ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ล้อมฐานรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : สิ้นสุด

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 50


    ห่างกันสักพัก.........จากวันเป็นหลายวัน   จากหลายวันเป็นสัปดาห์  และมันก็ล่วงเข้าเดือนที่สอง     ไม่มีแม้เสียงโทรศัพท์ 
    ที่เธอเคยได้รับทุกคืน    เสียงที่คอยเตือนให้เธอเข้านอนตามเวลา.......ไม่มีสักครั้ง       หรือเธอต้องใช่เวลาทั้งชีวิตเพื่อลืม...........

     

    วันนี้อาจเป็นวันแรกที่เธอรู้สึกว่ารอยยิ้มยังไม่หายไปจากตัวเธอทั้งหมด   หรือพูดได้ว่าหลายวันที่ผ่านมา    เพื่อนๆพยายาม
    ทำให้เธอเป็นคนร่าเริงเหมือนเก่า    และวันนี้หลังจากที่ต้องทนเจอข้อสอบที่ทุกคนต่างหวาดกลัวเสร็จสิ้นแล้ว  จึงนัดกันมาดูหนัง
    และเลี้ยงฉลองกัน   ซึ่งในนั้นก็มีกลุ่มเพื่อนๆของเธอและรุ่นพี่ที่อาสาจะเลี้ยงน้องๆ     แต่คนที่ทำให้เธอต้องมาเดินไปยิ้มไป
    เหมือนคนบ้า       ก็คือผู้ชายที่เป็นดังเพื่อนสนิทอีกคน   ก็พี่แกเล่นแอบรักรุ่นพี่สาวแต่ไม่สวย    แถมห้าวอย่างแหลกราญ

     

     

    โอยแค่นึกก็สติแตกแล้ว    ใครจะคิดว่าชายหนุ่มที่หล่อเนี้ยบ  แถมสำอางบวกเรื่องมาก  ( สำหรับเธอ )   ดันมาแอบชอบรุ่นพี่
    ที่มีอายุมากกว่าตัวเอง    แถมสาวเจ้ายังบอกว่าไม่นิยมชมชอบคนต่างเพศบวกไม่พึงพิสมัยเพศที่ไม่เหมือนกัน  เอ้า...แล้วมันหมาย
    ความว่ายังไง      โธ่.......ไอ้โอเอ้ยงานนี้แกช้ำในตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นจีบด้วยซ้ำ       แค่เนี้ยแค่เธอเอ่ยปากพูดเพื่ออยากให้เพื่อน
    ทำใจไว้บ้าง     เจ้าของนามถึงกับเต้นแร้งเต้นกา   โมโหที่เธอไปแช่งมันตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มจีบ    มันเลยงอนไม่ยอมมาส่งเธอ
    ถึงในบ้านเหมือนเดิม   คิดแล้วก็ขำผู้ชายขี้งอนมันน่าดูตายเลย

     

     

    ขณะที่เธอเดินในระยะไม่ไกลจากบ้านนัก   ชายหนุ่มที่มาเฝ้ารอเธออยู่นานหลายชั่วโมง   ก็รู้สึกไม่พอใจเพราะคนที่เค้าคิด
    ว่าตอนนี้เธอต้องกำลังเสียใจที่เค้าหายไปเลยไม่มีแม้แต่โทรศัพท์    ทั้งๆที่เค้าต้องพยายามห้ามตัวเองทุกคืนไม่ให้โทรหาเธอ  
    แต่เหมือนร่างกายมันกลับไม่เชื่อฟังเจ้าของคอยแต่จะหยิบโทรศัพท์อยู่ล่ำไป  แต่เธอคนนั้นกลับเดินยิ้มหน้าระรื่น   เห็นแล้วก็พาล
    ทำให้อารมณ์เสีย     นี่เธอไม่รู้สึกอะไรเลยใช่มั้ย   คนที่คอยกระวนกระวายกลับกลายมาเป็นตัวเค้าเอง     คิดว่าเธอจะต้องเศร้า  
     
    เสียใจแต่ดูเธอซิเธอเดินยิ้มได้แถมดูมีความสุขยามที่ไม่มีเค้า    แถมยังกลับบ้านดึกๆอีก      ถ้าเค้าอยู่ด้วยเค้าจะไม่ยอมให้เธอ
    กลับบ้านเกิน 3 ทุ่มแน่
    !  ขนาดเวลานอนเค้ายังต้องโทรมาเตือนทุกคืน

     

      ไปไหนมา

     

    เสียงดังจนเหมือนเสียงตะคอกออกมาจากปากของผู้ชายที่เธอคิดว่าคงไม่ได้เจอหน้ากันอีก    หน้าตาหล่อเหลาตอนนี้ดูไม่
    พอใจอะไรซักอย่าง     เธอไม่อยากเข้าข้างตัวเองอีกแล้ว   ว่าที่เค้าไม่พอใจสาเหตุเพราะเธอ

     

    เหมือนเวลาช้านานหรือว่าเค้าใจร้อน    ท่าทางเฉยชาบวกแววตาที่นิ่งสนิท   แม้ตัวเค้าเองจะรอคอยคำตอบจากปากบางสีชมพู
    ที่ถูกเคลือบด้วยลิปกลอสสีใส    สีที่เค้าเห็นเธอใช้อยู่เพียงสีเดียว   แต่มันกลับปิดสนิทมีเพียงดวงตากลมโตที่ทอดมองมา    
    จนเค้ารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสิ่งประหลาดที่ผู้มองไม่อาจละสายตา   มันเป็นแววตาที่ไม่มีแม้แต่ความห่วงหาอาทรดีใจ   
    หรือเสียใจแม้กระทั่ง  
      ความรัก    ไม่มี

     

    สิ่งที่บอกกับตัวเองเสมอว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาในชีวิต   แล้วเธอก็จะผ่านไป    แต่พอเห็นว่าดวงตาคู่
    นั้นมองมาไม่เหมือนเดิมมันไม่เจ็บปวด   แต่ชาไปทั้งตัวความกลัวกลับเข้ามาแทนที่  
      กลัว    แล้วเค้ากลัวอะไร กลัวว่าเธอจะ
    พูดอะไร

     

    ดูหนังค่ะ

     

    น้ำเสียงที่ตอบกลับมาราบเรียบที่สุดในความรู้สึก     ม่านดาวมองหน้าชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าบ้านเธอ   โดยไม่หลบสายตาที่
    เหมือนจะตำหนิเธอแม้แต่น้อย     นั้นยิ่งทำให้คนที่กระวนกระวายเพราะเป็นห่วงเธอ ถึงกับเดือด      เสียงที่เปล่งออกมาบอกได้ถึง
    ความไม่พอใจมากๆ    จากแค่เพียงเสียงดังกลายมาเป็นตะคอก 

     

      ดูหนัง  จนดึกป่านนี้เนี่ยนะ   อยากดูมากจนไม่ดูแวลากลับบ้านเลยหรือไง 

     

     

    ชายหนุ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้

     

      ไปดูกับใคร  ผู้ชายหรือเปล่า  แล้วบอกคุณป้าหรือยัง

     

    คิ้วเรียวขมวดมุ้นกับคำถามที่ออกมาพร้อมกันมากมายจนเธอถึงงงกับคำถาม    เพราะมันออกมาจากผู้ชายคนนี้ทำไม
    เค้าต้องมาตะคอกเธอด้วยเนี้ย    แล้วนี่มันเพิ่งจะ 3 ทุ่ม  ถึงมันจะไม่ใช่เวลาปกติที่เธอกลับบ้าน    แต่เธอก็บอกแม่แล้ว   
    แต่ความรู้สึกนั้นก็อยู่ภายใต้หน้าตาเฉยชาที่เธอพยายามแสดงออกมา

     

    ภยศโกรธที่ผู้หญิงตรงหน้ายังทำหน้าเฉยสนิททั้งๆที่เค้าห่วงเธอขนาดนี้

     

      คุณภยศ  ถามทำไมค่ะ

     

    แววตาที่มองชายคนที่เธอรักอย่างจะเก็บภาพของเค้าเอาไว้ในใจเธอให้ได้มากที่สุด   น้ำเสียงที่พยายามควบคุมให้เป็น
    ปรกติทั้งๆที่หัวใจเธอเจ็บ    เจ็บทั้งๆที่รู้ว่ารัก

     

       ......เกลือ !.......   

     

    เสียงทีเปล่งออกมาเหมือนเพ้อ  สมองที่คอยบอกกับตัวเองว่าสิ่งที่เค้ากลัว   มันกำลังจะหลุดออกมาจากริมฝีปากบางนั้น  
    คุณภยศ  งั้นเหรอช่วงเวลาแค่ 1 เดือนมันสร้างความห่างเหินได้ขนาดนี้เชียวเหรอ
       อะไรทำให้เธอเปลี่ยนไป  
    อะไรทำให้เธอต้องทำตัวห่างเหินเค้าถึงขนาดนี้

     

    ระยะเวลาที่ผ่านมาเกลือคิดได้แล้วค่ะ  อย่างที่คุณภยศพูด    ทางของเราสองคนคือ....ควรห่างกัน      

     

      อดีต   เกลือเคยมีคุณอยู่   แต่ ปัจจุบัน  กับอนาคตจะไม่มีผู้ชายที่ชื่อภยศ   เวทัศน์   ขอให้คุณวางใจ  ดิฉันจะเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง
    ที่อยู่
    ในโลกปัจจุบัน   และความเป็นจริงที่ตัวเองควรจะยอมรับนานแล้ว

     

     

     

     

                                                                         ..........................................

     

     

    เสียงปิดประตูรถที่ดังไปถึงด้านใน   พร้อมกับร่างสูงที่เดินผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่แม้แต่จะทักทายผู้เป็นบิดาและมารดา 
     
    ทำให้ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างสงสัยในอารมณ์ของบุตรชาย  และไม่คิดว่ารถที่ลูกชายรักนักรักหนาจะโดนประทุษร้ายไปด้วย

     

    คุณผู้หญิงค่ะ  คุณใต้เธอเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ  ดูหน้าตาเธอดูไม่ดีเลย  อิฉันทักเธอก็ไม่ตอบ  

     

    แม่นมหรือแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของตระกูลเวทัศน์  อดถามไม่ได้เพราะไม่เคยเห็นคุณหนูของเธอเป็นแบบนี้มาก่อน  
      
    ถึงจะโกรธใครมาขนาดไหนก็ไม่เคยระบายกับข้าวของ  โดยเฉพาะรถยนต์ของตัวเอง

     

    นั้นซิคุณ....ผมว่าคุณขึ้นไปดูลูกหน่อยก็ดี   ดูท่าคราวนี้ใต้ฝุ่นจะลงบ้านนะ

                   

    นายภพศรันย์   ผู้เป็นบิดาซึ่งเป็นประมุขของบ้านเอ่ยกับผู้เป็นภรรยาเพราะยังงงอยู่กับอาการผิดปรกติของบุตรชาย  
     
    ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว  แต่ลูกของเค้าก็ไม่เคยเอาแต่ใจตัวเองออกจะเป็นคนอารมณ์ดี  เข้ากับคนอื่นได้ดี

    ชายหนุ่มไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้ากลับมาบ้านได้ยังไง    รู้แค่ว่าคำพูดของเธอมันวนเวียนอยู่ในหัวของเค้า  ภาพของเธอวนเวียนฉายซ้ำ
    ไปซ้ำมา    หลังจากที่เธอเดินจากไป

     

    ( อดีต  ปัจจุบัน  อนาคต   ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนายภยศ   เวทัศน์ )

     

    ให้ตายชื่อนั้นมันชื่อของเค้า!

     

    โกรธเธอ  เกลียดเธอ   หรือเสียใจ   แต่หัวใจของเค้ามันเจ็บ.....เจ็บเหลือเกิน    นี่ซินะที่เค้าพูดกันว่า   วันเวลาไม่ช่วยอะไรเลย   กับคนบางคนมันไม่มีค่าอะไรเลย   หัวใจเธอทำด้วยอะไรมีเลือดเนื้อหรือเปล่า   ระยะเวลาเพียงแค่ 1 เดือนเธอลืมเค้าได้  
    เค้าแค่ให้เธอกลับไปคิดไม่ได้ให้เลิกกันซักหน่อย
    !

     

    ก็อก ๆ ๆ

     

    ใต้.......ให้แม่เข้าไปได้หรือเปล่าลูก  

     

    ร่างของผู้สูงวัยแต่เค้าโครงความงามที่ยังมีอยู่เต็มเปี่ยมใบหน้าผุดผาด   แม้จะผ่านวัยสาวมานานแล้วก็ตามร่างบางเดินตรง
    เข้ามาหยุดอยู่หน้าบุตรชายที่นางรักดังแก้วตาดวงใจ   บุตรชายที่รับเอาทุกสิ่งทุกอย่างจากบิดาและมารดามารวมกัน  
    ทั้งความรักที่ท่านทั้ง 2 คนมอบให้

                                                   

    มือของผู้เป็นมารดาเอื้อมมาลูบผมดกดำของบุตรชายอย่างปลอบประโลม

     

    ใต้...มีเรื่องอะไรจะเล่าให้แม่ฟังไหมลูก   ทุกคนในบ้านเค้าห่วงลูกของแม่มากนะ

     

    สิ้นเสียงของมารดา  ชายหนุ่มถึงกับโผเข้ากอดมารดาพร้อมซบหน้าที่บ่าของนาง   เสียงสั่นเครือพร้อมกับเรื่องราวต่างๆ  
    และสาเหตุที่ทำให้บุตรชายของนางอารมณ์ไม่คงที่นัก  นางรู้ว่าเค้าต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน  เพื่อไม่ต้องให้เธอห่วง   
    แต่มีหรือที่ผู้เป็นมารดาอย่างเธอจะไม่รู้ว่าบุตรชายสะเทือนใจมากแค่ไหน  และในฐานะที่เธอเองก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน   
    ก็ย่อมเข้าใจการตัดสินใจของหญิงสาว   แม้จะไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนก็ตาม  แต่นางก็รู้ว่าเด็กคนนั้นคบกับบุตรชาย
    ของเธอด้วยความจริงใจ   ไม่ใช่ความเพียบพร้อมที่ชายหนุ่มมี

     

      ใต้ ..  ลูกรักเธอหรือเปล่า

     

    คำถามที่มารดาเอ่ยออกมาถึงกับทำให้เค้าชะงัก  รักหรือ   เค้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรักเป็นยังไงแล้วเค้าจะรักเธอได้ยังไง

    ผมแค่ชอบเธอมากครับแม่

     

    คำพูดแผ่วเบาที่ออกมาจากริมฝีปากบางของบุตรชาย  สายตาที่เลื่อนลอยยามตอบคำถามของนาง  นี้บุตรชายของนางยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกที่เรียกว่ารักเป็นยังไง  และตัวเองคิดแบบไหนกับเธอคนนั้น                             

             

    แม่ครับผมเจ็บ    

     

    แม้ใจจะเจ็บแต่เค้าก็มีศักดิ์ศรี    แค่ผู้หญิงคนเดียวทำไมเค้าต้องแคร์ด้วยเวลาจะช่วยให้เค้าลืมเธอไปจากใจ  และวันนั้นจะไม่มีเศษเสี้ยวของความทรงจำที่เกี่ยวข้องกันอีก

     

     

             

                                                    ...................................................................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×