทแล้ว \" วิชชุเดินออกจากห้องไปโดยไม่สนใจพิมพ์แม้แต่น้อยที่ยืนเอ๋ออยู่
****************************************************************   
              พิมพ์นั่งทำงานต่อด้วยความเหนื่อยอ่อน ยิ่งมองงานที่วางกองอยู่ก็ยิ่งมีมากขึ้นไม่รู้จักหมด พนักงานคนอื่นต่างกลับบ้านกันไปหมดแล้ว ในเวลานี้พิมพ์ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว และ ง่วงด้วย แต่ต้องการอยู่เครียร์งานให้เสร็จก่อน มองดูเวลาแล้วถึงกับตกใจว่า 4 ทุ่มแล้ว \" เป็นไงเป็นกัน พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อก็แล้วกัน เฮ้ย\" พิมพ์บิดขี้เกียจนิดหน่อยแล้วเก็บข้าวของให้เรียบร้อย เดินออกไปสตารท์รถกลับบ้าน ระหว่างทางที่ขับออกไปอยู่ดีๆรถก็ดับเฉย \" ไอ้บ้าเอ้ย มาดับเอาอะไรแถวนี้ \" พิมพ์หยิบโทรศัพท์มาจะกดไปหาที่บ้านให้มารับแต่โทรเท่าไรก็ไม่ติดเพราะตอนนั้นสาวใช้ที่บ้านกำลังคุยกับเพื่อนอย่างเมามันเลยไม่ติด พิมพ์เครียดมากไม่รู้จะทำยังไง จึงกดไปหา ผึ้ง \" ฮัลโหล สวัสดีค่ะผึ้งพูดค่ะ\" ผึ้งหรอ นี่พี่นะ รถพี่เสียช่วยให้คนที่บ้านมารับหน่อยสิเนี่ย พี่อยู่แถว.\" ผึ้งรีบบอกว่าจะไปรับให้เร็วแล้วรีบแต่งตัวลงมาข้างล่าง เจอสาวใช้นั่งคุยโทรศัพท์อยู่จึงรู้ว่าทำไมพิมพ์จึงจึงโทรไม่ติด \" รู้แล้ว ว่าทำไมใครโทรเข้ามาถึงไม่ติด ที่แท้เธอก็คุยเพลินอยู่นี่เอง เดี๋ยวสิ้นเดือนเมื่อไหร่ฉันจะหักเงินเดือนเธอมาจ่ายเป็นค่าโทรศัพท์\" สาวใช้หน้าเสียรีบวางโทรศัพท์ลงแล้วขอโทษยกใหญ่ ผึ้งว่าไม่ต้องมาพูดมากรีบไปเปิดประตู สาวใช้ว่าจะไปไหนอีกมือค่ำ\" ถามมากอย่างงี้ระวังสิ้นเดือนจะได้กลับบ้านนอกหรอก บอกให้ไปเปิดก็เปิดสิ ถามมากจริง\"  \" ได้ค่ะ\" สาวใช้ไปเปิดประตูให้ ผึ้งขับรถออกไปเป็นจังหวะที่พุกสวนเข้ามา สาวใช้จึงถาม\" คุณพุกไปไหนมาหรอคะ กลับซะมืดค่ำ \" พุกตอบอย่างหมดอารมณ์ \" ไม่รู้สักเรื่องจะได้ไหม แล้วพี่ผึ้งเขาไหไหนล่ะ\" สาวใช้รีบว่า \" อ๋อ แฮ่ๆ ไม่ทราบค่ะ ก็ไม่เห็นบอก\" พุกส่ายหัวแล้วว่าถามอะไรก็ไม่รู้สักเรื่องแล้วรีบเดินขึ้นห้องไป
***********************************************************
              ผึ้งขับรถมาเรื่อยๆ แต่ดันหลงทางเพราะเป็นทางที่ไม่เคยมา ถึงกับอารมณ์เสีย หงุดหงิด พิมพ์เองก็รอผึ้งว่าทำไมไม่มาสักที ด้วยความกระวนกระวายใจจึงลงจากรถมาดูแต่ไม่ทันระวังตัว เพราะมีจิ๊กโก๋ 2 คนที่เดินผ่านมามองพิมพ์อย่างหิวกระหาย แต่พิมพ์ไม่สงสัยจึงขอความช่วยเหลือ
\" พี่คะ ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าแถวนี้มีอู่ที่ไหนบ้างหรือเปล่าคะ พอดีรถมันเป็นอะไรก็ไม่รู้อ่ะค่ะ\"  จิ๊กโก๋ 2 คนนั้นมองพิมพ์ด้วยสายตาที่มุ่งร้าย 1 ใน 2 คนบอกว่า
\" แถวนี้ไม่มีอู่รถหรอก ไม่มีอะไรสักอย่าง มีแต่พวกพี่ 2 คนเนี่ย ให้ความสุขน้องได้นะจ๊ะ\" พิมพ์เห็นท่าไม่ดีจึงรีบบอกปฎิเสธและจะขึ้นรถหนี แต่ จิ๊กโก๋นั้นไม่ลดละ ตามมาจับแขนพิมพ์ไว้แล้วลากเข้าข้างทาง พิมพ์ร้องให้คนช่วย แต่ 1 ในนั้นกลับเอามือมาปิดปากพิมพ์ไว้พร้อมกับชักมีดออกมาขู่ว่าอย่าร้อง ไม่งั้นจะแทงให้ไส้แตก  พิมพ์กลัวจึงรีบเงียบ ก่อนที่เธอจะถูกพวกจิ๊กโก๋นั่นรุมโทรมเอาก็มีคนมาช่วยเธอไว้ \" เฮ้ย จะทำอะไรน่ะ \" ธันวินนั่นเองที่มาช่วยพิมพ์เอาไว้
\" คุณ \" ทั้ง พิมพ์ และ ธันวิน ถึงกับตกใจที่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เพราะไม่คาดคิดมาก่อน
\" อย่ามายุ่งนะเว้ย ถ้ไม่อยากเจ็บตัว จะไปไหนก็รีบไสหัวไปเลย\" พิมพ์มองดูชายหนุ่มว่าจะมาช่วยเธอหรือไม่ ธันวินขึ้นรถไปแล้วขับออก พิมพ์รู้สึกเสียใจ และผิดหวัง แต่สิ่งที่ธันวินทำก็เธอขับรถเข้าชน 2 โจร นั่น จนแตกฮือกันไปคนละทาง พวกโจรกลัวจนลนลานจึงรีบวิ่งหนีไป พิมพ์ถึงกับเขาอ่อนทรุดลงกับพื้น ธันวินจึงเข้าไปประคองไว้พลางถาม
\"  คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ พวกนั้นมันทำอะไรคุณบ้าง\"  พิมพ์ส่ายหน้าปฎิเสธ \" เปล่าค่ะ ฉันแค่ตกใจ ไม่เป็นอะไร ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน ถ้าไม่มีคุณฉันต้องแย่แน่ๆ\"
ธันวินกอดหญิงสาวตอบแล้วว่าจะพาไปส่งที่บ้าน ด้วยความกลัวพิมพ์จึงรีบรับคำ ธันวินพาพิมพ์ขึ้นรถไปส่งที่บ้านให้
  ทางด้านแยมนั้นกำลังเดินขึ้นบันไดบ้าน สาวใช้ก็มาบอกว่าคุณวิชชุโทรมาบอกว่าจะไม่กลับบ้าน แยมว่า\" อีกแล้วหรอ เฮ้ย เซ็งจริงๆเลย กะว่าจะขอเงินคุณพ่อเพิ่มสักหน่อย เฮ้ย\"
แยมเดินขึ้นบันไดบ้าน ในขณะนั้นสิตามาพอดีจึงรีบพูด \" จะไปขอเงินคนพรรค์นั้นใช้ทำไม  เงินที่ให้มาเหมือนให้ทานนั่นน่ะฉันไม่อยากจะมองด้วยซ้ำไป\" 
\" ทำไมคุณแม่พูดแบบนี้หล่ะคะ ถึงคุณพ่อจะไม่ใช่พ่อที่ดีของแยม ไม่มีเวลาให้ แต่ยังไงคุณพ่อก็รักแยม รักน้องทุกคน\" สิตาโกรธไม่น้อยที่ได้ยินอย่างนั้นจึงต่อว่าไป
\" อ๋อ แล้วฉันไม่รักพวกแกหรือไง ก็เอาสิ เทิดทูลกันเข้าไป ถ้าฉันไม่ได้เป็นคนคลอดแก แกก็คงจะไม่เห็นหัวฉันใช่ไหม\" แยมมองสิตา
\" มันคนละเรื่องกันเลยนะคะคุณแม่ คุณแม่โกรธคุณพ่อแต่ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องมาโกรธพวกเรา อย่าเอาคนละเรื่องมาเกี่ยวกันสิคะ\" สิตาค้อนวับไป ในจังหวะนั้นหยุ่น และ ดาว เข้ามาในบ้าน สิตาจึงเรียกไว้
\" นี่ใจคอพวกแกเห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง ดีจังเลยนะบ้านนี้ใครจะไปใครจะมาแม่มันไม่มีความหมายอะไรเลย\" หยุ่นที่ด้วยความโมโหเป็นทุนเดิมจากเรื่องที่มหาวิทยาลัยจึงตอบไปอย่างใช้อารมณ์
\"แม่เลิกทำตัวขี้น้อยใจสักทีเถอะ ผมรำคาญจะแย่อยู่แล้ว ต้องฟังเสียงแม่ทุกวันๆเนี่ย เหนื่อยจากเรื่องเรียนแล้วยังต้องมาเหนื่อยกับรื่องที่บ้านอีก น่าเบื่อที่สุด\" สิตาอึ้งไม่เชื่อว่าลูกชายจะกล้าพูดแบบนี้ถึงกับนั่งทรุดที่บันได ดาว เดินมาประคองแม่
\"แม่คะ แม่อย่าเสียใจเลยนะคะ พี่หยุ่นเขากำลังอารมณ์เสีย เลยพูดแบบไม่คิด\" สิตาที่ตอนนี้พูดไม่ออกได้แต่นั่งร้องไห้ แยม มองแม่แล้วส่ายหัวเดินขึ้นบันไดไม่สนใจ ในขณะนี้มีแค่2คนเท่านั้นที่นั่งร้องไห้กอดกันอยู่ ดาว รู้แล้วว่าสถานการณ์ที่บ้านจะต้องเครียดลงไปทุกที
************************************************
        วิชชุกลับมาที่บ้านเจอ ภารดี ด้วยความเป็นห่วงลูกจึงถามไปว่าทำไม พิมพ์ ยังไม่กลับบ้าย วิชชุ ตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว
\"สงสัยไปตายแล้วมั้ง ช่างมันเถอะจะห่วงอะไรกันนักหนา โตขนาดนี้และ\" วิชชุพูดแบบนั้น ภารดี ถึงกับโมโห
\"นี่คุณใช้อะไรพูดฮะ ลูกทั้งคนไม่ห่วงหรือไง\" วิชชุที่กำลังเดินขึ้นบันไดจะไปนอนหันหน้ามามองแล้วอดขำในสิ่งที่ได้ยินไม่ได้
\"ลูกหรอ มันลูกคุณคนเดียวต่างหากอย่าให้ผมต้องไปเกลือกกลั้วกับสายเลือดของไอ้.....
\"หยุดนะ\"ยังไมทันที่วิชชุจะพูดออกมา ภารดี ก็ขัดเสียก่อนทั้งคู่มองหน้ากันแบบไม่มีใครยอมใคร แล้ว ภารดี ก็พูดต่อแบบที่ใช้ขู่
\"เราตกลงกันแล้วใช่ไหมว่าจะไม่รื้อฟื้นเรื่องนี้อีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน\" ภารดีเดินไปอีกทาง วิชชุมองตามแล้วทิ้งเสื้อคลุมอย่างโกรธจัด ขณะนั้น ภาพ เดินผ่านมาแล้วมองผู้เป็นพ่ออย่างกลัวๆ จนวิชชุตะเพิดไล่
\" มองอะไรฮะ ไม่เคยเห็นคนหรือไง\" ภาพกลัวจนตัวสั่นจึงรีบปฎิเสธ \" เปล่าครับ ภาพแค่มองเฉยๆ ภาพพูดเหมือนคนไม่มีเสียง ตาต่ำมองดูพื้น วิชชุจึงส่ายหน้าว่าจะไปไหนก็ไป แล้วเดินขึ้นห้อง ภาพได้แต่มองพ่อที่เดินขึ้นบันไดอย่างน้อยใจ
**********************************************
          ภารดีมารอ พิมพ์ ที่หน้าประตูบ้านแต่ไร้วี่แวว สาวใช้ว่าเข้าไปรอในบ้านเถอะข้างนอกอากาศมันหนาว ภารดี เห็นด้วยจึงเข้าไปในบ้าน สักพักรถของ ธันวินจึงมาจอดแต่เยื้องจากบ้าน พิมพ์ ไปหน่อย ธันวินหันมามองหญิงสาวที่ยังมีอาการตกใจกลัวอยู่บ้างจึงถาม \" คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ ลืมมันซะเถอะนะครับ มันก็แค่ฝันร้าย พอพรุ่งนี้คุณตื่นมา มันก็จะหายไปเอง\" พิมพ์ หันหน้ามามองชายหนุ่มแล้วพยักหน้า \" ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง ขอบคุณจริงๆ ฉันดีขึ้นมากแล้วค่ะ \" พิมพ์ลงจากรถไป ธันวินหันมายิ้มให้อีกรอบ พิมพ์ เองก็ยิ้มตอบ พอรถไปแล้วจึงเข้าบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่ผึ้งขับเข้ามา
ผึ้งบีบแตรรถ พิมพ์หันหน้ามา เห็นเป็นผึ้งก็โล่งใจ จึงเปิดประตูมาถามว่าหายไปไหนมา พิมพ์ ว่าให้เข้าบ้านก่อนแล้วจะเล่าให้ฟัง
          เมื่อทุกคนนั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โต๊ะอาหาร พิมพ์ เล่าเรื่องให้ฟังที่เกือบถูกจิ๊กโก๋รุมทำร้าย แต่มีคนมาช่วยเธอไว้ ภารดี ฟังแล้วเกือบจะเป็นลม วิชชุจึงถาม
\" ก็ดีแล้วนี่ที่แกรอดมาได้ แล้วใครมาช่วยแกไว้ล่ะ\" พิมพ์ มองหน้าวิชชุ แล้วตอบ
\" ไม่ทราบค่ะ ไม่รู้จักชื่อ\" วิชชุอดค่อนแคตไม่ได้ \" ไม่รู้จักแต่แกยังกล้าขึ้นรถเขามาอีกเนอะ นี่ถ้ามันพาแกไปข่มขืนต่อ ก็คงจะเจริญกันล่ะทีนี้ ไม่รู้ว่าเอาหน้ากันไปว้ที่ไหน\" ผึ้งทนไม่ไหวจึงตัดบท
\" พี่พิมพ์กลับมาอย่างปลอดภัยก็ควรจะดีใจไม่ใช่หรอคะ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งว่ากันเลยนะคะ\" วิชชุโกรธ
\" แก เงียบปากไปเลย แกก็ระวังตัไว้ให้ดีเถอะ เป็นสาวเป็นแส้แต่งตัวโป๊แล้วยังชอบเที่วกลางคืนอีก \" พุกจึงเสริมต่อ
\" ระวังจะโดนดีเข้าสักวันเถอะ\" ภารดีเห็นท่าจะไปกันใหญ่จึงบอกให้หยุด อย่ามาเทลาะกันที่นี่ ภาพเสริมต่อว่าควรที่จะไปนอนกันได้แล้วแล้วลุกขึ้น ทุกคนเห็นดีด้วยจึงต่างแยกย้ายกันไปนอน เหลือแค่ ภารดี กับ วิชชุ 2 คน ภารดี จึงกล่าว \" เมื่อไรคะ เมื่อไรที่คุณจะรักแกบ้าง เมื่อไรที่จะคิดว่าพิมพ์เป็นลูกคนหนึ่ง ฉันเหนื่อยแล้วนะคะ\" วิชชุหันมามองหน้าแล้วว่าฉาดใหญ่
\" แค่ผมให้มันเกิดก็ถือว่าเป็นบุญของมันแล้ว จะเรียกร้องอะไรกันนักหนา แค่ผมต้องทนเห็นหน้ามันทุกวันๆ เนี่ย ผมก็จะอ้วกตายอยู่แล้ว ถ้าต้องให้แสดงความรักกับมันอีก ประหนึ่งว่ามันเป็นลูกคนหนึ่งของผม ผมขอตายดีกว่า\" เพี้ย พอสิ้นคำของวิชชุ ฝ่ามือของภารดี ทั้ง 5 นิ้วก็ฟาดไปที่ใบหน้าของวิชชุอย่างแรงจนแม้แต่วิชชุเองก็ยังตกใจไม่น้อย ถึงกับเอามือลูบไปที่ใบหน้า ภารดีพูดทั้งน้ำตา
\" ฉันคิดผิดจริงๆ คิดผิดที่ร่วมมือกับคุณ คิดผิดที่แต่งงานกับคุณ คิดผิดที่ทรยศคุณโสภณ ฉันมันโง่เองที่แต่งงานกับคุณ ที่กลัวจนเกินไป ฉันถึงต้องเป็นแบบนี้\"
ภารดีหันหลังให้วิชชุ แล้วรื้อฟื้นความหลังอย่างเจ็บแค้นใจตัวเอง วิชชุจึงเสริมขึ้น\" แล้วคุณจะโทษใครได้ ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันก็เกิดจากตัวคุณทั้งนั้น คุณจะมาโทษผมไม่ได้นะ \" ทั้งวิชชุ และ ภารดี ต่างมองต่างมองหน้ากันอย่างเจ็บปวดใจ กับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต โดยหารู้ไม่ว่าเรื่องราวทั้งหมดนั้น พิมพ์ ได้รับรู้หมดแล้ว เพราะเธอลืมของเอาไว้จึงกลับมาเอา แต่สิ่งที่เธอได้รับคือความเจ็บปวดใจแทน เมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมด พิมพ์ วิ่งกลับขึ้นไปที่ห้องนอน ปิดประตูไว้แล้วลงกลอน นั่งหลังพิงประตูอย่างหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ปากก็พึมพำ\" แม่ใจร้าย แม่ใดำ ไม่จริง \" อย่างคนเสียสติ 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น