Butter Part Love พักหัวใจยัยตัวร้าย ไว้กับนายน่ารัก - Butter Part Love พักหัวใจยัยตัวร้าย ไว้กับนายน่ารัก นิยาย Butter Part Love พักหัวใจยัยตัวร้าย ไว้กับนายน่ารัก : Dek-D.com - Writer

    Butter Part Love พักหัวใจยัยตัวร้าย ไว้กับนายน่ารัก

    ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ แต่งเป็นเรื่องแรกค่ะ ... เป็นยังไงก็ติชมกันได้ จะเอาไปปรับปรุงค่ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    67

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    67

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ต.ค. 56 / 22:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    Butter Part Love พักหัวใจยัยตัวร้าย ไว้กับนายน่ารัก

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      1

      “แม่จะให้ลูกไปอยู่กับเพื่อนพ่อที่ต่างจังหวัด”

      “เอ๋?”

      “เพราะพ่อกับแม่จะไปฮันนีมูน!!! ที่นอร์เวย์!!!!

      “หา?”

      “นะลูกนะ พ่อกับแม่จะไปย้อนอดีตวันวาน ตอนที่เพิ่งจะแต่งงานกันใหม่ๆ ดังนั้นลูกจะต้องไปอยู่กับเพื่อนพ่อ”

      “แล้วทำไมหนูต้องไปอยู่กับเพื่อนพ่อด้วยล่ะคะ หนูโตแล้วนะคะแม่ หนูอยู่คนเดียวได้”

      “แม่กลัวว่าถ้าลูกอยู่คนเดียวจะเหงาเอาได้ ไปอยู่กับเพื่อนพ่อน่ะดีแล้วลูก”

      “เอางั้นก็ได้ค่ะ แล้ว...แม่จะไปกี่วันคะ?”

      “สาม”

      “สามวัน? แค่สามวัน จะไปทำไมคะเนี่ย...”

      “สามเดือนจ้ะ”

      “เหวอ... O_o

      ...

      เฮ้อ...ฉันนึกย้อนไปถึงบทสนทนาเมื่อสองวันก่อน ป่านนี้พ่อกับแม่คงสวีทหวานแหววท่ามกลางบรรยากาศหนาวที่มีหิมะปกคลุมอยู่สินะ

      ฉันขับรถมาตามแผนที่ที่แม่ให้ฉันไว้ จะว่าไป...บ้านหลังนี้ก็น่าจะมีอะไรให้ฉันทำกันเบื่อมากกว่าตอนอยู่บ้านอ่ะนะ

      ครืด...

      ฉันจอดรถก่อนจะเปิดประตูลงมาแล้วก็พบกับคนสวนคนหนึ่ง

      “มาหาใครครับ”

      “มาหาคุณอาค่ะ”

      “เชิญด้านในครับ” คนสวนบอกก่อนจะเดินนำหน้าเข้าสู่ตัวบ้านไป ภายในบ้านหลังใหญ่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม มีเฟอร์นิเจอร์เนื้อดีจัดวางอยู่อย่างเป็นระเบียบ และทุกซอกทุกมุมก็แทบจะไม่มีเศษฝุ่นหรือหยากไย่เลยแม้แต่ชิ้นเดียว...

      บ้านสะอาดมากอ่ะ ^o^

      “สวัสดีค่ะ” ฉันเอ่ยทักทายคนตรงหน้าที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์พลางจิบกาแฟไปด้วย นี่คงจะเป็นเพื่อนพ่อสินะ ดูจากภายนอกแล้วน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อ

      “สวัสดีจ้ะ นี่คงจะเป็นลูกสาวของราชิตย์ใช่มั้ย”

      “ค่ะ คุณก็คงจะเป็น...”

      “ใช่แล้ว ฉันเป็นเพื่อนของพ่อหนู ฉันชื่อไพโรจน์” เพื่อนของพ่อดูท่าทางใจดีมากเลยอ่ะ แต่ทำไมไม่เหมือนพ่อฉันเลย พ่อฉันน่ะขี้บ่น แถมยังเจ้าระเบียบอีก ชอบว่าฉันเป็นเด็กๆอยู่เรื่อยเลย >_

      “หนูชื่อบัตเตอร์ค่ะ”

      “แล้วเสื้อผ้าข้าวของล่ะ”

      “อ๋อ ยังอยู่ในรถอยู่เลยค่ะ”

      “งั้นอาจะให้นายไก่เอาของขึ้นไปเก็บบนห้องให้ละกัน” คุณอาบอกก่อนจะหันไปหาคนสวนที่ยังคงยืนรอคำสั่งจากเจ้านายอยู่ที่หน้าประตูบ้าน

      “เดี๋ยวเอาของไปเก็บให้หนูบัตเตอร์ด้วยละกันนะนายไก่”

      “ครับ” นายไก่รับคำสั่งก่อนจะวิ่งหน้าตั้งไปที่รถของฉันทันที

      “เชิญนั่งก่อนสิหนูบัตเตอร์” แหม...กว่าจะเชิญนั่ง ปล่อยให้หนูยืนอยู่ตั้งนานนะคะคุณอา = =!

      “ขอบคุณค่ะ”

      “เดี๋ยวอาจะต้องไปทำธุระข้างนอก ขอโทษด้วยละกันนะ วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลย ยังไงก็...เดินเล่นสำรวจรอบๆบ้านได้ตามสบาย”

      “ค่ะ” ฉันตอบคุณอาก่อนจะมองตามหลังของท่านที่กำลังก้าวออกจากประตูบ้านไป อายุมากขนาดนี้แล้วยังต้องทำงานอีก ไม่เหนื่อยรึยังไงนะ?

      ในขณะที่ฉันคิดอะไรอยู่เพลินๆ นายไก่ก็โผล่มาพอดี

      “คุณครับ ผมเอากระเป๋าของคุณขึ้นไปวางหน้าห้องแล้วนะครับ เชิญตามสบายนะครับ”

      “ขอบคุณมากนะคะ” นายไก่ยิ้มจางๆให้ก่อนจะเดินหายไปยังสวนหลังบ้าน นี่ตกลงไม่มีใครอยู่เลยจริงๆหรอเนี่ย...มันน่าจะมีพวกแม่บ้านสัก 5-6 คนบ้างสิ อะไรกัน บ้านหลังใหญ่ แต่มีแค่คนสวนคนเดียวเนี่ยนะ?!

      ฉันส่ายหัวเล็กน้อยอย่างงงๆ ช่างเถอะ...จะมีแม่บ้านเยอะ หรือไม่มีเลยมันก็ไม่ได้หนักหัวฉันนี่ ฉันเดินขึ้นไปบนชั้นสองก่อนจะเดินหากระเป๋าเดินทางที่นายไก่วางไว้หน้าห้อง

      ฉึก!!

      อั้ยย่ะ!!

      ใครมันมาค้นข้าวของในกระเป๋าฉันจนกระจัดกระจายแบบนี้!!! ให้ตายเหอะ!

      ฉันรีบวิ่งไปที่กระเป๋าตัวเองทันที ก่อนจะรีบยัดเสื้อผ้าข้าวของให้เข้าไปกองอยู่ข้างในกระเป๋าอย่างเดิม ฉันจะต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าใครมันมาค้นกระเป๋าฉันแบบนี้!!! ฮึ่ย...ดีนะที่ชุดชั้นในของฉันมันไม่เล็ดลอดออกมาจากกระเป๋าน่ะ เกิดใครมาเห็นเข้า...ยี้!! ฉันคงอายมากอ่ะ T^T

      ซอกแซกๆๆ...

      หืม...

      งุงิๆๆๆ

      เสียงอะไรน่ะ?

      มีคนอยู่ในห้องข้างๆฉันงั้นหรอ? ไหนคุณอาบอกว่าไม่มีคนอยู่ที่บ้านไง ช่างเหอะ ฉันไม่สนใจเรื่องที่คนอยู่บ้าน หรือไม่อยู่บ้านแล้ว ฉันสนแต่ว่าตอนนี้...ใครเป็นคนมารื้อกระเป๋าฉัน!!!

      ฉันน่าจะลองถามคนที่อยู่ในห้องนี้สินะ เผื่อเขาจะรู้ก็ได้...เป็นความคิดที่ดีมากๆเลย >^

      ก๊อกๆๆ

      เงียบกริบ

      ก๊อกๆๆๆๆๆ

      เอ...ทำไมไม่มีคนมาเปิดประตู แต่ยังมีเสียงคนคุยกันอยู่ในห้องอ่ะ แล้วก็เสียงเพลงแดนซ์ด้วย อ๊า...ได้ยินอย่างนี้แล้วฉันอยากเข้าไปร่วมสนุกกับคนข้างในห้องจัง (ร่วมเต้นนะ อย่าคิดลึก)

      ดูท่าทีว่าจะไม่มีคนมาเปิดประตูจริงๆ เฮ้อ...ฉันหมดความอดทนแล้วนะ พังประตูเข้าไปดีกว่า

      พลั่ก!!!

      ฉันใช้ท่อนแขนข้างซ้ายทั้งหมดดันประตูอย่างแรง ส่งผลให้ประตูที่ไม่ได้ล็อคเปิดอ้าอย่างง่ายดาย เสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม พร้อมกับไฟเท็กซ์หลากหลายสีที่สาดส่องไปรอบห้อง สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำเอาฉันผงะเมื่อมีชายหนุ่มรูปงามกับหญิงสาวแสนสวยจำนวนมากกำลังนั่งจู๋จี๋กัน บ้างก็โยกย้ายไปตามจังหวะเพลง บ้างก็กำลังดริ้งอย่างมัวเมา แต่ที่ทำให้ฉันตกใจไปมากกว่านั้น...ทุกคนอยู่ในสภาพที่เกือบจะเปลือย ชายก็เปลือยท่อนบนแต่ถูกปิดท่อนล่างด้วยผ้าขนหนู!!!! หญิงก็นุ่งกระโจมอก!!!! อร๊าย!!!! นี่คุณอาแอบเปิดผับในบ้านงั้นเรอะ!?

      “ว้าวๆๆ มีแขกอีกคนอยากร่วมสนุก เชิญด้านในคร้าบบ...” ฉันอยากจะถอนคำพูด แงง...ฉันไม่อยากร่วมสนุกกับคนพวกนี้แล้ว!!! ToT

      2

      นายคนที่กล่าวเชิญชวนฉันเข้าไปร่วมสนุกกำลังเดินมาที่ฉัน อึ๋ย!? ท่อนบนที่เปลือยเปล่ากำลังจะเข้ามาใกล้ฉันแล้ว!!! ร่างที่บางแต่แอบแฝงด้วยกล้ามเนื้อของเขากำลังเดินดุ่มๆเข้ามาหาฉัน ทำให้ขาของฉันก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ...

      ฮือๆๆ...ไม่นะ

      กึก!

      หลังฉันชนเข้ากับประตูพอดีกับที่นายคนนั้นหยุดเดิน เขายิ้มกว้างก่อนจะพูดขึ้น

      “เชิญร่วมสนุกคร้าบบบ...” เอ่อ...จะให้ฉันตอบยังไงดี? ยังไม่มีอารมณ์งั้นหรอ?

      “ไม่ล่ะค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ พอดีเข้าห้องผิด” ฉันรีบปฏิเสธก่อนจะคว้าเข้าที่ลูกบิดประตู

      หมับ!

      หมับ!

      ฝ่ามืออุ่นๆคว้าเข้าที่มือของฉันที่กำลังจะเปิดประตู อ๊ากก!!!อย่าตามหลอกหลอนฉันได้ม้ายยย!!!

      “ปล่อยนะ!

      “เชิญร่วมสนุกกับพวกเราเถอะคร้าบบบ...” นายนั่นยังคงรั้งฉันไว้

      “ม่ายยย”

      “นะคร้าบบบ...นิดหน่อยก็ได้ ผมสัญญา...ถ้าคุณยอมร่วมสนุกกับพวกเรา ผมจะปล่อยคุณทันที” ว่าไงนะ? ปล่อยทันทีงั้นหรอ?...

      “จริงนะ?”

      “ผมไม่โกหกหรอก” แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของนายมันทำให้ฉันไม่ไว้ใจนายแล้วสิ >_

      “อืม...เอางั้นก็ได้”

      “วู้วๆ...เชิญทางนี้เลยคร้าบบบ...” นายเจ้าเล่ห์คนนั้นจูงฉันเข้าไปยังเคาท์เตอร์ ก่อนจะยื่นแก้วที่มีน้ำสีม่วงๆให้ฉัน

      “อะไรน่ะ”

      “น้ำองุ่นครับ” งั้นเหรอ? อืม...ฉันกำลังอยากกินน้ำผลไม้อยู่พอดีเลย ^^

      ฉันจิบเข้าปากเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกถึงความขม นี่มันหลอกเอาอะไรให้ฉันกินเนี่ย ToT

      พรวด!!

      “อุ้ก!” นายเจ้าเล่ห์ดันตูดแก้วให้เอียงขึ้น ส่งผลให้ไอน้ำม่วงๆไหลเข้าปากฉันจนหมดแก้ว

      “กลืนสิ”

      T^T

      “อร่อยดีออก” ฉันจำใจกลืนไอน้ำเฮงซวยลงคออย่างยากลำบาก อดทนไว้...เดี๋ยวมันก็ปล่อยเราออกจากที่นี่แล้ว

      อึก...

      “เป็นไง อร่อยมั้ย?”

      “อร่อยบ้านนายสิ ขมจะตาย แล้วจะปล่อยฉันได้รึยัง”

      “อืม...แล้วอยากถูกปล่อยรึยังล่ะ”

      “ฮึ่ม...” ฉันเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ก่อนจะเหลือบไปมองผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังแดนซ์อย่างสนุกสนาน แต่สิ่งที่สะดุดตาฉันนั่นมันไม่ใช่ไอผู้ชายคนนั้น แต่ดันเป็นเสื้อชั้นในที่นายนั่นกำลังเหวี่ยงไปตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน ฉันจำได้...ชุดชั้นในลายดอก...ของช้านนน!!!!

      “เฮ้ย...”

      “หืม?”

      ชายอีกคนปรากฏแก่สายตาผู้คนพร้อมกับเสื้อชั้นในอีกตัว เขาถือมันไว้แล้วเหวี่ยงไปตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนานเช่นกัน ฉันจำได้อีกแล้ว...ชุดชั้นในลายจุดสีชมพู...ของช้านนน!!!!

      “เฮ้ยยยย” ฉันร้องลั่นอีกครั้งที่เห็นชายอีกคนหอบชุดชั้นในอีกหลายตัวมากองตรงหน้าเพื่อนๆก่อนที่จะ...

      “วู้วๆๆ” พวกมันโยนชุดชั้นในเล่นกันอย่างสนุกสนาน นะ...นั่นมันของฉันทั้งหมดเลยนี่นา TT^TT

      “คุณ...”

      “อะไร?”

      “ผมปล่อยคุณแล้วนะ ทำไมยังไม่ออกไปจากที่นี่ล่ะคร้าบบบ...”

      “ฉัน...” โอ๊ย!! จะบอกยังไงล่ะทีนี้ นั่นมันชุดชั้นในทั้งหมดของฉันที่มีอยู่ในกระเป๋าเลยนะ! ถ้าฉันออกไปตอนนี้ ฉันก็ไม่มีใส่อ่ะดิ...

      “นี่นาย”

      “อะไรอีกล่ะคร้าบบบ...”

      “คนพวกนั้นเอาชุดชั้นในมาจากไหนอ่ะ”

      “ถามทำไม?”

      “เอ่อ...อ๋อ ฉันเห็นว่ามันสวยดีอ่ะ อยากซื้อใส่ดูบ้าง”

      “พวกเราเอามาจากกระเป๋าหน้าห้องโน้นน่ะ ไม่รู้กระเป๋าใคร จู่ๆก็มาตั้งไว้ พวกเราก็เลยค้นดู พอดีเจอของเล่น เลยเอามาเล่นคลายเครียดน่ะ” เล่น!!! คลายเครียดงั้นหรา?? แล้วเมื่อกี้นายพูดว่าพวกเราก็เลยค้นดูแสดงว่านายนี่ก็ร่วมค้นกับเขาด้วยใช่ป่ะ?? >o

      “คุณอยากได้หรอ เอามั้ยล่ะ เดี๋ยวผมไปบอกพวกนั้นให้”

      “เอาๆๆๆ เอามาเดี๋ยวนี้เลย”

      “อะ...อื้ม” นายเจ้าเล่ห์พยักหน้าหงึกๆก่อนจะเดินไปหาไอพวกที่เหวี่ยงชุดชั้นในฉันเล่น = =!!

      ฉันยืนมองนายเจ้าเล่ห์ที่กำลังเจรจากับเพื่อนของเขาเรื่องชุดชั้นในของฉัน น่าอายชะมัด ตอนแรกที่ฉันคิดว่าชุดชั้นในมันไม่เล็ดลอดออกจากกระเป๋าตอนที่มีคนมารื้อกระเป๋าฉัน แต่ที่แท้...มันเอาของที่มีค่าที่สุดไปตั้งนานแล้ว ฮึ่ย!!

      นายเจ้าเล่ห์หันมามองฉันนิดหน่อยทำเอาฉันเกือบหลบไม่ทันแน่ะ!

      “เอามาเหอะน่า”

      “แกก็ให้ยัยนั่นมาเอาเองสิวะ!” ดูเหมือนว่าฉันจะได้ยินเสียงคนทะเลาะกันนะ ^_

      “คุณ” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหู ฉันหันไปพบกับนายเจ้าเล่ห์คนเดิม อ้าว...แล้วชุดชั้นในฉันอ่ะ?

      “หืม...”

      “พวกนั้นมันบอกว่า...ถ้าคุณอยากได้คุณก็ต้องไปเอาเอง” เหอๆๆ...ทำไงดี TT^TT

      “ไม่เป็นไร ฉันไม่เอาแล้ว ลาก่อน” ฉันตัดบทก่อนจะเดินออกมาจากห้องที่ประยุกต์กลายเป็นผับไปเสียแล้ว โอเค...ฉันไม่เอาก็ได้ ก็แค่ชุดชั้นใน เก่าก็เก่า นี่รู้มั้ยว่าตัวลายจุดฉันใส่ตั้งแต่อยู่ปีสี่แล้วนะ ฉันเองก็เรียนจบมา 2 ปีแล้วด้วย ถ้าพวกแกอยากได้ ฉันก็ไม่ขัดหรอก ซื้อใหม่ก็ได้ เชอะ!!

      ฉันลากกระเป๋าที่มีน้ำหนักเบาลงเข้าไปที่ห้องที่คุณอาจัดไว้ให้ ก่อนจะจัดเก็บเสื้อผ้าใส่ไว้ในตู้ให้เรียบร้อย แล้วหลังจากนั้นฉันก็หยิบกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินอยู่ไม่กี่บาทติดตัวไปด้วย ทุกคนคงรู้นะว่าฉันจะไปซื้ออะไร...>>_<

      ...

      ภายหลังจากที่คนสวยในสายตาของพาร์ทออกจากห้องที่ประยุกต์กลายเป็นผับไปเรียบร้อยแล้ว เขาแง้มประตูออกมาเบาๆ เพื่อที่จะดูการกระทำของหญิงสาวสุดสวย

      เธอลากกระเป๋าใบที่เขาและพวกเพื่อนๆรื้อค้นอย่างสนุกสนานเข้าห้องไป ที่แท้...ชุดชั้นในทั้งหมดเป็นของเธอหรือนี่?!? พระเจ้า...เขาที่ตอนแรกรู้สึกสนุกสนานกลับรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ทำยังไง? จะให้เขาทำยังไงดี...คนสวยในสายตาเขาต้องโกรธเขาแน่ถ้ารู้ว่าเขาเป็นตัวการในการทำสิ่งที่ทุเรศๆแบบนี้

      “โธ่...คนสวย ผมขอโทษ”

      ...

      16.30 น.

      ลั้ลๆลา ลั้ลๆๆลา...ฮูเร่ๆ ฮูเร่ฮ่าๆ ฮูร่าๆ ฮูร่าเฮ่ๆ ฉันจับชุดชั้นในที่ซื้อมาใหม่และซักแล้วขึ้นมาผึ่งเครื่องปรับอากาศ หุๆๆ ไอคนพวกนั้นคงจะมีความสุขน่าดูที่ได้เหวี่ยงชุดชั้นในฉันเล่นน่ะ ไม่เป็นไร ฉันถือว่าทำบุญละกันนะ แต่...คิดได้เนอะ...อย่างอื่นฉันไม่ว่า แต่ทำไมต้องชุดชั้นในด้วยเนี่ย โรคจิตแท้ๆ...= = !

      ฉันเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อที่จะเอาที่คาดผม แต่สายตาดันไปเห็นกับสิ่งคุ้นตา

      ผ่างงง!!

      นั่น...นั่นมัน...ชุดชั้นในฉันนี่

      แล้วใครมันเอามาคืนเนี่ย...

      ชิส์! เหวี่ยงเล่นกันจนจะขาดอยู่แล้ว ยังมีหน้าสำนึกผิดเอามาคืนอีก UoU…

      อ๊ะ! มีโน้ตเล็กๆแปะไว้ด้วยนี่นา...

      ฉันหยิบมันขึ้นมาอ่าน...

      ~ ผมขอโทษ ผมไม่รู้ว่ามันเป็นของคุณ ให้อภัยผมเถอะนะครับ ~

      ใครกัน? เรียกตัวเองว่าผมงั้นหรอ? ก็มีแต่นายเจ้าเล่ห์นั่นแหละ เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจไปที่ห้องนั้นอีกครั้ง

      3

      เอ๊ะ?...แปลก ไม่มีเสียงเพลงแดนซ์แล้วอ่ะ หรือว่าผับที่พวกเขาเนรมิตขึ้นมาถูกปิดไปแล้ว?

      ก๊อกๆๆ

      “ใครครับ?” นั่นไง นายเจ้าเล่ห์ยังอยู่ ฉันจำเสียงเขาได้ >^

      “ฉันเอง”

      “ฉันเอง? แล้วคุณเป็นใครล่ะครับ?” โธ่...ตาบ้า ก็ฉันนี่ไง!!

      “ฉันเอง! นายก็เปิดประตูมาดูเองสิ” เสียงเงียบไร้การตอบรับ สักพักประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็นเจ้าของห้องที่นุ่งเพียงผ้าขนหนูผืนเดียว อืม...เหมือนเดจาวูเลยแฮะ

      “อ้าวคุณ...” นัยตาสีช็อกโกแล็ตจ้องมองมาที่ฉัน

      “ใช่ ฉันเอง”

      “เชิญในห้องก่อนครับ” นายเจ้าเล่ห์ผายแขนเข้าไปในห้องเป็นการเชิญฉันเข้าไปในห้อง

      “ไม่เป็นไร ฉันมาพูดแป๊บเดียว นายเอา...ของพวกนั้นมาคืนฉันใช่มั้ย?”เขาที่กำลังยืนพิงขอบประตู

      พลางยิ้มกว้างพูดขึ้น

      “แล้วของที่ว่า คุณหมายถึงอะไรหรอครับ?” นี่นายไม่รู้จริงๆหรือแกล้งโง่ฮะ!!

      “ก็...ไอ้นั่นน่ะ”

      “อะไรล่ะ”

      “ชุดชั้นในน่ะ” ฉันพูดแล้วเสมองไปทางอื่น

      “อ๋อ...ใช่ครับ ผมเป็นคนเอาไปคืนคุณเอง”

      “ทีหลังไม่ต้องคืนก็ได้นะ เล่นเหวี่ยงจนจะขาดอยู่แล้วน่ะ!!!” ฉันตวาดใส่หน้านายเจ้าเล่ห์ก่อนจะหันหลังกลับแล้วเดินกลับไปยังห้อง

      ปึง!

      ฉันปิดประตูอย่างแรงก่อนจะเดินมานั่งที่เตียง เครื่องปรับอากาศที่พัดเอากลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มจากชุดชั้นในลอยโชยมายังจมูกฉัน อืม...กลิ่นหอมๆช่วยผ่อนคลายจากความเครียดได้เยอะเลยนะเนี่ย

      งึมๆๆ...

      รู้สึกเหมือนเปลือกตากำลังจะปิด...

      ครอก...ฟี้...ZZZ

      19.00 น.

      ก๊อกๆๆ...

      เสียงเคาะประตูปลุกให้ฉันตื่นขึ้น นี่ฉันหลับไปนานแค่ไหนเนี่ย ฮ้าววว...^o^

      ก๊อกๆๆ...

      เสียงเคาะประตูยังคงดังอยู่ ฉันรีบลุกจากเตียงแล้วรีบวิ่งไปเปิดประตู ก่อนจะพบกับผู้หญิงคนหนึ่ง ท่าทางใจดี เธอยิ้มให้ฉันก่อนจะพูดขึ้น

      “หนูชื่อบัตเตอร์รึเปล่าจ๊ะ?”

      “ใช่ค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ?”

      “อาชื่อไพลินนะจ๊ะ เป็นภรรยาของอาไพโรจน์จ้ะ”

      “สวัสดีค่ะอาไพลิน” ฉันยกมือไหว้คนตรงหน้าด้วยความเคารพ

      “ขอโทษหนูด้วยละกัน พอดีวันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลย” ไม่มีใครอยู่บ้านเลยงั้นหรอ? แล้วนายเจ้าเล่ห์ที่ฉันคุยด้วยล่ะ?

      “บ้านคุณอามีผีรึเปล่าคะ?”

      “เอ๋? ทำไมถามยังงั้นล่ะจ๊ะ”

      “ก็...เมื่อเช้าหนูยังคุยกับผู้ชายคนนึงอยู่เลย แถมเขายังไม่มีมารยาทเปิดเพลงเสียงดังอีกด้วยนะคะคุณอา”

      “เปิดเพลงเสียงดังงั้นหรอจ๊ะ?”

      “ใช่ค่ะ”

      “งั้นหนูบัตเตอร์ก็คงหมายถึงตาพาร์ท”

      “พาร์ท? ใครกันคะ” ฉันถามคุณอาไพลิน แต่ก็ไม่ได้คำตอบเพราะคุณอาดันเปลี่ยนเรื่องพูดซะก่อน

      “อ้อ! อาลืมไปเลยว่าจะมาเรียกหนูบัตเตอร์ไปทานข้าวด้วยกัน งั้นเชิญจ้ะ” คุณอาพูดก่อนจะโอบเอวฉันให้เดินลงไปข้างล่างด้วยกัน

      ...

      ด้านล่าง ภายในห้องอาหารมีอาหารหลากหลายอย่างวางอยู่บนโต๊ะ คนสองคนนั่งประจำที่อยู่ที่เก้าอี้เรียบร้อยแล้ว และนั่นก็คือคุณอาไพโรจน์ และ...นายเจ้าเล่ห์

      นายนั่นเป็นใครกัน??

      “นั่งสิจ๊ะ” คุณอาไพลินเรียกให้ฉันนั่งลง แต่ฉันยังไม่หายสงสัยเลย ว่านายเจ้าเล่ห์เป็นใคร และเขาเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เป็นคนสวนอีกคนงั้นหรอ? แต่ไม่น่าใช่คนสวน เพราะคนสวนไม่มีทางจะมาร่วมโต๊ะกับเจ้านายได้นี่

      “หนูบัตเตอร์จ๊ะ นี่ตาพาร์ทจ้ะ”

      “ใครกันครับแม่” อะ...อะไรนะ?

      ~ แม่!!! ~

      ~ แม่!!! ~

      ~ แม่!!! ~

      นี่เขาเป็นลูกของคุณอาทั้งสองงั้นหรอ????

      “นี่หนูบัตเตอร์ จะมาอยู่กับเราสามเดือน ที่แม่เคยคุยกับลูกไง...ว่าเพื่อนของพ่อจะฝากลูกสาวเอาไว้น่ะ ที่จะไปนอร์เวย์กันน่ะ ลูกจำได้รึยัง”

      “อ๋อ...จำได้แล้วครับ ลูกของอาราชิตย์ใช่มั้ยครับ”

      “ใช่แล้วลูก”

      “งั้นผมก็ต้องเรียกว่าน้องบัตเตอร์ถึงจะถูกใช่มั้ยครับแม่”

      “อุ๊ยตาย!! ใช่ที่สุดเลยตาพาร์ท พี่พาร์ทกับน้องบัตเตอร์ เข้ากันที่สุด...” ว่าไงนะ? นายเจ้าเล่ห์เรียกฉันว่าน้องงั้นเรอะ!? ให้ตายเหอะ!

      “หนูบัตเตอร์จ๊ะ ลองเรียกพี่พาร์ทซิจ๊ะ”

      “หา...?”

      “พี่พาร์ท”

      “พะ...พี่พาร์ท?”

      “น่ารักที่สุด ต่อไปทั้งสองคนนี้เป็นพี่น้องกันแล้วนะจ๊ะ” คุณอาไพลินทำท่าดี๊ด๊าที่สุด อยากจะบอกนะว่าคุณชีดีใจออกนอกหน้าเกินไปแล้ว ส่วนนายเจ้าเล่ห์ก็ทำหน้าตากวนประสาทใส่ฉันอยู่นั่นแหละ = =!!

      ส่วนคุณอาไพโรจน์ก็กำลังง่วนอยู่กับการกินอาหารที่เหมือนว่ามันอร่อยที่สุดในแปดโลก ก็ดูท่าทางการกินของคุณอาสิ สวาปามเข้าไปซะคำใหญ่เชียว เหมือนกะว่าจะมีคนมาแย่งยังงั้นแหละ >_

      ...

      หมดมื้อเย็น

      ...ขณะนี้เวลา 21.30 น.

      ฮือ...

      ฮึก...ฮือๆๆๆ

      ให้ทาย...ตอนนี้ฉันกำลังทำอะไรอยู่?

      ฮือๆๆๆๆ TT^TT

      เฉลย...ฉันดูซีรี่ส์เกาหลีอยู่น่ะสิ มันเศร้ามากอ่ะ ToT ถึงมันจะเศร้า แต่ฉันก็ยังจะดูต่อไป...

      ซับๆๆ...

      ฉันหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดน้ำตาเป็นครั้งที่เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้า...คงไม่แปลกใจที่ฉันจะต้องไปซื้อกระดาษทิชชู่ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในวันพรุ่งนี้

      ก๊อกๆๆ

      ฉันชะงักอยู่ในท่าเช็ดน้ำตา ก่อนจะหันไปทางประตู อืม...ใครกันมาเคาะประตูเอาตอนดึกดื่น

      ฉันกดรีโมทไปที่ปุ่ม stop ก่อนจะลุกจากเตียงเพื่อเดินไปเปิดประตู

      แอ๊ด...

      นัยน์ตาสีช็อกโกแล็ตมองมาทางฉันอย่างเศร้าสร้อย

      “นาย...มาทำอะไรที่ห้องฉัน” ฉันถามพลางขมวดคิ้วเป็นปม เขาไม่ตอบแต่ก็ยิ่งทำหน้าเศร้าขึ้นไปอีก ทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงความเศร้าของเขา นี่เขาเป็นอะไรนะ...

      “นายเป็นอะไร?”

      “คือ...ห้องน้ำที่ห้องผมน้ำมันไม่ไหล เลยอยากจะรบกวนใช้ห้องน้ำห้องคุณน่ะครับ”

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×