ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : สมาชิกใหม่
ที่หน้าเสาธงหลังจากเคารพธงชาติเสร็จแล้ว
“นักเรียนทุกคนคงจะจำได้    เมื่อต้นปีที่แล้ว  ทางโรงเรียนของเราได้ทุนส่งนักเรียนไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ประเทศสหัรัฐอเมริกา  และตอนนี้  นักเรียนคนนั้นได้กลับมาแล้ว  ขอให้นักเรียนทุกคนปรบมือต้อนรับ  นายนัฐพงษ์  เพชระวงศ์  นักเรียนชั้น ม.5/1  ด้วยครับ”
เสียงปรบมือดังขึ้น  พร้อมกับที่นักเรียนแลกเปลี่ยนคนที่ว่า  เดินออกมาสวัสดีหน้าเสาธงอย่างสง่างาม  ผู้หญิงในแถวพากันกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่  จนอาจารย์ต้องบอกว่าให้เงียบ
มันก็น่ากรี๊ดอยู่หรอก  ก็ตอนก่อนไปว่าหล่อแล้วนะ  พอกลับมาหล่อนักกว่าเดิมอีก  ดูยังไงก็เพอร์เฟ็ค  มิน่าล่ะ  ถึงได้ใจดาวโรงเรียนอย่างเจนไปเต็มๆ
งานนี้คนที่ดีใจที่สุดจนออกหน้าออกตาก็เห็นจะเป็นยัยเจนนี่แหละ
ส่วนที่ไม่ค่อยจะยินดีด้วยซักเท่าไหร่ก็เห็นจะเป็นนักเรียนชายประมาณครึ่งโรงเรียน  เพราะตั้งแต่วันนี้  จะต้องหันมาระวังแฟนตัวเอง  ว่าจะโดนนายนักเรียนแลกเปลี่ยนคนนี้หว่านเสน่ห์เอา  ไม่ยังงั้นแฟนอาจจะโดนซิวไปง่ายๆ
ใครๆ ก็รู้ว่าอาร์ตเป็นเสือผู้หญิงประจำโรงเรียน  คบกับใครไม่เคยเกิน  3  เดือน  ผู้หญิงเป็นต้องโดนทิ้งทุกราย  แต่ไม่รู้ว่าทำไมพวกผู้หญิงถึงได้ไฝ่ฝันนักหนาว่าในชีวิตนี้ขอให้ได้เป็นแฟนกับหนุ่มป๊อปอย่างนายอาร์ตซักครั้ง  ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่นานก็จะต้องอกหัก 
ล่าสุดก็คือยัยเจน  ที่เที่ยวบอกคนโน้นคนนี้ไปทั่วว่าตัวเองนี่แหละคือตัวจริงของอาร์ต  เพราะคบกันมาเกือบปีแล้ว  อันที่จริงเป็นเพราะอาร์ตไปต่างประเทศ  ไม่ได้มาบอกเลิกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว  เจนก็เลยคิดไปเองว่าอาร์ตยังรักตัวเองอยู่  ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่อาร์ตอยู่เมืองนอก  เค้าไม่เคยติดต่อมาหาเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“เจน  อาร์ตเค้ากลับมาแล้วอ่ะ  เธอจะทำยังไงต่อไปเหรอ”  มุ้งถามเจนที่กำลังเอาแต่ยืนยิ้มไม่หยุด
“ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย  แฟนกันก็ต้องเจอกันอยู่แล้ว  เดี๋ยวเค้าก็มาหาฉันเองแหละ”  เจนพูดอย่างมั่นใจ  ทั้งที่นี่ใจเธอยังไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าอาร์ตจะยังคิดกับเธอเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า 
หลังจากเข้าแถวเสร็จ  วันนี้ห้อง  5/1  ครึ้กครื้นเป็นพิเศษ
“เฮ้ยอาร์ต  ไปอยู่เมืองนอกเกือบปีเป็นไงบ้าง”
“แหม่มที่นั่นสวยสู้สาวเมืองไทยได้มั๊ย”
“ทำไมแกไม่เก็บหิมะมาฝากฉันบ้างอ่ะ  ฉันอยากเห็น”
“แล้วที่อเมริกามันมีส้มตำให้กินมั๊ยวะ”
และอีกร้อยพันคำถามที่เพื่อนๆ พากันรุมถามอาร์ต  แต่มีอยู่  4  คนที่ไม่ได้แยแสกับการกลับมาของอาร์ตเลย  นั่นก็คือ  ก้อง  บอย  ไปป์  และคนสำคัญคือเพชร
“มันน่าหมั่นไส้จริงๆเลย  กะอีแค่ไปเมืองนอกทำเป็นตื่นเต้น  ทีฉันไปต่างประเทศตั้งหลายวันกลับมาไม่เห็นต้องไปเที่ยวป่าวประกาศให้คนอื่นเค้ารู้เลย”  ก้องบ่นออกมาอย่างเบื่อๆ
“แล้วแกไปประเทศอะไรมาวะ”
“เขมร”  ก้องทำให้ทุกคนหัวเราะขึ้นมาได้  แต่แล้วเสียงหัวเราะก็ต้องเงียบลง  เมื่ออาร์ตเดินเข้ามาทัก
“หวัดดีพวกนาย  ไม่ได้เจอกันตั้งนาน  คงสบายดีกันนะ  ว่าไงเพชร”
เพชรเหลือบมองอาร์ตนิดนึง  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“น่าเสียดายแทนนะ  ที่นายน่าจะได้ทุน  แต่กลายเป็นฉันซะได้”  อาร์ตพูดกระทบ  เพราะรู้ว่าก่อนที่โรงเรียนจะพิจารณาให้ทุน  เพชรก็เป็นอีกคนนึง  ที่หวังกับทุนนี้อยู่มาก
ไปป์เกือบจะลุกขึ้นชกหน้าอาร์ตแล้ว  ถ้าไม่ถูกบอยเหยียบเท้าห้ามไว้ซะก่อน
“ฉันไม่เคยเสียดายทุนนั่นหรอกนะ  เพราะมันก็แค่ทุน  สู้พยายามด้วยตัวเองดีกว่า  ฉันมันไม่ใช่พวกที่หลงไปกับชื่อเสียงเกียรติยศ    แค่ตัวเองได้อะไรที่คนอื่นเค้าไม่ได้ก็คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า”  เพชรพูดได้สะใจมาก  เล่นเอาอาร์ตถึงกับกัดฟันแน่น
“ซักวันนายจะต้องเสียใจ”  อาร์ตพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปด้วยท่าทางหัวเสีย  ที่ทำอะไรเพชรไม่ได้
“ป๊อปโว๊ย!!  เสร็จยัง  จะสามโมงแล้วนะ”
ทุกๆ เช้าวันเสาร์ (และอาทิตย์)  จะต้องได้ยินเสียงไปป์ตะโกนเรียกป๊อป  น้องชายวัย 12  ปี  ให้รีบเตรียมตัวไปซ้อมดนตรีที่บ้านก้องแต่เช้า
“เสร็จแล้ว  เสร็จแล้ว  เดี๋ยวใส่รองเท้าแป๊ปนึง”  ซักพักป๊อปก็วิ่งกระหืดกระหอบออกมาพร้อมกับกีตาร์ตัวโปรด  แล้วสองพี่น้องก็รีบขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้านก้องทันที
ที่บ้านก้อง
“ทำไมไอ้ไปป์มันยังไม่มีอีกวะ  ไหนมันบอกวันนี้มันจะแกะเพลงใหม่มาให้ซ้อมด้วย  แล้วจนป่านนี้มันยังไม่โผล่หัวมาอีกเนี่ย”  บอยบ่น  นี่แหละตัวขี้บ่นประจำกลุ่มเลยแหละ
ไม่นานนัก  ไปป์กับป๊อปก็ (โผล่หัว) มา
“เออเฮ้ย  โทดที  วันนี้ตื่นสายไปหน่อยว่ะ  หวัดดีไอ้ก้อง  ไอ้บอย  ไอ้เพชร  พี่ ”
แล้วไปป์ก็ต้องชะงัก  เมื่อเห็นว่าตรงมุมห้องที่เป็นที่ประจำของพี่บีม  ผู้จัดการวง  และเป็นพี่สาวของบอย  มีผู้หญิงคนนึงนอกจากพี่บีมนั่งอยู่ด้วย  ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน  คู่อริคนสำคัญของเค้า  แพรน่ะเอง
“เออไปป์  รู้จักแพรรึยัง  นี่แพร  น้องสาวเพชร  แพร  นี่ไปป์นะ”  บีมแนะนำ  โดยที่ไม่รู้ว่าทั้งสองคนรู้จักกันแล้ว  จนบอยมากระซิบบอก
“เจ๊  สองคนนี้น่ะเค้ารู้จักกันแล้ว  เจ๊นี่ไม่รู้เรื่องอะไรเล้ย”  บอยบ่นพี่สาว
“อ้าว! รู้จักกันแล้วเหรอ  ก็นึกว่ายัง  เออๆช่างเหอะ  ว่าแต่ไปป์น่ะ  ไหนว่าวันนี้จะแกะเพลงใหม่มา  ได้มามั๊ย”
“ไม่ใช่เพลงใหม่หรอกพี่บีม  เพลงของพั๊นช์น่ะ”
“ไม่ต้องมาเล่นลิ้นกับพี่เลยนะ  ไหนเอามาดูซิ  เพลงอะไร  เราคงต้องเป็นแฟนกัน  อ๋อ พี่เคยฟังละ  เพราะดีเหมือนกันนะ  เอ๊ะ! แต่เพลงนี้มันเพลงผู้หญิงนิ่  วงเรามีแต่ผู้ชายนะ  แกจะให้ใครร้องล่ะไปป์”
“ก็พี่บีมนั่นแหละ”  ไปป์บอก
“เฮ้ย! จะบ้าเหรอ  พี่ร้องเพลงเป็นซะที่ไหนเล่า”
“เออไอ้ไปป์  แกเอาสมองส่วนไหนคิดวะ  เสียงอย่างเจ๊บีมเนี่ยนะ  เสียงควายร้องยังเพราะกว่าเลย”  บอยว่าพี่สาว  ทำเอาทุกคนหัวเราะกันหมด  ยกเว้นบีมที่เอาแต่ไล่ตีน้องชายตัวแสบ  แล้วเหมือนบีมจะนึกอะไรขึ้นมาได้  เธอหันไปทางแพรซึ่งนั่งอยู่เงียบๆ
“แพร  ร้องเพลงได้รึเปล่า”  แพรสะดุ้ง  เพชรสนับสนุนเต็มที่
“ใช่ๆ  พี่บีม  ไอ้แพรมันชอบร้องเพลง  ผมว่ามันน่าจะร้องได้นะ”
“เออ  ดีเหมือนกันแฮะ  วงเราจะได้มีนักร้องนำเป็นผู้หญิงบ้าง  เบื่อเสียงไอ้ไปป์เต็มทีแล้ว”  บอยก็สนับสนุน
“ว่าไงครับน้องแพร”  ก้องหันไปถามแพรที่ยังทำหน้าไม่แน่ใจ
“แพรทำไม่ได้หรอกค่ะ  แพรยังไม่เคยร้องเพลงกับวงดนตรีเลย  เคยแต่ร้องในคาราโอเกะ”
“ไม่เป็นไร  เดี๋ยวให้ไอ้ไปป์มันช่วยเทรนด์ให้  เนอะไอ้ไปป์”
“ไม่”  ไปป์ปฏิเสธเสียงแข็ง  แถมยังทำหน้าไม่พอใจด้วย
“เอ่อ!  งั้นเดี๋ยวพี่เทรนด์ให้เองก็ได้นะ”
“แพรว่าอย่าดีกว่าค่ะ  เพราะมีบางคนเค้าไม่ค่อยจะเต็มใจให้แพรมาร่วมวงด้วยซักเท่าไหร่”  แพรพูดพร้อมกับมองไปที่ไปป์  ส่วนไปป์ก็จ้องกลับไม่แพ้กัน  ทุกคนเงียบหมด  บรรยากาศเริ่มจะตึงเครียด  เพชรจึงตัดสินใจพูดขึ้นมา
“อืม พี่ว่าให้แพรลองร้องเล่นๆ ไปก่อนก็ได้  ดีไม่ดีค่อยว่ากันทีหลัง  ทุกคนว่าไง”
“ก็ดีเหมือนกัน”  ทุกคนเห็นด้วย  ยกเว้นไปป์  ที่เดินไปหยิบเบสมาเล่นโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
แล้วการซ้อมวันนี้ก็ผ่านไปด้วยดี  เพชรกับก้องเล่นกีตาร์  ไปป์เล่นเบส  บอยตีกลอง  ส่วนแพรร้องเพลงได้ดีมาก  ดีกว่าที่ทุกคนคิดไว้ซะอีก  ถึงขนาดไปป์ยังเอ่ยปากชมตอนที่กำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้าน
“เธอนี่ก็ร้องเพลงเพราะเหมือนกันนะ  ฉันคิดว่าเธอจะทำอะไรดีๆ ไม่เป็นซะอีก”
“ขอบคุณ  แล้วไงอ่ะ” แพรแอบยิ้มนิดๆ ด้วยแหละ
“ก็ ฉันก็แค่คิดว่าถ้าวงฉันมีนักร้องนำอย่างเธอก็คงจะดี” 
“หมายความว่า นายรับฉันเข้าวงแล้วเหรอ” 
“ใครบอก”
“อ้าว!”  แพรทำหน้าผิดหวังอย่างแรง  จนไปป์หลุดหัวเราะออกมา
“ใครบอก ว่าไม่รับล่ะ”  แพรแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง  เพราะตั้งแต่เธอรู้จักกับไปป์มา  เธอไม่เคยเห็นเค้าหัวเราะต่อหน้าเธอเลยซักครั้งเดียว  นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย
“นายหัวเราะอะไรเนี่ย”
“ก็หัวเราะเธออ่ะดิ่  นี่ถ้าฉันไม่รับเธอเข้าวงจริงๆ  กลับบ้านไปคงไปร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่เลย”  ไปป์ยื่นหน้าทะเล้นใส่แพรอีกแล้ว 
“เหรอ”  แต่คราวนี้แพรไม่หลบ  กลับยื่นหน้าใส่ตอบโต้  จนนายไปป์เป็นฝ่ายหลบซะเอง  แถมยังหน้าแดงอีกต่างหาก
“เฮ้ย!  เธอยื่นหน้ามาทำไมเนี่ย” 
“ก็นายยื่นมา  ฉันก็ยื่นตอบ  นานคงกะจะให้ฉันเขินล่ะสิท่า  ไม่มีทางหรอก”
“นี่ถ้าฉันหอมแก้มเธอ  เธอก็คงจะหอมแก้มฉันตอบล่ะสิ”
“บ้า”
เพชรที่กำลังจะชวนแพรกลับบ้าน  ก็ต้องหยุดมองเพื่อนกับน้องสาวที่ดูท่าทางจะคุยกันดีขึ้น  เค้าคิดว่าอีกไม่นานหรอก  สองคนนี้คงจะคุยกันดีๆ ได้
*****มาแก้ไขบรรทัดค่ะ  วันลงจริง 27 พ.ค. 48*****
“นักเรียนทุกคนคงจะจำได้    เมื่อต้นปีที่แล้ว  ทางโรงเรียนของเราได้ทุนส่งนักเรียนไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ประเทศสหัรัฐอเมริกา  และตอนนี้  นักเรียนคนนั้นได้กลับมาแล้ว  ขอให้นักเรียนทุกคนปรบมือต้อนรับ  นายนัฐพงษ์  เพชระวงศ์  นักเรียนชั้น ม.5/1  ด้วยครับ”
เสียงปรบมือดังขึ้น  พร้อมกับที่นักเรียนแลกเปลี่ยนคนที่ว่า  เดินออกมาสวัสดีหน้าเสาธงอย่างสง่างาม  ผู้หญิงในแถวพากันกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่  จนอาจารย์ต้องบอกว่าให้เงียบ
มันก็น่ากรี๊ดอยู่หรอก  ก็ตอนก่อนไปว่าหล่อแล้วนะ  พอกลับมาหล่อนักกว่าเดิมอีก  ดูยังไงก็เพอร์เฟ็ค  มิน่าล่ะ  ถึงได้ใจดาวโรงเรียนอย่างเจนไปเต็มๆ
งานนี้คนที่ดีใจที่สุดจนออกหน้าออกตาก็เห็นจะเป็นยัยเจนนี่แหละ
ส่วนที่ไม่ค่อยจะยินดีด้วยซักเท่าไหร่ก็เห็นจะเป็นนักเรียนชายประมาณครึ่งโรงเรียน  เพราะตั้งแต่วันนี้  จะต้องหันมาระวังแฟนตัวเอง  ว่าจะโดนนายนักเรียนแลกเปลี่ยนคนนี้หว่านเสน่ห์เอา  ไม่ยังงั้นแฟนอาจจะโดนซิวไปง่ายๆ
ใครๆ ก็รู้ว่าอาร์ตเป็นเสือผู้หญิงประจำโรงเรียน  คบกับใครไม่เคยเกิน  3  เดือน  ผู้หญิงเป็นต้องโดนทิ้งทุกราย  แต่ไม่รู้ว่าทำไมพวกผู้หญิงถึงได้ไฝ่ฝันนักหนาว่าในชีวิตนี้ขอให้ได้เป็นแฟนกับหนุ่มป๊อปอย่างนายอาร์ตซักครั้ง  ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่นานก็จะต้องอกหัก 
ล่าสุดก็คือยัยเจน  ที่เที่ยวบอกคนโน้นคนนี้ไปทั่วว่าตัวเองนี่แหละคือตัวจริงของอาร์ต  เพราะคบกันมาเกือบปีแล้ว  อันที่จริงเป็นเพราะอาร์ตไปต่างประเทศ  ไม่ได้มาบอกเลิกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว  เจนก็เลยคิดไปเองว่าอาร์ตยังรักตัวเองอยู่  ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่อาร์ตอยู่เมืองนอก  เค้าไม่เคยติดต่อมาหาเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“เจน  อาร์ตเค้ากลับมาแล้วอ่ะ  เธอจะทำยังไงต่อไปเหรอ”  มุ้งถามเจนที่กำลังเอาแต่ยืนยิ้มไม่หยุด
“ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย  แฟนกันก็ต้องเจอกันอยู่แล้ว  เดี๋ยวเค้าก็มาหาฉันเองแหละ”  เจนพูดอย่างมั่นใจ  ทั้งที่นี่ใจเธอยังไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าอาร์ตจะยังคิดกับเธอเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า 
หลังจากเข้าแถวเสร็จ  วันนี้ห้อง  5/1  ครึ้กครื้นเป็นพิเศษ
“เฮ้ยอาร์ต  ไปอยู่เมืองนอกเกือบปีเป็นไงบ้าง”
“แหม่มที่นั่นสวยสู้สาวเมืองไทยได้มั๊ย”
“ทำไมแกไม่เก็บหิมะมาฝากฉันบ้างอ่ะ  ฉันอยากเห็น”
“แล้วที่อเมริกามันมีส้มตำให้กินมั๊ยวะ”
และอีกร้อยพันคำถามที่เพื่อนๆ พากันรุมถามอาร์ต  แต่มีอยู่  4  คนที่ไม่ได้แยแสกับการกลับมาของอาร์ตเลย  นั่นก็คือ  ก้อง  บอย  ไปป์  และคนสำคัญคือเพชร
“มันน่าหมั่นไส้จริงๆเลย  กะอีแค่ไปเมืองนอกทำเป็นตื่นเต้น  ทีฉันไปต่างประเทศตั้งหลายวันกลับมาไม่เห็นต้องไปเที่ยวป่าวประกาศให้คนอื่นเค้ารู้เลย”  ก้องบ่นออกมาอย่างเบื่อๆ
“แล้วแกไปประเทศอะไรมาวะ”
“เขมร”  ก้องทำให้ทุกคนหัวเราะขึ้นมาได้  แต่แล้วเสียงหัวเราะก็ต้องเงียบลง  เมื่ออาร์ตเดินเข้ามาทัก
“หวัดดีพวกนาย  ไม่ได้เจอกันตั้งนาน  คงสบายดีกันนะ  ว่าไงเพชร”
เพชรเหลือบมองอาร์ตนิดนึง  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“น่าเสียดายแทนนะ  ที่นายน่าจะได้ทุน  แต่กลายเป็นฉันซะได้”  อาร์ตพูดกระทบ  เพราะรู้ว่าก่อนที่โรงเรียนจะพิจารณาให้ทุน  เพชรก็เป็นอีกคนนึง  ที่หวังกับทุนนี้อยู่มาก
ไปป์เกือบจะลุกขึ้นชกหน้าอาร์ตแล้ว  ถ้าไม่ถูกบอยเหยียบเท้าห้ามไว้ซะก่อน
“ฉันไม่เคยเสียดายทุนนั่นหรอกนะ  เพราะมันก็แค่ทุน  สู้พยายามด้วยตัวเองดีกว่า  ฉันมันไม่ใช่พวกที่หลงไปกับชื่อเสียงเกียรติยศ    แค่ตัวเองได้อะไรที่คนอื่นเค้าไม่ได้ก็คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า”  เพชรพูดได้สะใจมาก  เล่นเอาอาร์ตถึงกับกัดฟันแน่น
“ซักวันนายจะต้องเสียใจ”  อาร์ตพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปด้วยท่าทางหัวเสีย  ที่ทำอะไรเพชรไม่ได้
“ป๊อปโว๊ย!!  เสร็จยัง  จะสามโมงแล้วนะ”
ทุกๆ เช้าวันเสาร์ (และอาทิตย์)  จะต้องได้ยินเสียงไปป์ตะโกนเรียกป๊อป  น้องชายวัย 12  ปี  ให้รีบเตรียมตัวไปซ้อมดนตรีที่บ้านก้องแต่เช้า
“เสร็จแล้ว  เสร็จแล้ว  เดี๋ยวใส่รองเท้าแป๊ปนึง”  ซักพักป๊อปก็วิ่งกระหืดกระหอบออกมาพร้อมกับกีตาร์ตัวโปรด  แล้วสองพี่น้องก็รีบขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้านก้องทันที
ที่บ้านก้อง
“ทำไมไอ้ไปป์มันยังไม่มีอีกวะ  ไหนมันบอกวันนี้มันจะแกะเพลงใหม่มาให้ซ้อมด้วย  แล้วจนป่านนี้มันยังไม่โผล่หัวมาอีกเนี่ย”  บอยบ่น  นี่แหละตัวขี้บ่นประจำกลุ่มเลยแหละ
ไม่นานนัก  ไปป์กับป๊อปก็ (โผล่หัว) มา
“เออเฮ้ย  โทดที  วันนี้ตื่นสายไปหน่อยว่ะ  หวัดดีไอ้ก้อง  ไอ้บอย  ไอ้เพชร  พี่ ”
แล้วไปป์ก็ต้องชะงัก  เมื่อเห็นว่าตรงมุมห้องที่เป็นที่ประจำของพี่บีม  ผู้จัดการวง  และเป็นพี่สาวของบอย  มีผู้หญิงคนนึงนอกจากพี่บีมนั่งอยู่ด้วย  ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน  คู่อริคนสำคัญของเค้า  แพรน่ะเอง
“เออไปป์  รู้จักแพรรึยัง  นี่แพร  น้องสาวเพชร  แพร  นี่ไปป์นะ”  บีมแนะนำ  โดยที่ไม่รู้ว่าทั้งสองคนรู้จักกันแล้ว  จนบอยมากระซิบบอก
“เจ๊  สองคนนี้น่ะเค้ารู้จักกันแล้ว  เจ๊นี่ไม่รู้เรื่องอะไรเล้ย”  บอยบ่นพี่สาว
“อ้าว! รู้จักกันแล้วเหรอ  ก็นึกว่ายัง  เออๆช่างเหอะ  ว่าแต่ไปป์น่ะ  ไหนว่าวันนี้จะแกะเพลงใหม่มา  ได้มามั๊ย”
“ไม่ใช่เพลงใหม่หรอกพี่บีม  เพลงของพั๊นช์น่ะ”
“ไม่ต้องมาเล่นลิ้นกับพี่เลยนะ  ไหนเอามาดูซิ  เพลงอะไร  เราคงต้องเป็นแฟนกัน  อ๋อ พี่เคยฟังละ  เพราะดีเหมือนกันนะ  เอ๊ะ! แต่เพลงนี้มันเพลงผู้หญิงนิ่  วงเรามีแต่ผู้ชายนะ  แกจะให้ใครร้องล่ะไปป์”
“ก็พี่บีมนั่นแหละ”  ไปป์บอก
“เฮ้ย! จะบ้าเหรอ  พี่ร้องเพลงเป็นซะที่ไหนเล่า”
“เออไอ้ไปป์  แกเอาสมองส่วนไหนคิดวะ  เสียงอย่างเจ๊บีมเนี่ยนะ  เสียงควายร้องยังเพราะกว่าเลย”  บอยว่าพี่สาว  ทำเอาทุกคนหัวเราะกันหมด  ยกเว้นบีมที่เอาแต่ไล่ตีน้องชายตัวแสบ  แล้วเหมือนบีมจะนึกอะไรขึ้นมาได้  เธอหันไปทางแพรซึ่งนั่งอยู่เงียบๆ
“แพร  ร้องเพลงได้รึเปล่า”  แพรสะดุ้ง  เพชรสนับสนุนเต็มที่
“ใช่ๆ  พี่บีม  ไอ้แพรมันชอบร้องเพลง  ผมว่ามันน่าจะร้องได้นะ”
“เออ  ดีเหมือนกันแฮะ  วงเราจะได้มีนักร้องนำเป็นผู้หญิงบ้าง  เบื่อเสียงไอ้ไปป์เต็มทีแล้ว”  บอยก็สนับสนุน
“ว่าไงครับน้องแพร”  ก้องหันไปถามแพรที่ยังทำหน้าไม่แน่ใจ
“แพรทำไม่ได้หรอกค่ะ  แพรยังไม่เคยร้องเพลงกับวงดนตรีเลย  เคยแต่ร้องในคาราโอเกะ”
“ไม่เป็นไร  เดี๋ยวให้ไอ้ไปป์มันช่วยเทรนด์ให้  เนอะไอ้ไปป์”
“ไม่”  ไปป์ปฏิเสธเสียงแข็ง  แถมยังทำหน้าไม่พอใจด้วย
“เอ่อ!  งั้นเดี๋ยวพี่เทรนด์ให้เองก็ได้นะ”
“แพรว่าอย่าดีกว่าค่ะ  เพราะมีบางคนเค้าไม่ค่อยจะเต็มใจให้แพรมาร่วมวงด้วยซักเท่าไหร่”  แพรพูดพร้อมกับมองไปที่ไปป์  ส่วนไปป์ก็จ้องกลับไม่แพ้กัน  ทุกคนเงียบหมด  บรรยากาศเริ่มจะตึงเครียด  เพชรจึงตัดสินใจพูดขึ้นมา
“อืม พี่ว่าให้แพรลองร้องเล่นๆ ไปก่อนก็ได้  ดีไม่ดีค่อยว่ากันทีหลัง  ทุกคนว่าไง”
“ก็ดีเหมือนกัน”  ทุกคนเห็นด้วย  ยกเว้นไปป์  ที่เดินไปหยิบเบสมาเล่นโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
แล้วการซ้อมวันนี้ก็ผ่านไปด้วยดี  เพชรกับก้องเล่นกีตาร์  ไปป์เล่นเบส  บอยตีกลอง  ส่วนแพรร้องเพลงได้ดีมาก  ดีกว่าที่ทุกคนคิดไว้ซะอีก  ถึงขนาดไปป์ยังเอ่ยปากชมตอนที่กำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้าน
“เธอนี่ก็ร้องเพลงเพราะเหมือนกันนะ  ฉันคิดว่าเธอจะทำอะไรดีๆ ไม่เป็นซะอีก”
“ขอบคุณ  แล้วไงอ่ะ” แพรแอบยิ้มนิดๆ ด้วยแหละ
“ก็ ฉันก็แค่คิดว่าถ้าวงฉันมีนักร้องนำอย่างเธอก็คงจะดี” 
“หมายความว่า นายรับฉันเข้าวงแล้วเหรอ” 
“ใครบอก”
“อ้าว!”  แพรทำหน้าผิดหวังอย่างแรง  จนไปป์หลุดหัวเราะออกมา
“ใครบอก ว่าไม่รับล่ะ”  แพรแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง  เพราะตั้งแต่เธอรู้จักกับไปป์มา  เธอไม่เคยเห็นเค้าหัวเราะต่อหน้าเธอเลยซักครั้งเดียว  นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย
“นายหัวเราะอะไรเนี่ย”
“ก็หัวเราะเธออ่ะดิ่  นี่ถ้าฉันไม่รับเธอเข้าวงจริงๆ  กลับบ้านไปคงไปร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่เลย”  ไปป์ยื่นหน้าทะเล้นใส่แพรอีกแล้ว 
“เหรอ”  แต่คราวนี้แพรไม่หลบ  กลับยื่นหน้าใส่ตอบโต้  จนนายไปป์เป็นฝ่ายหลบซะเอง  แถมยังหน้าแดงอีกต่างหาก
“เฮ้ย!  เธอยื่นหน้ามาทำไมเนี่ย” 
“ก็นายยื่นมา  ฉันก็ยื่นตอบ  นานคงกะจะให้ฉันเขินล่ะสิท่า  ไม่มีทางหรอก”
“นี่ถ้าฉันหอมแก้มเธอ  เธอก็คงจะหอมแก้มฉันตอบล่ะสิ”
“บ้า”
เพชรที่กำลังจะชวนแพรกลับบ้าน  ก็ต้องหยุดมองเพื่อนกับน้องสาวที่ดูท่าทางจะคุยกันดีขึ้น  เค้าคิดว่าอีกไม่นานหรอก  สองคนนี้คงจะคุยกันดีๆ ได้
*****มาแก้ไขบรรทัดค่ะ  วันลงจริง 27 พ.ค. 48*****
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น