คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น
ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง สำหรับเอลีน หรือ เอลิกา ชีวิตจริงในโรงเรียนแห่งนี้เป็นเพียงแค่เด็กสาวแสนเฉิ่มเชย
ใส่แว่นหนาเตอะ เหมือนศาสตราจารย์ ดังนั้นนักเรียนชายในห้องเรียนเดียวกันจึงล้อเลียนเธออยู่บ่อยครั้ง
ว่าเป็นมนุษย์ป้า แต่เธอไม่ค่อยกลัวพวกผู้ชายล้อเลียน
จึงได้ต่อปากต่อคำอยู่เป็นประจำ
"นี่ป้า ป่านนี้แล้วยังหาแฟนไม่ได้ หน้าตาและนิสัยแบบนี้ คงไม่มีใครเอาละสิ
ฮ่าฮ่าฮ่า"
"นี่ ฉันจะมีแฟนหรือไม่มี แล้วเกี่ยวอะไรกับพวกนายไม่ทราบยะ หรือว่าพวกนายหาแฟนไม่ได้ใช่ไหมล่ะ
ถึงได้มาล้อเลียนคนอื่นเขาแบบนี้ หรือว่าจริงจริงแล้ว อยากจีบฉันใช่ไหม"
"เฮ้อ อย่างเธอเนี่ยนะ ผู้ชายเห็นก็เผ่นหนีหายไปหมดแล้ว
ผู้หญิงอย่างเธอใครจะไปเอา สวยก็ไม่สวย หน้าตาก็บ้านๆ
ใส่แว่นหนาอย่างกับเรียนดอกเตอร์มายังไงยังงั้นล่ะ ถึงยังไงเธอก็สวยสู้เอมิลี่ก็ไม่ได้อยู่แล้ว
ผู้หญิงอะไร หน้าตาก็สวย ดีไปหมด อย่างเธอก็แค่ระดับปลายแถวเท่านั้นเอง ฮ่าฮ่าฮ่า"
แค่คำพูดนี้ก็สร้างความเจ็บใจให้เอลีนมาก
เมื่อถูกเปรียบเทียบกับเอมิลี่ ดาวประจำห้องของเธอ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเอมิลี่นิสัยอย่างไร
ผู้หญิงคนนี้ดีแต่หน้าตาเท่านั้นแหละ แต่นิสัยไม่ได้ดีอย่างที่ใครคิด
เอาแต่ใจตัวเอง ตามสไตล์ลูกคุณหนู
เพราะพ่อของเธอเป็นประธานกรรมการบริษัทผลิตอะไหล่รถยนต์ที่มีชื่อเสียง นอกจากนั้น
ยังชอบพูดจาดูถูก เหยียดหยาม คนที่มีฐานะทางการเงินต่ำกว่าตัวเอง
แม้แต่เอลีนยังโดนเลย ชอบเอารัดเอาเปรียบคนอื่น งานกลุ่มก็ไม่ช่วย
ยังบังคับคนอื่นให้ใส่ชื่อตัวเองเข้าในกลุ่มเป็นประจำ
แถมชอบประจบประแจงเหล่าครูอาจารย์ทุกครั้ง ที่มีการสั่งการบ้านอยู่บ่อยครั้ง
ผู้ชายพวกนี้ไม่รู้ธาตุแท้ของยัยเอมิลี่เลยหรือไรกัน หลงจนหน้ามืดตามัวไปหมด
ผู้หญิงแบบนี้สุภาษิตไทยบอกไว้ว่า ข้างนอกสุกใส แต่ข้างในตะติ๊งโหน่ง
เมื่อเอลีนจะเถียงพวกผู้ชายที่ล้อเลียน เสียงของซอนย่าก็ดังขึ้น
"เอลีน จะไปกินข้าวยัง ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว รู้มั๊ย "
"รู้แล้วจ้า เดี๋ยวฉันจะไปแล้ว ฝากไว้ก่อนเถอะพวกนาย
แล้วฉันจะเอาคืนให้เจ็บแสบนะคอยดู" เธอจึงวิ่งตามซอนย่าไปที่โรงอาหาร
ระหว่างทางพวกเธอก็ได้พูดถึงเหตุการณ์ในห้องเรียน
“นี่เธอ จะไปเถียงกับพวกนั้นทำไมเล่า เถียงไปก็ไร้ประโยชน์เปล่าๆ
พวกนี้นะถูกยัยเอมิลี่โปรยเสน่ห์ไปหมดแล้ว”
“จะไม่ให้เถียงได้ไงล่ะ เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่า ยัยนั่นนิสัยอย่างไร
และฉันไม่ได้ไปทำอะไรพวกนั้นเลย ล้อเลียนกันอยู่ได้ ไม่เบื่อหรือไงกัน”
“ไม่ต้องไปสนใจคำพูดของพวกนั้นหรอก ใครจะดีหรือไม่ดีให้ดูที่ใจ
เธอนะเอาเวลาที่เถียงเจ้าพวกนั้น ไปอย่างอื่นดีกว่าเนาะ”
“จ้า รู้แล้วค่ะ”
ซอนย่า หรือสาลินี เป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยประถมจนถึงมัธยมปลาย
พ่อแม่ของเธอเป็นคนไทยนี่แหละ ไม่ใช่ลูกครึ่งอย่างที่ใครคิดกัน ส่วนชื่อเล่นว่า
ซอนย่า นั้น
เพื่อนรักของเอลีนได้เล่าเรื่องให้ฟังว่าคนที่ตั้งชื่อเล่นให้เป็นเพื่อนสาวชาวอเมริกันของแม่เธอชื่อว่า
แคโรไลน์ มาเยี่ยมที่โรงพยาบาลที่แม่ของเธอมาคลอดลูกที่นี่ จึงขอตั้งชื่อเล่นนี้
เพื่อระลึกถึงคุณย่าของน้าแคโรไลน์ที่เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน เพราะอย่างนี้
เวลาที่พวกผู้ชายในห้องก็ชอบล้อเลียนซอนย่าเหมือนกันว่า ชื่อฝรั่ง
แต่หน้าตาไม่สมกับชื่อเลย แต่ซอนย่าไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น
เพราะถือคติตามที่พ่อแม่ได้สอนไว้ว่า เวรระงับด้วยการไม่จองเวร และฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาอีก
และนอกจากเป็นคนใจเย็นแล้ว นิสัยอีกด้านหนึ่งของเพื่อนรักคนนี้ เป็นคนร่าเริง
สนุกสนานเฮฮา ตามประสาหญิงโก๊ะ คนที่รู้นิสัยอีกด้านหนึ่งมีแค่เอลีน
และนายปีหรือปิติศักดิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยอนุบาลจนถึงมัธยมปลายของเอลีน
“นี่ซอนย่า รู้เปล่าว่านายปีช่วงนี้เป็นอะไรไป วันๆ
เห็นนั่งเล่นเกมส์มือถือตลอดเลย บางครั้งก็เห็นนั่งเล่นเกมส์ไป ด่าไปด้วย
เวลาเรียนไม่จะเป็นอย่างนี้เลย”
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วทำไมเธอไม่ถามเจ้าตัวโดยตรง มาตรงนู่นแล้ว”
“พูดถึงผี ผีก็มาทันทีเลย” เอลีนพึมพำออกมา
ในขณะเดียวกันปีเดินออกจากโรงอาหารสวนทางกับพวกเธอตรงทางเดินพอดี
เมื่อเห็นหน้าจึงเข้าไปทักทายทันทีเลย
“ไงพวกเธอ ทำไมเพิ่งมากินข้าวเวลานี้เนี่ย”
“พอดีเอลีนมีเรื่องกับพวกผู้ชายในห้อง ก็เลยลงมากินข้าวช้า
แล้วนายล่ะ กินเสร็จแล้วเหรอ” ซอนย่าตอบ
“กินเสร็จแล้ว นี่พวกเธอรู้หรือเปล่า
ว่ามีกลุ่มนักศึกษามาทำหนังสั้นที่นี่ด้วย เห็นมาหลายคนเลย และมีดารา
นางแบบชื่อดังแสดงเรื่องนี้ด้วย รู้สึกจะชื่อว่า เอมมี่ หรืออะไรนั่นแหละ
อีกคนก็เป็นดาราชื่อดังเหมือนกัน ชื่อว่า ส้ม คนรุมล้อมขอลายเซ็นกันใหญ่เลย
ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ข้างสนามบอลกลางแจ้ง”
“ว้าย ฉันไม่คิดว่าเอมมี่จะมาด้วย ปลื้มสุดๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอหาสมุดกับปากกา จะได้ไปขอลายเซ็นกับเขาด้วย เอลีน
ฉันขอยืมปากกาของเธอก่อนได้มั๊ย” ซอนย่าพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ได้สิ” เอลีนตอบรับ และยืนปากกาด้ามโปรดให้ซอนย่า
“ขอบใจจ๊ะ เดี๋ยวเอามาคืน”
ซอนย่ารีบวิ่งไปที่บริเวณที่มีคนรุมขอลายเซ็นตามที่ปีบอกไว้ทันที
“เฮ้อ พอดารามาโรงเรียนทีไร รีบไปขอลายเซ็นทันทีเลย
จิตวิญญาณติ่งเข้าสิงเรียบร้อยแล้ว เพื่อนเรา” เอลีนบ่นพึมพำไป
“ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวเขาจะเริ่มถ่ายทำต่อแล้วล่ะ
ไปกินข้าวได้แล้ว เห็นสภาพแกตอนนี้สิไม่ต่างอะไรจากศพเดินได้เลย”
“เออ รู้แล้วน่า นี่แกจะไปไหนเนี่ย”
“จะไปห้องเรียนเลย ถามทำไม”
“ก็พักนี้แกดูแปลกๆ เป็นอะไรหรือเปล่า
นั่งเล่นเกมส์ทั้งวันไม่เบื่อหรือไง”
“ใครบอกว่าเล่นเกมส์ทั้งวัน ฉันเล่นเฉพาะตอนเที่ยง
เกมส์ที่เล่นดังจะตาย รู้จักไหม ROV”
“อ๋อ เกมส์เล่นฆ่าปีศาจ แล้วอัพเลเวลได้นะหรอ”
“ประมาณนั้น พักนี้ทีมที่ฉันเล่นในเกมส์ดันสู้แพ้
ทีมของคนที่ชื่อว่า Mr.Spooky เป็นใครจากไหนก็ไม่รู้ แต่เขาพิมพ์ข้อความมาหาทุกคนในทีมด้วย”
“แกได้ก็อปข้อความนั้นมาหรือเปล่าล่ะ”
“ได้ เอ้านี่” ปีเอาข้อความที่ Mr.Spooky
ได้ส่งมาให้เอลีนอ่าน ข้อความมีดังนี้
“ถ้าพวกนายอยากเอาชนะทีมฉัน ฉันจะแนะนำวิธีในการสู้ให้ชนะ
แต่มีเงื่อนไขว่า พวกนายจะต้องทำภารกิจ 3 อย่าง ให้ครบ
ถ้าใครทำสำเร็จ จะแนะนำวิธีให้ฟรี แต่ถ้าทำไม่สำเร็จ พวกนายจะต้อง...
มีการแจ้งภารกิจให้ทราบก่อน 1 วัน แต่ละภารกิจจะมีช่วงเวลากำหนด
พวกนายต้องทำภารกิจให้เสร็จตามช่วงเวลานั้นๆด้วย
มิฉะนั้นก็ถือว่าทำไม่สำเร็จเช่นกัน ”
“ภารกิจที่ 1 คนอยากดัง
พวกนายจะต้องส่งข้อความไปหาดาราดังที่จะมาโรงเรียนในวันพรุ่งนี้
โดยข้อความที่จะให้พวกนายไปส่งอยู่ในชั้นหนังสือนิยายของห้องสมุดชั้น 5 เมื่อหาเจอแล้วยื่นให้ดาราตามรูปต่อไปนี้ทันที”
หน้าถัดมาเป็นรูปเอมมี่ และส้ม เอลีนจึงสงสัย ทำไม Mr.Spooky รู้ได้อย่างไรว่าจะมีดารามาที่โรงเรียนนี้
วันนี้ แถมยังสร้างเงื่อนไขพิลึกๆขึ้นมาเพื่ออะไร ต้องการจะทำอะไรกันแน่
“ปี แกเคยถามไหมว่า ชื่อจริงของ Mr.Spooky เป็นใคร
มาจากไหน หน้าตาอย่างไร”
“เคยถาม เขาตอบว่า มาจากดินแดนลึกลับ ส่วนหน้าตา ไม่ต้องถาม
ใครมันจะเอารูปตัวเองมาให้เห็นละ นี่ไง หน้าตาแบบ”
ปีเลยโชว์หน้าตาของ Mr.Spooky ในมือถือให้เอลีนดู
ซึ่งรูปที่ใช้เล่นเกมส์นั้น ไม่ใช่รูปจริงของตัวเองแน่ๆ เอารูปผีผมยาวลงมาปิดหน้าปิดตาใส่
เอามาจากหนังเรื่องจูออนผีดุชัดๆเลย
“เฮ้อ มิน่าล่ะ ดูท่าแล้วจะต้องเป็นพวกโรคจิตแน่เลย เนี่ย
แกระวังตัวหน่อยล่ะกันนะ ฉันไปล่ะ”
“เออ ไปเถอะ อย่าลืมชวนซอนย่าไปด้วยนะ
ป่านนี้คงหน้ามืดตาลายตรงบริเวณที่เขาขอลายเซ็นกันตรงนั้นแล้ว”
แล้วนายปีเดินไปที่ห้องเรียนทันที ส่วนเอลีนก็เดินไปที่โรงอาหาร ไปสั่งอาหารกับแม่ค้าร้านประจำในโรงอาหารทันที
“ ป้าค่ะ เอาพะแนงหมู กับ ไข่ดาวราดข้าว เท่าไหร่ค่ะ”
“ 30 บาท จ๊ะหนู”
เมื่อจ่ายเงินค่าอาหารเสร็จแล้ว จึงหาที่นั่งกินข้าว ระหว่างนั้นก็พบกับกลุ่มนักศึกษามาทำโปรเจ็คภาพยนตร์เรื่องสั้นสำหรับส่งประกวด
เรื่อง รักวัยละอ่อน เนื้อหาเกี่ยวกับความรักของนักเรียนวัยรุ่น
และการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ซึ่งตอนนี้กำลังถ่ายทำในโรงอาหาร
ฉากที่พระเอกกับนางเอกกำลังรับประทานอาหารในโรงอาหาร ในขณะนั้นตัวร้ายก็กลั่นแกล้งนางเอก
โดยเทน้ำส้มใส่จานข้าวแกงของนางเอก เพื่อแก้แค้นที่เสียหน้ากับเพื่อนในห้องเรียน และลากพระเอกมารับประทานอาหารกับตน
เธอได้เห็นทีมงานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องสั้น มี 7 คน
หัวหน้าทีมคือ ป็อก นักศึกษาปี 4 ผู้ชายผมยาวมีผ้าโพกหัว
แต่งตัวเซอร์นิดๆ แถมทำตัวอาร์ติสอยู่ตลอดเวลา คนนี้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้นี่เอง
ส่วนหญิงสาวผมสีน้ำตาลมะฮอกกานียาวดัดลอน ใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลาย ชื่อเอมมี่
อยู่ปี 4 เหมือนกับพี่ป๊อก เธอเป็นดารา นางแบบ ชื่อดัง
ที่ซอนย่าแอบปลาบปลื้มในฝีมือการแสดงของเธอ เธอได้รับบทเป็นนางเอกของเรื่อง เป็นไม้เบื่อไม้เมากับส้ม นักศึกษาปีที่ 3 เนื่องจากส้มได้แย่งบทนางเอกละครเรื่องที่กำลังฉายทางโทรทัศน์ไป
ซึ่งบทนางเอกละครเรื่องนี้ได้มีการพูดว่าตัวเต็งที่จะได้รับบทนี้ต้องเอมมี่แน่นอน
แต่คุณพิทักษ์ ผู้กำกับละครนั้นต้องการนางเอกหน้าใหม่ จึงได้ทำการออดิชั่นบทนี้
โดยคัดเลือกนักแสดงหญิงจำนวน 500 คน
และเอมมี่ก็เป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่ได้เข้าร่วมการออดิชั่นครั้งนั้นด้วยเช่นกัน
ผลปรากฏว่าคนที่ได้บทนี้กลับกลายเป็นส้ม เป็นนักแสดงเหมือนกับเธอ
แถมยังเป็นรุ่นน้องในมหาวิทยาลัยของเธอได้บทนี้ไปครอง ส่วนเอมมี่ก็ได้รับบทเป็นนางร้ายในละครเรื่องนี้อีกด้วย
นั้นได้สร้างความแค้นกับเธอ
แต่ยังไม่มากเท่ากับเรื่องที่เธอได้ยินที่ช่างแต่งหน้าของกองถ่ายพูดกับสไตลิสต์ว่า
ที่ส้มได้บทนางเอกเรื่องนี้ได้ ก็เพราะว่าพ่อของเธอเป็นบอร์ดของสถานีโทรทัศน์ ช่อง
10 ได้เรียกผู้จัดละครและผู้กำกับไปพูดคุยกันเป็นกันส่วนตัว
จึงทำให้เอมมี่เกิดความแค้นทวีคูณมากขึ้น ผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆเอมมี่นั้น
ชื่อว่า โอม อยู่ปี 3 หน้าดีราวกับเป็นพระเอกช่อง 7
อ็อฟ ชนะพล เลย เสียแต่ว่าเขาตัวสูงมากประมาณ 180 กว่า ส่วนผู้ชายคนที่ถือกล้องถ่ายวีดีโออยู่นั้น ชื่อ เก่ง อยู่ปี 4
ส่วนผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่งตัวอย่างกับทอมบอย
คนนี้แหละเป็นรุ่นพี่ที่เคยจบจากที่นี่ เอลีนเคยเจอเขาที่งานเลี้ยงรุ่น
เขาชื่อผึ้ง อยู่ปี 3 หน้าตาสะสวย ถ้าเทียบกับเอมี่ละก็
พี่ผึ้งสวยกว่า นิสัยดีกว่าตั้งเยอะ ส่วนผู้ชายหน้าตาดี
แต่ไม่หล่อเหลาเทียบเท่านายโอม สูงประมาณ 180 กว่า
น่าจะเป็นนักกีฬามากกว่าเป็นคนตัดต่อหนังซะอีก ชื่อว่าพี่เบนซ์ ปี 4 พี่ผึ้งแอบชอบพี่คนนี้อยู่ แต่ไม่กล้าบอก เพราะว่าเขาชอบยัยเอมี่ปากร้าย
ขณะที่เอลีนรีบวิ่งไปโรงอาหารอยู่นั้น
ก็เผลอสะดุดก้อนหินไปชนเอมี่เข้า น้ำส้มที่ถือมาด้วยนั้นกระเด็นใส่เสื้อสุดสวยของเธอ
"ว้าย นังเด็กบ้า รู้ไหมแกทำเสื้อสุดสวยของฉันเลอะ
แกตายแน่"
"หนูขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆนะค่ะ"
"ใจเย็นๆน่า เอมมี่ น้องเขาไม่ได้ตั้งใจทำนี่
ก็ยกโทษให้น้องเขาละกัน"
"ไม่ค่ะ เอมี่ไม่ยอมนะโอม
เสื้อตัวใหม่ของมี่อุตส่าห์ซื้อมา ราคาแพงด้วย"
"แค่เสื้อนะ ไม่เป็นไรหรอก แค่ซักก็ออกแล้ว"
"ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆ กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ยอม~~"
เสียงเหล่านี้มันกวนสมาธิในการทำงานของหัวหน้าทีมอย่างนายป๊อก
"นี่เอมี่ ถ้าเธอไม่หยุดละก็ ฉันจะไล่ออกจากกองถ่ายเดี๋ยวนี้ก็ได้
เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย
เชิญไปทะเลาะข้างนอก คนกำลังทำงานอยู่ เข้าจายมั้ย"
"เออ เข้าใจแล้ว ฉันยกโทษให้เธอ แต่ถ้ามีครั้งต่อไปอีกละก็
แกตายแน่"
"เหรอค่ะ ถ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้ว หนูขอตัวก่อนนะค่ะ
เผอิญว่ามีธุระนิดหน่อย"
เมื่อเอลีนเดินลิ่วไปทางที่จะไปโรงอาหารนั้น เอมี่ก็เอ่ยถ้อยคำด้วยความอาฆาตว่า
"ฝากไว้ก่อนเถอะนังเด็กเมื่อวานซืน"
ความคิดเห็น