Love In my Dream ผจญรักในดินแดนแห่งความฝัน
คุณคิดว่าไง? ถ้าวันนึงคุณเจอผู้ชายที่อยู่ในฝันของคุณ แต่ ทว่าเขาคนนั้นกับไม่เป็นแบบที่คุณคิดไว้ แล้วคุณจะทำอย่างไรต่อไปดีละ?
ผู้เข้าชมรวม
163
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Love In my Dream ผจญรักในดินแดนแห่งความฝัน
1
ว๊าว วันนี้สนุกจังเลยได้มาเดินเที่ยวห้างอย่างสบายใจ ไม่ต้องมีไอ้น้องเฮงซวยคอยมาตามด้วย ฉันว่าฉันไปเดินเล่นซื้อกระเป๋าดีกว่า
อาฮ่า เจอร้านกระเป๋าแล้ว ไปโลดดดด
ว๊าวสวยๆทั้งนั้นเลย เอ๊ะ ใบนี้แปลกตาจังเลย ต้องซื้อไปอวดเพื่อนหน่อยแล้ว
“พี่คะ เอาใบนี้ค่ะ เท่าไหร่คะ”
“สามร้อยค่ะ”
“นี่ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ในที่สุดฉันก็ได้กระเป๋าใบใหม่มา แต่พอเดินออกจากร้านมาแป๊บหนึ่ง ฉันก็รู้สึกว่านะดูๆไปไม่เห็นว่ามันจะสวยตรงไหนเลย เอาไปเปลี่ยนใบใหม่ดีกว่า ฮ่าๆๆๆ
“พี่คะๆ คือว่าหนูไม่อยากได้ใบนี้แล้วอ่ะค่ะ ขอเปลี่ยนใบใหม่ได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ แต่ว่ารีบๆหน่อยนะคะ ทางห้างบอกว่าจะมีการจัดสถานที่ให้ปิดห้างก่อนทุ่มหนึ่งนะคะ”
“ค่ะๆได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ แล้วหนูจะรีบเลือกนะคะ”
ฉันเดินรอบๆร้านอีกครั้งหนึ่งว่าจะเอากระเป๋าใบไหนดี ก็แบบว่ามันสวยไปซะหมดเลยอ่ะ $0$
อยากได้ทุกอันเลย อาฮะ! เจอแล้วๆ นี่ไงกระเป๋ารูปโลโม่ น่ารักจังเลย เอาอันนี้แหละ เย้ๆๆ ในที่สุดก็ได้ซะที แต่......แต่ ............คือแบบว่า ทำไมพอฉันเดินออกมามันมีผู้คนวิ่งวุ่นวายไปหมดละเนี่ย แล้วพี่พนักงานเมื่อกี้นี้ไปไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
แล้วฉันจะออกจากตรงนี้ยังไงละเนี่ย มองไปทางไหนก็มีแต่ผู้ชายง่ะ หนูกลัว #^#
และตอนนั้นเองก็มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยฉัน ^^ เย้ๆ เทพบุตรสุดหล่อ ฮี่
“นิเธอ มายืนบื้ออะไรอยู่ตรงนี้ฮ่ะ เขาไล่ลูกค้าออกไปหมดแล้วไม่ใช่หรอ ทำไมเธอยังไม่ไปอีก ฮะ!”
ขอถอนคำพูดเจ้าค่ะ ที่ว่าเป็นเทพบุตรนั้นนะ หยาบคายไร้มารยาท
“ # & # .................” แต่ว่านะหล่อ หล่อ หล่อมากกกกกกกกกกกกกกกกจริงๆค่ะ
เทพบุตรแท้ๆเลยเจ้าข้า(แค่ปากไม่ดีไปนิดเดียวเอง)
“นิ เธอได้ยินที่ฉันพูดรึเปล่าเนี่ย”
“คะ ค่ะ อะไรนะคะ”
“ฉันบอกว่าวันนี้เขาจะซ้อมเดินแบบกันคนนอกอยู่ไม่ได้ รีบๆออกไปซะ”
“ออค่ะ .....ว่าแต่ว่า....ทางออกอยู่ตรงไหนหรอค่ะ...แห่ๆๆ” ^=^
“ยัย.....ฮึ้ย ตามฉันมานี่”
“ //^o^//” เขินๆ เขาจับมือเราด้วย
“เดินเร็วๆหน่อยไม่ได้รึไง”
“นายจะพาฉันไปไหนหรอ”
“ก็ออกไปจากที่นี้ยังไงละ”
“ออ”
นายเทพบุตรสุดหล่อพาฉันเดินลัดเลาะมาตามทางที่ไหนฉันก็ไม่รู้จักหรอก แต่ได้กุมมืออย่างนี้ ว๊า อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้จังเลย
พอออกมาพ้นจากตึกห้างแล้ว พวกเราก็ได้ยินเสียงอะไรแปลกๆเหมือนเสียงอะไรสั่นๆจากข้างหลัง
“เธอได้ยินเสียงอะไรมั้ย”
“อืม แปลกๆนะว่ามั้ย” หรือว่าแผ่นดินไหว -*-
“เธอรีบไปเถอะ ระวังตัวด้วย โชคดี” แล้วเขาก็เดินกลับไป แต่ยังไม่ถึงสามก้าว ก็มีคนร้องออกมาจากข้างในตึก พร้อมด้วยผู้คนที่อยู่แถวนั้นวิ่งกันวุ่นเลย
“ตึกกำลังจะถล่มแล้ว หนีเร็ว!!!”
ส่วนเค้า หันกลับมามองฉัน แล้วบอกให้ฉันรีบวิ่ง แต่ว่านะ ขามันไม่ขยับอ่ะ วิ่งไม่ออกจริงๆง่ะ แม่จ๋าช่วยหนูด้วยยยยยยยยยย
“ยัยโงเอ๊ยยยยยยยยย วิ่งสิว่ะ” แล้วเค้าก็วิ่งมาคว้าข้อมือฉันวิ่งตามเค้าไป
“นินาย วิ่งช้าๆหน่อยก็ได้ ฉันเหนื่อยนะ”
“เธอไม่ได้ยินรึไงว่าตึกกำลังจะถล่ม เธออยากตายรึไง”
ฮ๊า อะไรนะตึกถล่มงั้นหรอ
แฮกๆๆๆ อะไรกันเนี่ย ฉันฝันไปงั้นหรอ แต่ทำไมมันเหมือนจริงมากๆเลยละ เหนื่อยจริงๆด้วย แต่ว่าน่าเสียดายจัง ยังไม่ได้รู้จักชื่อเทพบุตรสุดหล่อคนนั้นเลย
“เฮ้อ เสียดายจัง ในชีวิตจริงจะมีเทพบุตรแบบนี้มั้ยน๊า”
“บ่นอะไรอยู่คนเดียวน่ะลูก เบล”
“ออ เปล่าค่ะแม่ เบลบอกว่าบนนี้ฝุ่นเยอะจังเลยนะค่ะ”
“หรอจ๊ะ แม่นึกว่าแอบฝันกลางวันอีก ไม่ดีนะจ๊ะลูกเดี๋ยวติดเป็นนิสัย”
วันนี้เป็นวันเสาร์แม่เลยให้ฉันมาทำความสะอาดห้องใต้หลังคา ซึ่งก็คือห้องคุณตานั้นเอง แต่แปลกแฮะ เวลามาทำความสะอาดห้องนี้ทีไร ฉันจะต้องเผลอหลับและฝันทุกทีเลย สงสัยห้องคงหน้านอนละมั้ง
“เบล แม่เรียกลงไปทานข้าวน่ะ”
“กำลังจะไปแล้ว เชล” เชลเป็นน้องชายฝาแฝดฉันเอง
ตอนนี้ฉันอายุ 18 แล้ว กำลังจะเข้ามหาลัย แม่อยากให้ฉันเรียนพยาบาลคอยช่วยเหลือผู้ป่วย ส่วนเชลแม่บอกว่าแล้วแต่ แต่ว่าฉันอยากเรียนจิตวิทยามากกว่า อยากรู้ว่าจิตของคนเรามีอำนาจมากแค่ไหนและเกิดจากอะไร อยากรู้ว่าวิทยาศาสตร์จะสามารถอธิบายเรื่องพวกนี้ให้ฉันได้มั้ย และที่สำคัญ ฉันอยากรู้ว่า ไอ้สิ่งที่เรียกว่า วิทยาศาสตร์ทางจิต มีจริงหรือไม่ เพราะฉันเคยอ่านเจอในหนังสือ มันทำให้ฉันเกิดความสงสัยอย่างมาก
“เบล เบล คิดอะไรอยู่จ๊ะ ทานข้าวสิลูก แม่อุตส่าห์ทำของโปรดลูกเลยน๊า”
“ออ ค่ะแม่”
“คงคิดเรื่องฝันอีกสิท่า”
“เรื่องของฉันน๊า เชล”
“ไม่เอาน๊าลูก”
“อ๊อ แม่ค่ะ หนูเจอไอ้นี้อยู่ที่ห้องใต้หลังคานะค่ะ แม่เคยเห็นรึเปล่าค่ะ”
มันเป็นกล่องไม้โอ๊กเล็กๆที่ว่างอยู่ใต้หมอน ฉันเห็นว่ามันสวยดีจึงหยิบมาดู และกะว่าจะเก็บมันดูเล่น
“คงเป็นของคุณตานะลูก เอาไปเก็บไว้ที่เดิมเถอะนะ”
“น่าจะใช่นะคะ เพราะว่ามันอยู่ใต้หมอนของคุณตาค่ะ”
“แม่ว่าเอาไปไว้ที่เดิมเถอะนะ”
“แม่ค่ะ แต่เบลอยากได้นิค่ะ เบลขอเก็บไว้กับตัวนะคะ”
“แต่ว่า.........”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณตามาเมื่อไหร่เดี๋ยวหนูค่อยเอาไม่คืนก็ได้ นะคะแม่”
“ตามใจละกันจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะแม่”
ฉันอยากรู้จังเลยทำไมคุณตาต้องเอาไอ้กล่องเล็กๆนี่ไว้ใต้หมอนด้วย คงสำคัญมากเลยสิ
ฉันนั่งมองกล่องไม้อันนั้นอยู่ในห้องนานสองนาน แต่ก็ยังสงสัยอยู่ดี ฉันเลยเอามันมาใส่ไว้ใต้หมอนเหมือนอย่างที่คุณตาทำบ้าง เพื่อว่าจะรู้อะไรดีๆ หลังจากนั้นฉันก็หลับไป
เอ๊ะ! ที่นี่มัน ที่ๆเราเจอเมื่อตอนกลางวันนิ นิฉันฝันอยู่หรอเนี่ย
“เธอเป็นไงบ้าง”
เฮ้ยยยยย! นายเทพบุตรนี่น๊า
“........”
“เราปลอดภัยแล้วละ”
“..........”
ฉันมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงกัน เมื่อกี้ฉันยังนอนอยู่ในห้องของฉันอยู่เลย บ้าไปแล้วเบล
ว่าแล้วฉันก็ตบหน้าตัวเองทีหนึ่ง
“เธอทำอะไรของเธอน่ะ”
“เอ๊ะ! ออ เออ....เปล่าหรอก ยุ่งกัดน่ะ” เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย
“ฝนกำลังจะตกแล้วไปหาที่หลบฝนกันเถอะ”
“อ่ะ อืม”
อะไรกันอยู่ๆฝนก็ตก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฉันกำลังฝันอยู่สินะ
“เออ....”
“เออ....”
“เธอพูดก่อนสิ”
“นายชื่ออะไรหรอ”
“ฉันชื่อ ทอมัส เธอละ”
“ฉัน เบล ยินดีที่ได้รู้จักน่ะ”
“อืม”
เราวิ่งมาหลบฝนกันที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะแห่งหนึ่ง
“ทำไมนายไม่กลับบ้าน”
“แล้วเธอล่ะ”
“เออ...........” นั้นนะสิ บ้านฉันอยู่ไหน
“ฉัน..........”
“จำไม่ได้ใช่มั้ยละ”
“นายรู้ได้ยังไง”
“ฉันก็เหมือนกัน”
เอ๋! มันหมายความว่ายังไงกันเนี่ย นายก็จำบ้านตัวเองไม่ได้เหมือนกันงั้นหรอ
“หมายความว่ายังไง ทำไมนายถึงจำบ้านตัวเองไม่ได้ละ สมองกระทบกระเทือนหรอ”
“แล้วเธอจำได้รึไงละ”
“เออ นั้นสินะ เราก็จำไม่ได้เหมือนกัน”
“ความจริงแล้ว ฉันไม่มีบ้านต่างหากละ”
“แล้วปกติ นายนอนที่ไหนละ ถ้าไม่ใช่ที่บ้าน”
“ไม่รู้สิ อยู่ที่นี้ฉันไม่ได้นอน”
“นายจะบ้าหรอ ไม่นอนแล้วอยู่ได้ยังไง”
“เธอคงยังไม่รู้สินะ ว่าตัวเองกำลังอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน”
“ดินแดนแห่งความฝัน” เขาพูดเรื่องบ้าอะไรของเขานะ
“นายบ้าไปแล้วหรอ”
“...........”
“ฉันแค่กำลังฝันอยู่ต่างหากเล่า”
“........”
“เออ แล้วทำไมฉันจะต้องเจอนายคนเดิมและก็ที่เดิมด้วยละ”
“แล้วคิดว่าทำไมละ”
“ฉันจะรู้ได้ยังไงเล่า”
“เธออยากรู้มั้ยละ ว่าทำไม”
“อืมๆ” ฉันพยักหน้าหงึกๆ
“ฉันก็คือคนที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของเธอยังไงละ คนที่เธอจินตนาการว่าหน้าตาเป็นแบบนี้ อยู่ในสถานที่แบบนี้ แล้วอีกอย่าง เป็นเพราะอำนาจของ กล่องความฝันนั้นยังไงล่ะ”
“กล่องความฝัน” กล่องที่อยู่ในห้องใต้หลังคางั้นหรอ
“นายหมายถึงกล่องไม้โอ๊ก เล็กๆนั้นนะหรอ”
“ใช่ นั้นนะเป็นกล่องความฝัน ผู้ที่ครอบครองมัน จะมีความฝันที่จินตนาการได้”
“ฉันไม่เข้าใจ”
“ก็เหมือนเธอไง เธอจินตนาการว่าฉันคือคนในฝันของเธอ และสถานที่แห่งนี้ก็อยู่ในจิตใต้สำนึกของเธอ มันทำให้ทุกครั้งที่เธอหลับอยู่กับกล่องใบนี้ เธอก็จะเข้าไปอยู่ในจินตนาการของตัวเธอเองยังไงละ”
“เดี๋ยวก่อนนะ นายกำลังจะบอกว่า นายคือ คนที่อยู่ในความคิดของฉันอย่างนั้นใช่มั้ย”
“จะพูดแบบนั้นก็ได้”
“แล้วปกตินายอยู่ที่ไหนละ”
“ฉันก็อยู่ในจิตใต้สำนึกของเธอยังไงละ”
“นายหมายความว่ายังไง”
“ก็จิตใต้สำนึกของเธอบอกว่าฉันคือคนที่เธอจินตนาการ ฉันก็อยู่ที่นั้นแหละ”
“งั้นนายก็ไม่มีตัวตนงั้นสิ”
“จะพูดแบบนั้นก็ได้”
“แต่ว่า ฉันจับต้องนายได้นะ”
“ก็ที่นี้คือดินแดนแห่งความฝันยังไงละ ไม่ว่าเธอนึกอะไร หรืออยากทำอะไรที่ไหน แค่เธอหลับตา ทุกอย่างที่เธอคิดก็จะปรากฏมาให้เห็นทันที”
“......” ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ มันจะประหลาดเกินไปแล้ว
“ถ้าเธอไม่เชื่อ เธอลองจินตนาการว่าเธออยู่กลางสวนดอกไม้สิ แล้วก็หลับตา”
- _ -
ฉันหลับตาแล้วจินตนาการว่าตัวเองกำลังอยู่กลางสวนดอกไม้แสนสวยที่มีผีเสื้อบินอยู่รอบตัว
“ลืมตาสิ”
ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมา ตอนนี้เค้าอยู่ตรงหน้าฉัน จมูกของเราสองคนเกือบชิดกัน แถมฉันยังได้กลิ่นลมหายใจอุ่นๆของเค้าอีกด้วย
“มองไปรอบๆสิ ตอนนี้เราอยู่กลางทุ่งดอกไม้”
มหัศจรรย์มาก
“นายทำได้ยังไงกัน”
“ฉันบอกแล้วไง ว่าที่นี้คือดินแดนแห่งความฝัน ไม่ว่าเธอจะคิดอะไร จินตนาการแบบไหน มันก็จะเป็นตามที่เธอคิดนั้นแหละ” ^^
“^()^” ว๊าว เขายิ้มด้วย น่ารักจังเลย ไม่น่าเชื่อว่าเค้าคือคนที่อยู่ใต้จิตสำนึกของฉัน ผู้ชายในฝันของฉันคือเขาจริงๆหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลน ผมสีน้ำตาลทองของเขา ใบหน้าเรียวเล็กอันขาวนวลของเขา ดวงตาเล็กๆของเขาก็ช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก ใช่เค้าเพอร์เฟกมากๆทีเดียวละ
“เอ่ เดี๊ยวนะ เมื่อกี้เราอยู่ในตู้โทรศัพท์กันไม่ใช่หรอ”
“ใช่ ก็ที่นี่ คือ..”
“อ่อ ฉันรู้แล้ว ที่นี้คือ ดินแดนแห่งความฝัน” เค้าพูดบ่อยจนฉันจำได้ว่าที่นี่ไม่ใช่ความจริง
“ทอมัส” อยู่ๆคำว่าทอมัส ก็หลุดออกจากปากฉัน อย่างไม่ทันได้คิดเลย
“ใช่ ฉันคือทอมัส เทพที่คอยรักษากล่องความฝันกล่องใบนี้ไงละ”
2
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันประกาศผลสอบนั้นเอง ฉันก็เลือกคณะพยาบาลนะ แต่ก็เลือกคณะจิตวิทยาด้วยเหมือนกัน ฉันว่านะถ้าคะแนนถึงทั้งสอง ฉันจะเลือกคณะจิตวิทยาแหละ ขอทำตามความชอบบ้าง ส่วนคณะพยาบาลฉันจะบอกแม่ว่าคะแนนฉันไม่ถึง ได้เวลาแล้ว ไปดูประกาศผลที่มหาลัยกัน เย้ๆๆๆๆ
ว๊า คนเยอะจัง ร้อนด้วย และตอนที่ฉันยืนรอดูผลสอบอยู่นั้นก็มีไอ้คนไม่มีมารยาทที่ไหนก็ไม่รู้ วิ่งมาชนซะเต็มแรงเลย
“ขอโทษ ครับๆ”
“ไม่มีตาหรอคะ” ฉันพูดด้วยความโมโหออกไป ก็คนยืนอยู่ตั้งเยอะรีบวิ่งหาแปะแกหรอ หึย โมโห ยิ่งร้อนๆอยู่ด้วย
“ก็ผมบอกว่าขอโทษแล้วไงครับคุณ”
“ก็.................” OoO! เฮือก ทันทีที่ฉันเห็นหมอนี่เข้า ก็ถึงกับพูดไปออกกันเลยทีเดียว
“ก็อะไร ผมขอโทษคุณไปแล้วนะ”
“ทะๆๆๆทำไมนาย เออถึงมาอยู่ที่นี้ได้ละทอมัส”
“คุณเมาแดดรึเปล่า ผมชื่อ ทีต้า ไม่ใช่ทอมัส แล้วอีกอย่าง เราไม่เคยรู้-จัก-กัน-มา-ก่อน ขอโทษด้วย ผมรีบ ไว้เจอกันคราวหน้า บาย”^^
(ยังจะมีน่ามียิ้มให้อีก)
“OoO”
นี้ฉันกำลังฝันอยู่รึเปล่าเนี่ยทำไมๆ อยู่ดีๆทอมัสก็โผล่มา แล้วทำไมเค้าบอกว่าเค้าไม่ใช่ แล้วรอยยิ้มนั่นอีก เค้าเหมือนทอมัสมาก นี่ฉันคิดมากไปรึเปล่านะเนี่ย ฉันคงฝันอยู่แน่ๆเลย ตื่นสิเบล ตื่นสิ
ตี๊ด ติ๊ด ติ๊ด
ฉันสะดุ้งทันทีเมื่อเสียงข้อความในกระเป๋าดังขึ้น
‘ว่าไงจ๊ะเบล รู้ผลรึยัง โทรบอกแม่ด้วยนะลูก’
เฮ้อ! ฉันไม่ได้ฝันจริงๆหรอเนี่ย ฉันเห็นทอมัสจริงๆ
หลังจากไปดูผลมา ปรากฏว่าฉันติดทั้งสองจริงๆ ฉันก็เลยเลือกคณะวิทย์อย่างที่คิดเอาไว้
ตกเย็น หลังจากฉันอ่านหนังสือเสร็จแล้ว ก็นั่งคิดถึงเมื่อตอนกลางวันไม่หยุด หรือว่าทอมัสจะเป็นแค่ภาพลวงตานะ แล้วฉันก็เผลอหลับไป
ในความฝันฉัน ฉันยืนอยู่ที่ไหนสักที่ในมหาลัย ฉันใส่ชุดนักศึกษา แต่รอบๆตัวฉันไม่มีใครเลยนะ แม้แต่ทอมัสเองก็เถอะ
“ทอมัส นายอยู่ไหน” ฉันตะโกนเรียกหาทอมัส แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับเลย นี้มันเกิดอะไรขึ้น
“ยัยโง่เอ๊ย หันหลังมาสิ”
นี้มันเสียงทอมัสนิ ฉันหันหลังกลับไปชนกับเขาเข้าเต็มๆเลย จนเกือบล้ม แต่ทอมัสก็รับไว้ทัน
“ยัยซุ่มซ่าม”
“นายจำฉันได้”
“เธอเพี้ยนรึเปล่า” ทอมัสจริงๆสิน่ะ ฉันยิ้มให้เค้าด้วยความดีใจ
“^^ เออนิ ทอมัส วันนี้ฉันไปดูประกาศผลสอบมาแหละ”
“ฉันรู้ แล้วเธอก็เจอฉันใช่มั้ยละ”
“นายรู้ได้ยังไง แสดงว่าคนๆนั้นก็คือนายจริงๆสินะ”
“ฉันรู้ เพราะฉันอยู่ในจิตใต้สำนึกของเธอ เธอคิดอะไรฉันรู้หมดแหละ ส่วนคนที่เธอเจอ จะบอกว่าใช่ก็ได้นะ แต่ว่าก็ไม่ใช่อยู่ดี”
“นายหมายความว่ายังไง ใช่หรือไม่ใช่กันแน่”
“ทั้งสองนั้นแหละ”
“ _^_ งงอ่ะ”
“คืองี้นะ ฉัน ทอมัสก็คือทอมัส ส่วนเค้าก็คือเค้า โอเคมั้ย”
“\#o#/”
“แล้วแต่เธอจะคิดละกัน”
งงมากเลยค่ะทุกคน ตกลงใช่หรือไม่ใช่กันแน่เนี่ย สับสนๆๆๆๆๆๆๆๆ
“ยืน บื้ออยู่ได้ ไปเรียนได้แล้ว”
“ฮ๊า ในฝันต้องเรียนด้วยหรอ”
“ก็จิตใต้สำนึกเธอบอกอย่างนั้นสิ”
“อ้าวหรอ ทำไมฉันไม่เคยรู้เลยละว่าจิตใต้สำนึกฉันกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ทำไมนายรู้ละ”
“ก็เพราะว่าฉัน.”
“ออ นายอยู่ในจิตใต้สำนึกฉันสินะ ฉันชักจะเบื่อคำพูดนี้ของนายซะแล้วละ เฮ้อ!”
“ถอนหายใจทำไม”
“นายไม่รู้รึไงละ”
“ถ้ารู้จะถามมั้ย”
“ก็ไหนนายบอกว่ารู้ทุกอย่างที่ฉันคิดยังไงละ”
“นั้นเฉพาะตอนที่ฉันไม่อยู่ต่อหน้าเธอต่างหากละ”
“ = =!”
ทำไมวันนี้เค้าพูดอะไรแปลกๆนะ ยิ่งฟังก็ยิ่งงง ว่าแต่ นาย ทีต้าอะไรนั้นเกี่ยวข้องกับ ทอมัสยังไงกันน๊า?
ฉันชักสงสัยมากขึ้นอีกแล้วสิ
กริ๊กกกกก กริ๊กกกกกกกกกก
โอ๊ยยย หนวกหูชะมัดเลย
“ยัยขี้เซา ตื่นได้แล้ว วันนี้มีเรียนไม่ใช่หรอ”
เสียงเชลนิ เข้ามาในห้องฉันได้ยังไงกัน
“เดี๊ยวนะเชล! นายเข้ามาในห้องฉันได้ยังไงกัน”
“เธอไม่ได้ล๊อกประตู แล้วอีกอย่าง แม่ให้มาตามลงไปกินข้าว แต่ฉันว่าเธอคงต้องไปกินที่มหาลัยตามเคยแล้วแหละ”
“หมายความว่ายังไง”
“ดูเองสิ” เชลชี้มือไปที่นาฬิกาบนหัวเตียงฉัน
OoO!!!!!!! โอม่ายยยยยยยยยยยยยยยย
“ฉันสายแล้วๆๆๆๆๆ เชลๆรีดเสื้อให้หน่อยนะ ฉันไปอาบน้ำก่อน”
“นิ ฉันเป็นคนใช้เธอตั้งแต่เมื่อไหร่ฮ๊า”
“เถอะน๊าช่วยหน่อยนะน้องรัก เดี๋ยวพาไปเลี้ยงหนัง นะจ๊ะ ^O^”
“เร็วๆละกัน”
“thank มากมายจ๊ะ”
นี้ก็อาทิตย์หนึ่งแล้วนะที่ฉันไปเรียนที่มหาลัย แต่ทำไมฉันก็ยังไม่ชินอีกนะ เหอะ! สงสัยทอมัส พาเที่ยวมากเกินไป ฉันเลยตื่นสายทุกวันเลย ฉันชักจะไม่ชอบทอมัสแล้วสิ
“เชลฉันไปก่อนนะ ตอนเย็นไม่ต้องรอนะฉันกลับค่ำน่ะ”
“เออๆ เรื่องเลี้ยงหนัง ก็อย่าลืมละกัน”
“ไว้มีตังค์เมื่อไหร่นะจ๊ะ บาย” ^^
“ยัยขี้โกง”
“^^”
เบลรีบวิ่งโดยไม่ทันระวัง จึงไปชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
“ขอโทษค่ะๆ ฉันรีบจริงๆขอโทษนะค่ะ” โดยที่ไม่หันกลับมามองเลยว่าคนๆนั้นคือใคร
“ขออนุญาตค่ะ” แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ฉันวิ่งอย่างสุดชีวิต และแล้ว ก็สายตามเดิม เฮ้อ! รู้งี้โดดดีกว่า
“เธอมาสายอีกแล้วนะ ณรินทิพย์ ถ้าเธอสายวิชาฉันอีกละก็ เธอติด F แน่ ฟันธง”
“ขอโทษจริงๆ อาจารย์ หนูจะพยายามค่ะ”
“เธอต้องทำให้ได้ ไม่ใช่พยายาม ไปนั่งได้”
“ค่ะ อาจารย์” นี้ถ้าฉันมาสายอีกฉันต้องติด F จริงๆหรอเนี่ย แม่ฉันไม่ให้ใช้นามสกุลด้วยพอดี แง่ๆ ไม่เอาน๊า เพราะนายแท้ๆเลยทอมัส ฮึย!
“เย้ ได้พักซักที ไปกินขนมดีกว่า ฮี่ ฮี่” ^^
“นิเธอ” เอ๊ ใครเรียกกันน้อ
“.........”
“ฉันเอง” ฉันหันไปมองตามเสียงนั้น
“ทอมัส! นะ นะ นายมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“ทอม่ง ทอมัสที่ไหนกัน เธอนี่เพี้ยนรึเปล่า”
“อ๊อ โทษทีๆ พอดีว่านายหน้าเหมือนเพื่อนฉันมากๆเลยอ่ะ”
“งั้นหรอ”
“ว่าแต่นายเรียกฉันทำไมหรอ แต่เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมนาย เออ...อย่าบอกนะว่านายเรียนอยู่..”
“ใช่ ฉันเรียนอยู่คณะนี้แหละ ทำไมหรอ”
“ปะ ปะ..เปล่า ไม่มีไร”
“ฉันชื่อ ทีต้า จำไว้ ไม่ใช่ทอมัส ยัยหน้าจืด อ๊อแล้วอีกอย่าง คนที่เธอเดินชนเมื่อเช้า ฉันเอง”
ตาย ละว๊าคราวนี้ ฉันจำได้ว่าครั้งก่อนฉันเคยด่าเค้าว่า “ไม่มีตาหรอค่ะ”
“แฮ่ๆ ขอโตดน๊า พอดีฉันรีบเกินไปหน่อย”
“ก็เลยลืมเอาตามาด้วยว่างั้น”
มีการยอกย้อนซะด้วย
“นินาย”
“ใครเคยพูดแบบนี้กับฉันน๊า” เออๆฉันเองแหละ แล้วทำไมขอโทษฉันก็ขอโทษแล้วนะ นายยังจะเอากับฉันอีกกกกกกกก
“เออๆ งั้นก็หายกัน ฉันไปละ”
ฉันกำลังจะวิ่งหนี แต่นายทีต้าอะไรนี้ กับดึงแขนฉันไว้ได้ทัน ฮึย น่าโมโหชะมัดเลย
“ไม่”
“นินายจะเอาอะไรอีก ฮ๊า” ฉันเริ่มจะมีน้ำโหแล้วนะ -0-
“เลี้ยงข้าว ฉันก่อน”
“ไม่ ทำไมฉันต้องเลี้ยงด้วย”
“เพื่อเป็นการขอโทษไง ไม่รู้จักหรอมารยาทนะ”
“รู้ แต่ไม่มีกับ นาย”
“งั้นหรอ แสดงว่าเธอคงไม่ต้องการไอ้นี้แล้วสินะ”
เฮ้ย!! นั้นมันโทรศัพท์มือถือฉันนิ เอาไปตอนไหนกัน
“ว่าไงละ ยัยหน้าจืด”
“เออๆ ก็ได้ๆ ตามมาละกันชิ -3-“
“).o.(“
“คืนโทรศัพท์ให้ฉันได้รึยัง” ในที่สุดฉันก็ต้องเจียดตังค์ค่าเลี้ยงหนังของเชลมาเลี้ยงข้าวนายนี่จนได้ เฮ้อ ! ไม่น่าซุมซ่ามเลยฉัน
“นิยัยน่าจืด”
“อะไร”
“หน้าเธออ่ะ”
“ทำไม” แล้วเขาก็ทำมือแบบว่าเหมือนมีอะไรติดอยู่ที่หน้าฉัน ฉันเลยลูบๆคลำๆดูก็ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรนี่น๊า
“ทำไมนะหรอ ก็มันจื๊ด จืด นะสิ”
“นินาย”
“).o.(” พูดแล้วเขาก็กลับไปตั้งหน้าตั้งตากินข้าวในจานอย่างสบายใจเฉิมเลย
“นั้นนายจะทำอะไรนะ”
เขาทำอะไรก็ไม่รู้บนโทรศัพท์ฉัน กดยุกยิ๊กๆอยู่ได้
“อ่ะ คืน อ๋อ เบอร์ที่โทรออกอ่ะ เบอร์ฉันนะ ทีต้า ไปละ บาย”
พูดจบนายนั้นก็โยนมือถือ คืนให้ฉัน เกือบรับไม่ทัน นี้ถ้าเกิดว่าตกแตก พัง ฉันจะทำยังไงละเนี่ย(ไม่เห็นยากเลย ก็ซื้อใหม่สิยัยโง่)
ว่าแต่ว่า ฉันไปขอเบอร์นาย ทีต้านั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน งง ? ? แต่ช่างเถอะฉันไม่เห็นจะสนใจเลย
3
“วันนี้เธอมีเรื่องที่มหาลัยงั้นหรอ”
“ก็นิดหน่อย”
“เพราะฉันสินะ”
“เพราะนายทีต้านั้นต่างหากละ แต่นายก็มีส่วนเหมือนกันนะจะบอกให้ที่ทำให้ฉันตื่นสาย”
“งั้นหรอ” ทอมัสทำเสียงเศร้าลง
“เฮ่ๆ ล้อเล่นน๊า อย่าคิดมากสิ”
“ฉันจะบอกวิธี ไม่กลับมาฝันแบบนี้ เอามัย”
“ไม่เอาน๊า ฉันล้อเล่น อย่าพูดแบบนี้สิ นายไม่อยากเจอฉันแล้วงั้นหรอ”
“เปล่าหรอก ฉันเหนื่อยน่ะ เลยพูดอะไรเรื่อยเปื่อย”
“เอ๊ นายไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย ทำไมต้องเหนื่อยด้วยละ”
“เออ ก็ ไม่มีอะไรหรอก อย่าสนใจฉันเลย”
*พี่ครับ รับสายด้วยครับ ๆ ๆ*
ฉันสะดุ้งตื่น เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง ใครโทรมาเอาป่านนี้เนี่ย
“สวัสดีค่ะ เบลค่ะ”
“นั้นชื่อเธอหรอยัยหน้าจืด” เสียงนี้มัน
“นาย....”
“ทีต้า^^”
“นี่นายเป็นบ้ารึไง เมื่อกี้นายยังอยู่ในฝันอยู่เลย แล้วตอนนี้นายโทรหาฉันได้ยังไงกัน”
“วะ วะ วะว๊าว นี่คิดถึงจนเก็บไปนอนฝันเลยหรอเนี่ย” เออว่ะ ลืมตัวไป นึกว่าทอมัส
“ช่างมันเถอะ นายโทรมามีไร เดี๊ยวนะ นายไปเอาเบอร์ฉันมาจากไหน”
“ฉันเก่งไง”
อ๋อ ฉันจำได้แล้ว เมื่อตอนกลางวันนี้ไง มิหน้าละ
“นายมีธุระอะไร”
“ก่อกวน”
“นิ บ้านนายไม่มีอะไรทำรึไง ถึงได้โทรก่อกวนชาวบ้านเค้า”
“ไม่ได้ก่อกวนชาวบ้าน กวนเธอคนเดียว”
นายนี่มันน่านัก
“เธอนอนรึยัง”
“ถ้านอนแล้วหมาที่ไหนคุยกับนายอยู่ฮะ”
โอ๊ยยยยยยยยย เซงนายนี่จริงๆเลย
“งั้นแสดงว่าฉันก่อกวนเธอได้สินะ ฮ่าๆๆๆ”
“แต่ว่าฉันกำลังจะนอน แค่นี้นะ”
“เฮ่ เดี๋ยวก่อนเด้”
“ฝันดี”
ติ๊ด ฉันกดว่างสายทันที ว่าแต่ทำไมวันนี้ทอมัสดูแปลกๆไปละ เค้าบอกว่าเค้าเหนื่อยด้วย นี้เค้าไปทำอะไรมางั้นหรอ ฉันซักเป็นห่วงเค้าซะแล้วซิ แต่จะทำไงดีละ คืนนี้ฉันคงไปเจอเค้าอีกไม่ได้ ก็มันตีสามนิ วันนี้ฉันคงไม่ได้นอนอีกแน่ แล้วอีกอย่างเสียงโทรศัพท์ของนายทีต้าก็ดังไม่หยุดซักที
วันนี้ฉันไม่เข้าเรียนสาย เพราะว่าฉันไม่ได้นอน หลังจากที่เสียงโทรศัพท์หยุดดัง ก็เป็นเสียงนาฬิกาปลุกแทน สรุปคือ นายนั้นเค้าจงใจก่อกวนฉันจริงๆ สงสัยวันนี้ต้องมีเคลียร์กันหน่อยแล้ว นั้นไงว่าแล้วนายนั้นก็โผล่หน้ามาเลย
“ อรุณสวัส เบล ไง หลับสบายดีมัยเมื่อคืน” ^^
“นินายต้องการอะไรกันแน่”
“อะไรหรอ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
“งั้นหรอ แล้วที่นายก่อกวนฉันเมื่อคืนนี้ละ มันอะไรกัน แล้วยังวันนี้อีก”
“ไม่ได้ต้องการอะไร แค่ต้องการก่อกวน ฉันก็บอกไปแล้วไง” มันจะมากเกินไปแล้วนะ ทำให้คนอื่นเดือดร้อน แล้วยังทำหน้าตาเฉยอีก นายนี่มันจริงๆเลย
“ทอมัส ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมนายทีต้าอะไรนั้นต้องคอยมาก่อกวนฉันด้วย”
“เรียกร้องความสนใจมั้ง”
“เพื่ออะไร”
“เขาอาจจะอยากเป็นเพื่อนกับเธอก็ได้”
“ไม่มีทาง เค้านิสัยแย่มาก” ถึงแม้ว่าน่าตาเขาจะดีมากๆก็ตาม
“ไม่หรอก จิตใต้สำนึกเธอไม่ได้บอกฉันยังงั้นซะหน่อย”
“ฉันไม่เชื่อหรอก”
“งั้นฉันจะพาเธอไปดูที่จิตใต้สำนึกของตัวเองดีมัย”
“ทำแบบนั้นได้ด้วยหรอ ทอมัส”
“ได้สิ ถ้าเธอต้องการ” ทำไม ทอมัส เป็นคนดีแบบนี้นะ สุภาพ น่ารัก คอยให้คำปรึกษาได้ทุกเรื่องเลย ตั้งแต่ฉันรู้จักทอมัสมา ฉันรู้สึกว่าชีวิตมีสีสันขึ้นเยอะเลย ไม่ว่าฉันจะอยากไปเที่ยวที่ไหน ทอมัสพาไปได้ทุกที่เลย ฉันอยากอยู่กับทอมัสตลอดไปจังเลย
“หลับตาสิ”
“อืม”
แค่พริบตาฉันก็มาอยู่ที่ไหนสักแห่งที่เป็นห้องขนาดใหญ่มาก ใหญ่ชนิดที่แบบว่าสุดลูกหูลูกตากันเลยทีเดียว แล้วที่ผนังก็ยังกล่องเรียงเต็มไปหมดเลย
“ที่นี้นะหรอคือจิตใต้สำนึกของฉัน”
“ใช่ ไอ้กล่องพวกที่เธอเห็นพวกนี้ ก็คือ ความคิดของเธอทั้งหมด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าเธอจะคิดเรื่องอะไรอะไรจิตใต้สำนึกของเธอจะบันทึกไว้หมดทุกอย่าง แม้ว่าหลายความคิดที่เธอก็จำไม่ได้เหมือนกัน”
“สุดยอดเลย ทอมัส นายรู้เรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน”
“ก็ฉันเป็นเทพนิ”
“เรื่องที่เราค้างไว้ เธออยากรู้มั้ยละว่าเธอคิดยังไง”
“อยากรู้สิ”
“หลับตา แล้วเธอจะเห็นที่ตัวเองคิด”
ฉันดีใจจังเลยที่ได้เจอผู้ชายในฝันซะที ไม่นึกเลยว่านายจะมีตัวตนจริงๆ ไม่ว่านายจะเป็นใครมาจากไหนก็ตามฉันก็จะไม่ปล่อยนายไปแน่ ยังไงซะ นายก็ต้องเป็นของฉันให้ได้
“ฮึย ฉันเคยคิดแบบนี้ด้วยหรอ ทอมัส”
“อืม” ทอมัสพยักหน้า นี้ฉันคิดจริงๆหรอ
ฉันรีบสะดุงตื้นขึ้นมาหลังจากที่ทอมัสบอกแบบนั้น และฉันก็หลับไม่ลงอีกเลยทั้งคืน อะไรกันเนี่ยทำไมฉันหื่นจังเลยอ่ะ อึย รับตัวเองไม่ได้เจ้าค่า นายทีต้าเนี่ยนะ บรือออออออออออ สยองจัง
วันนี้ก็เป็นอีกวันจนได้ที่ฉันเข้าเรียนสาย เฮ้อ !
เอ๊ะ ทำไมวันนี้เพื่อนในห้องเขานั่งเป็นคู่ๆกันละ
“อ้าว เบลมาแล้วหรอจ๊ะ” ใบหลิวเพื่อนที่อยู่คณะเดียวกันทักฉัน
“เออ ใบหลิวทำไมเพื่อนๆต้องนั่งกันเป็นคู่ๆด้วยละ”
“อ๋อ อาจารย์มะลิจะให้พวกเราทำรายงานเรื่องอวัยวะภายในของสัตว์นะ เลยให้จับคู่กัน เดี๋ยวอาจารย์จะแบ่งให้ว่าใครจะได้สัตว์อะไร”
อืม อย่างนี้นี่เอง
“เออ แล้วฉันละคู่กับใครหรอใบหลิว”
“ตอนนี้คนที่อยู่ในห้องครบคู่แล้ว เหลือก็แต่เธอ กับ เขา” ใบหลิวชี้นิ้วเรียวไปที่เขาคนนั้นที่เพิ่งจะวิ่งมาถึงประตูห้อง
“นายทีต้า!”
“ใช่จะ^^”
ไม่มีทาง แล้วใบหลิวก็เดินไปทางทีต้า
“ทีต้า นายมาทันพอดีเลย อาจารย์ให้จับคู่รอ เดี๋ยวท่านจะมาแบ่งงานให้”
“งั้นหรอ ฉันคู่กับใครละ”
“เบลจ๊ะ”
“เบลงั้นหรอ ฮึฮึ^^”
อึย ทำไมนายนั้นยิ้มแบบนั้นละเนี่ย
“สวัสดีจ๊ะ เด็กๆ”
นั้นไงอาจารย์มะลิมาแล้ว
“จับคู่ครบแล้วใช่ไหมจ๊ะ งั้นครูจะแบ่งสัตว์ให้นะจ๊ะ มีทั้งหมด สามชนิด มีกบ ไส้เดือน แล้วก็ปลาจ๊ะ ครูจะวางไว้ข้างหน้าแล้วส่งตัวแทนมานะจ๊ะ คู่ละหนึ่งคน ”
“ฉันไปเอง”ทีต้าพูดขึ้น
“ไม่ ฉันเอง”เรื่องไรฉันจะยอม เกิดนายนี้ไปหยิบไส้เดือนมาจะทำยังไงละ ฉันไม่ช๊อกตายหรอเนี่ย อี๊ แค่คิดก็ขยะแขยง > <
“ฉันบอกว่าฉันไปเองไงเล่า” ทีต้าพูดอีก
“ไม่ ฉันบอกว่าฉันเองไงเล่า”
“นิ สองคนนะจะทำงานไหมจ๊ะ” อาจารย์มะลิ
“...........”
“ -_- ”
สุดท้ายเราสองคนก็ไม่มีโอกาสได้เลือกเพราะมันเหลือตัวสุดท้าย นั้นก็คือ.................กบจร้า ฮ่าๆๆๆดีจังเลยที่ไม่ใช่ไส้เดือน ไม่งั้นมีหวังฉันชิ่งแหงๆ
อ๊บ ๆ ๆๆ ว๊าว น้องกบร้องด้วย ฉันจับน้องกบมาที่โต๊ะของฉันกับนายทีต้าที่ใช่ทำเล็บ ว่าแต่ทำไมหมอนั้นต้องเดินถอยหลังด้วยละ
“นายจะไปไหน” ฉันถาม
“ปะเปล่า” ทีต้าตอบแบบตะกุกตะกัก
“มาช่วยฉันผ่าน้องกบหน่อยสิ”ฉันยืนน้องกบไปใกล้ๆหน้านายทีต้า ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย หมอนั้นก็ดันเป็นลมซะได้ อากาศก็ไม่ได้ร้อนซะหน่อย เอ๊ะ รึว่า..........ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิดแล้วขำว่ะ
“U=U”
4
ห้องพยายาบาล
วู้วววววววว เซ็งชะมัดเลยทำไมต้องเป็นฉันด้วยเนี่ยที่ต้องมานั่งเฝ้านายนิ ชิ มือไม่พายยังจะเอาเท้าราน้ำอีก ไม่ช่วยทำงานแล้วยังมาเป็นลม ทำให้คนอื่นเค้าต้องมานั่งเฝ้า เเล็บก็ไม่ได้ทำ นายตื่นขึ้นมาละก็ ฮึ้ย
ไหนๆก็ไม่ได้เรียนแล้วฉันงีบบ้างดีกว่า
เบลปีนขึ้นไปนอนบนเตียงข้างๆทีต้า
ขณะที่เบลหลับอยู่นั้น ทอมัสก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆเธอ ทอมัสมองดูเบลด้วยสายตาที่แสนจะเจ็บปวด เพราะเขารู้ดีว่าหน้าที่ของเขากำลังจะหมดลงแล้ว และเขาก็จะไม่มีโอกาสได้เจอหน้าเธออีก
จริงๆแล้วทอมัสกับทีต้านั้นเป็นคนละคนกัน เพียงแต่ว่าทอมัสนั้นเป็นวิญญาณที่อยู่ในร่างของทีต้า พูดง่ายๆก็คือ มีสองคนในหนึ่งร่างนั้นเอง แต่ทอมัสไม่สามารถแสดงตัวในร่างของมนุษย์ได้ แต่ทีต้ากับทอมัสสามารถรับรู้ความรู้สึกของกันและกันได้ โดยผ่านม่านวิญญาณในตัวของพวกเขาเอง ทอมัสรู้สึกเบื่อที่ตัวเองต้องมาอยู่ในร่างของทีต้าแล้วไม่สามารถทำอะไรได้ ทีต้าเองก็รู้ แต่อยู่มาวันหนึ่งทอมัสท่องไปในโลกของเค้าในยามที่ทีต้าหลับ และได้เจอกับคุณปู่คนหนึ่ง
“เจ้าคือทอมัส ใช่มัย”
“ใช่ ข้าคือทอมัส”
“เจ้าจะปฏิเสธมัยถ้าข้าจะให้เจ้ารักษาของสิ่งนี้”
“มันคืออะไรงั้นรึ”
“มันคือ กล่องแห่งความฝัน”
“แล้วทำไมต้องเป็นข้า”
“แล้วเจ้าจะรู้เอง”
แล้วคุณปู่คนนั้นก็หายไป และหลังจากนั้นไม่นานทอมัสก็ได้เจอกับเบล เวลาที่เบลหลับอยู่กับกล่องความฝันทอมัสจะต้องอยู่ที่นั้นเสมอ นั้นก็คือดินแดนแห่งความฝันของเบล ทีต้ารู้ดีว่าทอมัสรู้สึกยังไงกับเบลและทอมัสก็ขอร้องให้ทีต้าเข้าไปเรียนที่เดียวกันกับเบล เพื่อที่เค้าจะได้รู้สึกว่าอยู่กับเธอตลอดเวลา ซึ่งทีต้าก็ยอมทำตาม
ทีต้าลืมตาขึ้นมาขณะที่ทอมัสกำลังก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของเบล
ทอมัสหันมายิ้มให้ทีต้าด้วยท่าทางเหนื่อยๆ ทีต้ารู้ดีว่าทอมัสรักเบลมากแค่ไหน เท่าที่เขาสัมผัสได้ ทอมัส
ยอมทำทุกอย่างให้เธอไม่ว่าจะเป็นอะไรที่เธอขอหรือสิ่งที่เธออยากได้ทอมัสจะทำให้เธอเสมอถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ในความฝัน แต่ทอมัสก็มีความสุขที่ได้ทำ และตอนนี้เวลาของเค้ากำลังจะหมดลง เนื่องจากว่าทอมัสผิดกฎของโลกวิญญาณที่มีความรัก จึงจะได้รับโทษโดยการที่ต้องอยู่ในร่างของทอมัสโดยที่ไม่สามารถออกไปไหนได้เลยเป็นวิญญาณที่จะต้องอยู่ภายใต้จิตสำนึกของทีต้าตลอดไป แต่เวลาเค้ายังไม่หมดหรอกนะ เค้ายังเหลือเวลาอยู่อีก 24 ชั่วโมง
หลังจากที่ทีต้าฟื้นขึ้นมา
“นิเบล” ทีต้า
“อะไร”
“วันนี้เธอรีบนอนเร็วๆนะ”
“ทำไมหรอ นายจะได้โทรมาก่อกวนฉันตอนดึกงั้นหรอ”
“เปล่าหรอก วันนี้ฉันจะไม่กวนเธอหรอก”
“ให้มันจริงเหอะ”
“รีบกลับบ้านได้แล้ว”
“ไม่ต้องไล่หรอกย่ะ แบร่”
เบลกลับมาถึงบ้านก็เกือบๆทุ่มแล้ว
“ทำไมเธอกลับค่ำจัง” เชล
“ก็บอกแล้วไงว่าธุระนิดหน่อย”
“งั้นมากินข้าวก่อนจ๊ะ”
“ค่ะแม่”
พอกินข้าวเสร็จเบลก็ขึ้นไปอาบน้ำ เสร็จแล้วก็เคลิมหลับไป
“หวัดดีทอมัส”
“อืม”
“อืม งั้นหรอ วันนี้นายเป็นไรไปทำไมดูซึมละ”
“เบล ฉันมีเรื่องอยากจะบอกเธอ”
“ว่ามาสิ”
ทอมัสหันหน้ามาหาเบล สีหน้าของทอมัสตอนนี้ดูเศร้ามากและยากที่จะบรรยายความรู้สึกเจ็บปวดของเขาเหลือเกิน ทอมัสรู้ดีว่าเขาทำให้เบลต้องกังวลใจแต่เขาต้องบอกเธอ
“เธอจะทำตามที่ฉันขอได้ไหม”
“อะไรหรอ”
“รับปากฉันสิ” ทอมัสกุมมือเบลไว้
“อืม ฉันรับปาก”
ทอมัสยิ้มน้อยๆบนใบหน้าที่แสนจะเจ็บปวดของเค้า
“พรุ่งนี้เธอก็จะไม่เจอหน้าฉันแล้วนะ”
“............”
“ใช่ไง ต่อไปนี้เธอจะได้ไม่ต้องไปเรียนสายแล้วนะ”
“...........”
“ฉันขอโทษนะที่ทำให้เธอต้องวุ่นวาย ต่อไปนี้เธอก็จะไม่เห็นหน้าฉันอีกแล้วละ”
ทอมัสก้มหน้าพูดออกมา
“ทำไมนายถึงพูดแบบนั้นละ นายไม่เคยทำให้ฉันเดือดร้อนซักครั้งเลยนะ
แล้วอีกอย่าง นายก็เป็นที่ทำให้ฉันมีความสุขมากๆด้วย”
“............”
“ไหนนายบอกว่านายอยู่ใต้จิตใต้สำนึกของฉันยังไงละ แล้วอยู่ๆนายจะหายไปได้ยังไงกัน”
เบลร้องไห้ออกมาหลังจากที่ทอมัสบอกว่าจะไม่มาให้เธอเห็นหน้าอีก
“ฉันขอโทษ”
“...............”
“แต่สิ่งที่ฉันจะขอเธอก็คือขอให้เธอจำฉันไว้ ในตอนที่ฉันเป็นฉันเป็นทอมัส ทอมัสคนนี้ที่...........”
“ที่อะไร”
ทอมัสดึงเบลเข้ามาใกล้ๆและสวบกอดด้วยความรักอันท่วมท้น เบลเองก็กอดตอบทอมัสด้วยความรักเช่นกัน เบลรู้สึกได้ว่าทอมัสพยายามจะสื่ออะไรกับเธอ ทั้งคู่ผละออกจากกัน
“เอามือมาจับที่หน้าอกฉันสิเบล”
“..............”
“เธอได้ยินที่ฉันบอกอะไรเธอไหม”
“............” เบลได้แต่ร้องไห้ และพยักหน้าให้กับทอมัส
ทอมัสโน้มใบหน้าอันสว่างใสของเขาลงมาใกล้กับใบหน้ารูปไข่ของเบล เค้าเช็ดน้ำตาให้เธอ และจุมพิตที่ริมฝีปากเธออย่างแผ่วเบา เบลจูบตอบทอมัสด้วยความรักเช่นกัน ทั้งสองจูบกันนานพอสมควร
“ฉันมีคำหนึ่งอยากจะบอกให้เธอฟัง และอยากให้เธอจำมันไว้ ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนฉันจะคอยอยู่ข้างๆเธอเสมอ”
“............”
“คอโรเมอิ อามูเรทีบิ” ทอมัสกระซิบที่ข้างๆหูของเบล
“หัวใจของข้ามอบให้แก่เจ้า”
ทอมัสจุมพิตเบลอีกครั้งก่อนที่เขาจะหายไป
วันรุ่งขึ้นคุณปู่ของเบลกลับมา
“สวัสดีค่ะคุณปู่” เบล
“ว่าไงหลานรัก ได้ยินข่าวว่าเอาของเล่นปู่ไปงั้นหรอ ได้เวลาคืนแล้วนะ”
“เบลขอไม่ได้หรอค่ะ”
“ปู่ไม่รู้หรอกนะว่าหลานติดใจอะไร แต่มันหมดเวลาแล้วละจ๊ะ ถึงตอนนี้กล่องนั้นจะอยู่กับหลานหลานก็จะไม่ได้เจอกับเขาอีกหรอกนะ”
“คุณปู่รู้”
“เชื่อปู่นะ”
“.............”
“เขาไม่ได้ไปไหนหรอกเดี๋ยวหลานก็เจอเขาทุกวันเองแหละ”
“งงค่ะคุณปู่”
“แล้วซักวันหลานจะรู้เอง”
5
หนึ่งปีผ่านไป
หลังจากที่ทอมัสหายไปเบลก็ไม่ได้เหงาเลย เพราะว่ามีทีต้าเข้ามาแทนถึงแม้ว่าทีต้าจะไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษเหมือนอย่างทอมัสแต่ทีต้าก็สามารถทำให้เบลยิ้มได้
ก่อนที่ทอมัสจะหายไป เขาได้ขอร้องทีต้าด้วยความรู้สึกของเขา ทีต้ารับรู้และรับปากว่าจะทำในสิ่งที่ทอมัสขอ นั้นก็คือเป็นเพื่อนกับเบลแทนเค้า แต่ทอมัสนั้นไม่ได้หายไปไหนเขายังอยู่ในร่างของทีต้า เป็นส่วนลึกของจิตใจของทีต้า และความรู้สึกของทอมัสที่มีให้เบลนั้นมันแทรกซึมเข้ามาอยู่ในจิตใจของทีต้าด้วยเหมือนกัน ทีต้ารู้สึกชอบเบลมากขึ้นทุกวัน แต่ทีต้าจะรู้สึกผิดเสมอเวลาที่แสดงออกถึงความรู้สึกรักเขาจะรู้สึกผิดต่อทอมัสเสมอ
วันนี้เป็นวันครบรอบที่ทอมัสหายไป เบลยังจำทุกอย่างเกี่ยวกับเค้าได้ดี วันนี้เบลจึงชวนทีต้าไปโบสถ์เพื่อระลึกถึงทอมัส
“ทอมัสที่เธอพูดถึง เค้าคือใครงั้นหรอ” ทีต้า
“.............”
“แฟนเธองั้นสิ”
“ เปล่าหรอก ฉันกับเขา................ช่างมันเถอะ” เบลรู้สึกแย่ที่ต้องตอบคำถามเรื่องทอมัสกับทีต้า
“แล้วทำไมเธอถึงต้องมาที่โบสถ์เพื่อระลึกถึงเค้าละ เค้าไปไหนหรอ”
“..........” เบลไม่ตอบ เธอก้มหน้าลงและน้ำตาก็ไหลรินออกมา
“เฮ้ นั้นเธอร้องไห้นิ เป็นไรไปเบล”
“ฉันไม่รู้ว่าเค้าหายไปไหน อยู่ๆเค้าก็หายไป วันนี้เป็นครบรอบที่ทอมัสหายไป ฉันอยากเจอหน้าเขา ฉัน........ไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหน ฉัน ฉัน ฮื่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
เบลร้องไห้หนักขึ้น และทีต้าก็ดึงร่างเธอเข้ามากอดเป็นการปลอบโยนเธอ เบลรู้สึกคุ้นกับอ้อมกอดนี้มาก เธอรีบผละออกทันที
“นาย!!”
“มีอะไรงั้นหรอ”
เบลมองหน้าทีต้า ด้วยความตกใจ ความรู้สึกตอนที่ทีต้ากอดเธอช่างเหมือนกับตอนที่ทอมัสกอดเธอเหลือเกิน
“นายรอฉันอยู่ข้างนอกนี่แหละ ฉันขออยู่คนเดียวในโบสถ์ซักพัก”
“อืม”
เบลเดินเข้ามาไปในโบสถ์ และนั่งคุกเข่าลงต่อหน้าท่านพ่อ พระเยซู เบลอ้อนวอนท่านให้เธอได้พบกับทอมัสอีกครั้งเบลนั่งอย่างนั้นอยู่เกือบชั่วโมงทีเดียว แม้เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอขอนั้นเป็นไปได้ยากมากแต่เธอก็แอบมีความหวังอยู่บ้าง
วันนี้ทอมัสรู้สึกเศร้ามากที่เห็นเบลร้องไห้ เค้าไม่อยากให้เธอร้องไห้เพราะเขาอีกแล้ว และทอมัสรู้ดีว่าทีต้าเองตอนนี้ก็เริ่มมีใจให้เบลแล้วเหมือนกัน ทอมัสรู้สึกได้ เขาส่งความรู้สึกผ่านกระแสจิตให้ทีต้า
‘ฉันรู้ นายรักเบล ฉันไม่ว่าหรอกนะ ถ้านายจะมาเป็นคนดูแลเบลแทนฉัน ฉันอาจจะทำใจรำบาก แต่ฉันไม่อยากให้เธอร้องไห้อีกแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากขอนายคือ...............’
ทีต้ารู้ว่าทอมัสจะขออะไรแต่สิ่งที่เขาขอมันอันตรายเกินไปสำหรับทีต้า จริงอยู่ที่มีความเป็นไปได้ที่ทอมัสจะปรากฏตัวในร่างของทีต้าเต็มตัว นั้นก็คือสลับวิญญาณทีต้ากับทอมัสชั่วคราวแต่เหตุแบบนั้นทำได้เพียงแค่ครั้งเดียว คือ วิญญาณของทอมัสอาจจะสลายตลอดกาลและทีต้าอาจจะต้องสูญเสียพลังจิตในร่างของเขาจนอาจจะต้องเป็นอันตรายถึงตายก็อาจเป็นได้ สรุปก็คือเป็นอันตรายต่อทีต้าอย่างมากและวิญญาณทอมัสจะต้องสลายไปตลอดกาลด้วย แน่นอนทีต้าไม่ยอมให้ทอมัสทำอย่างนั้น
‘นายไม่อยากอยู่ใกล้ๆเธอแล้วอย่างงั้นหรอ’ ทีต้าถามทอมัส
‘ฉันยกเธอให้นายดูแลแล้ว ฉันเชื่อใจนาย ฉันพร้อมที่จะไปแล้ว ฉันขอแค่ได้พบหน้าเธออีกซักครั้งก่อนที่ฉันจะไป ฉันขอร้องละทีต้า เราเป็นเพื่อนกันมาก็นานแล้วนะ ฉันขอนายละ’
ทีต้าไม่ตอบ เขาคิดทบทวนคำพูดของทอมัสวนไปวนมาอยู่นาน และในที่สุดเขาก็ยอม ทีต้าถอดสร้อยคอที่แขวนออก ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ติดตัวเขามาตลอดมันช่วยให้เขาดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติเพราะในร่างเขามีสองวิญญาณ ซึ่งสร้อยนั้นก็คือสิ่งที่สะกดทอมัสไว้นั้นเอง ทันทีที่เขาถอดสร้อยคอออกเขาก็สลบไปในทันที
เบลนั่งอยู่อย่างนั้นจนเกือบจะทั้งวันจนในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ เดินออกมาจากโบสถ์ เธอไม่เห็นทีต้าเลยเธอจึงเดินตามหาเขา
“นายคงยังไม่กลับใช่ไหมทีต้า” เบลพูดกับตัวเอง
เบลเดินจนแทบจะรอบโบสถ์แต่ก็ยังไม่เจอ
“ทีต้าๆๆ ทีต้าๆๆ นายอยู่ไหนน” เบลตะโกนเรียก
เธอเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงลานน้ำพุหน้าโบสถ์ตรงที่ที่ทีต้ารอเธอตอนแรก
“นายนิแย่จริงๆเลยนะทีต้า แค่นี้ก็รอไม่ได้ ถ้าจะกลับก่อนก็หน้าจะบอกกันบ้าง
ฉันจะได้ไม่ต้องตามหา ชิ ถ้าเป็นทอมัสละก็........”
“เรียกชื่อฉันทำไมหรอ” ทอมัส
“ฉันนึกว่านายกลับไปซะแล้วทีต้า”
“มองหน้าฉันดีๆสิเบล” ทอมัสยักคิวให้เธอ
เบลเดินเข้ามาใกล้ๆและเดินวนรอบตัวทอมัส
“นายจะเล่นอะไรอีกละฉันไม่สนุกหรอกนะทีต้า”
ทอมัสกระซิบที่ข้างหูเบลเหมือนครั้งที่เขาเคยทำ
“คาโรเมอิ อามูเรทีบิ” เบลอึ้งเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยคำนั้นต่อประโยคทอมัส
“หัวใจของข้ามอบให้แกเจ้า”
ทอมัสพยักหน้าให้เธอและยิ้มน้อยๆ เบลจำได้ทันทีว่านี้คือทอมัส เธอกระโดดกอดทอมัสด้วยความดีใจ แต่ด้วยความที่ทอมัสไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ทั้งสองล้มกลิ้งลงไปกับพื้นสนามหญ้าข้างลานน้ำพุ
“ยังซุ่มซ่ามเหมือนเดิมเลยนะเธอนิ” ทอมัสยังกอดร่างของเบลไว้อยู่
เบลได้แต่ยิ้มอย่างเขินๆ ทอมัสพลิกร่างเบลให้นอนลงและจุมพิตเธออย่างนุ่มนวลเช่นเคย ซึ่งเบลก็
หลับตาพริมรับรสจูบนั้นด้วยความเต็มใจ
ทอมัสเล่าเรื่องทุกอย่างให้เบลฟัง รวมทั้งเรื่องของทีต้าด้วย
“ทีต้าชอบฉันงั้นหรอ”
“ใช่”
“แล้วนายละ”
“ฉันทำผิดมามากพอแล้วฉันควรได้รับโทษอย่างหนักซะที”
“แล้วนายไม่รักฉันแล้วงั้นหรอ”
“ฉันเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่หรอ ว่าฉันกับทีต้าเราก็เหมือนคนๆเดียวกันเราสามารถสื่อสารกันได้ด้วยกระแสจิตแต่หลังจากนี้ ฉันอาจจะไม่ได้สื่อสารกับเขาอีก เพราะฉันทำให้เขาต้องเดือดร้อน”
“ยังไง”
“ฟังฉันนะเบล ฉันรักเธอมาก ทีต้าก็เช่นกัน ทีต้าเขายอมเสียสละพลังกายและพลังจิตของเขาให้ฉันสามารถใช้ร่างกายของเขาได้อย่างเต็มที่ ทั้งๆที่เขารู้ว่าผลมันจะเป็นยังไง แต่เขาก็ยอม ทีต้าเขาเป็นคนดีถึงแม้ว่าการแสดงออกของเขาอาจจะดูไม่ได้ แต่จิตใจเขาเป็นคนดี เชื่อฉันเถอะนะเบล รักทีต้าให้ได้เหมือนที่เธอรักฉัน เพราะทีต้าเขาได้เสียสละอย่างมากเพื่อให้ฉันและเธอได้เจอกันในครั้งนี้”
“ทำไมเขาไม่เคยเล่าเรื่องพวกนี้ฉันฟังละ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“เขาไม่เคยแสดงออกเลยนะว่าชอบฉัน”
“ฉันบอกเธอแล้วไง ว่าทีต้าเขารู้สึกผิดต่อฉัน แต่ต่อไปทั้งเธอและทีต้าไม่ต้องรู้สึกผิดต่อฉันอีกแล้วนะ ฉันอยากให้ทั้งเธอและทีต้ามีความสุข ฉันขอเธอแค่นี้ ทำเพื่อฉันนะเบล”
“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำได้ไหม”
“ฉันเชื่อว่าเธอทำได้ ลาก่อนตลอดกาล เบล”
ทอมัสจุมพิตที่หน้าผากของเบลก่อนที่วิญญาณของเขาจะสลายไปพร้อมๆกับเหลือร่างอันอ่อนปวกเปียกของทีต้าเอาไว้
“ทอมัส ทอมัส ไม่นะ ไม่นะ นิ นายเป็นไรไปนะ ตื้นขึ้นมาสิ”
ร่างของทีต้าเริ่มมีเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูก และตัวเขาเริ่มซีดขึ้น ตัวเขาร้อนเหมือนไฟ เบลตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมา
‘หลังจากที่ฉันไปแล้วเธอช่วยดูแลทีต้าอย่างดีด้วยนะ ฉันขอร้อง’ ทอมัสบอกเธอในตอนแรกที่เขาอธิบายเรื่องราวให้เธอฟัง
“นายอย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ ทีต้า”
เลือดไหลออกมาไม่หยุด ทำให้ตอนนี้มือของเบลเต็มไปด้วยเลือด เมื่อเธอตั้งสติได้เธอจึงเรียกรถพยาบาล
และทีต้าก็ถึงมือหมอจนได้
หมอบอกว่าทีต้าต้องนอนโรงพยาบาลหลายวันเนื่องจากร่างกายอ่อนแอมากและเสียเลือดเยอะเกินไป
และตอนนี้เขาก็ยังนอนไม่ได้สติอยู่
“ฉันขอบใจนายมากเลยนะทีต้า ที่นายทำเพื่อฉัน ฉันขอให้นายรีบฟื้นขึ้นมาเร็วๆนะ”
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป
เบลยังมาเยี่ยมทีต้าทุกวัน แต่เขาก็ไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นขึ้นมาเลย หมอบอกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าร่างกายของเขานั้นยังไม่ปกติเขาเลยยังไม่ฟื้นก็เป็นได้
เบลเดินเข้าไปข้างเตียงจับมือทีต้าไว้และกระซิบข้างๆหูของเขา
“คาโรเมอิ อามูเรทีบิ”
ทีต้าตอบสนองด้วยการกำมือของเบลไว้
“นิ นายรู้สึกตัวแล้วงั้นหรอทีต้า”
ผมหาทางกลับขึ้นไปในร่างปกติของผมได้ยากมาก เพราะว่าทอมัสเล่นอยู่ในร่างของผมนานเกินไปทำให้ผมจะต้องลงไปอยู่ลึกลงไปในจิตใต้สำนึกของผม ผมได้ยินทุกคำที่เบลพูด ผมอยากคุยกับเธอ อยากถามเธอเรื่องทอมัส ผมอยากอยู่เป็นเพื่อนเธอ แต่ผมก็ยังทำไม่ได้ จนวันนี้เธอพูดประโยคนั้นกับผม ประโยคที่ทอมัสเคยบอกเธอ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน มันทำให้ผมรู้สึกดีและมองเห็นทางกลับเข้าสู่ร่างเดิมของผมได้ ผมลืมตาขึ้นและพบว่าเบลยืนอยู่ตรงหน้าผม
“เธอเป็นไงบ้าง” ผมถามเธอด้วยความเป็นห่วง
“ฉันต่างหากละที่ควรเป็นฝ่ายถามนาย”
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อยนิ”
“ไม่เป็นไรได้ไง นายเล่นนอนหลับเป็นเจ้าชายนิทราไปตั้งเป็นอาทิตย์”
“โฮ่ นิฉันหล่อเหมือนเจ้าชายเลยงั้นหรอ”
“ฉันเปรียบเทียบยะ”
“อ้าว แล้วฉันไม่หล่อหรอ”
“อะไรของนายเนี่ย”
“เออ เมื่อกี้ก่อนที่ฉันจะฟื้นเธอพูดว่าอะไรนะ”
“เปล่าซะหน่อย” เบลเบือนหน้าหนีด้วยความเขิน
“นั้นเธอหน้าแดงทำไมอ่ะ”
“ก็บอกว่าเปล่าไงละ”
หลังจากนั้นหมอก็ให้ทีต้าออกจากโรงพยาบาลได้
“เออนิ เบล”
“ฮืม”
“ทอมัสเขาพูดอะไรกับเธอบ้างงั้นหรอ”
“ก็ไหนทอมัสบอกว่าพวกนายสื่อสารกันได้ นายไม่รู้งั้นหรอ”
“ใครจะไปรู้ ตอนนั้นทอมัสเล่นอยู่ในร่างฉันนานเกินไปทำให้ต้องตกลงไปข้างล่างลึกจนไม่สามารถรับรู้สิ่งที่เขาพูดกับเธอได้ยังไงละ”
“ออ งั้นหรอ เปล่าหรอก ทอมัสไม่ได้พูดอะไรมากหรอก”
“จริงดิ” ทีต้าหยุดเดินและหันมาถาม
“อืม” เบลยิ้มน้อยๆที่หลอกเขาได้
หนึ่งปีผ่านไป
เบลกับทีต้าเริ่มมีความสัมพันธ์ดีขึ้นแต่ก็ไม่มีใครยอมบอกความรู้สึกของกันและกันก่อนแต่ทั้งสองก็ยังคบกันโดยที่ไม่มีสถานะที่มันชัดเจน
“เฮ้อ! หนึ่งปีนิมันช่างเร็วๆจริงเลยนะว่าไหม” เบลกับทีต้ามาที่โบสถ์ในวันครบรอบของทอมัสอีกครั้ง
“ใช่ เร็วจัง ฉันรู้สึกเหมือนเพิ่งผ่านมาแค่วันเดียวเองนะ”
หลังจากสวดมนต์ให้ทอมัสเสร็จแล้วทั้งสองก็มานั่งเล่นกันที่ลานน้ำพุที่ที่เบลกับทอมัสเคยมาอยู่เมื่อปีที่แล้ว
“เบล”
“ฮืม”
“เรามาเล่นเกมทายคำกันดีไหม”
“เล่นเป็นเด็กๆไปได้ แต่ก็หน้าสนุกดีนะ งั้นฉันขอเริ่มก่อนนะ”
“O.K. ได้”
“นายหันหลังมาสิ”
เบลจิ้มนิ้วเล็กๆของเธอลงบนหลังของทีต้า และเขียนคำหนึ่งคำลงบนเสื้อของทีต้า
“เสร็จละ”
“อืมมม เบล”
“อ่ะ ถูก”
“มาตาฉันบ้าง”
ทีต้าเริ่มเขียนด้วยความตั้งใจ
‘เบล’
“เบล”
“อย่าเพิ่งสิ ยังไม่เสร็จเลย”
ทีต้ายิ้มเล็กๆกับแผนของเขา
‘เป็น’
“เป็น”
ทีต้ากำลังจะเขียนต่อ
“นิสรุปว่าฉันทายถูกไหม ทำไมไม่ถึงทีฉันซักที นายเขียนไปตั้งสองคำแล้วนะ”
“เหอะหน่า ใกล้เสร็จแล้ว”
แล้วทีต้าก็เขียนต่อ
‘แฟน’
“...........”
‘กันนะ’
เบลประมวลคำศัพท์ในหัว ‘เบลเป็นแฟนกันนะ’ แล้วหันหน้าไปหาทีต้า
“ว่าไงละ”ทีต้าถามพร้อมกับอมยิ้ม
“)^^(“ เบลได้แต่เขินหน้าแดงและพยักหน้าให้กับทีต้า
“ขอบใจนะเบล”
“ขอบใจเรื่องอะไร”
“ก็ขอบใจที่เธอยอมเป็นแฟนนะสิ”
“ฉันมีคำหนึ่งจะบอกนายละ”
“อะไรหรอ”
“นายจำคำที่ฉันพูดกับนายตอนที่นายอยู่โรงพยาบาลได้ไหม”
“เอออออ ออ คาโรเมอิ อามูทีบิ ใช่ๆ ฉันถามเธอตั้งหลายครั้งว่ามันแปลว่าอะไรแต่เธอก็ไม่ยอมตอบ”
“นายอยากรู้ไหมละ”
“อยากสิ”
“หันหลังมานี้สิ”
เบลเขียนความความหมายของคำๆนี้ลงบนเสื้อของทีต้า
‘หัวใจของข้ามอบให้แด่เจ้า’
“หัวใจของข้ามอบให้แด่เจ้า” ทีต้าทวนคำและหันหน้ากลับมาหาเบล
เบลยิ้มด้วยความเขิน
“ถ้าอย่างงั้นตอนนั้น เธอก็.........”
“อืม” เบลพยักหน้าให้แล้วอมยิ้มด้วยความเขินอาย
ทีต้าดีใจมาก เขาอุ้มเบลขึ้นและหมุนรอบๆน้ำพุ
“นิ พอแล้ว เดี๋ยวได้ตกกันพอดี”
“ฉันไม่รู้จะบอกยังไงดีว่าฉันดีใจมากแค่ไหน”
“นายไม่กลัวรู้สึกผิดต่อทอมัสแล้วงั้นหรอ” เบลถามยิ้มๆ
“ไม่ละ ทอมัสฉันรับปากทอมัสแล้วว่าฉันจะดูแลเธอแทนเขา เพราะฉะนั้นฉันจะดูแลเธอให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกนะ”
“ทีต้า”
“ฮืม”
“หลับตาสิ ฉันมีอะไรจะให้นาย”
“ทำไมต้องหลับด้วยละ”
“งั้นนายก็ไม่ต้องเอา”
“โอเคๆ หลับก็หลับ”
เบลยืดตัวขึ้นไปจะจูบทีต้า แต่ทีต้ารู้ทันจึงชิงจูบเธอก่อน
“นินาย ขี้โกงนิ”
“ใครขี้โกง ก็เธอจะขโมยจูบฉันนิ ฉันก็ต้องชิงก่อนสิ จริงไหม” ทีต้ายิ้มด้วยความเจ้าเล่
“นายนี้มัน”
ก่อนที่เบลจะพูดต่อ ทีต้าก็ใช้ริมฝีปากของเค้าประกบลงที่ริมฝีปากอันบางเบาของเธอด้วยความโอนโยน เบลรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ทีต้าส่งมาให้ผ่านรสจูบอันดูดดื่มของเขา ด้วยความรักที่มีให้เบลจูบตอบทีต้าด้วยความอ่อนโยนเช่นกัน เนื่องจากเวลานี้เป็นช่วงตอนเย็นพระอาทิตย์กำลังจะตกดินแสงสีทองกระทบกับหยดน้ำพุทำให้ภาพที่ทั้งสองคนจูบกันนั้นเป็นภาพที่สวยงามและยากที่จะลืมเสียเหลือเกิน
ผลงานอื่นๆ ของ Bonaducci ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Bonaducci
ความคิดเห็น