คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : นับ 1...
โอ้ยพวกคนมีตังค์นี่คงไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร แน่ๆเลย เฮอะๆ
ให้ตาย.......ว่าที่พักของพี่โยฮาใหญ่แล้วนะ ยังเทียบกับที่นี่ไม่ได้เลยซักติ๊ด.....เดียว
หลังจากที่รัณได้พักผ่อนจากการเดินทางจนอิ่ม แถมทริปท่องเที่ยวที่เพื่อนบอกไว้ เธอก็ได้รู้เรื่องที่ริซต้องการความช่วยเหลือจากเธอ และเธอเองก็เต็มใจที่จะช่วยเพื่อน
มันจึงเป็นสาเหตุให้เธอต้องมายืนยู่ตรงนี้ เพื่อเริ่มแผนการที่ตัวเธอเองยังไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอคิดยังไง
นี่และนะความรัก แต่ความกังวลก็มีมาเมื่อนึกถึงคนที่ เธอต้องระวังเป็นพิเศษ เท่าที่ฟังมาชีคยาซัส
คงเป็นคนที่น่ากลัวทีเดียว ได้แต่เห็นในนิยายแต่ไอ้เรื่องจริงที่เธอกำลังทำนี่ละ ไหงกลับมาเจอกับคนใกล้ตัวได้เนี่ย
แล้วแผนการที่ริซบอกมันคงไม่ง่ายเหมือนอย่างที่นึกแน่
เฮ้อ......เสียงถอนใจที่คิดว่าตัวเองคงต้องอยู่ที่นี่นานพักหนึ่งแน่ๆ อดอ่านการ์ตูน ONE PIECE ไปอีกนานทีเดียวกำลังสนุกเชียว คิดไปคิดมาก็ต้องถอนใจให้กับตัวเองอีกรอบ ทำไมชีวิตพื้นๆของฉันทำไมมันไม่พื้นไปเรื่อยๆ ไอ้ได้เที่ยวมันก็ดีอะนะ....แต่ต้องมาพัวพันกับความรักของเพื่อน และยังถูกกีดกันจากพี่ชายตัวร้ายของฝ่ายชายอีกตั้งหาก
ให้ตาย......ถ้าไม่ได้ยินจากปากเพื่อนไม่มี้....ไม่มีทางที่คนอย่างไอ้รัณจะเชื่อแน่ๆ เพราะแทนที่ฝ่ายชายจะถูกกีดกันจากฝ่ายหญิง แต่ดั้นกลับตาลปัทดั้นมาเป็นฝ่ายหญิงถูกกีดกันจากฝ่ายชาย แถมมีพี่ชายบ้าที่ไหนว่ะหวงน้องชายขนาดนี้ หรืออีตานี่เป็นโรคคิดน้อยๆไม่เป็น ไม่ก็คิดอะไรดีๆไม่ได้ หรือว่า........ประสาทอ่อนๆ
-----------------------------------
ตั้งแต่เช้าที่ออกเดินทางมารัณก็ไม่รู้แล้วว่าคนขับพาเธอมาที่ไหน มันทั้งวกวนบวกโค้งเยอะจนสับสนไปหมด แถมยังนั่งจนก้นแฉะ แค่ไอ้ก้นแฉะนะยังไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้กำแพงบ้าที่เห็นเมื่อตะกี้เนี่ย......ตอนที่พี่สารถีเอาเธอมาปล่อยตรงด้านหน้า ( เหมือนลูกหมาโดนปล่อยยังไงก็ไม่รู้ ) แล้วบอกให้เธอเดินตามผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนรออยู่ เข้ามาด้านในเนี่ย...........จนป่านนี้ก็ล่วงเลยมานานหลายสิบนาทีก็ยังไม่เห็นอะไรเลย ถึงจะมีต้นไม้อยู่ริมทางเดินแต่มันก็ร้อนน้อยซะเมื่อไหร่ แล้วป่านนี้ยังเห็นแม้แต่หมาซ้าก.......ตัวมันหมายความว่าจั๊งได๋
พี่สาวที่เดินนำหน้าเธอ ที่ดูอายุมากกว่าเธอ ไม่กี่ปีบอกว่าส่วนที่กำลังเดินอยู่เป็นเพียงส่วนรับรองด้านหน้าที่ใช้เวลาจัดงานส่วนด้านในจะเป็นที่ส่วนตัว ซึ่งจะอยู่ห่างจากส่วนรับรองไปอีกด้านหนึ่ง และจะแยกด้านซ้าย และขวา และไม่อนุญาตให้คนที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าออก ตลอดทางจะมียามรักษาการณ์เข้มงวดตลอด24ชั่วโมง
โห......ตูจะบ้า......ว่าตัวเองอึด.....ทึก......แล้วนะยังอยากลงไปนั่งให้มันรู้แล้วรู้รอดไป แค่วันแรกก็เล่นเอาหมดแรง แล้วกว่าจะลากตัวเองไปถึงห้องนอนมันจะอีกกี่ชั่วโมงว่ะ รัณได้แต่พึมพำในใจแล้วก็ไม่วายด่าไอ้คน
ที่มันออกแบบไอ้บ้านหลังหญ่ายเนี้ย แทนที่ระยะทางออกจะไกล ไหนๆทำแล้วทำไมไม่เอาจักรยานมาวางทิ้งไว้บ้างก็ไม่รู้ อวดว่ามีตังค์แต่ไม่มีปัญญาซื้อจักรยาน ไว้บริการซักคัน..........โหจอก
และมันก็เป็นข้อมูลตรงกับที่คนรักของเพื่อนบอกมา แต่ปัญหาที่เธอจะต้องทำให้ตัวเองเข้าไปอยู่รับใช้ ในส่วนที่เป็นที่พักของมารดาของผู้ชายตัวปัญหาหรือตัวจำมัยของเธอนี่ซิ
ยากส์
.
จะทำยังไงถ้าเป็นเมื่อก่อนการเข้าถึงตัวคงไม่เย็นอะไรนัก แต่การเข้ามาเป็นสาวใช้แล้วตรงเข้า ไปรับใช้ส่วนในคงเป็นไปไม่ได้ พี่โยฮาเองก็คิดว่าพี่ชายของเค้าคงไม่ยอมให้เค้าหรือญาติคนใดที่พยายามจะช่วยเค้าเข้าถึงตัวมารดาได้ นี่แหละมันก็เลยเป็นเรื่องหนักใจอยู่ในตอนนี้
เพระมารดาก็เป็นคนเดียวที่ ชีคให้ความเคารพรัก การที่เพื่อนและพี่โยฮาเสี่ยงให้เธอเข้ามาอยู่ในนี้เป็นทางเดียว
ที่จะเข้าถึงตัวมารดาโดยที่พี่ชายเค้าไม่สงสัย เพราะไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน และสาวชาวไทยที่มาขายแรงงานนั้นก็มีมาก แต่คงต้องทำให้เธอ ลำบากพอควรเลยทีเดียว
ที่พักของเธอเป็นห้องพักที่มีเพื่อนร่วมห้อง ริญะเป็นรูมเมดของเธออายุที่ไร่เลี่ย ทำให้ทั้งสองเข้ากันได้ดีแถมนิสัยยังคล้ายกันอีกพวกเธอทั้งสองคนต้องฝึกงานอยู่ แต่ในครัวตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา งานในครัวยุ่งจนทำให้รัณแทบไม่มีเวลาด้วยซ้ำ
การเป็นคนง่ายๆทำให้เธอเข้ากับทุกคนได้ดี ยิ่งหัวหน้าแม่บ้านที่ชอบให้เธอนวดให้เป็นประจำ ทำให้เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของชีคหนุ่มมากขึ้น ในทางตรงกันข้ามความรู้สึกไม่ชอบในตัวชีคหนุ่มก็เพิ่มมากขึ้นเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเค้าจะเป็นผู้นำและเป็นที่ยำเกรงของคนทั่วไป เพราะความเก่งบวกกับฐานะ และรูปร่างหน้าตาที่ใครต่อมใครก็บอกว่าหล่อ ด้วยคุณสมบัติครบถ้วนทำให้มีผู้หญิงมากหน้า หลายตายอมมาอยู่เพื่อขอให้ชายหนุ่มได้พิจารณาในตัวของหล่อนทั้งต่างชาติ และชาติเดียวกัน ต่างก็หวังให้ชีคหนุ่มยอมรับในตัวพวกเธอ ทำให้รัณคิดว่าของสะสมของอีตาชีคนี่เป็นผู้หญิง ผู้ชายคนเดียวแต่มีผู้หญิงหลายสิบชีวิต แถมแต่ละคนหน้าตาสะสวยทั้งนั้น ขนาดเ ธอเป็นผู้หญิง ยังชอบแอบมองดูอยู่บ่อยๆ บางคนสวยน่ารัก บางคนก็เอาแต่ใจเพราะมาจากลูกคนมีฐานะเหมือนกัน ตั้งแต่รัณมาอยู่ที่นี่ยังไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ ของชีคเลยซักครั้ง
เพราะเธอรู้มาว่าเค้าเดินทางไปแถบเอเซียเพื่อขยายกิจการของตน คงอยู่อีกนาน
" รัณแม่เฒ่าเรียกเธอแนะ "
ริญะวิ่งกระหืดกระหอบ เข้ามาในครัวด้านหลังที่รัณมักนั่งอยู่เป็นประจำ หลังจากงานเสร็จ
บริเวณนี้ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน เธอจึงชอบมานั่งพักเป็นประจำ
" ใจเย็นๆ หยุดก่อนแล้วค่อยพูดก็ ได้ แค่นี้ทำเป็นเหนื่อย "
รัณอดแซวเพื่อนไม่ได้ ตั้งแต่เข้ามาเป็นสาวใช้ในครัว เธอก็ต้องฝึกเกี่ยวกับมารยาททุก อย่างและข้อห้าม อีกมากมายแต่พวกเธอก็หาความเรียบร้อยไม่ได้ จนแม่เฒ่าอ่อนใจกับเธอทั้งสอง และสาวใช้ที่ถูกฝึกพร้อมกันต่างก็ออกไปรับใช้เจ้านายอยู่ด้านนอก ทำให้งานในครัวมีแต่คนสูงอายุจะ หยิบจับก็ไม่สะดวก แม่บ้านจึงให้เธอทั้งสองคนอยู่ช่วยในครัว
แม้ว่าตอนแรกริญะดูจะไม่พอใจ แต่เธอก็ยอมอยู่กับรัณ แต่เธอทั้งสองก็ยังมีโอกาสออกไปรับใช้งานด้านนอกได้บางเวลา ทำให้ริญะพอใจมากที่ไม่ต้องไปทนเป็นสาวใช้ประจำตัวผู้หญิงของชีค เพื่อที่จะอยู่ด้านนอก
เพราะแต่ละนางร้ายไม่ใช่เล่น
" เอ้าอย่ามัวแต่ยิ้มซิ รีบไปเลยนะเดี๋ยวแม่เฒ่าว่าฉัน เถรไถลพาลอารมณ์เสีย ฉันก็ไม่ได้ออกไปสืบข่าว สังคมไฮโซแน่ ถ้าฉันตกข่าวมันจะทำให้สุขภาพ จิตของฉันทดถอยรู้มั้ย "
ริญะไม่พูดเปล่าเธอเดินมาดันหลังเพื่อน ให้รับเดินไปในส่วนที่เป็นที่พักของแม่เฒ่า
ประตูด้านหน้าที่เปิดอยู่แล้วพร้อมกับร่างของหญิง วัยกลางคนที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของม้า นั่งยาวที่วางในห้อง
"มาแล้วเหรอฉันมีเรื่องจะใช้เธอ เดี๋ยวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปพบฉันที่ด้านหน้าตึก "
แม่เฒ่าเป็นคนใจดีสำหรับสาวใช้ที่อยู่ในครัว แต่ถ้าเป็นสาวใช้ในส่วนหน้า ทุกคนจะรู้ว่าแม่เฒ่าเป็นคนเจ้าระเบียบมากจนทุกคนต่างเรียกเธอว่าแม่เฒ่า ทั้งๆที่อายุแค่วัยกลางคนเท่านั้น
"ค่ะแม่เฒ่า"
รัณอดแปลกใจไม่ได้ ้เพราะเธอไม่เคยเห็นแม่เฒ่าออกไปไหน แต่ทำไมวันนี้ถึงต้องให้เธอไปด้วย ทั้งๆที่ให้คนอื่นไปก็ได้
####################
รถจี๊ปคันหนึ่งจอดอยู่ด้านหน้าของตัวตึก ร่างของหญิงชราที่รัณคุ้นเคยยืนคุยอยู่กับชายคนหนึ่งอย่างเป็นกันเอง ถึงรัณจะไม่เคยพบคนที่อยู่ในส่วนหน้าซักเท่าไหร่
แต่บุคลิกบวกกับหน้าตาทำให้เธอพอจะรู้ว่าเค้าเป็นใคร จากการบอกเล่าของริญะ ผู้ชายคนนี้เป็น1ใน 3 คนสนิทของชีคซึ่งตอนนี้ให้ลูกน้องคอยดูแลมารดาของเค้า พร้อมกับดูแลความเรียบร้อยเวลาที่เค้าไม่อยู่ และนี้ก็เป็นการบอกได้อย่างหนึ่ง ว่าแม่เฒ่าเป็นคนสำคัญคนหนึ่งที่คนสนิทของชีคต้องมารับด้วยตนเอง
บุคลิกที่ดูองอาจที่เป็นผลมาจาก การฝึกหนัก รูปร่างที่สูงใหญ่ ผมที่ถูกตัดสั้น อย่างทหาร จมูกโด่งแต่ตาของเค้ากลับตี่เล็กแต่ดูไม่น่าเกลียด หนวดเคราที่ไม่ได้โกนออกแต่ถูกจัดแต่งอย่างดีทำให้เค้าดูเป็นคนดุคนหนึ่ง แต่ยังไงซะเธอก็ไม่นึกชอบผู้ชายมีหนวดเลย เพราะมันดูรกรุงรังยังไงก็ไม่รู้
" รัณรู้จักท่านนายพลอาริบไว้ซะ"
แม่เฒ่าแนะนำ ชายหนุ่มให้เธอรู้จัก
" สวัสดีค่ะ "
เค้าหันมามองเธอชั่วครู่ และพยักหน้ารับรู้ แล้วจึงเอ่ยขึ้น
" เราจะไปกันเลยมั้ยครับ ป่านนี้นายผู้หญิงคงรออยู่ที่สวนด้านในแล้ว "
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินมาจูงมือเพื่อพยุงแม่เฒ่าไปที่รถ โดยมีรัณเดินตามมาด้านหลัง
" อาริบชีคจะกลับมาเมื่อไหร่ ท่านบอกหรือเปล่าป้าว่าท่านไปนานพอดูแล้ว "
นางเอ่ยถามผู้เป็นหลาน และเป็นคนสนิทของชีคด้วย
"ไม่ต้องห่วงครับ ยังไงท่านต้องมา งานวันเกิดของท่านผู้หญิงแน่ แต่เห็นว่างานทางนู้นใกล้เสร็จ แล้วคงกลับมาอยู่ที่วังอีกนาน "
" ว่าแต่ปีนี้จัดงานที่ไหนครับ "
ชายหนุ่มหนักลับมาคุยกับผู้เป็นป้าที่นั่งอยู่ด้านข้างซึ่งเค้าเป็นคนขับ
" ป้าเองก็จะมาถามท่านเหมือนกัน จะได้เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ นี่ก็เหลือเวลาอีกแค่1เดือนเท่านั้น "
" ดีครับ ผมว่าปีนี้แขกคงเยอะเป็นพิเศษเพราะชีคขยายธุรกิจเพิ่ม แถมคุณโยฮาก็เรียนจบพอดี คุณป้าคงต้องยุ่งน่าดู "
รัณนั่งฟังคำสนทนาของคนทั้งสองอยู่เงียบๆ สิ่งที่ได้ยินเหมือนโชคเข้าข้างเธอถ้าเดาไม่ผิดอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ เธอจะได้พบกับมารดาของชีคแล้ว โดยที่เธอไม่ต้องหาทางอีกต่อไปแล้วเธอก็จะได้กลับประเทศไทยเสียที แต่จะทำยังไงละไม่ให้บุคคลที่ 3 รู้เรื่องที่เธอมา เพราะนั้นอาจถูกชีคจอมบงการขัดขวางแน่ๆ
ถ้ารัณจะสังเกตุซักนิด คงจะรู้ว่าสายตาของชายหนุ่มที่ร่วมเดินทางมาบนรถคันเดียวกัน กำลังจับตามองอาการดีใจของหญิงสาวต่างชาติอย่างไม่ไว้ใจ แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมป้าของเค้า ถึงพาสาวใช้ต่างชาติคนนี้มาด้วย
-- การเป็นทหารและเป็นคนสนิทของชีค ทำให้อาริบต้องคอยระแวดระวังและช่างสังเกตุเหตุการณ์ต่างๆมากขึ้นเป็นเท่าตัว
รถจี๊ปแล่นผ่านตัวตึกสีขาวซึ่งเป็นที่พักของชีคและมารดา รัณที่ไม่เคยเห็นตัวอาคารด้านหน้านั้นเป็นยังไง แต่ตอนนี้เธอเชื่อแล้วว่า ริญะไม่ได้พูดเกินความจริงเลย ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกขนาบอยู่สองข้างทางที่ปูทางเดินด้วยหินอ่อนสนามกว้างกินเนื้อที่หลายไร่ เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธ์ที่ถูกดูแลอย่างดี
สายน้ำที่แตกกระเซ็นจากน้ำพุใหญ่ไหลลงสู่บ่อปลาด้านล่าง ที่ทำเป็นขั้นบันได
ไม่น่าเชื่อว่าดินแดนแห่งทะเลทราย แต่กลับดูร่มรื่นให้ความรู้สึกเย็นสบายอย่างไม่น่าเชื่อ
ตัวตึกที่ปูพื้นด้วยหินอ่อนดูขาวสะอาดตาตัดกับพรมผืนใหญ่สีน้ำเงินที่ปูยาวไปจนสุดขั้นบันได ภายในอาคารที่เธอเดินผ่านมาเป็นตัวอาคารด้านซ้ายซึ่งเป็นที่พักของท่านผู้หญิงของวัง
รัณทราบมาว่าพ่อของชีคยาซัสเป็นเชื้อพระวงค์องค์หนึ่ง ซึ่งเป็นพระญาติกับองค์กษัตริย์ แต่พระองค์รักอิสระไม่ชอบอยู่ในกรอบประเพณีเท่าไหร่นัก เพราะมิได้เป็นองค์รัชทายาทที่จะสืบบัลลังค์ต่อทำให้ทรงทำตัวตามสบายและ พระองค์ชอบการท่องเที่ยวทำให้พบท่านผู้หญิงจึงได้เกิดความรักขึ้น
แต่ทรงอายุสั้นทำให้ท่านผู้หญิงต้องอยู่ดูแลบุตรชายทั้งสองตั้งแต่ชีคอายุย่างเข้าสู่วัยรุ่น ด้วยอายุที่มากกว่าน้องชายถึง5ปี ทำให้ชีคต้องคอยดูแลน้องและมารดาพร้อมทั้งกิจการน้ำมันต่อจากบิดา
ทุกวันนี้ชีคยาซัสเป็นเพียงพ่อค้าน้ำมันคนหนึ่งในสายตาของนักธุรกิจทั่วโลก เพียงแค่มูลค่าน้ำมันที่แป็นของชีคนั้นมีมูลค่ามหาศาล น้อยคนนักที่จะรู้ว่าชีคยาซัสเป็นผู้อยู่เบื้องหลังบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ทั้งที่เป็นของเค้าเองและเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
............ เฮ้อ......ดีนะที่ไม่ต้องเจอกับผู้ชายคนนี้ ถ้าเจอเธอคงแย่แน่ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเจอชายหนุ่มแต่รัณคิดว่าถ้าเค้าไม่เก่งจริงคงอยู่ไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งต่างกับเธอที่อยู่กับชีวิตเรียบง่ายไปวันๆ
....... ร่างของหญิงวัยกลางคนแต่ยังคงเห็นถึงความสวยที่ยังมีอยู่แม้อายุจะมากขึ้น เนื้อผ้าที่สวนใส่ล้วนบอกราคาของตัวมันเอง พร้อมเครื่องประดับราคาแพงที่ตกแต่งอยู่บนร่างกายน้อยชิ้นแต่มูลค่ามันคงไม่น้อย นั่งอยู่โซฟาตัวใหญ่ในห้องรับรองพร้อมสาวใช้สองคนที่นั่งขนาบอยู่ทั้งสองข้าง ดูเหมือนท่านผู้หญิงจะสั่งงานบางอย่างอยู่ ก่อนแม่เฒ่าเดินเข้าไปนั่งลงที่พื้นโซฟาด้านหนึ่ง
" ขึ้นมานั่งข้างบนซิฟาฮี เธอจะนั่งทำไมข้างล่าง "
น้ำเสียงแสดงความไม่พอใจเล็กๆ ที่คนเก่าคน แก่ของที่นี่ไม่เชื่อฟังซักที อ้างแต่ว่าไม่เหมาะทุกครั้งที่ จะให้มานั่งเทียมเจ้านายทั้งๆ ที่ตนเองก็เดินเหินไม่สะดวก จะลุกจะนั่งทีต้องคอยพยุง
" อิฉันนั่งตรงนี้ดีกว่าคะนายหญิง อย่าให้อิฉันลำบากใจ เลยค่ะ "
ตั้งแต่รัณเข้ามาเป็นสาวใช้ พึ่งจะเห็นแม่เฒ่าสงบเสงี่ยม ก็วันนี้เเหละธรรมดาจะต้องด่ากระเจิงถ้าคนไหนทำอะไรไม่ถูกใจ ยิ่งเธอกับริญะมักจะโดนบ่อยๆ เพราะทำตัวไม่เรียบร้อยกระโดกกระเดก แต่พวกเธอก็รู้ว่าแม่เฒ่าปากร้ายแต่ใจดีรัณได้แต่อมยิ้ม ที่เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของแม่เฒ่าทีไม่คิดว่าจะได้เห็น
" อาริบ.....ขอบใจมากที่ไปรับแม่เฒ่ามาให้ เธอไปทำงานอื่นต่อเถอะตรงนี้ ถ้าฉันเสร็จแล้วจะให้คนไปตาม "
ท่านผู้หญิงของบ้านหันไปบอกกับชายหนุ่มที่ตอนนี้ยืนอยู่หน้าประตู หลังจากได้รับคำสั่งท่านนายพลอาริบก็ทำความเคารพผู้เป็นนาย แล้วจึงหันหลังเดินออกไปโดยมีสาวใช้ทั้งสองตามออกไปไม่ห่าง
ตอนนี้ในห้องก็เหลือกันแค่สามคนเท่านั้น แต่รัณไม่แน่ใจว่าแม่เฒ่าจะเป็นคนของชีคยาซัสหรือเปล่า
ถ้าใช่เธอก็เสียเวลาเปล่าๆ เพราะเรื่องคงต้องรู้ถึงตัวชีคแน่ และนั้นจะทำให้แผนการที่วางไว้สูญเปล่า ได้แต่บอกตัวเองให้ใจเย็นไว้มันต้องมีโอกาสที่เธอจะได้บอกท่านผู้หญิง
" คุณท่านค่ะอิฉันพาบ่าวมาให้รับใช้ เด็กคนนี้คอยนวดให้อิฉันเวลาปวดเมื่อยได้ดีเชียวค่ะ "
ด้วยบุคลิกของท่านผู้หญิงที่เป็นเจ้าของวังที่ดูเป็นคนสุขุม นิ่งเงียบ และวางตัวอย่างคนชั้นสูง ทำให้รัณอดเกร็งไม่ได้ ถึงยังไงเธอก็ไม่อยากยุ่งกับคนชั้นสูง มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดที่ต้องคอยเกร็งเพราะกลัวทำตัวไม่เหมาะสม ซึ่งมันไม่ใช่ตัวเธอเลย
" แม่หนูคนนี้งั้นหรือ .....เป็นคนที่ไหนละ "
เสียงนุ่มที่เอ่ยถามทำให้รัณ ต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับท่านหญิงของวังในระยะใกล้จริงๆ
ดวงตาสีม่วงที่กำลังสำรวจดูใบหน้าของบ่าวสาว ที่สะดุ้งน้อยๆยามที่ท่านเอ่ยถาม ทำให้ท่านเก็บความ สงสัยที่มีอยู่ไว้ในใจ
" เอ้าแม่รัณ คุณท่านถามทำไมไม่ตอบ "
เสียงของแม่เฒ่าช่วยเตือนสติรัณ ที่เหม่อมองดูดวงตาสีม่วงที่มองมายังตัวเธอเหมือนกำลังสำรวจตัวเธออยู่ ความรู้สึกบางอย่างบอกกับรัณว่าไม่อยากให้อีกฝ่ายมองเธออย่างนี้ มันเหมือนตัวเธอกำลังโดนสำรวจ
" เอ่อ.... ค่ะ เป็นคนไทยค่ะ ชื่อรัณฎาค่ะ "
โอ้ยแค่นี้ยังเสียงสั่นเลยฉัน....นี่เจอแค่แม่นะ ถ้าเป็นลูกจะขนาดไหนยิ่งเค้าบอกว่าน่ากลัวอยู่ด้วย
รอยยิ้มน้อยๆที่มอบให้ ทำให้รัณเบาใจขึ้นเยอะ นึกว่าจะต้องเจอของแข็งเพิ่มขึ้นอีกด่าน
" ที่ให้คนไปตามเพราะฉันอยากปรึกษาเรื่องงานที่จะถึง ว่าคิดจะทำอะไรกันบ้าง "
ท่านผู้หญิงละสายตาจากเธอ และเริ่มสนทนาเกี่ยวกับเรื่องงานที่จะจัดขึ้น ที่โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง โดยมีรัณเป็นผู้ฟังร่วมด้วยอีกหนึ่งคน
จนบ่ายกว่าแม่เฒ่าจึงลากลับไปดูงานที่อยู่ในครัว โดยให้รัณอยู่รับใช้ท่านผู้หญิงต่อ นับเป็นโอกาสทีดีมากๆ รัณไม่รอช้าที่จะให้โอกาสนี้เลยผ่านไป
ถ้าเธอทำหน้าที่ให้เสร็จไวที่สุด เธอก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม จดหมายที่ชายหนุ่มเป็นคน เขียนด้วยลายมือตนเอง ถูกหยิบยืนออกจากสร้อยล็อคเก็ตที่รัณห้อยติดตัวไว้ เพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัยและสามารถพกติดตัวได้ตลอดเวลา ดีที่ท่านผู้หญิงยอมรับฟัง ถึงเรื่องราวต่างๆที่รัณรู้มา ถึงแม้จะไม่ทั้งหมด แต่ดูเหมือนท่านจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของบุตรชายโต
......................
รัณกลับถึงห้องก็เป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว เพื่อนร่วมห้องที่กำลังมองเธออยู่อย่างสงสัย
" มองอะไรริญะ ทำไมต้องจ้องฉันขนาดนั้น ทำไม่ฉันสวยขึ้นว่างั้นเถอะ "
เพื่อนร่วมห้องที่กำลังมองเธออย่างสงสัย ก็ตั้งแต่เข้ามาในห้องเธอยังไม่ได้พูดอะไรซักคำริญะก็จ้องเอาจ้องเอา
" อ้าวเหรอ นี่รัณไม่รู้ตัวเลยหรือว่าตัวเองเดินยิ้มมาแต่ไกล แถมถึงห้องก็ยังไม่หยุดยิ้มอีก ยิ้มอยู่ได้คนเดียว ฉันไม่คิดว่าเธอบ้าก็ดีแค่ไหน แล้ว แหมแค่ได้นั่งรถไปกับท่านนายพลอาริบหน่อยเพื่อนเราก็ ทำหัวใจหล่นหายไปซะแล้ว "
หญิงสาวเอามือประสานกันทำท่าเพ้อฝันประกอบท่าทาง ทำให้รัณต้องรีบปฎิเสธหน้าตาตื่น
" เฮ้ย! .. ไม่ใช่อย่างนั้นนะ นี่เธอคิดไปถึงไหนเนี้ย "
รัณถึงกับร้องเสียงหลง เธอรีบบอกก่อนที่เพื่อนจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้
" ก็แล้วไอ้ที่เธอบอกว่าไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดนะ.........รู้เหรอว่าฉันคิดอะไรอยู่ไหนพูดมาซิ "
รอยยิ้มขำๆที่เพื่อนร่วมห้องเดินสำรวจดูตัวเธอก่อนจะวกกลับมานั่งที่เตียงของรัณ แววตาอยากรู้อยากเห็นนั้น บอกได้ว่าถ้าวันนี้ไม่เล่าเรื่องทั้งหมดก็อย่าหวังจะได้นอน
" นั้นซิ .......ก็แล้วเธอคิดอะไรอยู่ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงละ "
รัณอดหมั่นไส้เพื่อนสาวไม่ได้ทำมาเป็นยอกย้อน
" ไม่ต้องมาเฉไฉเลยรัณ เล่ามาให้หมดว่าแม่เฒ่าพาเธอไปทำอะไร แล้วพบท่านผู้หญิงไหม ท่านนายพลอาริบดุอย่างที่สาวใช้คนอื่นพูดหรือเปล่า........ฉันอยากรู้ "
และอีกหลายคำถามที่ตามมากว่าจะ ให้เพื่อนหยุดเซ้าซี้ได้เล่นเอาคอแห้งทีเดียว จะพูดไปวันนี้เป็นวันดีของเธอเลยทีเดียวทุกอย่างที่คิดว่ายากกลับราบรื่นไปหมด หน้าที่ของเธอก็เสร็จสิ้นเสียที ตอนนี้ก็รอแค่วันงานเท่านั้นที่ จะเปิดตัวเพื่อนของเธอในฐานะคู่หมั้นบุตรชายคนรอง และเป็นตัวตัดสินระหว่างชีคกับเพื่อนของเธอที่จะต้องมาพบหน้ากันอีกหนโดยมีท่านผู้หญิงเป็นคนกลาง ____ งานนี้ไม่พลาดแน่ ดีจะได้เห็นหน้าชีคเป็นบุญตาซะหน่อยก่อนกลับบ้าน
เออเฮะโรงแรมที่นี่แปลกดีทำไม่มีแค่ 2 ชั้นเอง เคยเห็นแต่หลายสิบชั้น แถมยังมีเครื่องตรวจจับอาวุธอีกต่างหาก
-ริญะบอกรัณว่าโรงแรมที่นี่แทบทุกแห่งต้องมีเครื่องพวกนี้-
-เพราะได้ชื่อเรื่องความ ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว-
วันนี้รัณกับริญะพร้อมสาวใช้บางคนต้องมาช่วยงานในโรงครัวของโรงแรม แต่พวกเธอต้องอยู่แต่ในครัวนี่เหละ ไม่ได้ออกไปดูงานข้างนอกหรอกต้องใช้ คำว่าหัวยุ่งหน้ามันก็คงจะถูก ก็แม่เฒ่ากลัวว่าทางครัวของโรงแรมจะทำไม่ถูกใจ เลยต้องมาควบคุมเองอย่างว่าและนะก็มันโรงแรมในเครือที่ชีคมีหุ้นส่วนใหญ่อยู่นี่นา เค้าถึงให้มายุ่งวุ่นวายได้ วันนี้แล้วที่ท่านผู้หญิงนัดบุตรชายให้พาคนรักมาพบท่านโดยที่ชีคไม่รู้ และก็เป็นวันนี้ที่ชีคก็กลับมาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าป่านนี้ข้างนอกจะเป็นยังไงบ้าง
/
โรงแรมใหญ่ที่ชีคเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ถูกปิดรับแขกจากภายนอกชั่วคราว เพื่อเอาไว้คอยต้อนรับแขกที่จะมาร่วมงาน เพราะแขกบางคนเดินทางมาไกล ทางโรงแรมจึงเตรียมห้องไว้ต้อนรับแขกเหล่านั้น
........... โยฮาพาคนรักเดินเข้าสู่โถงใหญ่ของโรงแรม เค้าตั้งใจพาริซมาก่อนเวลาเริ่มงาน เพราะมารดาจะรอที่ห้องรับรอง เพื่อรอเวลาลงมาต้อนรับแขกและเป็นเวลานัดหมายระหว่างเค้ากับมารดา ก่อนที่พี่ชายของเค้าจะมาถึง การมาอย่างกระทันหันของชายหนุ่มพร้อมด้วยหญิงสาวอีกคน ทำให้นายพลอาริบไม่สามารถรายงานผู้เป็นนายได้
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้มาเพียงลำพัง แต่ยังมีหญิงสาวที่เค้าพบที่อิตาลีติดตามมาด้วย ลำพังตัวเค้าเองก็ไม่อยากห้ามชายหนุ่มที่เห็นกันมาแต่เด็ก เพราะเค้ารู้ว่าจุดประสงค์ของชายหนุ่มรุ่นน้องนั้นต้องการมาพบกับมารดา แม้เค้าจะได้รับคำสั่งให้กันคนทั้งสองออกห่างจากมารดาของชีคก็ตาม
" สวัสดีครับพี่อาริบสบายดีไหมครับ “
“ ว่าแต่แม่อยู่ด้านในใช่มั้ยครับ ผมขอเข้าไปหาแม่ซักหน่อยป่านนี้ท่านคงรอนานแล้ว ไว้เดี๋ยวผมจะมาคุยกับพี่ “
โยฮาไม่ปล่อยโอกาสให้อาริบ ที่เปรียบเหมือนพี่ชายของเค้าอีกคน ถ่วงเวลาการมาพบมารดา เพราะถ้าช้า โอกาสที่จะเจอพี่ชายของเค้าก็มีมาก
// ชายหนุ่มไม่รอช้าเค้ารีบจูงมือคนรักเข้าไปในห้องที่ถูกเปิดออก นายพลอาริบได้แต่มองตามชายหนุ่มรุ่นน้องที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก และยังเป็นเพื่อนเล่นกันมาถึงเค้าจะไม่เห็นด้วยที่ชีคกีดกันความรักของน้องชายตัวเอง
โดยส่วนตัวเเล้วเค้าไม่ชอบก้าวก่ายชีวิตของคนอื่น เเต่เค้าก็ช่วยอะไรไม่ได้นอกจากเปิดทางให้ชายหนุ่มเข้าไปจัดการ เรื่องของตนเอง
" เฮ้อ......งาน นี้ เป็น เรื่อง แน่! "
=====//=====
รถยนต์หลากหลายยี่ห้อต่างทยอยพาแขกที่มาร่วมสดงความยินดีเข้ามาในงานที่ตกแต่งอย่างหรูหรา
โดยมีท่านผู้หญิงพร้อมบุตรชายคนรองคอยต้อนรับแขกอยู่ด้านหน้า และหญิงสาวหน้าตาสะสวยยืนอยู่ข้างๆชายหนุ่ม
รถสปอร์ตสีดำสนนราคาสูงริบลิ่ว พร้อมตราสัญลักษณ์ที่บอกให้รู้ว่ามีเพียงคันเดียวในโลก จอดเทียบด้านหน้าพร้อมร่างสูงสง่าที่ก้าวออกจากตัวรถ พร้อมหญิงสาวร่างบางระหงในชุดราตรีสีแดงสด ที่ถูกแหวกสูงจนเห็นโคนขาเรียวยาว ผมสีดำถูกเกล้าเป็นมวยรับกับหน้าตาที่ถูกตกแต่งมาอย่างดี เธอเดินควงแขนเข้ามากับชายหนุ่มแม้วงหน้านั้นจะอยู่ใต้หนวดเคราแต่ก็มองเห็นได้ว่าเป็นคนหล่อเหลาคนหนึ่ง ตอนนี้กลายเป็นจุดเด่นของงาน
( มีคนอ่านมั้ยค่ะ ยกมือด้วย อิอิ เดี๋ยวคนเขียนจะมาต่อนะค่ะ )
ความคิดเห็น