ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC INUYASHA] Destiny พิชิตชะตา สัญญารัก

    ลำดับตอนที่ #7 : ♣ Destiny ♣ Chapter 06

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 722
      42
      12 พ.ย. 61


      ท้องฟ้าอันแสนอึมครึมภายนอกหน้าต่างของห้องเรียน ท้องฟ้าสีดำมืดนั้นทำให้บรรยากาศภายในห้องเรียนดูมืดมนไปด้วย เช่นเดียวกับการที่อินุยาฉะต้องมานั่งฟังอาจารย์อธิบายคณิตศาสตร์ที่ทำให้เพื่อนนักเรียนต่างพากันหาวไปแล้วหลายสิบรอบด้วยจิตใจที่แสนจะว้าวุ่น ความคิดมากมายยังคงตีกันอยู่ในหัวของเขา

     คำพูดของโคงะที่พูดกับเขาเมื่อไม่นานนี้ทำให้จิตใจของเขาขุ่นมัว เขารู้ดีว่าเขาไม่ควรจะระบายอารมณ์ของเขากับอีกฝ่าย แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดนั้น

     “ยังกับลูกหมาถูกทิ้ง”

    ......เรื่องแบบนั้นไม่ต้องให้อีกฝ่ายมาบอก เขาก็รู้อยู่แล้ว.....

     โชคชะตาที่แสนโหดร้าย การพรากจากคนสำคัญครั้งแล้วครั้งเล่านี้ มันทำให้เขาเจ็บปวดและทรมานเหลือเกิน เขาถามตัวเองอยู่หลายครั้งว่าถ้าหากเขาไม่ต้องพบเจอหรือมีความรู้สึกต่อคนรอบข้างอีก  จะทำให้เขาไม่ต้องสูญเสียใครอีกแล้วใช่หรือเปล่า? จะไม่ต้องเจ็บปวดอีกครั้งใช่หรือไม่? การสูญเสียคิเคียวครั้งนี้ สำหรับเขาแล้ว มันทำให้เขาไม่กล้าที่จะผูกสัมพันธ์กับใครอีก ไม่ว่าจะมิโรคุ ซังโกะ หรือแม้แต่เพื่อนคนอื่นๆของเขาก็ตาม

     หัวใจที่ขุ่นมัวไม่อาจบอกเล่าให้ใครฟังได้อีก เพราะคนที่คอยรับฟังเขา ได้จากไปแล้วตลอดกาล.......

     “ฉันคิดถึงเธอจริงๆ.....คิเคียว”

     

     

    ................................................................

     

    คนที่จากไปแล้วต่อให้ร้องไห้หรือเสียใจมากแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางฟื้นขึ้นมาได้อีก......   

    เสียงระฆังเลิกเรียนดังขึ้นเรียกสติให้เขากลับมาสู่โลกความเป็นจริง อินุยาฉะลุกขึ้นทำความเคารพพร้อมเหล่าเพื่อนๆ ก่อนที่เขาจะถือกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องมา โดยไม่สนใจเสียงมิโรคุที่ชวนให้กลับบ้านด้วยกัน อินุยาฉะเดินมาถึงตู้ล็อกเกอร์แล้วจัดการเปลี่ยนรองเท้าของเขา ก่อนจะได้ยินเสียงโอดครวญของนักเรียนคนอื่นๆที่ออกันอยู่หน้าประตูทางออก เมื่อพวกเขาพบว่าสายฝนได้โปรยปรายลงมาอย่างไม่เกรงใจคนไม่เอาร่มมาอย่างพวกเขาเลย

     อินุยาฉะมองดูสายฝนภายนอกสักพัก ก่อนตัดสินใจเดินออกไปโดยไม่สนใจว่าเขาจะเปียกแม้แต่น้อย เช่นเดียวกับอีกหลายๆคนที่ต่างพากันวิ่งฝ่าฝนและเอ่ยอำลากันท่ามกลางสายฝน การกระทำของอินุยาฉะถูกจับตาโดยใครอีกคนที่เดินทิ้งระยะห่างตามมาทางด้านหลัง

    อินุยาฉะเดินฝ่าฝนไปด้วยความรู้สึกที่อยากให้สายฝนนั้นชำระจิตใจของเขาให้สงบลงได้บ้าง เขาเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงศาลเจ้าที่แสนคุ้นเคย ใช่แล้ว.... ศาลเจ้าของคิเคียว เขาเดินเข้าไปช้าๆ ทุกย่างก้าวนั้นช่างหนักอึ้ง ภาพความทรงจำของเขาและเธอปรากฏอยู่รอบๆบริเวณศาลเจ้าที่เขาเดินผ่านไป

    อินุยาฉะเดินมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าสุสาน ป้ายหลุมศพตรงหน้าสลักชื่อของคนที่เขาแสนคิดถึง......

    “คิเคียว”

    ดวงตาของเขารื้นไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง เขายังไม่อาจทำใจได้กับการสูญเสียในครั้งนี้ มันเจ็บปวดจนเขาไม่อาจจะอธิบายได้ว่ามันมากแค่ไหน เขาได้แต่โทษตัวเองที่ไม่สามารถปกป้องอีกฝ่ายได้ โทษตัวเองที่โง่เกินไปที่จะสังเกตเห็นความผิดปกติของอีกฝ่าย โง่เกินไปที่ไม่รู้ตัวให้เร็วกว่านี้ว่าเวลาของเขาและเธอมันแสนสั้นมากแค่ไหน.......

     “ฉันจะสามารถรักใครได้มากเท่าเธอได้อีกกัน......คิเคียว”

     อินุยาฉะยืนอยู่แบบนั้นท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย ไม่ไกลจากตรงนั้นมีใครคนหนึ่งยืนถือร่มเอาไว้และมองดูเขาด้วยความรู้สึกในอกที่แสนเจ็บปวดอย่างที่เจ้าตัวเองก็ไม่เข้าใจ ขาของเขาที่พาเขาเดินตามร่างบางมาถึงตรงนี้มันแข็งทื่อจนไม่อาจก้าวเข้าไปใกล้อีกฝ่ายได้ ปากของเขาที่ควรจะเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายออกไปก็ยากที่จะเปล่งเสียงออกมา ลำคอของเขาแห้งผากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สิ่งนี้อาจเรียกว่า “ความกลัว” ก็เป็นได้

     ร่างสูงผู้ไม่เคยหวาดกลัวต่อสิ่งใด ความรู้สึกที่แสนคิดถึงที่เก็บเอาไว้มาแสนนาน ความโหยหาการได้พบหน้าที่เขามีมาตลอด มันถูกหยุดด้วยบางสิ่งที่เขาไม่สามารถบอกได้ว่าคืออะไร

    ทั้งที่เขาเจออีกฝ่ายแล้วแท้ๆ ทั้งที่เขาได้ยินเสียงของอีกฝ่ายแล้วแท้ๆ ทั้งที่อีกฝ่ายอยู่ตรงนั้นแล้วแท้ๆ แต่เขาไม่มี “ความกล้า” ที่จะเข้าไปหาอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

    ทั้งที่อีกฝ่ายยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น ทั้งที่แผ่นหลังนั้นเศร้าสร้อยมากขนาดนั้น ทั้งที่เขาต้องการจะบอกอีกฝ่ายแท้ๆว่า

     “พี่กลับมาเจอนายแล้วนะ”

     แค่นั้นแท้ๆ.............

    ร่างสูงทิ้งร่มเอาไว้ตรงนั้น ก่อนเขาจะค่อยๆเดินออกมาจากตรงนั้นไป ด้วยความรู้สึกที่เขาไม่แน่ใจนักว่ามันคืออะไร แต่เขารู้ว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะที่เขาจะเจอเด็กคนนั้น.........

     “พี่ขอโทษ....แล้วพี่จะกลับมาหานาย”

     “อินุยาฉะ.......” ชายหนุ่มเอ่ยกับตัวเองแผ่วเบา พร้อมกำมือแน่นด้วยความเจ็บใจกับการกระทำของตัวเอง เขาแลดูโง่เขลานัก เมื่อพบว่าตัวเองไม่มีความกล้าจะเผชิญหน้ากับเด็กคนนั้น...

     แต่ถึงกระนั้นความเจ็บปวดในอกกว้างนี้ ก็เทียบไม่ได้เลยกับหัวใจที่แตกสลายของเด็กหนุ่มที่ยืนร้องไห้อยู่หน้าป้ายหลุมศพตรงนั้น........

     

        “คิเคียว.......” เด็กหนุ่มยังคงยืนนิ่ง ภาพในความทรงจำแห่งการสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เขาได้แต่รู้สึกเจ็บใจอยู่ในอก คนอันเป็นที่รักของเขาจากไปครั้งแล้วครั้งเล่า....

        “ฉันรู้ฉันต้องเข้มแข็งขึ้น.....” อินุยาฉะกัดฟันพร้อมเอ่ยออกมาด้วยความเจ็บใจ เขาทรุดลงคุกเข่ากับพื้นที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย เขาใช้สองมือทุบมันอย่างบ้าคลั่งเพื่อระบายความรู้สึกอึดอัดภายในใจออกมา

        “แต่ทำไมกันละ! .....ทำไมกัน! ทำไมต้องเป็นฉันที่ต้องสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า....ฮึก..”

    เธอยังมีหมอนั่นอยู่นะ”  คิเคียวกำชับถึงคนในความทรงจำและคำสัญญาที่พวกเขาเคยมี ดวงตาของอินุยาฉะไหววูบ คนๆนั้นมีอิทธิพลกับตัวเขามากกว่าที่ตัวเขาเองคิดเสียอีก

    “สิ่งที่เธอบอกฉัน มันจะเป็นจริงใช่มั้ย....” อินุยาฉะเอ่ยออกมาเบาๆ ราวกับเสียงกระซิบ

    เขา...อาจจะลืมฉันไปแล้ว คนๆนั้นไม่มีทางกลับมาอีกแล้วน้ำเสียงของเด็กหนุ่มเริ่มสั่นเครือ เธอบีบมืออีกฝ่ายแน่นขึ้นส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ

    ไม่ใช่หรอก....หมอนั่น จะต้องกลับมารับนาย...แน่ๆ นายบอกฉันเองนี่ อินุยาฉะ...เธอระบายยิ้มให้อินุยาฉะ ทั้งที่ใบหน้านั้นขาวซีดแต่รอยยิ้มกลับทำให้เธอมีเสน่ห์เสมอ รอยยิ้มที่ทำให้เขาหลงรักเธอ

    ว่าสัญญากันแล้ว หญิงสาวเอ่ย

         

        “คนที่ฉันรอคอยคนนั้น......เขาจะกลับมาใช่มั้ย”

        ทุกครั้งที่เราไม่ต้องการจะเสียใครไป.... ทุกครั้งที่เราจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง.....

        ทุกครั้งที่ต่อให้เราไม่อยากให้เขาไปแค่ไหน..... แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่สามารถอยู่เคียงข้างเราได้อีกแล้ว.....

    “วันที่สูญเสียเธอ.....มันเหมือนวันนั้นที่เขาจากฉันไป....” ภาพของร่างสูงในความทรงจำปรากฏเลือนรางในหัวของเขา เขาในตอนนี้นึกหน้าของอีกฝ่ายไม่ออกอีกแล้ว สิ่งที่เขาจำได้ มีเพียงแค่เรือนผมสีเงินที่เปล่งประกายของอีกฝ่าย.....

    “ฉันที่ได้แต่ปิดปากเงียบ..... ได้แต่เชื่อฟังในสิ่งที่เขาพูด.....” ภาพของร่างสูงที่โอบกอดเขาเอาไว้ สัมผัสอบอุ่นที่เขายังคงเฝ้าฝันถึง

    “ฉันได้แต่เฝ้าคอยคำสัญญาที่ไม่รู้จะจริงหรือเปล่าของคนๆนั้น.....” 

    มือใหญ่คู่นั้นที่จับมือเขาเอาไว้เสมอในยามที่เขาหวาดกลัว

    “แม้วันนั้นฉันอยากจะบอกเขาเหลือเกิน.....”

    และแผ่นหลังกว้างของร่างสูงที่ค่อยๆไกลจากเขาไป ในตอนนั้น....

     “ว่า อย่าไปได้หรือเปล่า....”   เสียงแหบพร่าที่เจือด้วยเสียงสะอื้นของอินุยาฉะ ความโดดเดี่ยวในจิตใจของเขามันค่อยๆกว้างขึ้นทีน้อย.....

    “แต่ฉันก็รู้ว่า....ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องไปอยู่ดี....” มือคู่นี้ของเขาที่อยากจะเอื้อมออกไป เพื่อไขว่คว้าร่างสูงเอาไว้ เขาในตอนนั้นทำอะไรไม่ได้เลย...สักอย่างเดียว

    “พี่จะกลับมารับเราแน่ พี่สัญญา”  ความรู้สึกหนักแน่นที่ส่งผ่านถ้อยคำสัญญาที่ทำให้หัวใจดวงน้อยรู้สึกพองโตในครานั้นยังคงเด่นชัดอยู่ใจของเขา แต่ความน่าเชื่อถือของมันก็ช่างเบาบางเหลือเกินกับเรื่องราวต่างๆที่เขาต้องเผชิญ เขาจะสามารถเชื่อใจเขาคนนั้นได้อีกนานแค่ไหนกัน......

    “ท่านพี่.....จะกลับมาหาผมจริงๆน่ะเหรอ......”

     

    .................................................................

     

     “ทำไมนายมาอยู่ที่นี่......”

     อินุยาฉะเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ เขามองดูอีกฝ่ายที่เปียกปอนไม่ต่างจากตัวเอง ทั้งที่ในมือถือร่มเอาไว้แท้ๆ อีกฝ่ายที่ถูกถามใช้มือดึงผ้าคาดผมที่เปียกชุ่มของตัวเองออก ก่อนจะสะบัดผมที่เปียกของตัวเองเล็กน้อย

    “ฉันแค่เดินผ่านมา” อินุยาฉะมองดูอีกฝ่ายที่ตอบพร้อมเดินเข้ามาหาเขาช้า ๆ  ฝนที่หยุดตกแล้วทำให้เขาไม่สามารถบดบังใบหน้าและดวงตาแดงก่ำที่พึ่งร้องไห้มาหมาดๆของเขาได้อีก

    “นี่ร่มของนายหรือเปล่า” อีกฝ่ายพูดพร้อมยื่นร่มสีเทาในมือมาทางเขา โคงะผงะไปเล็กน้อย เมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายที่ดูแล้วไม่ค่อยดีนัก ....หมอนี่ร้องไห้ไปขนาดไหนกันเนี่ย.....

     “ไม่ใช่” อินุยาฉะตอบกลับ

     “งั้นเหรอ ฉันเห็นมันตกอยู่แถวนี้เลยคิดว่าเป็นของนาย” ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นของร่างสูงคนหนึ่งที่เดินฝ่าฝนที่ตกกะหน่ำออกไปที่เขาเห็นเมื่อไม่นานนี้ แต่ผมสีเงินแบบนั้นคงจะเป็นชาวต่างชาติล่ะมั้ง เขาเองก็เห็นหน้าไม่ชัดด้วยสิ....

     “นี่นายอยู่ตรงนี้มานานแค่ไหนกัน” อินุยาฉะถามขึ้น โคงะยักไหล่

     “ก็ไม่นาน ฉันแค่เดินเข้ามากะว่าจะหลบฝน แล้วเผอิญเห็นร่มนี่ปลิวมาจากทางสุสาน เลยเดินมาดู แล้วนายก็เดินออกมาพอดี แล้วถามฉันว่า “ทำไมนายมาอยู่ที่นี่” ก็เท่านั้น” โคงะร่ายยาว อินุยาฉะมองดูอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยเชื่อนัก แต่ต่อให้อีกฝ่ายเห็นการกระทำของเขาหรือไม่ก็ตาม เขาก็ไม่สนใจหรอกว่าอีกฝ่ายจะคิดยังไง

     “เฮ้ เดี๋ยวสิ” โคงะวิ่งมารัดหน้าอินุยาฉะที่กำลังจะเดินผ่านเขาไปเอาไว้ ก่อนจะจ้องอีกฝ่ายนิ่งด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นจริงจัง

     “อะไรของนายอีก อยากให้ฉันอัดนายให้ได้จริงๆสินะ” อินุยาฉะพูดอย่างหัวเสีย เพราะการเห็นหน้าของอีกฝ่ายยิ่งทำให้เขานึกถึงสิ่งที่อีกฝ่ายพูดกับเขา

     “ จริงๆแล้ว.....” แต่เมื่อเริ่มเปล่งเสียงพูดไปได้เพียงนิดเดียว เขาก็ชั่งใจกับสิ่งที่ตัวเองจะพูดต่อไป ก่อนเสมองไปทางอื่น เพราะเขาไม่คิดว่าตัวเขาจะต้องมาพูดอะไรแบบนี้กับอีกฝ่ายเลยรู้สึกแปลกๆขึ้นมา

     “อะไรของนาย”

     “ฉัน.....” อินุยาฉะขมวดคิ้วมองดูอีกฝ่ายด้วยความสงสัย เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่อ้ำๆอึ้งๆแล้วยังไม่หลีกทางให้เขาอีก สรุปแล้วอีกฝ่ายต้องการอะไรกับเขากันแน่

     “ฉันขอโทษเรื่องเมื่อกลางวัน”

    “หมายถึงที่นายตบลูกวอลเลย์บอลโดนฉัน?” อินุยาฉะนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนถามขึ้นเพื่อให้แน่ใจ เพราะเขาไม่เคยคิดฝันว่าอีกฝ่ายจะมาขอโทษเขาแบบนี้หรอกนะ

     “ไม่ใช่.....เรื่องที่ฉันว่านาย” โคงะเอ่ยขัดเสียงดัง แต่ก็เบาลงเมื่อพูดประโยคถัดมาราวกับเครื่องเสียงที่ถูกคนปรับเสียงลงอย่างรวดเร็ว

     “นี่หัวนายไปโดนอะไรมาหรือไง?”      อินุยาฉะมองดูอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจกับท่าทีแปลกๆที่อีกฝ่ายแสดงให้เขาเห็นตรงหน้า

    .....อย่างหมอนี่น่ะเหรอขอโทษเรา ?

    “เอาเป็นว่าฉันขอโทษนายล่ะกัน เรื่องที่จะบอกก็มีแค่นี้แหละ” โคงะพูดอย่างเร่งรีบราวกับเขาเองก็อึดอัดกับการกระทำแปลกๆของตัวเองเช่นกัน ก่อนเขาจะเอาร่มยัดใส่มืออินุยาฉะ แล้ววิ่งจากไปทันที ทิ้งแต่ความประหลาดใจไว้ให้กับอินุยาฉะที่มองตามหลังเขาไป

     “อะไรของเจ้าหมอนั่นกัน”

    และเช่นเดียวกับร่างสูงที่พูดเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องทำมาพูดอะไรแบบนี้กับอีกฝ่ายเหมือนกัน.....

    .....ทำไมเราจะต้องถ่อตามไป แล้วขอโทษเจ้าบ้านั่นด้วยเนี่ย..... เจ้าบ้าโคงะเอ้ย!........

     


    TBC.


    ----------------------------------------------------------------------

    จบไปอีกตอนแล้ว...... ตอนนี้ทำหนูอินุร้องไห้อีกแล้ว

    หลังจากอ่านตอนนี้จบ ต้องมีคนอยากเอาไรท์ไปโยนลงบ่อปลาแน่ ๆ 

    ที่แน่ๆก็ท่านพี่เส็ตนี่แหละที่จะฆ่าไรท์ =____=“

    งื้อออ/////  อยากเอาตัวเองไปโยนทะเลจริงๆ โอ้ยยย //ตบตีตัวเอง

    ถึงอย่างงั้นก็เถอะนะ เอาเป็นว่าไว้พบกันใหม่ ตอนหน้านะรีดเดอร์ที่รักทุกท่านนนนนน 

    /////เผ่นนนนนนนนน 



    S
    N
    A
    P
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×