คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ ๑ รอยภพ (Re-write)
“คุณหญิงขอรับ! คุณหญิง”
“วุ้ย! เอ็งจะเสียงดังทำอะไรนักหนา
เบาๆ หน่อยก็ได้ไอ้ทอง”
คุณหญิงบัวแลร่างใหญ่วิ่งแจ้นร้องโหวกเหวกโวยวายดังหูดับตับไหม้
เหลียวมองใบหน้าเจื่อนๆ ของทาสบริวารยามถูกดุแล้วก็ได้แต่โคลงศีรษะอย่างระอา
วางมือจากเสื่อสานตรงหน้าเอามือเท้าสะเอวมั่น
“ขออภัยขอรับคุณหญิง”
ทองลดตัวลงคลานเข่าเข้ามาหา ยิ้มแห้งตอบรับสายตาดุ
“มีอะไรน่าตื่นเต้นแต่เพียงนั้นฤา”
“ขุนไกรขอรับ! เมื่อประเดี๋ยวกระผมไปเดินตลาดมา
ได้ยินเขาลือกันให้หนาหูว่าท่านขุนไกร ได้เลื่อนยศเป็นหลวงแล้วขอรับ!” ว่าด่วนจี๋ด้วยความยินดี
“กระนั้นรึ”
คุณหญิงบัวเอื้อมไปคว้ากระโถนขนาดพอเหมาะก่อนจะคายหมากแดง
หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กออกมาจากชายพกก่อนจะเช็ดริมฝีปากจนไร้คราบ
ริมฝีปากของผู้เป็นแม่กระตุกยิ้มรับ บุตรชายเพียงคนเดียวชะรอยตามเจ้าคุณอดิเรก
บิดาผู้ล่วงลับไปแล้วไม่ผิดเพี้ยน ความรักชาติและอุทิศตนแด่หน้าที่อย่างสุดความสามารถมิแคล้วกันจริงๆ
“กระผมมิกล้าโป้ปดเรื่องของขุนไกรแน่นอนขอรับ
โอ้ย!”
ทองยกมือแตะกระหม่อมเมื่อมีของแข็งมากระแทกเบาๆ
หันขวับอย่างไม่พอใจเพราะคิดว่าบ่าวไพร่อื่นคงมากลั่นแกล้ง
หากแต่เพียงเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องหัวเราะเจื่อนเมื่อสบดวงตาคมแวววับเป็นประกาย
“ท่านขุน...” เอ่ยเรียกพลางหัวเราะแห้งแก้ความกระดาก
“นินทาฉันให้คุณแม่ฟังอีกแล้วฤา”
“กระผมมิได้นินทาขอรับ”
ทองเร่งโบกมือไหว เกรงว่าจะถูกดุ
ทว่าเพียงลอบมองก็ถอนหายใจครั้งเห็นอีกฝ่ายกระตุกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี
“กระผมแค่อยากบอกข่าวดีกับคุณหญิงไวๆ
ขอรับ”
“ข่าวดีกระไรฤาขอรับคุณแม่”
คนถามย่างเข้าหา
ทรุดตัวลงนั่งเคียงผู้มีพระคุณ ยกมือประนมระดับอกก่อนจะก้มลงกราบแนบบ่า
คุณหญิงบัวลูบไหล่กว้างเบาๆ ดวงตายิ้มให้อย่างแสนรัก
“ไหว้พระเถิดพ่อ”
“ก็ข่าวดีที่ท่านขุนไกรของกระผม
ได้เลื่อนขั้นเป็นคุณหลวงไกรเดชาวรางค์กูรอย่างไรเล่าขอรับ
คราวนี้ไอ้ทองก็จักไปเบ่งใส่ผู้อื่นบ้าง ว่ามีนายเป็นถึงคุณหลวง”
ทองว่าด้วยความเพ้อฝัน
แต่แล้วก็สะดุ้งเฮือกเมื่อถูกเสื่อกกที่ยังถูกสานไม่เสร็จปาเข้าเต็มหน้า
“เจ้านายเขายังคุยกันไม่จบ
อย่าพูดสอด!”
คุณหญิงบัวทำท่าคว้าเอาไม้เรียวข้างตัวมาถือไว้โดยที่ทองถอยหลังกรูดด้วยความรวดเร็ว
เห็นคุณหญิงทำท่าฉิวใส่ก็ยิ่งเกรง คุณท่านปากร้ายมือไวก็จริง
แต่ก็เป็นคนมีเมตตายิ่งนัก!
“ขออภัยขอรับ ไอ้ทองปากไวอีกแล้ว
นี่แน่!” ตบปากตัวเองพลางกระพริบตาถี่ประจบ
“มีกระไรจะทำก็ไปทำเถิด”
หลวงไกรเดชาอมยิ้มบางเบา
เห็นมารดาอายุมากขึ้นทุกปีก็ยิ่งแอบอดกังวลเสียมิได้
แลคุณแม่ยังแข็งแรงดีอยู่ก็เบาใจ
“แต่ว่า...”
“เอ็งนี่พูดจามิรู้เรื่อง! แลเอ็งว่างนัก ข้าจักหางานให้เอ็งทำดีไหมเล่า”
คุณหญิงบัวขู่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“กระผมนึกได้แล้วขอรับ...มีงานขอรับ”
ทองตอบฉับพลันก่อนจะคลานเข่าออกห่าง
ชั่วพริบตาเดียวก็พ้นออกนอกชานเรือน
“เห็นพ่อไกรได้ดิบได้ดีแม่ก็ดีใจ”
คุณหญิงบัวพินิจบุตรชายอย่างภาคภูมิ
รอยยิ้มแตะทั้งดวงตาและปากจนไม่อาจอดยิ้มน้อยตามไปด้วย
หากแต่เพียงแวบหนึ่งนัยน์แววตานั่นฉาบความกังวล จนทำให้หลวงไกรเดชาอดถามด้วยความเป็นห่วงเสียไม่ได้
“คุณแม่มีกระไรมิสบายใจฤาขอรับ”
“เฮ้อ! แม่เองก็แก่ลงไปทุกที
เมื่อใดพ่อไกรจะเอาหลานมาให้แม่อุ้มบ้าง”
“คุณแม่หมายความว่ากระไรฤา”
แสร้งถามอย่างไม่เข้าใจ แม้จะรู้ความหมายที่แอบซ่อนในประโยคนั้นก็ตามที
“หน้าที่การงานพ่อไกรก็ไปด้วยดี
หากพ่อต้องตาสาวงามเรือนใดก็คงไม่มีปัญหา” ทอดมองด้วยความหวัง
ถึงแม้ว่าจะเป็นบุตรีบ้านใดก็คงไม่อาจปฎิเสธด้วยเกรงบารมี
“เหตุการณ์บ้านเมืองยังมิสู้ดีนัก
กระผมมิอยากออกเรือนเพลานี้ขอรับดอกคุณแม่” พูดแล้วก็ถอนหายใจหนัก
คิดถึงเรื่องนี้แล้วหัวคิ้วขมวดเข้าหากัน
“กังวลเรื่องงานหรือยังมิมีแม่หญิงต้องใจกันเล่า”
“กระผม...”
“วันพรุ่งแม่กับคุณหญิงจันทร์วาดจะไปให้นังปรุงดูดวงเสียหน่อย
พ่อไกรไปด้วยกันเถิด”
คุณหญิงบัวหรี่ตามองคุณหลวงที่ทำหน้ากระอักกระอ่วน
ปีนี้บุตรชายก็อายุย่างเข้าเลขสาม หากไม่ชักนำเสียหน่อยก็ไม่รู้ว่าจะต้องคอยไปอีกนานเท่าใด
จึงจะได้เชยชมสะใภ้และทายาทสืบสานวงศ์ตระกูล
“กระผมมิชอบดูดวงขอรับ”
“มิชอบก็มิต้องฟัง
แม่แค่อยากรู้ว่าพ่อได้เจอเนื้อคู่บ้างแล้วฤาไม่
ให้คนแก่มีหวังเสียหน่อยมิได้เชียว”
พูดจาโน้มน้าวพลางทำสีหน้าน้อยอกน้อยใจ
ทว่าไม่นานคุณหญิงบัวก็ยิ้มยิงฟันทันทีที่คนตรงหน้าพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้...
ความคิดเห็น