ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ราชันทรราช

    ลำดับตอนที่ #4 : 第一章 จุดเริ่มต้นของพระสนมซู

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 64


    ในที่สุดก็เช้าแล้ว...


    ซูเพ่ยเปิดม่านหน้าต่างออก มองดูแสงสว่างจากพระอาทิตย์ที่เริ่มเป็นสีเหลืองทอง


    หญิงสาวมองไปรอบๆ ถึงแม้ห้องนี้จะมีเตียงอันแสนสบาย มีเก้าอี้และโต๊ะสำหรับนั่งจิบน้ำชา ทว่าประตูกลับถูกล็อกจากภายนอก หน้าต่างยังมีลูกกรงป้องกันการหลบหนี


    ถึงจะมิใช่คุก แต่ก็มิต่างกันนัก!


    ขณะที่กำลังคิดอย่างเบื่อหน่ายเสียงประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับปรากฏร่างชายฉกรรจ์สามคนช่วยกันหอบหิ้วถังน้ำใบใหญ่เข้ามาแล้วจากไป ก่อนจะมีร่างของสตรีห้าคนในชุดชาววังถืออุปกรณ์บางอย่างมาวางไว้บนโต๊ะ


    “เชิญแม่นางซูเจ้าค่ะ”


    “พวกเจ้าจะทำอันใด!


    ซูเพ่ยเอ่ยออกมาอย่างแตกตื่น ถึงแม้คำพูดของพวกนางจะราบเรียบ แต่กิริยาที่เกิดขึ้นกลับเป็นการก้าวก่ายอย่างเห็นได้ชัด สตรีสองคนช่วยกันจับร่างนางไว้แล้วถอดอาภรณ์ของนางออกด้วยคามคล่องแคล่ว


    “ปล่อย! ปล่อยข้า!!


    หญิงสาวพยายามใช้แรงทั้งหมดดิ้นด้วยความตื่นตระหนก ทว่ากลับรู้สึกไร้ความหมายสิ้นดีเมื่อคนสองคนต่างยึดท่อนแขนของนางเอาไว้ ส่วนอีกหนึ่งเตรียมของอยู่ที่บริเวณอ่างน้ำ


    ถึงแม้จะไม่ยินยอม หากแต่ในที่สุดร่างทั้งร่างก็เปลือยเปล่าอย่างไร้ทางเลือก...


    ซูเพ่ยกัดฟันกรอดด้วยความโกรธระคนอับอาย ที่โรงเตี๊ยมของนางถึงแม้จะมีสาวใช้มากมายแต่ก็มิเคยต้องเปลือยกายต่อหน้าผู้ใดยกเว้นซูเจินและซูจิ้ง เมื่อรู้ตัวว่าไม่มีทางเลือกในที่สุดร่างงดงามก็ยอมลงไปนั่งแช่ในถังน้ำแต่โดยง่าย ดวงตาจ้องมองคนผู้หนึ่งกำลังเทน้ำมันลงบนฝ่ามือ


    สตรีทั้งห้าได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองไป ถึงแม้จะรู้สึกเวทนายามที่เห็นนัยน์ตากลมโตคลอไปด้วยหยดน้ำประกายราวกับเพชร


    ในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยขึ้นมา


    “แม่นางซูอย่าโกรธเคืองพวกเราไปเลย พวกเราก็เพียงแต่ทำตามหน้าที่เท่านั้น”


    “ฝ่าบาทกำชับมาว่าท่านจะต้องถูกส่งตัวให้ฮ่องเต้แคว้นเว่ย พวกเราจะต้องส่งเสริมร่างกายของท่านให้ดี” พูดง่ายๆ นั่นก็คือต้องขัดสีฉวีวรรณผิวของอีกฝ่ายอย่างเร่งด่วนเพื่อให้สมกับที่เป็นบรรณาการในวังหลวง!


    คราวนี้ซูเพ่ยหยุดนิ่ง ยินยอมให้พวกนางขีดถูเนื้อตัวได้ตามอำเภอใจด้วยรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะขัดขืน


    “พวกข้ารู้ว่าเป็นเรื่องยากสำหรับท่าน คนที่เคยอยู่อย่างอิสระนอกวังจะยอมรับการเปลี่ยนแปลง ยึดถือกฎเกณฑ์มากมายในวังหลวงได้อย่างไร แม้แต่พวกเรายังต้องใช้เวลานับปี”


    “แต่นั่นก็เป็นความต้องการของพวกเจ้ามิใช่หรือ”


    ซูเพ่ยเอ่ยขึ้นมาราวกับต้องการเหน็บแนม เรื่องเข้าวังนี่นางไม่ได้เลือกเสียหน่อย!


    “พวกเราเลือกเข้าวังคัดตัวเป็นนางกำนัลก็จริง แต่นั่นก็เป็นเพราะต้องการหาเลี้ยงครอบครัว สตรีเช่นพวกเรามีทางเลือกได้มากน้อยเพียงใดกัน” เกิดเป็นบุรุษจะได้รับการเล่าเรียนทั้งด้านบู๊และบุ๋นตั้งแต่เด็ก ส่วนสตรีนั้นก็จะได้รับการเรียนเย็บปักถักร้อยตามมีตามเกิดเท่านั้น เรื่องการเขียน อ่าน ร่ายรำ บรรเลงพิณก็เป็นของสตรีชั้นสูง มีเพียงแต่คุณหนูตระกูลใหญ่เท่านั้นที่จะได้รับสิ่งพวกนี้


    นอกจากสตรีหอโคมแดง2 ที่อาจจะได้รับการฝึกฝนเรื่องพวกนี้เพื่อสร้างจุดเด่นให้ตัวเอง แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าทำเอาเสียเลย


    ได้ยินเช่นนั้นแล้วซูเพ่ยถอนหายใจออกมา ก็จริงอย่างที่พวกนางกล่าวมา ในโลกนี้สตรีจะสามารถมีสิทธิ์ออกเสียงได้มากน้อยเพียงใดกัน


    หญิงสาวสูดกลิ่นน้ำมันหอมเข้าเต็มปอดหวังช่วยผ่อนคลายความรู้สึกตึงเครียดที่เกิดขึ้น และแล้วก็เบิกตากว้างขึ้นมาเมื่อคิดอะไรออกมาได้


    “น้องๆ ของข้าเล่า?”


    เมื่อวานนี้พวกนางสามคนพี่น้องถูกส่งตัวเข้าวังหลวงอย่างไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ พวกเขาแยกนางและน้องๆ ออกจากกัน ไม่ได้เจอกันอีกจนกระทั่งตอนนี้


    “ท่านหมายถึงคนที่มาพร้อมท่านอีกสองคนน่ะหรือ”


    ซูเพ่ยพยักหน้าตอบ คิดว่าพวกนางคงจะถูกจับขัดหน้านวดตัวอยู่เช่นกัน


    “คนหนึ่งถูกส่งเข้าเมืองหลวงตั้งแต่ย่ำรุ่ง ส่วนอีกคนมีรถม้าจากหุบเขาเมฆคล้อยมารับไปแล้วเจ้าค่ะ”


    “เหตุใดถึงได้เร็วนัก!


    ดวงตาของซูเพ่ยเต็มไปด้วยความกังวล ตอนแรกคิดว่าพวกนางทั้งสามจะถูกส่งตัวไปพร้อมกันเสียอีก


    ซูเจินถูกแต่งเป็นอนุภรรยาแม่ทัพผู้หนึ่ง...


    ซูจิ้งถูกแต่งให้ปีศาจที่หุบเขาเมฆคล้อย...


    ส่วนนางถูกส่งเข้าวังหลวงเป็นสนมให้ฮ่องเต้ผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องราวชั่วร้ายพวกนี้!


    “อย่ามัวแต่เป็นห่วงผู้อื่นเลยเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวเมื่ออาบน้ำเสร็จ ท่านจะต้องไปเรียนรู้กฎเกณฑ์มารยาทในวังให้สมบูรณ์อีกภายในสามวัน”


    “สามวัน? ผู้ใดจะไปทำได้”


    ซูเพ่ยโคลงศีรษะออกมาแรงๆ เคยได้ยินมาบ้างว่าการใช้ชีวิตในวังหลวงไม่ใช่เรื่องง่าย อีกอย่างนางไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ด้วย!


    นางกำนัลคนหนึ่งผ่อนลมหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้


    “เรื่องที่พวกเราต้องการสอนท่านนับว่าเล็กน้อยมากหากเทียบกับสิ่งที่ท่านต้องเจอในภายภาคหน้า”


    “นอกจากกฎเกณฑ์การใช้ชีวิตแล้ว ท่านยังต้องเรียนรู้การดูสีหน้าผู้คน การป้องกันตัวเองจากสนมคนอื่นๆ ที่อาจปองร้ายต่อท่านได้”


    “โดยเฉพาะการรับมือกับฮ่องเต้แคว้นตงฉินผู้นั้น เล่าลือกันว่าเป็นฮ่องเต้ที่โหดเหี้ยมนัก แม้แผ่นดินจะนองไปด้วยโลหิตก็หาได้มีความเมตตา”


    นางกำนัลทั้งห้าสลับกันพูดขึ้นมาอย่างเห็นใจ พวกนางเป็นเพียงนางกำนัลเล็กๆ ก็จริง หากแต่ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา สิ่งที่พวกนางเห็นความมืดมิดในวังหลวงก็มาก


    “พวกเราจะช่วยท่านเท่าที่สามารถทำได้ก็แล้วกัน อะไรที่ท่านควรรู้ก็จะบอกไว้ ถึงแม้หลีกเลี่ยงมิได้ อย่างน้อยท่านจะได้มีเวลาเตรียมใจไว้ก่อน”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×