ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พรหมข้ามภพ (พีเรียดไทย)

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ ๒ นิมิตหมาย ๑๐๐%

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.43K
      107
      7 พ.ย. 64

    “แก้ว! นี่เธอเป็นอะไรมากหรือเปล่า”


    เสียงทักตื่นเต้นของวิชชุดาดังขึ้นทันทีที่เปลือกตาหนักอึ้งกระพริบตาถี่ๆ เหลือบมองไปทั่วห้องอย่างสงสัย ห้องสีขาวกว้างขวางรวมไปถึงสายน้ำเกลือที่ห้อยระโยงระยางเป็นหลักฐานย้ำเตือนได้ดีว่าเธอกำลังอยู่ที่ไหนเห็นนาฬิกาแขวนผนังแล้วก็นิ่วหน้า


    “ฉันหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย”


    “ก็ใช่นะสิ จู่ๆ ก็ล้มพับไปแบบนั้นพี่นีน่าเลยเอามาส่งที่นี่ กลัวว่านางเอกสาวดาวรุ่งจะเป็นอะไรไปซะก่อน ว่าแต่เธอเถอะ ยังเพลียๆ อยู่อีกหรือเปล่า”


    “มึนๆ หัวนิดหน่อย แล้วทำไมฉันถึงมานอนโรงแรมล่ะ ฉันน่าจะนอนอยู่บ้านไม่ใช่หรอ” แก้วกัลยาสลึมสะลือ มองหน้าวิชชุดาพลางส่งยิ้มหวาน


    “โรงพยาบาล ใช่โรงแรมซะที่ไหน!


    “พี่นี่น่ากับทีมผู้กำกับเพิ่งจะกลับไป”


    “เธอนอนเฝ้าฉันทั้งคืนเลยหรอ”


    “ก็ใช่น่ะสิ! ถ้าฉันไม่เฝ้า เธอจะให้ฉันโทรตามน้ากานต์หรอ”


    วิชชุดาอ้าปากหาวในขณะที่อีกฝ่ายฉายแววเศร้าสรอย แวบหนึ่งก็อยากจะตีปากตัวเองแรงๆ นัก ลืมไปได้อย่างไรว่าแก้วกัลยามีความทรงจำที่ไม่ค่อยดี


    “ฉันขอโทษ ฉันลืมไป”


    “ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่คิดอะไรแล้ว...ยังไงก็ขอบคุณมากนะ ที่ไม่เคยทิ้งฉันไปไหน”


    กานต์มณีหรือน้ากานต์ที่วิชชุดาพูดถึงก็คือแม่บังเกิดเกล้าของแก้วกัลยา บิดาของหล่อนแอบมีผู้หญิงคนอื่นจนกระทั่งเลิกกับมารดา หลังจากนั้นไม่นานกานต์มณีก็พบรักกับหนุ่มม่ายลูกติดชาวต่างชาติ ทีแรกก็ชักชวนแก้วกัลยาให้ไปอยู่ด้วยกันเสียที่นู้น แต่หล่อนเป็นคนเลือกที่จะอยู่เมืองไทยเองเพราะหล่อนคิดว่าหล่อนเรียนจบและสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว อย่างไรเสียก็ไม่อยากเป็นส่วนเกินครอบครัวใหม่ของแม่


    ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...ทางนี้กานต์มณีก็เซ็นมอบบ้านและสมบัติทุกอย่างไว้ให้ และยังติดต่อทางโทรศัพท์อยู่เสมอ นานทีปีหนจึงจะกลับมาเยี่ยมสักที


    “เมื่อคืนเธอเป็นอะไร อยู่ๆ ก็เป็นลม ไม่ได้ทานข้าวเย็นหรอ” ถามเพื่อนอย่างฉงน ทุกทีแก้วกัลยาออกจะแข็งแรงเกินชายด้วยซ้ำ แต่เมื่อคืนก็ไม่เห็นมีอะไรผิดแปลก เพิ่งจะสังเกตว่าอีกฝ่ายดูเหมือนไม่มีสติอยู่กับเนื้อกับตัวก็ตอนเข้าฉากสุดท้าย


    “อย่างฉันนี่ไม่อดข้าวหรอก!” บอกเพื่อนพลางหัวเราะร่า “ฉันแค่รู้สึกแปลกๆ บทนั้นมันเหมือนกับ...ฉันเคยเล่นบทนั้นมาก่อน”


    “เดจาวู?”


    “เดจาวูอะไร”


    “อ้าว! ก็แบบ รู้สึกเหมือนเคยทำทั้งๆ ที่ไม่เคยทำ รู้สึกคุ้นเคยทั้งที่ไม่รู้จักกัน” วิชชุดาเอื้อมคว้าเก้าอี้มานั่งข้างเตียงพลางร่ายความคิดของตัวเองให้ฟัง


    “แล้วมันเกี่ยวกับฉันยังไง” ขมวดคิ้วสงสัย ฟังอย่างไรก็ไม่เข้าใจอยู่ดี


    “ทฤษฎีอดีตชาติไง เธออาจจะเคยเกิดมาในชาติหนึ่งแล้วก็เคยพูดคุยทำนองแบบนี้กับใคร แล้วเรื่องคุณหลวงในฝันของเธออีก บอกไม่รู้จักแต่ก็ฝันเห็นซ้ำๆ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องแปลกบ้างหรอ”


    วิชชุดาหรี่ตาลง พยายามให้เพื่อนเก็บคำพูดหล่อนไปคิด หากแต่แก้วกัลยากลับขมวดคิ้วแน่น มองเพื่อนรักด้วยท่าทีเป็นกังวลแทนจนนางเอกสาวต้องยกมือขึ้นแตะ โบกมือไหวอย่างไม่คิดใส่ใจ


    “นี่เธอยังไม่เลิกคิดอีกหรอ ก็บอกแล้วไงว่าจินตนาการฉันเยอะ คิดนู้นคิดนี่ไปเรื่อย”


    “แต่ฉันเป็นห่วงนี่นา...ฉันกลัวว่าคุณหลวงอะไรของเธอจะมาเอาเธอไปอยู่ด้วย”


    ว่าแล้วก็ถอนหายใจเฮือก ทำไมเพื่อนหล่อนถึงได้ดื้ออย่างนี้ ถึงจะไม่เชื่อก็ตามใจเถอะ แต่ถึงขนาดมาเข้าฝันบ้าง แถมจู่ๆ ก็เป็นลมนั่นอีก หล่อนซึ่งเป็นเจ้าแม่บ้าโชคชะตาก็ต้องย่อมห่วงเป็นธรรมดา


    “โธ่เปรี้ยว...เธอก็คิดมาก ถ้าคุณหลวงนั่นมีจริงก็คงตายไปแล้ว จะมาเอาฉันไปยังไง เอ...หรือว่าฉันควรจะเป็นฝ่ายไปหาดีนะ”


    มือเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นเหนือศีรษะพลางเกาหัวแกรกๆ โคลงศีรษะเบาๆ ทำหน้าตาล้อเลียนเป็นการยืนยันว่าไม่เชื่อเด็ดขาด!แต่แล้วสายที่เกาะเกี่ยวอยู่ที่แขนก็ทำเอารำคาญ ยกขึ้นมาสะบัดเบา มองหยดน้ำเกลือที่ยังไหลติ๋งๆ


    “ฉันต้องนอนกินน้ำเกลืออีกนานมั้ยเนี่ย”


    “หมอบอกว่าน้ำเกลือหมดขวดนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว เธอแค่พักผ่อนไม่เพียงพอเฉยๆ” ตอบตามคำพูดของแพทย์เมื่อเช้าตรู่เป๊ะ! และนั่นก็ทำให้คนฟังยิ้มออก


    “ดีใจจัง ฉันนึกว่าจะต้องนอนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนี่อีกสองสามวันซะอีก” ถอนหายใจอย่างโล่งอก แค่คิดก็อึดอัดจะแย่ เพิ่งจะปิดกองละครเรื่องล่าสุดมาหลังจากโหมถ่ายทำเป็นเดือน เธอคงจะมีเวลาว่างอีกสักสัปดาห์ให้ได้เที่ยวเล่น ก่อนจะต้องมารับงานอื่นต่อ


    “นี่แก้ว ฉันยอมรับนะว่าเธอเป็นคนหัวดื้อ แต่ออกจากโรงพยาบาลแล้วเธอช่วยไปที่ๆ นึงกับฉันหน่อยสิ”


    “จะพาฉันไปไหน อ๋อ! นี่จะพาฉันไปเที่ยวใช่ม้า”


    แก้วกัลยากระพริบตาปริบๆ พลางอมยิ้มมองเพื่อนที่ถอนหายใจเสียงดัง ยัยแก้วช่างทำให้เรื่องจริงจังกลายเป็นเรื่องเล่นๆ ได้ตลอดเวลาสิน่า!


    “มองหน้าฉันอย่างนี้ คงไม่คิดจะพาฉันไปให้หมอดูหลอกเอาอีกหรอกนะ” เสียงหวานพูดดักคอทันทีที่เห็นแววตาของเพื่อนแฝงแผนการบางอย่าง เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งสมัยเรียนมหาวิทยาลัย หล่อนก็ถูกวิชชุดาพาไปดูดวง อวยว่าแม่นนักแม่นหนา สุดท้ายก็ไม่เห็นจะตรงอะไรในชีวิตสักนิด!


    “ใครว่า ฉันจะพาไปบ้านฉันที่อยุธยา”

     

    ชายรูปงามอยู่กรมทหารเรือ              น่าเหลือเชื่อนิมิตบ่อยจนคิดขำ

    หลวงไกรเดชารูปหล่อยังจดจำ           บุญชักนำให้เห็นหฤทัย

    พรหมลิขิตจักให้เราเจอกัน                ก็แค่ฝันวิชชุดางมงายไป

    เพียงลืมตาตื่นมาก็จากไกล               เจ้าดวงใจอย่าได้คิดเป็นเรื่องจริง



    สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ ช่วงนี้ไรท์อาจจะหายหน้าหายตาไป เนื่องจากคุณแม่เข้าๆ ออกๆ รพ. มาเกือบเดือนแล้ว หมอค่อนข้างมั่นใจว่าท่อน้ำดีอุดตัน แต่อัลตร้าซาวน์ + CT SCAN ไปยังไม่ทราบสาเหตุ เลยรอ MRI ต่อค่ะ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาหาสาเหตุมาสามสัปดาห์ ยังไม่ได้เริ่มรักษาสักที T^T

    อาการของคุณแม่ตอนนี้คือมีภาวะดีซ่าน เพลีย กินได้น้อย เหนื่อยง่ายและมีไข้ต่ำๆ ไรท์เลยต้องดูแลเรื่องนัดหมอ เลือกทำอาหารเพื่อลดการทำงานของน้ำดี ซึ่งทำให้ไรท์ไม่มีเวลาอยู่กับคอมได้ทั้งวันเหมือนปกติ ตอนนี้ได้เขียนนิยายแค่ช่วงก่อนนอนเท่านั้น (ตัวไรท์เองก็มีภาวะเครียด ทำให้เขียนงานไม่ออกอยู่เหมือนกัน กังวลว่า MRI รอบนี้จะเจอสาเหตุหรือยัง)

    อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนน้าาา ^^



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×