ตอนที่ 14 : สร้างหลักฐาน
ระหว่างเดินกลับไปที่บ้าน ฉันชำเลืองมองมือของฮยอนจินที่ถลอกเป็นแผลอยู่ห่างๆเขา
เขาจะเจ็บมากมั้ยนะ?
ด้วยท่าทางของฉันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่
ฮยอนจินหยุดเดินก่อนจะหันมามองหน้าฉัน
“ถึงบ้านแล้ว” เขาพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านฉันพอดี
“อ่ะ เอ่อ งั้น กลับดีๆล่ะ” ฉันพูดแล้วทำท่าจะเดินเข้าบ้านไปแต่หมอนั้นกลับดึงกระเป๋าฉันฉุดไว้ก่อน
“ฉันเจ็บอยู่นะ ไม่คิดจะรับผิดชอบหน่อยหรอ?” เขาพูดพลางยกมือข้างที่เป็นแผลถลอกขึ้นให้ดู
“งั้น เข้ามาก่อนสิ..” ฉันพูดก่อนจะเปิดประตูให้เขาเข้าไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่
ตอนนี้หวังว่าแม่ยังไม่กลับนะ ถ้าแม่รู้ว่าฉันพาผู้ชายเข้าบ้านนี่เรื่องใหญ่แน่
ฮยอนจินเดินก้าวขายาวๆของเขาเข้าไปในตัวบ้านก่อนจะมองไปรอบๆบ้านอย่างสงสัย
จนไปเจอรูปของเจ้าของบ้านอนเด็กๆเข้า
เขาอมยิ้มขึ้นก่อนจะหันมามองที่ฉัน
“ตอนเด็กเธอฟันหลอหนิ” เขาพูดขึ้นพลางทำท่าขำเมื่อมองไปที่รูปนั้น
ฉันรีบเดินไปเก็บรูปนั้นให้พ้นสายตาเขาทันที
“ใครเขาก็เคยเป็นแบบนั้นกันหมดแหละยิ่งถ้ามีแม่ชอบทำขนมอ่ะนะ..” ฉันพูดถึงสาเหตุที่ทำให้ฉันฟันหลอตอนเด็กๆ
“แต่ก็น่ารักดี” เขาพูดขึ้นลอยๆก่อนจะหันไปมองรอบๆบ้านต่อ
ไม่ได้การละ ฉันต้องรีบทำแผลให้หมอนี่จะได้รีบไปซะที
ฉันเดินเข้าไปเอากล่องทำแผลมาวางที่โซฟาที่ฮยอนจินนั่งรออยู่แล้ว
“ยื่นมือมาสิ” ฉันพูดพลางชุบสำลีกับน้ำยาล้างแผลก่อนจะหันไปมองเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ
ฮยอนจินจ้องตาฉันไม่กระพริบ นั้นทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจมากที่จู่ๆเขาก็ ดูไม่เหมือนตอนที่ยังโกรธฉันอยู่
“เบาๆนะ” เขาพูดขึ้นเพราะเหมือนฉันจะเหม่อไปชั่วครู่
“มือฉันเบาอยู่แล้ว” ฉันพูดก่อนจะเช็ดแผลให้เขาอย่างเบามือ
ฮยอนจินมองคนรงหน้าก่อนจะนึกทบทวนเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น
เขาไม่รู้ว่าเขาหายโกรธเธอหรือยัง แล้วทำไมเขาถึงหายโกรธ ?
คำถามเต็มไปหมดในหัวของเขา
แถมยังมีเรื่องชางมินเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเธออีก นั้นทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงว่าการเข้าหาของหมอนั้นต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างแน่ๆ
“ทำแผลเสร็จแล้ว” ฉันพูดและมองฮยอนจินที่ตอนนี่เหมือนกำลังเหม่อคิดอะไรอยู่ในใจ
“ อ่ะ อืม ” พอเขารู้ตัวก็มองที่แผลของตัวเอง
“ขอบใจนะ ที่ช่วยฉันไม่ให้โดนรถชนน่ะ” ฉันพูดขอบคุณก่อนที่เขาจะทวงดีกว่า
หลายครั้งแล้วที่เขาทำแบบนั้น เรื่องลูกบาส เรื่องพวกเด็กเกเรพวกนั้นอีก
“ก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะยกโทษให้เธอนะ” จู่ๆเขาก็พูดเรื่องนั้น
ทำให้ฉันรู้ว่ายังโกรธเรื่องยองฮุนอยู่สินะ
“ฉันรู้ แต่ว่าทำไมนายยังอยู่ที่นี่ล่ะ” ฉันพูดเรื่องความย้อนแย้งนั้นขึ้นอีกครั้ง
“ฉันแค่อยากรู้น่ะ ว่าเธอ ปล่อยให้คนนอกเข้ามาบ้านง่ายๆแบบนี้ได้ไง?ห้ะ” จู่ๆเขาก็เปลี่ยนเรื่องและทำหน้าโมโห
อะไรกัน?
“ก็นายบอกว่าฉันต้องรับผิดชอบไง”
“อ๋อ ถ้าเป็นไอ้ชางมิน ก็คงจะปล่อยให้มันเข้ามาง่ายๆเลยน่ะสิ เธอนี่มันใจง่ายะมัด”
เอ้ะ หมอนี่หาเรื่องว่าฉันอีกแล้วนะ!!
“ เหอะ ใช่ ฉันต้อนรับเขาอยู่แล้ว อย่าว่าแต่ในบ้านเลย ห้องนอน ถ้าเขาอยากเข้าไป ฉันก็ยอม พอใจยัง!! ” ฉันพูดก่อนจะลุกออกจากโซฟา
ฮยอนจินเมื่อได้ยินอย่างนั้นเขาก็โมโหหนักมาก เดินมาจับแขนฉันไว้แน่นมือของเขา
“ ไม่มีไอ้บ้าคนไหนเข้าไปในนั้นได้ทั้งนั้น!! ” เขาเริ่มตะคอกใส่ฉัน
“ฉันเจ็บนะ ปล่อย!” ฉันพยามดึงแขนตัวเองจากมือของเขา
ระหว่างนั้น
แกร็ก
เสียงเหมือนคนเปิดประตูนอกบ้านนั้นทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าแม่กลับมาแล้ว
บ้าจริง!!! ถ้าแม่รู้ว่าเขาอยู่นี่กับฉันสองคน ฉันต้องตายแน่ๆ
ฉันรีบเอามืออุดปากฮยอนจินทันทีก่อนจะลากตัวเขาไปที่ห้องฉันทันทีเพื่อซ่อนัวเขาไว้ก่อนที่แม่จะเข้ามาเห็น
เอี๊ยดด
“นายอยู่นี่นะ ห้ามส่งเสียงด้วย!” ฉันกระซิบบอกเขาที่ทำหน้างงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะรีบปิดประตูห้องตัวเองแล้วเอาหูแนบประตูว่าแม่เข้ามารึยัง
“ฮยอนจูกลับมาแล้วหรอ กินไรรึยัง?” แม่ตะโกนถามฉันจากข้างนอกทันทีที่เข้ามา
“เรียบร้อยแล้วแม่ หนูจะอ่านนังสือนิดหน่อยแล้วก็จะนอนค่ะ” ฉันตะโกนบอกแม่กลับไป
ก่อที่เธอจะสงสัย
“โอเคอย่าหักโหมล่ะ” แม่ตะโกนกลับมา
เหอออ
ฉันถอนหายใจและหันกลับไปมองฮยอนจินที่ตอนนี่เขานั่งอยู่บนเตียงของฉัน!!!
“นายทำบ้าไรนะ ลุกออกมาเดี๋ยวนี่นะ” ฉันพูดก่อนจะเดินเข้าไปดึงตัวเขาออกมาแต่เขาต่อต้านก่อนจะนอนทับที่ฉันลงไปทันที
“สงสัยจะไม่ใช่ชางมินล่ะมั้งที่ได้เข้ามาคนแรกน่ะ” เขาพูดพลางอมยิ้มอย่างยียวนกวนสุดๆ
บ้าเอ้ยนี่ฉันทำอะไรอยู่
“นี่ ออกมาจากเตียงฉันเดี๋ยวนี้นะ” ฉันพยายามดึงแขนให้เขาลุกออกมาแต่แรงไม่มากพอ
ฮยอนจินเห็นอย่างนั้นก็ดึงกลับจนทำให้ฉันล้มลงไปทับเขาที่นอนอยู่บนเตียง
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมันก็เกิดขึ้นอีกจนได้!!
ฉันมองหน้าเขาอย่างอึ้งๆที่จู่ๆก็มาอยู่ในอ้อมกอดเขาบนเตียงของตัวเอง!!
ฮยอนจินตอนนี้ก็อึ้งไม่แพ้กัน..O-O
O-O
“นาย..”พอได้สติก็รีบลุกออกมาโดยทันทีก่อนจฉันะถอยหลังไปชนกับผนังห้อง
ปึก!
ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูจากแม่ก็ดังขึ้น
แย่แล้ว
“เสียงไรน่ะฮยอนจู”
“ป่ะ ป่าวแม่ คือ คือ หนูเล่นโยคะน่ะ” ฉันรีบแก้ตัวทันที ก่อนจะหันไปมองฮยอนจินที่ลุกมานั่งอมยิ้มอยู่
“แม่จะปิดไฟบ้านละนะ ”
“ค่ะ แม่ฝันดีค่ะ”
“ฝันดีลูก” แม่พูดก่อนเสียงฝีเท้าเธอจะเดินจากไป
เกือบไปแล้วเชียว…
ฉันหันไปมองฮยอนจินอย่างตาขวาง
ก่อนจะเดินไปเปิดหน้าต่างห้องตัวเอง
“นายต้องออกไปเดี๋ยวนี้” ฉันพูดและมองเขาอย่างจริงจัง
“ได้ แต่เธอต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ไปยุ่งกับชางมินอีก ไม่งั้นฉันจะ…”เขาพูดก่อนจะเดินมาหาฉันทำหน้ามีเลศนัย
“นี่คิดจะทำอะไรถอยไปนะ” ฉันพูดงั้นอย่างไม่กลัวเขาแตะสองขากลับถอยหลังให้ห่าง
“ไม่งั้นทุกคนรู้เรื่องนี่แน่ แม่เธอด้วย” เขาพูดขู่และแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เขาเอาเรื่องที่เขาเข้ามาในห้องฉันมาขู่กันงั้นหรอ
“นายนี่มันปีศาจชัดๆ”
”ว่าไงล่ะ สัญญารึป่าว?” เขาทวงเรื่องที่ถามอย่างไม่สนใจคำด่าพวกนั้นเลยสักนิด
“ก็ได้ ฉันจะไม่ยุ่งกับเขา แต่ว่าฉันห้ามเขาไม่ได้หรอกนะ ฮึ..”ฉันพูดพลางแสยะยิ้มกลับไปนั้นทำให้เขาเหมือนโดนเอาคืน
“ฮยอนจูเธออยากเจอดีหรอ?” เขาทำหน้าดุทันที
“เชิญออกไปค่ะ ” ฉันพูดพลางเผยมือไปทางหน้าต่าง ให้เขารู้ว่าเขาต้องออกไปทางนั้นแทนประตู
“ก็ได้แต่ก่อนไป ต้องมีหลักฐานสักหน่อย” เขาพูดและหยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมาก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงมา จุ๊บที่แก้มของฉันและกดถ่ายรูปอย่างไว!!!
OoO!!
ฉันที่ช็อคกับการกระทำอันบ้าบิ่นของเขาอยู่นั้น
“ฮยอนจิน ไอ้บ้า” ฉันด่าเขาออกไปทันที!!
“ ชู่ๆ เบาหน่อยสิ เดี๋ยวแม่เธอก็ได้ยินหรอก” เขาพูดก่อนจะขยิบตาให้ฉันหนึ่งทีแล้วกระโดดออกไปจากหน้าต่างห้องฉันทันที
ฉันตบแก้มตัวเองที่แทบไม่อยากจะเชื่อว่านี่มันไม่ใช่ฝัน!!
“ฉันจะฆ่านายให้ได้ กรี้ด” ฉันกรี้ดออกมาเบาๆเพราะไม่อยากให้แม่ได้ยิน
………..
วันต่อมา
ฉันเดินมาโรงเรียนอย่างง่วงๆเพราะรู้สึกว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนเลยมัวแต่คิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานจนได้น่ะสิ….
บอกเลยวันนี้ไร้วิญญาณสุดๆใครจะหาเรื่องไรเชิญ…
“ ว่าไง ไม่ค่อยสดใสเลย ติวหนักไปหรอเมื่อวาน” ฟิลิกซ์เดินมาทักฉันขณะที่เข้าประตูโรงเรียน
“อ่ะ เอ่ คงงั้น..”
“วันนี้จะนอนห้องพยาบาลอีกมั้ยล่ะ?” ฟิลิกซ์ถามเรื่องที่ฉันต้องหลบหน้าพวกเพื่อนๆอีกครั้ง
”ฉันไม่สนแล้ว ใครจะว่าไงก็เถอะ” ฉันพูดก่อนจะถึงทางแยก
“เธอบอกฉันได้เลยนะ ถ้าใครแกล้งเธออีก ถึงพวกนั้นจะเป็นรุ่นพี่ก็เถอะ” ฟิลิกซ์พูดแล้วทำหน้าจริงจัง
เขาคงเป็นคนเดยวสินะที่ดีกับฉันในโรงเรียนตอนนี้
พรึบ!!
ฉันกอดคอของเขาอย่างเอ็นดูทำให้เขาโก่งตัวลงมาอย่างตกใจเพราะสูงกว่าฉัน
“ ขอบใจนะน้องฟิลิกซ์ ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก พี่น่ะ แข็งแกร่งที่สุดเลยรู้มั้ย” ฉันพูดพลางยิ้มออกมาให้เขามั้นใจว่าฉันไม่เป็นไร
“ปล่อยได้แล้วน่ะ ทำบ้าไรเนี่ย?” ฟิลิกซ์พูดก่อนจะแกะมือฉันออกก่อนจะรีบเดินหนีไปอย่างอายๆผู้คนที่มองมา
อุ้ยโทษทีนะลืมไปแถวนี้คนเยอะ ฉันต้องเบลอมากแน่ๆเลย ง่วงชะมัด><!
…
ในห้องเรียน
“ว่าไงนะ นายไปเจอไอ้ชางมินมางั้นหรอ?” ลีโนวตกใจกับเรื่องที่ฮยอนจินพูดบอกเขาในเช้านี้
“ใช่ เป็นอย่างที่คิด เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น มาจากมันแน่ๆ” ฮยอนจินพูดขึ้นอย่างมั้นใจกับสถานะการณ์
ลีโนวชำเลืองไปเห็นยองฮุนที่เดินเข้ามาก่อนที่เขาจะพูดต่อ
“แล้วนายจะเอาไงต่อ?” ลีโนวหันไปถามฮยอนจินต่อ
“ฉันจะหยุดเรื่องบ้าๆที่มันคิดจะทำให้หมด เรื่องที่มันคิดจะไม่มีวันเกิดขึ้น” ฮยอนจินพูดขึ้นและมองไปทางยองฮุนที่เดินไปนั่งลงที่โต๊ะของเขาด้วยท่าทางนิ่งๆไม่มีอะไร
“ทุกคนตารางสอบออกแล้วนะ เดี๋ยวฉันจะแจกให้” เสียงมีจูเดินเข้ามาในห้องพร้อมปึกกระดาษ พร้อมกับฮยอนจูที่เดินเข้ามาอย่างง่วงๆโดยไม่แคร์สายตาทุกคน
“ เอานี่จ๊ะ ฮยอนจู ” มีจูยื่นแผ่นกระดาษให้ฉันแต่ด้วยความง่วงยไม่ทันได้สังเกต ฉันเดินชนมือเธอจนแผ่นกระดาษนั่นตกลงไป
ทุกคนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่พอใจเท่าไหร่
เอาอีกแล้วสินะ
“เอ่อโทษทีนะ ฉันไม่ทันมองน่ะ” ฉันรีบหันไปพูดกับมีจูที่ทำหน้าเสียใจอยู่
“มา ฉันช่วยเก็บ” เสียงฮยอนจินดังขึ้นเขาเดินมาก้มลงเก็บแผ่นกระดาษพวกนั้นช่วยเธอ ทำให้มีจูเผยยิ้มออกมาอย่างดีใจ
ฉันมองพวกเขาสองคนที่ช่วยกันเก็บก่อนจะมองไปรอบๆห้องที่เพื่อนๆต่างมองแรงฉันอยู่
ตอนนี้ฉันก็เป็นตัวร้ายในสายตาพวกเขาแล้ว…
………..
ระหว่างเรียน
ความง่วงไม่เคยปราณีใครจริงๆ ฉันผงกหน้าเผลอหลับเป็นบางครั้งจนทำให้ครูคิมที่กำลังสอนอยู่มองมาที่ฉันอย่างเอือมๆ
“ฮยอนจู ออกไปยืนขาเดียวข้างนอกเผื่อจะหายง่วง” เขาพูดสั่งฉันทันที
โธ่เอ้ยเรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะนาย ฮยอนจิน นายจำไว้เลยนะ!!
ฉันเดินออกไปจากห้องอย่างคอตกเพื่อไปยืนกระต่ายขาเดียวข้างนอก
ระหว่างที่ยืนโดนทำโทษอยู่นั้น รุ่นพี่ชานก็เดินผ่านมาพอดี
“อ่าวนี้มันอะไรกัน ทำไมวันนี้เธอดูแย่กว่าทุกวันนะ” เขาพูดเป็นเรื่องน่าขัน
“ว่าแต่ฉันรุ่นพี่ล่ะ โดดเรียนรึไง มาเดินป่วนเปี้ยนแถวนี้น่ะ” ฉันพูดทำหน้ามุ้ยใส่เขา
“เอ่อก็ มาเดินสำรวจอะไรหน่อย…”
”..” ฉันทำหน้างงกับสิ่งที่เขาพูด
“ว่าจะมีกระต่ายโดนทำโทษแถวนี้มั้ย ฮึๆ” เขาพูดพลางอมยิ้มเล่นๆออกมา
นี่จะล้อกันไม่หยุดเลยใช่มั้ยเนี้ยยย
ครืดดด
เสียงประตูห้องเปิด
จู่ๆฮยอนจินก็เดินออกมานอกห้อง
“นายออกมาทำไมฮยอนจิน” ชานพูดและมองเขาอย่างสงสัยว่าเขาโดนครูที่สอนอยู่ให้ออกมาทำไม
“ฉันก็ออกมาโดนทำโทษน่ะสิ” ฮยอนจินพูดพางอมยิ้มมาทางฉัน
“นายไปแกล้งใครอีกล่ะเนี้ย?” ชานพูดพลางทำหน้าสงสัยเป็นเรื่องปกติที่ฮยอนจินคนขี้แกล้งจะทำ
“แกล้งลีโนว” ฮยอนจินพูดอย่างเขินๆที่จะพูดนี่เขาไม่มีคนจะแกล้งแล้วใช่มั้ยจนไปแกล้งเพื่อนตัวเองน่ะ
“เอาเถอะๆ ฉันปล่อยให้พวกนายโดนทำโทษดีกว่าฉันต้องไป ประชุมแล้ว” ชานพูดขึ้นในเรื่องที่น่าสงสัยนั้น
“ประชุมอะไร?” ฮยอนจินพูดอย่างสงสัยก่อนจะชำเลืองมามองฉัน
นี่เขากำลังคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ฉันไม่สามารถรู้ได้ใช่มั้ย?
“เรื่องแคมป์ไง พวกนายไม่รู้หรอ?” แต่รุ่นพี่ก็พูดเรื่องนั้นออกมา
“นี่รุ่นพี่ พวกเรายังไม่โดนตัดสิทธิ์ที่จะไปแคมป์กันงั้นหรอ?” ฉันถามเขาขึ้นทันที
“ไม่รู้สิ ฉันเลยจะไปถามผู้อำนวยการให้นี่ไง” ชานพูดก่อนจะเดินจากไป
แปลกแหะ…
“ ดูเธอจะตื่นเต้นกับเรื่องนั้นนะ อย่าบอกนะว่ายังอยากไปอยู่” ฮยอนจินพูดขึ้นอย่างสงสัยฉัน
“ป่าวซักหน่อย ว่าแต่นายไม่อยากไปงั้นหรอ ฉันรู้แค่ว่าพวกswansอย่างนายได้ไปทุกปีจากการคัดเลือกของโรงเรียน”
“ฮึ พูดงี้อยากให้ฉันไปด้วยหรอ?” เขาพูดแล้วทำหน้าอมยิ้มแบบมีเลศนัยมา
“ฉันจะคิดอย่างนั้นได้ไง ฉันจะมีสิทธิ์ไปซะที่ไหน การแข่งก็ล้มเลิกไปแล้ว”
“พูดงี้เหมือนจะอยากไปเลยนะ”
นี่เขาไม่ฟังที่ฉันพูดเลยใช่มั้ยเนี้ย????
……………..
//ประกาศ การจัดแคมป์ประจำปี จะเกิดขึ้นหลังการสอบ การคัดเลือกจะเปลี่ยนเป็นการคัดนักเรียนผู้มีคะแนนตามเกณฑ์จะสามารถเข้าร่วมแคมป์ในปีนี้ได้เท่านั้น//
ฉันอ่านประกาศบนบอร์ดของโรงเรียนถึงเรื่องที่ยังสงสัยอยู่
“แบบนี่ใช่มั้ย ทุกคนถึงแห่ไปติวหลังเลิกเรียนน่ะ” จู่ๆฟิลิกซ์ก็พูดขึ้นข้างๆฉัน
เขาต้องหมายถึงฉันแน่ๆ
“ฉันป่าวอยากไปซะหน่อย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโรงเรียนจะทำแบบนี้”
“ ยังไงก็เถอะ เธอผ่านอยู่แล้วหนิ” ฟิลิกซ์พูดอย่างมั้นใจ
“แล้วนายล่ะ ไม่อยากไปหรอ ถึงไม่เห็นจะกระตือลือล้นกับการสอบเลยสักนิด” ฉันพูดเพราะสังเกตเขามานานแล้วหลังเลิกเรียนเขามักจะไปเล่นกับเพื่อนๆมากกว่า
“เธอรู้จักฉันน้อยไปแล้วนะ ฮยอนจู ฉันเรียนเก่งจะตาย” ฟิลิกซ์พูดพลางเก็กอยู่
“ให้มันแน่เถอะ ถ้านายได้ไปแคมป์นี้ก็เป็นเพราะว่านายเป็นเด็กแลกเปลี่ยนมากกว่า ชิส์” ฉันพูดตัดบทก่อนที่เขาจะยอตัวเองมากไปกว่านี้
“เกินไปมั้ย…”ฟิลิกซ์ทำหน้าเซ็ง
“นี่ๆดูรายละเอียดนี่สินอกจากโรงเรียนเรายังมีนักเรียนจากโรงเรียนอื่นด้วยที่จะมาแคมป์นี่น่ะ” คนที่ยื่นอ่านบอร์ดข้างๆฉันพูดขึ้น กับรายละเอียดที่อยู่ในช่องเล็กๆถัดมา
รายชื่อของโรงเรียนที่จะเข้าร่วมนั้น!!!
“มีโรงเรียนพี่จูยอนด้วยหนิ!!” ฉันพูดอย่างตกใจที่เห็นเป็นแบบนั้น ทำให้ฟิลิกซ์สงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ?
“แล้วทำไมล่ะ?”
“ก็พี่จูยอนเรียนเก่งจะตายเขาต้องมาแคมป์แน่ เขาจะต้องเจอกับพวกswans”
“เอ่อ ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะน่าตกใจตรงไหน” ฟิลิก์ยังคงงงและไม่เข้าใจ
“ฟิลิกซ์ มันต้องเกิดเรื่องขึ้นในแคมป์แน่ๆเลยเพราะว่า…”ฉันทำหน้าลังเลว่าจะบอกเขาดีมั้ย?
“เพราะว่าอะไร?” ฟิลิกซ์เริ่มจะกังวลไปกับความจริงจังของฉัน
“พี่ชายฉันเป็นพวกboyz..”
เมื่อฟิลิกซ์ได้ยินแบบนั้น…
“ อีกคนแล้วหรอ?….”
…….
ณ ห้องกลุ่ม swans
ชานมองสมาชิกทุกคนที่เรียกมารวมตัวกัน
“พวกนายรู้เรื่องทั้งหมดแล้วสินะ” ชานพูดขึ้น
“แคมป์หรอ พวกนั้นต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลย” ชางบินพูดพลางแสยะยิ้ม
“ถ้าเราไม่ไป พวกนั้นก็จะสรุปว่าเราไม่รับคำท้าพวกมัน” ชานพูดขึ้นกับเหตุผลลึกๆทีมีแคมป์นี้ขึ้น
“พวกนั้นจัดการให้โรงเรียนยื่นขอผ่านโรงเรียนพ่อนายมาได้นี้ สุดยอดจริงๆ” ลีโนวพูดกับเรื่องที่พวกboyzทำ
”มันช่างท้าทายอำนาจมืดมากเกินไปแล้ว”ชางบินพูดขึ้นอีกครั้ง
“ถ้าฮยอนจูไปแคมป์นี่ นายจะทำไง ฮยอนจิน” ชานพูดขึ้นพลางหันไปมองฮยอนจินที่นั่งเงียบอยู่
“นายแน่ใจได้ไง ว่าเธอจะไป นายเป็นลูกเจ้าของโรงเรียนนะ ก็ทำให้เธอไม่ได้ไปสิ” ฮยอนจินพูดขึ้น
“นายจะให้ฉันโกงผลสอบเธอหรอ? แน่ใจนะ ว่านายอยากให้เธอเสียใจแบบนั้นน่ะ” ชานพูดให้เขาทบทวนดูดีๆก่อนจะขอให้เขาทำอะไรแบบนั้น
“งั้นฉันจะไม่ไปแคมป์นี้ ถ้าฮยอนจูไป” ฮยอนจินยื่นคำขาด
“เอาน่า ไม่เหมือนนายเลยนะ ฮยอนจินที่กลัวเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นน่ะ” ลีโนวพูดขึ้นแสดงความเห็น
”ฉันไม่ได้กลัวเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับฉันหรอกน่ะ” ฮยอนจินพูดขัด
”แต่นายกลัวเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับฮยอนจูสิน่ะ” ชานพูดขึ้นอย่างรู้เท่าทันใจเขา
ฮยอนจินมองชานก่อนจะถอนหายใจ
“ งั้นก็ฝากพวกนาย ดูแลเธอที่แคมป์ด้วยล่ะ ” ฮยอนจินพูดก่อนจะเดินออกจากห้องกลุ่มไป
“ฮยอนจินก็เป็นฮยอนจินอยู่วันยันค่ำ” ลีโนวพูดอย่างส่ายหัวเอือมๆ
เขารู้แล้วว่าเพื่อนเขาคนนี้ชอบเธอคนนั้นจริงๆ
“งั้น ก็ไปลุยพวกมันให้เละเลย” ชานพูดขึ้นพลางยิ้มมุมปาก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฉวยโอกาสเหลือเกินพ่อคุณ ไปจุ๊บแก้มเขาเฉยเลย