คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2
ตอนที่2
“คุณแม่คร้าบบบบบบ ผมขอไม่ไปเรียนได้เปล่า”ตอนนี้ผมกำลังอ้อนวอนคุณแม่สุดที่รักหลังจากที่รถขับมาถึงหน้าโรงเรียนเซนต์แมรรี่มีเรียบร้อยแล้ว
“ไม่จ๊ะ”คุณแม่พูดอย่างไร้เยื่อใยสุดๆ
“นะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ดื้อไม่ซนไม่...พลั่ก...โอ้ยยยยย..เจ็บอ่า”พูดไม่ทันจบผมก็โดนเท้าสวยๆของคุณแม่ถีบลงจากรถโดยมีลุงมะลิคนขับรถที่บ้านเปิดประตูให้
“ตั้งใจเรียนซะถ้าลูกหนีล่ะก็ ค่าขนมและก็เรื่องไปอังกฤษจบ” หลังจากที่คุณแม่คนสวยพูดจบ รถที่มีลุงมะลิเป็นคนขับก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงแต่ผมที่นั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่กับพื้นหน้าโรงเรียน
“แม่คร้าบบบบบ...”เติมแอ๊กโค่ไปเยอะๆ
คุณแม่ใจร้ายที่สุดปล่อยให้ลูกชายอย่างผมมาผจญกับความยากลำบากภายในโรงเรียนและสภาพแวดล้อมที่เกลียดแสนเกลียดคนเดียวได้อย่างไร เพื่อนหรือคนที่รู้จักสักคนก็ไม่มีแม้แต่คนจะคบก็ยังไม่มีเลยคิดดูสิชีวิตผมนี่มันช่างรันทดและเศร้าอะไรอย่างนี้
...พลั่ก...
“เจ็บ ล้มอีกแล้วใครมาชนวะ”ผมพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสียหลังจากที่ต้องลงไปนั่งกับพื้นถนนบริเวณทางเข้าโรงเรียนอีกหน
“ขอโทษนะครับ พอดีผมรีบไปหน่อยเลยไม่ทันเอ่อ”นายคนที่ชนผมมันพูดขอโทษน้ำเสียงนี่หนุ่มเชียวดูท่าแล้วคงเจ้าชู้หน้าดูชะมัด
อ่ะ ว่าแต่มันหน้าแดงทำไมพอมองตามสายตามันแล้วผมก็ถึงกับหน้าร้อนและแดงขึ้นมาทันทีก่อนที่จะซัดไปที่หน้าหล่อของมันอีกหนึ่งครั้งข้อหาลามกแอบดูกางเกงในชาวบ้าน
“นี่ผมเจ็บนะมาต่อยผมเรื่องอะไร”นายนั่นพูดขึ้นอย่างโมโห
“ก็แล้วมาแอบดูเกงในฉันทำไมไม่ทราบไอ้ลามก”อย่าคิดว่าผมจะหลงเสน่ห์ไอ้ตรงหน้านะถึงมันจะหล่อ จะแสนดี แต่ผมนิยมผู้หญิงนะ
“ห๊ะ เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะแอบดูเกงในเธองั้นหรอคิดว่าอยากดูตาย”มันพูดขึ้นด้วยใบหน้าเซ็งจัดแต่ผมเห็นนะว่าตามันเหล่มามองที่กระโปรงนักเรียนของผมน่ะ
“มองอะไร ไม่อยากดูแล้วทำไมต้องเลือดกำเดาไหลไม่ทราบ”ผมพูดขึ้นแต่กลัวมันไม่เห็นเลยเอานิ้วไปจิ้มที่จมูกมันเพื่อยืนยัน
“เฮ้ย โกหกน่าเธอต่างหากต่อยฉันเลือดไหล”มันเถียงก่อนที่จะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเลือด
“เอะ ไอ้นี่คนต่อยหน้านะไม่ได้ต่อยจมูกมันจะเลือดไหลได้ไงไอ้ลามกเอ้ย”ผมด่ามันอีกรอบก่อนที่จะเดินหนีจากตรงนั้นเดินเข้าโรงเรียนแทน
“เฮ้ เธอเดี๋ยวก่อนสิเธอชื่อไรอ่ะ”มันเรียกผมเอาไว้พร้อมกับวิ่งเข้ามาหาผมที่หยุดเดินแล้วหันไปมองมันอย่างเซ็งๆ
“น่ารำคาณ”ผมพูดใส่มันอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะเดินไปตามป้ายบอกทาง
จะว่าไปโรงเรียนนี้ก็ใหญ่ชะมัดแถมแต่ละตึกนั้นก็อลังการเว่อร์วังโคตรๆ สมกับค่าเทอมที่แพงหูฉีกและปริมาณนักเรียนที่สอบเข้าชะมัดจริงๆแล้วที่นี่สอบเข้าเป็นหมื่นแต่ติดจริงๆแค่ไม่กี่ร้อยคน
แถมชุดนักเรียนก็ยังดูดีสุดๆผู้ชายจะให้เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวผูกเนคไทสีน้ำเงินและมีเสื้อกั๊กไหมพรมสีน้ำเงินทับอีกที เห็นแล้วอยากจะใส่บ้างแต่จากสภาพการแล้วมันไม่เอื้ออำนวยเลยต้องมาใส่ชุดผู้หญิงแทนส่วนชุดนักเรียนหญิงจะเป็นเสื้อนักเรียนแขนสั้นปกกะลาสีมีแถวน้ำเงินที่ปกสีน้ำเงินตามด้วยโบว์สีน้ำเงินอันใหญ่ๆ(ถ้านึกไม่ออกลองนึกถึงชุดสมัยม.ต้นนะจ๊ะ)รับกับกระโปรงสีน้ำเงินแถบขาวที่สั้นเหนือเข้าขึ้นมาเล็กน้อยดูคิขุ
อธิบายเรื่องชุดนักเรียนเสร็จก็มาปะกับไอ้จอมตื้อที่มันตามผมตั้งแต่หน้าอาคารเรียนของเหล่าปี1
“ผมชื่อเจ้านายนะอยู่ปี1”
“ใครถาม”ผมตะโกนใส่หน้ามัน
“ก็อยากบอกอ่ะ นี่ๆรู้ไหมฉันชอบเธอมากเลยนะ”มันยังคงพูดไม่หยุด
“ไอ้ใจง่ายเอ้ย”ด่ามันเสร็จก็เดินขึ้นบันไดไปว่าแต่ห้องดับเบิ้ลเอมันอยู่ชั้นไหนวะ
“ไม่นะฉันออกจะรักเดียวใจเดียว เธอน่ะเป็นรักแรกพบเลยล่ะ”ไอ้เจ้านายยังคงพยายามเดินมาพูดกับผม
“พอสักทีได้ไหม ไม่ทราบว่าจะตื้อไปถึงเมื่อไรคนเขารำคานเข้าใจไหมไปเลยนะเหม็นขี้หน้าโว้ย”ผมหยุดเดินแล้วด่ามันก่อนที่จะถีบมันไปให้ไกลจากตัวอย่างตัวเชื้อโรค
“ไม่ๆ ว่าแต่ฉันเพิ่งรู้นะว่าเธอซาดิสซ์แต่ไม่เป็นไรฉันทนได้”ขนาดโดนถีบไปไกลขนาดนั้นมันยังลุกขึ้นแล้วเดินมาพูดกับผม
“งั้นก็ได้”ว่าแล้วผมจึงเอาแขนไปคล้องคอมัน ทีแรกก็ไม่ถึงหรอกไอ้บ้านี่ตัวสูงขนาดนั้นมันเลยยอตัวให้ผมเพราะว่ามันเห็นผมเขย่งเท้า
พร้อมกับหลับตาพริ้มอย่างสุขใจคงคิดว่าผมจะใจอ่อนแล้วจูบมันปลอบขวัญล่ะสิ ฝันไอ้เถอะไอ้นี่เอาเข่าไปกินก่อนไป
“โอ๊ย เจ็บนะเธอเล่นอะไรของเธอเนี่ย”ไอ้เจ้านายมันพูดขึ้นพร้อมกับเอามือไปกุมน้องชายมันไว้แต่หน้ามันนี่สิเขียวเชียวสงสัยจะจุก
“นี่ยังแค่เบาะๆ ถ้านายไม่เลิกตื้อฉันนะจะโดนยิ่งกว่านี้และอีกอย่างก็เลิกทำหน้าหื่นชะที”ว่าแล้วก็เดินไปหาห้องเรียนต่อแต่จะว่าไปไอ้เจ้านายมันก็อยู่ปีหนึ่งนี่หว่ามันอาจจะรู้ก็ได้ว่าห้องดับเบิ้ลเออยู่ไหน คิดได้ผมจึงเดินถอยหลังกลับไปหามันที่นั่งแหมะอยู่กลางทางเดิน
“ว่าแต่ห้องดับเบิ้ลเอมันอยู่ไหนอ่ะนายพอรู้ไหม”ผมถามขึ้นด้วยใบหน้านางฟ้าสุดๆถ้าไม่รู้นะจะตืบให้ดูข้อหาทำให้เสียเวลาย้อนกลับมาถาม
“ฮ้า หรือว่าเธอคือคนที่สอบได้คะแนนอันดับหนึ่งของปีนี้”มันพูดอย่างตกใจนิดๆ
“อืม จะบอกได้ยังล่ะว่ามันอยู่ไหน”
"ฉันยอมตายดีกว่าอยู่ห้องเดียวกับนาย"
“ใจร้ายจังเลยนะ แล้วเธอไม่คิดที่จะบอกชื่อฉันหน่อยหรอไหนๆเราก็ต้องเรียนห้องเดียวกันแล้วเรามาเป็นแฟนกันไม่สิข้ามขั้นไปนิดเป็นเพื่อนกันดีกว่านะ”มันพูดหน้าระรื่นอีกแล้วในชีวิตนี้มันทำเป็นอยู่สองหน้าหรือไงไม่หื่นก็ระรื่นเนี่ย
“โอเค หยุดพล่ามได้แล้วถ้าฉันบอกชื่อนาย นายต้องเลิกพล่ามเพราะฉันเริ่มรำคานนายแล้วโอเค๊”ผมพูดขึ้นอย่างยอมจำนนไม่เช่นนั้นผมนี่แหละจะเป็นโรคประสาทตายก่อนได้เรียนแทนอลิซเซีย
“ได้ แต่เธอต้องสัญญานะว่าเธอจะยอมเป็นเพื่อนกับฉัน”ไอ้คนตรงหน้าผมยังคงพูดจาด้วยสีหน้าดี๊ด๊าสุดๆ
“เอ่อก็ได้ ฉันชื่ออลิซเซียเรียกอลิซก็ได้”ผมแนะนำตัวเองแบบขอไปที พร้อมกับกรอกตามองบนกบัใบหน้าเพ้อของไอ้คนตรงหน้าอีกที
“หน้าตาสวยแล้วชื่อยังเพราะอีกขอหอมแก้มรับเพื่อนใหม่ได้ม่ะ”ว่าแล้วมันก็ถลาเข้ามาหมายจะหอมแก้มผมด้วยความไวกว่ามันเล็กน้อยผมจึงยกขายันมันไว้
“ลามปามนะบอกมาชะดีๆว่าห้องเรียนอยู่ชั้นไหน”ปากก็พูดขาก็ยันไอ้คนตรงหน้าตัวเองไปด้วย
โดยลืมว่าตัวเองอยู่กลางทางเดินที่มีนักเรียนมากมาย แถมยังใส่กระโปรงอยู่ไม่ใช่กางเกงทำให้เห็นกางเกงในชัดสุดๆจนคนที่ถูกยันได้แต่เช็คเลือดกำเดาปาดแล้วปาดอีกไม่ยักจะหยุด
“มองอะไร”ผมถามมันพร้อมกับมองไปรอบๆก็เห็นพวกผู้ชายหยิบผ้าเช็คหน้าขึ้นมาซับเลือดกันใหญ่ โรงเรียนนนี้มันเป็นอะไรกันนะแต่พอผมเหลือบไปมองไอ้เจ้านายพร้อมกับมองตามสายตามันถึงได้รู้สาเหตุของเรื่อง
“ไอ้ทุเรศ ของตัวเองไม่มีให้ดูหรือไงมองกันอยู่ได้”พูดจบผมก็ยันไอ้เจ้านายเต็มแรงจนมันหงายหลังนอนกับพื้นนับดาว แล้วผมก็เดินวิ่งไปตามทางเดินพร้อมกับปิดหน้าของตัวเองด้วยความอาย
“โถ่ๆๆๆไอ้อลิซเอ้ยชาวบ้านเค้าเห็นกันหมดแล้ว ทำไมแกขี้ลืมอย่างนี้วะว่าใส่กระโปรงแล้วจะเอาหน้าที่ไหนไปนั่งเรียนล่ะเนี่ย ตุ้บ..โอ้ยยยยย”ปิดหน้าตัวเองไปวิ่งไปบ่นไปก็สะดุดขาตัวเองแต่คราวนี้ไม่ยักเจ็บอ่ะพอลองเอามือออกสิ่งที่เห็นตรงหน้าก็ทำให้ผมช๊อคไม่น้อย
“หนัก”เบาะมีชีวิตพูดขึ้นเป็นคำแรกแถมน้ำเสียยังเย็นชาชวนสยองสุดๆแต่ผมนี่สิ
“อ๊าก...ไม่สิ...กรี๊ดดดดดดดดดดป้อจาย”เพียงแค่นั้นแหละผมก็เด้งขึ้นมานั่งพับเพียบกับพื้นเป็นกุลสตรีไทยทันที
“ยัยบ้าเอ้ย ประสาทหรือไงเนี่ยอยู่ดีๆก็มากรี๊ดใส่หูชาวบ้านเค้าที่บ้านเธอไม่สอนหรือไงว่าต้องขอโทษน่ะ”มันด่ารัวและเร็วจนผมที่ล้มไปทับมันสำนึกผิดไม่ทันเลยทีเดียว
“ไม่นะ ไม่จริ๊งไม่จริงหนูล้มทับป้อจายกรี๊ดดดดด...คุณแม่จ๋าช่วยหนูด้วย”ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้นหมายจะวิ่งต่อด้วยความอับอายแต่ก็โดนมันรั้งคอเสื้อไว้ คนอะไรแขนยาวเป็นบ้าเลย
“ขอโทษล่ะ คิดจะชนแล้วหนีหรือไงสงสัยฉันต้องสั่งสอนหน่อยมั้ง”ไม่พูดเปล่าแถมมันยังกระชากผมเข้าไปจูบ
ไม่นะผมกำลังจูบกับมุนษย์เพศชายที่สูงขาว หล่อสุดๆชนิดทอม ครูซยังชิดซ้ายโรเบิรต์ แพทิสันยังชิดขวา แต่ผมเป็นผู้ชายอย่างนี้มันอ้วกไวเท่าความคิดผมรีบผลักร่างนั้นออกจากตัวก่อนที่จะวิ่งไปยังสุดทางเดินแล้วมีป้ายเขียนไว้ว่าห้องน้ำ
“แหวะ...ฮือออออๆๆ...จูบแรกของช้านทามมายไม่เป็นแม่หญิงป้อจายเก๊าไม่เอามัน แหวะ...อ้วก”ตอนนี้ผมกำลังโกงคออย่างเอาเป็นเอาตายในห้องน้ำหญิงหรือชายไม่รู้ไม่ได้มองกับชักโครก
“อลิซที่รักเธอเป็นอะไรมากหรือเปล่า”เสียงเจ้านายมันดังขึ้นพร้อมกับโผล่หัวมาให้ผมเห็นอย่างเป็นห่วงเป็นใย
เพียงแค่นั้นแหละภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นก็เข้ามาในสมองรัวๆเลยทำให้มีอาการหนักกว่าเก่าอ้วกมากกว่าเดิมอีก
“แหวะ...ช่วยไปไกลๆหน้ากูทีกูจะ แหวะ...อ้วก”อ้วกเสร็จก็หันพูดกับมันพอสบตามันก็หันหน้าเข้าชักโครกแล้วอ้วกต่อกอดโถส้อมเหมือนของรัก
“ไม่น้า มาๆเดี๋ยวสุดหล่อจะลูบหลังให้นะตัวเองอย่าเป็นอะไรไปล่ะ”ไม่พูดเปล่าแต่มันยังยื่นมือมาลูบหลังขึ้นๆลงๆให้ผม
“แหวะ...นายหาฉันเจอได้ไง”ผมพูดพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้าจากมือไอ้เจ้านายที่เปื้อนเลือดแม้จะรังเกรียจแต่ต้องรับเพราะมันคงจะสกปรกไม่น้อยถ้าเอามือเช็ค
“ก็วิ่งตามที่รักมาไงล่ะ รู้มั้ยว่าเขานะเป็นห่วงตัวเองมากเลยแถมอิจฉาคุณเลโอสุดๆที่ได้จูบกะที่รักน่ะ”มันอธิบายให้ผมฟังเป็นฉากๆแต่ผมเห็นนะว่ามันแอบทำหน้าเสียดาย
“ไอ้นั่นชื่ออะไรนะ”หลังจากเช็คปากและทำใจได้แล้วผมก็ถึงกับกระชากคอเสื้อให้เจ้านายอย่างแรง
“คุณเลโอ ท๊อปของชั้นปี1เหมือนที่รักไงแถมยังเป็นมาเฟียด้วยนะเด็กเก่าของที่นี่รู้จักกันทุกคนแหละที่รักเพิ่งเข้ามาคงยังไม่รู้จัก”มันพูดอธิบายพร้อมกับกอดปลอบผม
“กูจะบ้า วันนี้มันวันซวยอะไรเนี่ยอ๊อก”แกล้งตายแม่งเลยไม่รู้ว่าวันซวยอะไรของผมนัก
*****************************************************************************
ลงครบตามสัญญาแล้วนะคะ
หนุกไม่หนุกเม้นได้ ถ้ามีต้องไหนต้องแก้คำผิดบอกค่ะ
ข้อน้อยยินดีแก้ตามคำบอก
ความคิดเห็น