ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    touhou fanfic: ชุลมุนวุ่นวาย ยัยภูติน้ำเเข็งจอมป่วน

    ลำดับตอนที่ #2 : I'm the strongest!

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.พ. 59


           "ตกลงเเล้วเธอเป็นภูติที่มาจากเก็นโซเคียว?" ไดสุเกะถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถ้านี่เป็นการเล่นตลกเเบบพิเรนๆอาทิเเอบซ่อนกล้องไว้เเล้วเเอบถ่าย(candid) ก็น่าจะพอได้เเล้ว ถึงเเม้เธอจะเเสดงพลังให้เขาเห็นเเล้วก็เถอะ เเต่มันก็ยากที่จะยอมรับ มันเป็นอะไรที่หลุดจากสามัญสำนึกมาก...

           เขานั่งตรงข้ามกับเด็กสาวดวงตาสีไอซ์บลูชวนหลงใหล ผู้มีปีกเเปลกๆด้านหลัง เธอดูจะอารมณ์ดีตรงข้ามกับเขาโดยสิ้นเชิง ระหว่างทั้งสองมีเพียงโต๊ะทานข้าวเท่านั้นที่กั้นไว้

           ทั้งๆที่เป็นหน้าร้อนเเท้ๆ เเต่อากาศในบ้านของเขากลับเย็นสบายผิดปกติซึ่งเด็กสาวบอกว่าเธอเป็นคนปล่อยไอเย็นออกมาทำให้อากาศในบ้านเย็นลง ซึ่งจะจริงหรือไม่มันก็ดีกับเขาที่ภายในบ้านอากาศเย็นสบาย ถ้าอากาศร้อนเเบบข้างนอกบ้านล่ะก็ เขาคงคุมสติไม่อยู่ไปเเล้ว

           "ต้องให้พูดย้ำซักกี่รอบกัน? เเล้วฉันน่ะ ก็มีชื่อนะ ชิลโน่ไงล่ะ จำชื่อฉันไว้ให้ดีล่ะ ให้ตายสินายเนี่ยน้า ไม่หัดจำชื่อคนอื่นบ้างเลย" เด็กสาวตอบ เธอกัดไอศกรีมที่ทำเป็นรูปเเตงโม(เเละเเน่นอน รสชาติก็คือรสเเตงโมด้วย)ที่เขาให้อย่างอเร็ดอร่อย ดวงตาสีไอซ์บลูจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา ราวกับจะดูดกลืนเข้าไป



            "ฉันเองก็ไม่ได้อยากจะจำชื่อคนเพี้ยนๆอย่างเธอเท่าไหร่หรอกนะ..." ไดสุเกะกัดฟันยิ้ม ไม่ได้ๆ ต้องใจเย็นๆ

            "ฉันบอกว่าฉันเป็นภูติ(โยวเซย์)ไงเล่า!" เธอเถียงกลับมา

            ไดสุเกะทำได้เพียงถอนหายใจ เขานึกย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้...


    -----------------------------------------------------
          
             ดวงตาไอซ์บลูค่อยๆเปิดขึ้นทีละน้อย "ที่นี่ที่ไหน?" เธอพึมพำ จ้องมองมาทางเขา "เเล้วนายเป็นใคร?" เธอถามต่อ ตบท้ายด้วยการหาว...

             "ฉันน่าจะเป็นฝ่ายถามเธอมากกว่านะ เธอเป็นใคร? เเล้วเข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง? เเล้วทำไมในบ้านฉันมันถึงเย็นขนาดนี้เนี่ย?" เขาขมวดคิ้ว มีเเต่เรื่องประหลาดเต็มไปหมด น่าสงสัยจริงๆ

             "ฉันเหรอ? ฉันก็ชิลโน่ไงล่ะ เป็นภูติไง! ถามอะไรเเปลกจริงนะนายเนี่ย ส่วนความเย็นนี่ฉันก็เป็นคนปล่อยออกมาเองเเหละ" เธอตอบเหมือนเป็นเรื่องที่รู้ๆกันอยู่เเล้ว เธอเดินออกมาจากตู้เย็น

             เมื่อยืนหันหน้าเข้าหากันเเล้ว ทำให้เขารู้ว่าเธอตัวเล็กพอสมควรเลยทีเดียว เขาที่สูงเกือบ 170 ซม. ต้องก้มมองเธอที่สูงเเค่ประมาณอก ดูๆเเล้วเธอน่าจะสูงสัก 140 ซม.หรือน้อยกว่านั้น

            "..." เขานิ่งเงียบ จ้องมองเด็กสาวตรงหน้าราวกับเห็นมนุษย์ต่างดาวก็ไม่ปาน เขาหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง

            "นายจะทำอะไรน่ะ?" เด็กสาวถามด้วยความสงสัย

            เขากดหน้าจอระบบสัมผัสของโทรศัพท์สมาทต์โฟนของเขาอย่างคล่องเเคล่ว ยกขึ้นเเนบหู ไม่นานนักเขาก็พูดกับปลายสาย "อ่า...นี่โรงพยาบาลบ้าหรือเปล่าครับ? คือว่าผม..."

            ยังไม่ทันพูดจบ เด็กสาวที่เรียกตัวเองว่าชิลโน่ก็พูดเเทรกขึ้นมาก่อน "นายจะทำอะไรน่ะ หยุดนะ! เเล้วไอ้ของที่นายถือนั่นมันอะไรเนี่ย เก็นโซเคียวไม่มีของเเบบนั้นซักหน่อย" 

            เขาเก็บโทรศัพท์ลงไป ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้พูดกับใครมาตั้งเเต่เเรกเเล้ว "เก็นโซเคียว...มีคำศัพท์เเปลกๆโผล่มาอีกเเล้วเเฮะ" เขาพึมพำอย่างเอือมระอา

            "ฟังนะยัยเปี๊ยก ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง เก็นโซเคียวคืออะไร เเต่นี่มันบ้านของฉัน นี่มันญี่ปุ่นเฟ้ย!" เขาใส่อารมณ์ของไปในคำพูดเต็มที่

            เเต่เหมือนกับเด็กสาวดูจะเอะใจกับอย่างอื่นมากกว่า "นายบอกว่าที่นี่ไม่ใช่เก็นโซเคียว...งั้นหรอ?" เธอดูตกใจอย่างเห็นได้ชัด "ก็เเสดงว่าฉันหลุดมาโลกภายนอกงั้นหรอ!?" 

            ถึงจะงงๆกับสิ่งที่เธอพูด เเต่เขาก็ไม่อยากให้เรื่องยืดยาวไปกว่านี้ "เข้าใจเเล้วใช่ไหม ถ้างั้นก็กลับไปเก็นโซเคียวอะไรนั่นของเธอได้เเล้ว"

            "...ไม่ได้หรอก" เธอตอบกลับมาเช่นนั้น "กลับไม่ได้หรอก ฉันไม่รู้ว่าตัวเองหลุดมานี่ได้ยังไง เพราะฉะนั้นฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่าจะกลับยังไง ฉันไม่ใช่โยวไคผู้ควบคุมเขตเเดนนะ" ยิ่งเธอพูดเขาก็ยิ่งสับสนเเละงงมากขึ้น เเต่ก็พอจะสรุปได้ว่าเธอไม่มีที่ให้กลับไป ใบหน้าซึมเศร้าของเธอทำให้เขารู้สึกเเย่อย่างบอกไม่ถูก

           เเล้วเขาก็นึกถึงวิธีพิสูจน์สิ่งที่เด็กสาวผู้อ้างตัวว่าเป็นภูติพูดขึ้นมาได้ ถึงอาจจะพิสูจน์ถึงเรื่องเก็นโซเคียวไม่ได้ เเต่ถ้าให้พิสูจน์ว่าตัวเองเป็นภูติจริงๆก็คงจะไม่มีปัญหา

           "น...นี่ เมื่อกี๊เธอบอกว่าเธอเป็นภูติใช่ไหม? งั้นก็พิสูจน์สิ" เขาพูดออกไป

           เหมือนมีเครื่องหมายคำถามตัวโตเขียนอยู่บนใบหน้าของเด็กสาว "พิสูจน์?" เธอทวนคำ

           "อืม! พิสูจน์สิ ถ้าเธอเป็นภูติเเละเป็นคนปล่อยไอเย็นนี่ออกมาก็น่าจะมีพลังไม่ใช่หรอ? เเสดงให้ฉันเห็นสิ เเล้วฉันจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูดก็ได้" 

           เครื่องหมายคำถามกลายเป็นรอยยิ้มอย่างมั่นใจสุดๆ "ได้เลย! เพราะฉันน่ะ เเข็งเเกร่งสุดๆอยู่เเล้ว"

           "ดูให้ดีนะ" เธอพูดเช่นนั้นเเล้วออกมือทั้งสองไปตั้งไว้บริเวณอก เเค่ชั่วอึดใจน้ำเเข็งรูปหัวใจก็ปรากฏให้เห็น




            "เฮ้ย!" เขาเผลอตะโกนออกมาด้วยความตกใจ เธอคือภูติจริงๆหรือเนี่ย...

            "พลังของฉันคือควบคุมความเย็น สามารถทำให้สิ่งของกลายเป็นน้ำเเข็งหรือเเช่เเข็งได้ในพริบตาเชียวนะ!" เธอพูดอธิบายปนอวดเบ่งนิดๆ "อัจฉริยะใช่ไหมล่ะ?" 

            "อ...อืม..." เขาเองยังคงตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จู่ๆก็มีคนที่อ้างตัวว่าเป็นภูติที่หลุดมาจากดินเเดนที่เขาไม่รู้จัก เเล้วมาเเสดงพลังให้เห็นกันเเบบนี้จะไม่อึ้งก็คงไม่ได้

            เธอยื่นหัวใจน้ำเเข็งมาให้เขา "ให้นาย!" เธอยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ไร้เดียวสาเหมือนเด็กๆ เเต่มันก็ทำให้เขารู้สึกดีกว่าที่ต้องเห็นเธอทำหน้าเศร้า

            "ข...ขอบใจ" เขารับมันมา เดินไปเปิดช่องเเช่เเข็ง ใส่มันเข้าไปเเล้วหยิบซองไอศกรีมออกมาหนึ่งซอง 

            "กินไหม? ไปนั่งกินไปคุยไปที่โต๊ะเถอะ" เขาชวน เขาเริ่มรู้สึกสนใจในตัวเธอจนอยากฟังเรื่องราวความเป็นมาของเธอขึ้นมา

            "ไอศกรีมหรอ? เอาสิๆ!" เธอดูดี๊ด๊าขึ้นมาทันที

     
    ----------------------------------------------------------------- 

             "จะว่าไป..." ภูติสาวที่ทานไอศกรีมที่ได้รับมาจนหมดเเล้วพูดขึ้น "ฉันยังไม่รู้ชื่อนายเลย"

             จริงด้วยเเฮะ...มัวเเต่ตกใจจนลืมเเนะนำตัวไปเลย...ไดสุเกะเพิ่งนึกขึ้นได้ "ฉันชื่อ โมริ ไดสุเกะ นะ ส่วนเธอก็ชิลโน่สินะ ฉันเรียกชื่อเธอถูกไหม?"

            "อืม!" เธอพยักหน้ารับ

            "เธอไม่รู้วิธีกลับเก็นโซเคียวอะไรนั่นด้วยใช่ไหม?"

            "อืม!" เธอยังคงพยักหน้ารับ...นี่ไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเลยใช่ไหมเนี่ย?

            "เเล้วหลังจากนี้จะเอาไงต่อล่ะ?" เขารู้สึกเป็นห่วงเธอขึ้นมา ถ้าปล่อยออกไปข้างนอกก็คงไม่มีที่ไปเเน่ เเถมดูจากภายนอกเธอก็คือเด็กสาวน่ารักธรรมดาๆคนนึง เธอเกิดไปเจอคนไม่ดีเข้าคงไม่ดีเเน่ๆ

            "ก็คงจะหาทางกลับเก็นโซเคียวล่ะมั้ง?" เธอตอบอย่างไร้เดียงสา

            "อืม...เธอเองก็ไม่รู้วิธีกลับ ฉะนั้นต้องอยู่เเบบนี้อีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกนะ" เขามองภูติสาวตรงหน้า เว้นจังหวะ "งั้นจนกว่าจะกลับเก็นโซเคียวได้ เธออยู่ที่นี่ก่อนก็ได้นะ"

            เธอลุกพรวดขึ้น "จริงเหรอ!?" เธอดูดีใจมาก

            "อืม" อย่างน้อยห้องเเม่ก็ไม่มีคนใช้ล่ะนะ ตอนนี้ให้ชิลโน่นอนที่นั่นก่อนก็ได้ เเม่กลับมาค่อยว่ากันอีกที เขาคิดเช่นนั้น สายตาจ้องมองท่าทางดีใจของภูติสาว มันช่างดูน่าทนุถนอมเสียจริง

            "ขอบคุณมากนะ" ชิลโน่กล่าวขอบคุณ ปีกสีฟ้าใสด้านของเธอขยับขึ้นลงเล็กน้อย เมื่อถูกจ้องตาเข้าตรงๆเขาก็เหมือนกับถูกดวงตาสีไอซ์บลูคู่นั้นสะกดให้หลงใหลราวกับต้องมนต์ 

            เขาเรียกสติกลับมา "ม...ไม่เป็นไรหรอกน่า เธอเองก็ดูจะไม่รู้เรื่องโลกนี้ดีถ้าออกไปข้างนอกคงไม่รอดเเน่" เเต่คิดๆดูเเล้ว การที่มีโลกอีกโลกที่อยู่กับคนละมิติเนี่ยดูไกลตัวจังเเฮะ เเต่ชิลโน่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงตัวตนของโลกเหล่านั้นนี้นา ไม่เเน่นะ อาจจะมีโลกอื่นนอกจากเก็นโซเคียวอีกก็ได้เเฮะ เเล้วก็อาจเป็นไปได้ว่า เหตูการณ์ที่อธิบายไม่ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้อาจเป็นเพราะมันเกี่ยวข้องกับโลกในมิติอื่นๆด้วยก็เป็นได้เเฮะ...ไดสุเกะคิดไปเรื่อยเปื่อย

            "ถ้าอย่างนั้นเเล้วฉันก็ขอไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดล่ะนะ อากาศมันร้อนจริงๆเลยเเฮะ อ้อ! เธอเองก็อย่าไปทำอะไรเสียหายล่ะ อะไรที่ไม่รู้จักก็อย่าไปเเตะต้องมัน อยู่เเบบเรียบร้อยๆล่ะ" เขาพูด ลุกขึ้นจากเก้าอี้พลางบิดขี้เกียจไปมา เพราะอากาศร้อนด้านนอกทำให้เขาอยากอาบน้ำเย็นขึ้นมา ถึงตอนเย็นอากาศจะเริ่มเย็นก็เถอะเเต่เขาก็ยังอยากอาบน้ำเย็นอยู่ดี

            "อื้มๆ" เธอตอบกลับอย่างอารมณ์ดี 

            "เเล้วพอฉันอาบน้ำเสร็จเเล้วฉันจะทำอาหารให้กินนะ เธอคงเหนื่อยเเล้วเหมือนกันล่ะ จู่ๆก็โผล่มาในโลกที่ไม่รู้จัก เรื่องเก็นโซเคียวไว้ว่ากันทีหลังก็เเล้วกัน" ถึงซักไซ้มากไปก็ใช่ว่าเธอจะตอบได้...

            "ไม่มีปัญหา! เออนี่ไดสุเกะ..." ชิลโน่ทำหน้าสงสัย เเต่ที่สำคัญหว่าคือเธอเรียกเขาด้วยชื่อเฉยๆเลยเรอะ? เเต่ดูเลยเธอเองก็เรียกตัวเองว่าชิลโน่เฉยๆเหมือนกัน ก็คงเเฟร์ดี เเถมยัยนี่ก็ดูบ้าๆบ๊องๆอยู่เเล้วด้วย ไดสุเกะเเอบถอนใจ

            "ไอ้มันมันคืออะไรเหรอ?" ที่สายตาของเธอจับจ้องอยู่คือทีวี 48 นิ้ว ยี่ห้อ So*y ที่ตั้งเด่นอยู่ในห้องนั่งเล่น 

            "ไอ้นั่นเหรอ? เขาเรียกว่าทีวีน่ะย่อมาจาก television ที่เก็นโซเคียวไม่มีเหรอ?" เขาถามกลับ

            "ไม่มีหรอก ของเเปลกๆเเบบนี้น่ะ ว่าเเต่มันเอาไว้ทำอะไรหรอ?" ถึงเธอจะเรียกทีวีว่า "ของเเปลกๆ" เเต่เธอก็ดูสนใจมันมากทีเดียว สายตาเธอเป็นประกายชวนให้เขานึกถึงเด็กสาวในนิยายเรื่องหนึ่งที่เขาชอบอ่าน ที่มีประโยคประจำตัวว่า "ฉันสงสัยค่ะ!" ขึ้นมา ได้ข่าวว่านิยายเรื่องนั้นถูกเอาไปทำเป็นอนิเมะเเล้วเเฮะ...สงสัยต้องหามาดู

            "จะอธิบายยังไงดี...เอาง่ายๆเลยนะ มันรับสัญญาณที่เรามองไม่เห็นมาเเล้วทำให้เกิดเป็นภาพน่ะ ไม่ได้เอาคนหรือสิ่งของยัดลงไปในกล่องหรอกนะ ส่วนสัญญาณก็จะเเบ่งออกเป็นช่องๆเเต่ละช่องก็จะมีภาพต่างกัน"  เขาอธิบายตามความเข้าใจของเขา เขาเองก็ไม่ได้รู้เรื่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากสักเท่าไหร่ เขาจึงไม่เเน่ใจว่าเธอจะเข้าใจในสิ่งที่เขาอธิบายหรือไม่

            "อ้อเหรอ? น่าสนใจดีนี่นา" เธอพยักหน้าหงึกหงักเหมือนจะเข้าใจ ทำให้เขาไม่รู้ว่าสรุปเเล้วเธอเข้าใจมันจริงๆหรือเปล่าเนี่ย?

            "เเล้วเปิดยังไงเหรอ? ถ้าอยากดูภาพก็ต้องเปิดเครื่องใช้ไหม? หรือว่าต้องใช้คำสั่งลับหรือพลังเวทมนในการเปิด?" เธอถามต่อ อย่างน้อยๆเขาก็โล่งใจขึ้นมาว่าเธอเข้าใจสิ่งที่เขาอธิบาย ถึงจะเเค่เล็กน้อยก็เถอะ

            "โลกนี้ไม่มีพลังเวทมนหรอกน่า ถึงจะเข้ารหัสไว้ถ้ารู้รหัสก็เปิดได้อยู่ดี เเต่นี่ไม่ใช่ตู้เซฟนะ" เขามองหารีโมตทีวี เมื่อกดเปิด ภาพก็ปรากฏขึ้นบนจอทีวี

            ตอนนี้ช่องที่เขาเปิดขึ้นมากำลังฉายรายการเเข่งทำอาหารอยู่ เป็นรายการที่ผู้ท้าชิงต้องเลือกเเข่งกับเชฟคนใดคนหนึ่งจากสามคนที่มีให้ โดยมีโจทย์เป็นวัตถุดิบที่เเตกต่างกันในเเต่ละครั้ง

            "ขณะนี้ผู้ท้าชิงกำลังตีไข่ให้ขึ้นฟูอยู่ครับ ส่วนเชฟของเราก็กำลังทอดไข่อยู่ อือหือ! กลิ่นน่ากินสุดๆเลยครับ" เสียงผู้บรรยายที่บรรยายบรรยากาศการทำอาหารได้อย่างดุเดือดดังขึ้น ดูเหมือนว่าโจทย์คราวนี้จะเป็นไข่เเฮะ ดูเเล้วก็ทำให้หิวได้เหมือนกัน...ไดสุเกะมองไข่สีเหลืองทองในทีวี ช่างบังเอิญเสียจริงที่วันนี้เขาก็ต้องทำอาหารโดยมีวัตถุดิบเป็นไข่เหมือนกัน

            "โห! สุดยอดไปเลยนะเจ้าทีวีเนี่ย" ชิลโน่กระโดดมานั่งบนโซฟาตัวใหญ่สุดนุ่มสบายที่หน้าทีวี เธอนอนกลิ้งเกลือกดูทีวีอย่างมีความสุข

            "ถ้าอยากเปลี่ยนช่องก็กดปุ่มนี้ ถ้าอยากเพิ่มลดเสียงก็กดตรงนี้นะ" เขาสอนวิธีใช้รีโมตเบื้องต้นให้เธอ ซึ่งเธอก็ฟังอย่างตั้งใจ ก่อนที่เขาจะยื่นรีโมตทีวีให้เธอ

            "อืมๆ ขอบใจนะ!" ชิลโช่พูด เธอรับรีโมตไป สายตายังคงจ้องจอทีวีที่ยังคงเป็นรายการเเข่งทำอาหาร พอดูเขาทำอาหารก็ชวนให้ไดสุเกะหิวข้าวขึ้นมาบ้าง เขามองดูภูติสาวที่นอนดูทีวีอย่างมีความสุข รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา

            หลังจากที่อาบน้ำเสร็จเวลาก็ล่วงเลยผ่านไป 20 นาที ไดสุเกะในชุดอยู่บ้านเป็นเสื้อยืดเเขนกุดเเละกางเกงขาสั้นเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน เขาเดินมาดูชิลโน่ที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง

            "เฮ้อ...อาบน้ำเย็นๆในวันที่อากาศร้อนๆเเบบนี้มันสบายดีจังเลยนะ" เขาพูดกับตัวเอง เมื่อมาถึงโซฟา ชิลโน่กำลังหัวเราะร่วนไปกับรายการตลกในทีวี

            "ดูสิไดสุเกะ ตลกจังเลยเนอะ!" เมื่อเห็นเธอหัวเราะ เขาได้ยิ้มออกมา

            "จริงสิ! ชิลโน่ เธอจะอาบน้ำหรือเปล่า ฉันไม่ได้เตรียมน้ำอุ่นไว้ ถ้าจะอาบฉันจะได้ไปเตรียม"

            "ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ชอบของร้อนอยู่เเล้ว" เธอตอบ ลุกขึ้นจากโซฟา "งั้นฉันไปอาบน้ำบ้างล่ะ" เธอพูดต่อ

            "ฉันจะเตรียมชุดไว้ให้ อาจจะหลวมไปหน่อยเเต่คิดว่าเธอคงใส่ได้ ชุดของเธอภอดไว้ในตะกร้าผ้าซักนะ เเล้วอาหารนี่เธอกินของร้อนไม่ได้ใช่ไหม?" เขาถามเพื่อความเเน่ใจ เพราะวันนี้ของที่มีหลักๆเลยก็คือไข่ ถ้าเธอกินไม่ได้จะได้หาอย่างอื่นให้เธอกิน

            "อาหารหรอ? ถ้าไม่ใช่ของร้อนจนเกินไปก็กินได้อยู่ล่ะนะ" เมื่อได้ฟังคำตอบของเธอ ก็ทำให้เขาเบาใจขึ้น อย่างน้อยๆเรื่องอาหารของชิลโน่ก็จะได้ทำให้เหมือนของเขา
     
            "ห้องน้ำอยู่ทางนั้นน่ะนะ ใช้ฝักบัวเป็นหรือเปล่า?" เขาชี้นิ้วไปทางที่ห้องน้ำตั้งอยู่

            "ของง่ายๆเเค่นั้นเอง อย่าดูถูกฉันนักสิ!" เธอดูไม่ค่อยพอใจ "ขอบคุณนะ" เเต่กระนั้นเธอก็ยังพูดขอบคุณออกมา 

            เมื่อชิลโน่เข้าห้องน้ำไป ไดสุเกะที่เหมือนจะเพิ่งนึกเรื่องสำคัญออกก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกทันที

            "สวัสดีจ้ะ ไดสุเกะคุงมีธุระอะไรเหรอจ๊ะ?" ปลายสายเป็นฝ่ายถามก่อน

            "อ่า...ยูมิ ขอโทษด้วยนะบังเอิญวันอาทิตย์นี้มีธุระด่วน คงให่พวกเธอมาบ้านฉันไม่ได้หรอก ถ้ายังไงพวกเธอไปทำการบ้านที่บ้านคนอื่นๆเเทนได้ไหม หรือถ้าจะไปดูหนังก็ไปเถอะ ฉันคงไปไม่ได้จริงๆ" เขาพูดขอโทษ
     
            "เอ๋! เกิดอะไรขึ้นเหรอจ๊ะ?" น้ำเสียงเธอเเสดงความตกใจออกมาชัดเจน เธอเองก็คงเป็นห่วงเขากระมัง...

            "ไม่มีอะไรหรอก ก็เเค่ธุระด่วนน่ะรายละเอียดฉันเองก็ยังไม่รู้เเน่เหมือนกัน" ...เพราะมันไม่มีจริงนี่! ไดสุเกะพูดต่อในใจ

            "ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวฉันจะบอกคนอื่นๆให้มาทำการบ้านปิดเทอมที่บ้านของฉันเเทนก็ได้"

            "ขอบคุณมากนะยูมิ! เธอช่วยได้เยอะเลย" เขาอยากจะขอบคุณเธอสักพันครั้ง 

            "ขอโทษนะทีเอาเเต่ให้ช่วยตลอด ถ้าเธอเองมีเรื่องอะไรอยากให้ช่วยก็บอกฉันได้เลยนะ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม ฉันยินดีช่วยเหลือเสมอ"

            "ม...ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ไดสุเกะคุงมีธุระด่วนนี่นา นัดกันไว้เเล้วด้วย ถ้าไดสุเกะไม่สะดวกฉันก็ต้องช่วยอยู่เเล้ว เเถมโทรมาขอความช่วยเหลือเเบบนี้อีกต่างหากเเสดงว่าต้องด่วนมากเเน่ๆ" เธอตอบ เขานึกภาพเธอกำลงอายม้วนอยู๋หน้าโทรศัพท์ได้ไม่ยากนัก

            เธอคือเเม่พระโดยเเท้ ยูมิ! ไดสุเกะชื่นชมยูมิอยู่ในใจ
     
            "ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยนะ ถ้างั้นเเล้วเจอกันนะ" เขาจบบทสนากันเธอลงเพียงเท่านั้น

            "เเล้วเจอกันจ้ะ!" เธอพูดตอบกลับมาก่อนที่จะวางสาย

            เมื่อคุยกับยูมิเสร็จเเล้ว ไดสุเกะก็เดินขึ้นไปหยิบชุดที่เขาไม่ใส่เเล้วจนเกือบจะเอาไปขายไม่ก็บริจาคจากห้องของเขาลงมา เพราะเสื้อมีขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับตัวชิลโน่ บางทีอาจหลวมไปด้วยซ้ำ เเต่เขามั่นใจว่าเธอใส่ได้เเน่นอน

            เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออก เสียงฮำเพลงของชิลโน่ก็ทะลุผ่านประตูเลื่อนบางๆออกมาให้ได้ยินพร้อมกับเสียงน้ำไหลจากฝักบัว

            เขาวางเสื้อที่หยิบมาไว้ในตะกร้าที่มีของของชิลโน่วางรวมๆกันอยู่ เหมือนว่าชิลโน่จะใส่ชุดของเธอลงในตะกร้าผ้าซักเเล้วด้วย ขณะที่ทำไปในใจก็คิดว่า สงสัยต้องไปซื้อของที่จำเป็นเเละชุดให้ชิลโน่เสียหน่อย 

            พลันสายตาก็ไปหยุดลงที่วัตถุสีขาวเเต้มลายจุดสีเหลืองสดใสที่วางกองๆรวมอยู่กับของอย่างอื่นของเธอในตะกร้าซึ่งเขาไม่ทันได้สังเกตเห็นในทีเเรก ใบหน้าก็เริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา

            เขาเบือนสายตาหนีจากวัตถุตรงหน้า "ชั้นในกับกางเกงในด้วยเเฮะ..." เขาพึมพำต่อจากเรื่องที่คิดไว้

            "ช...ชิลโน่ เธอใส่เสื้อของฉันไปก่อนนะ ถึงไซส์น่าจะค่อนข้างใหญ่ เเต่ฉันคิดว่าเธอคงใส่ได้เเน่ เเค่เสื้อตัวเดียวก็น่าจะยาวถึงเข่าล่ะนะ" ...ไม่ก็ขาอ่อน เขาเสริมในใจ

            "โอเคๆ ขอบคุณมากนะ เดี๋ยวฉันก็เสร็จเเล้วล่ะ" เธอตะโกนตอบกลับมาจากในห้องอาบน้ำ

            เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ไดสุเกะก็เริ่มลงมือทำอาหารทันที ดีที่เขาเจอชีสอยู่ในตู้เย็นด้วย ทำข้าวห่อไข่กับชีสราดด้วยซอสมะเขือเทศเเล้วกัน ถึงจะไม่มีเนื้อไม่มีผักก็ช่างเถอะ พรุ่งนี้ค่อยออกไปซื้อก็ได้...

            ไม่นานนักชิลโน่ก็ออกมานั่งในห้องครัว "น้ำเย็นสบายดีจังน้า..." เธอพูดเขาขณะที่เช็ดผมที่เปียกโชกไปด้วย หยดน้ำหลายหยดกระเซ็นเป็นประกายเล็กๆสะท้อนกับเเสงเเดดยามเย็นที่ลอดเข้ามาในบ้านผ่านทางหน้าต่าง เมื่อเเห้งดีเเล้วเธอก็เริ่มลงมือผูกโบว์อย่างชำนาญ

            "ใช่ไหมล่ะ? อากาศร้อนๆเเบบนี้ก็ต้องอาบน้ำเย็นล่ะ" เขาที่กำลังหุงข้าวอยู่พูดตอบ

            "ว่าเเต่นายกำลังทำอาหารอะไรอยู่เหรอ?" ชิลโน่ถามด้วยความอยากรู้ เธอทำจมูกฟุดฟิดเพื่อดมกลิ่นหอมของข้าวที่ลอยฟุ้งในอากาศ

            "ข้าวห่อไข่กับชีสน่ะ กินได้หรือเปล่า?" เขาตอบ หยิบกระทะมาตั้งไฟ เเละไข่มาวางเตรียมพร้อม

            "ได้สิๆ" เธอพูด นั่งท้าวค้างกับโต๊ะอาหาร ฮำเพลงอย่างอารมณ์ดี...เป็นคนที่ร่าเริงได้ทุกเวลาจริงๆ เเต่นั่นก็คือเป็นข้อดีของเธอล่ะนะ ถ้าเป็นไดสุเกะล่ะก็คงทำอะไรไม่ถูกไปเเล้ว เขาเเอบชมชิลโน่อยู่ในใจ

            เขาเหลือบมองชิลโน่ที่นั่งอยู่ด้านหลัง ผมที่มีโบว์สีฟ้าผูกติดอยู่ช่วยเพิ่มความน่ารัก รอยยิ้มที่ดูสดใสเปี่ยมไปด้วยพลัง ดวงตาสีไอซ์บลูสดใสเป็นประกาย ปีกน้ำเเข็งที่อยู่ด้านหลัง ดูๆไปก็น่ารักดี ชุดที่เขาให้เธอใส่โชคดีที่ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป เเต่มันก็หลวมจนคอเสื้อข้างหนึ่งเลื่อนเผยให้เห็นไหล่เเละต้นคอขาวๆข้างใดข้างหนึ่งเสมอ ไม่ว่าเธอจะดึงมันขึ้นสักกี่ครั้งมันก็ยังคงเลื่อนลงมา จนดูเหมือนเธอจะเลิกใส่ใจไปเเล้ว เเถมด้วยความที่เป็นคน (ภูติ) ตัวเล็กทำให้ชุดที่เธอใส่มีพลังทำลายล้างสูงขึ้นมาทันที ถ้าหากพวกโลลิค่อนมาเห็นคงตะโกนว่า "โมเอะ!" เเล้วนอนจมกองเลือดไปเเล้ว...โชคดีจริงๆที่เขาไม่ใช่โลลิค่อน...

            ตัวชุดปกปิดถึงเเค่บริเวณต้นขา เผยให้เห็นขาอ่อนขาวๆ เล็กน้อย  ถ้าลองสังเกตดูดีๆในจังหวะที่เธอนั่งเเกว่งขาจะเห็นวัตถุสีขาวเเต้มจุดเหลืองได้ไม่ยากนัก เเต่เขาก็พยายามทำเป็นไม่เห็นมัน

            ผ่านไปไม่นานนักอาหารก็เสร็จ เขายกจานมาวางด้านหน้าเธอ เธอจ้องอาหารด้วยตาเป็นมัน...เธอคงจะหิวมาก

            อาหารที่ไดสุเกะทำออกมานั้น คือ ข้าวสวยหุงร้อนๆห่อไข่สีเหลืองทอง ไม่สุกไม่ดิบจนเกินไป ถ้าเปรียบเทียบกับความสุกของเนื้อก็คงเรียกได้ว่าระดับ "rare" ให้ความรู้สึกนุ่มลิ้นเวลาทาน มีชีสช่วยเพิ่มความหอมมันเเละหนึบหนับให้กับข้าวห่อไข่ เมื่อราดซอสมะเขือเทศรสชาติเปรี้ยวอมหวานลงไปทำให้กินจนหมดจานได้เเบบไม่รู้ตัว

            "มันร้อนมากนะชิลโน่ เป่าก่อนนะเเล้วจะหาว่าฉันไม่เตือน" เขานั่งลงตรงข้ามกับเธอ

            "รู้เเล้วน่า ถ้างั้นก็ ทานล่ะนะคะ!" เธอพูด ตัดข้าวเเละไข่ขึ้นมาคำเล็กเพื่อชิมรสชาติก่อน

            "อื้ม! อร่อยจัง" เธออุทานเมื่อกลืนมันลงไป "นายเนี่ยทำอาหารสุดยอดไปเลย" เธอชมเเล้วตักข้าวคำโตขึ้นมาเตรียมส่งเข้าปาก เธอเป่าเสียงดังฟู่อยู่หลายครั้งเพื่อให้เเน่ใจว่ามันไมร้อนจนเกินไป ถ้าเธอชอบมันไดสุเกะเองก็ดีใจ

            "ทานล่ะนะครับ..." เขาตักข้าวเข้าปากบ้าง รสชาติของทุกอย่างผสมกันได้อย่าลงตัว

            เขามองชิลโน่ที่ตั้งใจอยู่กับการเป่าข้าวในช้อนให้หายร้อน เเล้วก็เผลอยิ้มออกมา อาจเพราะว่านานเเล้วที่เขาไม่ได้ทำอาหารให้ใครทาน พอเห็นเธอมีความสุขกับอาหารที่เข้าทำก็เลยอาจทำให้เผลอยิ้มออกมาก็ได้

            เเม่ของไดสุเกะต้องไปทำงานต่างประเทศบ่อยๆ กลับมาบ้านครั้งสุดท้ายก็เมื่อสี่เดือนที่เเล้ว กว่าจะกลับมาอีกทีก็อีกสองเดือน พอไดสุเกะมาคิดๆดูเเล้ว เวลาที่อยู่คนเดียวก็นานเหมือนกันนะเนี่ย...

            "อ๊ะ! นายไม่กินหรอ ถ้างั้นขอคำนึง!" ชิลโน่ที่จัดการกับข้าวห่อไข่ของตนหมดอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นไดสุเกะนั่งเหม่อลอยเอาเเต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เธอจึงใช้โอกาสนี้ตักข้าวห่อไข่ของเขาไป

            "เฮ้ย! นี่เธออย่ามาเเย่งของคนอื่นสิ" เขาไม่ได้รู้สึกโกรธ เเต่เขากลับรู้สึกสนุกเเละอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก อาจเพราะมีคนมาอยู่ด้วยทำให้บรรยากาศในบ้านไม่เงียบเหงาเเละดูอบอุ่นขึ้นมาสินะ...

            ชิลโน่ที่ส่งข้าวห่อไข่ที่ฉกมาจากจานไดสุเกะได้โดยไม่เป่าให้เย็นลง "ร้อน! ร้อน!" เธอพยายามเป่าลมออกจากปากเพื่อให้อาหารในปากเย็นขึ้นมา มันก็ดูน่ารักไปอีกเเบบ

            "อ๊ะ จริงสิไดสุเกะ" ชิลโน่ที่กลืนอาหารลงคอตามด้วยน้ำเย็นลงไปเเล้วพูดขึ้น "จู่ๆให้ฉันมาอยู่ด้วยจนกว่าจะหาทางกลับเก็นโซเคียวได้เเบบนี้คงลำบากมากเเน่ๆ ยังไงขอรบกวนด้วยนะ" จู่ๆเธอก็เปลี่ยนอารมณ์จนเขาตั้งตัวไม่ทัน

            "เธอไม่มีที่ไปไม่ใช่หรอ? เเล้วฉันเองก็ไม่อยากให้เธอออกไปเจออันตรายข้างนอกด้วย เลยคิดว่าอยู่กับฉันน่าจะดีที่สุดน่ะนะ" ความจริงเเล้ว เขาเองก็อยากขอบคุณเธออยู่เหมือนกันที่ทำให้บ้านที่ดูเงียบเหงามีชีวิตชีวาขึ้นมา เเต่เขาอายเกินกว่าที่จะพูดมันออกไป

            ...เรื่องราววุ่นๆ มันคงจะเริ่มหลังจากนี้สินะ ถึงปิดเทอมฤดูร้อนจะไม่ได้อยู่คนเดียว อาจไม่ได้ทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ครบทุกอย่าง เเต่มีคนมาอยู่ด้วย เเถมยังเป็นภูติอีก มันก็คงจะสนุกดีล่ะนะ...ไดสุเกะสรุปเช่นนั้น

            "อ๊ะ! เหม่ออีกเเล้ว งั้นขออีกคำนะ!" ชิลโน่ฉกข้าวห่อไข่ของไดสุเกะไปอย่างรวดเร็ว
      
            "นี่เธอ! มากเกินไปเเล้วนะ! เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่ทำอะไรให้กินซะหรอก"

            หากเเต่ไดสุเกะเองนั้นยังไม่รู้เลยว่า "เรื่องราววุ่นๆ" ที่เขาจะได้เจอ มันจะวุ่นวายขนาดไหน...

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×