ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักห้าวๆ เน่านิดๆ พิชิตใจเธอ

    ลำดับตอนที่ #8 : สมาชิกใหม่ (อีก1คน)

    • อัปเดตล่าสุด 6 มิ.ย. 48


    พอไปถึงโรงเรียน   ตรงโต๊ะประจำข้างอาคาร 4   ที่ตอนนี้มีแค่แพรกับไปป์นั่งอยู่  2  คน  (ส่วนเพชรกับอุ้มโดนไล่ไปอยู่ไหนก็ไม่รู้)   แพรก็เริ่มเปิดฉากคุยทันที



    “ที่จริงนะ   ฉันก็ไม่อยากจะคุยกะนายเท่าไหร่นักหรอก   แต่ฉันขี้เกียจคุยตอนอื่น   ก็เลยไปรับมาคุยตอนเช้าเลย   เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นเค้าจะคิดว่าฉันเป็นอะไรกับนาย”



    “นี่เธอไปรับฉันถึงบ้านเพื่อจะพูดแค่นี้น่ะเหรอ”



    “ฟังให้จบก่อนสิ   ฉันก็แค่อยากจะขอบคุณนายเรื่องเมื่อวาน   ที่นายช่วยพูดทำให้ฉันคิดได้   ถ้านายไม่พูดแบบนั้นไป   ฉันก็คงกลายเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย   แล้วก็คงเข้าใจผิดพี่เพชรไปตลอด   ขอบคุณมากนะ”  แพรยิ้มให้ไปป์อย่างจริงใจ



    ไปป์มองหน้าแพร   มองลึกเข้าไปในแววตา….ทำไมถึงน่ารักอย่างนี้นะ



    “ไปป์!!!  นายได้ยินที่ฉันพูดมั๊ย”



    “หา…อ๋อ…ได้ยินสิ  เอ๊ย!  ไม่ได้ยิน  พูดใหม่อีกทีซิ”



    “ฉันพูดว่าเรื่องเมื่อวานน่ะขอบคุณมากนะ   ได้ยินรึยัง”



    “ยังไม่ได้ยินเลย   พูดใหม่อีกที   เอาดังๆ นะ”



    “นี่นายไปป์!!!  ฉันอุตส่าห์พูดดีๆแล้วนะ   นายยังหาเรื่องแกล้งฉันอยู่ได้   คำขอบคุณจากฉันมันคงไม่มีค่าสำหรับนายเลยใช่มั๊ย…งั้นก็ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องพูดอะไรอีกแล้ว”   แพรโกรธที่ไปป์แกล้ง   ก็เลยลุกขึ้นจะเดินออกไป



    “เดี๋ยวก่อน!!!”  ไปป์ลุกตามและจับมือแพรไว้   เค้าจับมือแพรไว้แน่น



    “ฉันขอโทษที่ฉันแกล้งเธอเมื่อกี๊”  แพรมองที่มือตัวเองซึ่งตอนนี้โดนไปป์จับไว้   ไปป์พอเห็นว่าตัวเองจับมือแพรอยู่ก็รีบปล่อยด้วยความเขิน



    “เอ่อ..ขอโทษ…..แต่ฉันก็ดีใจนะ   ที่ฉันทำให้เธอกับไอ้เพชรเข้าใจกันได้”   ไปป์ยิ้มให้แพรอย่างจริงใจบ้าง   ทั้งสองคนยิ้มให้กัน   แล้วแพรก็เดินออกไป   ไปป์พูดกับตัวเองเบาๆ



    “ถ้าฉันทำให้เธอกับฉันเข้าใจกันได้แบบนั้นบ้างก็คงจะดีสินะ”





    ระหว่างที่เดินกลับห้อง   แพรเดินยิ้มไปตลอดทาง   (บ้ารึเปล่าเนี่ย….)  เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าที่ไปป์ให้เมื่อวานจากกระเป๋ามาถือไว้   ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงมีความสุขเพราะเค้าได้ขนาดนี้   หรือว่าเธอจะชอบไปป์เข้าแล้ว!! เป็นไปไม่ได้น่า…แพรคิดในใจ



    “ฮั่นแน่…เดินยิ้มแบบนี้   ต้องมีอะไรแน่ๆ เลยใช่มั๊ยล่ะ”   อุ้มโผล่หน้ามาทักจากในห้อง   แพรยิ้มให้อุ้มแบบมีความสุขมาก



    “ก็ไม่มีอะไรหรอก   แค่ฉันรู้สึกสบายใจที่ได้พูด   ก็แค่นั้นเอง”



    “แล้วเธอพูดอะไรไปล่ะ”



    “พูดว่า…”  แพรมองอุ้มที่ลุ้นจนตัวโก่งอยู่ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้



    “ขอบคุณ   แค่นี้แหละ”



    “โหย…อะไรอ่ะ   พูดแค่นี้เอง   ทำไมไม่สารภาพรักพี่ไปป์ไปเลยล่ะ”



    “จะบ้าเหรอ!!  ฉันไม่ได้ชอบนายนั่นซะหน่อย   เธอก็พูดอะไรบ้าๆ”



    “ไม่ชอบ  แล้วยิ้มทำไม   แล้วนี่!!  ผ้าเช็ดหน้าพี่ไปป์  เก็บไว้ทำไม”  อุ้มจ้องหน้าเพื่อนอย่างค้นหาความจริง



    “ฉันก็แค่หยิบออกมากะว่าจะคืนเค้า   แต่มันลืม”



    “เธอนี่ปากแข็งจริงๆ นะแพร   คอยดูเหอะ  ซักวันสุนัขมันคาบไปรับประทานแล้วจะเสียใจ”



    แพรรู้สึกสับสน   เธอไม่แน่ใจว่าเธอคิดยังไงกับไปป์กันแน่   เพราะเธอกับไปป์เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงเดือน   แล้วมันจะเป็นไปได้เหรอ???





    ในคาบชมรม   ที่ห้อง  148  ห้องของชมรม “FreePlay”



    “พี่ว่านะ   ปีนี้เราคงไม่ต้องรับสมาชิกเพิ่มหรอก   นักร้องนำก็มีแล้ว   นักดนตรีก็ครบ  รึพวกเราว่าไง”  บีมถามทุกคนในที่ประชุม   ที่กำลังตกลงกันเรื่องรับสมาชิกใหม่



    “แล้วถ้ามีคนมาสมัครล่ะ”



    “ก็คงต้องรับ   แต่พี่ว่าไม่มีหรอก”



    “ผมว่าวงเราน่าจะมีมือคียบอร์ดซักคนนะ   เหมือนมันขาดๆ ยังไงก็ไม่รู้”  เพชรเสนอขึ้นมา   ทุกคนก็เห็นด้วย   แต่ติดที่ว่า  ใครล่ะ  จะสมัคร



    “เอ่อ…ขอโทษนะคะ  ไม่ทราบว่าชมรมนี้ยังรับสมัครอยู่รึเปล่าคะ”



    เสียงดังมาจากประตูห้องชมรม   ซึ่งตอนนี้มีหญิงสาวผมยาว   หน้าตาน่ารัก  ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่   ในมือถือใบสมัครที่ตอนนี้กรอกชื่อผู้สมัครเรียบร้อยแล้ว   เหลือแต่ชื่อชมรมที่ยังเว้นว่างไว้



    “น้องจะมาสมัครเหรอ  ชื่ออะไรจ๊ะ  แล้วเล่นอะไรเป็นบ้าง”  บีมเริ่มบทสัมภาษณ์ทันที



    “ชื่อมีน   เล่นเบสกับคียบอร์ดเป็นค่ะ”



    “แล้วเล่นตัวล่ะครับเล่นเป็นมั๊ย”  บอยแซวขึ้นมา   บีมตบหัวน้องชายฉาดใหญ่



    “ไอ้ทะลึ่ง  เงียบๆ เลยนะแกน่ะ”



    “โหย…อะไรอ่ะเจ๊   ตบหัวผู้ชายเค้าว่าบาปนะ”



    “แต่กับผู้ชายอย่างแก  ให้ฉันตบซักร้อยทีฉันก็ไม่กลัวบาปหรอก”  ทุกคนหัวเราะกับท่าทางสองพี่น้องคู่นี้   ที่วันๆ เอาแต่ทะเลาะกัน   แต่ก็น่ารักดีนะ



    “พี่บีม  น้องเค้ารอนานแล้วนะ”  เพชรเรียกบีม   ที่มัวแต่หาเรื่องน้องชายจนลืม



    “เอ้อ!  พี่ลืมไป   ว่าแต่…มีนเล่นคีย์บอร์ดได้ใช่มั๊ย”



    “ได้ค่ะ”



    “งั้นก็ดีเลย   เอาเป็นว่าพี่รับมีนเข้าชมรมเลยนะ   มีนกรอกใบสมัครได้เลย   แล้วก็มาซ้อมตามตารางซ้อมอันนี้นะ”  บีมยื่นตารางซ้อมให้มีน



    “เจ๊!!  เจ๊จะไม่ถามความคิดเห็นของพวกผมเลยรึไงเนี่ย”   บอยพูดขึ้นมา   มีนหน้าเสีย   เพราะเข้าใจว่าทุกคนคงไม่อยากรับเธอเข้าชมรมด้วย



    “อ้าว!  แล้วพวกเราคิดว่าสมควรมั๊ยล่ะที่จะรับน้องมีนเข้าวงน่ะ”



    “สมควรอย่างยิ่งเลยครับ/ค่ะ”



    “”แล้วแกจะทักท้วงทำไมวะไอ้บอยบ้า   อยากโดนฝ่ามืออรหันต์อีกซักทีมะ  กวนประสาทจริงๆ”



    “โหย..เจ๊..ขำๆ น่า ขำๆ”



    แล้วในที่สุด   ชมรม “FreePlay”  ก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก  1  คน   ตอนนี้สรุปแล้วมีสมาชิก 7  คน  บีมเป็นประธานชมรมและเป็นผู้จัดการวง  เพชรเล่นกีตาร์และเป็นหัวหน้าวง   ก้องก็เล่นกีตาร์   ไปป์เล่นเบส  บอยตีกลอง   มีนเล่นคียบอร์ด   ส่วนแพรร้องนำ   ซึ่งทั้งหมดก็ต้องเริ่มซ้อมอย่างเอาจริงเอาจังแล้ว   เพราะอีกไม่ถึง  3 เดือน   การประกวดวงดนตรีสากลครั้งใหญ่ของโรงเรียนก็จะมีขึ้น   ซึ่งเวทีนี้แหละ   เป็นเวทีสำคัญของทุกวงเลยก็ว่าได้   กับการที่จะก้าวต่อไปสู่การเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียง   แล้วปีนี้   ก็มีอยู่สองวงที่เป็นตัวเก็ง  ก็คือ  วง “Body Fire”  ของอาร์ต  และวง “FreePlay” ของเพชร   และเค้าว่ากันว่า   ปีนี้เป็นปีที่ทั้งสองวงจะแย่งชิ่งตำแหน่งกันอย่างดุเดือด   เพราะมีแมวมองมาเยอะ   งานนี้วงไหนชนะมีเฮแน่นอน…แต่จะเป็นวงไหนล่ะ???





    แล้ววันเสาร์ก็มาถึงอีกแล้ว   ทุกคนก็ไปซ้อมดนตรีที่บ้านก้องอีกตามเคย   แต่วันนี้พิเศษตรงที่ว่ามีสมาชิกเพิ่มมาอีก  1  คน



    การซ้อมวันนี้ผ่านไปด้วยดี   มีนเล่นคีย์บอร์ดได้ดีและเข้ากับทุกคนได้ง่าย   แม้จะมีติดขัดบ้าง  แต่ก็แค่เล็กน้อย   ซ้อมอีกไม่นานก็คงจะไม่มีจุดบกพร่องเลย



    ตอนเที่ยง   ทุกคนพากันทำกับข้าวกินกันที่บ้านก้อง   โดยมีแม่ของก้องเป็นสปอนเซอร์   คนที่ลงทุนเข้าครัวโชว์ฝีมือตัวเองก็มีเพชรกับไปป์สองคนนี่แหละ   เห็นเป็นผู้ชายแต่ฝีมือทำอาหารก็ไม่แพ้ผู้หญิงนะ   เสียแต่ฝีมือเพชรเค็มไปนิดนึง   ส่วนของไปป์ก็ทอดปลาซะนานจนไหม้เกรียม   แต่ทุกคนก็เต็มใจที่จะ (พยายาม) กิน   ก็คนทำอุตส่าห์ทำให้กินนี่นา



    จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็น   ที่ทุกคนต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน   แพรไปกับมีนเพราะบ้านมีนเป็นทางผ่านพอดี   ส่วนเพชรกับไปป์ไปด้วยกันเพราะจะไปซื้อปิ๊กกีตาร์ตัวใหม่ด้วย   กว่าจะกลับก็ค่ำๆ นู่นแหละ



    ระหว่างทางที่เดินกลับบ้าน (ลืมบอกว่าระยะทางระหว่างบ้านแพรกับบ้านก้องห่างกันแค่ 3 ซอยเอง   ถ้าเดินกลับก็เหนื่อยหน่อย   แต่ถือว่าเป็นการออกกำลังไปในตัว)



    “มีน  ฉันขอถามอะไรหน่อยนึงได้ป่ะ   เธอต้องตอบฉันตามตรงนะ”



    “มีอะไรเหรอ”



    “ดูเหมือนเธอกับนายไปป์จะสนิทกันจังเลยนะ   ฉันเห็นตอน…ทำอาหารกันน่ะ   เธอกับเค้าคุยกันเหมือนรู้จักกันมานานแล้วยังงั้นแหละ”



    มีนหรี่ตามองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เธอตอนนี้อย่างมีเลศนัย   นี่แสดงว่าแพรต้องแอบมองเธอกับไปป์ตลอดเวลา   ไม่งั้นคงไม่สังเกตแล้วเก็บเอามาคิดขนาดนี้



    “พี่ไปป์ยังไม่เคยบอกเธอเลยเหรอ   ว่าฉันกับเค้าเป็นอะไรกัน”



    แพรสมองตื้อไปหมด   นี่นายไปป์กับมีนเป็นแฟนกันเหรอเนี่ย   แล้ว….



    “ก็ไม่เคยบอกหรอก   แต่ฉันพอจะรู้   ถึงบ้านเธอแล้ว   ฉันไปก่อนนะ   บ๊ายบาย”   แพรรีบวิ่งกลับบ้านอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น   แม้แต่คำขอบคุณจากมีนแพรก็ไม่ได้ยิน   พอถึงบ้าน   น้ำตาของแพรก็ไหลออกมา



    “ทำไม…ทำไมฉันต้องร้องไห้ด้วย   กะอีแค่นายมีแฟนแล้ว  ฉันไม่เห็นต้องสนใจเลย   นายบ้า…นายไปป์บ้า….ฮือ…”  แพรกอดหมอนแน่นแล้วก็นอนร้องไห้   จนไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน   ตื่นมาอีกทีก็เช้าแล้ว



    *****มาแก้ไขเรื่องบรรทัดค่ะ  วันลงจริงวันที่  4  มิ.ย. 48*****

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×