คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : สิ้นสุด
ห่างกันสักพัก.........จากวันเป็นหลายวัน จากหลายวันเป็นสัปดาห์ และมันก็ล่วงเข้าเดือนที่สอง ไม่มีแม้เสียงโทรศัพท์
ที่เธอเคยได้รับทุกคืน เสียงที่คอยเตือนให้เธอเข้านอนตามเวลา.......ไม่มีสักครั้ง หรือเธอต้องใช่เวลาทั้งชีวิตเพื่อลืม...........
วันนี้อาจเป็นวันแรกที่เธอรู้สึกว่ารอยยิ้มยังไม่หายไปจากตัวเธอทั้งหมด หรือพูดได้ว่าหลายวันที่ผ่านมา เพื่อนๆพยายาม
ทำให้เธอเป็นคนร่าเริงเหมือนเก่า และวันนี้หลังจากที่ต้องทนเจอข้อสอบที่ทุกคนต่างหวาดกลัวเสร็จสิ้นแล้ว จึงนัดกันมาดูหนัง
และเลี้ยงฉลองกัน ซึ่งในนั้นก็มีกลุ่มเพื่อนๆของเธอและรุ่นพี่ที่อาสาจะเลี้ยงน้องๆ แต่คนที่ทำให้เธอต้องมาเดินไปยิ้มไป
เหมือนคนบ้า ก็คือผู้ชายที่เป็นดังเพื่อนสนิทอีกคน ก็พี่แกเล่นแอบรักรุ่นพี่สาวแต่ไม่สวย แถมห้าวอย่างแหลกราญ
โอยแค่นึกก็สติแตกแล้ว ใครจะคิดว่าชายหนุ่มที่หล่อเนี้ยบ แถมสำอางบวกเรื่องมาก ( สำหรับเธอ ) ดันมาแอบชอบรุ่นพี่
ที่มีอายุมากกว่าตัวเอง แถมสาวเจ้ายังบอกว่าไม่นิยมชมชอบคนต่างเพศบวกไม่พึงพิสมัยเพศที่ไม่เหมือนกัน เอ้า...แล้วมันหมาย
ความว่ายังไง โธ่.......ไอ้โอเอ้ยงานนี้แกช้ำในตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นจีบด้วยซ้ำ แค่เนี้ยแค่เธอเอ่ยปากพูดเพื่ออยากให้เพื่อน
ทำใจไว้บ้าง เจ้าของนามถึงกับเต้นแร้งเต้นกา โมโหที่เธอไปแช่งมันตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มจีบ มันเลยงอนไม่ยอมมาส่งเธอ
ถึงในบ้านเหมือนเดิม คิดแล้วก็ขำผู้ชายขี้งอนมันน่าดูตายเลย
ขณะที่เธอเดินในระยะไม่ไกลจากบ้านนัก ชายหนุ่มที่มาเฝ้ารอเธออยู่นานหลายชั่วโมง ก็รู้สึกไม่พอใจเพราะคนที่เค้าคิด
ว่าตอนนี้เธอต้องกำลังเสียใจที่เค้าหายไปเลยไม่มีแม้แต่โทรศัพท์ ทั้งๆที่เค้าต้องพยายามห้ามตัวเองทุกคืนไม่ให้โทรหาเธอ
แต่เหมือนร่างกายมันกลับไม่เชื่อฟังเจ้าของคอยแต่จะหยิบโทรศัพท์อยู่ล่ำไป แต่เธอคนนั้นกลับเดินยิ้มหน้าระรื่น เห็นแล้วก็พาล
ทำให้อารมณ์เสีย นี่เธอไม่รู้สึกอะไรเลยใช่มั้ย คนที่คอยกระวนกระวายกลับกลายมาเป็นตัวเค้าเอง คิดว่าเธอจะต้องเศร้า
เสียใจแต่ดูเธอซิเธอเดินยิ้มได้แถมดูมีความสุขยามที่ไม่มีเค้า แถมยังกลับบ้านดึกๆอีก ถ้าเค้าอยู่ด้วยเค้าจะไม่ยอมให้เธอ
กลับบ้านเกิน 3 ทุ่มแน่ ! ขนาดเวลานอนเค้ายังต้องโทรมาเตือนทุกคืน
“ ไปไหนมา “
เสียงดังจนเหมือนเสียงตะคอกออกมาจากปากของผู้ชายที่เธอคิดว่าคงไม่ได้เจอหน้ากันอีก หน้าตาหล่อเหลาตอนนี้ดูไม่
พอใจอะไรซักอย่าง เธอไม่อยากเข้าข้างตัวเองอีกแล้ว ว่าที่เค้าไม่พอใจสาเหตุเพราะเธอ
เหมือนเวลาช้านานหรือว่าเค้าใจร้อน ท่าทางเฉยชาบวกแววตาที่นิ่งสนิท แม้ตัวเค้าเองจะรอคอยคำตอบจากปากบางสีชมพู
ที่ถูกเคลือบด้วยลิปกลอสสีใส สีที่เค้าเห็นเธอใช้อยู่เพียงสีเดียว แต่มันกลับปิดสนิทมีเพียงดวงตากลมโตที่ทอดมองมา
จนเค้ารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสิ่งประหลาดที่ผู้มองไม่อาจละสายตา มันเป็นแววตาที่ไม่มีแม้แต่ความห่วงหาอาทรดีใจ
หรือเสียใจแม้กระทั่ง “ ความรัก “ ไม่มี
สิ่งที่บอกกับตัวเองเสมอว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาในชีวิต แล้วเธอก็จะผ่านไป แต่พอเห็นว่าดวงตาคู่
นั้นมองมาไม่เหมือนเดิมมันไม่เจ็บปวด แต่ชาไปทั้งตัวความกลัวกลับเข้ามาแทนที่ “ กลัว “ แล้วเค้ากลัวอะไร กลัวว่าเธอจะ
พูดอะไร
“ ดูหนังค่ะ “
น้ำเสียงที่ตอบกลับมาราบเรียบที่สุดในความรู้สึก ม่านดาวมองหน้าชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าบ้านเธอ โดยไม่หลบสายตาที่
เหมือนจะตำหนิเธอแม้แต่น้อย นั้นยิ่งทำให้คนที่กระวนกระวายเพราะเป็นห่วงเธอ ถึงกับเดือด เสียงที่เปล่งออกมาบอกได้ถึง
ความไม่พอใจมากๆ จากแค่เพียงเสียงดังกลายมาเป็นตะคอก
“ ดูหนัง จนดึกป่านนี้เนี่ยนะ อยากดูมากจนไม่ดูแวลากลับบ้านเลยหรือไง “
ชายหนุ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้
“ ไปดูกับใคร ผู้ชายหรือเปล่า แล้วบอกคุณป้าหรือยัง”
คิ้วเรียวขมวดมุ้นกับคำถามที่ออกมาพร้อมกันมากมายจนเธอถึงงงกับคำถาม เพราะมันออกมาจากผู้ชายคนนี้ทำไม
เค้าต้องมาตะคอกเธอด้วยเนี้ย แล้วนี่มันเพิ่งจะ 3 ทุ่ม ถึงมันจะไม่ใช่เวลาปกติที่เธอกลับบ้าน แต่เธอก็บอกแม่แล้ว
แต่ความรู้สึกนั้นก็อยู่ภายใต้หน้าตาเฉยชาที่เธอพยายามแสดงออกมา
ภยศโกรธที่ผู้หญิงตรงหน้ายังทำหน้าเฉยสนิททั้งๆที่เค้าห่วงเธอขนาดนี้
“ คุณภยศ ถามทำไมค่ะ “
แววตาที่มองชายคนที่เธอรักอย่างจะเก็บภาพของเค้าเอาไว้ในใจเธอให้ได้มากที่สุด น้ำเสียงที่พยายามควบคุมให้เป็น
ปรกติทั้งๆที่หัวใจเธอเจ็บ เจ็บทั้งๆที่รู้ว่ารัก
“ ......เกลือ !.......”
เสียงทีเปล่งออกมาเหมือนเพ้อ สมองที่คอยบอกกับตัวเองว่าสิ่งที่เค้ากลัว มันกำลังจะหลุดออกมาจากริมฝีปากบางนั้น
คุณภยศ งั้นเหรอช่วงเวลาแค่ 1 เดือนมันสร้างความห่างเหินได้ขนาดนี้เชียวเหรอ อะไรทำให้เธอเปลี่ยนไป
อะไรทำให้เธอต้องทำตัวห่างเหินเค้าถึงขนาดนี้
“ ระยะเวลาที่ผ่านมาเกลือคิดได้แล้วค่ะ อย่างที่คุณภยศพูด ทางของเราสองคนคือ....ควรห่างกัน “
“ อดีต เกลือเคยมีคุณอยู่ แต่ ปัจจุบัน กับอนาคตจะไม่มีผู้ชายที่ชื่อภยศ เวทัศน์ ขอให้คุณวางใจ ดิฉันจะเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง
ที่อยู่ในโลกปัจจุบัน และความเป็นจริงที่ตัวเองควรจะยอมรับนานแล้ว “
..........................................
เสียงปิดประตูรถที่ดังไปถึงด้านใน พร้อมกับร่างสูงที่เดินผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่แม้แต่จะทักทายผู้เป็นบิดาและมารดา
ทำให้ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างสงสัยในอารมณ์ของบุตรชาย และไม่คิดว่ารถที่ลูกชายรักนักรักหนาจะโดนประทุษร้ายไปด้วย
“ คุณผู้หญิงค่ะ คุณใต้เธอเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ ดูหน้าตาเธอดูไม่ดีเลย อิฉันทักเธอก็ไม่ตอบ”
แม่นมหรือแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของตระกูลเวทัศน์ อดถามไม่ได้เพราะไม่เคยเห็นคุณหนูของเธอเป็นแบบนี้มาก่อน
ถึงจะโกรธใครมาขนาดไหนก็ไม่เคยระบายกับข้าวของ โดยเฉพาะรถยนต์ของตัวเอง
“ นั้นซิคุณ....ผมว่าคุณขึ้นไปดูลูกหน่อยก็ดี ดูท่าคราวนี้ใต้ฝุ่นจะลงบ้านนะ “
นายภพศรันย์ ผู้เป็นบิดาซึ่งเป็นประมุขของบ้านเอ่ยกับผู้เป็นภรรยาเพราะยังงงอยู่กับอาการผิดปรกติของบุตรชาย
ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว แต่ลูกของเค้าก็ไม่เคยเอาแต่ใจตัวเองออกจะเป็นคนอารมณ์ดี เข้ากับคนอื่นได้ดี
ชายหนุ่มไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้ากลับมาบ้านได้ยังไง รู้แค่ว่าคำพูดของเธอมันวนเวียนอยู่ในหัวของเค้า ภาพของเธอวนเวียนฉายซ้ำ
ไปซ้ำมา หลังจากที่เธอเดินจากไป
( อดีต ปัจจุบัน อนาคต ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนายภยศ เวทัศน์ )
ให้ตายชื่อนั้นมันชื่อของเค้า!
โกรธเธอ เกลียดเธอ หรือเสียใจ แต่หัวใจของเค้ามันเจ็บ.....เจ็บเหลือเกิน นี่ซินะที่เค้าพูดกันว่า วันเวลาไม่ช่วยอะไรเลย กับคนบางคนมันไม่มีค่าอะไรเลย หัวใจเธอทำด้วยอะไรมีเลือดเนื้อหรือเปล่า ระยะเวลาเพียงแค่ 1 เดือนเธอลืมเค้าได้
เค้าแค่ให้เธอกลับไปคิดไม่ได้ให้เลิกกันซักหน่อย !
ก็อก ๆ ๆ
“ ใต้.......ให้แม่เข้าไปได้หรือเปล่าลูก “
ร่างของผู้สูงวัยแต่เค้าโครงความงามที่ยังมีอยู่เต็มเปี่ยมใบหน้าผุดผาด แม้จะผ่านวัยสาวมานานแล้วก็ตามร่างบางเดินตรง
เข้ามาหยุดอยู่หน้าบุตรชายที่นางรักดังแก้วตาดวงใจ บุตรชายที่รับเอาทุกสิ่งทุกอย่างจากบิดาและมารดามารวมกัน
ทั้งความรักที่ท่านทั้ง 2 คนมอบให้
มือของผู้เป็นมารดาเอื้อมมาลูบผมดกดำของบุตรชายอย่างปลอบประโลม
“ ใต้...มีเรื่องอะไรจะเล่าให้แม่ฟังไหมลูก ทุกคนในบ้านเค้าห่วงลูกของแม่มากนะ “
สิ้นเสียงของมารดา ชายหนุ่มถึงกับโผเข้ากอดมารดาพร้อมซบหน้าที่บ่าของนาง เสียงสั่นเครือพร้อมกับเรื่องราวต่างๆ
และสาเหตุที่ทำให้บุตรชายของนางอารมณ์ไม่คงที่นัก นางรู้ว่าเค้าต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน เพื่อไม่ต้องให้เธอห่วง
แต่มีหรือที่ผู้เป็นมารดาอย่างเธอจะไม่รู้ว่าบุตรชายสะเทือนใจมากแค่ไหน และในฐานะที่เธอเองก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน
ก็ย่อมเข้าใจการตัดสินใจของหญิงสาว แม้จะไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนก็ตาม แต่นางก็รู้ว่าเด็กคนนั้นคบกับบุตรชาย
ของเธอด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ความเพียบพร้อมที่ชายหนุ่มมี
“ ใต้ .. ลูกรักเธอหรือเปล่า “
คำถามที่มารดาเอ่ยออกมาถึงกับทำให้เค้าชะงัก รักหรือ เค้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรักเป็นยังไงแล้วเค้าจะรักเธอได้ยังไง
“ ผมแค่ชอบเธอมากครับแม่ “
คำพูดแผ่วเบาที่ออกมาจากริมฝีปากบางของบุตรชาย สายตาที่เลื่อนลอยยามตอบคำถามของนาง นี้บุตรชายของนางยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกที่เรียกว่ารักเป็นยังไง และตัวเองคิดแบบไหนกับเธอคนนั้น
“ แม่ครับผมเจ็บ “
แม้ใจจะเจ็บแต่เค้าก็มีศักดิ์ศรี แค่ผู้หญิงคนเดียวทำไมเค้าต้องแคร์ด้วยเวลาจะช่วยให้เค้าลืมเธอไปจากใจ และวันนั้นจะไม่มีเศษเสี้ยวของความทรงจำที่เกี่ยวข้องกันอีก
...................................................................
ความคิดเห็น