ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KISS ME GUY ขอโทษว่ะ บังเอิญผมมันอสรพิษ ' ! Yaoi

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 ; Like a G6

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 54



    beyo ng








    in this dance floor i see u
    and then i can't turn back , i want to know u
    it not love

    "hey do u know 'bout true love kiss?"

    it's just passion ; )











    ยังไม่อัพนะคะ  ขอปั่นก่อนค่ะ - -;
    ก็เป็นอย่างที่เห็น ธีม คืองานปาร์ตี้ ไม่ก็ คลับ  เย่ เย้ !




    chapter 1 ; Like a g6 100 %




    ตอนที่  1



     

                “วู้ววววววววว” ผมมองแก้วสีอำพันในมือของผมก่อนจะกระดกเข้าปากรวดเดียวหมด ผมขยับยิ้มออกมาก่อนจะมองผับที่แสนจะหรูหรา ดูดี ไฮโซมันก็เหมือนเจ้าของล่ะครับ ใช่! ครอบครัวของผมเป็นเจ้าของผับนี้ แต่ถ้าจะพูดเจาะจงหน่อยคือพี่ใหญ่ที่เป็นเจ้าของผับ

    และเพราะวันนี้เปิดวันแรก เพราะฉะนั้นทุกอย่าง ฟรี!


    และไอ้แขกที่มากันนี่สงสัยกะจะเอากันให้เจ๋งไปข้างเพราะส่วนใหญ่แม่งกินเหล้าเสร็จก็ไปอ้วกข้างนอก ผมเห็นแล้วรำคาญใจชะมัด แม่ง กินแล้วก็อ้วก อย่างงี้มึงอย่ากินแล้วกลับบ้านไปนอนดีกว่าไม่ง่ายหรือไง!


     

    และถ้าคุณถามว่าทำไมผมมาที่นี่ มันอาจจะงี่เง่าไปสักหน่อยแต่ผมจะบอกประวัติของผมให้คุณฟัง ชื่อของผมคือ “ชิออน ศาษษฐ์เลิศ” และชื่อเล่นก็ตามชื่อจริงเลยนั่นก็คือ “ชิออน”  และคุณก็น่าจะสังเกตได้แล้วว่าถ้าครอบครัวผมไม่รวยคงจะไม่เปิดผับและแจกเหล้าฟรี





    ใช่ ครอบครัวของผมรวย ไม่ใช่รวยธรรมดาแต่โคตรรวย
    J

     




    ผมกระดกเหล้าต่อก่อนจะสั่งเพิ่ม ผมหมุนเก้าเล่นอย่างใจลอยแล้วมองเหล่าผู้คนที่ตะโกนเป็นบ้าเป็นหลังดิ้นกันเอาเป็นเอาตาย ผมขยับยิ้มผ่อนคลาย มันต้องอย่างนี้ซิ!
     

    นี่ล่ะคือสิ่งที่ผมต้องการทุกคนต้องผ่อนคลายไม่ใช่เอาแต่เกร็งเวลาผมมอง ไม่ใช่แค่เกร็งแต่บางคงแม่งยังมาพูดกับผมได้หน้าตาเฉย



                คือเรายังไม่ค่อยจะมีเงิน

                ยะ อย่าพ่นพิษใส่ผมนะครับ แม่ง กูคนนะไม่ใช่ปีศาจจากขุมนรกมารีดไถเงิน พวกมึงจะให้กูพ่นพิษเพราะทำอย่างนี้ล่ะ -_-^!




    คุณอาจจะงงว่าการ ‘พ่นพิษ คืออะไร



     

    ไอ้ชิออนจะบอกให้ครับ เนื่องจากผมบ้านรวยและพ่อแม่เรื่องอย่างตามใจมันทำให้ผมนิสัยเสียคือทำอะไรก็ต้องได้และถ้าแม่งไม่ได้เมื่อไหร่บ้านแตกแน่!

    และนับอะไรกับโรงเรียน บอกให้นะครับ ผมอ่ะเป็นคนที่หมายตาคิดจะทำร้ายใครแล้ว ไม่ว่าวิธีนั้นจะเลวจะชั่วแค่ไหนผมก็ทำมัน

    คุณว่าผมเลว ผมเฮี่ย ผมโคตรนรกเหรอครับ



     

    อื้อ ดีจังที่คุณฉลาดผมไม่ชอบหลอกคุณว่าผมแสนดีนักหรอกเพราะมันตรงกันข้ามสิ้นดี J    

     



     

    และเนื่องจากนิสัยของผมเลยได้ฉายาว่า ‘อสรพิษและเพื่อนอีกสองคนของผมก็ได้ชื่อร้ายๆมาเหมือนกัน (แน่นอนว่าพวกเรานิสัยร้ายและเลวเหมือนกันเลยอยู่ด้วยกันได้-_-) และเมื่อพวกเราหมายหัวใครไว้ เหล่าทุกคนในโรงเรียนจะพูดกันว่า โดนพ่นพิษซะแล้วซิ

    หลังจากนั้นก็ง่ายๆ


    กลั่นแกล้ง แกล้งจนเบื่อ หรือไม่ก็แกล้งจนทนไม่ไหว

    แต่ส่วนใหญ่ก็ทนไม่ไหวแล้วลาออกจากโรงเรียนซะก่อน ให้ตายเถอะ ผมว่าผมก็ไม่ได้ทำอะไรร้ายแรงสักหน่อย ส่วนใหญ่คนที่ออกคำสั่งน่ะ คือไอ้สองตัวนั่นต่างหาก


     

    และนั่นทำให้ผมไม่มีเพื่อนคนอื่นอีกเลย แม่ง! ยิ่งคิดยิ่งแค้น ยิ่งแค้นแรงอสรพิษยิ่งต้องดื่มแรง!!

     

                

                
    “สัด เฮี่ย พวกมึงทำกับกูได้ไงวะเนี่ย!” ผมด่าไปทั่ว ผมรู้แล้วว่าผมเริ่มที่จะเมา แต่ใครคิดว่าผมจะหยุดเล่าผมหัวเราะออกมาเหมือนคนบ้า ทุกคนที่นั่งดื่มมองผมอย่างหวาดระแวงเล็กน้อยถึงปานกลาง ผมกระแทกแก้วลงก่อนจะออกไปเดินแถวฟลอร์





                “กรี๊ดดดดดดดดดด วู้วววววววว!” ผมขยับยิ้มหัวเราะอีกรอบ แว่นของผมเริ่มจะเอนไปอีกทางด้านหนึ่ง เสื้อของผมถูกใครสักคนดึงขึ้นสงสัยนักว่าเชี่ยที่ไหนดึง ผมขมวดคิ้วเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น และนั่นก็โชว์เบอร์ของเพื่อนคนแรก




                [Lockon]




                [มึงอยู่ไหนวะชิออน พวกกูตามหามึงจนวุ่นแล้วเนี่ย!] ผมขยับยิ้มก่อนจะมองไปรอบๆ หัวของผมเริ่มหมุนแต่ไอ้ชิออนยังทนไหวครับ เห็นอย่างนี้แต่ผมคอแข็งใช่ย่อย! ผมไม่เดินออกจากกลางฟลอร์ เดินให้โง่ล่ะ นี่เป็นที่ๆดีที่จะเต้น



    และเป็นที่ๆดีที่จะให้ไอ้ล๊อกออนมันวางสายไป-_-



                “ผับ”

                “ผับไหน”

                “ผับของกู”


                “สัด! อย่ามาล้อเล่นมึงห้ามตายนะเว่ย!  ผมขมวดคิ้วก่อนจะร้องออกมา แม่ง! กูพูดความจริงเสือกไม่เชื่อจะให้กูโกหกมึงหรือไงวะเนี่ย และไอ้แว่นกวนตีนนี่ก็แม่งกวนตีนสัดจะเขอะไรนักหนา ผมถอดมันออกก่อนจะปาลงพื้นและตามด้วยการกระถืบ ผมกำมือแน่นเพราะความโกรธ



    ตื้บ ตื้บ ตื้บ!



                [ตื๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด] อ้าว เวร ผมเผลอวางสายไอ้ล๊อคออน-O-


    ผมมองมือถือของผม อืม.. ผมควรจะโทรกลับไหมนะ แต่เมื่อนึกถึงเสียงร้อนรนของมันผมก็เลิกที่จะคิดหนัก นานทีจะเห็นมันกระตือรือร้นสักที ปล่อยไว้แม่งอย่างนี้ล่ะ สนุกดี ฮะ ฮ่า-_-(เลว!)   ผมร้องตะโกนออกมาก่อนจะเต้นไปตามจังหวะเพลง



    ลืมให้หมด เรื่องเฮี่ยๆ ลืมออกไปจากหัวของผมให้หมด




                [Wisdom] แต่กูจะไม่ลืมเพราะคนอย่างพวกมึงนั่นล่ะ-_-^!


    ผมกดรับโทรศัพท์อย่างอารมณ์เสีย ตะคอกออกไปเต็มที่


                “ว่ามา!!

                [อยู่ไหน]


                “อยู่ที่จตุจักร ลิงกำลังเต้นกันอยู่โคตรมันส์ มึงน่าจะไปกินน้ำมนตร์แถวจตุจักรบ้างนะเว่ย แม่งโคตรแสบคอเลย!


                [ขอโทษที่กูไม่บ้าจี้ตามคำซุยๆของมึงว่ะ-_-]

                [จากที่กูฟังมาและนำมาวิเคราะห์กูคิดว่าสถานที่ๆ เต้น และไอ้น้ำแสบคอ คงจะเป็น ผับ’]


                “กูบอกชื่อผับให้เลยเอาไหมมึงจะได้ไม่ต้องเดาต่อ?

                [ไม่ต้อง กูไม่อยากฟังมึงซุยอีก แค่นี้ก็พอแล้ว บาย]



                “อือ” ผมยกโทรศัพท์ออกจากหูแต่พอจะกดวางสาย ไอ้วิสดอมมันก็พูดขึ้นเบาๆ


                [ถ้ามึงคิดสั้น...กูจะตามพวกไปอัดมึงถึงที่ให้มึงตาสว่างซักที]


                “ปึด (สติขาด) ไอ้เชี่ยวิสดอมไอ้หมาลอบกัดเอ็ย! มึงลองดูดิแล้วมึงจะรู้ว่าอสรพิษอย่างกูอ่ะเจ๋งกว่าที่มึงคิดไว้ไม่ใช่มีแต่นอน นอน และนอน–O-


                [มึงบอกกูเองนะว่าชีวิตมึงมันโคตรไร้ประโยชน์ แค่นี้ บาย กริ๊ก!]


                “สะ...!” ผมยังด่ามันไม่ทันจบไอ้วิสดอมแม่งก็วางสายผมไปซะแล้ว ผมสบถออกมากะจะเอาโทรศัพท์เก็บเข้ากระเป๋าแต่แล้วผมก็รู้สึกว่ามีใครสักคนที่มองผมอยู่ ผมหันไปมองรอบๆสายตาของผมหรี่ลงและเชื่อไหม ว่าเขากับผมยืนอยู่ข้างผม



                “...”

                “-_-!“ ผู้ชายผมสีน้ำตาลอ่อนหน้าใสกิ๊งจมูกโด่งและหูของเขาที่เจาะอยู่ข้างเดียวและตุ้มหูของเขาที่เป็นรูปไม้กางเขน ผมมองเขาอยู่พักหนึ่งพวกเราสบสายตากัน


    คิดว่าผมจะเป็นคนถอนเรอะ
    ! จะบอกอะไรให้นะ พวกคนที่มีความมั่นใจในตัวเองและหยิ่งน่ะ ไม่มีทางที่จะถอนสายตาก่อนหรอก ถ้าแค่นี้ยังชนะไม่ได้ อย่าคิดว่าผมคืออสรพิษเลย



                “...”

                “-_-“ ผมมองมันต่อ มือของผมยังถือโทรศัพท์ใกล้ๆหูเหมือนกับยังคุยกับวิสดอม ทั้งที่มันวางไปนานแล้ว ผมเลิกคิ้วให้มันว่ามันมีปัญหาอะไรกับผมนักหรือไง และแล้ว...มันก็ถาม



                “ไม่ด่าต่อแล้วเหรอ?

                “...ขอบคุณที่เตือน ไอ้เฮี่ย!” ผมด่าหลังจากพูดตอบกลับไอ้ผู้ชายแปลกหน้า เหมือนพูดกับมัน ที่จริงแล้วผมก็ด่ามันนั่นล่ะเสือกมายุ่งเรื่องของผมทำไม แต่มันคงคิดว่าผมคุยกับไอ้วิสดอมอยู่ผมด่ามันต่อ หมอนั่นเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะ



                J” ยิ้ม!  แม่ง มันโง่หรือมันซื่อวะ!! ผมขมวดคิ้วก่อนจะตะโกนต่อ


                “หุบปากของมึงไปเลยไอ้เชี่ยมึงโง่หรือซื่อกันแน่วะ!” ผมมองหน้ามันต่อ ไม่รู้ให้มันรู้ไปซิ ผมกระตุกยิ้มให้มันและสิ่งที่มันทำก็คือ


                J” ยิ้มกลับมาให้ผมอีก ผมมองหน้ามันนิ่งก่อนจะหรี่สายตาลง เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วมองหน้ามันนิ่งให้มันเป็นฝ่ายเริ่มก่อน




                “ไม่คุยต่อแล้วเหรอ?” ผมกระตุกยิ้ม

                “ไม่ล่ะ ...บังเอิญกูเจอเป้าหมายไว้ให้ระบายอารมณ์แล้ว!” ไม่ทันคาดคำผมก็พุ่งเข้าไปประชิดตัวมันและซัดโครมเข้าให้เต็มมัน!


    อย่าคิดว่าผมจะเล่นเป็นแต่ลอบกัดเรื่องการสู้ซึ่งๆหน้าผมก็ไม่น้อยหน้าไอ้ล๊อกออนที่ถือว่าเจ๋งในโรงเรียนเหมือนกันล่ะน่า! 

    ผมมองไอ้ผู้ชายกวนตีนที่ยังยืนนิ่งแล้วลูบหน้าตัวเองที่โดนผมชก มันกลายเป็นรอยแดงเถือก ผมหัวเราะสะใจ

     

         


          
    “แม่ง มันน่าจะช้ำไปตลอดกาลเลยก็ดีซิอยากให้กูสนองให้มึงไหม”

                “...นายดูเก็บกดนะ” ผมชะงักแล้วเข้าไปซัดมันต่อ เพลงของที่นี่มันก็คงมีส่วนด้วยเหมือนกันล่ะ ผมมองไอ้เฮี่ยนี่ที่ไม่ตอบโต้ผมเลยซักนิด เหล่าผู้คนขยายวงแล้วมองดูเหตุการณ์ไม่มีคนมาห้าม

    เฮอะ! อีกนานก็พวกข้างนอกจะรู้ว่าผมทะเลาะเพราะงั้นก็อีกนานที่ไอ้เฮี่ยนี่จะต้องหุบปากเพราะผมจะชกมันจนไม่มีเวลาจะพูด!


                “ไม่เกี่ยวกับมึง!” ผมผลักมันลงไปบนพื้นก่อนจะลงไปคร่อมแล้วชกมัน หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง ทุกคนรอบๆต่างมองการกระทำของผมและผมรู้ดีว่าพวกเขาคิดอะไร พวกเขาคิดว่าผมป่าเถื่อน ผมเม้มปาก แล้วชกไอ้ผู้ชายตรงหน้าอีกที

     

    ก็ช่างแม่งซิ ผมเป็นของผมอย่างนี้ไม่ชอบนักก็ออกไปจากชีวิตก็จบ!




                “นาย”

                “มึงมีอารมณ์จะสู้รึยัง” หมอนั่นยิ้มแล้วลูบดวงตาของผม ผมปัดมึงออกแล้วตะโกนใส่มัน

                “ทำเฮี่ยไรของมึง อยากโดนอีกใช่มั้ย!

                “เปล่า แค่คิดว่าทำไมนายไม่ร้องไห้”

                “...กูไม่เคยร้อง! และจะไม่ร้องไปตลอด กูจะพาน้ำตากูลงหลุมไปพร้อมกันโดยไม่ให้ใครเห็นมัน!” และมันก็ยิ้มออกมาในเวลาประหลาดๆอีกแล้ว


                “ฉันถึงบอกไงว่านายมันเก็บกดจริงๆด้วยJ” ผมขมวดคิ้วและก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อมืออีกข้างของมันเริ่มไปไต่แถวเอวของผม
    ตอนแรกผมนึกว่ามันคลำผิดแต่เฮี่ยนี่เริ่มไม่ใช่แล้วครับ
    ! มันกำลังพยายามถอดเสื้อของผม! ผมลุกพรวดขึ้นมา


                “มึงทำอะไร!

                “ทำให้นายหายเหงาไง”

                “-[ ]-! มะ มึงไอ้..ไอ้โรคจิตวิปริตผิดเพศ!” ผมกระโดดหนีมัน มันหัวเราะออกมาแล้วยืนขึ้นจากพื้นปาดเลือดออกจากปาก แล้วส่งยิ้มที่ผมมองตอนนี้มันไม่ได้เป็นรอยยิ้มที่กวนเบื้องล่างอีกต่อไป




                “ฉันชื่อบีเทรย์ นายล่ะ?” มันกลายเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผมขนลุก

                “บอกมึงกูก็ควายเต็มทีแล้วอย่ามามองกูนะ กูขยะแขยง!” บีเทรย์หัวเราะและนั่นทำให้ผมอึ้ง มันควรที่จะเสียใจหรือไม่ก็โกรธแต่ไม่ ไอ้หมอนี่มันทั้งบ้าและอันตราย เชื่อผมเถอะ เซนท์ของอสรพิษอย่างผมไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง!





                “ฉันได้ยินจนชินแล้วล่ะ ฉันไม่เจ็บหรอกJ” ผมด่ามันไม่หยุด ไอ้หมอนี่มัน..ถ้าหมอนี่มันอยู่ที่โรงเรียนเดียวกับผมนะ อย่าหวังเลยว่ามันจะอยู่ได้ผมจะพ่นพิษมันตั้งแต่ที่มันย่างก้าวแรกที่เข้าโรงเรียนมาแล้วด้วยซ้ำ


    ไม่...ผมจะอารมณ์เสียมากกว่านี้ไม่ได้

    ผมหลับตาลงแล้วเอามือมาขยี้หัวของตัวเองเหมือนคนบ้า ผมลืมตาขึ้นมองบีเทรย์ที่ยังยิ้มอยู่ตรงหน้าผม

    ผมมาสนุก ไม่ใช่มาอารมณ์เสียกับคนเฮี่ยๆชีวิตนี้ผมเจอมาเยอะเกินไปแล้วกับคนประเภทนี้!

    และสิ่งที่ผมทำไปมันก็ทำให้ผมรู้สึกเป็นพ่อพระมาก


                “แล้วเจอกันนะบีเทรย์ ตอนนี้กูไม่มีเวลามายุ่งกับมึง กูมาสนุกไม่ใช่มาอยู่กับคนอย่างมึงJ!” ผมโบกมือบ๊ายบายแล้วเดินจากมาอย่างว่าง่าย ทุกคนต่างหลีกทางให้ผม แม่งเอาเข้าไป นี่ผับพี่ผมผมว่าผมจะไม่ใหญ่ที่นี่แล้วนะ



    มีคนบอกราศีคนมันจับวันยังค่ำก็จับอยู่ดีสงสัยมัยจะจริงเว้ย!  

     


    ผมโบกมือให้การด์ที่เตรียมจะเข้าไปดูไอ้บีเทรย์มันหน่อย ผมส่ายหน้าเป็นเชิงไม่ต้อง ผมมองมันผ่านผู้คนอีกครั้งสุดท้าย มันยังยืนอยู่ตรงนั้นมองขึ้นไปบนเพดานเหมือนคนเหม่อลอย ผมหรี่สายตาลงอย่างอาฆาต


     

    ผมไม่ทำให้มันตายวันนี้แต่ถ้าวันหน้าผมเจอก็ไม่แน่!





     

                “จัดหนัก เอามาเรื่อยๆ!” ผมตะโกนบอกบาร์ก่อนจะนั่งลงอย่างเหนื่อยอ่อน หัวของผมมึนจนผมต้องสะบัดเล็กน้อย ผมขยี้หัวของตัวเองเหมือนคนบ้า แม่งเอ็ย ไม่ผมไม่ลืมซะทีวะเนี่ย !



                “อย่างที่บอก จัดหนัก..ทางเราก็จัดหนักให้!” ผมไม่ตอบรับบาร์เทนเดอร์อย่างไรแต่ผมรีบคว้ามันมากระดกทีเดียวหมด ผมรินมันเพิ่มแล้วดื่มเข้าไปอีก ดื่มอีก ผมต้องดื่มอีก ผมต้องลืมประโยคที่ไอ้เวรนั่นพูดให้ได้


                กูไม่เคยรู้ว่ามึงคือ อสรพิษ

    สัดเอ็ย!  มือของผมสั่น ตัวของผมจะสั่นทุกครั้งที่อารมณ์ของผมพุ่งสูงเกินไป กับทุกเรื่อง เวลาผมตื่นเต้น ดีใจ หรือกำลังเศร้า อึดอัดก็ตาม ผมอยากจะบ้าตายกับตัวเองผมสบถออกมา

                “ทำไมกูน่าสมเพชงี้วะ” ผมตะโกนออกมาอย่างเหลืออด ผมปัดแก้วที่อยู่ใกล้ๆ เคร้ง! เสียงดังไปทั่วจนเหล่าแขกเริ่มหันมามองผมเป็นตาเดียว ผมกัดฟันอย่างควบคุมอารมณ์พอๆกับที่บาร์เทนเดอร์เดินเข้ามาเรียกค่าเสียหาย


                “กูเป็นน้องเจ้าของผับ ถ้ามึงอยากเรียกมึงก็ออกจากที่นี่ไปเดี๊ยวนี้เลย!” เงินคือพระเจ้าจริงๆ

                อสรพิษอย่างมึงอ่ะ ไม่เหมาะกับกูหรอก

    มันจะหาว่าผมเลวไปหรือไงวะนั่นน่ะ! เลวเอ๊ย! ผมเอาหัวพิงโต๊ะแล้วดื่มต่อแต่คราวนี้ไม่ได้ดื่มบ้าเหมือนเมื่อกี๊ คราวนี้ผมค่อยๆรินค่อยๆดื่มลิ้มรสรสของแอลกอฮอลล์อย่างเต็มที่ มีใครสักคนมานั่งข้างผม ผมไม่ได้สนใจจนเขาสะกิดผม


     

    ผมมองเขา เขามองผม แต่พอผมจะกลับไปจมอยู่ในมนตร์แอลกอฮอลล์อีกเขาก็จับไหล่ของผม

    ไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าไอ้คนแปลกหน้านี่จะพูดเรื่องอย่างนี้ในผับ

    แปลกพิลึก


     

                “นายเชื่อเรื่องจูบหนึ่งจูบเพื่อหารักแท้ไหม?

     

    ใช่ แปลกพิลึกมากๆ และผมรู้สึกเหมือนว่าเซนท์อสรพิษของผมกำลังทำงานอีกครั้ง




    มันตะโกนบอกผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า




    ว่าผู้ชายข้างๆผมนี้แม่ง “โคตรอันตราย! 










    next chapter ;; 


    กลิ่นบุหรี่ทำให้ผมมึนหัว ซาตานร้ายที่หลอกล่อด้วยคำหวาน

    "มือมึงสั่น...ต้องการอีกก็ไม่บอก:)"

    แต่ที่จริงมันก็เป็นแค่ไอ้นรกที่อสรพิษอย่างผมจะเล่นมันให้ตายเท่านั้นล่ะวะ -_-^!








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×