ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Non-stop Love หยุดไม่ได้หากหัวใจอยากจะรัก ::Chap.5
Non-stop Love หยุดไม่ได้หากหัวใจอยากจะรัก
“กลับมาทำไม? ที่นี้ไม่ตอนรับคนแบบพี่! ไปให้พ้น! ”ฮยอนซึงตะวาดลั่นก่อนจะออกแรงผลักคนที่นั่งข้างๆอย่างจงเกียดจงชั่ง
“พี่ทำอย่างนี้ทำไมฮะ?ฮึก ผมเป็นน้องพี่นะ ฮึก ปล่อยผมเถอะ ฮือ....ผมกลัวแล้ว....ฮึก...ฮือ”ฮยอนซึงยังคงร้องไห้อย่างไม่หยุดยั้ง คนนั้นกำลังทำเรื่องแบบนั้นอยู่บนตัวเค้าคือพี่ชายของเค้านะ ถึงเป็นแค่พี่ชายบุญธรรมก็เถอะ เค้าก็รับไม่ได้อยู่ดี
“ฉัน....ฮึก....เจ็บ...เจ็บตรงนี้...ฮึก..จุนฮยอง...ฮือออออ”เควินพูดทั้งน้ำตาพลางใช้นิ้วชี้ไปตรงอกข้างซ้าย ที่เจ็บไม่ได้หมาบถึงกายหรอกแต่หมายถึงใจมากกว่า
.......นายไม่บอกว่ามันเป็นใคร แล้วฉันจะช่วยนายยังไงล่ะเควิน......
“ท่าทางจะรีบมากซินะ....ฮึ!...ของที่แย่งเค้ามาคงอร่อยมากใช่มั้ย?”จุนฮยองเอ่ยถามอย่างไม่ยี่ระ แต่คนฟังคำถามถึงกับงงกับคำถามเมื่อครู่
คิม ยองคยอง หรือ ยูเมะ อดีตสมาชิกวงXing ค่ะ (จำกันได้หรือป่าว)
เค้ามารับบทเป็นพี่ชายแสนเลวของฮยอนซึงค่ะ (ถึงจะเลวในสายฮยอนซึงแต่เป็นที่รักของไรเตอร์นะค่ะ คึคึ)
เอ็นจอยรีดดิ้งค์ค่ะ
- อัพอีกตอน ! เออ...คือตอนหน้าเอ็นซีแน่นอนค่ะ
รอติดตามนะค่ะ
ขอเม้นเพื่อเป็นกำลังใจนะค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนะค่ะ รักคนอ่านทุกคน <3
Writer : Bonnie’z
Chapter : 5
.........................................................................
....................................................................................................................
..........................................................................
ณ บ้านตระกูลจาง
เมื่อรถบ้านตระกลูซนมาส่งที่บ้านหลังจากเลิกโรงเรียน ร่างบางที่พอลงจากรถก็รีบเข้าบ้านทันที วันนี้อารมณ์ขุ่นมัวผิดปกติ สาเหตุน่ะหรอก็เรื่องจูบเมื่อกลางวันไง เป็นจูบแรกแถมยังต้องเสียให้อัธพาลอีก
“ไปเรียนโรงเรียนใหม่เป็นไงบ้างค่ะคุณหนู?”บงซอนแม่นมของคุณหนูจางเอ่ยถามอย่างเอ็นดู ขณะเอาของว่ามาให้ฮยอนซึงที่นั่งหน้าหงิกอยู่ที่โซฟา
“มันไม่ดีเลยครับ มันแย่มาก! เพราะแม่คนเดียว”ฮยอนซึงตอบคำถามด้วยน้ำเสียงงอแง้ เหมือนเด็กน้อยที่เวลาไม่ได้อะไรดั่งใจ
“โอ๋
คุณหนูของป้า ถ้ามันแย่มากจริงๆพอคุณหญิงกลับมา คุณหนูก็บอกคุณหญิงซิค่ะ”บงซอนโอบกอดฮยอนซึงเพื่อเป็นการโอ๋ แม้ว่าคนอื่นจะมองว่าฮยอนซึงนั้นเป็นคุณหนูผู้หยิ่งยโสแต่กับคนในบ้านนี้แล้ว ฮยอนซึงก็คือคุณหนูผู้มีความน่ารักเหมือนเด็กๆ และบอบบางยิ่งกว่าปุยนุ่นเสียอีก
“คุณแม่ไปไหนหรอครับป้า?”ฮยอนซึงเอ่ยด้วยด้วยท่าทางสงสัย ทำไมเค้าไม่รู้ว่าแม่ไปไหนแล้วทำไมแม่ไม่บอกก่อนไปเกิดความสงสัยมากมายสำหรับคนติดแม่แบบฮยอนซึง
“แม่มีธุระที่อเมริกา เป็นธุระสำคัญมาก!”คำตอบที่ได้นั้นไม่ใช่เสียงของบงซอนแต่อย่างใด กลับเป็นเสียงผู้ชายที่ฮยอนซึงไม่คิดอยากจะเจอหน้าเลยซักนิด
“พะ...พี่ยองคยอง!!!”ฮยอนซึงเอ่ยขึ้นอย่างตกใจที่เห็นคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายของเค้า เค้าไม่อยากจะเชื่อตาตัวเองด้วยซ้ำ
“ใช่! ฉันเอง ดีใจที่นายยังจำชื่อฉันได้นะฮยอนซึง”ยองคยองเดินเข้ามานั่งโซฟาตัวเดียวกันกับฮยอนซึงอย่างถือสิทธิ์ บงซอนที่นั่งอยู่จึงขอตัวออกไปเพื่อให้พี่น้องที่ไม่ได้เจอกันนานได้คุยกัน แต่ใครจะรู้ล่ะว่าถ้าปล่อยให้อยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องดีเลย
“กลับมาทำไม? ที่นี้ไม่ตอนรับคนแบบพี่! ไปให้พ้น! ”ฮยอนซึงตะวาดลั่นก่อนจะออกแรงผลักคนที่นั่งข้างๆอย่างจงเกียดจงชั่ง
“ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น เพราะแม่ให้ฉันมาดูแลนายขณะที่แม่ไปทำธุระที่อเมริกา รู้สึกว่าจะไปนานด้วยนะ ฮึ....คืนนั้นไม่สำเร็จ แต่ระหว่างที่แม่ไม่อยู่นายเสร็จฉันแน่ จางฮยอนซึงน้องรัก”ยองคยองเอ่ยเสียงเข้มตอนต้นของประโยคแล้วปรับเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคนตอนท้ายประโยค
“พี่จะทำอะไร? เราเป็นพี่น้องกันนะ”เมื่อได้ยินเรื่องเก่าที่ยองคยองเปรยขึ้นกลับทำให้ความกลัวแล่นสู่หัวใจฮยอนซึง ภาพเก่าๆในวันนั้นมันย้อนกลับมาทำให้เค้ากลัว กลัวจนแทบจะร้องไห้แต่ก็พยายามกลั้นเอาไว้เพื่อไม่ให้ดูอ่อนแอ
“ใช่! แต่ฉันก็แค่พี่บุญธรรมนายเท่านั้นแหละ แม่นายเก็บฉันมาเลี้ยง แล้วไง? เราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดซักหน่อย”เอ่ยขึ้นพลางกระชากฮยอนซึงตัวปิ้วเข้าไปกระแทกอกแกร่งก่อนจะใช้จมูกไล้พวงแก้มใสของฮยอนซึง ฮยอนซึงทำได้แค่กลั้นน้ำตาแห่งความกลัวกับการหันหน้าหนีเท่านั้น
“ถ้านายไม่ดื้อกับฉัน ฉันก็จะยังไม่ปล้ำนายหรอก จำเอาไว้น้องรัก”พูดจบยองคยองก็ฝังจมูกโด่งลงแก้มใสของฮยอนซึงแล้วสูดเอาความหอมไปจนเต็มปอด ก่อนจะลุกเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี นานแล้วที่เค้าไม่ได้สูดเอาความหอมจากพวงแก้มใสของฮยอนซึง นานแล้วนานพอๆกับการที่ฮยอนซึงมองเค้าเป็นพี่ชายที่แสนเลว
ทำไมฮยอนซึงถึงมองเค้าแบบนั้นอ่ะหรอ คงเป็นเพราะเรื่องเมื่อ 2 ปีก่อน เป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้นอกจากฮยอนซึงและตัวเค้าเอง แต่ที่เค้าทำไปทั้งหมดก็เพราะความรัก เค้ารักฮยอนซึงผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชาย เค้ารักมากกว่าน้องชายเค้ารักเกินกว่าจะหยุดใจไหว รักจนอยากจะครอบครองฮยอนซึงไว้แต่เพียงผู้เดียว เพราะความรักจึงทำให้เค้าเผลอพลั้งลงมือทำเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งลงไป.....
2 ปีที่แล้วในคืนที่พายุเข้า ฝนตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา
พรึ่บ!
ร่างบางของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องชายถูกพี่ชายเหวี่ยงลงบนเตียงขนาดคิงไซส์ก่อนที่พี่ชายจะขึ้นคร่อมบนตัวของผู้เป็นน้อง แล้วจากนั้นก็ใช้จมูกโด่งเป็นสันนั้นสูดเอาความหอมจากซอกคอขาวของร่างที่นอนอยู่ข้างล่างอย่างหื่นกระหาย เค้าทนเก็บความรู้สึกที่อยากจะเป็นเจ้าของร่างกายอันบอบบางนั้นไม่ไหวแล้ว จึงตัดสินใจทำในสิ่งที่คนเป็นพี่ไม่ควรทำ
“พี่ยองคยองจะทำอะไรฮะ ปล่อยผมไปนะ ฮึก ใครก็ได้ช่วยผมที!! ฮือออออ”ผู้เป็นน้องร้องไห้โวยวายพลางขัดขืดและดันตัวพี่ชายเค้าออกจากตัวแต่ก็ไม่เป็นผลเลยซักนิด แรงเค้ามันน้อยเกินไปที่จะผลักให้คนที่คร่อมเข้าอยู่ออกได้
“ไม่มีใครมาช่วยนายได้หรอกฮยอนซึง อย่าลืมซิว่าไม่มีใครอยู่บ้านซักคน ถึงอยู่พวกข้างนอกก็ไม่ได้ยินเสียงหรอก ห้องนี้มันเก็บเสียงนะ”ยองคยองพูดพลางยกยิ้มที่มุมปากอย่างผู้ที่อยู่เหนือกว่า จากนั้นก็กระชากเสื้อตัวบางของฮยอนซึงออกเผยให้เห็นผิวขาวเนียนน่าสัมผัส เห็นอย่างนั้นมีหรือที่ยองคยองจะอดใจไว้ เค้าก้มลงซุกไซร้ซอกขาวก่อนจะไล่ลงมาเลื่อยๆ จนถึงแผ่นอกโดยไม่ลืมที่จะขมเม้มให้เกิดรอยจางๆเป็นสัญลักณ์ความเป็นเจ้าของ
“พี่ทำอย่างนี้ทำไมฮะ?ฮึก ผมเป็นน้องพี่นะ ฮึก ปล่อยผมเถอะ ฮือ....ผมกลัวแล้ว....ฮึก...ฮือ”ฮยอนซึงยังคงร้องไห้อย่างไม่หยุดยั้ง คนนั้นกำลังทำเรื่องแบบนั้นอยู่บนตัวเค้าคือพี่ชายของเค้านะ ถึงเป็นแค่พี่ชายบุญธรรมก็เถอะ เค้าก็รับไม่ได้อยู่ดี
“แต่ฉันรักนาย ฉันรักนายมากเกินกว่าที่ฉันจะหยุดใจไว้แล้วฮยอนซึง นายต้องเป็นของฉัน!”ว่าจบยองคยองก็ก้มลงหลอกล้อกับผิวเนียนของฮยอนซึงอย่างบ้าคลั่ง คงเป็นเพราะยองคยองพลาดเองพลาดที่ไม่ได้ล็อกมือเล็กของฮยอนซึงไว้จึงทำให้ฮยอนซึงปัดป่ายไปยังโต๊ะเล็กข้างเตียงก่อนจะคำไปเจอแจกันเซรามิกส์สวยหรู มือเล็กไม่รอช้าจับแจกันนั้นฝาดเข้าที่หัวของคนที่อยู่บนตัวเข้า
แจกันถูกฝาดลงบนหัวอย่างแรงทำให้แจกันแตกพร้อมกับร่างที่คร่อมบนตัวฮยอนซึงล้มลงนอนกับพื้นเตียง ของเหลวสีแดงสดไหลซึมออกมาจากศรีษะยองคยอง เค้านอนเอามือกลุ้มศรีษะไว้เนื่องจากความเจ็บปวด
เมื่อเห็นเช่นนั้นฮยอนซึงไม่รอช้ารีบวิ่งออกจากห้องนั้นและตรงไปยังห้องของผู้เป็นแม่ อย่างน้อยๆก็อยู่ในห้องแม่จนกว่าแม่จะมามันน่าจะปลอดภัยที่สุด เค้าวิ่งหนีไปโดยไม่ลืมหยิบเสื้อที่พื้นมาใส่อย่างลวกๆ วินาทีนี้เค้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแม้แต่พี่ชายที่นอนกลุ้มศรีษะอยู่บนเตรียงก็ตาม เค้ารู้แค่ว่าจะต้องอยู่ห่างจากพี่ชายแสนเลวคนนี้ให้มากที่สุด เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดฮยอนซึงเลือกเก็บเอาไว้เป็นความลับกลัวว่าถ้าบอกแม่ไปมันจะเกิดปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมาย
.
.
.
.
.
.
.
เมื่อร่างบางเดินขึ้นมาบนห้องก็รีบกดโทรศัพท์หาจียงเพื่อนสนิทคนเดียวของเค้า กะว่าจะขอไปอยู่กับจียงจนกว่าแม่จะมาแต่ความหวังนั้นก็ต้องพังทลายเพราะเบอร์ของจียงนั้นไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องในผับวันนั้นเค้าก็ไม่เคยโทรหาจียงติดซักครั้ง และไม่รู้ด้วยว่าจียงเป็นอย่างไงบ้าง
“ฉันจะทำอย่างไงดี?”ฮยอนซึงพูดกับตัวเองพลางย่นคิ้วและทำท่าคุ้นคิดอย่างนัก การอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายคงไม่ปลอดภัยสำหรับเค้าเป็นแน่ เค้าไม่อยากให้มันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกแม้ครั้งนั้นจะรอดมาได้ใช่ว่าถ้าเรื่องขึ้นอีกแล้วจะรอดได้ทุกครั้งไป
ก๊อก! ก๊อก!
เสียงประตูไม้โอ๊คอย่างดีดังขึ้น เรียกความสนใจจากเจ้าของห้องเป็นอย่างดี ฮยอนซึงเดินไปเปิดประตูทันทีที่พบว่าเป็นใครก็แทบจะปิดประตูทันทีแต่รู้สึกว่าจะช้ากว่าผู้เยือน ยองคยองเอือมมือดันประตูไว้
“พี่มีอะไร?”ฮยอนซึงถามเสียงห้วนแต่ในใจก็นึกกลัวอยู่เหมือนกัน เค้ารู้สึกว่าคนตรงหน้าเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดในชีวิตเค้าเลย
“คืนนี้ฉันอยากไปเที่ยว นายต้องไปเป็นเพื่อนฉัน ถ้านายไม่ไปคงรู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเด็กดื้อ ฉันให้เวลานาย 20นาทีแต่งตัว ฉันจะรออยู่ข้างล่าง”จบประโยคก็ทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มร้ายกาจก่อนจะเดินไป
“ฮึ่ย! อะไรนักหนากับชีวิตฉันเนี่ย!!!”ฮยอนซึงตวาดลั่นห้องก่อนจะหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเที่ยวเป็นเพื่อนพี่ชายที่เค้าไม่อยากเข้าใกล้เลยซะนิด
.
.
.
.
ณ ผับหรูในย่านสถานบันเทิง
“นี้เควิน! จะบอกได้หรือยังว่าเป็นอะไร ร้องไห้อยู่นั้นแหละ!”เสียงทุ้มของชายหนุ่มผู้มีใบหน้าอันหล่อเหลาเอ่ยถามเพื่อนสนิทแสนน่ารักที่เอาแต่ร้องไห้กับดื่มเหล้าเหมือนน้ำเปล่าแบบนั้น ตั้งแต่แสนสนิทเค้ากลับมาจากอเมริกาก็ชวนเค้าออกมาดื่มเลยทันทีแถมยังไม่พูดอะไรนอกจากร้องไห้
“ฉัน....ฮึก....เจ็บ...เจ็บตรงนี้...ฮึก..จุนฮยอง...ฮือออออ”เควินพูดทั้งน้ำตาพลางใช้นิ้วชี้ไปตรงอกข้างซ้าย ที่เจ็บไม่ได้หมาบถึงกายหรอกแต่หมายถึงใจมากกว่า
เมื่อพูดจบประโยคก็ยกวอดก้าเข้าปากอีกแก้ว เหล้าอาจเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เค้าลืมความเจ็บปวดที่เค้ากำลังเผชิญอยู่ก็ได้
“เอาล่ะๆ นายลองหยุดร้องไห้แล้วเล่าให้ฉันฟังซิว่าเรื่องมันเป็นมายังไง?”จุนฮยองพูดกับเพื่อนอย่างใจเย็น เค้ารู้สึกเป็นห่วงเพื่อนตัวเล็กคนนี้เหมือนกันเพราะสภาพตอนนี้ดูไม่ได้เลย
“เค้าทิ้งฉัน! เค้าทิ้งฉันกลับมาหาใครก็ไม่รู้ ฮึก....เค้าเห็นฉันเป็นแค่นางบำเรอ....ฮืออ...จุนฮยองนายต้องช่วยฉันนะ...ฮึก...ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่เค้าอ่ะ....ฮือออ”เมื่อจบประโยคเควินก็ร้องไห้ฟุมฟายอย่างนัก เล่นเอาเพื่อนสนิทอย่างจุนฮยองกลุ้มใจกันเลยทีเดียว เค้าไม่รู้จะช่วยเพื่อนตัวเล็กนี้ยังไง ที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้คือดึงเพื่อนตัวเล็กนั้นมากอดเพื่อเป็นการปลอบประโลม
.......นายไม่บอกว่ามันเป็นใคร แล้วฉันจะช่วยนายยังไงล่ะเควิน......
ฮึก.....
สายตาเรียวของเควินพลันไปเห็นคนสองคนที่กำลังจูงมือมานั่งโต๊ะตรงข้ามกับโต๊ะที่เค้านั่งอยู่ คนหนึ่งเป็นคนที่เค้าคุ้นเคยเป็นอย่างดี เป็นคนที่ทำให้เค้าเจ็บปวดทรมานแบบนี้ เป็นคนที่บอกว่าเค้าเป็นนางบำเรอ แต่สายตาก็ไปสะดุดที่อีกคนที่มาด้วยกัน
นี่นะหรอ? คนที่นายทิ้งฉันเพื่อกลับมาหามันอ่ะ ฮึ! คนอย่างฉันไม่ยอมเสียผัวให้ใครง่ายๆหรอก คิดจะทิ้งฉัน คิดผิดแล้วล่ะ คิมยองคยอง! ส่วนนายอีนังหน้าสวยนายจะต้องเจ็บปวดกว่าที่ฉันเป็นอยู่ นายกล้ามากนะที่มาแย่งของๆของฉัน!
เมื่อความเจ็บปวดก่อให้เกิดความแค้น ความคิดชั่วร้ายมันก็แล่นเข้ามาในสมองทันที คนอย่างเควินเห็นน่ารักน่าทะนุทนอมแบบนั้นใครจะรู้ล่ะว่าเวลาเค้าโกรธแค้นอะไรมากๆเค้าน่ะร้ายกาจมากเพียงใด ร้ายๆอย่างเรยายังสู้คุณเธอไม่ได้!
“จุนฮยองนายต้องช่วยฉันนะ!”อยู่ๆเควินก็ผละออกจากกอดของจุนฮยอง แล้วเอ่ยขอร้องเพื่อนสนิทของเค้า
“ช่วย? ให้ช่วยอะไรล่ะ?”จุนฮยองถามอย่างสงสัยในท่าทีของเควิน เมื่อกี้ยังร้องไห้ฟุมฟายแทบตายทำไมตอนนี้หน้าตาถึงดูร้ายกาจนักว่ะ
“ฮึ!....นายเห็นสองคนตรงนั้นมั้ย?”เควินยกยิ้มมุมปากก่อนจะชี้นำให้จุนฮยองมองตามไป เมื่อมองตามไป สายตาของจุนอยองก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าสวยของคนที่เค้าเพิ่งขโมยจูบแรกมาเมื่อกลางวัน กำลังนั่งหน้าตายปล่อยให้ไอ้หน้าหล่อข้างๆนั้นโอบกอดลูบคลำอย่างถือสิทธิ์
“นายรู้จักสองคนนั้นหรอ?”จุนฮยองหันมาถามเควินอย่างสงสัย
“รู้สิ! ยิ่งเป็นไอ้บ้านั้นฉันยิ่งรู้จักดี ก็ฉันเป็นแค่นางบำเรอมันไง ส่วนอีนังหน้าสวยนั้นคงเป็นใครไปไม่ได้หรอกนอกจากคนที่ไอ้บ้านั้นทิ้งฉันเพื่อมาหามัน!”เควินพูดพลางใช้สายตาจดจ้องไปยังบุคคลที่พูดถึงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความร้ายกาจ
“แล้วนายจะให้ฉันช่วยยังไง?”จุนฮยองเอ่ยถาม เค้ารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่เพื่อนตัวเล็กเค้ามี คนอย่างเควินน่ะถ้าไม่โกรธแค้นอะไรมากๆเค้าก็จะไม่ร้ายขนาดนี้หรอก
“ทำอย่างไงก็ได้ให้พวกมันรับรู้ถึงความเจ็บปวด....ฮึก..เหมือนที่ฉันเป็นอยู่แบบนี้....ฮือ..ไม่สิ!...มันต้องเจ็บปวดกว่าที่ฉันเป็น....ฮึก...ฉันหวังว่านายคงจะทำให้ฉันได้นะ จุนฮยอง”เควินพูดพลางสะอื้นไห้อีกครั้ง จุนฮยองมองเควินอย่างชั่งใจก่อนจะตอบตกลง
“อืม” เค้าไม่ได้อยากเป็นคนเลวที่ต้องทำให้ใครเจ็บปวดหรอกนะ แต่ถ้าให้เลือกระหว่างคนอื่นกับเพื่อนสนิทเค้าก็ต้องเลือกเพื่อนสนิทอยู่แล้ว และในยามนี้เพื่อนสนิทตัวเล็กนั้นขอร้องให้เค้าทำเค้าก็ต้องทำเพราะคำว่าเพื่อนคำเดียว
“ขอบคุณนะจุนฮยอง....ฮึก....นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน...ฮืออออ”ว่าจบก็ก็กรอกเหล้าเข้าปากอีกครั้ง ส่วนจุนฮยองก็มองไปยังคนหน้าสวยที่ยังนั่งหน้าตายไร้อารมณ์อยู่เหมือนเดิม สายตาที่จุนฮยองใช่มองนั้นไม่สามารถอ่านออกเลยจริงๆ
.
.
.
.
.
อีกด้านหนึ่งของผับ
ตั้งแต่โดนลากมาที่ผับนี้ฮยอนซึงก็เอาแต่นั่งหน้าตายไร้อารมณ์อยู่แบบนั้น จะให้สนุกกับเสียงเพลงแด๊นซ์ในผับงั้นหรอ? คงใช่ถ้าคนที่มากับเค้าไม่ใช่คิมยองคยองพี่ชายที่เค้าจงเกีดยจงชั่งนักหนา
“ฉันสั่งเครื่องดื่มมาให้ทำไมนายไม่ดื่มล่ะ?”ยองคยองเอ่ยปากถามฮยอนซึงที่ตั้งแต่มาเอาแต่นั่งเงียบจนน่ารำคาญ
“ผมไม่หิว ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”ว่าจบก็ไม่รีรอให้อีกคนพูดอะไร เค้าชิ่งเดินออกมาก่อน
ที่เดินมาเข้าห้องน้ำน่ะไม่ได้รู้สึกอยากเข้าแต่อย่างใดแต่ที่มาเพราะเบื่อซะมากกว่า เบื่อกับการโดนบังคับทำโน่นทำนี้ ถ้าไม่ทำก็โดนขู่ด้วยประโยคที่เค้ากลัวมากที่สุดอะไรน่ะก็ขู่ว่าจะปล้ำไง
ฮยอนซึงพาตัวเองเดินเข้ามาถึงห้องน้ำ ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครนอกจากเค้า กระจกสะท้อนเงาคนสวยที่ยืนมองอย่างว่างเปล่า คนสวยเป่าลมออกจากปากอย่างหน่ายๆ วันนี้เป็นวันอะไรกันก็ไม่รู้มีแต่เรื่องปวดหัวมาให้เค้าคิดหลายเรื่องเหลือเกิน
“ว่าไงคนสวย เจอกันอีกแล้วนะ!”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นข้างหลังฮยอนซึง เค้ามองหน้าคนที่ทักเค้าผ่านกระจกก่อนจะหันหลังกลับไปมองอย่างขยะแขยง
ฮยอนซึงไม่พูดอะไรนอกจากผลักอกคนตรงหน้าใหเหลบทางก่อนจากก้าวเดินออกไป แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมือเล็กถูกรั้งไว้
“เดี๋ยวซิ! จะรีบไปไหน จะรีบกลับไปหาไอ้หน้าหล่อนั้นหรอ?”ฮยอนซึงไม่ตอบอะไรนอกจากสะบัดมือออกอย่างอารมณ์
“ท่าทางจะรีบมากซินะ....ฮึ!...ของที่แย่งเค้ามาคงอร่อยมากใช่มั้ย?”จุนฮยองเอ่ยถามอย่างไม่ยี่ระ แต่คนฟังคำถามถึงกับงงกับคำถามเมื่อครู่
“ของอะไร? ฉันไม่เคยแย่งของใคร!!”ฮยอนซึงตอบอย่างไม่แยแสเหมือนกัน เพราะเค้าไม่เคยไปแย่งของใครจริงๆนิ อยู่ๆไอ้ห้อยตรงหน้าก็มากล่าวหากันแบบนี้ใครจะไปยอม
“กล้าพูดมากนะคนสวย! นายไม่รู้หรอกว่าที่คนโดนแย่งของรักมามันทรมานขนาดไหนอ่ะ!!”จุนฮยองขึ้นเสียงพลางบีบคางของคนหน้าสวยนั้นอย่างแรงจน เจ้าของใบหน้านั้นเหยเกเมื่อรู้สึกเจ็บ
“นายพูดเรื่องอะไร ฉันไม่เข้าใจ ปล่อยฉันได้แล้วฉันเจ็บ!!”ฮยอนซึงเองก็ขึ้นเสียงใส่พร้อมกับใช้มือแกะมือหนาที่บีบคางเค้าออกแต่ก็ไม่เป็นผล
“เจ็บหรอ? นี้มันยังน้อยกว่าที่เพื่อนฉันเจ็บนะ ฮึ! แล้วนายจะได้รู้ว่าความเจ็บปวดที่แท้จริงมันเป็นอย่างไง!”ว่าจบจุนฮยองก็หยิบขวดยาขวดเล็กๆขวดนึงขึ้นมาก่อนจะเปิดฝาแล้วกรอกเข้าปากของฮยอนซึงจนหมดขวด
“แค่กๆ...แค่ก...นายเอาอะไรให้ฉันกิน”ฮยอนซึงเอ่ยถามพลางทำหน้าเบ้เล็กน้อยเพราะความเฟื่อนของน้ำในขวดนั้น
“เดี๋ยวนายก็รู้คนสวย”
อั๊ก!!
หมัดหนักพุ่งเข้าที่กลางท้องของฮยอนซึง ความเจ็บแล่นเข้ามาก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดไปหมด
จุนฮยองอุ้มร่างที่สลบไม่ได้สติเพราะหมัดหนักๆออกจากผับ แล้วยัดใส่รถแลมเบอกีนีคันหรู่ก่อนจะพุ่งทะยานไปสุ่ที่หมายก่อนที่ฮยอนซึงจะฝืน หลังจากฮยอนซึงฝืนใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วยาที่จุนฮยองให้ฮยอนซึงกินนั้นมันจะมีฤทธิ์เดชขนาดไหนกันนะ....
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
คิม ยองคยอง หรือ ยูเมะ อดีตสมาชิกวงXing ค่ะ (จำกันได้หรือป่าว)
เค้ามารับบทเป็นพี่ชายแสนเลวของฮยอนซึงค่ะ (ถึงจะเลวในสายฮยอนซึงแต่เป็นที่รักของไรเตอร์นะค่ะ คึคึ)
เอ็นจอยรีดดิ้งค์ค่ะ
- อัพอีกตอน ! เออ...คือตอนหน้าเอ็นซีแน่นอนค่ะ
รอติดตามนะค่ะ
ขอเม้นเพื่อเป็นกำลังใจนะค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนะค่ะ รักคนอ่านทุกคน <3
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น