คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อดีต
----- เรื่องของเธอกับเค้า เริ่มขึ้นเมื่อเธอได้ทุนมา เรียนทางด้านแฟชั่นที่อิตาลี ชายหนุ่มเป็นรุ่นพี่ของ เธอ 4 ปี เค้ามา เรียนต่อโท และตอนนั้นเธอเรียนอยู่แค่ปี 1 ชายหนุ่มเป็นรุ่นพี่ต่างคณะการหาข้อมูลในห้อง สมุดทำให้เธอสนิทกับเค้า
เพราะชายหนุ่มเป็นคน อบอุ่น มีน้ำใจ และไม่ เคยมีท่าทางกรุ่มกริ่ม เหมือนชายหนุ่มคนอื่นๆ ทำให้เธอคุยด้วยสนิทใจ
ความสัมพันธ์ที่ดีเริ่ม ก่อตัวขึ้น แต่ชายหนุ่ม ก็ยังคงท่าทีเหมือนเดิม จนเธอเองที่เป็นฝ่ายร้อนใจ อยากให้เค้าพูด อะไรที่พิเศษกับเธอบ้าง แต่เค้าก็ยังคงท่าทีนิ่ง เฉยกับเธอมาตลอด ถ้าวันหนึ่งเค้าไม่ลืมไดอารี่ ของตนไว้ก่อนออกจากห้องสมุดเธอก็
คงไม่รู้เลยว่าเค้าคิดยังไงกับเธอ
มันอาจเป็นการเสียมารยาทที่เธออ่านไดอารี่ ของเค้า แต่เธอก็ดีใจที่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่เค้ามีให้กับเธอ
และเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน เพราะความที่เค้ากลัวว่า จะไม่ได้พูดคุยและพบเจอกันเหมือนเก่าทำให้ชายหนุ่มไม่กล้าพูดความในใจ เธอยังจำหน้าตาของเค้าได้ ตอนที่เธอนำไดอารี่ไปคืนเค้าดูตกใจไม่น้อยที่เธอเป็นคนเก็บมันเอาไว้ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไร วันนั้นเค้าไม่ได้เข้าห้องสมุดเหมือนเคย
เธอภาวนาให้เค้าเปิดไดอารี่หน้าสุดท้าย เพราะมีข้อความที่เธอ เป็นคนเขียน และ อยากให้เค้าอ่านข้อความที่ เธอสื่อให้เค้ารู้
้ [ความรู้สึกที่เหมือนกัน เพียงแค่รอวันที่เธอนั้นจะ บอก ] ---ริซ-
-- ไม่รู้ว่าเธอทำไปได้ยังไง ทั้งที่ตัวเองเป็นผู้หญิง แต่กลับบอกความในใจกับผู้ชายก่อน
--เช้าวันใหม่ในขณะที่เธอเตรียมตัวออกจาก ห้องพักก็ต้องตกใจ
เพราะคนที่เธอคิดว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้ยืนอยู่หน้า ประตูห้องของเธอในมือของเค้าถือไดอารี่อยู่
ท่าทางที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวของเค้าดูสั่นๆอยู่ในที
ต่างคนต่างสบตากัน แล้วเธอก็ต้องเป็นฝ่ายเอ่ย ถามเค้าก่อน
"พี่โยฮามีธุระอะไรกับริซ หรือเปล่าค่ะ "
ถึงแม้ว่าเธอพอจะรู้จุด ประสงค์ที่เค้ามาหาเธอแต่เช้า แต่เธอก็อดใจเต้นแรงไมได้
"เอ่อ _ริซครับพี่ เอ่อ...."
น้ำเสียงที่เปล่งออกมา นั้นตะกุกตะกักท่าทาง เค้าดูจะตื่นเต้นมากกว่าเธอซะอีก ขณะที่เธอกำลังคิดว่า เธอต้องเป็นคนเริ่มอีกแล้วหรือเปล่าเธอก็ได้ยิน เสียงของเค้าพูดออกมาซะ ที
" ริซครับพี่ขอคุยกับริซสักครู่ได้มั้ย "
ชายหนุ่มได้แต่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตากับเธอ
ทำไมเค้ารู้สึกว่าเวลาอยู่ต่อหน้ารุ่นน้องคนนี้ ใจของเค้ามันเต้นแรงมือไม้สั่น ทั้งๆที่เตรียมตัวมาพูดกับเธอให้รู้เรื่อง แต่พอมาอยู่แค่หน้าห้องเค้าก็ทำอะไรไม่ถูก แม้แต่ประตูยังไม่กล้าเคาะจนเธอเปิดมาเจอนั้นและ
หลังจากที่ได้อ่านไดอารี่ ของตัวเองเค้าก็ดีใจมากที่พบข้อความที่ไม่ใช่ของเค้า และมั่นใจว่าเป็นลายมือของเธอทั้งๆที่ รู้ว่าตัวเองพอมีความหวังแต่พอได้พบกับสั่นไปทั้งตัว
"เชิญพี่โยฮาในห้องก่อนมั้ยค่ะ "
ริซพูดพร้อมกับเปิดประตูให้ชายหนุ่ม สามารถเดินเข้ามาในห้องได้
" ไม่ดีกว่าครับ... .....เราไปคุย กันด้านล่างดีกว่าครับ "
ถึงแม้ว่าเค้าจะบริสุทธิ์ใจกับเธอ แต่ยังไงก็คงไม่ดีแน่ถ้าคนอื่นมาเห็นว่าเค้าอยู่ในห้องกับเธอ 2 ต่อ 2
ทั้งสองเดินลงมาด้าน ล่างของหอพักด้านล่าง จะมีที่สำหรับให้คนที่มาพบนั่งคอยอยู่ด้านล่าง
ชายหนุ่มเลือกมุมสุดด้านในที่ไม่มีคนเดินผ่าน เพื่อที่เค้าจะได้คุยกับเธอได้สะดวก
" ริซทานอาหารเช้าหรือ ยังครับพี่มารบกวนแต่เช้า "
เค้าพยายามบังคับ เสียงของเค้าให้คงที่มากที่สุด
" เรียบร้อยแล้วค่ะว่าแต่พึ่โยฮาละค่ะ ทานอะไรมาบ้างหรือยังค่ะ "
เธอคิดว่าเค้าคงมารอเธอซักพักแล้ว แต่เค้าคงไม่กล้าเรียกเธอ
" พี่อิ่มแล้วครับ เอ่อ...... ตั้งแต่ที่พี่อ่านไดอารี่ "
หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเค้าตอนนี้หน้าของ เธอดูแดงระเรื่อขึ้น ดวงตา สีน้ำตาลบวกกับขนตา ยาวงอนริมฝีปากอิ่มสีชมพู ถูกทาด้วยลิปกรอส
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เค้าเห็น เธอเธอก็ทำให้เค้าตกหลุม รักตั้งแต่แรกเจอแต่ผู้ชายหน้าตาธรรมดาอย่างเค้าผู้หญิงสวยๆ อย่างริซคงไม่สนใจผู้ชาย แบบเค้าหรอกความรู้สึกที่บอกใครไม่ได้ ถูกถ่ายทอดลงบนสมุดเล่มเล็กที่เค้าสามารถพกติดตัวไปได้ตลอด
" ริซครับคือพี่ไม่แน่ใจ........ว่าในไดอารี่ของพีมีข้อ ความที่เขียนอยู่ จะใช่ลายมือของริซหรือเปล่า ริซช่วยดูให้พี่หน่อยได้มั้ยครับ "
พูดจบชายหนุ่มก็ยื่น ไดอารี่เล่มเล็กให้กับเธอ ริซจำเป็นที่จะต้องรับไดอารี่ของเค้ามาเปิดอ่าน
แต่ในใจของเธอกลับต่อว่าเค้าในใจแหมจะไม่ให้ โกรธได้ยังไง ไม่รู้จะซื่อบื้อไปถึงไหนอุตส่าห์เรียนตั้งปริญญาโทแล้ว ยังทำไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียน ตัวเองเป็นผู้ชายแท้ ๆ ยังไม่กล้าบอกรักเธอก่อนเลย
อย่างงี้ต้องแกล้งซะให้เข็ด
"พี่โยฮาหมายถึง ประโยคสุดท้ายนี่หรือเปล่า ค่ะ ตายจริงริซต้องขอโทษ ด้วยไม่รู้ว่าเวลล์มาเขียน เล่นหรือเปล่า ต้องขอโทษ พี่โยฮาจริงๆเลยนะค่ะ "
เธอทำท่าทีตกใจทันทีที่อ่านไดอารี่จบ แต่การแกล้งของเธอครั้งนี้ ทำให้ชายหนุ่มถึงกับหน้าถอดสีจากที่ขาวอยู่แล้ว กลับซีดเข้าไปใหญ่ แต่เธอก็ยังเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก
" พี่โยฮาคงไม่คิดว่าริซเป็น คนเขียนหรอกนะค่ ะ "
ใจจริงเธอก็อยากจะ แกล้งเค้าต่อ แต่พอเห็นสายตาที่หม่นลง
สีหน้าที่ขาวเหมือนไม่มีเลือดมาสูบฉีด เธอก็อดใจอ่อนไม่ได้ แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ย อะไรออกไปเสียงของชาย หนุ่มก็ดังขึ้น
" พี่ต้องขอโทษนะครับที่มารบกวนแต่เช้า เพราะความไม่รู้ตัวเองของพี่ถ้างั้นพี่คงต้องขอตัว "
ชายหนุ่มรีบลุกจากเก้าอี้ ที่เค้านั่งถึงแม้ว่าเมื่อก่อนเค้าจะทำใจยอมรับ ความผิดหวังที่คิดว่าไม่อาจ เกิดขึ้นได้ระหว่างรุ่นน้อง คนนี้ได้ก็ขอแค่ได้เฝ้ามองดูอยู่ห่างๆก็พอ แต่ข้อความในไดอารี่ ทำให้เค้าไม่ได้ทำใจที่จะ มาพบกับความผิดหวังใน ครั้งนี้
" พี่โยฮาค่ะริซไม่ได้ชอบพี่อย่างที่คนอื่นๆคิดนะ ค่ะ ”
หญิงสาวรีบพูดกับเค้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินจากไป
"ครับ "
ชายหนุ่มรับคำสั้นๆ โดยไม่ได้หันหน้ามามอง เธอด้วยซ้ำ
" แต่ริซรักพี่โยฮานะค่ะ "
ในที่สุดเธอก็ต้องเป็นฝ่าย บอกรักเค้าก่อน ไม่รู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอมีแต่คนมาบอกรัก แต่กับคนที่ตัวเองรัก เค้ากับไม่กล้าบอกเธอ
” ครับพี่รู้ว่าริซหมายความว่ายังไง "
เค้าพูดโดยไม่กล้าแม้ กระทั่งหันกลับมามองหน้า ของหญิงสาวที่บอกว่ารักเค้า ยังไงเธอก็คงรักเค้า อย่างรุ่นพี่คนหนึ่งเท่านั้น
เธอถึงกับร่ำร้องในใจว่า ทำไมเค้าถึงเข้าใจอะไรยากนัก ทำไมริซถึงรักพี่ได้เนี่ย
" อย่าเพิ่งไปค่ะ "
หญิงสาวรีบเดินมาหยุด อยู่ตรงหน้าชายหนุ่มดูท่า เค้าคงตกใจอยู่ไม่น้อยที่ อยู่ๆเธอก็มายืนขวางหน้าเค้าเอาไว้
" มองหน้าริซซิค่ะ พี่รู้ตัวบ้างมั้ยว่าพี่กำลังทำให้ริซลำบากใจมากแค่ไหน พูดมาซิค่ะ ความรู้สึก ของพี่ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าพี่ตอนนี้ พี่คิดยังไงกับเธอ "
ดวงตาสีฟ้าใสที่ตอนนี้ คงรู้สึกสับสนไม่มีความมั่นใจ ถูกถ่ายทอดออกมา ให้เธอได้รับรู้
โธ่เธอไม่น่าไปแกล้งเค้าเลย เหมือนเวลาผ่านไปหลาย นาทีชายหนุ่มจึงเอื้อนเอ่ย คำพูดออกมาจากปากได้
" พี่รู้ตัวดีมาตลอด ว่าพี่ไม่มีอะไรหมาะสมกับริซซักอย่าง แต่พี่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ให้รักริซไม่ได้ มันมากขึ้นเรื่อยๆและมัน คงไม่ลดลง พี่ดีใจนะครับที่ริซให้ โอกาสพี่ได้พูดความรู้สึก ของพี่ แต่เรายังเป็นเหมือนเดิมได้มั้ยครับ พี่สัญญาว่าพี่จะเป็นพี่ชายที่ดีเหมือนเดิม แต่ริซอย่าโกรธพี่ได้มั้ย"
วันนี้เป็นวันที่เค้าสบายใจ มากที่สุดที่ได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจที่เก็บไว้เป็นปี ตลอดเวลาที่คอยเฝ้า มองดูเธอมันเป็นความสุข ของเค้า แต่การเปิดใจวันนี้อาจ ทำให้เธอไม่ยอมพูดกับเค้า อีกก็เป็นได้ และมันคง จะเจ็บกว่าการถูกปฎิเสธ ความรัก
เฮ้อ........นี่ถ้าเธอไม่พูดกับเค้าให้รู้เรื่องคงต้องเข้าใจกันไปคนละ อย่าง แน่ ๆ
" พี่โยฮาค่ะยื่นมือซ้าย มาหน่อยค่ะ "
ชายหนุ่มยืนงงอยู่กับคำพูดของเธอ ที่ตอนนี้ จับมือของเค้า และสวมแหวนทองวงเล็กที่นิ้วนางของเค้า
" ริซหมั้นพี่โยฮาไว้แล้วนะค่ะ ห้ามไปบอกรักสาวคนไหนอีกนะ “
“ ริซหวง แล้วเดี๋ยวริซจะไปทำวงใหญ่กว่านี้มาแทน จะได้เปลี่ยนมาเป็นนิ้วนาง “
เธออดขำหน้าตาของเค้าไม่ได้ก็ดูซิตอนนี้ หน้าเค้าเหมือน คนช้อคไปเลย
" ริซครับ นี่มัน........"
ชายหนุ่มถึงกับพูดไม่ออกกับการกระทำของเธอ
ใจที่เหมือนจะหยุดเต้นตั้งแต่เมื่อกี้ กลับเต้นแรงกว่าเดิมจะให้ เค้าคิดเข้าข้างตัวเองดีมั้ยว่าเธอคนที่เค้ารักกำลังหมั้นเค้าเอาไว้ ก่อนแถมยังถอดแหวนที่เห็นเธอใส่ติดนิ้วมาตลอดมาสวมที่นิ้วนางของเค้า
" ริซไม่แกล้งพี่แล้วค่ะ ริซรักพี่โยฮาแบบที่ผู้หญิงคนหนึ่ง อยากจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนหนึ่ง เพื่อให้เค้าเป็นคนดูแลริซกับลูก พี่โยฮาจะดูแลริซได้หรือเปล่าค่ะ ริซทานไม่เปลือง หรอกค่ะ เลี้ยงง่ายด้วยนะค่ะ "
หวังว่าคราวนี้เธอคงไม่พูดอะไรที่ทำให้ชายหนุ่มเข้าใจผิดอีก นะ
เธอแทบทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นหน้าตาเศร้าสร้อย
ในดวงตาสีฟ้าคู่นั้น นานหลายนาทีกว่าชายหนุ่มจะเข้าใจใน สิ่งที่ได้ยิน
เค้าไม่อยากเชื่อว่าคนที่เค้าเฝ้าดู และห่วงใยมาตลอดเวลา
คนที่หัวใจร่ำร้องเรียกหา อยากให้มาอยู่เคียงกัน
คนที่อยู่ไกล้กัน แค่เพียงมือคว้า แต่เหมือนไกลจนเค้าไปไม่ ถึงตัวเธอ
ตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าเค้า เพียงแค่เค้าเอื้อมมือเท่านั้นเธอก็ จะไม่ไปไหน อย่างที่เธอกำลังยืนยัน ว่าเธอรักเค้า
" ริซพูดจริง ๆใช่มั้ยครับ บอกพี่อีกทีได้มั้ยว่าริซให้พี่เป็นผู้ชายคนนั้น "
รอยยิ้มที่เปิดเผยกับอาการดีใจ ที่ไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้ทำ ให้เธอโล่งใจที่ความรักของเธอคลี่คลายซักที
" จริงค่ะ แล้วถ้าพี่ไม่แน่ใจริซบอกพี่ทุกวันก็ได้นะค่ะ “
และนั้นเป็นการเริ่มต้นความรักระหว่างเธอกับคนรักความรักของคน 2คน
ที่รักและเข้าใจกันมากขึ้นตามวันเวลา แต่อุปสรรคก็มีเข้ามาเรื่อย ๆถึงแม้ว่าเธอจะมั่นคงในความรักที่มีให้เค้า
แต่ตัวชายหนุ่มเองชอบคิดแต่ว่าเค้าไม่เหมาะสมกับเธอ
ถึงแม้เค้าจะไม่พูดออกมาเธอก็ทนเห็นเค้าคิดไปมากกว่านี้ไม่ ไหว
เลยตกลงกันว่าจะหมั้นกันไว้ก่อน รอเธอเรียนจบจึงค่อยแต่ง
----- แต่อุปสรรคทีเค้าและเธอไม่สามารถฝ่าฟันกันไปได้
และงานนี้คงต้องมีคนช่วย และต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้
เธอจึงเลือกที่จะให้รัณช่วย
--------------------
" ริซจ้องมองพี่ทำไมครับ หน้าของพี่มีอะไรแปลกไป หรือเปล่า "
ชายหนุ่มเอ่ยถามเพราะ ตั้งแต่เค้าเห็นเธอเดินเข้ามาและนั่งเงียบไปพักใหญ่หญิงสาวถึงกับสดุ้งกับเสียงร้องทักของคนรัก
"ขอโทษค่ะ ริซคิดอะไรเพลินไปหน่อย "
เค้าเองก็พอจะรู้ถึงความหนักใจของเธอ
" อย่าคิดมากนะค่ะ มีอะไรกลุ้มใจขอให้พี่ได้รับฟังปัญหานั้น ด้วยอย่าให้พี่ต้องเห็นริซกังวลอยู่คนเดียว "
"พี่โยฮาค่ะ ริซไม่สบายใจริซทำให้เพื่อนลำบาก เพราะเรื่อง ของเราหรือเปล่าค่ะ "
ความกังวลที่เธอดึงให้รัณต้องเข้ามามีสวนร่วมในแผนการ
ที่เธอเป็นคนคิดทำให้เธอเป็นห่วงเพื่อน เพราะสิ่งที่เธอจะให้รัณช่วยมันอาจ อันตราย
โดยเฉพาะกับผู้ชายคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่า ชีคยาซัส อัมฬะห์-
” ริซครับพี่ว่าเรื่องนี้เราน่าจะบอก กับรัณและถามความเห็นของ เธอให้เธอเต็มใจในสิ่งที่จะต้องทำดีกว่า "
ตอนแรกเค้าไม่เห็นด้วยกับความคิดของเธอ แต่ก็ไม่ อยากขัดใจเพราะสาเหตุทั้งหมดมันเกิดจากเค้าเอง
" ค่ะ ริซก็ว่าจะดูความสมัครใจของรัณดีกว่า ริซรู้สึกไม่สบายใจ เลยถ้าเรื่องของเราจะทำให้เพื่อนต้องเดือดร้อน "
ดวงหน้าขาวนวลกับแลดูซีดอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเธอคิดถึง ชายหนุ่มคนที่ทำให้เธอต้องมานั่งกลุ้มใจขนาดนี้
แม้จะเป็นเพียงแค่ครั้งเดียวที่เธอได้พบกับเค้าในฐานะคนรัก ของน้องชายคนเดียวของชีคยาซัส
เธอจำวันนั้นได้ดี โยฮาพาเธอไปแนะนำให้พี่ชายของเค้า ได้รู้จัก และบอกเรื่องงานหมั้นที่เธอและเค้าตกลงใจจะหมั้น กัน
ช่วงนั้นชีคยาซัสต้องบินมาทำธุรกิจที่อิตาลี เธอไม่เคยรู้ว่าคนรักมีฐานะทางครอบครัวเป็นยังไง รู้เพียงเเค่ว่าชายหนุ่มช่วยพี่ชายของเค้าดูเเลกิจการในเเถบยุโรป
เป็นบางเวลาที่พี่ชายของเค้าไม่สามารถมาได้ด้วยตนเองเพราะกิจการที่มากมาย
ชายหนุ่มจึงตั้งใจเรียนให้จบ เพื่อจะได้ไปช่วยงานของครอบครัวได้อย่างเต็มตัว จะได้ช่วยเเบ่งเบาภาระได้บ้าง
ครั้งแรกของการพบหน้าโยฮามักจะพูดถึงพี่ชายของเค้า เสมอ จนเธอพอจะรู้ถึงรูปร่างหน้าตา และนิสัยที่ค่อนข้างดุจนทำ ให้คนรักของเธอ ทั้งกลัวและเกรงใจพี่ชายของเค้ามาก
จากการบอกเล่าผู้ชายคนนี้ต้องเรียกได้ว่าเพอร์เฟ็ค แต่นั้นเป็น แค่การบอกเล่า
แต่การพบกันครั้งแรก ก็ทำให้เธออดกลัวไม่ได้
--วันนั้นเธอแต่งตัวเรียบร้อย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชีคหนุ่ม ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับน้องชายของเค้า
เพราะบางทีเค้าอาจจะมองเธอแค่ภายนอก
เพราะบางครั้งเธอก็ต้องเป็นนางแบบจำเป็นให้กับทางบริษัท ฯ ที่เธอไปฝึกงานด้วย
และคำว่านางแบบสำหรับเธอแล้วมันเป็นเหมือน แวดวงมายา
ที่ไม่น่าเข้าไปคลุกคลีด้วยแต่ด้วยรูปร่างหน้าตา และวิชาชีพที่ เธอรักมันไม่อาจหลีกหนีได้ และเธอคิดว่าคนที่ทำธุรกิจใหญ่ โตขนาดพี่ชายของคนรักคงไม่มองคนเพียงแค่ภายนอก
แต่ความจริงทุกอย่างที่เธอคิดกลับตรงกันข้ามหมดทุกอย่าง -
โรงแรมใหญ่ระดับห้าดาวการตกแต่งที่หรูหรา ถึงแม้ว่า เธอ จะเคยเข้าออกโรงแรมมาหลายที่หลายประเทศ
แต่เธอก็ไม่เคยเห็นห้องที่ใช้ต้อนรับแขกระดับชาติมาก่อน
การจะเข้าไปพบบุรุษคนสำคัญไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ทางเดินที่แยกออกจากลูกค้าทั่วไปที่มีฐานะไม่ธรรมดาแล้ว เธอก็พบว่าตามทางเดินมีชายฉกรรจ์ รูปร่างบึกบึนยืนอยู่ตาม จุดต่างๆ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้าคนสำคัญ ลิฟท์ตัวใหญ่ถูกเปิดออก ณ.ชั้นบนสุดของโรงแรม
โยฮาจูงมือหญิงสาว และเดินนำหน้าไปยังประตูบานใหญ่ ที่มีบุรุษสองนายยืนเฝ้าประตูอยู่
พร้อมเปิดให้ชายหนุ่ม และเธอเดินเข้าไปภายในห้องโถงใหญ่ มีเครื่องใช้อำนวยความสะดวกครบครัน
โซฟาตัวยาว TV จอยักษ์ ตั้งเด่นอยู่มุมห้องด้านหนึ่งพรหมปูพื้นชั้นดี กระจกบานใหญ่กินเนื้อที่เกือบครึ่งห้อง เพดานที่เป็นเหมือนโดม ทำให้เห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนและวิว ของกรุงโรมในตอนกลางคืนทุกอย่างบอกถึงราคาของตัวมันเอง
-บุรุษที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอใช้คำว่าเพอร์เฟ็คไม่ได้เลย ความสูงที่มากกว่าบุรุษทั่วไปผิวขาวที่ดูคร้ามแดด ผมที่ดำสนิท ยาวระต้นคอ คิ้วดกหนาได้รูป จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบาง แต่เหยียดตรง น่าแปลกดวงตาของเค้าเป็นสีม่วง
ถ้าเธอไม่ได้ตาฝาดไป ถ้าจะให้เธอเปรียบเค้าเปรียบเหมือนเทพบุตรในฝันของสาวๆทั่วโลก
ที่อยู่ในโลกของความฝันแต่คนที่เธอพบไม่ใช่ เทพบุตร ที่มีอยู่แต่ในจินตนาการ ผู้ชายคนนี้มีตัวตนมีชีวิต
และกำลังยืนมองดูเธออยู่
โยฮาสกิดให้เธอรู้สึกตัวหลังจาก ที่เห็นเธอยืนนิ่งไปพักใหญ่ เค้าแนะนำให้เธอรู้จักกับพี่ชายของตน
และพูดเรื่องการหมั้นหมาย โดยที่ชีคยาซัสไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำ พูดใดๆ
เป็นเวลานานหลายนาทีที่คนรักของเธอเล่าเรื่องของเธอ และเค้าให้กับพี่ชายได้ฟัง
ตลอดเวลาที่เธอนั่งฟังชายหนุ่ม เธอก็รับรู้ได้ถึงสายตาที่จับ จ้องมองดูเธอไล่ตั้งแต่ช่วงหน้าไปจนถึงปลายเท้า
มุมปากที่เหยียดตรงของ ชีคกระตุกขึ้นเล็กน้อยคงไม่มีใครไม่เข้าใจปฎิกิริยาแบบนี้
เค้ากำลังดูถูกเธอทั้งๆที่ยังไม่เคยพูดจากันเลยซักครั้งมันทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง และต้องบังคับตัวเองไม่ให้ แสดงความไม่พอใจออกไป
"ฉันไม่อนุญาตให้แกหมั้นกับผู้หญิงคนนี้ แต่ถ้าแกจะคบ กับหล่อนแก้เหงาฉันก็ไม่ว่าอะไร "
น้ำเสียงที่เรียบเฉยและคำพูดของบุรุษที่เธอคิดว่าเค้าเป็นผู้ใหญ่ เป็นนักธุรกิจ เป็นเทพบุตรมันทำให้หัวใจเธอแทบหยุดเต้น
เธอไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำพูดที่ดูถูกเธอได้ถึงขนาดนี้
ความรู้สึกที่พยายามเก็บเอาไว้ตั้งแต่เค้ามองดูเธออย่างเหยียด หยาม และพูดเหมือนเธอเป็นผู้หญิงไร้ค่าทำให้ขอบตา ของเธอร้อนผ่าวน้ำตาที่พยายามเก็บเอาไว้ไม่สามารถเก็บเอา ไว้ได้อีก
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เคียงข้างเธอดูตกใจ เมื่อได้ยินคำพูดจาก ปากพี่ชายแท้ๆของเค้า
แต่ก็ไม่เท่ากับผู้หญิงที่นั่งตัวสั่น อยู่ข้างๆเค้าในตอนนี้
ริมฝีปากบางเม้มสนิทเข้าหากัน ขอบตาแดงกล่ำ
"พี่กำลังพูดจาดูถูกคนรักของผม ริซไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมจะ เอาไว้ควงเล่นแบบที่พี่ทำ เธอเป็นคนที่ผมรักเป็นคนที่ผมจะ สร้างครอบครัวด้วยกัน "
ชายหนุ่มพูดเสียงหนักแน่นสองมือโอบกอดคนรักหวังจะ ช่วยให้เธอรู้ว่ายังมีเค้าอยู่กับเธอ
"โยฮา อัมฬะห์ รู้ตัวหรือเปล่า ว่ากำลังทำอะไรอยู่ นาย ทำ ตัว ไม่เหมาะสม...กับฉัน "
แค่ผู้หญิงคนเดียวทำให้น้องชายที่เคยเชื่อฟังกล้าขัดคำสั่ง ของ เค้าความรักทำให้คนตาบอด
" น้ำตาของเธอไมได้ช่วยให้ฉันรู้สึกเห็นใจเธอหรอกน่ะ คุณรัชวรรณไปรษยากุล นางแบบวงการไฮโซ เธอต้องการเท่า ไหร่ ฉันจะจ่ายให้.... แล้ว ไปให้พ้นจากน้องชายฉัน
" ร่างกายที่สั่นเทิ้มของคนรักทำให้เธอตกใจ และรู้ว่าเค้า กำลังโกรธโดยมีตัวเธอเป็นสาเหตุของการโต้เถียงในครั้งนี้ แต่แทนที่เธอจะกลัวคนรักของเธอกลับเป็นชายอีกคนที่ยืนห่าง ออกไป
เธอรู้ถึงความกลัวที่เค้าส่งผ่านทางสายตาท่าทางที่สงบนิ่ง ของเค้าทำให้เธอรู้ว่าควรอยู่ห่างจากผู้ชายคนนั้น
"เรากลับกันเถอะค่ะ "
เธอพูดพร้อมกับดึงแขนชายคนรักก่อนที่เหตุการณ์ จะแย่ลงไปกว่านี้เธอจึงกล่าวลาพี่ชายคนรักถึงจะไม่เต็มใจนัก
แต่สายตาของเค้ากำลังตำหนิว่าเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องชาย ของเค้าเปลี่ยนไป
.
ความคิดเห็น