ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เก็บรัก- พยุงหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #3 : นับ 1...

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.พ. 51


    โอ้ยพวกคนมีตังค์นี่คงไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร แน่ๆเลย      เฮอะๆ   

    ให้ตาย.......ว่าที่พักของพี่โยฮาใหญ่แล้วนะ         ยังเทียบกับที่นี่ไม่ได้เลยซักติ๊ด.....เดียว         
    หลังจากที่รัณได้พักผ่อนจากการเดินทางจนอิ่ม   แถมทริปท่องเที่ยวที่เพื่อนบอกไว้   เธอก็ได้รู้เรื่องที่ริซต้องการความช่วยเหลือจากเธอ       และเธอเองก็เต็มใจที่จะช่วยเพื่อน    


    มันจึงเป็นสาเหตุให้เธอต้องมายืนยู่ตรงนี้        เพื่อเริ่มแผนการที่ตัวเธอเองยังไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอคิดยังไง
    นี่และนะความรัก    แต่ความกังวลก็มีมาเมื่อนึกถึงคนที่ เธอต้องระวังเป็นพิเศษ     เท่าที่ฟังมาชีคยาซัส

    คงเป็นคนที่น่ากลัวทีเดียว    ได้แต่เห็นในนิยายแต่ไอ้เรื่องจริงที่เธอกำลังทำนี่ละ  ไหงกลับมาเจอกับคนใกล้ตัวได้เนี่ย     
    แล้วแผนการที่ริซบอกมันคงไม่ง่ายเหมือนอย่างที่นึกแน่

     


            เฮ้อ......เสียงถอนใจที่คิดว่าตัวเองคงต้องอยู่ที่นี่นานพักหนึ่งแน่ๆ    อดอ่านการ์ตูน ONE PIECE  ไปอีกนานทีเดียวกำลังสนุกเชียว     คิดไปคิดมาก็ต้องถอนใจให้กับตัวเองอีกรอบ     ทำไมชีวิตพื้นๆของฉันทำไมมันไม่พื้นไปเรื่อยๆ     ไอ้ได้เที่ยวมันก็ดีอะนะ....แต่ต้องมาพัวพันกับความรักของเพื่อน และยังถูกกีดกันจากพี่ชายตัวร้ายของฝ่ายชายอีกตั้งหาก
     
    ให้ตาย......ถ้าไม่ได้ยินจากปากเพื่อนไม่มี้....ไม่มีทางที่คนอย่างไอ้รัณจะเชื่อแน่ๆ      เพราะแทนที่ฝ่ายชายจะถูกกีดกันจากฝ่ายหญิง      แต่ดั้นกลับตาลปัทดั้นมาเป็นฝ่ายหญิงถูกกีดกันจากฝ่ายชาย       แถมมีพี่ชายบ้าที่ไหนว่ะหวงน้องชายขนาดนี้        หรืออีตานี่เป็นโรคคิดน้อยๆไม่เป็น     ไม่ก็คิดอะไรดีๆไม่ได้   หรือว่า........ประสาทอ่อนๆ    


                       -----------------------------------
     

    ตั้งแต่เช้าที่ออกเดินทางมารัณก็ไม่รู้แล้วว่าคนขับพาเธอมาที่ไหน   มันทั้งวกวนบวกโค้งเยอะจนสับสนไปหมด  แถมยังนั่งจนก้นแฉะ    แค่ไอ้ก้นแฉะนะยังไม่เท่าไหร่      แต่ไอ้กำแพงบ้าที่เห็นเมื่อตะกี้เนี่ย......ตอนที่พี่สารถีเอาเธอมาปล่อยตรงด้านหน้า     ( เหมือนลูกหมาโดนปล่อยยังไงก็ไม่รู้  )     แล้วบอกให้เธอเดินตามผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนรออยู่         เข้ามาด้านในเนี่ย...........จนป่านนี้ก็ล่วงเลยมานานหลายสิบนาทีก็ยังไม่เห็นอะไรเลย    ถึงจะมีต้นไม้อยู่ริมทางเดินแต่มันก็ร้อนน้อยซะเมื่อไหร่    แล้วป่านนี้ยังเห็นแม้แต่หมาซ้าก.......ตัวมันหมายความว่าจั๊งได๋     

     พี่สาวที่เดินนำหน้าเธอ    ที่ดูอายุมากกว่าเธอ ไม่กี่ปีบอกว่าส่วนที่กำลังเดินอยู่เป็นเพียงส่วนรับรองด้านหน้าที่ใช้เวลาจัดงานส่วนด้านในจะเป็นที่ส่วนตัว    ซึ่งจะอยู่ห่างจากส่วนรับรองไปอีกด้านหนึ่ง    และจะแยกด้านซ้าย และขวา และไม่อนุญาตให้คนที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าออก       ตลอดทางจะมียามรักษาการณ์เข้มงวดตลอด24ชั่วโมง   

      
    โห......ตูจะบ้า......ว่าตัวเองอึด.....ทึก......แล้วนะยังอยากลงไปนั่งให้มันรู้แล้วรู้รอดไป    แค่วันแรกก็เล่นเอาหมดแรง     แล้วกว่าจะลากตัวเองไปถึงห้องนอนมันจะอีกกี่ชั่วโมงว่ะ   รัณได้แต่พึมพำในใจแล้วก็ไม่วายด่าไอ้คน

    ที่มันออกแบบไอ้บ้านหลังหญ่ายเนี้ย    แทนที่ระยะทางออกจะไกล   ไหนๆทำแล้วทำไมไม่เอาจักรยานมาวางทิ้งไว้บ้างก็ไม่รู้     อวดว่ามีตังค์แต่ไม่มีปัญญาซื้อจักรยาน ไว้บริการซักคัน..........โหจอก

     
           และมันก็เป็นข้อมูลตรงกับที่คนรักของเพื่อนบอกมา     แต่ปัญหาที่เธอจะต้องทำให้ตัวเองเข้าไปอยู่รับใช้     ในส่วนที่เป็นที่พักของมารดาของผู้ชายตัวปัญหาหรือตัวจำมัยของเธอนี่ซิ ……ยากส์…….
            

            จะทำยังไงถ้าเป็นเมื่อก่อนการเข้าถึงตัวคงไม่เย็นอะไรนัก      แต่การเข้ามาเป็นสาวใช้แล้วตรงเข้า ไปรับใช้ส่วนในคงเป็นไปไม่ได้      พี่โยฮาเองก็คิดว่าพี่ชายของเค้าคงไม่ยอมให้เค้าหรือญาติคนใดที่พยายามจะช่วยเค้าเข้าถึงตัวมารดาได้    นี่แหละมันก็เลยเป็นเรื่องหนักใจอยู่ในตอนนี้


           เพระมารดาก็เป็นคนเดียวที่     ชีคให้ความเคารพรัก     การที่เพื่อนและพี่โยฮาเสี่ยงให้เธอเข้ามาอยู่ในนี้เป็นทางเดียว  
      ที่จะเข้าถึงตัวมารดาโดยที่พี่ชายเค้าไม่สงสัย     เพราะไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน   และสาวชาวไทยที่มาขายแรงงานนั้นก็มีมาก     แต่คงต้องทำให้เธอ ลำบากพอควรเลยทีเดียว


             ที่พักของเธอเป็นห้องพักที่มีเพื่อนร่วมห้อง     ริญะเป็นรูมเมดของเธออายุที่ไร่เลี่ย     ทำให้ทั้งสองเข้ากันได้ดีแถมนิสัยยังคล้ายกันอีกพวกเธอทั้งสองคนต้องฝึกงานอยู่        แต่ในครัวตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา    งานในครัวยุ่งจนทำให้รัณแทบไม่มีเวลาด้วยซ้ำ

              การเป็นคนง่ายๆทำให้เธอเข้ากับทุกคนได้ดี    ยิ่งหัวหน้าแม่บ้านที่ชอบให้เธอนวดให้เป็นประจำ     ทำให้เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของชีคหนุ่มมากขึ้น      ในทางตรงกันข้ามความรู้สึกไม่ชอบในตัวชีคหนุ่มก็เพิ่มมากขึ้นเหมือนกัน      ถึงแม้ว่าเค้าจะเป็นผู้นำและเป็นที่ยำเกรงของคนทั่วไป       เพราะความเก่งบวกกับฐานะ และรูปร่างหน้าตาที่ใครต่อมใครก็บอกว่าหล่อ     ด้วยคุณสมบัติครบถ้วนทำให้มีผู้หญิงมากหน้า   หลายตายอมมาอยู่เพื่อขอให้ชายหนุ่มได้พิจารณาในตัวของหล่อนทั้งต่างชาติ  และชาติเดียวกัน     ต่างก็หวังให้ชีคหนุ่มยอมรับในตัวพวกเธอ           ทำให้รัณคิดว่าของสะสมของอีตาชีคนี่เป็นผู้หญิง     ผู้ชายคนเดียวแต่มีผู้หญิงหลายสิบชีวิต       แถมแต่ละคนหน้าตาสะสวยทั้งนั้น       ขนาดเ ธอเป็นผู้หญิง ยังชอบแอบมองดูอยู่บ่อยๆ    บางคนสวยน่ารัก     บางคนก็เอาแต่ใจเพราะมาจากลูกคนมีฐานะเหมือนกัน    ตั้งแต่รัณมาอยู่ที่นี่ยังไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ ของชีคเลยซักครั้ง
     

         เพราะเธอรู้มาว่าเค้าเดินทางไปแถบเอเซียเพื่อขยายกิจการของตน      คงอยู่อีกนาน
     

            " รัณแม่เฒ่าเรียกเธอแนะ   "
     
            ริญะวิ่งกระหืดกระหอบ เข้ามาในครัวด้านหลังที่รัณมักนั่งอยู่เป็นประจำ   หลังจากงานเสร็จ
           
           บริเวณนี้ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน    เธอจึงชอบมานั่งพักเป็นประจำ


           "  ใจเย็นๆ      หยุดก่อนแล้วค่อยพูดก็ ได้      แค่นี้ทำเป็นเหนื่อย  "
        

           รัณอดแซวเพื่อนไม่ได้ ตั้งแต่เข้ามาเป็นสาวใช้ในครัว  เธอก็ต้องฝึกเกี่ยวกับมารยาททุก    อย่างและข้อห้าม          อีกมากมายแต่พวกเธอก็หาความเรียบร้อยไม่ได้    จนแม่เฒ่าอ่อนใจกับเธอทั้งสอง     และสาวใช้ที่ถูกฝึกพร้อมกันต่างก็ออกไปรับใช้เจ้านายอยู่ด้านนอก     ทำให้งานในครัวมีแต่คนสูงอายุจะ หยิบจับก็ไม่สะดวก แม่บ้านจึงให้เธอทั้งสองคนอยู่ช่วยในครัว    
            แม้ว่าตอนแรกริญะดูจะไม่พอใจ แต่เธอก็ยอมอยู่กับรัณ      แต่เธอทั้งสองก็ยังมีโอกาสออกไปรับใช้งานด้านนอกได้บางเวลา     ทำให้ริญะพอใจมากที่ไม่ต้องไปทนเป็นสาวใช้ประจำตัวผู้หญิงของชีค   เพื่อที่จะอยู่ด้านนอก
    เพราะแต่ละนางร้ายไม่ใช่เล่น

           " เอ้าอย่ามัวแต่ยิ้มซิ        รีบไปเลยนะเดี๋ยวแม่เฒ่าว่าฉัน เถรไถลพาลอารมณ์เสีย     ฉันก็ไม่ได้ออกไปสืบข่าว สังคมไฮโซแน่     ถ้าฉันตกข่าวมันจะทำให้สุขภาพ จิตของฉันทดถอยรู้มั้ย  "
            
             ริญะไม่พูดเปล่าเธอเดินมาดันหลังเพื่อน    ให้รับเดินไปในส่วนที่เป็นที่พักของแม่เฒ่า
     
              ประตูด้านหน้าที่เปิดอยู่แล้วพร้อมกับร่างของหญิง วัยกลางคนที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของม้า นั่งยาวที่วางในห้อง
     
          "มาแล้วเหรอฉันมีเรื่องจะใช้เธอ        เดี๋ยวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปพบฉันที่ด้านหน้าตึก  "
     
            แม่เฒ่าเป็นคนใจดีสำหรับสาวใช้ที่อยู่ในครัว     แต่ถ้าเป็นสาวใช้ในส่วนหน้า ทุกคนจะรู้ว่าแม่เฒ่าเป็นคนเจ้าระเบียบมากจนทุกคนต่างเรียกเธอว่าแม่เฒ่า    ทั้งๆที่อายุแค่วัยกลางคนเท่านั้น


            "ค่ะแม่เฒ่า"
          รัณอดแปลกใจไม่ได้ ้เพราะเธอไม่เคยเห็นแม่เฒ่าออกไปไหน      แต่ทำไมวันนี้ถึงต้องให้เธอไปด้วย ทั้งๆที่ให้คนอื่นไปก็ได้            

                     ####################
     

              รถจี๊ปคันหนึ่งจอดอยู่ด้านหน้าของตัวตึก   ร่างของหญิงชราที่รัณคุ้นเคยยืนคุยอยู่กับชายคนหนึ่งอย่างเป็นกันเอง     ถึงรัณจะไม่เคยพบคนที่อยู่ในส่วนหน้าซักเท่าไหร่
              แต่บุคลิกบวกกับหน้าตาทำให้เธอพอจะรู้ว่าเค้าเป็นใคร     จากการบอกเล่าของริญะ    ผู้ชายคนนี้เป็น1ใน 3 คนสนิทของชีคซึ่งตอนนี้ให้ลูกน้องคอยดูแลมารดาของเค้า      พร้อมกับดูแลความเรียบร้อยเวลาที่เค้าไม่อยู่ และนี้ก็เป็นการบอกได้อย่างหนึ่ง  ว่าแม่เฒ่าเป็นคนสำคัญคนหนึ่งที่คนสนิทของชีคต้องมารับด้วยตนเอง

           บุคลิกที่ดูองอาจที่เป็นผลมาจาก การฝึกหนัก รูปร่างที่สูงใหญ่ ผมที่ถูกตัดสั้น อย่างทหาร จมูกโด่งแต่ตาของเค้ากลับตี่เล็กแต่ดูไม่น่าเกลียด       หนวดเคราที่ไม่ได้โกนออกแต่ถูกจัดแต่งอย่างดีทำให้เค้าดูเป็นคนดุคนหนึ่ง  แต่ยังไงซะเธอก็ไม่นึกชอบผู้ชายมีหนวดเลย    เพราะมันดูรกรุงรังยังไงก็ไม่รู้


            " รัณรู้จักท่านนายพลอาริบไว้ซะ" 


        แม่เฒ่าแนะนำ ชายหนุ่มให้เธอรู้จัก

            " สวัสดีค่ะ " 


         เค้าหันมามองเธอชั่วครู่ และพยักหน้ารับรู้    แล้วจึงเอ่ยขึ้น

     "   เราจะไปกันเลยมั้ยครับ   ป่านนี้นายผู้หญิงคงรออยู่ที่สวนด้านในแล้ว  " 

    ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินมาจูงมือเพื่อพยุงแม่เฒ่าไปที่รถ    โดยมีรัณเดินตามมาด้านหลัง


     "  อาริบชีคจะกลับมาเมื่อไหร่    ท่านบอกหรือเปล่าป้าว่าท่านไปนานพอดูแล้ว "
     

    นางเอ่ยถามผู้เป็นหลาน และเป็นคนสนิทของชีคด้วย


      "ไม่ต้องห่วงครับ    ยังไงท่านต้องมา งานวันเกิดของท่านผู้หญิงแน่     แต่เห็นว่างานทางนู้นใกล้เสร็จ แล้วคงกลับมาอยู่ที่วังอีกนาน  "

      "  ว่าแต่ปีนี้จัดงานที่ไหนครับ  "

    ชายหนุ่มหนักลับมาคุยกับผู้เป็นป้าที่นั่งอยู่ด้านข้างซึ่งเค้าเป็นคนขับ

    "  ป้าเองก็จะมาถามท่านเหมือนกัน    จะได้เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ นี่ก็เหลือเวลาอีกแค่1เดือนเท่านั้น   " 

       "  ดีครับ    ผมว่าปีนี้แขกคงเยอะเป็นพิเศษเพราะชีคขยายธุรกิจเพิ่ม      แถมคุณโยฮาก็เรียนจบพอดี    คุณป้าคงต้องยุ่งน่าดู  "

      รัณนั่งฟังคำสนทนาของคนทั้งสองอยู่เงียบๆ      สิ่งที่ได้ยินเหมือนโชคเข้าข้างเธอถ้าเดาไม่ผิดอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้    เธอจะได้พบกับมารดาของชีคแล้ว       โดยที่เธอไม่ต้องหาทางอีกต่อไปแล้วเธอก็จะได้กลับประเทศไทยเสียที    แต่จะทำยังไงละไม่ให้บุคคลที่ 3 รู้เรื่องที่เธอมา     เพราะนั้นอาจถูกชีคจอมบงการขัดขวางแน่ๆ    

    ถ้ารัณจะสังเกตุซักนิด     คงจะรู้ว่าสายตาของชายหนุ่มที่ร่วมเดินทางมาบนรถคันเดียวกัน       กำลังจับตามองอาการดีใจของหญิงสาวต่างชาติอย่างไม่ไว้ใจ     แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมป้าของเค้า ถึงพาสาวใช้ต่างชาติคนนี้มาด้วย




                -- การเป็นทหารและเป็นคนสนิทของชีค     ทำให้อาริบต้องคอยระแวดระวังและช่างสังเกตุเหตุการณ์ต่างๆมากขึ้นเป็นเท่าตัว
             รถจี๊ปแล่นผ่านตัวตึกสีขาวซึ่งเป็นที่พักของชีคและมารดา     รัณที่ไม่เคยเห็นตัวอาคารด้านหน้านั้นเป็นยังไง      แต่ตอนนี้เธอเชื่อแล้วว่า ริญะไม่ได้พูดเกินความจริงเลย     ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกขนาบอยู่สองข้างทางที่ปูทางเดินด้วยหินอ่อนสนามกว้างกินเนื้อที่หลายไร่      เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธ์ที่ถูกดูแลอย่างดี

               สายน้ำที่แตกกระเซ็นจากน้ำพุใหญ่ไหลลงสู่บ่อปลาด้านล่าง     ที่ทำเป็นขั้นบันได
               ไม่น่าเชื่อว่าดินแดนแห่งทะเลทราย แต่กลับดูร่มรื่นให้ความรู้สึกเย็นสบายอย่างไม่น่าเชื่อ


     ตัวตึกที่ปูพื้นด้วยหินอ่อนดูขาวสะอาดตาตัดกับพรมผืนใหญ่สีน้ำเงินที่ปูยาวไปจนสุดขั้นบันได         ภายในอาคารที่เธอเดินผ่านมาเป็นตัวอาคารด้านซ้ายซึ่งเป็นที่พักของท่านผู้หญิงของวัง

             รัณทราบมาว่าพ่อของชีคยาซัสเป็นเชื้อพระวงค์องค์หนึ่ง ซึ่งเป็นพระญาติกับองค์กษัตริย์     แต่พระองค์รักอิสระไม่ชอบอยู่ในกรอบประเพณีเท่าไหร่นัก     เพราะมิได้เป็นองค์รัชทายาทที่จะสืบบัลลังค์ต่อทำให้ทรงทำตัวตามสบายและ พระองค์ชอบการท่องเที่ยวทำให้พบท่านผู้หญิงจึงได้เกิดความรักขึ้น

              แต่ทรงอายุสั้นทำให้ท่านผู้หญิงต้องอยู่ดูแลบุตรชายทั้งสองตั้งแต่ชีคอายุย่างเข้าสู่วัยรุ่น      ด้วยอายุที่มากกว่าน้องชายถึง5ปี    ทำให้ชีคต้องคอยดูแลน้องและมารดาพร้อมทั้งกิจการน้ำมันต่อจากบิดา


            ทุกวันนี้ชีคยาซัสเป็นเพียงพ่อค้าน้ำมันคนหนึ่งในสายตาของนักธุรกิจทั่วโลก    เพียงแค่มูลค่าน้ำมันที่แป็นของชีคนั้นมีมูลค่ามหาศาล    น้อยคนนักที่จะรู้ว่าชีคยาซัสเป็นผู้อยู่เบื้องหลังบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ    ทั้งที่เป็นของเค้าเองและเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่    




               ............ เฮ้อ......ดีนะที่ไม่ต้องเจอกับผู้ชายคนนี้ ถ้าเจอเธอคงแย่แน่        ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเจอชายหนุ่มแต่รัณคิดว่าถ้าเค้าไม่เก่งจริงคงอยู่ไม่ได้จนถึงทุกวันนี้         ซึ่งต่างกับเธอที่อยู่กับชีวิตเรียบง่ายไปวันๆ
     
              ....... ร่างของหญิงวัยกลางคนแต่ยังคงเห็นถึงความสวยที่ยังมีอยู่แม้อายุจะมากขึ้น      เนื้อผ้าที่สวนใส่ล้วนบอกราคาของตัวมันเอง    พร้อมเครื่องประดับราคาแพงที่ตกแต่งอยู่บนร่างกายน้อยชิ้นแต่มูลค่ามันคงไม่น้อย      นั่งอยู่โซฟาตัวใหญ่ในห้องรับรองพร้อมสาวใช้สองคนที่นั่งขนาบอยู่ทั้งสองข้าง      ดูเหมือนท่านผู้หญิงจะสั่งงานบางอย่างอยู่ ก่อนแม่เฒ่าเดินเข้าไปนั่งลงที่พื้นโซฟาด้านหนึ่ง



                " ขึ้นมานั่งข้างบนซิฟาฮี        เธอจะนั่งทำไมข้างล่าง "

           น้ำเสียงแสดงความไม่พอใจเล็กๆ ที่คนเก่าคน แก่ของที่นี่ไม่เชื่อฟังซักที     อ้างแต่ว่าไม่เหมาะทุกครั้งที่ จะให้มานั่งเทียมเจ้านายทั้งๆ ที่ตนเองก็เดินเหินไม่สะดวก   จะลุกจะนั่งทีต้องคอยพยุง

            " อิฉันนั่งตรงนี้ดีกว่าคะนายหญิง อย่าให้อิฉันลำบากใจ เลยค่ะ " 
         
     ตั้งแต่รัณเข้ามาเป็นสาวใช้ พึ่งจะเห็นแม่เฒ่าสงบเสงี่ยม ก็วันนี้เเหละธรรมดาจะต้องด่ากระเจิงถ้าคนไหนทำอะไรไม่ถูกใจ     ยิ่งเธอกับริญะมักจะโดนบ่อยๆ เพราะทำตัวไม่เรียบร้อยกระโดกกระเดก   แต่พวกเธอก็รู้ว่าแม่เฒ่าปากร้ายแต่ใจดีรัณได้แต่อมยิ้ม     ที่เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของแม่เฒ่าทีไม่คิดว่าจะได้เห็น

     "  อาริบ.....ขอบใจมากที่ไปรับแม่เฒ่ามาให้       เธอไปทำงานอื่นต่อเถอะตรงนี้ ถ้าฉันเสร็จแล้วจะให้คนไปตาม "


            ท่านผู้หญิงของบ้านหันไปบอกกับชายหนุ่มที่ตอนนี้ยืนอยู่หน้าประตู     หลังจากได้รับคำสั่งท่านนายพลอาริบก็ทำความเคารพผู้เป็นนาย      แล้วจึงหันหลังเดินออกไปโดยมีสาวใช้ทั้งสองตามออกไปไม่ห่าง   


              ตอนนี้ในห้องก็เหลือกันแค่สามคนเท่านั้น       แต่รัณไม่แน่ใจว่าแม่เฒ่าจะเป็นคนของชีคยาซัสหรือเปล่า 
              ถ้าใช่เธอก็เสียเวลาเปล่าๆ เพราะเรื่องคงต้องรู้ถึงตัวชีคแน่       และนั้นจะทำให้แผนการที่วางไว้สูญเปล่า       ได้แต่บอกตัวเองให้ใจเย็นไว้มันต้องมีโอกาสที่เธอจะได้บอกท่านผู้หญิง

             " คุณท่านค่ะอิฉันพาบ่าวมาให้รับใช้      เด็กคนนี้คอยนวดให้อิฉันเวลาปวดเมื่อยได้ดีเชียวค่ะ "
     
          ด้วยบุคลิกของท่านผู้หญิงที่เป็นเจ้าของวังที่ดูเป็นคนสุขุม   นิ่งเงียบ และวางตัวอย่างคนชั้นสูง    ทำให้รัณอดเกร็งไม่ได้     ถึงยังไงเธอก็ไม่อยากยุ่งกับคนชั้นสูง    มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดที่ต้องคอยเกร็งเพราะกลัวทำตัวไม่เหมาะสม ซึ่งมันไม่ใช่ตัวเธอเลย


            "  แม่หนูคนนี้งั้นหรือ .....เป็นคนที่ไหนละ "


          เสียงนุ่มที่เอ่ยถามทำให้รัณ    ต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับท่านหญิงของวังในระยะใกล้จริงๆ
          ดวงตาสีม่วงที่กำลังสำรวจดูใบหน้าของบ่าวสาว   ที่สะดุ้งน้อยๆยามที่ท่านเอ่ยถาม     ทำให้ท่านเก็บความ     สงสัยที่มีอยู่ไว้ในใจ

            " เอ้าแม่รัณ    คุณท่านถามทำไมไม่ตอบ  "


          เสียงของแม่เฒ่าช่วยเตือนสติรัณ    ที่เหม่อมองดูดวงตาสีม่วงที่มองมายังตัวเธอเหมือนกำลังสำรวจตัวเธออยู่ ความรู้สึกบางอย่างบอกกับรัณว่าไม่อยากให้อีกฝ่ายมองเธออย่างนี้     มันเหมือนตัวเธอกำลังโดนสำรวจ
     
              " เอ่อ.... ค่ะ    เป็นคนไทยค่ะ ชื่อรัณฎาค่ะ "


     โอ้ยแค่นี้ยังเสียงสั่นเลยฉัน....นี่เจอแค่แม่นะ  ถ้าเป็นลูกจะขนาดไหนยิ่งเค้าบอกว่าน่ากลัวอยู่ด้วย
     รอยยิ้มน้อยๆที่มอบให้    ทำให้รัณเบาใจขึ้นเยอะ    นึกว่าจะต้องเจอของแข็งเพิ่มขึ้นอีกด่าน

            "  ที่ให้คนไปตามเพราะฉันอยากปรึกษาเรื่องงานที่จะถึง    ว่าคิดจะทำอะไรกันบ้าง "


            ท่านผู้หญิงละสายตาจากเธอ   และเริ่มสนทนาเกี่ยวกับเรื่องงานที่จะจัดขึ้น ที่โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง โดยมีรัณเป็นผู้ฟังร่วมด้วยอีกหนึ่งคน

              จนบ่ายกว่าแม่เฒ่าจึงลากลับไปดูงานที่อยู่ในครัว   โดยให้รัณอยู่รับใช้ท่านผู้หญิงต่อ    นับเป็นโอกาสทีดีมากๆ    รัณไม่รอช้าที่จะให้โอกาสนี้เลยผ่านไป
             ถ้าเธอทำหน้าที่ให้เสร็จไวที่สุด    เธอก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม  จดหมายที่ชายหนุ่มเป็นคน เขียนด้วยลายมือตนเอง ถูกหยิบยืนออกจากสร้อยล็อคเก็ตที่รัณห้อยติดตัวไว้    เพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัยและสามารถพกติดตัวได้ตลอดเวลา   ดีที่ท่านผู้หญิงยอมรับฟัง ถึงเรื่องราวต่างๆที่รัณรู้มา  ถึงแม้จะไม่ทั้งหมด แต่ดูเหมือนท่านจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของบุตรชายโต
                      ......................
     
           รัณกลับถึงห้องก็เป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว    เพื่อนร่วมห้องที่กำลังมองเธออยู่อย่างสงสัย

            " มองอะไรริญะ    ทำไมต้องจ้องฉันขนาดนั้น      ทำไม่ฉันสวยขึ้นว่างั้นเถอะ   "

           เพื่อนร่วมห้องที่กำลังมองเธออย่างสงสัย   ก็ตั้งแต่เข้ามาในห้องเธอยังไม่ได้พูดอะไรซักคำริญะก็จ้องเอาจ้องเอา

             "  อ้าวเหรอ        นี่รัณไม่รู้ตัวเลยหรือว่าตัวเองเดินยิ้มมาแต่ไกล   แถมถึงห้องก็ยังไม่หยุดยิ้มอีก  ยิ้มอยู่ได้คนเดียว  ฉันไม่คิดว่าเธอบ้าก็ดีแค่ไหน แล้ว       แหมแค่ได้นั่งรถไปกับท่านนายพลอาริบหน่อยเพื่อนเราก็ ทำหัวใจหล่นหายไปซะแล้ว  " 

    หญิงสาวเอามือประสานกันทำท่าเพ้อฝันประกอบท่าทาง     ทำให้รัณต้องรีบปฎิเสธหน้าตาตื่น
          

     "
    เฮ้ย! .. ไม่ใช่อย่างนั้นนะ     นี่เธอคิดไปถึงไหนเนี้ย  "

    รัณถึงกับร้องเสียงหลง   เธอรีบบอกก่อนที่เพื่อนจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้

     "  ก็แล้วไอ้ที่เธอบอกว่าไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดนะ.........รู้เหรอว่าฉันคิดอะไรอยู่ไหนพูดมาซิ  "

     รอยยิ้มขำๆที่เพื่อนร่วมห้องเดินสำรวจดูตัวเธอก่อนจะวกกลับมานั่งที่เตียงของรัณ    แววตาอยากรู้อยากเห็นนั้น บอกได้ว่าถ้าวันนี้ไม่เล่าเรื่องทั้งหมดก็อย่าหวังจะได้นอน
     

              " นั้นซิ .......ก็แล้วเธอคิดอะไรอยู่ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงละ "

          รัณอดหมั่นไส้เพื่อนสาวไม่ได้ทำมาเป็นยอกย้อน
     
          "  ไม่ต้องมาเฉไฉเลยรัณ     เล่ามาให้หมดว่าแม่เฒ่าพาเธอไปทำอะไร แล้วพบท่านผู้หญิงไหม   ท่านนายพลอาริบดุอย่างที่สาวใช้คนอื่นพูดหรือเปล่า........ฉันอยากรู้  "

          และอีกหลายคำถามที่ตามมากว่าจะ ให้เพื่อนหยุดเซ้าซี้ได้เล่นเอาคอแห้งทีเดียว   จะพูดไปวันนี้เป็นวันดีของเธอเลยทีเดียวทุกอย่างที่คิดว่ายากกลับราบรื่นไปหมด     หน้าที่ของเธอก็เสร็จสิ้นเสียที ตอนนี้ก็รอแค่วันงานเท่านั้นที่  จะเปิดตัวเพื่อนของเธอในฐานะคู่หมั้นบุตรชายคนรอง   และเป็นตัวตัดสินระหว่างชีคกับเพื่อนของเธอที่จะต้องมาพบหน้ากันอีกหนโดยมีท่านผู้หญิงเป็นคนกลาง    ____    งานนี้ไม่พลาดแน่   ดีจะได้เห็นหน้าชีคเป็นบุญตาซะหน่อยก่อนกลับบ้าน

     

     

    เออเฮะโรงแรมที่นี่แปลกดีทำไม่มีแค่ 2 ชั้นเอง  เคยเห็นแต่หลายสิบชั้น  แถมยังมีเครื่องตรวจจับอาวุธอีกต่างหาก
                    -ริญะบอกรัณว่าโรงแรมที่นี่แทบทุกแห่งต้องมีเครื่องพวกนี้-
                    -เพราะได้ชื่อเรื่องความ ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว-


      วันนี้รัณกับริญะพร้อมสาวใช้บางคนต้องมาช่วยงานในโรงครัวของโรงแรม     แต่พวกเธอต้องอยู่แต่ในครัวนี่เหละ ไม่ได้ออกไปดูงานข้างนอกหรอกต้องใช้ คำว่าหัวยุ่งหน้ามันก็คงจะถูก   ก็แม่เฒ่ากลัวว่าทางครัวของโรงแรมจะทำไม่ถูกใจ    เลยต้องมาควบคุมเองอย่างว่าและนะก็มันโรงแรมในเครือที่ชีคมีหุ้นส่วนใหญ่อยู่นี่นา   เค้าถึงให้มายุ่งวุ่นวายได้       วันนี้แล้วที่ท่านผู้หญิงนัดบุตรชายให้พาคนรักมาพบท่านโดยที่ชีคไม่รู้      และก็เป็นวันนี้ที่ชีคก็กลับมาเหมือนกัน  ไม่รู้ว่าป่านนี้ข้างนอกจะเป็นยังไงบ้าง
     

       /

    โรงแรมใหญ่ที่ชีคเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ถูกปิดรับแขกจากภายนอกชั่วคราว     เพื่อเอาไว้คอยต้อนรับแขกที่จะมาร่วมงาน เพราะแขกบางคนเดินทางมาไกล    ทางโรงแรมจึงเตรียมห้องไว้ต้อนรับแขกเหล่านั้น


    ........... โยฮาพาคนรักเดินเข้าสู่โถงใหญ่ของโรงแรม   เค้าตั้งใจพาริซมาก่อนเวลาเริ่มงาน เพราะมารดาจะรอที่ห้องรับรอง    เพื่อรอเวลาลงมาต้อนรับแขกและเป็นเวลานัดหมายระหว่างเค้ากับมารดา   ก่อนที่พี่ชายของเค้าจะมาถึง    การมาอย่างกระทันหันของชายหนุ่มพร้อมด้วยหญิงสาวอีกคน      ทำให้นายพลอาริบไม่สามารถรายงานผู้เป็นนายได้
          เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้มาเพียงลำพัง   แต่ยังมีหญิงสาวที่เค้าพบที่อิตาลีติดตามมาด้วย   ลำพังตัวเค้าเองก็ไม่อยากห้ามชายหนุ่มที่เห็นกันมาแต่เด็ก   เพราะเค้ารู้ว่าจุดประสงค์ของชายหนุ่มรุ่นน้องนั้นต้องการมาพบกับมารดา   แม้เค้าจะได้รับคำสั่งให้กันคนทั้งสองออกห่างจากมารดาของชีคก็ตาม

      
       "  สวัสดีครับพี่อาริบสบายดีไหมครับ   “

     

       ว่าแต่แม่อยู่ด้านในใช่มั้ยครับ  ผมขอเข้าไปหาแม่ซักหน่อยป่านนี้ท่านคงรอนานแล้ว ไว้เดี๋ยวผมจะมาคุยกับพี่
     
       โยฮาไม่ปล่อยโอกาสให้อาริบ   ที่เปรียบเหมือนพี่ชายของเค้าอีกคน ถ่วงเวลาการมาพบมารดา   เพราะถ้าช้า    โอกาสที่จะเจอพี่ชายของเค้าก็มีมาก
     
      
      // ชายหนุ่มไม่รอช้าเค้ารีบจูงมือคนรักเข้าไปในห้องที่ถูกเปิดออก     นายพลอาริบได้แต่มองตามชายหนุ่มรุ่นน้องที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก     และยังเป็นเพื่อนเล่นกันมาถึงเค้าจะไม่เห็นด้วยที่ชีคกีดกันความรักของน้องชายตัวเอง
    โดยส่วนตัวเเล้วเค้าไม่ชอบก้าวก่ายชีวิตของคนอื่น     เเต่เค้าก็ช่วยอะไรไม่ได้นอกจากเปิดทางให้ชายหนุ่มเข้าไปจัดการ เรื่องของตนเอง


    "  เฮ้อ......งาน นี้ เป็น เรื่อง แน่!  "
     

    =====//=====

    รถยนต์หลากหลายยี่ห้อต่างทยอยพาแขกที่มาร่วมสดงความยินดีเข้ามาในงานที่ตกแต่งอย่างหรูหรา
    โดยมีท่านผู้หญิงพร้อมบุตรชายคนรองคอยต้อนรับแขกอยู่ด้านหน้า    และหญิงสาวหน้าตาสะสวยยืนอยู่ข้างๆชายหนุ่ม

         รถสปอร์ตสีดำสนนราคาสูงริบลิ่ว  พร้อมตราสัญลักษณ์ที่บอกให้รู้ว่ามีเพียงคันเดียวในโลก  จอดเทียบด้านหน้าพร้อมร่างสูงสง่าที่ก้าวออกจากตัวรถ   พร้อมหญิงสาวร่างบางระหงในชุดราตรีสีแดงสด   ที่ถูกแหวกสูงจนเห็นโคนขาเรียวยาว    ผมสีดำถูกเกล้าเป็นมวยรับกับหน้าตาที่ถูกตกแต่งมาอย่างดี      เธอเดินควงแขนเข้ามากับชายหนุ่มแม้วงหน้านั้นจะอยู่ใต้หนวดเคราแต่ก็มองเห็นได้ว่าเป็นคนหล่อเหลาคนหนึ่ง       ตอนนี้กลายเป็นจุดเด่นของงาน 
      


    (   มีคนอ่านมั้ยค่ะ   ยกมือด้วย  อิอิ   เดี๋ยวคนเขียนจะมาต่อนะค่ะ )
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×