ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] B.A.P&INFINITE THE SKY BLUE รักร้ายๆ ของยัย ลี ซอง จง

    ลำดับตอนที่ #8 : THE SKY BLUE 8

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 56


    ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน มั่วแต่คิดเรื่องที่จูบกับเจลโล่เมื่อวาน ว่ามันคืออะไรทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเจลโล่ยังเรียกว่าความรักของพี่สาวที่มีให้น้องชายได้อีกเหรอ  สัมผัสของเจลโล่ที่มอบให้ฉันมานั้นมันทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงและรู้สึกดี อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก  แม้กับยองแจหัวใจของฉันก็ยังไม่เคยเต้นแรงแบบนี้เลยถึงเราจะไม่เคยจูบกันแต่เราก็กอดกันจับมือกันออกจะบ่อยไปแต่เรื่องแค่นี้ถ้าทำกับคนที่เรา(แอบ)รักมันก็น่าจะเป็นเช่นนั้นไม่ใช่เหรอ  แต่กับเจลโล่เมื่อก่อนตอนที่เจอกันใหม่ๆก็ไม่ได้เป็นแบบนี้หรอก  แต่พักหลังจวบจนถึงปัจจุบันนี้เจลโล่เข้ามาป่วนเปี้ยนในหัวใจฉันบ่อยมันเลยทำให้หัวใจของฉันจะระเบิดออกมาได้อยู่แล้ว แม้จะเพียงแค่เดินจับมือ  ความรู้สึกที่มีทั้งหมดนี้มันพูดไม่ออกบอกไม่ถูกจริง  อย่างบอกน่ะว่าฉัน!!!

    วันนี้ฉันกับเจลโล่ก็มาทำงานตามปกติ  ได้ยินพี่ๆ ที่ทำงานออฟฟิตชั้นบนซุบซิบกันว่าท่านประธานจะลงมาตรวจสอบดูความเรียบร้อยและการปฎิบัติงานของพนักงานแบบเซอร์ไพส์ในตอนบ่าย  ฉันว่าน่ะถ้ามาตรวจแบบนี้พนักงานเตรียมตัวต้อนรับไม่ทันมีหวังโดนไล่ออกกันเป็นแถบแน่  ก็ท่านประท่านของฉันน่ะทั้งเจ้าระเบียบและเจ้าอามรณ์มาก  ใครทำอะไรไม่ถูกใจท่านล่ะก็  ไล่ออกกกกกกกก! 

    พี่อ่ะ  กาแฟ  เจลโล่เดินเอากาแฟมายืนให้ฉันตรงหน้า

    อืม  ฉันตอบแต่ก็ไม่ได้หันไปมองและรับกาแฟจากเจลโล่

    “รับไปสิ” เจลโล่บอกฉันอีกบอก

    “เอาวางลงตรงนั้นน่ะ”  ฉันบอกเจลโล่และไม่หันไปมองเหมือนเดิมและทำเป็นว่ากำลังยุ่งอยู่กับงานตรงหน้าแต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เลยฉันกำลังเขินต่างหากล่ะ  เลยทำเป็นขรึมใส่

    “นี่ ที่พี่ไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตาผมเนี่ย  กำลังยุ่งอยู่กับงานหรือว่าเขินผมอยู่กันแน่  ใช่เลยเนี่ยหน้าแดงขนาดนี้”  เจลโล่พูดและทำหน้าทะเล้นยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆหน้าฉัน

    “นี่เจลโล่อย่ามากวนได้ไหม  พี่ข้อร้อง  พี่กำลังทำงานอยู่ไม่เห็นหรือไง”  ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเจลโล่ด้วยสายตาที่อ้อนวอนและเอื้อมมือไปพักหน้าเจลโล่ออกไปให้ห่างหน้าฉัน

    “เจ็บน่ะพี่  พักมาได้”  เจลโล่บ่นครวญครางเบาๆ

    “สมน้ำหน้า! 

    “ทำไมพี่ใม่ทำตัวเหมือนเมื่อวานน่ะ  น่ารักจะตาย”    เจลโล่พูดและทำท่าทางครุ่นคิด

    0_0” เขินอ่ะ

    “หน้าแดงใหญ่เลยเนี่ย  เขินอยู่แน่เลย  น่ารักจริงเลยพี่เราเนี่ย”   เจลโล่พูดพร้อมเอื้อมมือมาหยิกแก้มฉันเบาๆ  “เฮ้ย! ไม่ได้สิ  ต้องเรียกว่าแฟนเราต่างหากถึงจะถูก  ใช่ป่ะพี่”

    “ไม่รู้  ใครแฟนนายไม่ทราบ!!  และที่หน้าฉันแดงเนี่ย  ฉันโกธรนายอยู่ต่างหากล่ะ   ไม่ใช่  เขิน!! มั่ว”  ฉันพูดขึนหลังจากที่นิ่งมาพักใหญ่พร้อมกับพลักมือเจลโล่ออกจากแก้ม

    “ก็พี่ไง  ผมเลื่อนขั้นให้พี่แล้วตั้งแต่เมื่อวาน  ถ้าไม่ชอบผมพี่จะจูบตอบผมทำล่ะ  จริงไหม”  เจลโล่พูดน้ำเสียงกวนประสาทสุดๆๆพร้อมกับทำปากจู๋ยืนมาทางฉัน  ฉันทนไม่ไม่ไหวแล้ว!!!

    “นี่เจลโล่  เข้ามาใกล้ๆสิ  พี่มีอะไรจะบอก”   ฉันกวักมือเรียกเจลโล่เขยื้อบเข้ามาใกล้ๆฉัน

    “มีอะไรเหรอ”  เจลโล่พูดพร้อมกับเขยื้อบเข้ามาและเอียงหูเพื่อที่จะฟังสิ่งที่ฉันจะพูด

    “ตั้งใจฟังดีๆน่ะ”  ฉันกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงที่หวานสุดๆ

    “ครับ”  เจลโล่ก็ตอบกลับเสียงหวานไม่แพ้กัน

    “อื้มใช้พี่อาย  และคนกำลังอายทำไมนายต้องมาพูดแกล้งกันด้วย”   ฉันพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปบิดและดึงหูเจลโล่ไว้และเปลี่ยนโทนเสียงเป็นเสียงแข็ง

    “โอ๊ย!!!  พี่  เจ็บๆๆๆ   มันเจ็บน่ะพี่   ปล่อยๆ  โอ๊ยๆๆ”      เจลโล่บอกฉันพร้อมกับเอื้อมมือมาพยายามแกะมือฉันออกหู

    “เจ็บเหรอ  ที่ฉันบอกให้นายหยุดพูดทำไมนายไม่หยุด”  ฉันบิดหูของเจลโล่แรงขึ้นไปอีก

    “โอ๊ย!!  หยุดแล้วพี่ผมหยุดแล้ว  ผมจะไม่พูดถึงมันอีก  โอ๊ยๆๆ    ปล่อยผมเถอะน่ะ ผมขอโทษ  ข้อร้อง  ผมเจ็บ”     เจลโล่พูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน

    “ข้อร้องเหรอ  นายฝันไปหรือเปล่าเจลโล่ว่าฉันจะยอมปล่อยนายไปง่ายๆน่ะ คนกำลังเขินยังมาพูดสำเติมอีก  วันนี้นายไม่ได้ตายดีแน่เจลโล่”

    “โอ๊ยพี่  ผมขอโทษ  ผมไม่ได้ตั้ง  ใครจะไปรู้ว่าพี่จะเขินจริงอ่ะ  ผมก็แค่แกล้งพี่เล่นเฉยๆ   ให้อภัยน้องชายคนนี้สักครั้งเถอะน่ะ”   เจลโล่พูดอ้อนวอนสุด  และพยายามแกะมือฉันออกจากหูของตัวเองอย่างเขมักเขม่น

    “ ฮึ ฮึ ฮึ  แกล้ง เฉยๆ ใช่ไหม  ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งที่สุดอย่างชัดถ้อยชัดคำ   และกำลังยกขาแล้วดึงตัวเจลโล่เข้ามาเตรียมจะตีเข่า  แต่ก็ต้องชะงักกลางอากาศ  เพราะว่า

    “นี่!!  พวกเธอสองคนกำลังเล่นอะไรกันอยู่    เห็นที่ทำงานเป็นสนามมวยหรือไง”    ฉันพลักเจลโล่ออกอย่างรวดเร็ว   

    “ท่านประธาน/พี่”  ฉันกับเจลโล่พูดขึ้นพร้อมกัน    ท่านประธานที่เดินมาจากทางไหนไม่รู้กำลังเห็นภาพที่ฉันกำลังจะตีเข่าเจลโล่เข้าพอดีเลยเดินมาต่อว่า  นี้ใช่ไหมที่บอกว่าท่านประธานจะมาแบบเซอร์ไพส์น่ะ

    “พวกเธอสองคนอยากจะย้ายไปทำงานสนามมวยใช่ไหม  ฉันจะได้ส่งไป”  ท่านประธานตวาดเราสองคนเสียงดังลั่น  เล่นทำเอาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาหยุดดู 

    “ไม่ค่ะ/ไม่ครับ   ฉันกับเจลโล่ตอบกลับทันที  อ้อฉันลืมแนะนำท่านประธานให้ทุกคนรู้จักค่ะ   ท่านประธานของเรามีชื่อว่า  บัง  ยงกุก  ขาว  ตี๋  สูง  รูปขรึม  เป็นคนนิสัยค่อนข้างจะเถื่อนๆหน่อย  อารมณ์ร้าย  ปากร้ายแถมไม่ใจดีอีกต่างหาก  เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเจลโล่ค่ะ 

    “เล่นอะไรกันเป็นเด็กๆ  ไปได้”   ท่านประธานบ่นพึมพำ

    “ว่าแต่พี่มีอะไรเหรอ”  เจลโล่ถามขึ้นหลังจากที่ท่านประธานพูดจบ

    “ฉันเคยบอกนายแล้วใช่ไหมว่าที่บริษัทจะไม่มีคำว่าพี่ว่าน้อง”    ท่านประธานหันมาตวาดเจลโล่อีกครั้ง   ไม่น่าหาเรื่องเลยนายเนี่ย

    “ครับ”  เจลโล่ตอบกลับเสียงหงอย  ส่วนฉันมันก็แค่พนักงานคนหนึ่ง  ไม่ได้เป็นญาติกับเจ้าของบริษัทเลยได้แต่ก้มหน้าไม่ออกสิทธิ์ออกเสียงอะไรทั้งสิ้นเพราะฉันยังไม่อยากตกงานค่ะ

    “ไม่มีอะไรหรอก  ฉันก็แค่พาเลขาคนใหม่มาเดินดูรอบๆบริษัทน่ะ”    ท่านประธานพูดพร้อมกับยกมือชี้ไปทางด้านหลังโดนไม่หันไปมอง

    “อ้อ  แล้วเลขาของพี่อยู่ไหนอ่ะ เฮ้ย!  ท่านประธานอยู่ไหนอ่ะครับ  ผมเห็นท่านเดินมาแค่คนเดียวน่ะ”   โอ๊ยดีน่ะแก้ตัวทันเจลโล่ไม่งั้นนายโดนดีรอบสองแน่

    “อ้าว  เธอไม่ได้เดินตามฉันมาหรอกเหรอเนี่ย”    ท่านประธานได้ยินเจลโล่พูดอย่างนั้นออกไป  จึงหันหลังกลับมองแต่ก็พบว่าไม่เจอกับเลขาของเขา

    “อื้ม  ก็ผมเห็นท่านประธานเดินมาแค่คนเดียวน่ะครับ”  เจลโล่พูดด้วยน้ำกวนประสาทตอบกลับไป

    “บอกให้เดินตามมา  ไปยื่นทำอะไรอยู่ตรงไหนอีกเนี่ย”   ท่านประธานบ่นพึมพำด้วยสีหน้าที่หงุดหงิด 

    “......”  ฉันกับเจลโล่ยืนมองดูเหตุการณ์อย่างเงียบๆ

    “ส่วนพวกเธอทั้งสองคนแยกย้ายกันไปทำงานกันได้แล้ว  และฉันหวังว่าพวกเธอทั้งสองจะตั้งใจทำงานกันมากกว่านี้  เข้าใจไหม!”  ท่านประธานหันมาบอกกับพวกเราทั้งสองคนเสร็จก็เดินย้อนกับไปทางเดิมทันที  โดนไม่รอฟังคำขานรับตอบจากฉันกับเจลโล่เลย 

    “เพราะนายคนเดียวเจลโล่  (:P)”  ฉันพูดขึ้นทันทีหลังจากที่ท่านประธานเดินไป ฉันหันกระทืบเท้าเจลโล่แรงๆ และแลบลิ้นใส่

    โอ๊ย!! 

     “มันเจ็บน่ะ เล่นอะไรของพี่เนี่ย”  เจลโล่หันมาตวาดฉันเบาๆ   “สนุกมากเหรอ  สนุกมากใช่ไหม”  เจลโล่ถามฉันกลับด้วยน้ำเสียงที่เอือมระอา  พูดจบเจลโล่ก็เอื้อมมื้อมาดิ้นหน้าผากฉันอย่างแรง

    โอ๊ย!! 

    “หน็อยแน่   นายกล้าทำฉันคืนเหรอเจลโล่”  ฉันหันไปตวาดเจลโล่กลับ

    “แล้วทำไมผมจะไม่กล้า  ที่พี่ยังกล้าทำผมเลย”  เจลโล่พูดพร้อมกับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

    “เจลโล่  นายยยยย    ฉันที่กำลังจะเข้าไปประทุร้ายเจลโล่  ก็ต้องชะงักอีกครั้ง  

    “เฮ้ย  เจลโล่”  อยู่ๆพี่ฮิมชานที่เป็นนายแบบของบริษัทก็เดินเข้ามาหาเจลโล่ 

    “ครับพี่”  เจลโล่หันกับไปตอบทันที  ส่วนฉันก็ยืนดูเหตุการณ์อย่างเงียบๆ

    “ช่วยอะไรพี่หน่อย”   พี่ฮิมชานพูดและหันมองกลับไปทางที่พึ่งเดินออกมา

    “ช่วยอะไรล่ะ”  เจลโล่ถามกับ

    “ถ้ามีคนมาถามหาฉัน  ให้บอกว่าไม่รู้อย่างเดียวน่ะเข้าใจไหม”  พี่ฮิมชานยื่นชี้หน้าบอกเจลโล่ด้วยน้ำเสียงที่แหบๆน่ากลัวๆ

    “ครับ  ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ พี่หนีอะไรมา”   เจลโล่ถามกลับไปอีกพร้อมกับมองไปทางเดียวกันกับที่พี่ฮิมชานมองอยู่

    “เออเอาน่าบอกให้ทำก็ทำไป  อย่าถามมาก ไม่มีอะไรหรอก   แต่ถ้ามีคนตามฉันมาทันล่ะก็  ฉันจะกลับมาเตะนายแน่  ไอ้น้อง”  พี่ฮิมชานพูดพร้อมกับเอื้อมมือตบลงบนบ่าของเจลโล่เบาๆ

    “นี่พี่จะให้น้องช่วยหรือมาข่มขู่น้องกันแน่เนี่ย”  เจลโล่ถามกลับเสียงห้วน

    “เออจะอะไรก็ชั่งเถอะ   ทำตามที่ฉันบอกก็พอและถ้าทำไม่สำเร็จล่ะก้อโดนน!!   ไม่มีเวลาแล้วฉันไปก่อนน่ะ  ไอยองแจมันรอฉันอยู่”  พูดจบพี่ฮิมชานก็เดินจากไปทันที

    “นี่ชองจง “ แฮกๆๆ   พี่ชองกยูวิ่งออกมาจากลิตฟ์และมาหยุดหอบอยู่ตรงหน้าฉันและถามฉันขึ้น  “รู้จักนายแบบที่ชื่อฮิมชานไหม”  เออว่าแต่คนที่พี่ฮิมชานพูดหมายถึงพี่ชองกยูเองเหรอ   พี่ชองกยูเป็นตากล้องประจำบริษัทและเป็นตากล้องประจำตัวของพี่ฮิมชานด้วย  สองคนเนี่ยทำไม่ค่อยจะเข้าขากันสักเท่าไรหรอก  ทะเลาะกันตลอดคนนี่จะเอาอย่างนั้นคนนั้นจะเอาอย่างนี้พี่ชองกยูชอบมาระบายให้ฟังอยู่บ่อยๆก็เลยรู้

    “รู้จักค่ะพี่”  ฉันบอกพี่ชองกยูและหันมายิ้มแบบมีเลสนัยไปทางเจลโล่   เจลโล่หันมามองหน้าฉันและส่ายหน้าเป็นเชิงว่าอย่าบอกน่ะ  แต่มีหรือชอนจงจะฟัง  ฮ่าๆๆ 

    “เห็นเขาเดินผ่านมาไหม”  พี่ชองกยูถามฉันพร้อมกับมองหาพี่ฮิมชานไปด้วย

    “เห...  อื้ม  อื้ม”   ฉันกำลังจะพูดออกไปแต่อยู่ดีๆเจลโล่ก็ถลาเข้ามาเอามือปิดปากฉันไว้ไม่ให้พูด

    “เออ  ไม่เห็นครับ  พอดีผมกับพี่ชองจงมีงานด่วนต้องไปทำ  ขอตัวก่อนน่ะครับ”   เจลโล่หันไปบอกพี่ชองกยูอย่างรุกรี้รุกรนและลากฉันออกมาจากตรงนั้นทันที

    “เออ  ค่ะ”  พี่ชองกยูตอบรับเจลโล่อย่างงงๆและมองมาที่เราสองคนด้วยสายตาแปลกๆ แล้วเดินจากไป

                    เจลโล่ลากฉันมาอีกทางหนึ่งของบริษัทตรงนี้เป็นมุมอับไม่ค่อยมีคนเดินเพ่นพานเท่าไร  เพราะพี่ฮิมชานแกเป็นคนเอาจิงเอาจังมาก  พูดคำไหนก็ต้องเป็นคำนั้น  เจลโล่เลยกลัวพี่ฮิมชานจนขี้ขึ้นสมองอย่างนี้ไงล่ะ  ถ้าเจลโล่ปล่อยให้ฉันพูดออกไปเขาได้รับการลงโทษจากพี่ฮิมชานแน่นอน   

    “พี่รู้ไหมถ้าผมเอามื้อปิดปากพี่ไม่ทันอะไรจะเกิดขึ้น  พี่กำลังสร้างหายนะครั้งใหญ่ให้ผมเลยน่ะ”  เจลโล่พูดขึ้นหลังจากที่ปล่อยฉันเป็นอิสระแล้ว

    “นั้นมันเรื่องของนาย  นายจะเป็นยังไงก็ชั่งฉันไม่สนใจหรอก”  ฉันพูดและเป็นไม่รู้ไม่ชี้

    “เออ จำคำที่ตัวเองพูดไว้น่ะ แล้วอย่ามาเสียใจที่หลังแล้วกันที่ทำร้ายหัวใจตัวเองอ่ะ เชอะ  งอนแล้ว”  เจลโล่พูดด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อสุดๆ c]h;; เดินจากไปทันที

    “เชอะ  คิดว่าง้อเหรอ  งอนได้งอนไปเลย”   ฉันตะโกนไล่หลังเจลโล่ไปและเดินออกกมาอีกทางหนึ่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×