ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Drink me } babe ll กินฝัน กินรัก กิน'คุณ ♥

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 196
      1
      1 มิ.ย. 54




    Tumblr_lbfqtrwwtr1qbdatjo1_500_large


    Prologue ll   drik me, babe 

    จะกี่ร้อยกี่พันปี ฉันจะตามหาเธอ
    "รัก" ? โง่รึเปล่า 
    แค่ไม่อยากติดบุญคุณและคิดว่าเธอมีค่าให้ช่วยเท่านั้นเอง 
    หลังจากที่ฉันเคลียร์ทุกอย่างเสร็จ

    จะไปตายที่ไหน เวลาไหน  ก็ไปเถอะ ฉันไม่ห้ามเลย.  









    บทนำ



                “ฉันได้กลิ่น” ผมสูดกลิ่นอันคุ้นเคยนั่นและก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อกลิ่นของฝนบ้าๆนี่กลบกลิ่นหอมนั่นไปเสียหมด ผมเดินวนไปมาอยู่ในโบสถ์อีกครั้งแล้วลองลูบไปตามเชิงเทียนแล้วลองยื่นหน้าเข้าไปใกล้


                “รู้ไหมว่านายเหมือนพวกสตอลกเกอร์มาก ‘ซุยอา


                “อยากโดนเชิงเทียนจิ้มตาหน่อยไหมล่ะ หลุยส์” ผมมองขึ้นไปด้านบน หน้าต่างของโบสถ์ที่ตอนนี้ได้มีไอ้บ้าตัวหนึ่งที่ไม่ได้กลัวเวทย์มนตร์ของศาสนาไปนั่งเล่นเคาะกระจกก๊อกๆเหมือนพวกเด็กลองดี


    หลุยส์ เขาเด็กกว่าผมเกือบสองร้อยปี แต่การที่เขาทำอย่างนี้ผมอดด่าไม่ได้จริงๆว่าเขาโง่มาก

                “ไม่เห็นมีอะไรเลย ไม่เจ็บ ไม่แสบ ไม่คัน”

                “ลองตอนเช้าให้แสงแดดส่องซิ รับรองนายได้รับบริการตัวเกรียมฟรีแน่” หลุยส์ทำท่าขนลุกขนพองลูบตัวไปมาแล้วกระโดดลงมาจากหน้าต่างโบสถ์เมื่อนึกถึงตัวเองในอนาคตถ้าหากไม่ระวังเขาคงกลายเป็นปลาหมึกปิ้งกรอบๆ  ซึ่งนั้นไม่เวิรก์อย่างรุนแรง



                “ขอเปลี่ยนเป็นนอนในที่มืดๆกับผู้หญิงสวยสักคนดีกว่า”

                “ออกไปหาซิ แต่ถ้าฉันเจอลิเนียฉันจะไม่บอกนาย”

                “บังคับกันเลยดีกว่า” ผมหัวเราะออกมาเมื่อหลุยส์พูดทันควัน หมอนี่กับลิเนียรู้จักกัน(ตามที่แวมไพร์ละอ่อนบอกผมมา)และอยากจะทดแทนบุญคุณ ผมลูบไปตามม้านั่งแล้วรีบเอามือออกทันควันเมื่อสัมผัสกับน้ำมนตร์ที่หล่นกระจายอยู่



    ไอ้บ้าที่ไหนทำแตกได้ถูกเวลาจริงๆ



                “อุ๊บ ฉันลืมบอกไปว่าฉันเผลอทำขวดใสแตก” ผมส่งตาเขียวไปให้หลุยส์แล้วรีบราดเลือดขากขวดเล็กๆที่ผมพกตลอดลงใส่มือของตัวเองที่ถุงมือตอนนี้ถูกน้ำมนตร์กัดซะจนเป็นรู ผมหาที่ว่างแล้วนั่งลงอย่างอ่อนใจ


    หลุยส์เปลี่ยนเรื่องกลัวผมจะด่า


                “นายจำเธอได้จริงๆเหรอซุยอา”

                “ถามแปลก ยังไงลิเดียก็คือลิเดีย ไม่ว่าจะร่างไหนเธอก็คือลิเดีย”

                “แล้วถ้าหากผมเธอไม่ได้เป็นสีทอง ตาเธอไม่ได้เป็นสีฟ้า ผิวของเธอไม่ได้อมชมพูและไม่หัวเราะล่ะ เป็นตุ๊กตาที่ไร้ชีวิตจิตใจ” ผมขมวดคิ้วแล้วมองหลุยส์ที่มองออกไปนอกหน้าต่างโบสถ์ผมเงยหน้าขึ้นข้างบนมองเพดานสีขาวสะอาดครุ่นคิด


    ถ้าเธอไม่ได้เป็น “เธอ” งั้นเหรอ



                “ฉันจะโกรกผมให้เธอ ซื้อคอนแทกเลนส์ให้เธอ และบังคับให้เธอหัวเราะ บางทีอาจใช้กำลังหน่อยแต่ถ้ามันทำให้เป็น ลิเดีย ฉันก็จะทำ” หลุยส์ส่ายหน้า

                “ฉันว่าลิเดียได้ร้องไห้ตายไม่ก็ตบหน้านายก่อนมากกว่า”

                “ขืนทำซิ ฉันจูบกลับ”







               “อาการของเธอเริ่มแย่ขึ้นเรื่อยๆ”

                “คงอีกไม่นานแล้วล่ะค่ะ” ฉันถอนหายใจเมื่อเสียงของพวกนางพยาบาลลอดออกมาจากห้องตรวจ เขาควรจะพูดให้เบากว่านี้หน่อยนะเพราะตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าคงไม่ถึงสามวันฉันคงจะตายอย่างสงบด้วยโรคร้ายที่รุมล้อม

    มะเร็ง ป่วยออดๆแอดๆ เส้นเลือดเปราะ

    บ้าบอหลากหลายที่ทำให้ฉันถูกกักอยู่ในโรงพยาบาลตลอดเวลา

    ฉันถลกแขนเสื้อขึ้นมา ผิวขาวซีดของฉันตัดกับปานรูปไม้กางเขนกลับหัวฉันมองมันเหมือนตกอยู่ในมนตร์สะกด เหม่อมองออกไปข้างนอกที่ฝนตกหนัก

    ให้ตายเถอะ มัวแต่ทำตัวเป็นยัยนางเอกเฝ้ารอวันตายก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนะ เญริน

    ฉันเดินออกจากห้องรอตรวจอย่างเงียบเชียบ ปิดประตูเมื่อถึงห้องของตัวเองเดินไปที่หน้ากระจกสะท้อนเห็นถึงผู้หญิงรูปร่างผอมเพรียว(เกือยถึงขาดสารอาหาร) นัยน์ตาและผมสีดำขลับเหมือนขนของอีกาและริมฝีปากที่แห้งซีด

    เหมือนยัยซอมบี้ไร้ชีวิต

    ฉันสบถออกมาแล้วนั่งลงอย่างเหนื่อยอ่อนบนเตียง คุดคู้เข่าเหมือนเด็กๆก่อนที่จะพึมพำคำบางคำที่ตัวฉันเองยังไม่เข้าใจ คำติดปากที่ไม่รู้ว่าติดมาจากไหนและรอยสักของฉันที่เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกลับว่ามันจะลามไปทั่วตั่วอย่างนั้นล่ะ

                “ยอมตายซะดีกว่าหากต้องกลายเป็นปีศาจซะเอง”

                “ยอมตายซะดีกว่าหากต้องปลิดชีวิตคนรัก”

                “ยอมตาย...ด้วยรักอันลุ่มหลง” ฉันกัดริมฝีปากของตัวเองจนห้อเลือด ยิ่งฉันพูดมันเท่าไหร่ฉันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองจะคลั่งได้ง่ายๆ เหมือนกับร่างกายของฉันจะระเบิดเพราะเลือดข้างในมันร้อนระอุ

    ฉันมองเข้าไปในกระจกอีกรอบ และสิ่งที่เห็นก็คือ ผู้ชายคนหนึ่ง ผมสีดำและนัยน์ตาสีเลือดจ้องกลับมา เข้ามองดูฉันนิ่งจนฉันหวาดกลัวและแล้ว...ร่างกายของเขาก็ฉาบไปด้วยเลือดสีสด แต่เขายังจ้องฉันเหมือนเดิม นิ้วมือของเขาเหมือนพยายามจะไขว่คว้ามาให้ถึงฉัน

    ฉันกรีดร้องออกมาเหมือนคนบ้า ปาแก้วใกล้ตัวปะทะกับกระจกอย่างจัง เคร้ง!

    ฉันซุกตัวอยู่ในห้องนอนตัวสั่นเทา เศษกระจกที่แตกดังขึ้นเมื่อกระทบกับพื้น ฉันคงที่จะใกล้เป็นบ้าขึ้นทุกทีแล้ว

                บ้า... เพราะความฝันที่ซ้ำไปซ้ำมาทุกคืน



    ฉันซุกหน้ากับหมอนกรีดร้องออกมาพร้อมน้ำตาอย่างอัดอั้น โรคร้ายบ้าๆนี่น่ะ คร่าชีวิตฉันไปตอนนี้เลยก็ได้ด้วยซ้ำแต่มันก็ไม่ทำ มันค่อยๆรุมเร้าและบั่นทอนชีวิตอย่างน่ารังเกียจเหมือนพวกเห็บหมัดดูดเลือด

    ฉันเกลียดมาตลอด

    และถ้าถามว่าทำไมไม่ฆ่าตัวตายให้เรื่องมันจบๆ เพราะฉันอยากที่จะฝันต่อไป ฝันที่ช่างหอมหวานและน่าหลงใหลจนทนรอไม่ไหวที่จะฝันต่อในวันรุ่งขึ้นแต่มันกลับไม่เคยมี มันวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาเหมือนเขาวงกตที่ฉันเป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่อาจหาทางออกได้

    ต้องหาผู้นำทางที่แสนใจดีที่ไม่มีอยู่จริง

    ครั้งแรกที่ฝันฉันตกใจจนทนรอไม่ไหวที่จะออกจากความฝัน

    ฉันที่ไม่ใช่ “ฉัน” มีเพียงหน้าตาเท่านั้นที่เหมือนแต่สีผมเอยสีตาเอยหรือแม้แต่ผิวก็แตกต่างหมดทุกอย่างเธอคนนั้นช่างสดใสร่าเริงและถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีเหมือนนกน้อยในกรงทองไม่เคยเจ็บปวดออดแอดเหมือนฉันคนนี้

    ชุดของเธอทำจากผ้าไหมชั้นดีเหมือนเจ้าหญิงในนิทานปรัมปรา

                และเธอกำลังอยู่กับคนอีกสองคนที่กำลังถกเถียงกันอยู่นัยน์ตาของเธอหม่นหมองลงและหยิบกริชขึ้นมาก่อนจะพุ่งเข้าไปหาคนอีกหนึ่งคนที่อยู่นอกวงสนทนาก่อนจะปาดข้อมือของเขาจนเลือดไหลซึม

    เธอเดินหนี ดูสับสนและเหนื่อยอ่อนจนสุดท้ายเธอก็สิ้นหนทาง

    ยกกริชขึ้นปักมันลงหัวใจของตัวเอง

    ร่างของเธออ่อนระทวยและนอนนิ่งอยู่บนพื้น ฉันสะอื้นออกมา


    แต่แล้วฉันก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ยังมีใครคนหนึ่งที่กอดฉันอยู่และคำที่กระซิบข้างหูเป็นเหมือนมนตร์สะกดที่ทั้งมีอำนาจและน่าหลงใหล

                “ไม่ต้องห่วงลิเนีย ฉันจะหาเธอจนเจอ”

                “ไม่ใช่ด้วยความพิศวาสหรือรัก แต่ด้วยสิ่งที่เธอผูกมัดฉันเอาไว้ ‘ชีวิต


    แล้วนายล่ะเป็นใครกันแน่...

    โปรดบอกฉันทีก่อนที่ฉันจะนอนตายอยู่ในโรงพยาบาลโดยมีเรื่องค้างคาใจอย่างนี้

    นายน่ะ เป็นเพียง "ความฝัน" ของคนบ้าๆ

    หรือเป็น "ความจริง" ของผู้หญิงขี้โรคอารมณ์ร้ายอย่างฉันกันแน่นะ
     








    ใครชอบก็เม้นได้เลยนะคะ มันเป็นกำลังใจให้เราได้ แต้งมากค่ะ  :)









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×