ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เก็บรัก- พยุงหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #2 : อดีต

    • อัปเดตล่าสุด 12 ม.ค. 51


    ----- เรื่องของเธอกับเค้า เริ่มขึ้นเมื่อเธอได้ทุนมา เรียนทางด้านแฟชั่นที่อิตาลี ชายหนุ่มเป็นรุ่นพี่ของ เธอ 4 ปี เค้ามา เรียนต่อโท และตอนนั้นเธอเรียนอยู่แค่ปี 1 ชายหนุ่มเป็นรุ่นพี่ต่างคณะการหาข้อมูลในห้อง สมุดทำให้เธอสนิทกับเค้า
    เพราะชายหนุ่มเป็นคน อบอุ่น มีน้ำใจ และไม่ เคยมีท่าทางกรุ่มกริ่ม เหมือนชายหนุ่มคนอื่นๆ ทำให้เธอคุยด้วยสนิทใจ

    ความสัมพันธ์ที่ดีเริ่ม ก่อตัวขึ้น แต่ชายหนุ่ม ก็ยังคงท่าทีเหมือนเดิม จนเธอเองที่เป็นฝ่ายร้อนใจ อยากให้เค้าพูด อะไรที่พิเศษกับเธอบ้าง แต่เค้าก็ยังคงท่าทีนิ่ง      เฉยกับเธอมาตลอด ถ้าวันหนึ่งเค้าไม่ลืมไดอารี่     ของตนไว้ก่อนออกจากห้องสมุดเธอก็
     คงไม่รู้เลยว่าเค้าคิดยังไงกับเธอ
     
    มันอาจเป็นการเสียมารยาทที่เธออ่านไดอารี่ ของเค้า แต่เธอก็ดีใจที่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่เค้ามีให้กับเธอ

    และเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน    เพราะความที่เค้ากลัวว่า จะไม่ได้พูดคุยและพบเจอกันเหมือนเก่าทำให้ชายหนุ่มไม่กล้าพูดความในใจ     เธอยังจำหน้าตาของเค้าได้     ตอนที่เธอนำไดอารี่ไปคืนเค้าดูตกใจไม่น้อยที่เธอเป็นคนเก็บมันเอาไว้      แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไร      วันนั้นเค้าไม่ได้เข้าห้องสมุดเหมือนเคย
     เธอภาวนาให้เค้าเปิดไดอารี่หน้าสุดท้าย เพราะมีข้อความที่เธอ เป็นคนเขียน และ อยากให้เค้าอ่านข้อความที่ เธอสื่อให้เค้ารู้

    ้ [ความรู้สึกที่เหมือนกัน เพียงแค่รอวันที่เธอนั้นจะ บอก ] ---ริซ-

    -- ไม่รู้ว่าเธอทำไปได้ยังไง          ทั้งที่ตัวเองเป็นผู้หญิง แต่กลับบอกความในใจกับผู้ชายก่อน

    --เช้าวันใหม่ในขณะที่เธอเตรียมตัวออกจาก ห้องพักก็ต้องตกใจ
     เพราะคนที่เธอคิดว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้ยืนอยู่หน้า ประตูห้องของเธอในมือของเค้าถือไดอารี่อยู่
    ท่าทางที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวของเค้าดูสั่นๆอยู่ในที
    ต่างคนต่างสบตากัน แล้วเธอก็ต้องเป็นฝ่ายเอ่ย ถามเค้าก่อน

    "พี่โยฮามีธุระอะไรกับริซ หรือเปล่าค่ะ "

     ถึงแม้ว่าเธอพอจะรู้จุด ประสงค์ที่เค้ามาหาเธอแต่เช้า      แต่เธอก็อดใจเต้นแรงไมได้


    "เอ่อ _ริซครับพี่ เอ่อ...."


    น้ำเสียงที่เปล่งออกมา นั้นตะกุกตะกักท่าทาง เค้าดูจะตื่นเต้นมากกว่าเธอซะอีก       ขณะที่เธอกำลังคิดว่า เธอต้องเป็นคนเริ่มอีกแล้วหรือเปล่าเธอก็ได้ยิน เสียงของเค้าพูดออกมาซะ ที

    " ริซครับพี่ขอคุยกับริซสักครู่ได้มั้ย "

     
    ชายหนุ่มได้แต่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตากับเธอ
     
    ทำไมเค้ารู้สึกว่าเวลาอยู่ต่อหน้ารุ่นน้องคนนี้ ใจของเค้ามันเต้นแรงมือไม้สั่น      ทั้งๆที่เตรียมตัวมาพูดกับเธอให้รู้เรื่อง แต่พอมาอยู่แค่หน้าห้องเค้าก็ทำอะไรไม่ถูก      แม้แต่ประตูยังไม่กล้าเคาะจนเธอเปิดมาเจอนั้นและ
    หลังจากที่ได้อ่านไดอารี่ ของตัวเองเค้าก็ดีใจมากที่พบข้อความที่ไม่ใช่ของเค้า     และมั่นใจว่าเป็นลายมือของเธอทั้งๆที่ รู้ว่าตัวเองพอมีความหวังแต่พอได้พบกับสั่นไปทั้งตัว
     
    "เชิญพี่โยฮาในห้องก่อนมั้ยค่ะ "
     
    ริซพูดพร้อมกับเปิดประตูให้ชายหนุ่ม    สามารถเดินเข้ามาในห้องได้
     
    " ไม่ดีกว่าครับ... .....เราไปคุย กันด้านล่างดีกว่าครับ  "


     ถึงแม้ว่าเค้าจะบริสุทธิ์ใจกับเธอ    แต่ยังไงก็คงไม่ดีแน่ถ้าคนอื่นมาเห็นว่าเค้าอยู่ในห้องกับเธอ 2 ต่อ 2
     
    ทั้งสองเดินลงมาด้าน ล่างของหอพักด้านล่าง   จะมีที่สำหรับให้คนที่มาพบนั่งคอยอยู่ด้านล่าง

    ชายหนุ่มเลือกมุมสุดด้านในที่ไม่มีคนเดินผ่าน      เพื่อที่เค้าจะได้คุยกับเธอได้สะดวก
    "  ริซทานอาหารเช้าหรือ ยังครับพี่มารบกวนแต่เช้า  "

     เค้าพยายามบังคับ เสียงของเค้าให้คงที่มากที่สุด

    " เรียบร้อยแล้วค่ะว่าแต่พึ่โยฮาละค่ะ    ทานอะไรมาบ้างหรือยังค่ะ "

    เธอคิดว่าเค้าคงมารอเธอซักพักแล้ว     แต่เค้าคงไม่กล้าเรียกเธอ

    "  พี่อิ่มแล้วครับ เอ่อ...... ตั้งแต่ที่พี่อ่านไดอารี่  "


     หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเค้าตอนนี้หน้าของ เธอดูแดงระเรื่อขึ้น ดวงตา สีน้ำตาลบวกกับขนตา ยาวงอนริมฝีปากอิ่มสีชมพู ถูกทาด้วยลิปกรอส

    ตั้งแต่ครั้งแรกที่เค้าเห็น เธอเธอก็ทำให้เค้าตกหลุม รักตั้งแต่แรกเจอแต่ผู้ชายหน้าตาธรรมดาอย่างเค้าผู้หญิงสวยๆ อย่างริซคงไม่สนใจผู้ชาย แบบเค้าหรอกความรู้สึกที่บอกใครไม่ได้     ถูกถ่ายทอดลงบนสมุดเล่มเล็กที่เค้าสามารถพกติดตัวไปได้ตลอด

    " ริซครับคือพี่ไม่แน่ใจ........ว่าในไดอารี่ของพีมีข้อ ความที่เขียนอยู่ จะใช่ลายมือของริซหรือเปล่า    ริซช่วยดูให้พี่หน่อยได้มั้ยครับ "

    พูดจบชายหนุ่มก็ยื่น ไดอารี่เล่มเล็กให้กับเธอ ริซจำเป็นที่จะต้องรับไดอารี่ของเค้ามาเปิดอ่าน
    แต่ในใจของเธอกลับต่อว่าเค้าในใจแหมจะไม่ให้ โกรธได้ยังไง ไม่รู้จะซื่อบื้อไปถึงไหนอุตส่าห์เรียนตั้งปริญญาโทแล้ว ยังทำไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียน    ตัวเองเป็นผู้ชายแท้ ๆ ยังไม่กล้าบอกรักเธอก่อนเลย
     
    อย่างงี้ต้องแกล้งซะให้เข็ด
     
    "พี่โยฮาหมายถึง ประโยคสุดท้ายนี่หรือเปล่า ค่ะ ตายจริงริซต้องขอโทษ ด้วยไม่รู้ว่าเวลล์มาเขียน เล่นหรือเปล่า ต้องขอโทษ พี่โยฮาจริงๆเลยนะค่ะ "
     
    เธอทำท่าทีตกใจทันทีที่อ่านไดอารี่จบ   แต่การแกล้งของเธอครั้งนี้      ทำให้ชายหนุ่มถึงกับหน้าถอดสีจากที่ขาวอยู่แล้ว กลับซีดเข้าไปใหญ่      แต่เธอก็ยังเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก

    " พี่โยฮาคงไม่คิดว่าริซเป็น คนเขียนหรอกนะค่ ะ "


    ใจจริงเธอก็อยากจะ แกล้งเค้าต่อ แต่พอเห็นสายตาที่หม่นลง
    สีหน้าที่ขาวเหมือนไม่มีเลือดมาสูบฉีด    เธอก็อดใจอ่อนไม่ได้ แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ย อะไรออกไปเสียงของชาย หนุ่มก็ดังขึ้น

    " พี่ต้องขอโทษนะครับที่มารบกวนแต่เช้า    เพราะความไม่รู้ตัวเองของพี่ถ้างั้นพี่คงต้องขอตัว  "

    ชายหนุ่มรีบลุกจากเก้าอี้  ที่เค้านั่งถึงแม้ว่าเมื่อก่อนเค้าจะทำใจยอมรับ ความผิดหวังที่คิดว่าไม่อาจ เกิดขึ้นได้ระหว่างรุ่นน้อง คนนี้ได้ก็ขอแค่ได้เฝ้ามองดูอยู่ห่างๆก็พอ     แต่ข้อความในไดอารี่ ทำให้เค้าไม่ได้ทำใจที่จะ มาพบกับความผิดหวังใน ครั้งนี้
     
    " พี่โยฮาค่ะริซไม่ได้ชอบพี่อย่างที่คนอื่นๆคิดนะ ค่ะ

     

    หญิงสาวรีบพูดกับเค้า    ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินจากไป


     "ครับ "


     ชายหนุ่มรับคำสั้นๆ โดยไม่ได้หันหน้ามามอง เธอด้วยซ้ำ


    " แต่ริซรักพี่โยฮานะค่ะ "


     ในที่สุดเธอก็ต้องเป็นฝ่าย บอกรักเค้าก่อน ไม่รู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอมีแต่คนมาบอกรัก แต่กับคนที่ตัวเองรัก เค้ากับไม่กล้าบอกเธอ
     
    ครับพี่รู้ว่าริซหมายความว่ายังไง "
     เค้าพูดโดยไม่กล้าแม้ กระทั่งหันกลับมามองหน้า ของหญิงสาวที่บอกว่ารักเค้า ยังไงเธอก็คงรักเค้า อย่างรุ่นพี่คนหนึ่งเท่านั้น

    เธอถึงกับร่ำร้องในใจว่า ทำไมเค้าถึงเข้าใจอะไรยากนัก  ทำไมริซถึงรักพี่ได้เนี่ย


    " อย่าเพิ่งไปค่ะ  "


     หญิงสาวรีบเดินมาหยุด อยู่ตรงหน้าชายหนุ่มดูท่า เค้าคงตกใจอยู่ไม่น้อยที่ อยู่ๆเธอก็มายืนขวางหน้าเค้าเอาไว้
     
    " มองหน้าริซซิค่ะ พี่รู้ตัวบ้างมั้ยว่าพี่กำลังทำให้ริซลำบากใจมากแค่ไหน    พูดมาซิค่ะ   ความรู้สึก ของพี่   ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าพี่ตอนนี้ พี่คิดยังไงกับเธอ "

    ดวงตาสีฟ้าใสที่ตอนนี้ คงรู้สึกสับสนไม่มีความมั่นใจ ถูกถ่ายทอดออกมา ให้เธอได้รับรู้ 

    โธ่เธอไม่น่าไปแกล้งเค้าเลย เหมือนเวลาผ่านไปหลาย นาทีชายหนุ่มจึงเอื้อนเอ่ย คำพูดออกมาจากปากได้

    " พี่รู้ตัวดีมาตลอด    ว่าพี่ไม่มีอะไรหมาะสมกับริซซักอย่าง แต่พี่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ให้รักริซไม่ได้     มันมากขึ้นเรื่อยๆและมัน คงไม่ลดลง พี่ดีใจนะครับที่ริซให้ โอกาสพี่ได้พูดความรู้สึก ของพี่ แต่เรายังเป็นเหมือนเดิมได้มั้ยครับ      พี่สัญญาว่าพี่จะเป็นพี่ชายที่ดีเหมือนเดิม แต่ริซอย่าโกรธพี่ได้มั้ย"
     
    วันนี้เป็นวันที่เค้าสบายใจ มากที่สุดที่ได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจที่เก็บไว้เป็นปี      ตลอดเวลาที่คอยเฝ้า มองดูเธอมันเป็นความสุข ของเค้า แต่การเปิดใจวันนี้อาจ ทำให้เธอไม่ยอมพูดกับเค้า อีกก็เป็นได้ และมันคง จะเจ็บกว่าการถูกปฎิเสธ ความรัก

     

     

    เฮ้อ........นี่ถ้าเธอไม่พูดกับเค้าให้รู้เรื่องคงต้องเข้าใจกันไปคนละ อย่าง แน่ ๆ

    " พี่โยฮาค่ะยื่นมือซ้าย มาหน่อยค่ะ  "


     ชายหนุ่มยืนงงอยู่กับคำพูดของเธอ ที่ตอนนี้     จับมือของเค้า และสวมแหวนทองวงเล็กที่นิ้วนางของเค้า

    " ริซหมั้นพี่โยฮาไว้แล้วนะค่ะ     ห้ามไปบอกรักสาวคนไหนอีกนะ


     “  ริซหวง    แล้วเดี๋ยวริซจะไปทำวงใหญ่กว่านี้มาแทน  จะได้เปลี่ยนมาเป็นนิ้วนาง  


    เธออดขำหน้าตาของเค้าไม่ได้ก็ดูซิตอนนี้      หน้าเค้าเหมือน คนช้อคไปเลย
     
    " ริซครับ นี่มัน........"


     ชายหนุ่มถึงกับพูดไม่ออกกับการกระทำของเธอ
    ใจที่เหมือนจะหยุดเต้นตั้งแต่เมื่อกี้    กลับเต้นแรงกว่าเดิมจะให้ เค้าคิดเข้าข้างตัวเองดีมั้ยว่าเธอคนที่เค้ารักกำลังหมั้นเค้าเอาไว้     ก่อนแถมยังถอดแหวนที่เห็นเธอใส่ติดนิ้วมาตลอดมาสวมที่นิ้วนางของเค้า


    " ริซไม่แกล้งพี่แล้วค่ะ       ริซรักพี่โยฮาแบบที่ผู้หญิงคนหนึ่ง อยากจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนหนึ่ง    เพื่อให้เค้าเป็นคนดูแลริซกับลูก     พี่โยฮาจะดูแลริซได้หรือเปล่าค่ะ    ริซทานไม่เปลือง หรอกค่ะ     เลี้ยงง่ายด้วยนะค่ะ "
     หวังว่าคราวนี้เธอคงไม่พูดอะไรที่ทำให้ชายหนุ่มเข้าใจผิดอีก นะ
     
    เธอแทบทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นหน้าตาเศร้าสร้อย
     ในดวงตาสีฟ้าคู่นั้น     นานหลายนาทีกว่าชายหนุ่มจะเข้าใจใน สิ่งที่ได้ยิน      
    เค้าไม่อยากเชื่อว่าคนที่เค้าเฝ้าดู    และห่วงใยมาตลอดเวลา
     คนที่หัวใจร่ำร้องเรียกหา     อยากให้มาอยู่เคียงกัน
    คนที่อยู่ไกล้กัน แค่เพียงมือคว้า   แต่เหมือนไกลจนเค้าไปไม่ ถึงตัวเธอ
     ตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าเค้า     เพียงแค่เค้าเอื้อมมือเท่านั้นเธอก็ จะไม่ไปไหน    อย่างที่เธอกำลังยืนยัน    ว่าเธอรักเค้า

     

     " ริซพูดจริง ๆใช่มั้ยครับ     บอกพี่อีกทีได้มั้ยว่าริซให้พี่เป็นผู้ชายคนนั้น  "

     
    รอยยิ้มที่เปิดเผยกับอาการดีใจ    ที่ไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้ทำ ให้เธอโล่งใจที่ความรักของเธอคลี่คลายซักที
     
    " จริงค่ะ    แล้วถ้าพี่ไม่แน่ใจริซบอกพี่ทุกวันก็ได้นะค่ะ  

    และนั้นเป็นการเริ่มต้นความรักระหว่างเธอกับคนรักความรักของคน 2คน    
    ที่รักและเข้าใจกันมากขึ้นตามวันเวลา แต่อุปสรรคก็มีเข้ามาเรื่อย ๆถึงแม้ว่าเธอจะมั่นคงในความรักที่มีให้เค้า


     แต่ตัวชายหนุ่มเองชอบคิดแต่ว่าเค้าไม่เหมาะสมกับเธอ
     ถึงแม้เค้าจะไม่พูดออกมาเธอก็ทนเห็นเค้าคิดไปมากกว่านี้ไม่ ไหว
         
    เลยตกลงกันว่าจะหมั้นกันไว้ก่อน รอเธอเรียนจบจึงค่อยแต่ง
     ----- แต่อุปสรรคทีเค้าและเธอไม่สามารถฝ่าฟันกันไปได้
    และงานนี้คงต้องมีคนช่วย    และต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้
    เธอจึงเลือกที่จะให้รัณช่วย

                             --------------------

     " ริซจ้องมองพี่ทำไมครับ    หน้าของพี่มีอะไรแปลกไป หรือเปล่า  "
     
    ชายหนุ่มเอ่ยถามเพราะ    ตั้งแต่เค้าเห็นเธอเดินเข้ามาและนั่งเงียบไปพักใหญ่หญิงสาวถึงกับสดุ้งกับเสียงร้องทักของคนรัก

    "ขอโทษค่ะ     ริซคิดอะไรเพลินไปหน่อย "
     เค้าเองก็พอจะรู้ถึงความหนักใจของเธอ

    " อย่าคิดมากนะค่ะ    มีอะไรกลุ้มใจขอให้พี่ได้รับฟังปัญหานั้น ด้วยอย่าให้พี่ต้องเห็นริซกังวลอยู่คนเดียว "

     
    "พี่โยฮาค่ะ      ริซไม่สบายใจริซทำให้เพื่อนลำบาก เพราะเรื่อง ของเราหรือเปล่าค่ะ  "
     
    ความกังวลที่เธอดึงให้รัณต้องเข้ามามีสวนร่วมในแผนการ
    ที่เธอเป็นคนคิดทำให้เธอเป็นห่วงเพื่อน    เพราะสิ่งที่เธอจะให้รัณช่วยมันอาจ อันตราย
     
    โดยเฉพาะกับผู้ชายคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่า ชีคยาซัส    อัมฬะห์-

    ริซครับพี่ว่าเรื่องนี้เราน่าจะบอก กับรัณและถามความเห็นของ เธอให้เธอเต็มใจในสิ่งที่จะต้องทำดีกว่า " 

              ตอนแรกเค้าไม่เห็นด้วยกับความคิดของเธอ    แต่ก็ไม่ อยากขัดใจเพราะสาเหตุทั้งหมดมันเกิดจากเค้าเอง

    " ค่ะ    ริซก็ว่าจะดูความสมัครใจของรัณดีกว่า  ริซรู้สึกไม่สบายใจ เลยถ้าเรื่องของเราจะทำให้เพื่อนต้องเดือดร้อน "

    ดวงหน้าขาวนวลกับแลดูซีดอย่างเห็นได้ชัด    เมื่อเธอคิดถึง ชายหนุ่มคนที่ทำให้เธอต้องมานั่งกลุ้มใจขนาดนี้
     
    แม้จะเป็นเพียงแค่ครั้งเดียวที่เธอได้พบกับเค้าในฐานะคนรัก ของน้องชายคนเดียวของชีคยาซัส


           เธอจำวันนั้นได้ดี    โยฮาพาเธอไปแนะนำให้พี่ชายของเค้า ได้รู้จัก     และบอกเรื่องงานหมั้นที่เธอและเค้าตกลงใจจะหมั้น กัน 

         ช่วงนั้นชีคยาซัสต้องบินมาทำธุรกิจที่อิตาลี   เธอไม่เคยรู้ว่าคนรักมีฐานะทางครอบครัวเป็นยังไง  รู้เพียงเเค่ว่าชายหนุ่มช่วยพี่ชายของเค้าดูเเลกิจการในเเถบยุโรป

          เป็นบางเวลาที่พี่ชายของเค้าไม่สามารถมาได้ด้วยตนเองเพราะกิจการที่มากมาย   
       ชายหนุ่มจึงตั้งใจเรียนให้จบ   เพื่อจะได้ไปช่วยงานของครอบครัวได้อย่างเต็มตัว  จะได้ช่วยเเบ่งเบาภาระได้บ้าง
         

     ครั้งแรกของการพบหน้าโยฮามักจะพูดถึงพี่ชายของเค้า เสมอ        จนเธอพอจะรู้ถึงรูปร่างหน้าตา   และนิสัยที่ค่อนข้างดุจนทำ ให้คนรักของเธอ    ทั้งกลัวและเกรงใจพี่ชายของเค้ามาก

    จากการบอกเล่าผู้ชายคนนี้ต้องเรียกได้ว่าเพอร์เฟ็ค แต่นั้นเป็น แค่การบอกเล่า
     
    แต่การพบกันครั้งแรก ก็ทำให้เธออดกลัวไม่ได้

    --วันนั้นเธอแต่งตัวเรียบร้อย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชีคหนุ่ม ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับน้องชายของเค้า
     
    เพราะบางทีเค้าอาจจะมองเธอแค่ภายนอก
    เพราะบางครั้งเธอก็ต้องเป็นนางแบบจำเป็นให้กับทางบริษัท ฯ ที่เธอไปฝึกงานด้วย
    และคำว่านางแบบสำหรับเธอแล้วมันเป็นเหมือน แวดวงมายา
     
    ที่ไม่น่าเข้าไปคลุกคลีด้วยแต่ด้วยรูปร่างหน้าตา และวิชาชีพที่ เธอรักมันไม่อาจหลีกหนีได้      และเธอคิดว่าคนที่ทำธุรกิจใหญ่ โตขนาดพี่ชายของคนรักคงไม่มองคนเพียงแค่ภายนอก



    แต่ความจริงทุกอย่างที่เธอคิดกลับตรงกันข้ามหมดทุกอย่าง -



          โรงแรมใหญ่ระดับห้าดาวการตกแต่งที่หรูหรา     ถึงแม้ว่า เธอ จะเคยเข้าออกโรงแรมมาหลายที่หลายประเทศ
     
    แต่เธอก็ไม่เคยเห็นห้องที่ใช้ต้อนรับแขกระดับชาติมาก่อน
     การจะเข้าไปพบบุรุษคนสำคัญไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
     ทางเดินที่แยกออกจากลูกค้าทั่วไปที่มีฐานะไม่ธรรมดาแล้ว เธอก็พบว่าตามทางเดินมีชายฉกรรจ์   รูปร่างบึกบึนยืนอยู่ตาม จุดต่างๆ      เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้าคนสำคัญ   ลิฟท์ตัวใหญ่ถูกเปิดออก    ณ.ชั้นบนสุดของโรงแรม


           โยฮาจูงมือหญิงสาว   และเดินนำหน้าไปยังประตูบานใหญ่ ที่มีบุรุษสองนายยืนเฝ้าประตูอยู่
    พร้อมเปิดให้ชายหนุ่ม    และเธอเดินเข้าไปภายในห้องโถงใหญ่ มีเครื่องใช้อำนวยความสะดวกครบครัน
     
     โซฟาตัวยาว TV จอยักษ์ ตั้งเด่นอยู่มุมห้องด้านหนึ่งพรหมปูพื้นชั้นดี     กระจกบานใหญ่กินเนื้อที่เกือบครึ่งห้อง เพดานที่เป็นเหมือนโดม    ทำให้เห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนและวิว ของกรุงโรมในตอนกลางคืนทุกอย่างบอกถึงราคาของตัวมันเอง

                -บุรุษที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอใช้คำว่าเพอร์เฟ็คไม่ได้เลย ความสูงที่มากกว่าบุรุษทั่วไปผิวขาวที่ดูคร้ามแดด ผมที่ดำสนิท ยาวระต้นคอ  คิ้วดกหนาได้รูป   จมูกโด่งเป็นสัน    ริมฝีปากบาง แต่เหยียดตรง     น่าแปลกดวงตาของเค้าเป็นสีม่วง
     
    ถ้าเธอไม่ได้ตาฝาดไป     ถ้าจะให้เธอเปรียบเค้าเปรียบเหมือนเทพบุตรในฝันของสาวๆทั่วโลก
    ที่อยู่ในโลกของความฝันแต่คนที่เธอพบไม่ใช่ เทพบุตร ที่มีอยู่แต่ในจินตนาการ ผู้ชายคนนี้มีตัวตนมีชีวิต
    และกำลังยืนมองดูเธออยู่

        โยฮาสกิดให้เธอรู้สึกตัวหลังจาก ที่เห็นเธอยืนนิ่งไปพักใหญ่ เค้าแนะนำให้เธอรู้จักกับพี่ชายของตน
    และพูดเรื่องการหมั้นหมาย โดยที่ชีคยาซัสไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำ พูดใดๆ
    เป็นเวลานานหลายนาทีที่คนรักของเธอเล่าเรื่องของเธอ และเค้าให้กับพี่ชายได้ฟัง
    ตลอดเวลาที่เธอนั่งฟังชายหนุ่ม   เธอก็รับรู้ได้ถึงสายตาที่จับ จ้องมองดูเธอไล่ตั้งแต่ช่วงหน้าไปจนถึงปลายเท้า
     
          มุมปากที่เหยียดตรงของ    ชีคกระตุกขึ้นเล็กน้อยคงไม่มีใครไม่เข้าใจปฎิกิริยาแบบนี้ 
         
      เค้ากำลังดูถูกเธอทั้งๆที่ยังไม่เคยพูดจากันเลยซักครั้งมันทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง   และต้องบังคับตัวเองไม่ให้ แสดงความไม่พอใจออกไป


             "ฉันไม่อนุญาตให้แกหมั้นกับผู้หญิงคนนี้     แต่ถ้าแกจะคบ กับหล่อนแก้เหงาฉันก็ไม่ว่าอะไร "
    น้ำเสียงที่เรียบเฉยและคำพูดของบุรุษที่เธอคิดว่าเค้าเป็นผู้ใหญ่ เป็นนักธุรกิจ      เป็นเทพบุตรมันทำให้หัวใจเธอแทบหยุดเต้น

    เธอไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำพูดที่ดูถูกเธอได้ถึงขนาดนี้
    ความรู้สึกที่พยายามเก็บเอาไว้ตั้งแต่เค้ามองดูเธออย่างเหยียด หยาม        และพูดเหมือนเธอเป็นผู้หญิงไร้ค่าทำให้ขอบตา ของเธอร้อนผ่าวน้ำตาที่พยายามเก็บเอาไว้ไม่สามารถเก็บเอา ไว้ได้อีก
     
         ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เคียงข้างเธอดูตกใจ     เมื่อได้ยินคำพูดจาก ปากพี่ชายแท้ๆของเค้า
         แต่ก็ไม่เท่ากับผู้หญิงที่นั่งตัวสั่น    อยู่ข้างๆเค้าในตอนนี้
    ริมฝีปากบางเม้มสนิทเข้าหากัน     ขอบตาแดงกล่ำ


            "พี่กำลังพูดจาดูถูกคนรักของผม   ริซไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมจะ เอาไว้ควงเล่นแบบที่พี่ทำ     เธอเป็นคนที่ผมรักเป็นคนที่ผมจะ สร้างครอบครัวด้วยกัน "


         ชายหนุ่มพูดเสียงหนักแน่นสองมือโอบกอดคนรักหวังจะ ช่วยให้เธอรู้ว่ายังมีเค้าอยู่กับเธอ
    "โยฮา     อัมฬะห์    รู้ตัวหรือเปล่า    ว่ากำลังทำอะไรอยู่ นาย    ทำ   ตัว   ไม่เหมาะสม...กับฉัน "

    แค่ผู้หญิงคนเดียวทำให้น้องชายที่เคยเชื่อฟังกล้าขัดคำสั่ง ของ เค้าความรักทำให้คนตาบอด 
           
       " น้ำตาของเธอไมได้ช่วยให้ฉันรู้สึกเห็นใจเธอหรอกน่ะ   คุณรัชวรรณไปรษยากุล นางแบบวงการไฮโซ เธอต้องการเท่า ไหร่  ฉันจะจ่ายให้.... แล้ว ไปให้พ้นจากน้องชายฉัน


         " ร่างกายที่สั่นเทิ้มของคนรักทำให้เธอตกใจ   และรู้ว่าเค้า กำลังโกรธโดยมีตัวเธอเป็นสาเหตุของการโต้เถียงในครั้งนี้    แต่แทนที่เธอจะกลัวคนรักของเธอกลับเป็นชายอีกคนที่ยืนห่าง ออกไป
        เธอรู้ถึงความกลัวที่เค้าส่งผ่านทางสายตาท่าทางที่สงบนิ่ง ของเค้าทำให้เธอรู้ว่าควรอยู่ห่างจากผู้ชายคนนั้น

    "เรากลับกันเถอะค่ะ "


    เธอพูดพร้อมกับดึงแขนชายคนรักก่อนที่เหตุการณ์ จะแย่ลงไปกว่านี้เธอจึงกล่าวลาพี่ชายคนรักถึงจะไม่เต็มใจนัก
    แต่สายตาของเค้ากำลังตำหนิว่าเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องชาย ของเค้าเปลี่ยนไป


     ……………………………….



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×