ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    touhou fanfic: ชุลมุนวุ่นวาย ยัยภูติน้ำเเข็งจอมป่วน

    ลำดับตอนที่ #1 : Cirno shows up at my house!

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 67


        มันเป็นวันที่อากาศร้อนอบอ้าวในหน้าร้อนวันหนึ่งของเก็นโซเคียว อุณหภูมิพุ่งขึ้นสูงถึงขนาดที่ว่าถ้าไม่เปิดพัดลมแรง ๆ นอนอยู่บ้านกินไอศกรีมหวานเย็นเพื่อชดเชยน้ำที่เสียไปเเล้ว ก็ออกไปเล่นน้ำที่ทะเลสาบไม่ก็ลำธารที่ไหนสักแห่ง 

        ดูเหมือนว่าความร้อนของหน้าร้อนจะส่งผลทั้งต่อโยวไคและมนุษย์ เรียกได้ว่าไม่ว่าจะแข็งแกร่งสักเเค่ไหนก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้กับธรรมชาติ และดูเหมือนในวันที่อากาศร้อนเช่นนี้ยังทำให้มิโกะสาวผู้ทำหน้าที่กำราบเหล่าโยวไคขี้เกียจขึ้นอีกด้วย...แต่เพราะว่าอากาศร้อนขนาดนี้จึงไม่ค่อยมีใครหน้าไหนออกมาทำตัวซ่ามากนัก

        แต่กลับมีใครคนนึงที่ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจกับความร้อนชนิดที่ว่าทอดไข่สุกได้นี่เดินอย่างสบายใจเฉิบอยู่ในป่าเวทมนตร์อาจเพราะต้นไม้สูงที่ขึ้นปกคลุมจนแสงแดดส่องลงมาน้อยหรือเพราะความชื้นของป่าก็ตาม เเต่มันก็เย็นสบายกว่าในหมู่บ้านมนุษย์มากนัก แม้ว่าอุณหภูมิก็ค่อนข้างออกเเนวร้อนชื้นอยู่พอสมควร

        "วันนี้มันร้อนจังน้า..." ใครคนนั้นบ่น ความจริงเเล้วเธอเองก็ไม่อยากออกมาจากบ้านในวันที่อากาศร้อนขนาดนี้เท่าไหร่ เรียกได้ว่าเธอเกลียดอากาศร้อนเข้าไส้เลยก็ว่าได้...แต่เพราะเธอมีเหตุผลบางอย่าง

        น่าประหลาดใจที่รอบ ๆ ตัวเธอกลับมีอุณภูมิต่ำอย่างน่าประหลาด แต่กระนั้นเธอก็ยังคงปาดเหงื่อบนใบหน้า ดวงตาสีไอซ์บลูสดใสจ้องมองทางที่เดินไป หูได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง

        "โคทาโร่ ไอ้ตู้หนังสือเนี่ยฉันว่ามันอยู่ที่เดิมของมันก็ดีแล้วนา..." เป็นเสียงของผู้หญิงไม่ผิดแน่ น้ำเสียงแสดงความเสียดายออกมาชัดเจน

        "ไม่ได้เลยนะ! ถ้าตั้งไว้ตรงนั้นมีหวังได้อับชื้นจนราขึ้นแหง ๆ เราต้องมาจัดหนังสือของเธอทั้งหมดให้เข้าที่เข้าทางกว่านี้สักหน่อย แล้วหนังสือเล่มไหนที่เป็นของคุณแพทชูลี่กับคุณอลิซก็จะได้เอาไปคืนเขาสักที" คราวนี้เป็นเสียงของผู้ชาย

        "เฮ้อ...ใครจะไปคิดว่าจัดบ้านใหม่จะเหนื่อยขนาดนี้กันนะ" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า "แถมวันนี้อากาศก็โคตรร้อนอีก...เฮ้อ!" เธอถอนหายใจ

        "ก็นะ บ้านมาริสะเนี่ยเก็บอะไรไว้เยอะแยะไปหมดเลยนี่ บางอันฉันอยู่มาตั้งนานก็เพิ่งเคยเห็น...โดยเฉพาะไอ้ดาบเเปลกๆที่ปักอยู่ในหินนั่นน่ะ ดึงยังไงก็ดึงไม่ออก เธอไปได้มาจากไหนเนี่ย?" ชายหนุ่มหัวเราะ

        "อืม...บอกตามตรงว่าบางอย่างฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ ถ้าไม่จัดบ้านคงไม่รู้เลยนะเนี่ย นี่คงเป็นอีกหนึ่งข้อดีของการจัดบ้านใหม่สินะ" เธอเองก็หัวเราะเช่นเดียวกัน

        "สนุกดีเนอะ...จัดบ้านใหม่เนี่ย บ้านของเราสองคน..."

        "..." ไร้เสียงตอบกลับจากหญิงสาว "พ...เพราะเเบบนั้นถึงได้อยากจัดบ้านใหม่ไง...ให้เป็นบ้านของเราสองคน" เสียงของหญิงสาวดูเเผ่วเบาลง อาจเพราะความเขินอายก็เป็นได้

        ชายกระโปรงสีฟ้าเเถบขาวพลิ้วไหว ปีกเล็ก ๆ สีฟ้าใสที่เป็นน้ำเเข็งที่ด้านหลังนั่นขยับไปมา เธอวิ่งเข้าไปหาพวกเขา

        "โคทาโร่! มาริสะ! ทำอะไรกันอยู่น่ะ?" เธอถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ท่าทางของเธอดูกระฉับกระเฉง ดวงตาสีไอซ์บลูเป็นประกาย รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าช่างดูผิดกับอากาศร้อบอบอ้าวของป่าโดยสิ้นเชิง

        "ชิลโน่?" มาริสะหันมามองเธอด้วยความประหลาดใจ ดวงตาสีเหลืองทองฉายความสงสัยออกมา "มาทำอะไรในป่าเวทมนตร์น่ะ? ปกติวันที่ร้อน ๆ แบบนี้เธอจะอยู่บ้านไม่ใช่หรือไง?" 

        ชิลโน่พยักหน้า "ก็ใช่ล่ะนะ แต่ว่าวันนี้มีนัดกับพวกซันนี่น่ะ" เธอตอบ

        "วางเเผนก่อเรื่องวุ่นวายอะไรกับยัยสามภูติขี้เเกล้งนั่นหรือยังไง?" มาริสะยิ้มถาม 

        เมื่อเห็นชิลโน่ปาดเหงื่อที่หน้าผาก มาริสะก็พูดขึ้น "เอ้าๆ ร้อนเเย่เลย เข้ามาในบ้านก่อนดีกว่า หาอะไรเย็นๆกินเเล้วค่อยไปต่อ" เธอชวนอย่างเป็นมิตร

        "สภาพบ้านอาจยังไม่น่าดูเท่าไหร่นะ" โคทาโร่พูดยิ้ม ๆ ดวงตาสีแดงฉานให้ความรู้สึกอ่อนโยน เขาเปิดประตูบ้านให้ทั้งหมดเข้าไป

        แม้โคทาโร่จะพูดว่าสภาพบ้านอาจยังไม่น่าดู แต่ทว่าสภาพภายในบ้านของมาริสะนั้นดูสะอาดเรียบร้อยขึ้นกว่าเดิมชนิดที่จำเค้าเดิมแทบไม่ได้เลยทีเดียว อากาศในตัวบ้านก็เย็นสบายอีกต่างหาก

        "พวกเฟอร์นิเจอร์ที่สั่งไปยังมาไม่ถึงน่ะนะ เลยจัดเเบบพออยู่ได้ไปก่อน" มาริสะพูด ส่วนชิลโน่มองสภาพภายในบ้านด้วยความตื่นตาตื่นใจ

        ภายในบ้านของมาริสะถูกประดับด้วยโคมไฟสวยในห้องทานข้าวให้ความรู้สึกอบอุ่น โต๊ะไม้เคลือบมัน โซฟาสองตัวในห้องนั่งเล่นที่ยังไม่ได้ถูกจัดให้เข้าที่เข้าทาง เฟอร์นิเจอร์อีกหลายชิ้นที่ทำให้บ้านมีความรู้สึกเเบบตะวันตกผสมอยู่ ลังใส่ของกระจุกกระจิกที่วางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ อยู่ที่มุมหนึ่งของบ้าน นี่ยังไม่นับชั้นหนังสือที่ตั้งอยู่นอกบ้านเลย

        "นี่ขนาดยังไม่เสร็จก็น่าอยู่ขนาดนี้เเล้ว ถ้าทำเสร็จต้องน่าอยู่มากเเน่ ๆ เลย" ชิลโน่พูดอย่างตื่นเต้น

        ดวงตาสีเแดงฉานฉายประกายเเห่งความสุขออกมา โคทาโร่ยิ้ม ก่อนเอ่ย "ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก" ผมสีเหลืองนวลยาวสลวยเหมือนผู้หญิงพลิ้วไหว

        "เดี๋ยวฉันไปหาอะไรเย็น ๆ มาให้ นั่งรอก่อนนะ" มาริสะพูด เธอเดินหายเข้าไปในห้องครัว ส่วนชิลโน่เเละโคทาโร่นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร

        "โคทาโร่ไม่ชอบตัดผมหรอ?" ชิลโน่ถามขึ้นระหว่างที่รอมาริสะ

        "อืม...ฉันชอบไว้ผมแบบนี้น่ะ ทำไมเหรอ?" โคทาโร่ลูบผมของตัวเอง เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

        "เป็นผู้ชายไว้ผมยาว เวลาทำอะไร ๆ ไม่ลำบากเหรอ? ฉันว่ารวบผมก็เข้าท่าดีนะถ้าจะไม่ตัดก็..." ชิลโน่เเสดงความเห็น

        โคทาโร่ครุ่นคิด "รวบผมเหรอ? เข้าท่าดีเเฮะ ไว้เดี๋ยวจะลองทำดู ฉันว่าชิลโน่เองไว้ผมยาวก็น่าจะน่ารักขึ้นนะ" เขาพูดบ้าง

        "ฉันเองก็กำลังไว้ผมอยู่เหมือนกัน อยากลองทำทวินเทลซักหน่อย" เธอตอบ เเละในจังหวะเดียวกันนั้นมาริสะก็เดินออกมาจากห้องครัวพอดี พร้อมกับซองไอศกรีมในมือ

        "มีไอศกรีมอยู่พอดีเลย สนใจไหมชิลโน่?" เธอถามขณะยื่นซองไอศกรีมให้ชิลโน่

        "เเน่นอนอยู่เเล้ว!" ชิลโน่ตอบ เธอคว้าซองไอศกรีมในมือมาริสะไปฉีกกินอย่างรวดเร็ว

        เธอเลียไอศกรีมเหมือนเด็กๆ "อื้ม! หวานจัง" เธอพูดไปเลียไอศกรีมไป มาริสะเเละโคทาโร่มองเธอด้วยรอยยิ้ม

        "เอ้า! อันนี้ของนาย" มาริสะยื่นไอศกรีมอีกซองให้โคทาโร่

        "ขอบใจนะ" โคทาโร่รับซองไอศกรีมมาฉีกเช่นเดียวกับชิลโน่ เขากัดไอศกรีมในมือ "หวานจัง..." เขาพูดออกมา

        เเล้วเขาก็สังเกตเห็นว่ามาริสะไม่มีไอศกรีมของตัวเอง "ไม่กินหรอมาริสะ?" เขาถาม

        "อ๊ะ! พอดีมีไอศกรีมแค่สองแท่งน่ะ ว่าจะเก็บไว้กินกับนายสองคน แต่ดันเอามาให้ชิลโน่ซะได้" เธอตอบ หัวเราะแหะ ๆ สายตาจ้องมองไปที่ชิลโน่ที่กำลังเลียไอศกรีมอย่างมีความสุข อาจเพราะอุณภูมิของร่างกายเธอเย็นด้วยกระมัง ทำให้ไอศกรีมในมือเธอไม่มีทีท่าว่าจะละลายไปเพราะอากาศร้อนเลยเเม้เเต่น้อย

        "งั้นเองหรอ...ถ้างั้นก็..." โคทาโร่ขึ้นปลายไอศกรีมชี้ไปทางมาริสะ "แบ่งกันกินนะ" เขาพูดเเล้วตบท้ายด้วยรอยยิ้ม

        "แต่แบบนั้นมันเหมือน..." มาริสะอ้ำอึ้งไป เธอดูลังเลอย่างเห็นได้ชัด

        "เหมือนอะไรเหรอ?"

        "ม...ไม่มีอะไรย่ะ!" ว่าเเล้วเธอก็กัดไอศกรีมเข้าไป "...หวานจัง" เธอพึมพำออกมา ใบหน้าแดงเรื่อเล็กน้อย จนโคทาโร่อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้

        เมื่อจัดการกับไอศกรีมเสร็จเรียบร้อยเเล้ว ชิลโน่ก็ลาโคทาโร่และมาริสะเพื่อมุ่งหน้าไปยังบ้านของสามภูติตัวป่วนต่อ

        "ลา ลา ลา ล๊า ลา ลา ล๊า ลา ลา ลา..." เธอฮำเพลงอย่างอารมณ์ดีด้วยน้ำเสียงสดใส

        "ล๊า ลา ล๊า ลา ลา ลา...เอ๊ะ!" สายตาของเธอไปหยุดอยู่ที่อะไรบางอย่างไม่ไกลนัก "อะไรน่ะ?" เธอพึมพำ

        ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอจึงเดินเข้าไปสำรวจ... 

        ...มันคือหลุมประหลาดขนาดใหญ่ ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน เธอสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในหลุมนี่

        ด้วยความสงสัยเธอจึงลองสร้างเเท่งน้ำเเข็งขนาดเล็กขึ้นมาเเล้วลองยิงใส่หลุมประหลาดที่ว่า...ปรากฏว่ามันหายไป ราวกับถูกดูด ราวกับว่ามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันหายไป...หายไปเฉย ๆ

        "อะไรกันล่ะเนี่ย เจ้าหลุมประหลาดเนี่ย?" ชิลโน่ลองชะโงกหน้าลงไปมอง 

        มันเป็นหลุดที่ไม่มีก้นหลุม เหมือนไร้จุดจบ ไร้ทางออก...เหมือนเป็นอีกห้วงมิติหนึ่ง

        ทันใดนั้นอะไรบางอย่างก็พุ่งออกมาจากหลุม ชิลโน่ดึงตัวกลับได้อย่างหวุดหวิดลงไปนั่งก้นจ่ำเบ้า "อะไรน่ะ!?" เธอร้องด้วยความตกใจ เมื่อลองมองหาสิ่งที่พุ่งออกมาเเล้ว...มันก็คือเเท่งน้ำเเข็งที่ชิลโน่ลองยิงใส่หลุดประหลาดนี่ มันพุ่งไปปักกับลำต้นของต้นไม้ใกล้ๆเธอ

        เธอเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมา เเต่เธอก็ยังคงสำรวจหลุมปริศนาอีกครั้ง เเล้วอะไรบางอย่างที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อปากหลุมขยายตัวกว้างขึ้น

        โดยไม่ทันตั้งตัว เธอจึงตกลงไปในหลุมประหลาดนั่น หลุมที่เหมือนกับเป็นอีกห้วงมิติ "กรี๊ด!!!!!" เธอตะโกนสุดเสียงด้วยความตกใจเเละหวาดกลัว

        "ช่วยด้วย! ใครก็ได้!" เธอร้องตะโกนขอความช่วยเหลือด้วยความหวาดกลัว เพียงหวังว่าอาจจะมีใครสักคนที่ผ่านทางมา ถึงจะเป็นเเค่ความหวังริบหรี่เเต่เธอก็ยังตะโกนขอความช่วยเหลือ...

        แต่ดูเหมือนเสียงของเธอจะส่งไปไม่ถึงใครเลย คำขอที่ดูเลือนลางของเธอต้องดับสิ้นเมื่อเธอเห็นปากหลุมค่อย ๆ ปิดลงอย่างช้า ๆ น้ำตาใส ๆ คลอหน่วย...เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แค่ว่าเธอไม่อยากให้มันจบเเบบนี้ไม่ว่าหลุมนี่มันคืออะไรก็ตาม

       ปากหลุมค่อย ๆ ปิดลง ที่เหลือทิ้งไว้คือป่าเวทมนตร์ที่เงียบสงัดในอุณภูมิที่ร้อนอบอ้าวของฤดูร้อน ไม่หลงเหลือหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าชิลโน่เคยอยู่ที่นี่จนถึงเมื่อครู่ ปากหลุมปิดลงและหายไปเหลือเพียงพื้นหญ้า ราวกับไม่เคยอยู่ตรงนั้น ราวกับเป็นเรื่องโกหก...

        กระสุนน้ำเเข็งของชฺิลโน่ถูกอากาศของหน้าร้อนทำให้ละลายหายไป นั่นคือหลักฐานสุดท้ายที่บ่งบอกว่าชิลโน่อยู่ที่นี่จนถึงเมื่อครู่

        ไม่ว่าชิลโน่จะพยายามดิ้นรนหรือบินขึ้นเท่าไหร่ เเต่สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกคือเธอกำลังร่วงลงไป ร่วงลงไปในความมืดที่ไร้ที่สิ้นสุด รอบกายมีเเต่ความมืดเเละบรรยากาศชวนอึดอัด เธอกลัวเหลือเกิน...เธออยากกลับบ้าน...

        ชิลโน่กำลังร่วงลงไป...ร่วงลงไปช้า ๆ อย่างเดียวดายในความมืดมิด...
     



        อากาศร้อนเหลือเกิน เริ่มเข้าสู่หน้าร้อนเเล้วสินะ? ผมคิดเช่นนั้นพลางเหลือบมองเข็มวินาทีของนาฬิกาค่อย ๆ กระดิกไปทีละนิด...ทีละนิด เฮ้อ...เวลาจะผ่านไปเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือไงนะ? อีกสามนาที...ไม่สิ ตอนนี้สองเเล้ว

        ผมมองไปที่หน้าห้องเรียนด้วยอารมณ์เบื่อหน่าย คุณครูที่ปรึกษาของห้องผมกำลังพูดเรื่องสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงปิดเทอมหน้าร้อนอยู่...เรื่องพรรค์นั้นน่ะ ปิดเทอมทุกทีก็พูดเรื่องเดิม ๆ ทุกทีไม่เบื่อบ้างหรือไงนะ?

       ...เหลืออีกหนึ่งนาที ตอนนี้คุณครูกำลังพูดเรื่องการบ้านปิดเทอแเฮะ ของพรรค์นั้นน่ะ ทำเสร็จได้ตั้งเเต่สัปดาห์แรกเเล้ว...ไม่สิ ถ้าตั้งใจทำจริง ๆ ก็คงสี่วันมั้ง การบ้านก็ไม่ได้เยอะ ไม่ได้ยากอะไรหนักหนาด้วย

       ...30 วินาทีเเละกำลังน้อยลงเรื่อย ๆ มือของผมไปเเตะกระเป๋านักเรียนตั้งเเต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้...ผมเริ่มนับถอยหลังในใจ ลาก่อนนะโรงเรียน ปิดเทอมฤดูร้อนนี้จะได้พักผ่อนเเละไปเที่ยวตามใจซักที เเม่ก็คงไม่กลับมาจนกว่าจะเปิดเทอมด้วย...ทำอะไรดีนะ?

       ในขณะที่กำลังคิดถึงสิ่งที่อยากทำในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน สายตาผมก็ยังคงมองนาฬิกาไปด้วย หัวใจเริ่มเต้นรัวขึ้นมา 9...8...7...

       ...6...5... เเละทันใดนั้นเสียงระฆังบอกเลิกชั้นเรียนก็ดังขึ้นมาพอดี "ช้าไป 5 วินาที..." ผมพึมพำขณะมองนาฬิกาที่เเขวนอยู่บนผนังหน้าห้องเรียน 

       "ถ้าอย่างนั้นขอให้ทุกคนสนุกกับช่วงปิดเทอมนะ!" คุณครูที่ปรึกษาของผมกล่าวด้วยเสียงสดใสก่อนจะเดินออกไปจากห้อง...จบซะที ลาก่อนโรงเรียน เจอกันเปิดเทอมหน้า

       ผมคว้ากระเป๋านักเรียนของผมมาไว้ในมือ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ในขณะที่เลื่อนเก้าอี้เก็บนั้นสายตาก็มองไปที่เหล่าเพื่อนร่วมชั้นที่ทยอยกันเดินออกไปจากห้องกันเป็นกลุ่มๆ ไม่ก็จับกลุ่มนั่งคุยกัน
     
       "นี่ๆ ปิดเทอมทำอะไรดี?" เสียงใครบางคนเเว่วมา

       "นานะจังไปร้องคาราโอเกะกับพวกเรานะ ฉลองปิดเทอมไง" นี่ก็เป็นกลุ่มผู้หญิงสินะ...

       "ไดสุเกะคุงวันอาทิตย์นี้ไปดูหนังกันไหมจ๊ะ?" นี่ก็คงจะเป็นพวกคนที่มีเเฟนสินะ คงจะหวานกันตลอดปิดเทอมเเน่ๆ น่าอิจฉาจริงๆ

       หากเเต่...ผมคือไดสุเกะที่ใครคนนั้นเรียกชื่อ ผมหันไปมองต้นเสียงเเล้วก็พบกับสหายสนิททั้งสี่ของผม (รวมผมก็เป็น 5 ครบก๊วนพอดี)

       "ว่าไงล่ะ โมริคุง?" ผู้ถามคือเด็กหนุ่มอายุ 17 รูปร่างสูงเเว่นตาที่เขาใส่ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมา เจ้านี่คือ ทานากะ เพื่อนผมเอง เเละเจ้านี่ก็เป็นคนที่สุขุมมากที่สุดในกลุ่มด้วย

       อ้อ...เเละถ้าใครที่สงสัย นามสกุลผมคือโมริ ชื่อเต็มๆของผมคือ โมริ ไดสุเกะ 

       "มิตจังอุตส่าห์ชวนเเล้วนะ ไปด้วยกันไหม?" คราวนี้เป็นตาของเด็กสาวที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยซักนิดพูด เเต่ก็คงจะมีเเต่ทรงผมหางม้าเเละความไฮเปอร์เกินพิกัดของเธอล่ะนะที่รู้กันไปทั่วโรงเรียน เเถมยังชอบเรียกคนอื่นๆด้วยชื่อเเปลกๆอีก ยัยนี่ชื่อ ยูมิโกะ เเละนอกจากนี้เธอยังเป็นสมาชิกของชมรมหนังสือพิมพ์ของโรงเรียนด้วย...บอกตรงๆว่าบางครั้งผมเองก็เป็นห่วงกับความถูกต้องของข้อมูลที่เธอหามาได้เหมือนกัน

       "อืม...พอดีว่าจะเคลียร์การบ้านปิดเทอมก่อนน่ะนะ อยากทำให้เสร็จไวๆจะได้มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นได้โดยไม่ต้องกังวล" ผมตอบกลับไป

       "เห! ขี้โกงนี่นานายน่ะ เเอบทำการบ้านปิดเทอมคนเดียวเสร็จก่อนคนอื่นทุกที เเล้วก็ให้พวกฉันทำเองตลอดเลย ใจร้ายจริงๆนะเเก" คราวนี้เป็นเสียงผู้ชาย ด้วยน้ำเสียงที่ดูสดใสบวกกับการพูดเเบบเป็นกันเอง ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ได้ยินก็ทำให้อารมณ์ดีขึ้นมานั่น ผิวสีเข้มเล็กน้อยเพราะอยู่กลางเเจ้งบ่อย สมาชิกชมรมฟุตบอลของโรงเรียน ผู้รักษาประตูของทีม นี่คือตัวโจ๊กของกลุ่ม เอ็นโด เจ้านี่จะชอบทำท่าเเปลกๆ (รวมไปถึงยืนเเอ่นตัว) ขณะที่พูดอะไรสักอย่างเสมอๆ จะว่าไปเจ้าเอ็นโดเองก็ชอบพูดอะไรเเปลกๆเวลารับลูกบอลไม่ให้เข้าประตูด้วย เอ...หัตถ์มาร...สยบฟ้าล่ะมั้ง?

       "งั้นเรามาทำการบ้านด้วยกันให้เสร็จก่อนเป็นไง เเล้วสัปดาห์หน้าค่อยไปดูหนังกัน" ทานากะเสนอ

       "ไอเดียดีนี่ ทานากะ!" เจ้าเอ็นโดยืนเเอ่นตัวชี้นิ้วมาที่ทานากะ...ท่าอะไรของเจ้านั่นอีกล่ะเนี่ย?

        "งั้นวันอาทิตย์นี้ไปที่บ้านนายได้ไหมไดสุเกะ?" ยูมิโกะถามผม ทำไมต้องทำสายตาคาดหวังขนาดนั้นด้วยล่ะ?

        "มันก็ได้อยู่หรอกนะ...เเต่ว่าทำไมต้องเป็นบ้านฉันล่ะ?" บ้านคนอื่นไม่ได้หรือไงกัน?

        "ก็เเม่นายไม่อยู่บ้านนี่!" เธอตอบทันควัน รู้ดีจริงนะเธอ...

        "ว่าเเต่ หนังที่อยากไปดูนี่ เรื่องอะไรเหรอ?" ผมถามต่อ ถ้าหนังไม่น่าสนใจจะได้ปฏิเสธไปซะตั้งเเต่ตอนนี้เลย

        เสียงเล็กๆดังขึ้นมาเป็นคำตอบ "อ...เอ่อ...เป็นเรื่องของมนุษย์กลายพันธุ์ที่เป็นอมตะน่ะจ้ะ เขาเดินทางมาเพื่อทำอะไรบางอย่างที่ญี่ปุ่น ชื่อเรื่องก็ วูฟล์เวอร์..."

        "อ้อๆ" ผมรีบตัดบท "เรื่องนั้นน่าสนใจนะ เอาไว้ทำการบ้านปิดเทอมเสร็จเเล้วไปดูด้วยกันนะ" 

        "สรุปว่าวันอาทิตย์นี้ไปทำการบ้านที่บ้านโมริคุงได้ใช่ไหม?" ทานากะย้ำคำตอบ เขาขยับเเว่นที่เลื่อนออกมาจากตำเเหน่งให้เขาที่

        "อย่าไปป่วนให้ฉันมีงานบ้านต้องทำเพิ่มขึ้นก็เเล้วกัน..." ผมถอนหายใจ ยังจำคราวก่อนที่ไปฉลองที่เจ้าเอ็นโดได้ลงเป็นตัวจริงในการเเข่งฟุตบอลระดับเขตที่บ้านผมได้อยู่เลย สุดท้ายผมก็ต้องเก็บกวาดคนเดียว อืม...จะถือว่าเก็บกวาดคนเดียวได้ไหมนะ ความจริงคือมีคนที่อยากอยู่ช่วยเเหละนะ เเต่ผมเกรงใจอยู่จึงบอกว่าจะทำเอง

        "เย่ๆ มิตจัง! ได้ไปบ้านไดสุเกะด้วยล่ะ ดีใจไหม?" ยูมิโกะกระโดดกอดเด็กสาวร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ

        "ท...ทำไมฉันต้องดีใจด้วยล่ะ!?" เด็กสาวร่างเล็กถามขึ้น ด้วยท่าทางอยู่ไม่สุขของเธอบวกกับด้วยความที่เธอเป็นคนตัวเล็กน่ารักน่ากอด ทำให้เธอดูน่ารักเพิ่มขึ้นจากที่น่ารักอยู่เเล้วขึ้นไปอีก เเต่ผมก็เห็นด้วยนะ ไปบ้านผมมันสนุกตรงไหนกัน?

        "ต...เเต่ถ้าไดสุเกะคุงไม่มีปัญหาก็ขอรบกวนด้วยนะจ๊ะ" เธอพูดต่อ จริงสิ! ผมลืมเเนะนำเธอคนนี้ไปเลย เธอคนนี้คือ มิซูโนะ ยูมิ เพื่อนอีกคนในก๊วนผมเอง เธอเป็นคนตัวเล็ก บอบบาง น่าเเกล้งน่าหยอกเป็นที่สุด เลยมักถูกคนอืนเเกล้งอยู่บ่อยๆ เเต่เธอเป็นคนน่ารักจริงๆนะ 

        เธอเป็นคนขี้อายเล็กน้อย เเต่ถึงจะเป็นเเบบนั้นเเต่เธอก็เป็นคนที่พึ่งพาได้มากทีเดียว รู้สึกเธอจะอยู่ชมรมวิจัยความรัก ชมรมประหลาดๆที่มีเป้าหมายในการวิจัยความรักให้เข้าใจอย่างถ้องเเท้  ถึงจะจุดประสงค์จะดูงงๆก็เถอะ เเต่ชมรมนี้มีชื่อเสียงในการปรึกษาปัญหาหัวใจของนักเรียนหญิงโรงเรียนผมมากทีเดียว (มีข่าวลือว่ามีครูบางคนก็เเอบไปปรึกษาด้วย) ชมรมนี้ถูกคนในโรงเรียนเรียกสั้นๆว่า "Love lab"

       "งั้นเป็นอันตกลง วันอาทิตย์นี้เจอกันที่บ้านไดสุเกะโลด!" เจ้าเอ็นโดที่ดูคึกคักกว่าใครพูด

       ...ลาก่อนความสุขวันอาทิตย์เเรกของปิดเทอมหน้าร้อนของผม ผมโบกมือลามันอยู่ในใจ...เเต่ช่างเถอะ ยังไงซะก็ยังมีวันเสาร์ที่เเสนสงบอยู่!

       "ถ้าตกลงกันเรียบร้อยเเล้วก็กลับบ้านกันเถอะ คนอื่นๆก็ทยอยกลับบ้านกันหมดเเล้วนะ" ทานากะมองไปรอบห้องที่เหลือนักเรียนอยู่ไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่มีกิจกรรมชมรมต้องทำ

       ...อนึ่ง ผมเเละทานากะอยู่ชมรมกลับบ้านถ้ามีใครสงสัย ดังนั้นตอนปิดเทอมจึงไม่มีกิจกรรมชมรมใดๆทั้งสิ้น ชมรมหนังสือพิมพ์กับ love lab ก็ไม่มีกิจกรรมชมรม ก็เหลือเเค่เจ้าเอ็นโดที่ต้องมาซ้อมเเข่งฟุตบอลเขตตอนปิดเทอม

       "นั่นสินะ กลับกันเถอะ" ยูมิโกะเห็นด้วยกันทานากะ

       พวกผมเดินออกมาจากโรงเรียนในขณะที่คุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อย เฮ้อ...ทำไมเเสงเเดดมันถึงได้เเรงขนาดนี้เนี่ย จะละลายล่ะครับ... 

       "ถ้างั้นพวกฉันกลับล่ะนะ ไดสุเกะ" เอ็นโดพูดขึ้นเมื่อเดินพ้นประตูโรงเรียนมา...ใช่เเล้วครับ บ้านผมนั้นอยู่คนละทิศกับเพื่อน ๆ ของผม ดังนั้นส่วนใหญ่ผมจึงต้องเดินกลับบ้านคนเดียว จริง ๆ มียูมิที่บ้านอยู่ละแวกใกล้ ๆ กันแต่ว่าวันนี้เธอมีแวะเข้าชมรมเลยไม่ได้กลับพร้อมกัน

       "อืม เจอกันวันอาทิตย์นะ" ผมยิ้มให้เพื่อนๆของผม

       "รักษาตัวด้วยนะ" ทานากะพูด

       "ซ่อนหนังสือลามกให้ดีๆล่ะ วันอาทิตย์ฉันจะไปสำรวจ หึหึ" ยูมิโกะยิ้มอย่างนึกสนุก เธอทำหน้าชั่วร้ายเหมือนตัวร้ายที่เห็นได้บ่อยๆในการ์ตูน...เชิญเลยเธอ ฉันไม่มีของเเบบนั้นหรอก

       "เจอกันเน้อ ไดสุเกะ!" ปิดท้ายด้วยคำพูดของเอ็นโด เเล้วผมก็เเยกทางกับเพื่อนๆของผม

       "วันนี้ทำอะไรกินดีนะ? ขี้เกียจไปซื้อของเเล้วด้วย ของในตู้เย็นคงมีไข่ล่ะมั้ง...ทำอะไรกินจากไข่ก็ได้ฟ่ะ..." ผมพึมพำ ให้ตายสิอากาศร้อนของหน้าร้อนมันทำเอาผมหมดอารมณ์จะทำอะไรต่อมิอะไรไปเลย

       เเละต้องขอบอกตรงนี้เลยนะครับว่าผมทำอาหารอร่อย เพราะเเม่ต้องออกจากบ้านไปทำงานต่างประเทศบ่อย ฝีมือการทำอาหารของผมเลยพุ่งกระฉูด

       "ให้ตายสิ รู้งี้ซื้อเนื้อกับผักตุนไว้ในตู้เย็นเยอะๆ ก็คงดี" ผมบ่นให้กับการคาดคะเนที่ผิดพลาดของผมเอง

       ผมเดินมาถึงหน้าบ้าน มันเป็นบ้านสองชั้นขนาดกลางที่ครอบครัวทั่วไปพึงมี หน้าบ้านปลูกดอกไม้ไว้สวยงาม(เเละคนดูเเลพวกมันคือผมเอง เเต่คนที่อยากปลูกคือเเม่ผมครับ...) 

       "กลับมาเเล้วครับ!" เป็นสิ่งเเรกที่ผมพูดขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในบ้าน บรรยากาศในบ้านเงียบสงบ มีเพียงเสียงถอดรองเท้าของผมที่ดังก้อง มีเสียงจากด้านนอกบ้านดังมาเป็นระยะๆ

       ทั้งๆที่บรรยากาศในบ้านก็ดูไม่มีอะไรผิดปกติเเท้ๆ เเต่ผมกลับรู้สึกถึงบางอย่างที่มันไม่ปกติ นั่นคือในตัวบ้านของผมเย็นสบายอย่างน่าประหลาด

       ผมสลัดความคิดประหลาดๆออกไป อากาศร้อนข้างนอกคงทำผมประสาทหลอน...

       ผมเดินเข้าไปในห้องครัวหยิบเเก้วน้ำจากในตู้ เพราะอากาศร้อนเลยอยากดื่มอะไรเย็นๆขึ้นมา เมื่อวานคั้นน้ำส้มไว้พอดี ในช่องเเช่เเข็งก็มีไอศกรีมอยู่หลายเเท่ง

       ...ผมคงจะรู้สึกไปเองที่คิดว่า ไอ้ความเย็นที่ผิดปกตินี่มันเเผ่ออกมาจากตู้เย็น ผมปิดตู้เย็นไม่สนิทเหรอ? ก็ไม่น่าใช่...

       เมื่อจับที่ที่เปิดตู้เย็น ก็ต้องดึงมือกลับทั้งที มันเย็นอย่างกับน้ำเเข็ง! มันผิดปกติเกินไปเเล้ว...

       ใจของผมเต้นรัว ในหัวจินตนาการต่างๆนานาว่าอาจมี "อะไร" บางอย่างอยู่ในตู้เย็น

       "บ้าน่า...มันจะมีอะไรอยู่ในตู้เย็นไปได้ยังไงกัน นี่ไม่ใช่นิยายหรือเเฟนฟิคซักหน่อย" ผมพูดปลอบใจตัวเองให้หายกลัว มือค่อยๆดึงประตูตู้เย็นให้เปิดออก เเล้วผมก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น...

       เบื้องหน้าของผม คือสาวน้อยผมฟ้าผูกโบว์น่ารักในชุดกระโปรงสีฟ้ามีเเถบขาวคาดเป็นบางจุด ผิวขาวราวกับหิมะ ตัวเล็ก เรียกได้เต็มปากว่าน่ารัก เธอไม่ใส่รองเท้า ที่หลังมีปีกเเปลกๆอยู่ เธอนอนขดอยู่ในตู้เย็น กระโปรงเลิกขึ้นเล็กน้อยเผยให้เห็นอะไรบางอย่างด้านใน เเต่ผมไม่มีเวลาไปสนใจมัน เธอส่งเสียงหายใจเป็นจังหวะ

       นี่มันเรื่องตลกอะไรกันเนี่ย? เเถมที่สำคัญพอเปิดประตูตู้เย็นออก ไอเย็นก็ยิ่งเเผ่ออกมา นี่หรือว่ายัยนี่เป็นคนปล่อยไอเย็นขนาดนี้ออกมาเรอะ!? เเล้วไอ้ปีกเเปลกๆที่หลังนั่นมันก็สมจริงจนดูไม่เหมือนคอสเพลย์เเล้ว!

       ...เธอคือตัวอะไรกันเนี่ย? ผมคิดโดยที่ยังไม่ละสายตาไปจากเธอ

       เปลือกตาของเธอค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆ ดวงตาสีไอซ์บลูที่ดูสะลึมสะลือ...เเละในวินาทีนั้น ผมก็สัมผัสได้ถึงความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้

       ...ให้ตายสิ ลาก่อนนะ ปิดเทอมหน้าร้อนของผม...
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×