คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ดำเนิดการ
เมื่อสามปีก่อน.......จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันแรกของชีวิตนักศึกษาชั้นปี 4 คณะแพทย์ของเธอกับเพื่อนๆ ที่ห่างหายกันไป
จริงๆก็ไม่ได้ไปไหนไกลอย่างคนอื่นเค้าหรอก อยู่แถวๆเนี่ยแหละ แต่ขอพูดว่าตัวเองได้ปิดภาคเรียนเหมือนคนอื่นๆ
เค้าบ้างก็เท่านั้น แบบว่าแอบอิจฉาม้าก ๆ แต่ก็รู้สึกภูมิใจตัวเองเหมือนกัน แม้ว่าจะเหนื่อยก็ตาม
แล้วเรื่องก็เข้ามาหาตัวเองโดยไม่รู้ตัว วันนั้นอาจารย์ไหว้วานให้เอาของฝากไปให้เพื่อนของท่านซึ่งอยู่ต่างคณะและโ
บว์เพื่อนที่มาด้วยกันขอแยกกับเธอกลางทาง เพื่อจะไปหาเพื่อนที่อยู่กันอีกคณะหนึ่ง ขากลับเธอเลยต้องกลับคนเดียว
แต่แล้วก็มีคนมาผลักด้านหลังอย่างแรง จนหัวเข่าเธอกระแทกไปที่พื้นที่เป็นซีเมนต์ไม่เรียบ และมันก็ทำให้ได้แผลมาพร้อมกับ
เลือดซิบๆ แต่ก่อนที่จะได้หันกลับไปมองถึงสาเหตุที่ทำให้ตัวเองหล่นปุลงไปสัมผัสพื้น ก็มีมือดีฉุดกระชากแขนทั้งสองข้างลาก
เธอเข้าไปในห้องน้ำ ที่มีป้ายเขียนว่าซ่อมแซมอยู่ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นห้องน้ำ แต่ไอ้ชักโครกที่ตั้งเด่นเป็นสง่าด้าน
หน้าเธอนี้ซิมันเป็นพยานได้อย่างดีทีเดียว และมันก็สมควรแก่การซ่อมแซมจริงๆ คราบสีเหลืองบวกกับกลิ่นประจำที่ทุกคน
นึกออกคงไม่มีใครเห็นว่ามันเป็นห้องนอนแน่ๆ
“ เร็วเข้า เดี๋ยวมีคนมาเห็น “ เสียงๆหนึ่งดังขึ้น
ผู้หญิงรูปร่างบอบบาง แต่ท่าทางเซี้ยวน่าดูตะโกนบอกกับคนที่จับแขนเธอทั้งสองข้างเอาไว้ แต่ตอนนี้ฉันได้แต่งงๆ
แถมเบลอๆ ได้แต่มองหน้าสองคนที่ล็อคแขนเอาไว้
ประตูไม้ถูกปิดลงพร้อมกดล็อก แล้วตอนนี้ฉันก็เห็นแล้วว่ามีผู้หญิงอีกสองคน คนหนึ่งเป็นคนตะโกนบอกคนที่ล็อกตัวฉัน
เอาไว้ก่อนที่จะผลักฉันให้ไปอยู่อีกฟากหนึ่งของห้องน้ำ ส่วนอีกคนเป็นสาวสวยรูปร่างอรชร อ้อนแอ้น เรียกว่าสวยแถมน่ารักอีก
ตั้งหาก ผิดกับคนที่ยืนอยู่ข้างๆเพราะผู้หญิงคนนั้นดูเซี้ยวน่าดู จากทรงผมที่ซอยสั้น แถมมีไฮไลท์สีแดงแซมอยู่บางจุดพร้อมกับ
รอยสักที่หลังแขน ไม่น่าจะเป็นเด็กมหาวิทยาลัยของเธอเลย
ตอนนั้นได้แต่นึกในใจว่าเธอไม่ใช่เด็กมัธยมนะ จะได้มีการฉุดกระชากลากถูกันเข้าห้องน้ำ แล้วตบดีกันเรื่องผู้ชาย
นี่ถ้าได้เป็นแฟนกับเดือนคณะก็จะไม่สงสัยหรอกนะ แต่นี้หมาซักตัวยังไม่มี แถมเวลาจะมองหาหมาก็ไม่มี วันๆดูแต่ตำรา
แต่นี่ก็ไม่ใช่ แล้วยัยพวกนี้มันลากฉันมาทำไมว่ะ หรือว่ายัยพวกนี้เห็นฉันเดินกับยัยโบว์เปล่าว่ะ ก็เพื่อนร่วมคณะมีกิ้ก
ต่างคณะหลายคนอยู่เหมือนกัน
ยังไม่ทันได้ประมวลผลถึงความน่าจะเป็น ผ้าขี้ริ้วก็แหวกมาตามอากาศที่คนปากะเอาหน้าเธอเป็นเป้ารับ แต่มีหรือที่ฉัน
จะหลบไม่พ้น ถึงมันจะลอยมาโดยที่ตัวเองยังไม่ได้ตั้งตัวก็ตาม และมันก็เป็นชนวนทำให้คนปาเกิดอาการฮึอฮัด
“ เก่งนักใช่มั้ย หลบให้ได้ทั้งหมดแล้วกัน “
ยังไม่ทันพูดกันซักคำ สกอต์ไบรท์ แปรงล้างห้องน้ำสภาพชำรุด ( ดูท่ามันจะรักตัวด้ามมากเพราะหัวมันห้อยต่องแต่ง )ขนาดโดนเขวี้ยงอยากแรงมันยังไม่ยอมขาดออกจากกันเลย ตามมาด้วยขวดน้ำยาจากสีชมพูกลับกลายมาเป็นสีเหลือง
สีทีซีดจากขวดบางจุด บางจุดก็ยังคงสภาพสีเดิมอยู่ อันนี้ซิน่ากลัวถ้าเกิดว่าน้ำยาที่อยู่ข้างในขวดยังไม่หมดละก็ แม่เอ๋ยไม่อยากนึกเลย คราวนี้ได้เรียนศัลยกรรมแน่ๆ เอาไว้รักษาหน้าตัวเองไง
“ เดี๋ยว ...... พวกเธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า “
ฉันตะโกนถามก่อนที่เรื่องมันจะแย่ไปกว่าเดิม
“เฮ้ย .... ฟังก่อนพวกเธอทำอะไรเนี่ย “
ถึงจะตะโกนเพื่อเจรจาสงบศึกเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล แถมยังโดนผ้าขี้ริ้วปลิวมาตามแรงเหวี่ยงของคนเขวี้ยงเข้าหน้าฉัน
อย่างจังอีกตั้งหาก ( ไม่รู้มันมีกี่ผืน ) แล้วมันก็ทำให้อารมณ์ที่ไม่เคยสนใจใครเริ่มตั้งเค้าพายุลูกย่อมๆ
“ หยุ้ด ............หยุด..............”
“ เว้ย ......... โมโหแล้วนะ “
ไม้ถูพื้นที่หล่นอยู่ข้างตัวถูกมือเรียวหยิบขึ้นมาฟาดเข้าที่ประตูห้องน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างแรง ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นจน
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ชงักค้างกันไปทุกคน เพราะประตูห้องน้ำห้องนั้นแม้จะอยู่ในสภาพเก่าแก่ตามอายุตอนนี้บานพับ
ของมันหลุดออกจากขอบออกมาห้อยต่องแต่ง ที่เกิดจากการกระทำของผู้หญิงเพียงคนเดียว อาจเป็นเพราะฉันไม่ใช่สาวรูปร่าง
อ้อนแอ้นก็ได้ เลยมีแรงถึกอยู่ในตัวมากกว่าคนอื่นๆ
คิ้วเรียวเข้มได้รูปขมวดเข้าหากัน ดวงตาดำกลมโตบัดนี้มันยิ่งโตกว่าเดิมเพราะความโมโห แก้มที่แดงกล่ำโดยไม่ต้องทาบ
ลัชออนแม้แต่นิด ริมฝีปากเม้นแน่นเข้าหากัน
“ ฉัน ถาม ว่า นี่มันเรื่องอะไรกัน แล้วจับฉันมาทำไม “
เสียงพูดที่บอกได้ว่าผู้พูดไม่ได้ถามเล่นๆ แววตาเอาเรื่องจ้องมองกราดไปทั่วพร้อมด้วยท่าทางที่พร้อมจะมีเรื่องกับใคร
สักคน ถ้าไม่ได้คำตอบ
เปลี่ยนจากคนกระทำเป็นฝ่ายที่ต้องมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางหวาดๆ เพราะไม่มีใครคิดว่าผู้หญิงตัวคนเดียวจะ
กล้ามีเรื่องกับคนอีกตั้ง 4 คน แม้ฝ่ายนั้นจะรู้ว่าพวกมากกว่าแต่ก็อดเกรงๆไม่ได้ เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของบุรุษสองคนที่
อยู่ในเหตุการณ์ด้วยตั้งแต่ต้น
“ เอา ......เงียบทำไม ตอบมาซักที่ซิเว้ย หงุดหงิดแล้วนะ “
โห....ก็ตอนนั้นยังเห็นท่าทางหงิมๆ ติ๋มๆนี่หว่า แล้วทำไมตอนนี้ไม่หงิมไม่ติ๋มแล้วว่ะ เห็นเป็นผู้หญิงเรียบร้อย น่าจะ
ไม่กล้าสู้คน ดีแต่ร้องโอ้ย ว้าย รอให้คนมาช่วย แต่ท่าแม่คุณเอาเรื่องนะเนี้ย ตอนแรกว่าจะเข้าไปช่วยซักหน่อยแต่ตอนนี้
รอดูซักหน่อยก็แล้วกัน
“ ไอ้เยน...แกไม่ออกไปแสดงตัวเป็นฮีโร่ให้น้องเค้าหน่อยหรือว่ะ “
“ ม่าย..........ฉันชอบเป็นผู้ดูที่ดี แถมได้ลุ้นสนุกกว่ากันเยอะ ”
ชายหนุ่มที่ยืนแอบมองรอดช่องประตู เพื่อดูเหตุการณ์ด้านนอกส่ายหัวดุกดิกให้กับเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“ เอ้า ..... ว่าไงฉันอยากรู้ว่ามันเรื่องอะไรอยู่ดีๆ ก็ลากเข้ามาแล้วก็เขวี้ยงเอาๆ “
“ ก็..ก็เธอนั้นแหละที่ไปแย่งแฟนคนอื่นเค้า “ หญิงสาวตัวใหญ่สุดตวาดบอกกับเธอแต่ไม่รู้ว่าเพราะความกลัวด้วยหรือเปล่าเสียง
ตวาดมันถึงดูสั่นๆ แต่ฉันรู้สึกว่าแม่พวกนี้ไม่เหมือนคนที่จะมาหาเรื่องคนอื่นเลย ถ้าคิดจะมีเรื่องกันทำไมต้องกลัวจนตัวสั้น
ด้วย ทั้งๆที่ฉันก็มีอยู่แค่คนเดียว
“ แย่งแฟนคนอื่นงั้นเหรอ ?.... “
คราวนี้เควสชั่นมาร์กเต็มหัวเลย เออหนอตูไปแย่งแฟนใครว่ะเนี้ย งง
“ นี่........ ฟังให้ดีนะน้อง ดิฉันชื่อม่านดาว ชื่อเล่นชื่อเกลือ SALT ไม่ได้ชื่อปาจิงโกะอะไรนั้น เรียนอยู่ปี 4 คณะแพทย์
ศาสตร์ แล้วถ้าเธอคิดว่าฉันฉลาดมากหรือสวยมาก ม้ากๆ จนมีเวลาไปแย่ง.....แฟนชาวบ้านแล้วเค้าก็สนใจฉันนะน่ะ ขอโทษฉัน
เอาเวลาไปหาของกินที่มันอร่อยกว่าบะหมี่สำเร็จรูปดีกว่ามั้ย ที่พูดเนี่ยชัดไหม หรือต้องพูดภาษาอังกฤษให้ฟังอีก
เอามันทั้งสองภาษาเลยมั้ยยะ”
สายตาเลิกลักในกลุ่มทั้งสี่คนที่ต่างก็มองกันไปมองกันมาเหมือนปรึกษาแต่ไม่กล้าออกเสียงว่าควรทำอย่างไรดี
ทำให้เกลือยิ่งออกอาการเซ็งเข้าไปใหญ่
“ ไม่ผิดหรอกยายนี้แหละฉันจำหน้าได้ วันนั้นเธอแกล้งเดินชนพี่เยนเพื่อเรียกร้องความสนใจ แล้วก็ให้เบอร์โทรศัพท์กับพี่เยน
ด้วย “
ดวงตาคู่สวยได้แต่มองคนทั้งสี่ที่ดูเหมือนว่าหาเรื่องเธอให้ได้ ทั้งๆที่ตอนนี้ก็กลัวกันจนจะเบียดกันเป็นปลากระป๋องอยู่แล้ว
“ เธอแน่ใจเหรอไอติม แต่ที่ฉันได้ยินมายายนั้น เป็นดาวคณะมนุษย์นะ “
“ นั้นซิ.... ฉันดูยังไงหน้าตาอย่างงี้ไม่น่าเป็นดาวคณะได้หรอก “
เกลือได้แต่ฟังยัยพวกนี้วิจารณ์ มันน่านักไม่ต้องพูดฉันก็รู้ยะว่าตัวเองไม่สวย เชอะ แล้วมันจะคุยกันอีกนานมั้ยเนี้ย
เหม็นจะตายแล้ว
“ แต่ฉันเห็นจริงๆนะ ว่ายัยนี้เป็นคนยื่นกระดาษให้พี่เยนจริงๆ หรือว่ายัยนี่เป็นเพื่อนกับยัยปลานั้น “
เออหนอ....คิดเองเออเองเรียบร้อย
“ เหอะๆ ........ฉัน.....ไม่เคย......ให้เบอร์.......กับไอ้พี่เยนอะไรนั้น แล้วฉันไม่เคยยินชื่อนี้ มีหูมีตามีจมูกครบ 32 หรือเปล่า
ฉันก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นพวกเธอ.........ไม่ต้องลากฉันเข้าไปเกี่ยวข้องกับอีตานี้ หรือถ้าไม่แน่ใจจะตีกันก็ได้นะฉันพร้อม
ถ้าเธอลังเลนักฉันเริ่มก่อนก็ได้ ดีเหมือนกันผ่าแต่ศพไม่เคยได้ฟาดคนจริงๆซักทีเก็บกดมานานแล้ว “
มันเป็นมวลอากาศที่ทำให้คนรอบข้างรู้สึกอึดอัดมากที่เดียว จากผู้หญิงที่กำลังโมโหกลับเปลี่ยนอารมณ์ตัวเองกลายเป็น
น้ำแข็งได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงหวานๆนั้นแต่มันกลับทำให้คนฟังสยองไปถึงหัวใจที่เดียว ขนาดเค้าเป็นผู้ชายยัง
ขนหัวลุกเพราะนึกสภาพตอนที่เธอผ่าศพ ยอมรับว่าถ้าเป็นเค้าคงลมจับเพราะกลิ่นบวกกับศพแห้งๆนั้นแน่ๆ
“ ไอ้เยนฉันว่าแกควรออกไปช่วยพวกน้องๆทั้งสี่คนนั้นดีกว่านะ ฉันไม่อยากเป็นพยานคดีฆ่าหั่นศพว่ะ “
“ บอกตรงๆ ฉันเสียว ........บรือ..... “
ไอ้ท่าทางขนลุกขนพองที่เพื่อนยื่นแขนของมันมาให้เค้าดูก็พอรู้อยู่ว่ามันคงเสียวจริงๆ ไม่งั้นขนแขนมันคงไม่แสตนอัพขนาด
นั้นแน่ๆ และเพื่อบรรยากาศไม่ต้องมาคุไปกว่านี้เค้าควรจะออกไปสงบศึกด้านนอกซะที แล้วก็ถึงเวลาของฮีโร่แล้ว
ประตูห้องน้ำที่อยู่ด้านในสุดถูกเปิดออกโดยชายหนุ่มสองคน ซึ่งตอนนี้พวกเค้ามายืนอยู่ด้านข้างของเธอ แต่มันกลับ
เพิ่มความสงสัยให้กับผู้ที่อยู่ในห้องทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ตัวเธอเองว่าไอ้สองคนนี้มาอยู่ในห้องน้ำหญิงได้ยังไง
“ พี่ชเยนต์.....! ”
“ พี่คัตเตอร์.......! ”
เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน หลังจากที่เห็นหน้าผู้ชายคนแรกที่เดินออกมาพ้นประตู ท่าทางของสาวๆทั้งสี่ต่างพา
กันยืนตัวลีบหลบเข้ามุมรวมตัวกันเป็นกลุ่ม บางคนพยายามดันเพื่อนให้มาอยู่ด้านหน้าแทนตนเองเพื่อจะเอาเพื่อนเป็นที่กำบัง
ยิ่งเพิ่มความสงสัยให้กับเธอมากขึ้น และ ถ้าเธอจะสังเกตสักนิดว่าชายคนนั้นมีชื่อในหัวข้อที่ทำให้เธอต้องมายืนตัวเหม็นอยู่อย่าง
นี้
“ มีเรื่องอะไรกันครับ สาวๆ พี่ได้ยินเสียงดังเชียว “
ชเยนต์หันกลับมายักคิ้วให้กับหญิงสาวคู่กรณีของอีกฝ่ายเพื่อจะมองหน้าเธอให้ชัด หลังจากที่เห็นแค่ด้านหลังของเธอ
เท่านั้น และถ้าเค้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป ดูท่าทางเธอจะนิ่งไปเมื่อเห็นหน้าเค้า ก็มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงทุกคน
ที่ได้เห็นหน้าเค้าแล้วจะรู้สึกชอบเค้าทันที ก็เค้าหล่อ
คนที่ยืนหลงตัวเองยังยืนยิ้มกริ่มโปรยเสน่ห์ หารู้ไม่ว่าความอดทนเธอถึงที่สุดแล้ว ที่ต้องเสียเวลาของการเรียน แถมตัวเองเกือบ
โดนรุมตืบในห้องน้ำอีก เพราะไอ้บ้าหน้าขาวนี่แน่เมื่อกี้เธอได้ยินยัยพวกนั้นเรียกว่าพี่เยนแน่ๆ แล้วยังมีหน้ามายักคิ้วให้เธออีก
มันน่า
.ฮึ้ย...
เกลือมองดูผู้ชายที่เป็นตัวต้นเหตุตั้งแต่หัวจรดเท้า ถึงแม้มันจะเป็นกริยาที่ไม่สมควรทำก็ตามเถอะ และก็คงไม่มีมนุษย์คน
ไหนชอบที่ตัวเองถูกมองแบบนี้ ช่วยไม่ได้ก็ไอ้บ้าเนี่ยเป็นคนทำให้เธอปรอทแตกเอง แล้วทำท่าซะโหย .. หล่อลากจริงๆ
น่าลากไปฆ่าทิ้งซะคนบ้าอะไรหล่อไร้สมอง ไม่รู้มีเยอะหรือเปล่า เค้ากำลังตีกันแต่ไอ้นี่ยืนเก็กหล่ออยู่ได้
เกลือได้แต่เซ็งจัดแล้วยัยพวกนั้นกลัวลุ๊คเสียหรือไงยืนซะตัวลีบเชียว ที่เมื่อกี้ยังเก่งกล้าสามารถกันอยู่เลย
“ ว่าไงครับคุณผู้หญิง คุณมองผมจนพอใจหรือยัง “
ชายหนุ่มรู้สึกไม่ชอบใจนักที่สายตาของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มองเค้าอย่างชื่นชมหรือตกตะลึงในความหล่อ แต่เธอมองเค้าเหมือน
เป็นตัวประหลาดที่ไม่เคยพบไม่เคยเห็น ทั้งๆที่เค้าเปรียบเหมือนฮีโร่ที่ออกมาช่วยเธอได้ทันเวลา แต่แล้วเสียงพึมพำถึงแม้ว่า
จะเบาแต่เค้ากลับได้ยินชัดเจนเต็มสองรูหู
“ หล่อ.......บ้า.....น่าสมเพช “
ไอ้คำแรกก็ฟังดูดีอยู่หรอก แต่ไอ้คำหลังนี่ซิ .......โหย นี่ดีนะถ้าเพศชายไม่ค้ำคอเค้าไว้ ปานนี้เค้าจะร้องกรี๊ด.......ให้ห้องน้ำพัง
ไปเลย มีอย่างที่ไหนเค้ารึหวังดีจะมาช่วยเคลียร์ให้ที่ไหนได้กลับถูกมองเป็นตัวประหลาด แถมยังโดนว่าบ้าอีกตั้งหาก
คิดแล้วแค้น ถ้าไม่คิดว่าจะต้องเจอกันอีกพ่อจะเล่นให้ป่วนเล้ย ชเยนต์ได้แต่ยืนกัดฟันกรอดๆ ที่แม่คุณเดินผ่านเค้าไป
พร้อมกับทิ้งคำพูดแสบสันต์ให้เค้าเจ็บใจเล่น จนสี่สาวที่เหลือเริ่มสลายตัวไปหลังจากยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ
หันมาหาเพื่อนมันก็ขำอะไรนักหนามองอยู่เป็นนานสองนาน
“ ขำมากมั้ย.........คุณคัตเตอร์ “
น้ำเสียงเชือดเฉือนไม่มีวี่แววขี้เล่นเหมือนทุกครั้งทำให้คนเป็นเพื่อนอย่างเค้าพอจะรู้ว่าคนเป็นเพื่อนไม่ขำด้วยซักนิด
แต่นี่เค้าก็พยายามกลั่นเสียงหัวเราะเต็มที่แล้วนะ ท่าทางมันจะเสียเซลฟ์ไปเลยก็แม่คุณเล่นด่าเผาขนเลยนี้
และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ไอ้เยนหนุ่มลูกครึ่งไทย ญี่ปุ่น โดดเด่นมาตั้งแต่เด็กเคยแต่ถูกชื่นชมโดยเฉพาะสาวๆ
แต่คราวนี้กลับถูกด่า
จากสาวน้อยที่ไม่สวยซักเท่าไหร่ เหอะ.....คิดแล้วก็มีความสุขที่มีวันนี้ วันที่ไอ้เยนจ๋อย
“ โธ่เพื่อน ....อย่าซีเรียสน่าเดี๋ยวไม่หล่อนะเว้ย ดูซิคิ้วแกมันจะชนกันอยู่แล้วเนี้ย “
ชายหนุ่มเอานิ้วของตัวเองจิ้มไปที่หว่างคิ้วของเพื่อนที่มันจวนจะผูกกันเป็นปมอยู่แล้ว ไม่มีครั้งไหนที่เค้าสะใจที่ได้แหย่เพื่อนเท่ากับครั้งนี้อีกแล้ว
“ ฝากไว้ก่อนเถอะ .....ยัยบูรินเอ้ย........”
ชายหนุ่มได้แต่ยืนบ่นผู้หญิงที่เดินผ่านเค้าไปอย่างไม่ใยดี ไม่อยากพูดว่าแม้แต่หางตาก็ยังไม่แลเค้าเลยด้วยซ้ำ ความมั่นใจที่
เคยมีเกินร้อยที่เกือบจะทะลุสองร้อยตอนนี้มันหดจนเกลี้ยง สวยก็ไม่สวย รู้งี้ปล่อยให้ตีกันไปซะก็ดี สายตาที่วกกลับมาหาเพื่อนที่ดูท่าไม่ยอมหยุดหัวเราะเยาะเค้าง่ายๆ ไม่วายทั้งๆที่มันรู้ว่าเค้าอารมณ์ไม่ดี มันก็ยังไม่เลิกหัวเราะ นี่มันขำอะไร
หนักหนาว่ะ
“ นี่ตกลงแกหัวเราะอย่าหยุดเชียวนะ ถ้าหยุดเมื่อไรเจอ ........พระบาท ....นะแกรู้จักมะไอ้คัต......”
ไอ้เพื่อนคนนี้เหมือนรู้ทันเค้า ก่อนที่เค้าจะไปถึงตัว มันเล่นวิ่งร้อยเมตรไปก่อนที่เค้าจะพูดจบด้วยซ้ำ แต่ยังไงงานนี้เค้าไม่ยอมให้มันมาหัวเราะฟรีๆหรอก แม้จะบอกกับตัวเองว่าไม่สนใจแต่ทำไมไอ้ลูกกะตาโตๆกับขนตางอนๆนั้นยังอยู่ในความนึกคิดไม่จางหาย แล้วไอ้ที่เค้าตั้งฉายาให้ยัยบูรินนั้นอีก ทำไมเค้าต้องนึกถึงบูรินด้วยก็ไม่รู้ เพราะตัวบูรินในการ์ตูนเวลาแปลงร่างแล้วเป็นคนสวยจะตาย แล้วทำไมเค้าต้องเอายัยนี้ไปเปรียบเป็นบูรินด้วยก็ไม่รู้ รอก่อนเถอะฉันเอาคืนเธอแน่......
.......................................................
“ บุ๊ค...แกดูเพื่อนแกซิ ทำไม่หน้ามันหงิกเป็นม้าน้ำอย่างงั้นว่ะ “
เพื่อนชายเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มของเธอเอ่ยถาม เมื่อเห็นเพื่อนสาวเดินหน้าหงิกเมาแต่ไกล แถมปากเจ้าหล่อนยังขมุบขมิบมาตลอดทาง
“ แค่อาจารย์ให้มันเอาของไปให้เพื่อนแค่เนี้ย มันเดินอารมณ์เสียกลับมาเชียวหรือว่ะ “
“ ไอ้โอ แกนินทาอะไรฉัน “
“ เฮ้ย....!”
ชายหนุ่มถึงกับสดุ้งเฮือก เพราะไม่คิดว่าคนที่กำลังนินทาได้ยินสิ่งที่เค้าพูด ดวงตากลมโตของเพื่อนสาวที่ตอนนี้ถลึงตามองเค้าอยู่ ท่าทางพร้อมจะมีเรื่องถ้าได้คำตอบไม่ถูกใจคุณเธอ ก็เมื่อกี้เค้าเห็นมันเดินอยู่แต่ไกลนี่หว่า แล้วทำไมมันมายืนอยู่นี่
แล้วว่ะเนี้ย ซวยฉิบ ชายหนุ่มได้แต่ส่งซิกให้เพื่อนสาวอีกคนช่วยแก้สถานการณ์ชวนขนลุก กลัวไอ้คนบ้ามันจะบีบคอเค้าตายซะก่อน ก็มันเล่นจ้องไม่กระพริบตาแบบนี้ อีท่าทางอย่างงี้นานน้าน........เจ้าตัวถึงจะเป็นที่ ถ้าไม่เดือดจริงไม่มีทางเป็นแบบนี้แน่ แล้วใครมันทำเพื่อนเค้าเป็นหมาบ้าอย่างงี้ เลยทำให้เค้าพลอยซวยไปด้วย ปากหนอปากไม่น่าเลยตู
“ เอ้า แกจะทำหน้าหมาหงอยอีกนานมั้ย จะตอบไม่ตอบเวลานินทาเค้าละก็คล่องเชียวนะแก ลงกับคนอื่นไม่ได้ก็ลงกับเพื่อนนี่ละ “
ขณะที่ชายหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่ม ตาโตกับคำพูดที่ออกมาจากปากสาวเจ้า แต่อีกกับหนึ่งสาวที่อยู่ในวงสนทนาตั้งแต่ต้น
ได้แต่หัวเราะกับเพื่อนตัวยุ่งทั้งสอง แต่ไม่รู้ทำไมไอ้นายโอมันถึงได้กลัวไอ้เกลือมันนัก ถ้าลองไอ้เกลือว่านกเป็นไม้มันก็พร้อมยอมเห็นเป็นไม้ตามที่ไอ้เกลือบอกทุกที ทั้งๆที่คนอื่นเค้าเห็นเป็นนกกันหมด แต่อย่างงี้ก็ดีมีอะไรสนุกๆให้ดูทุกวัน
อย่างไอ้คุณชายอนุมันก็ไม่เคยยอมใครเหมือนกัน
“ แกเป็นอะไร คุณชายอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ฉันรู้ว่าแกชอบ..........ฉัน แต่แกไม่ต้องจ้องฉันซะตาโตขนาดนั้นก็ได้...... “
ถ้านั้นเป็นการพูดธรรมดาก็ดีไป แต่ไอ้มือที่ฟาดผลัวะเข้ามากลางหลังเค้านี่ซิ มันไม่คิดจะเก็บแรงไว้เลยใช่มั้ยเนี้ย โอย..ไม่น่าเล้ย ....เพราะความเมาแท้ๆทำให้มันรู้ความลับของเค้าที่อุตส่าห์เก็บไว้ตั้งนาน ไม่งั้นเค้าก็ไม่ต้องหงอให้มันขนาดนี้หรอก
มันจะผิดไหมถ้าผู้ชายอย่างเพื่อนเธอจะค้อนเธอซะวงเบ้อเร้อ ไอ้นี่เค้าลือว่ามันเป็นเกย์ แล้วยังจะทำเป็นค้อนอีกแล้วอย่างงี้จะไม่ให้คนอื่นเค้าเข้าใจผิดได้ยังไงกัน เล่นขาว สูง หน้าใส แถมหล่อเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกต่างหาก อย่างงี้แล้วจะไปจีบใครเค้าได้ เล่นเอาเกย์ตัวหน้าผากซะตัวใหญ่เชียว
“ โอ๋....โอจ๋าอย่าโกรธเกลือนะ เกลืออารมณ์ไม่ดีนี้ดเดียวเอง ตะเองอย่าโกรธเรานะ “
นิ้วก้อยถูกยื่นส่งให้มันแทบจิ้มเข้ารูจมูกเค้าด้วยซ้ำ มือใหญ่รวบมือเล็กไว้ในอุ้งมือพร้อมออกแรงบีบให้หายแค้นที่มันคอยหาโอกาสแกล้งเค้าเสมอ
“ ไอ้เกลือ .........วันนี่ฉันไม่ให้แกแกล้งฉันอีกแล้ว ถึงเวลาเอาคืนบ้างแล้วเพื่อนรัก “
ชายหนุ่มส่งยิ้มหวานให้กับหญิงสาวที่เค้าไม่เคยเห็นมันเรียบร้อยอย่างที่คนอื่นเห็นซักที ไอ้รูปร่างหน้าตา กับกริยามารยาทที่
เรียบร้อยไม่ใช่ตัวตนจริงๆของแม่คุณเธอเลยซักนิด กลับกันมันเกิดมาสมกับชื่อเกลือจริงๆ ถ้าเอาไปทำในทางที่มีคุณประโยชน์
ก็มีคุณอนันต์ แต่ถ้าเอาไปแช่หวายแม่คุณก็แสบซะคนที่โดนต้องเจ็บจำไปจนตายทีเดียว
.............................................................................................
เตียงนุ่มที่ยุบตัวไปกับร่างสมส่วน ของบุรุษเพศที่นอนหลับอย่างมีความสุข กลับถูกปลุกด้วยเสียงโทรศัพท์ที่เจ้าของอยากจะ
เฟี้ยงทิ้ง ถ้ามันไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุดที่สงตรงมาจากอเมริกา
“ ฮาโหล....”
เสียงงัวเงียพูดกับโทรศัพท์โดยไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าใครที่มันกล้าโทรมาหาเค้าซะดึกดื่นป่านนี้
“ ไง......งานที่พี่ให้ทำเป็นยังไงบ้าง สำเร็จไหม “
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นนั้ง และหายง่วงทันทีที่รู้ว่าคนในสายเป็นใคร
“ โฮ้ ...พี่ไหนพี่บอกว่างานนี้หมูไง ผมว่ามันไม่ใช่หมูบ้านเลยนะนั้น หมูบูรินเชียวละ “
“ แม่คุณเล่นมองผมซะตั้งแต่หัวจรดเท้า ดีนะไม่มองย้อนตั้งแต่เท้าขึ้นมายันหัวอีก นี่ถ้าเป็นผู้ชายด้วยกันละก็งานนี้มีตีกันตาย
ไปข้างแน่ๆ “
วันนี้เค้าอารมณ์เสียทั้งวันพอมองเห็นใครตาโตๆ หน่อยเป็นต้องนึกถึงคู่กรณีทุกทีไป
“ ผมงี้แทบกรี๊ด แค้นสุดแค้นแทนที่จะสนใจเรา กลับมองผ่านไม่เห็นหัวผมเลย แถมยังโดนว่าบ้าอีกตั้งหาก “
ดูดู้ แทนที่จะปลอบใจเค้าแต่ไหงกลับมาหัวเราะเยาะเค้าอีกคนละเนี้ย ไอ้คัตก็คนแล้วนี้ยังมีเพิ่มมาอีกคน
“ พี่ไม่ต้องมาหัวเราะเยาะผมเลย แทนที่จะเข้าข้างกัน แต่กลับมาขำผมอย่างเงี้ยหมายความว่าไง “
น้ำเสียงฮึดฮัดที่ส่งมาตามสาย จนทำให้คนฟังพอรู้ว่าผู้หงุดหงิดจริงๆ
“ ก็ถ้าเค้าสนใจแกนี่ซิแปลก.....ขนาดพี่เองเค้ายังไม่สนใจเลยแต่ดีหน่อยที่ยังไม่ถูกมองตั้งแต่หัวจรดเท้านะ “
“โธ่......พี่ตกลงพี่จะซ้ำเติมผมใช่มั้ย ถึงพูดไม่รักษาน้ำใจกันบ้างเลย “
“ เอาน่า งานนี้รับรองพี่ให้คุ้มค่าเหนื่อยแน่ แล้วตอนนี้โน้ตบุ๊คตัวใหม่ล่าสุดพี่ก็ส่งไปให้แล้วคิดว่าอีกไม่กี่วันก็คงถึงรับรอง
หายหงุดหงิดแน่”
“ อ๋อ...อย่าลืมที่พี่บอกละ “
“ คร้าบ ......ลูกกระจ็อกคนนี้จะทำสุดความสามารถ เพื่อโน้ตบุ้ครุ่นล่าสุด และเพื่อคนโสดที่รักครับผม “
“ อือ “
โทรศัทพ์ที่มีเพียงสัญญาณที่ถูกตัดจากการสนทนาไปแล้ว แต่คนที่นั่งอยู่บนเตียงก็ยังสงสัยกับพี่ร่วมโลกคนนี้ไม่หาย ทำไมต้องให้เค้าไปทำอะไรปัญญาอ่อนขนาดนั้นด้วยก็ไม่รู้
ความคิดเห็น