ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC BEAST] Non-stop love หยุดไม่ได้หากหัวใจอยากจะรัก(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #6 : Non-stop Love หยุดไม่ได้หากหัวใจอยากจะรัก ::Chap.5

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ย. 54


     Non-stop  Love  หยุดไม่ได้หากหัวใจอยากจะรัก
    Writer : Bonnie’z
    Chapter : 5
    .........................................................................
    ....................................................................................................................
    ..........................................................................
    ณ บ้านตระกูลจาง

    เมื่อรถบ้านตระกลูซนมาส่งที่บ้านหลังจากเลิกโรงเรียน   ร่างบางที่พอลงจากรถก็รีบเข้าบ้านทันที   วันนี้อารมณ์ขุ่นมัวผิดปกติ  สาเหตุน่ะหรอก็เรื่องจูบเมื่อกลางวันไง   เป็นจูบแรกแถมยังต้องเสียให้อัธพาลอีก



    “ไปเรียนโรงเรียนใหม่เป็นไงบ้างค่ะคุณหนู?”บงซอนแม่นมของคุณหนูจางเอ่ยถามอย่างเอ็นดู  ขณะเอาของว่ามาให้ฮยอนซึงที่นั่งหน้าหงิกอยู่ที่โซฟา



    “มันไม่ดีเลยครับ  มันแย่มาก!  เพราะแม่คนเดียว”ฮยอนซึงตอบคำถามด้วยน้ำเสียงงอแง้  เหมือนเด็กน้อยที่เวลาไม่ได้อะไรดั่งใจ



    “โอ๋…คุณหนูของป้า  ถ้ามันแย่มากจริงๆพอคุณหญิงกลับมา  คุณหนูก็บอกคุณหญิงซิค่ะ”บงซอนโอบกอดฮยอนซึงเพื่อเป็นการโอ๋   แม้ว่าคนอื่นจะมองว่าฮยอนซึงนั้นเป็นคุณหนูผู้หยิ่งยโสแต่กับคนในบ้านนี้แล้ว  ฮยอนซึงก็คือคุณหนูผู้มีความน่ารักเหมือนเด็กๆ   และบอบบางยิ่งกว่าปุยนุ่นเสียอีก


    “คุณแม่ไปไหนหรอครับป้า?”ฮยอนซึงเอ่ยด้วยด้วยท่าทางสงสัย    ทำไมเค้าไม่รู้ว่าแม่ไปไหนแล้วทำไมแม่ไม่บอกก่อนไปเกิดความสงสัยมากมายสำหรับคนติดแม่แบบฮยอนซึง



    “แม่มีธุระที่อเมริกา  เป็นธุระสำคัญมาก!”คำตอบที่ได้นั้นไม่ใช่เสียงของบงซอนแต่อย่างใด   กลับเป็นเสียงผู้ชายที่ฮยอนซึงไม่คิดอยากจะเจอหน้าเลยซักนิด



    “พะ...พี่ยองคยอง!!!”ฮยอนซึงเอ่ยขึ้นอย่างตกใจที่เห็นคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายของเค้า   เค้าไม่อยากจะเชื่อตาตัวเองด้วยซ้ำ



    “ใช่!  ฉันเอง  ดีใจที่นายยังจำชื่อฉันได้นะฮยอนซึง”ยองคยองเดินเข้ามานั่งโซฟาตัวเดียวกันกับฮยอนซึงอย่างถือสิทธิ์  บงซอนที่นั่งอยู่จึงขอตัวออกไปเพื่อให้พี่น้องที่ไม่ได้เจอกันนานได้คุยกัน   แต่ใครจะรู้ล่ะว่าถ้าปล่อยให้อยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้   สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องดีเลย




    กลับมาทำไม?  ที่นี้ไม่ตอนรับคนแบบพี่!  ไปให้พ้น! ”ฮยอนซึงตะวาดลั่นก่อนจะออกแรงผลักคนที่นั่งข้างๆอย่างจงเกียดจงชั่ง



    “ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น  เพราะแม่ให้ฉันมาดูแลนายขณะที่แม่ไปทำธุระที่อเมริกา    รู้สึกว่าจะไปนานด้วยนะ  ฮึ....คืนนั้นไม่สำเร็จ  แต่ระหว่างที่แม่ไม่อยู่นายเสร็จฉันแน่  จางฮยอนซึงน้องรัก”ยองคยองเอ่ยเสียงเข้มตอนต้นของประโยคแล้วปรับเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคนตอนท้ายประโยค



    “พี่จะทำอะไร?   เราเป็นพี่น้องกันนะ”เมื่อได้ยินเรื่องเก่าที่ยองคยองเปรยขึ้นกลับทำให้ความกลัวแล่นสู่หัวใจฮยอนซึง  ภาพเก่าๆในวันนั้นมันย้อนกลับมาทำให้เค้ากลัว  กลัวจนแทบจะร้องไห้แต่ก็พยายามกลั้นเอาไว้เพื่อไม่ให้ดูอ่อนแอ


    “ใช่!  แต่ฉันก็แค่พี่บุญธรรมนายเท่านั้นแหละ   แม่นายเก็บฉันมาเลี้ยง    แล้วไง? เราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดซักหน่อย”เอ่ยขึ้นพลางกระชากฮยอนซึงตัวปิ้วเข้าไปกระแทกอกแกร่งก่อนจะใช้จมูกไล้พวงแก้มใสของฮยอนซึง   ฮยอนซึงทำได้แค่กลั้นน้ำตาแห่งความกลัวกับการหันหน้าหนีเท่านั้น



    ถ้านายไม่ดื้อกับฉัน  ฉันก็จะยังไม่ปล้ำนายหรอก  จำเอาไว้น้องรัก”พูดจบยองคยองก็ฝังจมูกโด่งลงแก้มใสของฮยอนซึงแล้วสูดเอาความหอมไปจนเต็มปอด ก่อนจะลุกเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี   นานแล้วที่เค้าไม่ได้สูดเอาความหอมจากพวงแก้มใสของฮยอนซึง   นานแล้วนานพอๆกับการที่ฮยอนซึงมองเค้าเป็นพี่ชายที่แสนเลว   



    ทำไมฮยอนซึงถึงมองเค้าแบบนั้นอ่ะหรอ  คงเป็นเพราะเรื่องเมื่อ 2 ปีก่อน  เป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้นอกจากฮยอนซึงและตัวเค้าเอง    แต่ที่เค้าทำไปทั้งหมดก็เพราะความรัก   เค้ารักฮยอนซึงผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชาย   เค้ารักมากกว่าน้องชายเค้ารักเกินกว่าจะหยุดใจไหว   รักจนอยากจะครอบครองฮยอนซึงไว้แต่เพียงผู้เดียว   เพราะความรักจึงทำให้เค้าเผลอพลั้งลงมือทำเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งลงไป.....



    2 ปีที่แล้วในคืนที่พายุเข้า  ฝนตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา

    พรึ่บ!


    ร่างบางของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องชายถูกพี่ชายเหวี่ยงลงบนเตียงขนาดคิงไซส์ก่อนที่พี่ชายจะขึ้นคร่อมบนตัวของผู้เป็นน้อง  แล้วจากนั้นก็ใช้จมูกโด่งเป็นสันนั้นสูดเอาความหอมจากซอกคอขาวของร่างที่นอนอยู่ข้างล่างอย่างหื่นกระหาย  เค้าทนเก็บความรู้สึกที่อยากจะเป็นเจ้าของร่างกายอันบอบบางนั้นไม่ไหวแล้ว  จึงตัดสินใจทำในสิ่งที่คนเป็นพี่ไม่ควรทำ


    “พี่ยองคยองจะทำอะไรฮะ   ปล่อยผมไปนะ ฮึก ใครก็ได้ช่วยผมที!!  ฮือออออ”ผู้เป็นน้องร้องไห้โวยวายพลางขัดขืดและดันตัวพี่ชายเค้าออกจากตัวแต่ก็ไม่เป็นผลเลยซักนิด  แรงเค้ามันน้อยเกินไปที่จะผลักให้คนที่คร่อมเข้าอยู่ออกได้   



    “ไม่มีใครมาช่วยนายได้หรอกฮยอนซึง  อย่าลืมซิว่าไม่มีใครอยู่บ้านซักคน  ถึงอยู่พวกข้างนอกก็ไม่ได้ยินเสียงหรอก  ห้องนี้มันเก็บเสียงนะ”ยองคยองพูดพลางยกยิ้มที่มุมปากอย่างผู้ที่อยู่เหนือกว่า  จากนั้นก็กระชากเสื้อตัวบางของฮยอนซึงออกเผยให้เห็นผิวขาวเนียนน่าสัมผัส   เห็นอย่างนั้นมีหรือที่ยองคยองจะอดใจไว้   เค้าก้มลงซุกไซร้ซอกขาวก่อนจะไล่ลงมาเลื่อยๆ  จนถึงแผ่นอกโดยไม่ลืมที่จะขมเม้มให้เกิดรอยจางๆเป็นสัญลักณ์ความเป็นเจ้าของ


    “พี่ทำอย่างนี้ทำไมฮะ?ฮึก  ผมเป็นน้องพี่นะ ฮึก  ปล่อยผมเถอะ  ฮือ....ผมกลัวแล้ว....ฮึก...ฮือ”ฮยอนซึงยังคงร้องไห้อย่างไม่หยุดยั้ง   คนนั้นกำลังทำเรื่องแบบนั้นอยู่บนตัวเค้าคือพี่ชายของเค้านะ   ถึงเป็นแค่พี่ชายบุญธรรมก็เถอะ  เค้าก็รับไม่ได้อยู่ดี



    “แต่ฉันรักนาย   ฉันรักนายมากเกินกว่าที่ฉันจะหยุดใจไว้แล้วฮยอนซึง  นายต้องเป็นของฉัน!”ว่าจบยองคยองก็ก้มลงหลอกล้อกับผิวเนียนของฮยอนซึงอย่างบ้าคลั่ง    คงเป็นเพราะยองคยองพลาดเองพลาดที่ไม่ได้ล็อกมือเล็กของฮยอนซึงไว้จึงทำให้ฮยอนซึงปัดป่ายไปยังโต๊ะเล็กข้างเตียงก่อนจะคำไปเจอแจกันเซรามิกส์สวยหรู    มือเล็กไม่รอช้าจับแจกันนั้นฝาดเข้าที่หัวของคนที่อยู่บนตัวเข้า



    แจกันถูกฝาดลงบนหัวอย่างแรงทำให้แจกันแตกพร้อมกับร่างที่คร่อมบนตัวฮยอนซึงล้มลงนอนกับพื้นเตียง   ของเหลวสีแดงสดไหลซึมออกมาจากศรีษะยองคยอง    เค้านอนเอามือกลุ้มศรีษะไว้เนื่องจากความเจ็บปวด



    เมื่อเห็นเช่นนั้นฮยอนซึงไม่รอช้ารีบวิ่งออกจากห้องนั้นและตรงไปยังห้องของผู้เป็นแม่ อย่างน้อยๆก็อยู่ในห้องแม่จนกว่าแม่จะมามันน่าจะปลอดภัยที่สุด  เค้าวิ่งหนีไปโดยไม่ลืมหยิบเสื้อที่พื้นมาใส่อย่างลวกๆ   วินาทีนี้เค้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแม้แต่พี่ชายที่นอนกลุ้มศรีษะอยู่บนเตรียงก็ตาม    เค้ารู้แค่ว่าจะต้องอยู่ห่างจากพี่ชายแสนเลวคนนี้ให้มากที่สุด    เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดฮยอนซึงเลือกเก็บเอาไว้เป็นความลับกลัวว่าถ้าบอกแม่ไปมันจะเกิดปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมาย
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
      เมื่อร่างบางเดินขึ้นมาบนห้องก็รีบกดโทรศัพท์หาจียงเพื่อนสนิทคนเดียวของเค้า   กะว่าจะขอไปอยู่กับจียงจนกว่าแม่จะมาแต่ความหวังนั้นก็ต้องพังทลายเพราะเบอร์ของจียงนั้นไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้    ตั้งแต่เกิดเรื่องในผับวันนั้นเค้าก็ไม่เคยโทรหาจียงติดซักครั้ง  และไม่รู้ด้วยว่าจียงเป็นอย่างไงบ้าง



    “ฉันจะทำอย่างไงดี?”ฮยอนซึงพูดกับตัวเองพลางย่นคิ้วและทำท่าคุ้นคิดอย่างนัก    การอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายคงไม่ปลอดภัยสำหรับเค้าเป็นแน่    เค้าไม่อยากให้มันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกแม้ครั้งนั้นจะรอดมาได้ใช่ว่าถ้าเรื่องขึ้นอีกแล้วจะรอดได้ทุกครั้งไป



    ก๊อก!  ก๊อก!


    เสียงประตูไม้โอ๊คอย่างดีดังขึ้น  เรียกความสนใจจากเจ้าของห้องเป็นอย่างดี   ฮยอนซึงเดินไปเปิดประตูทันทีที่พบว่าเป็นใครก็แทบจะปิดประตูทันทีแต่รู้สึกว่าจะช้ากว่าผู้เยือน  ยองคยองเอือมมือดันประตูไว้



    “พี่มีอะไร?”ฮยอนซึงถามเสียงห้วนแต่ในใจก็นึกกลัวอยู่เหมือนกัน    เค้ารู้สึกว่าคนตรงหน้าเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดในชีวิตเค้าเลย



    “คืนนี้ฉันอยากไปเที่ยว  นายต้องไปเป็นเพื่อนฉัน  ถ้านายไม่ไปคงรู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเด็กดื้อ  ฉันให้เวลานาย 20นาทีแต่งตัว  ฉันจะรออยู่ข้างล่าง”จบประโยคก็ทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มร้ายกาจก่อนจะเดินไป



    “ฮึ่ย!  อะไรนักหนากับชีวิตฉันเนี่ย!!!”ฮยอนซึงตวาดลั่นห้องก่อนจะหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเที่ยวเป็นเพื่อนพี่ชายที่เค้าไม่อยากเข้าใกล้เลยซะนิด
    .
    .
    .
    .
    ณ ผับหรูในย่านสถานบันเทิง


    “นี้เควิน! จะบอกได้หรือยังว่าเป็นอะไร  ร้องไห้อยู่นั้นแหละ!”เสียงทุ้มของชายหนุ่มผู้มีใบหน้าอันหล่อเหลาเอ่ยถามเพื่อนสนิทแสนน่ารักที่เอาแต่ร้องไห้กับดื่มเหล้าเหมือนน้ำเปล่าแบบนั้น   ตั้งแต่แสนสนิทเค้ากลับมาจากอเมริกาก็ชวนเค้าออกมาดื่มเลยทันทีแถมยังไม่พูดอะไรนอกจากร้องไห้   


    “ฉัน....ฮึก....เจ็บ...เจ็บตรงนี้...ฮึก..จุนฮยอง...ฮือออออ”เควินพูดทั้งน้ำตาพลางใช้นิ้วชี้ไปตรงอกข้างซ้าย  ที่เจ็บไม่ได้หมาบถึงกายหรอกแต่หมายถึงใจมากกว่า



    เมื่อพูดจบประโยคก็ยกวอดก้าเข้าปากอีกแก้ว   เหล้าอาจเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เค้าลืมความเจ็บปวดที่เค้ากำลังเผชิญอยู่ก็ได้



    “เอาล่ะๆ  นายลองหยุดร้องไห้แล้วเล่าให้ฉันฟังซิว่าเรื่องมันเป็นมายังไง?”จุนฮยองพูดกับเพื่อนอย่างใจเย็น   เค้ารู้สึกเป็นห่วงเพื่อนตัวเล็กคนนี้เหมือนกันเพราะสภาพตอนนี้ดูไม่ได้เลย



    “เค้าทิ้งฉัน!  เค้าทิ้งฉันกลับมาหาใครก็ไม่รู้   ฮึก....เค้าเห็นฉันเป็นแค่นางบำเรอ....ฮืออ...จุนฮยองนายต้องช่วยฉันนะ...ฮึก...ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่เค้าอ่ะ....ฮือออ”เมื่อจบประโยคเควินก็ร้องไห้ฟุมฟายอย่างนัก  เล่นเอาเพื่อนสนิทอย่างจุนฮยองกลุ้มใจกันเลยทีเดียว   เค้าไม่รู้จะช่วยเพื่อนตัวเล็กนี้ยังไง   ที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้คือดึงเพื่อนตัวเล็กนั้นมากอดเพื่อเป็นการปลอบประโลม


    .......นายไม่บอกว่ามันเป็นใคร   แล้วฉันจะช่วยนายยังไงล่ะเควิน......


    ฮึก.....


    สายตาเรียวของเควินพลันไปเห็นคนสองคนที่กำลังจูงมือมานั่งโต๊ะตรงข้ามกับโต๊ะที่เค้านั่งอยู่    คนหนึ่งเป็นคนที่เค้าคุ้นเคยเป็นอย่างดี  เป็นคนที่ทำให้เค้าเจ็บปวดทรมานแบบนี้  เป็นคนที่บอกว่าเค้าเป็นนางบำเรอ  แต่สายตาก็ไปสะดุดที่อีกคนที่มาด้วยกัน



    นี่นะหรอ? คนที่นายทิ้งฉันเพื่อกลับมาหามันอ่ะ ฮึ! คนอย่างฉันไม่ยอมเสียผัวให้ใครง่ายๆหรอก  คิดจะทิ้งฉัน  คิดผิดแล้วล่ะ  คิมยองคยอง!  ส่วนนายอีนังหน้าสวยนายจะต้องเจ็บปวดกว่าที่ฉันเป็นอยู่  นายกล้ามากนะที่มาแย่งของๆของฉัน!



    เมื่อความเจ็บปวดก่อให้เกิดความแค้น  ความคิดชั่วร้ายมันก็แล่นเข้ามาในสมองทันที  คนอย่างเควินเห็นน่ารักน่าทะนุทนอมแบบนั้นใครจะรู้ล่ะว่าเวลาเค้าโกรธแค้นอะไรมากๆเค้าน่ะร้ายกาจมากเพียงใด   ร้ายๆอย่างเรยายังสู้คุณเธอไม่ได้!



    “จุนฮยองนายต้องช่วยฉันนะ!”อยู่ๆเควินก็ผละออกจากกอดของจุนฮยอง  แล้วเอ่ยขอร้องเพื่อนสนิทของเค้า



    “ช่วย?  ให้ช่วยอะไรล่ะ?”จุนฮยองถามอย่างสงสัยในท่าทีของเควิน   เมื่อกี้ยังร้องไห้ฟุมฟายแทบตายทำไมตอนนี้หน้าตาถึงดูร้ายกาจนักว่ะ



    “ฮึ!....นายเห็นสองคนตรงนั้นมั้ย?”เควินยกยิ้มมุมปากก่อนจะชี้นำให้จุนฮยองมองตามไป   เมื่อมองตามไป  สายตาของจุนอยองก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าสวยของคนที่เค้าเพิ่งขโมยจูบแรกมาเมื่อกลางวัน  กำลังนั่งหน้าตายปล่อยให้ไอ้หน้าหล่อข้างๆนั้นโอบกอดลูบคลำอย่างถือสิทธิ์


    “นายรู้จักสองคนนั้นหรอ?”จุนฮยองหันมาถามเควินอย่างสงสัย



    “รู้สิ!  ยิ่งเป็นไอ้บ้านั้นฉันยิ่งรู้จักดี  ก็ฉันเป็นแค่นางบำเรอมันไง  ส่วนอีนังหน้าสวยนั้นคงเป็นใครไปไม่ได้หรอกนอกจากคนที่ไอ้บ้านั้นทิ้งฉันเพื่อมาหามัน!”เควินพูดพลางใช้สายตาจดจ้องไปยังบุคคลที่พูดถึงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความร้ายกาจ



    “แล้วนายจะให้ฉันช่วยยังไง?”จุนฮยองเอ่ยถาม  เค้ารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่เพื่อนตัวเล็กเค้ามี   คนอย่างเควินน่ะถ้าไม่โกรธแค้นอะไรมากๆเค้าก็จะไม่ร้ายขนาดนี้หรอก



    “ทำอย่างไงก็ได้ให้พวกมันรับรู้ถึงความเจ็บปวด....ฮึก..เหมือนที่ฉันเป็นอยู่แบบนี้....ฮือ..ไม่สิ!...มันต้องเจ็บปวดกว่าที่ฉันเป็น....ฮึก...ฉันหวังว่านายคงจะทำให้ฉันได้นะ จุนฮยอง”เควินพูดพลางสะอื้นไห้อีกครั้ง   จุนฮยองมองเควินอย่างชั่งใจก่อนจะตอบตกลง   


    “อืม” เค้าไม่ได้อยากเป็นคนเลวที่ต้องทำให้ใครเจ็บปวดหรอกนะ  แต่ถ้าให้เลือกระหว่างคนอื่นกับเพื่อนสนิทเค้าก็ต้องเลือกเพื่อนสนิทอยู่แล้ว   และในยามนี้เพื่อนสนิทตัวเล็กนั้นขอร้องให้เค้าทำเค้าก็ต้องทำเพราะคำว่าเพื่อนคำเดียว



    “ขอบคุณนะจุนฮยอง....ฮึก....นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน...ฮืออออ”ว่าจบก็ก็กรอกเหล้าเข้าปากอีกครั้ง  ส่วนจุนฮยองก็มองไปยังคนหน้าสวยที่ยังนั่งหน้าตายไร้อารมณ์อยู่เหมือนเดิม   สายตาที่จุนฮยองใช่มองนั้นไม่สามารถอ่านออกเลยจริงๆ
    .
    .
    .
    .
    .
    อีกด้านหนึ่งของผับ


    ตั้งแต่โดนลากมาที่ผับนี้ฮยอนซึงก็เอาแต่นั่งหน้าตายไร้อารมณ์อยู่แบบนั้น   จะให้สนุกกับเสียงเพลงแด๊นซ์ในผับงั้นหรอ?  คงใช่ถ้าคนที่มากับเค้าไม่ใช่คิมยองคยองพี่ชายที่เค้าจงเกีดยจงชั่งนักหนา



    “ฉันสั่งเครื่องดื่มมาให้ทำไมนายไม่ดื่มล่ะ?”ยองคยองเอ่ยปากถามฮยอนซึงที่ตั้งแต่มาเอาแต่นั่งเงียบจนน่ารำคาญ



    “ผมไม่หิว  ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”ว่าจบก็ไม่รีรอให้อีกคนพูดอะไร  เค้าชิ่งเดินออกมาก่อน  



    ที่เดินมาเข้าห้องน้ำน่ะไม่ได้รู้สึกอยากเข้าแต่อย่างใดแต่ที่มาเพราะเบื่อซะมากกว่า  เบื่อกับการโดนบังคับทำโน่นทำนี้   ถ้าไม่ทำก็โดนขู่ด้วยประโยคที่เค้ากลัวมากที่สุดอะไรน่ะก็ขู่ว่าจะปล้ำไง  



    ฮยอนซึงพาตัวเองเดินเข้ามาถึงห้องน้ำ  ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครนอกจากเค้า   กระจกสะท้อนเงาคนสวยที่ยืนมองอย่างว่างเปล่า   คนสวยเป่าลมออกจากปากอย่างหน่ายๆ   วันนี้เป็นวันอะไรกันก็ไม่รู้มีแต่เรื่องปวดหัวมาให้เค้าคิดหลายเรื่องเหลือเกิน



    “ว่าไงคนสวย  เจอกันอีกแล้วนะ!”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นข้างหลังฮยอนซึง   เค้ามองหน้าคนที่ทักเค้าผ่านกระจกก่อนจะหันหลังกลับไปมองอย่างขยะแขยง



    ฮยอนซึงไม่พูดอะไรนอกจากผลักอกคนตรงหน้าใหเหลบทางก่อนจากก้าวเดินออกไป  แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมือเล็กถูกรั้งไว้



    “เดี๋ยวซิ!  จะรีบไปไหน   จะรีบกลับไปหาไอ้หน้าหล่อนั้นหรอ?”ฮยอนซึงไม่ตอบอะไรนอกจากสะบัดมือออกอย่างอารมณ์



    “ท่าทางจะรีบมากซินะ....ฮึ!...ของที่แย่งเค้ามาคงอร่อยมากใช่มั้ย?”จุนฮยองเอ่ยถามอย่างไม่ยี่ระ  แต่คนฟังคำถามถึงกับงงกับคำถามเมื่อครู่



    “ของอะไร?  ฉันไม่เคยแย่งของใคร!!”ฮยอนซึงตอบอย่างไม่แยแสเหมือนกัน   เพราะเค้าไม่เคยไปแย่งของใครจริงๆนิ   อยู่ๆไอ้ห้อยตรงหน้าก็มากล่าวหากันแบบนี้ใครจะไปยอม



    “กล้าพูดมากนะคนสวย!  นายไม่รู้หรอกว่าที่คนโดนแย่งของรักมามันทรมานขนาดไหนอ่ะ!!”จุนฮยองขึ้นเสียงพลางบีบคางของคนหน้าสวยนั้นอย่างแรงจน  เจ้าของใบหน้านั้นเหยเกเมื่อรู้สึกเจ็บ



    “นายพูดเรื่องอะไร  ฉันไม่เข้าใจ  ปล่อยฉันได้แล้วฉันเจ็บ!!”ฮยอนซึงเองก็ขึ้นเสียงใส่พร้อมกับใช้มือแกะมือหนาที่บีบคางเค้าออกแต่ก็ไม่เป็นผล 



    “เจ็บหรอ?   นี้มันยังน้อยกว่าที่เพื่อนฉันเจ็บนะ    ฮึ!  แล้วนายจะได้รู้ว่าความเจ็บปวดที่แท้จริงมันเป็นอย่างไง!”ว่าจบจุนฮยองก็หยิบขวดยาขวดเล็กๆขวดนึงขึ้นมาก่อนจะเปิดฝาแล้วกรอกเข้าปากของฮยอนซึงจนหมดขวด



    “แค่กๆ...แค่ก...นายเอาอะไรให้ฉันกิน”ฮยอนซึงเอ่ยถามพลางทำหน้าเบ้เล็กน้อยเพราะความเฟื่อนของน้ำในขวดนั้น



    “เดี๋ยวนายก็รู้คนสวย”



    อั๊ก!!


    หมัดหนักพุ่งเข้าที่กลางท้องของฮยอนซึง   ความเจ็บแล่นเข้ามาก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดไปหมด



    จุนฮยองอุ้มร่างที่สลบไม่ได้สติเพราะหมัดหนักๆออกจากผับ   แล้วยัดใส่รถแลมเบอกีนีคันหรู่ก่อนจะพุ่งทะยานไปสุ่ที่หมายก่อนที่ฮยอนซึงจะฝืน    หลังจากฮยอนซึงฝืนใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วยาที่จุนฮยองให้ฮยอนซึงกินนั้นมันจะมีฤทธิ์เดชขนาดไหนกันนะ....
    ................................................................................................................................................................




                                                      คิม ยองคยอง  หรือ ยูเมะ อดีตสมาชิกวงXing ค่ะ (จำกันได้หรือป่าว)
          เค้ามารับบทเป็นพี่ชายแสนเลวของฮยอนซึงค่ะ (ถึงจะเลวในสายฮยอนซึงแต่เป็นที่รักของไรเตอร์นะค่ะ  คึคึ)


    เอ็นจอยรีดดิ้งค์ค่ะ

    - อัพอีกตอน !  เออ...คือตอนหน้าเอ็นซีแน่นอนค่ะ 
    รอติดตามนะค่ะ  

    ขอเม้นเพื่อเป็นกำลังใจนะค่ะ    
    ขอบคุณที่ติดตามนะค่ะ  
    รักคนอ่านทุกคน  <3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×