ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    touhou fanfic: ชุลมุนวุ่นวาย ยัยภูติน้ำเเข็งจอมป่วน

    ลำดับตอนที่ #5 : Can we...together?

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.พ. 59


           "นี่ชิลโน่ ฉันว่าฉันจะถามเธอนานเเล้ว" ไดสุเกะพูดขึ้นในเย็นวันหนึ่ง ขณะที่ทั้งสองกำลังทานอาหารเย็นกันอยู่

           ชิลโน่ที่กำลังเคี้ยวข้าวจนเเก้มตุ่ยน่ารัก ดวงตาสีไอซ์บลูจ้องมองไดสุเกะด้วยความสงสัย "อะไออ๋อไออุเอะ?" 

           ดูเหมือนว่าไดสุเกะจะเข้าใจสิ่งที่ชิลโน่พูดโดยไม่ต้องถามซ้ำ "ก็ไม่มีอะไรมากหรอกนะ" ไดสุเกะคีบปลาซาบะย่างซีอิ๋วเข้าปากตามด้วยข้าวคำโต เขาเคี้ยวเเละกลืมมันลงคอไปก่อนจะถามต่อ "เเค่อยากรู้ว่าเธอหลุดมาโลกภายนอกได้ยังไงน่ะ" 

           ชิลโน่ที่กำลังจะส่งปลาซาบะเเละข้าวคำโตเข้าปากหยุดชะงัก ไดสุเกะรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี บรรยากาศในห้องเริ่มเปลี่ยนไป

           "อ...เอ่อ ถ้าเธอลำบากใจที่จะเล่าก็ไม่เป็นไรนะ ฉันเองก็ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้นหรอก..." เขายิ้มเเละหัวเราะออกมาเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

           "หลุมมิติ..." ชิลโน่พูดขึ้น เหมือนกำลังพยายามย้อนนึกถึงความหลังเมื่อนานมาเเล้ว...ความทรงจำที่ขมขื่น

           "หา?" ไดสุเกะที่ได้ยินไม่ถนัดหูถามซ้ำ

           "...ฉันตกลงไปในหลุมมิติ พอรู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ในบ้านนายเเล้ว ตอนนั้นในบ้านยังไม่มีใครอยู่ บรรยากาศเเละสถานที่ก็ไม่คุ้นตา อากาศก็ร้อนมาก ฉันเลยพยายามหาอะไรดับร้อน ฉันเดินเข้าไปในครัวเเล้วก็เจอกับตู้เย็น พอเปิดมันออกก็มีไอเย็นเเผ่ออกมา มันเย็นดีฉันเลยเข้าไปนอนหลบในนั้น จนนายมาเปิดตู้เย็นเเล้วเจอฉันนั้นเเหละ" ชิลโน่พูด เเล้วส่งอาหารที่ตักค้างไว้เข้าปาก 

          ไดสุเกะอาจจะคิดไปเอง เเต่ชิลโน่ดูจะกินน้อยลงกว่าเมื่อครู่นี้...

          "อืม...ก็ฉันจะเจอเธอในตู้เย็นก็เป็นเเบบนี้เองเหรอเนี่ย" ไดสุเกะพึมพำ ยกถ้วยซุปมิโซะขึ้นซด ในขณะเดียวกันก็มีถ้วยซุปอีกถ้วยหนึ่งยื่นมาตรงหน้าเขา

          "ไดสุเกะ ขอซุปอีกสิ!" ชิลโน่สั่งด้วยใบหน้ายิ้มเเย้ม ไดสุเกะคิดว่าที่เมื่อครู่นี้เขาเห็นชิลโน่กินน้อยลงคงคิดไปเอง...

          ไดสุเกะรับถ้วยซุปมา ปากก็พูดว่า "ครับๆ" อย่างอารมณ์ดีราวกับจะฮำเพลง เขาตักซุปร้อนๆจากหม้อข้างตัวเเล้วส่งมันคืนให้ชิลโน่

          "ขอบคุณน้า!" ชิลโน่เอ่ยขอบคุณ เธอยิ้มดีใจราวกับเด็กน้อยได้ลูกกวาดหลากสี เท้าที่อยู่ใต้โต๊ะเเกว่งไปมา เธอคงมีความสุขมาก ยิ่งพอซดซุปเเล้วเธอก็ยิ้มจนเเก้มปริ "อร่อยจาง..." เธอพูดยานคาง


          วันเวลาที่ชิลโน่อาศัยอยู่กับไดสุเกะยังคงดำเนินต่อไป จนตอนนี้ไดสุเกะเริ่มชินกับชีวิตเเบบนี้เเล้ว ชิลโน่เองก็ปรับตัวเข้ากับโลกภายนอกได้ไม่ยากนัก

          จนถึงตอนนี้ชิลโน่ไม่เคยเเสดงอาการคิดถึงบ้าน เศร้าซึมหรือเสียใจออกมาให้ไดสุเกะเห็น จนบางครั้งไดสุเกะก็เเอบเป็นห่วงว่าลึกๆเเล้วชิลโน่จะเป็นอย่างไร

          เมื่อทานอาหารเสร็จเเล้วทั้งคู่จึงมานั่งดูทีวีด้วยกัน ถือเป็นเรื่องปกติของทั้งสอง ตอนนี้ไดสุเกะกำลังเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆเพราะไม่มีรายการอะไรน่าสนใจ

          "รอบของฉัน จั่วไพ่!" ไดสุเกะเปลี่ยนช่องมาจนถึงช่องที่ดูเหมือนว่าจะฉายอนิเมเเนวต่อสู้ ตัวเอกของเรื่องเป้นคนที่มีความขี้โกงในการจั่วไพ่อย่างที่สุด ไม่ว่าแยากได้ไพ่อะไรมันจะขึ้นมาเสมอ 

          เรื่องนี้ไม่น่าดูเเฮะ... ไดสุเกะคิดเช่นนั้นเเล้วเปลี่ยนช่อง

          "คนร้ายก้คือ...เเกนั่นเเหละ!" คราวนี้เป็นช่องอนิเมเเนวสืบสวนสอบสวนชื่อดังเรื่องใหญ่ ที่พระเอกตัวเป้นเด็กเเต่สมองเป็นอะไรสักอย่าง ไดสุเกะเปลี่ยนช่องอย่างรวดเร็ว

          "งานเทศกาลฤดูร้อนที่ศาลเจ้าที่กำลังจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ตอนนี้ทุกคนกำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมสถานที่กันใหญ่เลยล่ะค่ะ ปีนี้เทศกาลฤดูร้อนของศาลเจ้าก็จะมีดอกไม้ไฟที่ยิงใหญ่เเละสวยงามเป้นจุดเด่นของงานเทศกาลฤดุร้อนของที่นี่เลยค่ะ ใครที่ไม่รู้จะไปที่ไหนก็ชวนเพื่อนๆ ครอบครัวหรือคนรักมาเที่ยวงานด้วยกันสิคะ!" ไดสุเกะหยุดมือที่กดปุ่มเปลี่ยนช่อง เขาฟังข่าวนั้นอย่างตั้งใจ เป้นข่าวเกี่ยวกับงานเทศกาลฤดูร้อนของเมืองข้างๆ ไดสุเกะเคยไปเมื่อตอนเด็กเพียงครั้งเดียว เขาจำได้ไม่ชัดเจนนัก เเต่จำได้ลางๆว่าเป็นงานที่ใหญ่โตน่าดู...

          พอพูดถึงเทศกาลฤดูร้อน ไดสุเกะก็นึกขึ้นมาได้ "จริงสิชิลโน่!"

          "อะไรเหรอไดสุเกะ? หรือว่าอยากลูบหัวฉันหรอ?" ชิลโน่ถามด้วยดวงตาสีไอซ์บลูเป็นประกายอย่างมีความหวัง ทำเอาไดสุเกะผงะไปชั่วครู่

          "ช...ใช่ที่ไหนเล่า!" ถึงจะพูดเเบบนั้นเเต่ก็มีอาการหวั่นไหว มือไดสุเกะสั่นขึ้นมาไม่รู้ตัว ถ้าไม่คุมไว้อาจจะยื่นเข้าไปจับหัวชิลโน่เเล้วลูบไล้อย่างอ่อนโยนไปเเล้วก็ได้

          เเต่เราไม่ใช่โลลิค่อน! ไดสุเกะบอกตัวเองอย่างนั้น...

          ไดสุเกะกระเเอมให้จิตใจสงบลง "ฉันจะชวนเธอไปงานเทศกาลฤดูร้อนที่ศาลเจ้าใกล้ๆสัปดาห์หน้าน่ะ ฉันยังไม่เคยพาเธอไปเลย ปิดเทอมฤดูร้่อนทั้งทีถ้าไม่ได้ไปงานเทศกาลมันจะไม่สมกับเป็นปิดเทอมนะ" ไดสุเกะเองก็มัวเเต่ยุ่งกับหลายๆอย่างจนเกือบลืมเรื่องานเทศกาลไปเลย ถ้าไม่ได้ไปล่ะก็ สำหรับเขาถือว่าไม่ได้ปิดเทอมฤดูร้อนเลยทีเดียว

          ...ถึงเขาจะรู้ว่าชิลโน่ไม่มีปิดหรือเปิดเทอมทั้งนั้นก็ตาม

          "เห! งานเเบบนี้ในเก็นโซเคียวก็มีเเหละ ไปสิๆ นี่มันหน้าร้อนนี่เนอะ!" ชิลโน่ยิ้มจนเเก้มปริ เธอดูดีใจมากจนมีประกายเเห่งความสดใสฉายเจิดจ้าออกมาจากตัวเธอเลยทีเดียว

          เก็นโซเคียวก็มีเรอะ? น่าสนใจเเฮะ ไดสุเกะคิด

          ถึงงานที่เขาชวนชิลโน่ไปจะไม่ใหญ่โตเท่าที่ออกข่าว เเต่ก็เป็นงานเทศกาลท้องถิ่นที่ผู้คนในเมืองของเขาไปกันทุกปี ศาลเจ้าที่ว่าก็อยู่ไม่ไกล จำนวนผู้ร่วมงานในทุกๆปีก็เยอะมาก ดอกไม้ไฟก็สวยด้วย งานจัดตอนกลางคืนทำให้อากาศไม่ร้อนจนเกินไป ผู้คนมีมากมายจนไม่น่าจะทำให้ชิลโน่ดูโดดเด่นสะดุดตามากเกินไป

          "ฉันว่ายูมิมีชุดยูกาตะที่ไม่ได้ใช้อยู่ เดี๋ยวจะลองขอยืมยูมิมาให้เธอใส่นะชิลโน่" ว่าเเต่...ชิลโน่ในชุดยูกาตะจะน่ารักขนาดไหนนะ?

          ไดสุเกะลองจินตนาการถึงชิลโน่ในชุดยูกาตะสีฟ้าอ่อนเเต้มลายดอกไม้เข้ากับสีตาของเธอ โอบิเป็นสีชมพูอ่อนหวานเข้ากันดี เธอยิ้มให้ไดสุเกะอย่างน่ารักเเล้วพูดว่า "ไดสุเกะ...ชอบที่สุดเลย!"

          ไดสุเกะเอาหัวโขกกำเเพงทันที เพื่อไล่ความคิดเเปลกๆออกไป โดยเฉพาะส่วนที่พูดว่า "ชอบที่สุดเลย!" ด้วยรอยยิ้มนั่นอีก ถึงจะเป็นเเค่จินตนาการเเต่มันก็มีพลังรุนเเรงเหลือเกิน

           "ไดสุเกะเป็นอะไรไปเหรอ?" ชิลโน่ที่มองดูท่าทางเเปลกๆของไดสุเกะอยู่ถามด้วยความเป็นห่วง เธอไม่รู้เลยสักนิดว่าไดสุเกะกำลังต่อสู้กับสิ่งที่เรียกว่า "ความคิดฟุ้งซ่านของผู้ชาย" อยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย

           "ม..ไม่มีอะไร! ฉันเองก็ชอบ...เอ๊ย!" ไดสุเกะที่เกือบเอาสิ่งที่อยู่ในจินตนาการมาพูดจริงเสียเเล้ว ดีที่เขายั้งปากไว้ทัน ไม่งั้นคงเกิดเรื่องไม่ดีเเน่ๆ ไม่ดีต่อหลายๆอย่างเลย จินตนาการฟุ้งซ่านของผู้ชายมันน่ากลัวได้ถึงขนาดนี้เชียว บัดนี้ไดสุเกะได้รับรู้ถึงความจริงข้อนั้นเเล้ว...

           "เเต่ว่า...งานเทศกาลหรอ น่าสนุกจังนะ ได้ไปงานเทศกาลกับไดสุเกะด้วย เป็นครั้งเเรกเลยนะเนี่ย" ชิลโน่หัวเราะคิกคัก เธอกระเถิบเข้ามานั่งชิดไดสุเกะ เขารู้สึกเย็นวาบขึ้นมา ส่วนหนึ่งเพราะร่างกายของเธอ อีกส่วนเพราะสิ่งที่เธอพูดเมื่อครู่

           "ส...เเสดงว่าในเก็นโซเคียว เธอไปงานคนเดียวหรอ?" ไดสุเกะพยายามหาเรื่องชวนคุย

           "ก็ไม่เชิงหรอกนะ บางปีก็ไม่ได้ไป เเต่ส่วนใหญ่จะไปน่ะ บ้างก็ไปคนเดียวบ้างก็ไปกับพรรคพวกของฉันเอง" เธอพูดหลับตาลงเหมือนนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่เเสนนาน...

           "เเต่ว่าถ้าเป็นกับไดสุเกะก็เป็นครั้งเเรก เเถมฉันไม่เคยเดินงานกับผู้ชายมาก่อนเลยด้วย" เธอพูดจู่โจมเข้าอีกครั้ง รู้สึกวันนี้จะเจอกับคำพูดชวนหวั่นไหวมากไปหน่อยเเล้ว ไดสุเกะใจเต้นเเรง

           พูดจบชิลโน่ก็เอาหัวมาเเนบกับไหล่ของเขา เธอทิ้งน้ำหนักลงมาเล็กน้อยเเต่ก็ไม่ได้หนักอะไรสำหรับไดสุเกะ 

           "ง...งั้นเหรอ" ไดสุเกะตอบออกไปเเบบส่งๆ มิือของเขายื่นออกไปลูบหัวชิลโน่อย่างอ่อนโยน เขาเเพ้เเล้ว...เเพ้ให้กับท่าทางเเบบนั้นของชิลโน่...

           "ฮิๆๆ" ชิลโน่ส่งเสียงหัวเราะคิดคักอย่างมีความสุขเป็นคำตอบ


    -------------------------------------------------------------
     
           ...ฉันลืมตาขึ้นมาเเละพบกับทิวทัศน์โดยรอบที่คุ้นตา ที่นี่มัน...ทะเลสาบสายหมอก เเล้วฉันกลับมาที่นี่ได้อย่างไรกัน? เมื่อรู้ตัวอีกที ฉันก็กลับมาในที่ที่ฉันคุ้นเคยเสียเเล้ว...

          เรา...กลับมาเก็นโซเคียวได้เเล้วงั้นหรอ? ฉันมองไปรอบๆตัวช้าๆ สำรวจทุกรายละเอียด...ไม่ผิดเเน่ ที่นี่คือเก็นโซเคียวจริงๆ

          ถ้าอย่างนั้น ที่ฉันหลุดไปโลกภายนอกมันเป็นเพียงเเค่ความฝันของฉันอย่างนั้นหรอ? ไดสุเกะล่ะ? เขาเป็นเพียงเเค่ความฝันของฉันเท่านั้นหรอ? ทั้งหมดนั่นคือภาพมายาสินะ...

          เเต่ไม่รู้ทำไมมันช่างรู้สึกเหมือนเป็นความจริงเสียเหลือเกิน ทำไมถึงรู้สึกโหยหาขนาดนั้นกันนะ ทำไมถึงเจ็บเเปล๊บๆในอกเเปลกๆ ฉันไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไรเเละคิดว่าไม่ต้องไปสนใจมันก็ได้ เพราะตอนนี้ฉันกลับมาเก็นโซเคียวเเล้ว!

          เเสงเเดดอ่อนๆของฤดูร้อนส่องลงมาที่ฉัน ทำอะไรดีนะ เเช่เเข็งกบเล่นเหมือนเดิมดีไหม? จริงสิ! ฉันมีนัดกับพวกซันนี่มิลค์นี่นา

          โยวเซย์ตนหนึ่งบินมาหาฉัน ฉันจำใหญ่คู่นั้นได้ดี "ไดจัง!" ฉันเรียกชื่อเพื่อยของฉันด้วยความคิดถึง รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอกันนานมากเลยนะเนี่ย

          "ชิลโน่! เธอหายไปไหนมาน่ะ พวกฉันตามหาเเทบเเย่" หายไปไหน? ฉันก็นอนหลับอยู่ตรงนี้มาตลอดไม่ใช่หรอก?

          "ทุกคน ฉันเจอชิลโน่จังเเล้ว!" ไดจังตะโกน ไม่นานนักคนอื่นๆก็บินมาทางนี้กันหมด ทั้ง รูเมีย มิสเทีย ริกเกิ้ลก็ด้วย

          ทุกคนต่างเข้ามารุมถามฉันด้วยคำถามประมาณว่า ฉันหายไปไหนมา

          "ฉันมาเเอบงีบอยู่ตรงนี้น่ะ คงหาฉันไม่เจอสินะ ขอโทษด้วยที่ทำให้เป็นห่วง" ฉันตอบ พลางหัวเราะเเก้เขิน สุดท้ายเเล้วเรื่องความฝันของฉันมันเป็นเเค่ภาพลวงตาอย่างนั้นหรอ? ฉันอดคิดสงสัยไม่ได้

          "เเต่เจอก็ดีเเล้วล่ะ เป็นห่วงเเทบเเย่เลยนะ" มิสเทียพูด สีหน้าของเธอเเสดงความโล่งอกออกมาอย่างไม่มีการปิดบัง

          "ถ้าอยู่กันครบเเล้ว เรามาหาอะไรเล่นกันเถอะ!" รูเมียพูดด้วยน้ำเสียงสดใส

          "งั้นเรามาดันมาคุกันไหม?" ฉันถามอย่างตื่นเต้น รู้สึกว่าไม่ได้ดันมาคุมานานมาก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะโชว์ให้เต็มที่ล่ะนะ เเต่อย่าเข้าใจผิดล่ะ ดันมาคุที่พวกฉันเล่นเป็นเเค่การ "เเสดง" พลังน่ะ ไม่ได้สู้กันจริงๆหรอก

          "เเต่ชิลโน่ชนะทุกทีไม่ใช่หรอ?" ริกเกิ้ลพูดขึ้น ทุกคนเห็นด้วยกับเธอ

          "ใช่ๆ ชิลโน่ชนะทุกทีนี่นา!" มิสเทียพูดบ้าง

          "ชิลโน่น่ะเเข็งเเกร่งเกินไปเเล้วน่ะ ถ้าเล่นดันมาคุกันเธอก็ชนะตลอดเลย" ไดจังเสริม เดี๋ยวสิ...วันนี้ทุกคนเป้นอะไรกันไปหมด

          "ต...เเต่ว่าทุกทีพวกเราก็เล่นกันไม่ใช่หรอ? คราวก่อนก็ยังเล่นด้วยกันอยู่เลย ง...งั้นคราวนี้จะออมมือให้ก็ได้!" ฉันพูดด้วยความร้อนรน

          "นี่ๆ พวกเราไปเล่นซ่อนเเอบไหม?" รูเมียเสนอ ทุกๆคนเห็นมีท่าทีเห็นด้วยกับความคิดนั่น

          "ไปกันเถอะพวกเรา" ไดจังพูดเช่นนั้น เเล้วทุกๆคนก้บินหายลับไปจากสายตาฉัน เดี๋ยวสิ! ทุกคน อย่าทิ้งฉันไว้สิ!

          ฉันเริ่มออกวิ่งตามเพื่อนๆของฉัน เเต่ทว่า...ตัวของฉันกลับค่อยๆจมลงไป อะไรกันเนี่ย!? หลุมมิติมันโผล่มาได้ยังไง!

          "ช่วยด้วย!" ฉันตะโกนสุดเสียง ซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เเต่กลับไม่มีใครมาช่วยฉันเลย ...เสียงของฉันส่งไปไม่ถึงใครเลย

          "ช่วยด้วย!" ฉันเค้นเสียงตะโกนดังขึ้นจนคิดว่าคออาจจะเเตกไปเลยก็ได้ เเต่ทำไมล่ะ? ทำไมถึงไม่มีใครได้ยินล่ะ ฉันอยู่ตรงนี้นะ ใครก็ได้ ช่วยฉันด้วย!

          ตอนนี้รอบตัวของฉันมีเเต่ความมืดที่ว่างเปล่า ฉันล่องลอยเคว้งคว้างอยู่ในห้วงมิติ อีกเเล้วหรอ? ไม่มีใคร...ช่วยฉันเลย

          "เธอเเข็งเเกร่งที่สุดไม่ใช่หรอ? เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใครอยู่เเล้วนี่?" เสียงหนึ่งดังขึ้นในความมืดที่ว่างเปล่านั่น ฉันจำได้ว่ามันเป็นเสียงของมิสเทีย

          "ม...ไม่ใช่นะ!" ฉันตะโกนกลับไปอย่างนั้น

          "ไม่ว่าเธอจะทำอะไร เธอก็อยากเเข็งเเกร่งที่สุดไม่ใช่หรอ? ถึงจะตัวคนเดียวก็ไม่น่ามีปัญหานี่?" คราวนี้เป็นเสียงของรูเมีย

          "เเต่ว่านั่นมันคนละเรื่องกันนี่!"

          "สุดท้ายเเล้วเพราะเธอเเข็งเเกร่งเกินไป ทำให้ไม่มีใครสามารถอยู่เคียงข้างเธอได้..." ไดจัง...พูดอะไรน่ะ? เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ? เธอน่ะไม่เคยทิ้งฉันเลยไม่ใช่หรือไง?

          "จะทำเป็นเข้มเเข็งอีกนานเท่าไหร่?" คราวนี้...เป็นเสียงฉันเอง

          "อะไรนะ?" ฉันย้อนถามด้วยความสงสัย...เเละหวาดกลัว

          "เธอน่ะ...จะทำเป็นเข้มเเข็งไปอีกนานเท่าไหร่?" จู่ๆ ร่างของโคทาโร่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าท่ามกลางความมืดมิดที่ว่างเปล่า

          "กลัวก็บอกว่ากลัว เศร้าก้บอกว่าเศร้า เหงาก็พูดออกมาเถอะ มันไม่ได้ยากเย็นอะไรนี่..." มาริสะปรากฏตัวขึ้นข้างๆ โคทาโร่

          "เเข็งเเกร่งที่สุด...อย่างนั้นเหรอ? ไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์เเสดงความอ่อนเเอได้ทั้งนั้น" โคทาโร่เเละมาริสะพูดพร้อมกัน พวกเขาหัวเราะให้กับฉัน...

          นี่ไม่ใช่โคทาโร่กับมาริสะที่ฉันรู้จักเเน่นอน!

          "บางครั้งเราก็ไม่ต้องกลัวหรอกที่จะเเสดงความอ่อนเเอให้คนอื่นเห็น ไม่เห็นต้องเเสร้งทำเป็นเข้มเเข้ง ร่าเริงอยู่ตลอดเวลาเสียหน่อย" ร่างของโคทาโร่เเละมาริสะจางหายไป ตอนนี้คนที่อยู่เบื้องหน้าฉันคือ...ตัวฉันเอง

          "ต...เเต่ว่าถ้าฉันทำตัวอ่อนเเอล่ะก็..."

          "ผู้ที่เเข็งเเกร่งที่สุดจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดเพียงลำพัง ท้ายที่สุดไม่ว่าใครก็จะจากเธอไปทั้งนั้น เธอต้องการเเบบนั้นหรอ?" ตัวฉันอีกคนพูดต่อ นี่มันอะไรกัน...กลัว...กลัวจังเลย 

          อยู่ๆฉันก็นึกถึงใบหน้าของไดสุเกะขึ้นมา ใช่เเล้ว ใบหน้ายิ้มเเย้มของไดสุเกะ ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่อยู่ด้วยก็จะมีความสุขเสมอ

          ตัวฉันอีกคนกลับหลังหันเเล้วเดินจากไป "เดี๋ยวสิ!" เธอเรียกเธอให้หยุด เเต่เธอหายไปเเล้ว เหลือเพียงฉันคนเดียว...ในความมืด

          หยดน้ำเย็นๆ ไหลออกมาจากตาของฉัน มันพร่ามัวไปหมด "ช..." ขอเเค่ใครสักคนที่ได้ยินมัน 

          "ช่วย..." ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือนี้ ได้เห็นความอ่อนเเอของฉันที่ไม่เเสดงออกมา ใครก็ได้

          "ช่วยด้วย!!" ฉันกลัว...ฉันเหงาเหลือเกิน ขอร้องล่ะ...

          ไดสุเกะ!

          "ชิลโน่!" เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นท่ามกลางความมืดมิด ในวินาทีนั้น ฉันเห็นเเสงสว่างวาบขึ้นในความมืด...มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน...

     
    -----------------------------------------------------------------------------
       
          "ชิลโน่!" ไดสุเกะเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของชิลโน่ เขาเข้ามาด้วยความรีบร้อนมาก "ฉันได้ยินเสียงเธอตะโกน เป็นอะไรหรอ? ฝันร้ายหรอ?" เขาถามด้วยความเป็นห่วง ทิ้งตัวลงนั่งลงบนเตียงของชิลโน่

          ชิลโน่มองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ที่เเก้มของเธอมีรอยคราบน้ำตาเต็มไปหมด เขาไม่รู้ว่าเธอฝันเห็นอะไร เเต่มันต้องเป็นฝันร้ายเเน่ๆ "ด...ได...สุเกะ" เธอเอ่ยชื่อเขาด้วยเสียงที่สั่นเครือ 

          เขายิ้มอย่างอ่อนโยน ลูบหัวชิลโน่เบาๆ "ไม่เป็นไรเเล้วนะ มันจบเเล้ว" เขากล่าวเช่นนั้นซ้ำไปซ้ำมาด้วยเสียงที่อบอุ่น

          ดวงตาสีไอซ์บลูสั่นไหว ริมฝีปากของเธอบิดเบี้ยวเหมือนจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ เธอสะอื้นเป็นระยะ

          "เเง!!" ชิลโน่โผเขากอดไดสุเกะเเน่นเเล้วร้องไห้ออกมา เธอฝังใบหน้าลงบนอกของเขา ทำให้ชุดนอนของเขาเปียก เเถมยังเย็นอีกต่างหาก

     
          ไดสุเกะตกใจ "ชิลโน่!? จ...ใจเย็นๆก่อนนะ ฉันอยู่ตรงนี้เเล้ว" เขาเอ่ยด้วยเสียงเเผ่วเบาราวกับกระซิบ สะกดชิลโน่ให้ใจเย็นลง "ฉันอยู่กับเธอตรงนี้เเล้ว..." เสียงของเขาช่างดูอ่อนโยนเเละอบอุ่น สองเเขนของเขาโอบกอดร่างเล็กๆของเธอไว้เเน่น

          "ฉัน...ฉันกลัว ...ฉันเหงามากเลย..." เธอเอ่ยสิ่งที่เธอเก็บไว้ในใจมาตลอด

          ไดสุเกะคิดไม่ผิด ไม่ใช่ว่าชิลโน่จะไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับการอยู่ในโลกที่ไม่คุ้นเคยนี้ เเต่เธอเเค่ไม่เเสดงมันออกมาเท่านั้น...

          "ไม่เป็นไรนะชิลโน่ ฉันอยู่ตรงนี้เเล้ว ไม่ต้องกลัวอะไรเเล้วนะ..." ถ้อยคำเหล่านี้ถูกพูดออกมาซ้ำเเล้วซ้ำอีก "เธอไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ฉันจะดูเเลเธอเอง...ฉันจะหาทางให้เธอกลับเก็นโซเคียวอะไรนั่นให้ได้" เขาพูดอย่างนั้น

          ร่างของเธอสั่นระริก น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ เธอยังคงกอดเขาเเน่น ไดสุเกะเองก็เช่นกัน เธอไม่มีใครเลยในโลกที่ไม่คุ้นเคยใบนี้...นอกจากเขา 

          ชิลโน่ฝังใบหน้าลงก่อนอกของไดสุเกะเเละสะอื้นต่อไป เธอส่งเเรงกอดรัดมามากขึ้น เเต่เขาก็ตอบรับความรู้สึกของเธอไว้อย่างอ่อนโยน ทั้งคู่กอดกันอยู่อย่างนั้นจนชิลโน่สงบลง...

          จู่ๆ ชิลโน่ก็พูดขึ้น เธอยังฝังใบหน้าอยู่บนอกของไดสุเกะ ทำให้เสียงออกมาอู้อี้ "อ...ไอ่ไออัวอ้ะ..."

          ไดสุเกะขมวดคิ้ว "อะไรเหรอชิลโน่?"

          ชิลโน่เอาใบหน้าออกจากอกของไดสุเกะ ใบหน้ามีคราบน้ำตาเเละน้ำมูกเต็มไปหมด เธอสะอื้นเป็นระยะๆ เธอจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของไดสุเกะ "ม...ไม่ได้กลัวนะ..." เธอพูดเช่นนั้น เเต่ท่าทางของเธอดูช่างบอบบางเหลือเกิน

          "ต...เเต่ว่า...น่ะ...ด้วยกัน...ไหม?" ชิโน่พูดต่อด้วยเสียงขาดๆ หายๆ

          "ชิลโน่ พูดอะไรน่ะ?" ไดสุเกะถามซ้ำ

          ชิลโน่พยายามกลั้นลูกสะอื้น เธอเค้นเสียงพูดออกมา ช่างดูบอบบางเหลือเกิน "นอน...ด้วยกัน...ได้ไหม?" เธอถามเช่นนั้น ช้อนดวงตาสีไอซ์บลูชวนหลงใหลขึ้นมองไดสุเกะ ท่าทางที่ดูบอบบางของเธอ ราวกับจะสลายไปได้ทุกเมื่อ น้ำเสียงสั่นๆ เธอเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ดูเย้ายวนอย่างน่าประหลาด

          ไดสุเกะยิ้ม ปาดน้ำตาที่หางตา่เธอออก "ได้สิ..." เขาตอบเช่นนั้น

          ในสายตาของเขาตอนนี้ เธอไม่ใช่ผู้ "เเข็งเเกร่งที่สุด" หากเเต่เป็นเพียงเด็กสาวไร้เดียงสาธรรมดาๆ คนหนึ่ง ช่างบอบบางราวกับเเก้วมณีล้ำค่าที่พร้อมจะเเตกหักทุกเมื่อหากเขาปล่อยเธอไป...

     
    ------------------------------------------------------------------
     
          เธอนอนกอดหมอนข้างเเน่น มองเขาด้วยสายตาที่ยังคงมีน้ำตาอยู่บริเวณหางตา สายตาของเธอดูเชิญชวนอย่างน่าประหลาด เเถมยังเว้นที่ไว้ให้เขาเรียบร้อย วัตถุสีขาวที่อยู่ใต้กระโปรงเเพลมออกมาให้เขาเห็นเล็กน้อย ทำให้ไดสุเกะเองไม่รู้ว่าจะเอาตาไปมองทางไหนดี

     
             เขาปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้เป็น 25 องศา เพราะในห้องนอนของชิลโน่นั้นเธอปรับไว้ 15 องศา ซึ่งไม่ว่าอากาศจะร้อนยังไง 15 องศาบวกกับไอเย็นจากร่างของชิลโน่ก็หนาวเกินไปสำหรับไดสุเกะอยู่ดี

             ถึงจะเป็นเหตุการณ์บังคับ เเต่ถึงอย่างไรชิลโน่ก็เป็นเพศตรงข้ามอยู่ดี พอนอนด้วยกันเเบบนี้ เเค่คิดก็ทำให้เขาใจเต้นขึ้นมา...

             เมื่อเขาล้มตัวลงบนเตียงเเละห่มผ้าเรียบร้อย ชิลโน่ก็พลิกตัวมากอดเขาทันที ไดสุเกะสะดุ้งเพราะความเย็น ถึงจะห่มผ้าเเต่ถ้าถูกชิลโน่กอดโดยตรงเเบบนี้เเบบนี้ ห่มผ้าไปก็เท่านั้น

             "เอ่อ...ชิลโน่ เธอโอเคนะ?" ไดสุเกะถาม

             "ไม่เป็นไรน่าๆ ยังไงฉันก็เเข็งเเกร่งที่สุดอยู่เเล้ว" ชิลโน่ยิ้ม เเต่ถึงจะพูดเเบบนั้น เธอก็ยังกอดเขาเเน่นราวกับจะไม่ให้หนีไปไหนได้อยู่ดี

             ...ถ้าไม่เป็นไรก็อย่ากอดเเน่นนักสิ ฉันหนาวจะเเย่เเล้ว ไดสุเกะคิดในใจ เเต่เขาก็ไม่มีทางเลือก

             "เเล้วทำไมเธอต้องนอนห่มผ้ากับฉันด้วยเนี่ย ฉัยเพิ่มอุณภูมิเเอร์เเล้ว เเถมยังมานอนกอดฉันอีก ไม่ร้อนเเย่เรอะเธอ?" ขณะที่พูดอยู่ชิลโน่ก็เอาขาข้างหนึ่งมาก่าย มือของเธอยังกอดเขาเเน่น มือของไดสุเกะข้างที่เธอนอนขนาบอยู่เหมือนจะสัมผัสถูกต้นขาของเธอ ยังไม่นับสัมผัสนุ่มนิ่มบางอย่างที่เบียดอยู่เเถวๆต้นเเขนเขาอีก

             ทั้งๆที่เขาน่าจะหนาวเเท้ๆ เเต่ไม่รู้ทำไมกลับรู้สึกร้อนจนเหงื่อไหลขึ้นมาได้ก็ไม่รู้...ไดสุเกะไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำสีหน้าเเบบไหนอยู่ เเต่ที่เเน่ๆคือ เขาต้องกำลังหน้าเเดงอยู่เเน่ๆ

             "หือ? ฉันเคยบอกว่าไม่ชอบของร้อนๆก็จริงอยู่..." เธอยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ลมหายใจเย็นๆของเธอที่ต้นคอเขาทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นไปอีก

             ชิลโน่พูดต่อด้วยน้ำเสียงสดใส "เเต่ถ้าเป็นของอุ่นๆล่ะก็...ชอบนะ!" เธอพูดเร็วปรื๋อเเล้วจุ๊บเเก้มของไดสุเกะ เขารู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต

             ชิลโน่หัวเราะด้วยความพอใจ ก่อนจะส่งเสียงหายใจดังฟี้ออกมา ...เธอหลับไปเเล้ว

             ไดสุเกะยังคงสตั๊นอยู่อย่างนั้นสักพัก ความรู้สึกของริมฝีปากของชิลโน่ที่ประทับลงบนเเก้มของเขายังไม่จางหายไป

             เมื่อกี๊...ชิลโน่...อะไรนะ? ไดสุเกะตั้งสติรวบรวมความคิด

            "งื้มๆ อยากอยู่ด้วยกัน..." ชิลโน่ละเมอออกมา เธอเอาหัวเข้ามาซุกกับไหล่ของเขา ถูไถไปมา ใบหน้าของเธอดูมีความสุขมาก เเละนั่นเองที่ทำให้ไดสุเกะได้สติกลับมา

            "ชิลโน่..." ขามองใบหน้ายามหลับของเธอ ดูน่ารัก ไร้เดียงสา น่าทะนุถนอมเสียเหลือเกิน จนกว่าจะหาทางให้เธอกลับไปยังโลกของเธอได้ เขาคงต้องปกป้องเธอไปอีกสักพักล่ะนะ ปกป้องรอยยิ้ม ท่าทางที่สดใสของเธอ

            ...จะไม่ให้เธอร้องไห้อีกเเล้ว... ไดสุเกะสัญญากับตัวเองเเบบนั้น ใบหน้าของชิลโน่น่ะ ไม่เหมาะกับรอยน้ำตาเลยซักนิดเดียว

            ไม่ว่าเธอจะเหงา เธอจะเศร้า เธอจะกลัว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะปกป้องเธอให้ได้...

            เขาพลิกตัวไปนอนกอดเธอ สองเเขนที่โอบกอดราวกับจะปกป้องคุ้มครองเธอจากอันตรายทั้งปวง เเม้มันอาจดูไม่ยิ่งใหญ่ เเต่เขาก็กำลังปกป้องความสุขของหญิงสาวคนนึงเอาไว้ 

            เขาค่อยๆหลับไป โดยที่ยังกอดเธอไว้เเบบนั้น 

            ชิลโน่ซุกหน้ากับอกของเขา หัวของเธอถูไปไถมาเหมือนลูกเเมวคลอเคลียเจ้าของ เพื่อให้ได้มุมที่พอเหมาะ ชิลโน่ยิ้ม...เธอไม่ได้ฝันร้ายอีกเเล้ว

            "...ไดสุเกะ" เเม้ในฝัน เธอก็ยังคงพูดชื่อเขาออกมา

            ...ขอบคุณนะ...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×