ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC HUNHAN ft.KRISLAY REBORN เกิดอีกครั้งขอรักอีกที

    ลำดับตอนที่ #4 : Re-born 3 100%

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 58






    Re-born 3

     

                วันนี้ลู่หานตื่นสายกว่าปกติ เพราะเมื่อวานเขาใช้เวลาทั้งคืนไปกับโน๊ตบุ๊คเพื่อค้นข่าวเก่าๆที่มีเขาเป็นตัวเอก ข่าวอุบัติเหตุแต่ไม่ว่าจะค้นสักกี่เว็บกี่ที่ก็เจอแต่ข่าวแบบเดิมๆเนื้อหาไม่ได้แตกต่างกันเลย จนเริ่มถอดใจมองเวลาก็ปาไปตีสองเห็นจะได้

                “อรุณสวัสดิ์พี่ลู่ มีไรกินมั้งอ่ะ” เซฮุนที่เพิ่งตื่นเดินออกจากห้องด้วยสภาพหัวยุ่งๆ หน้ายังไม่ทันได้ล้าง แต่ก็ยังดูดี

                “ขนมปังอ่ะ โทษทีวันนี้พี่ตื่นสายมาเตรียมอาหารให้เราไม่ทัน” ว่าพลางยื่นขนมปังไปให้อีกคน เซฮุนรับมากัดกินไปคำหนึ่ง ก็พูดขึ้นมาทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่

                “ขอนมจืดด้วยแก้วหนึ่ง”

                ลู่หานหันหลังไปเปิดตู้เย็นรินนมใส่แก้วเดินไปส่งให้เซฮุนที่นั่งอยู่บนโซฟา

                “พี่ผมขออีกแผ่นดิ ไม่ๆเอาเพิ่มอีกซักสามแผ่น” เซฮุนสั่งเพิ่มเมื่อขนมปังคำสุดท้ายเข้าปากไป

                ลู่หานจัดการให้ตามคำขอ เดินกลับเข้าครัวอีกรอบ จัดการทาแยมขนมปังห้าแผ่นวางใส่จาน เสร็จก็ยกไปเสิร์ฟ

                “ผมบอกว่าสามแผ่นไม่ใช่เหรอ เอามาทำไมตั้งเยอะ” เซฮุนท้วงขึ้นเมื่อเห็นมากเกินจำนวนที่ต้องการ

                “พี่กลัวนายไม่อิ่ม เหลือมาพี่กินเอง” ตอบกลับไปทั้งที่รู้ว่ายังไงก็ไม่เหลือ เด็กคนนี้กินเก่งมาก ลู่หานคอนเฟิร์ม

                “พี่เห็นหนังสือพิมพ์ป่ะ เอามาให้หน่อย”

                ยังไม่ทันที่ลู่หานจะตอบว่าเห็นไหม ก็ได้คำสั่งใหม่ว่าให้ไปหยิบมันมา ถามว่าลู่หานขัดได้ไหม ไม่ได้ เพราะ.......

              ผมก็ไม่อยากจะทวงเรื่องบุญคุณคนหรอกนะ      

                แล้วลู่หานจะมีทางเลือกอื่นเหรอ  

                “อ่ะ!” ลู่หานยื่นหนังสือพิมพ์ให้เซฮุน “มีอะไรจะใช้พี่อีก” คราวนี้ดักถามก่อนเลย

                เซฮุนเงยหน้ามองลู่หานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ผมใช้พี่ทำอะไรเหรอ”

                อิเด็กบ้า................ที่สั่งมานี่ไม่รู้ตัวเลยไง ลู่หานถอนหายใจ ส่ายหัวเดินหนีเข้าห้อง

              แมร่ม หงุดหงิดแต่เช้า

                เข้าห้องมาอย่างแรกที่ทำคืออาบน้ำ คุยกับเซฮุนทีไรรู้สึกตัวเองจะประสาทกินเข้าไปทุกที เพราะฉะนั้นอย่าคุยกับน้องเยอะ

                ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าสิบห้านาที วันนี้สระผมไง ปกติแค่ห้านาทีก็พอแล้ว เป็นผู้ชายแมนๆอาบทำไมนาน เดินออกจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูผืนบางที่ปิดท่อนล่างเอาไว้ ด้วยความเคยชินตามปกติ แต่วันนี้ผิดปกติ

                “เฮ้ย! เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่” ลู่หานรีบเอามือกอดตัวเองบดบังผิวกายส่วนบน ส่วนท่อนล่างมีผ้าขนหนูอยู่แล้ว สบายใจนิดนึง

                “ตั้งแต่พี่ บ่นผมแล้ว” เซฮุนกอดอกนั่งไขว้ห้างบนเตียงจ้องมองร่างขาวบางที่กำลังยืนนิ่งไม่ขยับ

                “นั้นมันตั้งแต่เริ่มอาบน้ำไม่ใช่เอ่อ” ลู่หานพูดกับตัวเอง

                “จะยืนอ่อยผมอีกนานไหม ไปใส่เสื้อผ้าเหอะ” คำพูดของเซฮุนทำให้ลู่หานพึ่งคิดได้ รีบวิ่งไปตู้เสื้อผ้าจัดการแต่งตัวภายในหนึ่งนาที เร็วที่สุดเท่าที่ลู่หานเคยทำมา

                เมื่อเช็คตัวเองเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับไปหาร่างสูงที่นั่งอยู่ท่าเดิมแถมมองเขาอยู่ตลอดเวลา

                “เข้ามานี่ มีอะไร”

                “เข้ามาใกล้ๆ” ลู่หานลังเลนิดๆแต่ก็ยอมเดินเข้าไปหาอีกคน เมื่อระยะห่างเริ่มลดลงพอเอื้อมถึง เซฮุนก็ดึงตัวร่างบางให้นั่งลงข้างกันบนเตียง ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กวางแหมะลงบนผมคนเป็นพี่ “เช็ดซะ”

                ลู่หานยกมือเช็ดผมตัวเอง แต่เหมือนจะไม่ได้ดั่งใจอีกคน “มา..เดี่ยวผมเช็ดให้” ก็เลยนั่งนิ่งๆให้เด็กมันหยีหัวเล่นๆ

                ผ่านไปสักพักลู่หานก็ถามคำถามเดิม “เซฮุนเข้ามาทำไร”

                “ผมมีอะไรอยากให้พี่ดู อ่ะ...แห้งแล้ว” ผ้าขนหนูถูกทิ้งลงบนเตียงหลังจากใช้งานเสร็จ เซฮุนจูงมือลู่หานออกจากห้องแล้วพาเข้าห้องตัวเองแทน

                ลู่หานไม่เคยเข้าห้องของเซฮุนมาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรก แม้จะเคยมาตามอีกคนไปกินข้าวบ่อยๆ แต่นั้นก็แค่หน้าประตู ไม่ได้เข้ามายืนอยู่กลางห้องเหมือนครั้งนี้

                “นั่งสิ” ลู่หานนั่งลงบนเก้าอี้ ส่วนเซฮุนยืนซ้อนหลังเขาอยู่ บนโต๊ะมีกระดาษอยู่ปึกหนึ่งกับอัลบั้มรูป ลู่หานมองด้วยความสนใจ “เปิดดูมันสิถ้าพี่อยากรู้” เซฮุนว่าขึ้น

              มือบางพลิกปกอัลบั้มออกทำให้เห็นรูปภาพข้างใน “คริส” ปากบางขยับพูดออกมาเองเมื่อจำได้ขึ้นใจว่าคนในรูปคือใคร

                “ใช่! คริส จำแม่นนิ เปิดหน้าต่อไปสิ” ยังไม่ทันที่ลู่หานจะถามอะไรออกไป เซฮุนก็บอกให้เปิดไปอีกหน้า

                “คนนี้.....คนเมื่อวานนี่” ไม่ผิดแน่เขาเจอมาเมื่อวาน นามบัตรยังอยู่ในห้องเขาอยู่เลย

                “ใช่! คนเมื่อวาน พี่เลย์ พี่ชายผมเอง” เซฮุนเฉลย “เปิดอีกสิ”

                “คนนี้พี่ไม่รู้จัก” ลู่หานส่ายหัวน้อยๆ

                “ต่อไปนี้พี่ต้องรู้จักคนในอัลบั้มรูปทั้งหมด”

                “นายจะให้พี่จำคนทั้งหมดนี้เหรอ”

                “ใช่! คนพวกนี้ก็เกี่ยวข้องกับพี่ทั้งนั้น พี่สามารถตีสนิทกับคนพวกนี้ได้ แต่ผมมีกฏห้ามอยู่สองข้อ ข้อแรกพี่ต้องบอกกับทุกคนว่าพี่ไม่ใช่หมอลู่หาน แต่พี่เป็นลู่หานเจ้าของร้านอาหาร”

                “เจ้าของร้านอาหาร พี่เนี่ยนะ เป็นตอนไหน พี่เป็นมากสุดก็พ่อครัวให้เซฮุน”

                “เป็นวันนี้ไง ผมเปิดร้านอาหารไว้รอพี่เรียบร้อยแล้ว”

                “ห๊ะ!...เซฮุนพี่ว่ามันเกินกำลังพี่ไปรึป่าว พี่สมองเสื่อมอยู่นะ”

                “อย่ากังวลไป ผมไม่ให้พี่ทำคนเดียวหรอก ร้านอาหารที่ผมบอกเป็นร้านผมกับเพื่อนเราหุ้นส่วนกัน และพี่ต้องไปทำงานแทนผม แค่นั้นเอง”

                “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ให้พี่เป็นเชฟไม่ง่ายกว่าเหรอ”

                “เอาน่า...ไป! ผมจะพาพี่ไปร้านนั้นกัน”

                “ตอนนี้เลยเหรอ”

                “ใช่!” เซฮุนลากลู่หานออกจากห้องทั้งเสียงประท้วงจากอีกคนที่ขอเวลาแต่งตัวใหม่ “พี่เปลี่ยนชุดก่อนไม่ได้เหรอ” แต่เซฮุนไม่ฟังคำ ยัดอีกคนขึ้นรถบึ่งออกมาทันที

     

     

     

     

     

     

     

     

    ร้านอาหาร XOXO

                ลู่หานไม่อยากลงจากรถด้วยสภาพแบบนี้ สภาพกางเกงขาสั้นสามส่วน เสื้อกล้ามสีขาว กับรองเท้าหูคีบ เพราะร้านมันหรูมากจนการแต่งตัวเขามันไม่เกียรติสถานที่ยังไงไม่รู้

                “ลงมาได้แล้ว” เซฮุนเปิดประตูรถให้ลู่หาน

                “ไม่เอา ไม่กล้าเข้าไป” เอ่ยอย่างงอแง จนเซฮุนต้องกระชากตัวอีกคนลงมา ลู่หานที่ตัวบางร่างเล็กเลยปลิวออกมาตามแรง

                แรงกระชากเมื่อกี้ทำให้เสื้อกล้ามตัวบางของลู่หานเลิกขึ้น และเซฮุนเห็น พึ่งจะมาสำรวจสารรูปอีกคน มองดูเสื้อกล้ามที่บางจนเห็นถึงไส้ใน “นี่พี่แต่งตัวอะไรของพี่เนี่ย”

                “แต่งตัวอยู่บ้านอะดิ บอกให้รอแปปขอเปลี่ยชุดก่อนก็ไม่ฟังกันมั้ง ทีนี่ทำมาเป็นถาม” บ่นอีกยืดยาว

                “พอๆ เอาใส่ไว้” เซฮุนเบรกคำพูดของอีกคนด้วยการถอดเสื้อแจคเก็ทของตัวเองส่งให้อีกคน

                “ขอบคุณ” ลู่หานรับมาสวม ยังไงก็ดีกว่าเสื้อกล้ามเพรียวๆ ใส่เสร็จก็มองคนข้างกาย พบว่าเซฮุนในตอนนี้เหลือแค่เสื้อกล้ามสีดำ “เซฮุน นายไม่...”

                “ช่างผมเหอะน่า ผมโชว์ก็ดีกว่าพี่โชว์แล้วกัน เข้าไปข้างในเหอะ”

                ลู่หานเงียบเสียงลง เขาแค่กังวลว่าเซฮุนจะถูกมองเหยียดๆจากคนอื่นเหมือนที่เขาโดนรึป่าว แต่ท่าจะไม่ เพราะพนักงานสาวต้อนรับหน้าประตูมองเซฮุนด้วยสายตาแพรวพราว ต่างจากที่มองผมเมื่อกี้ลิบลับ

              คนหล่อนี่ใส่อะไรก็ดูดีไปซะหมดสินะ

                “สวัสดีค่ะ มากี่ท่าน” เธอรับแขกด้วยเสียงที่มีจริตจะก้าน

                2 คนครับ” เซฮุนตอบ

                “เชิญด้านในเลยค่ะ” เธอเชิญผมและเซฮุนเจ้าไปในร้าน โต๊ะที่พวกเรานั่งเป็นมุมติดหน้าต่างและห่างไกลแขกคนอื่นๆในร้าน

                “ช่วยเรียกชานยอลให้ผมที บอกว่าเพื่อนเก่ามาหา” เซฮุนฝากคำกับพนักงานสาว เธอรับคำและเดินออกไป รอเพียงไม่นานคนที่เซฮุนอยากเจอก็มาถึง

                “เฮ้ย! เซฮุน คิดตั้งนานว่าใครมาหา ไงครับ พร้อมจะเข้าทำงานแล้วเหรอ ทิ้งให้ฉันดูแลคนเดียวตั้งสี่ปี” เสียงชายหนุ่มร่างสูงผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของร้าน

                “ยังหรอก แต่หาคนมาทำแทน”

                “ฮือ...แล้วนี่ใครอ่ะ” เจ้าของร้านที่มัวแต่คุยกับเพื่อนสนิท พิ่งจะสังเกตเห็นคนตัวเล็กที่นั่งอยู่

                ลู่หานลุกขึ้นยืนทักทาย “สวัสดีครับ ผมชื่อ ลู่หาน”

                “ครับ ผม ปาร์ค ชานยอล” เจ้าของร้านแนะนำตัวเองกลับ ตามด้วยเซฮุนที่พูดแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน

                “คนนี่แหละที่ฉันจะให้มาดูแลงานช่วยนาย เขาเป็นพี่ที่ฉันรู้จัก และอยากให้นายช่วยเทรนงานให้พี่เขาด้วย”

                “พี่เหรอ? หน้ายังเด็กอยู่เลย เป็นพี่ผมเหรอเนี่ย”

                “ถ้าชานยอลอายุเท่าเซฮุน ก็เป็นพี่แหละ”

                “พี่รอผมอยู่นี่นะ อยากกินไรสั่งเลย เดี๋ยวผมมา” เซฮุนบอกกับลู่หาน “ชานยอลฉันอยากเข้าห้องน้ำอ่ะ ไปเป็นเพื่อนทีดิ” ประโยคหลังบอกกับเจ้าของร้าน ทั้งยังดึงตัวอีกคนออกมาเลย

                ลู่หานมองสองเพื่อนสนิทที่เดินออกไปด้วยกัน เขารู้ว่าเซฮุนคงอยากคุยกับชานยอลเป็นการส่วนตัว และเขาก็จะไม่ถามว่าคุยอะไรกัน ถ้าเซฮุนอยากบอกก็คงจะบอกเอง

                “ผมขออเมริกาโน่เย็นแก้วหนึ่งครับ” ระหว่างที่รอก็ขอกาแฟอยู่เป็นเพื่อนแล้วกัน

     

     

     

                “คนเดียวกันกับที่เป็นข่าวอยู่ใช่ไหม” ชานยอลเอ่ยถาม

                “อืม”

                “ว่าล่ะ! หน้าคุ้นๆ หาตัวเจอจนได้สินะ แล้วนี่จะให้มาทำงานกับฉันจริงอ่ะ ไม่กลัวฉันคาบไปกินเหรอ”

                “หึ! จีบพี่แบคฮยอนให้ติดก่อนเหอะ ฉันถึงจะกลัว”

                “โอ้ว แรงงง”

                “พอๆ พี่ลู่หานความจำเสื่อม อ่านออก เขียนได้ พูดรู้เรื่อง จริงๆเขาแค่ลบความทรงจำของตัวเองที่เกี่ยวข้องกับคริสไป ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

                “แค่ผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่งฉันดูแลแทนแกได้น่า แต่แค่เวลางานพอนะ เดี๋ยวพี่แบคของฉันเขาจะงอล”

                “ฉันจะสวดมนต์ภาวนาทุกคืนให้แกได้กับพี่แบคฮยอนเลยเอ้า!

                “รักแกว่ะ มามะ มากอดหน่อย” ชานยอลว่าทั้งเอือมตัวหวังจะกอดเซฮุน แต่อีกคนรีบถอยตัวออกห่างทันที เพราะสายตาพบเข้ากับร่างเล็กของผู้มาใหม่

                “หยุดเลยๆ”

                “หวงเนื้อหวงตัวเป็นสาวเลยนะครับเพื่อนฮุน”

                “เอ่อน่า ยังไงก็ช่วยๆพี่ลู่หานเขาหน่อยละกัน ฉันเชื่อใจแกนะเว้ย”

                “บอกว่าช่วยยังไงก็ช่วย เต็มกำลังเลยครับงานนี้”

     

    Reborn……….

     

     

                เวลาผ่านมาสองวันลู่หานปรับตัวเข้ากับงานได้อย่างคล่องแคล่ว อันที่จริงเขาต้องทำหน้าที่ผู้จัดการร้านช่วยชานยอล แต่ด้วยความที่ชอบจับมีดจับหม้อ ลู่หานจึงผันตัวเองมาเป็นผู้ช่วยเชฟแทน

                "พี่ลู่หานครับ เซฮุนมารับกลับแล้ว" เสียงของชานยอลเอ่ย

                 "อือ อือ แปปนะใกล้เสร็จแล้วบอกให้รอก่อน" ลู่หานหันหน้าตอบชานยอลที่ยืนออยู่หน้าประตูครัว ใช้เวลาจัดการตัวเองเพียงครู่จึงเดินออกมาหาเซฮุน

                "พี่เสร็จแล้ว ป่ะกลับกัน"

                "เดี่ยวครับ นั่งลงก่อน ผมมีอะไรจะให้ดู" เซฮุนเอ่ยขัด ลู่หานนั่งตามอย่างว่าง่าย

                "โอกรุ๊ปจะจัดงานเปิดตัวรองประธานคนใหม่ ซึ่งก็คือ คริส งานลี้ยงจะถูกจัดขึ้นอีกสองสัปดาห์ ผมจะเสนอร้านxoxoเข้าที่ประชุมให้จัดการเรื่องอาหาร" เซฮุนยื่นเอกสารให้ลู่หานและชานยอลดู

                "ฉันไม่มีปัญหากับงานนี้ สั่งมาเลยว่าจะให้ทำอะไร" ชานยอลตอบตกลง เซฮุนพยักหน้ารับแล้วเบี่ยงสายตามองลู่หาน

                "ถ้าชานยอลช่วย พี่ก็ไม่มีปัญหา"

                "งั้นดี อีกสองวันจะมีการประชุมอีกครั้ง เตรียมตัวให้ดี สมกับที่ผมใช้เส้นตัวเองให้ร้านเราจัดงานแล้วกัน"

     

     

     

     

     

    Reborn.....

     

    Sehun

                หลังจากที่ส่งพี่ลู่หานที่คอนโดเสร็จ ผมก็ขับรถกลับบ้านตัวเองตอนทุ่มกว่า คาดว่าทุกคนจะอยู่บ้านครบ ผมเช็กมาแล้วว่าวันนี้ทุกคนที่บ้านไม่มีธุระตอนเย็น และนี้เป็นโอกาสดีที่ผมจะมาเซอร์ไพรส์ทุกคน

                ประตูรถถูกเปิดออกโดยลุงฮันบิน ลุงเป็นคนขับรถของบ้านผมเอง ผมกล่าวสวัสดีทั้งยื่นถุงของฝากไปให้ลุง ลุงยิ้มให้ผมอย่างดีใจ ผมเองก็ยิ้มตอบกลับ แล้วเดินเข้าบ้านไปลุงก็เดินตามผมเข้ามาด้วย

                "ลุงครับ ทุกคนอยู่กันครบใช่ไหม"

                "ครับคุณชาย ตอนนี้กำลังทานอาหารกันอยู่" ได้ยินดังนั้นผมไม่รอช้าที่จะก้าวขาตัวเองไปยังห้องอาหาร สายตาผมเห็นว่าพ่อนั่งอยู่หัวโต๊ะ พี่เลย์นั่งซ้ายมือพ่อ ตรงข้ามกันเป็นแม่ผม แต่ที่ผมไม่คาดคิดคือเก้าอี้ข้างๆพี่เลย์นั้นคือ 'คริส' ขาผมหยุดเดินเองอัตโนมัติ มองภาพครอบครัวสุขสันต์ทั้งเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะที่ไม่ขาดสาย

                คงเป็นผมซะเองที่โดนเซฮร์ไพรส์

                "เซฮุน" เสียงร้องของแม่ดังขึ้น พร้อมกับที่สายตาของผมปะทะเข้ากับท่าน ผมยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะก้าวขาไปตามเสียงเรียกของคนเป็นแม่ และสายตาทุกคนที่มองมายังผมเป็นจุดเดียว

                สิ่งแรกที่ผมทำคือเดินเข้าไปกอดแม่ ผมคิดถึงท่านมากจริงๆจนเก็บเอาไว้ไม่ได้ต้องพูดออกมา "ผมคิดถึงแม่จัง"

                "แม่ก็คิดถึงเซฮุน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน..หืม?"

                "พ่อ กับพี่เลย์ ไม่ได้บอกแม่เหรอ" ผมถอนกอดออกมามองหน้าแม่สลับกับพ่อและพี่

                แม่ส่ายหน้าระวิง "แม่ไม่รู้เรื่อง พ่อกับพี่เราไม่เคยบอกอะไรแม่หรอก" ท้ายเสียงแม่เหมือนกำลังประชดใครอย่างนั้น

                "ไม่ต้องมางอลพ่อกับพี่เลย ลูกชายเล็กคุณต่างหากที่ทำอะไรไม่บอกใคร ผมเองก็เพิ่งจะรู้เมื่อวันก่อน" ประมุขของบ้านเอ่ยขัด

                เพี๊ย!

                "นี่แนะ จะไปไหนมาไหนทำอะไรนี่ไม่ต้องรายงานแล้วสิ มองข้ามแม่ตลอด" จากตอนแรกที่งอลพ่อกับพี่กลายเป็นว่าเกมผลิกให้ผมเป็นคนง้อแม่ซะงั้น แถมฝ่ามือตีอย่างไม่ออมแรงบนแขนผม

                "อ่า แม่ครับผมเจ็บ ไม่ตีกันสิ อายแขกบ้าง" ทางหนีที่ดีที่สุดของผมคือต้องเอา'คนนอก'มาล่อ และได้ผลแม่หยุดทำร้ายร่างกายผม ผมจึงพาตัวเองไปนั่งเก้าอี้ข้างๆท่าน

                "วันนี้เป็นวันดีจริงๆสินะ เซฮุน นี่'คริส'ว่าที่พี่เขยแก" พ่อเป็นคนแนะนำให้ผมรู้จักกับแขก และผมคงต้องเล่นบทคนแปลกหน้ากับเขาเพื่อรักษามารยาท

                "สวัสดีครับ คุณคริส ผมเซฮุนเป็นลูกคนเล็กของบ้านนี้" ว่าทั้งยื่นมือไปจับ

                "ผมแก่กว่าคุณสี่ปี เรียกกว่าพี่ก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก" ผมกับแขกจับมือกันสักพักก็ปล่อยให้นั่งที่กันตามเดิม ผมไม่ปิดบังเลยว่าตัวเองใช้สายตายังไงมองอีกคน และเหมือนแขกจะรับรู้ได้ เพราะรอยยิ้มของของแขกค่อยๆเจือนลง

              ก็แค่สายตาจับพิรุธ

                "น้องเซฮุนไม่ชอบพี่รึป่าว" ผมคงประเมิณแขกต่ำไป ไม่คิดว่าจะกล้าพูดออกมาตรงๆขนาดนี้

                "ก็ป่าวนิครับ ผมแค่ปรับตัวเข้ากับ'คนแปลกหน้า'ยาก" และคำตอบของผมมันคงจะช่วยให้แขกเลิกเซ้าซี้ผมได้

                "ผมว่าเราทานข้าวกันดีกว่านะครับ เดี่ยวอาหารจะเย็นชืดหมด" พี่เลย์พูดขึ้นทำลายความอึดอัดนี่ และมันได้ผล เพราะผมก็เบื่อที่จะเล่นเกมจ้องตากับแขกซะแล้ว

                ผมปล่อยเวลาให้ผ่านไปจนกระทั่งของหวานเข้ามาเสิร์ฟ วันนี้แม่ครัวบ้านผมทำงานหนักกันจริงๆ นั้นเพราะมีแขกคนสำคัญสินะ เอาล่ะเข้าประเด็นที่ผมกลับบ้านดีกว่า

                "ผมได้ข่าวว่าที่บริษัทกำลังจะจัดงานเลี้ยงใช่ไหมครับ"

                "ใช่แล้ว งานเปิดตัวคริสในตำแหน่งรองประธานบริษัทนะ และงานนี้พี่บังคับเลยเซฮุนต้องมา"

                "งานเลี้ยงเปิดตัวพี่เขยทั้งทีผมคงไม่พลาด"

                "แม่ว่านะ ไหนๆเราก็จะเปิดตัวคริสแล้ว เปิดตัวเซฮุนอีกคนเลยเป็นไงค่ะคุณ" แม่เสนอความคิดขึ้นมาแล้วขอความเห็นจากพ่อ

                "แล้วเราว่าไงเซฮุน อยากทำรึป่าว" แต่พ่อกลับมาถามผม

                "ไม่ดีกว่าครับ ผมยังไม่มีเครดิตพอ ไว้เปิดตัวตอนผมเข้าทำงานจะดีกว่า" เรื่องอะไรที่ผมจะต้องใช้งานร่วมกันกับแขก

                "ผมเห็นด้วยกับน้องครับ" พี่เลย์เสริม

                "ผมได้ยินมาอีกว่างานเลี้ยงยังไม่ได้จัดการเรื่องอาหาร ผมอยากจะเสนอตัวเองจัดการเรื่องนี้ ทุกคนจะว่าไงครับ"

                "ถ้าแกอยากทำ ฉันก็ไม่ขัด" พ่ออนุญาต

                "ผมรับรองเลยครับว่าอาหารในงานจะเป็นที่ประทับใจแก่แขกทุกคน"

                "แล้วเซฮุนจะไปจ้างใครมาทำอาหารให้ล่ะ" พี่เลย์ถาม

                "ร้านผมเองนี่แหละครับ xoxo ที่ผมหุ้นกับชานยอล"

                "อ้อ ร้านนั้นพี่เพิ่งจะไปมาเมื่อเดือนก่อน เสียดายตอนนั้นชานยอลไม่อยู่เลยไม่ได้เจอกัน"

                "ถ้าไปช่วงนี้พี่จะเจอทั้งผมและชานยอลเลยล่ะ" รวมไปถึงพี่ลู่หานด้วย

                "คงต้องอุดหนุนสินะ"

                "พาแฟนพี่ไปด้วยก็ได้นะครับ วันนั้นผมจะเลี้ยงเลย"

                "พี่จำคำเซฮุนไว้แล้วนะ อย่าคืนคำล่ะ"

                "แน่นอน" แล้วก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของทุกคน

     

    ครืด ครืด!

     'พี่ลู่หาน'

                "ว่าไงครับ...กำลังจะกลับแล้ว...ครับๆ"

    ตื้ด!

                ผมวางสายไปก่อนจะกล่าวลาทุกคน "ผมขอตัวก่อนนะครับ"

                "หมายความว่าไงค่ะ ลูกจะไม่นอนบ้านเหรอ" คุณนายโอกายองเอ่ย

                "ครับ"

                "แม่น้อยใจแล้วนะ มาก็ไม่บอก พอเจอหน้าก็หนีอีกแล้ว ไม่นอนบ้านจะไปนอนไหน" แม่บ่นมาเป็นชุดแถมด้วยการดึงชายเสื้อของผมเอาไว้อีก

                "คุณแม่ครับ ปล่อยน้องไปเถอะครับ เซฮุนเขาโตแล้ว โตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตคนอื่นแล้วด้วย" เลย์เอ่ยอย่างมีเลศนัยให้คนเป็นแม่สงสัย ในขณะที่โอฮวานมุนนั่งยิ้มขำๆกับการล้อน้องของพี่

                "ลูกเลย์พูดแบบนี้แม่ไม่เข้าใจนะค่ะ น้องทำอะไรเหรอหรือว่า...." กายองปล่อยมือจากชายเสื้อของลูกชายคนเล็กมาป้องปาก เมื่อสมองประมวลผลคำพูดของลูกเลี้ยงทัน "เซฮุนนี่ลูกมีแฟนแล้วเหรอ"

                "บ้ากันไปใหญ่แล้ว ผมยังโสดน่า แม่ก็อย่าไปฟังพี่เลย์พูดให้มาก รายนั่นนะชอบยุให้ผมมีแฟนตลอดแหละ"

                "งั้นคนที่ซ่อนไว้ที่คอนโดนะใครเหรอ แม่บ้าน พ่อครัว หรือคนขับรถล่ะ"

                "พี่หยุดพูดเลยนะ มันไม่ใช่ทั้งหมดนั้นแหละ และผมก็ไม่ได้ซ่อนด้วย" ผมไม่ได้ซ่อนจริงๆ ผมเพียงแค่ไม่ให้ใครรู้ก็เท่านั้น

                "โอ๊ะ ลูกชายแม่หอบแฟนกลับมาเกาหลีด้วยเหรอเนี่ย"

                "ผมขอยืนยันครับว่าผมไม่มีแฟน และก็ยังโสด อยากจะคิดอะไรก็เชิญ ผมขอตัวล่ะ" ว่าจบผมก็โค้งลาคนในบ้าน แม้จะยังได้ยินเสียงต่างๆนานาพูดเรื่องผมก็ตามแต่ แต่ตอนนี้ผมคงไม่พูดอะไรอีกแล้ว เพราะผมต้องรีบกลับไปจัดการ กวางที่คอนโด

     

     

     

     

     

     

     #hunhanreborn

    -------------

    ห่างไปนานเลยเนอะ อย่างว่าเนอะชีวิตเด็กมหาลัยสอบแล้วสอบอีก




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×