ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ณ ที่แห่งนั้น...ใจฉันเป็นของเธอ

    ลำดับตอนที่ #3 : ไดอารี่ของณภัทร #บทที่2

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 55


     

                        หนึ่งเดือนให้หลังก็ถึงวันที่หล่อนจะต้องออกเดินทาง ภพธรมารับหล่อนที่บ้านตั้งแต่เช้า ณภัทรลากกระเป๋าใบใหญ่ออกมาพร้อมครอบครัว หล่อนบอกไหว้ลาบิดามารดา แล้วหันไปบอกลาน้องๆ
                       
                        "แล้วพี่จะซื้อของมาฝากนะ" พี่สาวใหญ่บอกน้องๆ
                        "ณดาจะคิดถึงพี่ภัทรทุกๆวัน ณดารักพี่ภัทรนะคะ" ณดาเดินเข้ามากอดหล่อนแน่น ณภัทรลูบหลังน้องสาวเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นดังออกมา
                        "ณมน พี่ฝากน้องด้วยนะ" หล่อนบอกน้องสาวคนรอง ณมนยิ้มให้พร้อมพยักหน้าเป็นคำสัญญา
                        "กอดด้วยดิ" ณรัก เดินเข้ามาโอบพี่สาวทั้งสองก่อนที่ณมนจะเข้ามาร่วมวง ณภัทรยิ้มพร้อมๆกับที่น้ำตาซึม
                        "อื้ม พี่รักทุกคนนะ ดูแลกันดีๆด้วยล่ะ แล้วอีก3เดือนเจอกัน" ณภัทรดึงตัวน้องๆมากอดอีกครั้งก่อนที่จะไหว้ลาบิดามารดาอีกครั้ง แล้วเดินขึ้นเมอร์ซีเดสคันสวยของภพธรไปโดยมีณดาเดินมาส่งถึงที่
                        "พี่ไปแล้วนะดา ดูแลตัวเองดีๆนะ พี่เป็นห่วงดามากที่สุดนะ" ณภัทรพูดกับน้องสาวครังสุดท้าย ณดายิ้มรับด้วยน้ำตาก่อนจะโบกมือลาพี่สาวคนสวยจนกระทั่งลับสายตา

                        
                         "ดูคุณจะรักคุณณดามากที่สุดเลยนะ" ภพธรถามขึ้นเมื่อเห็นณภัทรปาดน้ำตา
                         "ฉันรักน้องๆทุกคนค่ะ แต่ณดา...ฉันเลี้ยงณดามาตั้งแต่เด็กๆ เราเลยผูกพันกัน...มากกว่าน้องคนอื่นๆ" ณภัทรตอบก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาสวมเป็นการยุติบทสนทนา

     
                          
                         เที่ยวบินครึ่งแรกของการเดินทางครั้งนี้หล่อนต้องนั่งติดกับภพธร มีผู้โดยสารหลายคนจำหล่อนได้เนื่องจากละครที่หล่อนเล่นนั้นกำลังออกอากาศ ถึงแม้หล่อนจะไม่ได้เป็นตัวเอกแต่ด้วยรูปร่างหน้าตาที่สวยสะดุดตาและฝีมือการแสดงที่เฉียบขาดในบทที่ดีก็ทำให้หล่อนเป็นที่จดจำได้ไม่ยากนัก ณภัทรจึงจำต้องทักทายเหล่าแฟนคลับที่มีมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อหล่อนได้นั่ง จึงผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมสวมหูฟังและเปิดเพลงโปรด...


                          เมื่อถึงสนามบินที่ต้องเปลี่ยนเครื่อง ภพธรจึงบอกกับหล่อนว่าเที่ยวบินนี้ พนักงานของเขาจองช้าเกินไปทำให้ทั้งสองต้องนั่งแยกกัน ซึ่่งณภัทรก็เพียงแค่รับรู้และไม่ได้ว่ากล่าวอะไร หล่อนไม่เคยสนใจอยู่แล้วว่าจะได้นังกับใคร เพียงแค่มีเพลงโปรดฟัง หล่อนก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

                           แต่คราวนี้ไม่เหมือนกับคราวก่อนๆ...


                           "อ๊ะ นี่ไง H10...อ่ะ เอ่อ..." หล่อนพูดเบาๆกับตัวเองก่อนที่จะต้องตกใจเมื่อคนที่นั่งฝั่งซ้ายของหล่อนเป็นผู้ชายต่างชาติผิวดำ ท่าทางน่ากลัว ดูที่หูเขาสิ ทั้งระเบิด ทั้งเจาะตั้งกี่รู หึย...น่ากลัวชะมัดเลย หล่อนมองชายคนนั้นอย่างกลัวๆ ทำให้ชายหนุ่มอีกคนที่นั่งข้างหล่อนมองหลอนอย่างเข้าใจแล้วแกล้งพูดขึ้น
                           "คุณนั่งที่นี่หรือครับ ผมขอโทษด้วยนะครับ" ชายหนุ่มคนนั้นพูดเป็นภาษาอังกฤษก่อนจะขยิบตาให้หล่อนนิดนึงแล้วย้ายไปนั่งที่ของหล่อนแทน ณภัทรเข้าใจทันที หล่อนยิ้มให้เขาเป็นการขอบคุณก่อนที่จะนั่งลงในที่ของเขา
                           
                           

                            ทันทีที่แอร์โฮสเตสสาวสวยทั้งหลายสาธิตวิธีใช้เครื่องชูชีพเสร็จ ณภัทรก็ปรับเบาะให้สบายที่สุดแล้วหยิบสมาร์ทโฟนพร้อมหูฟังขึ้นมาแล้วเข้าเมนูเพลง สำหรับหล่อนแล้ว ในการเดินทางไม่มีอะไรจะทำให้หล่อนมีความสุขไปมากกว่าเพลงโปรดอีกแล้ว
    แต่อารมณ์สุนทรีย์ของหล่อนก็ถูกขัดขึ้นจากคนข้างกายเสียก่อน ชายแปลกหน้าสะกิดหล่อนก่อนจะยื่นหมากฝรั่งสีหวานที่แอบพกติดตัวให้ ณภัทรยิ้มขอบคุณก่อนจะส่ายหน้าปฎิเสธ

                             "หมากฝรั่งเนี่ยถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผมต้องพกตลอดเวลาเดินทางเลยนะ คุณเป็นบ้างหรือเปล่าครับอาการหูอื้อน่ะ ผมแทบทนไม่ได้เชียวเวลามีอาการ" ชายแปลกหน้าคนนั้นพูดขึ้นอย่างชวนคุย ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ไหนกันนะ ทำไมสำเนียงเพราะจัง 
                             "ส่วนฉัน ขาดนี่ไม่ได้เลย เพราะเจ้านี่มั้งคะ ฉันถึงไม่ค่อยมีอาการเหมือนคุณ" หล่อนชูสมาร์ทโฟนพร้อมหูฟังให้เขาดู พร้อมยิ้มนิดนิด...สวยจัง
                             "คุณ...ลองฟังดูไหมคะ บางทีคุณอาจจะไม่มีอาการก็ได้...อย่างน้อย...ก็ในเที่ยวบินนี้ แต่...เอ่อ...เพลงไทยนะคะ" หล่อนยิ้มแหยๆเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะฟังไทยรู้เรื่อง 
                             "อ้าว...นี่คุณคนไทยหรือครับ" คราวนี้เขาพูดตอบมาเป็นภาษาไทยด้วยสำเนียงชัดแจ๋ว บ่งบอกว่าเขาเป็นคนไทยแท้เหมือนกับหล่อน
                             "ฮะ..เฮอะ บังเอิญจังเลยนะคะ ฉันคิดว่าคุณเป็นคนต่างชาติเสียอีก สำเนียงคุณเพราะมากเลย" ณภัทรหัวเราะนิดหนึ่งก่อนจะกล่าวชม
                             "คุณก็เหมือนกัน สำเนียงคุณเล่นซะผมสับสนเลยตอนคุณบอกว่าคุณฟังเพลงไทยด้วย" ชายหนุ่มยิ้มชม รอยยิ้มแบบนี้ของเขา เรียกเสียงกรี๊ดของสาวๆมานักต่อนัก ตั้งแต่สมัยเรียนไฮสคูลที่อเมริกา แล้วก็เช่นเคย ถึงณภัทรจะไม่กรี๊ดเหมือนสาวๆพวกนั้น แต่รอยยิ้มนั้นก็ทำให้หล่อนอดยิ้มตามไม่ได้...มีเสน่ห์จริงๆผู้ชายคนนี้
                              
                             "ดีใจที่ได้เจอคนไทยด้วยกัน ผม...ธีร์ครับ" ชายหนุ่มแนะนำตัว
                             "ณภัทรค่ะ" หล่อนแนะนำบ้างก่นที่จะยิ้มสวยให้ 
                             
                            
                             บทสนทนาของทั้งสองยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งเสียงประกาศของทางสายการบินดังขึ้น ทั้งสองชะงักเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะขึ้นพร้อมกันเมื่อคิดได้ว่าบทสนทนาครั้งนี้มันช่างยาวนานเหลือเกิน

                              "นี่เป็นครั้งแรกเลยนะครับ ที่ผมไม่มีอาการ" ธีร์หมายถึงอาการหูอื้อ
                              "เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ฉันไม่หลับ" ณภัทรพูดขึ้นบางขณะเดินลงเครื่องไปพร้อมๆกับชายหนุ่ม
                              "แล้วเพลงของคุณล่ะ" ธีร์ถามงงๆ เอ..ก็หล่อนบอกว่าหล่อนชอบฟังเพลง แล้วไหงหล่อนบอกว่าหลับนะ
                              "ก็...คุณไม่เคยได้ยินหรือ คำว่า'เพลงกล่อมเด็กน่ะ' " สาวสวยพูดกวนๆ
                              "อ๊ะ อ๋อ..ครับ... แต่...คุณไม่เด็กแล้วนี่" ชายหนุ่มแซวหญิงสาวยิ้มๆ ทำให้หล่อนหันมาค้อนนิดหนึ่งก่อนจะแอบยิ้มคนเดียว ผู้ชายอะไร...น่ารักจัง


                              
                               "คุณภัทร!" เสียงดังของชายหนุ่มซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนดังขึ้น ภพธรเดินเข้ามาณภัทรด้วยท่าทีหึงหวง ก่อนจะมองชายอีกคนอย่างสำรวจ
                               "แฟนคุณหรือ" ธีร์ถามตรงๆ อะไรกัน มีแฟนแล้วหรือเนี่ย ท่าทางจะขี้หึงซะด้วย...แห้วอีกแล้วสิเรา...
                               "ไม่ใช่นะคะ เขาเป็น...ผู้จัดการของฉันน่ะค่ะ" ณภัทรรีบปฎิเสธ
                               "ไปเถอะครับภัทร รถมารอแล้ว" ผู้จัดการบอกห้วนๆ ก่อนจะเดินลากกระเป๋าของเขาและหญิงสาวออกไปรอ
                               
                               "เราคงต้องบอกลากันแล้วล่ะค่ะคุณธีร์ Farewell! นะคะ" ณภัทรบอกลาก่อนที่จะก้าวเดิน แต่หล่อนก็ต้องชะงักเมื่อชายหนุ่มรั้งแขนหล่อนไว้
                               "ไม่ใช่ Farewell เราจะต้องได้พบกันอีก...ถ้าถึงเวลานั้น หากผมทักทายคุณ ผมหวังว่าคุณยังจะจำผมได้" หนุ่มหล่อพูดด้วยท่าทีจริงจัง Farewell เป็นคำบอกลาที่เขาไม่ชอบเอาซะเลย มันหมายถึงการลาจากโดยจะไม่ได้พบกันอีก เขายังอยากจะพบหล่อนอีก...ครั้ง...สองครั้ง หรือหลายๆครั้ง
                               "ฉันจะดีใจมากถ้าเป็นอย่างนั้น ลาก่อนนะคะเพื่อนร่วมทางของฉัน หวังว่าเราจะได้พบกันอีก" หล่อนยิ้มให้เขาอีกครั้ง
                               "ครับ แล้วพบกันครับ...ณภัทร" ชายหนุ่มบอกลาหล่อนแล้วยืนส่งจนหล่อนลับตาไป
                              
                               

    อดทนรอแค่วันเวลา ที่จะเจอกันอีกครั้ง 
    คำที่เคยทักทายวันก่อน มาถึงตอนกล่าวคำร่ำลา 
    ยังไม่รู้หนทางข้างหน้า จะกลับมาเจอกันอีกไหม...
                               


      


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×