คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ♣ Destiny ♣ Chapter 15
♣ Destiny ♣ Chapter 15
แสงแดดจ้าของดวงอาทิตย์ฤดูร้อน
ไม่ได้ทำให้เหล่าหนุ่มๆไฟแรงที่มาเข้าค่ายของโรงเรียนหวาดกลัวว่าผิวของพวกเขาจะแผดไหม้แต่อย่างใด
หนำซ้ำความร้อนของแดดยังไม่อาจสู้ความร้อนระอุแห่งการอยากเอาชนะของพวกเขาได้เลย
ร่างสูงผมดำในชุดเสื้อกล้ามสีครีมกับกางเกงขาสั้นสีส้ม
บนศีรษะสวมที่คาดหัวเป็นเอกลักษณ์ หางม้าที่รวบไว้พลิ้วไหวกับสายลมตามความว่องไวในการต่อกรกับลูกบอลที่ถูกส่งมาจากอีกฟาก
ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังคู่แข่งศัตรูตลอดกาลของเขา ที่อยู่อีกฟากไม่วางตา
“เอาไปกินซะ อินุยาฉะ!” โคงะกระโดดง้างมือตบลูกบอลเต็มแรงตรงไปทาง
เจ้าของเรือนผมสีดำสลวยที่ถูกรวบขึ้นในชุดเสื้อยืดสีแดงเข้าคู่กับกางเกงยีนขาสั้น
เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆและเสียงเชียร์จากหนุ่มเพื่อนนักเรียนที่มาชมศึกกันอย่างลุ้นระทึก
อินุยาฉะงัดลูกบอลขึ้นจากพื้น ก่อนเพื่อนร่วมทีมจะส่งลูกกลับไปอีกฟาก
เจ้าลูกสมุนตัวดีของโคงะรับเอาไว้ได้อย่างสวยงาม
ก่อนจะเกิดการปะทะไปมาอย่างดุเดือด
“เฮ้ย!” และเมื่อลูกถูกส่งขึ้นไปยังจังหวะที่เหมาะ
อินุยาฉะก็กระโดดตบลงไปเต็มแรง
อัดลงที่พื้นตรงหน้าของโคงะและได้คะแนนไปอย่างสวยงาม
“อ้ากก เจ้าบ้าอินุยาฉะ บังอาจนักนะแก”
โคงะร้องโวยขึ้น เมื่อเกมจบลงในลูกตัดสินเมื่อครู่
อินุยาฉะมองดูโคงะที่มองมาทางเขาด้วยสายตาเจ็บใจ ก็แสยะยิ้มให้ก่อนเอ่ยขึ้น
“หึ ครั้งนี้ฉันชนะ”
“ไอ้บ้านี่ อ้ากกก แกนะแก อินุยาฉะ”
“พี่โคงะ ใจเย็นๆพี่”
ลูกสมุนทั้งสองเข้าไปคว้าตัวลูกพี่ไว้ ก่อนที่จะเกิดศึกปะทะร้ายแรง เมื่อเห็นอินุยาฉะเดินไปนั่งที่ใต้ร่มชายหาด
พวกเขาก็ปล่อยลูกพี่ออกแล้วกลับเข้าสู่เกมอีกครั้ง
โดยครั้งนี้เหล่าผู้ท้าชิงที่จะมาเล่นกับพวกเขาคงดวงซวยน่าดู ที่ต้องปะทะกับโคงะที่กำลังไฟลุกพรึ่บตบลูกเป็นกระสุนแน่ๆ
...หวังว่าจะไม่มีใครบาดเจ็บล่ะนะ....ฮ่ะๆ
“เฮ้ อินุยาฉะ เอ้าน้ำ”
อินุยาฉะหันไปตามเสียงเรียกหลังจากนั่งพักมองการโคงะรังแกคู่ต่อสู้อยู่
ก่อนรับเครื่องดื่มเย็นเฉียบที่อีกฝ่ายโยนมาให้ได้พอดิบพอดี เขามองดูเจ้าเพื่อนตัวดีที่ยิ้มแฉ่งอย่างมีความสุขหลังจากหายตัวไปตั้งแต่เขาเริ่มแข่ง
ก่อนเอ่ยขึ้น “ขอบใจ”
“นี่อินุยาฉะ นายไม่ไปดู สาวๆว่ายน้ำเหรอ” มิโรคุนั่งลงข้างๆเขา
“ฉันไม่ใช่นาย” อินุยาฉะเอ่ย
ก่อนยกเครื่องดื่มที่เห็นว่าเป็นน้ำสับปะรดกระป๋องขึ้นดื่มดับกระหาย
“แหมมมม ทั้งที่คาโงเมะจังแต่งตัวชุดว่ายน้ำทูพีซน่ารักกำลังว่ายน้ำอยู่นู่นเชียวนะ
ไม่อยากเห็นเหรอ”
อินุยาฉะสำลักน้ำสับปะรดกระป๋อง
ก่อนเขม่นตาใส่เจ้าเพื่อนตัวดีที่ทำตาหวานหยาดเยิ้ม
“ฉันไม่ได้โรคจิตเหมือนนายนะเฟ้ย”
อินุยาฉะยกมือโบกเข้าให้ที่หัวเพื่อนตัวดี จนอีกฝ่ายยิ้มแห้งๆ
“แหม มาทะเลทั้งทีก็ต้องดูสาวๆว่ายน้ำสิ นายนี่น้า” มิโรคุเอ่ยแซวพลางยกมือกุมขมับส่ายหัวราวกับเสียดายความหนุ่มแน่นของเจ้าเพื่อนของเขา
มิโรคุเหลือบมองเพื่อนที่หันไปสนใจการแข่งพลางยิ้มไปหัวเราะไป
แล้วก็อดระบายยิ้มตามไม่ได้ ดีแค่ไหนที่เจ้าเพื่อนของเขาจะแสดงสีหน้าและท่าทางร่าเริงได้แบบนี้
หลังจากผ่านเรื่องแย่ๆตอนย่าชิมาดะป่วยมาได้ ถึงแม้ตอนนี้ผ่านมาหลายเดือนคุณย่าจะกลับไปพักที่บ้านได้แล้วก็เถอะนะ
แต่เพราะอาการป่วยเลยยังต้องไปตรวจร่างกาย เพื่อติดตามอาการอยู่ตลอดก็เถอะ.....
“เจ้าบ้านั่นคิดจะฆ่าคนด้วยลูกบอลนั่นหรือไงเนี่ย”
อินุยาฉะเอ่ยขึ้นอย่างนึกขำ มิโรคุหันมองร่างสูงที่ฉายประกายโดดเด่นท่ามกลางผู้คนที่รายล้อมก็อดรู้สึกแปลกไม่ได้
ตั้งแต่ที่อินุยาฉะทำงานพิเศษทั้งคู่ก็ดูจะสนิทกันมากขึ้นเยอะจนน่าประหลาดใจ
คงเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างเข้าใจในบางสิ่งที่มีแต่คู่ปรับกันเท่านั้นถึงจะเข้าใจล่ะมั้ง.....
“นายคิดว่าไง? มิโรคุ? เฮ้ มิโรคุ?”
อินุยาฉะหันมาถามเพื่อนตัวดีที่เงียบไป ก่อนสะกิดอีกฝ่ายจนเรียกสติกลับมาทำหน้าเหลอหลาเหมือนคนพึ่งตื่น
“อะไรของนาย มองสาวๆอยู่สิท่า
เดี๋ยวฉันจะฟ้องยัยซังโกะนะเว้ย”อินุยาฉะเอ่ยแซวคืน
“อย่าเชียวนะ ฉันไม่อยากถูกถ่วงน้ำกลายเป็นอาหารฉลาม ฮ่าๆ” มิโรคุเอ่ยล้อพร้อมทำท่าทางหวาดกลัว เรียกเสียงหัวเราะจากเจ้าเพื่อนตัวดีของเขาไปด้วย
อย่างน้อยๆ
ตอนนี้ก็ไม่ได้เกิดเรื่องไม่ดีอะไรกับอินุยาฉะล่ะนะ....
.................................................
“ว้าวววว น่ากินจังเลย” เสียงของเพื่อนนักเรียนหญิงร้องขึ้น หลังจากอาจารย์พูดสรุปกิจกรรมของวัน พร้อมกับเสียงเพื่อนนักเรียนชายที่กู่ร้องดีใจลงมือจัดการกับอาหารเย็นที่โรงแรมจัดเตรียมเอาไว้บนโต๊ะตัวยาวสีดำที่นั่งกันอยู่ทันที
มิโรคุกับอินุยาฉะนั่งข้างกันอยู่ปลายอีกด้านของโต๊ะตัวยาว
โดยมีคาโงเมะกับซังโกะนั่งอยู่ตรงข้ามของโต๊ะ
“วันนี้สนุกไปเลยนะ” คาโงเมะเอ่ยขึ้น
พร้อมกับรอยยิ้มมีความสุข ซังโกะพยักหน้าเห็นด้วยขณะคีบเนื้อปลาเข้าปาก
“นั่นสินะ วันนี้ฉันก็มีความสุขเหมือนกัน”
มิโรคุเอ่ยยิ้มหวาน
“แน่สิ นายมองสาวทั้งหาดเลยนี่นะ” อินุยาฉะเอ่ยแซว
ก่อนเจ้าเพื่อนตัวดีจะถูกซังโกะใช้เท้ากระแทกจากใต้โต๊ะ
“อินุยาฉะ! นายนี่มัน” มิโรคุร้องครวญฝุบลงกับโต๊ะ “ใช่สิ
ใครจะเหมือนนายล่ะเนาะ คาโงเมะจัง หมอนี่น่ะ... อื้อ!”
“กินไปเงียบๆเถอะนายน่ะ”
อินุยาฉะคีบปลาชิ้นหนึ่งยัดเข้าไปในปากมิโรคุทันที
เพื่อไม่ให้เจ้าเพื่อนตัวดีใส่ร้ายอะไรเขาได้
“พวกนายนี่น้า” คาโงเมะยิ้มขำกับท่าทีเด็กๆของทั้งคู่
“จริงสิ
ได้ยินว่าวันนี้จะมีทดสอบความกล้าเหรอซังโกะจัง?”
คาโงเมะหันมาถามเมื่อนึกถึงสิ่งที่อาจารย์เคยแจ้งขึ้นมาได้
“อืม
เห็นว่าจะเริ่มหลังกินข้าวเย็นนี่เสร็จนะ”ซังโกะเอ่ยตอบ
“ทดสอบความกล้างั้นเหรอ?” อินุยาฉะเอ่ยทวน
“ทำไมนายกลัวหรือไงเจ้าลูกหมา?”
น้ำเสียงยียวนกวนประสาทดังมาจากอีกฟากของโต๊ะ
เมื่อเจ้าของเสียงเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังคาโงเมะและเอ่ยทักขึ้นด้วยสีหน้าเหนือกว่า
“โคงะคุง?” คาโงเมะสะดุ้งเล็กน้อย
เมื่อร่างสูงโผล่มาทางด้านหลัง อินุยาฉะเขม่นตาใส่อีกคน “นายจะไปไหนก็ไป นายทำข้าวฉันเสียรสชาติหมด”
“ว่าไงนะ เจ้านี่!” โคงะเอ่ยอย่างหัวเสีย
เรียกสายตาจากเพื่อนนักเรียนคนอื่นให้หันมาสนใจว่าจะเกิดศึกขึ้นอีกแล้วหรือไม่
“ลูกพี๊” ลูกสมุนทั้งสองวิ่งปรี่เข้ามาห้ามทัพทันที
“ใจเย็นๆนะทั้งสองคน”คาโงเมะเอ่ย
เมื่อเห็นดวงตาของทั้งคู่จ้องกันราวกับมีกระแสไฟฟ้าดังเปรี๊ยะๆระหว่างกัน
“พวกนายใจเย็นๆ”
มิโรคุยกมือพร้อมเอ่ยขึ้นห้ามทัพเช่นกัน ก่อนโคงะจะหึใส่
“ไว้ฉันจะรอดูนายกรีดร้องนะเจ้าลูกหมา”
“ใครกันแน่” อินุยาฉะเอ่ยตอกกลับ โคงะเขม่นตาใส่อีกคน
แล้วสะบัดหน้าเดินหนีไป
ทุกคนในที่นั้นถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนหันไปสนใจเรื่องของตัวเองกันต่อ
มิโรคุมองเพื่อนรักที่นั่งกินข้าวพลางขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด นี่เขาชักไม่แน่ใจแล้วสิ
ว่าการที่เขาคิดว่าทั้งสองสนิทกันขึ้น เขาคิดไปเองหรือเปล่า เฮ้อ.....
...........................................................................
เหล่านักเรียนต่างมาออกันที่ทางเข้าป่าลึกแห่งหนึ่ง
ใกล้ๆกับโรงแรม โดยมีรุ่นพี่ปีสามยืนถือไฟฉายและเอ่ยกติกาให้แก่พวกเขาฟัง อินุยาฉะ
มิโรคุ ซังโกะและคาโงเมะยืนจับกลุ่มกันอยู่ด้วยกัน ก่อนพวกรุ่นพี่จะเดินเอาเชือกคล้องแขนที่มีสัญลักษณ์ต่างกันเพื่อใช้สลับจับคู่
โดยถ้าสัญลักษณ์เหมือนกันก็จะเป็นคู่ทดสอบความกล้าในครั้งนี้ และก่อนที่จะไปถึงจุดหมาย
ห้ามให้เชือกนี้ขาดเด็ดขาด
“ต่อไปให้ทุกคนหาคู่ของตัวเองแล้วเราจะปล่อยพวกเธอไปตามลำดับ”
“พวกนายได้อะไรกันน่ะ” คาโงเมะเอ่ยถามขึ้น พร้อมยกเชือกที่มีรูปแมวของเธอขึ้นให้พวกเขาดู
“เห....ของคาโงเมะจังเป็นแมวเหรอ เหมือนของหมอนี่เลย”
มิโรคุเอ่ยเสียงร่าพร้อมชูมือของอินุยาฉะให้เธอดู
ก่อนอินุยาฉะจะรู้ว่ามันเป็นรูปแมวจริงๆ.....
“เอ๊ะ” คาโงเมะหน้าระเรื่อขึ้น
เมื่อคิดว่าเธอต้องจับคู่กับอินุยาฉะ
“ดีใจล่ะสิ อินุยาฉะ” มิโรคุเอ่ยกวนเพื่อนตัวดีที่ทำตัวไม่ถูก
เขาไม่คิดว่าตัวเองจะถูกจับคู่กับคาโงเมะเลยแท้ๆ
“บังเอิญจังเลยนะ”ซังโกะเอ่ยเบาๆพร้อมรอยยิ้ม
“งั้นหรือว่าซังโกะจังก็ได้เหมือนฉันหรือเปล่าน้า”
มิโรคุเอ่ยขึ้น ก่อนดูเชือกของซังโกะและพบว่ามันไม่เหมือนกัน
“หวา แย่จัง ไม่เหมือนกันอ่ะ ซังโกะจังงง”มิโรคุเอ่ยเสียงทะเล้นพร้อมทำน้ำตาคลอ
ก่อนยกหลังมือของซังโกะขึ้นไปถูกับแก้มแล้วถูกอีกฝ่ายผลักออก
“เจ้าบ้านี่ ฉันไปหาคู่ฉันก่อนล่ะ คาโงเมะจัง
เอาไว้เจอกันนะ” ซังโกะยิ้มให้คาโงเมะ ก่อนคาโงเมะจะทำท่าเขินๆ
“งั้นฉันก็ไปบ้างดีกว่า” มิโรคุเอ่ย
ก่อนจะผละตัวจากไป ปล่อยทั้งสองคนเอาไว้ตรงนั้น
.................................................
บรรยากาศมืดสลัวกับเสียงลมที่พัดผ่านต้นไม้ให้เกิดเสียงโหยหวยชวนให้ขนแขนลุกซู่
อินุยาฉะและคาโงเมะเดินตามทางที่รุ่นพี่บอกมาเรื่อยๆ
เพื่อตามหารูปปั้นจิ้งจอกประจำเมืองนี้ ที่ถ้าผ่านป่าไผ่ไป
ก็จะเจออยู่ที่หน้าแท่นบูชาเก่าๆที่อยู่ลึกเข้าไปไม่ไกลจากที่นั่น
อินุยาฉะกับคาโงเมะ
พวกเขาเดินกันมาโดยคาโงเมะคล้องแขนของอินุยาฉเอาไว้หลวมๆ สายตาของอินุยาฉะทอดยาวตามแสงของไฟฉายบนพื้นเรื่อยๆขณะที่ก้าวเดิน
ทั้งคู่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา ได้ยินเพียงเสียงหัวใจที่เต้นระรัวในอก
ไม่รู้ว่าเพราะความกลัวหรือเพราะความประหม่าที่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาอยู่กันสองต่อสองในที่มืดๆตอนดึกๆแบบนี้
“นี่
อินุยาฉะ” คาโงเมะเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบเพราะทนกับความเงียบอันน่าอึดอัดต่อไปอีกไม่ไหว
เสียงของเธอทำเอาอินุยาฉะแอบสะดุ้งเบาๆ
“อะ
อะไร”
“จะว่าไปมันก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่เนาะ” คาโงเมะเอ่ยต่อ
ทั้งที่มือของเธอยังสั่นอยู่
“หึ เธอกลัวอยู่เห็นๆนี่” อินุยาฉะเอ่ยแซว
“ไม่ใช่ซะหน่อยนะยะ”คาโงเมะเอ่ยตอบพลางใช้มือทุบแขนอีกฝ่าย
“นั่นสินะ เธอเป็นถึงมิโกะของศาลเจ้า
กับแค่ภูตผีคงไม่กลัวหรอกใช่ไหม”
“ แน่ แน่นอนอยู่แล้วสิยะ”
พรึ่บ !
“แว๊ก / กรี๊ดด”
ทั้งสองร้องเสียงหลงด้วยความตกใจที่เห็นเงาบางอย่างผ่านหน้าพวกเขา จนเผลอหลับตาหันไปกอดกันแน่น
เสียงหัวใจในอกกว้างเต้นไม่เป็นจังหวะ
หญิงสาวหน้าระเรื่อเมื่อสัมผัสถึงไออุ่นจากอีกคน อินุยาฉะค่อยๆลืมตาขึ้น
“ทะ โทษที”อินุยาฉะผละตัวออก ก่อนหันหน้าไปทางอื่น “เมื่อกี้
มันอะไรน่ะ” อินุยาฉะส่องไฟฉายไปรอบๆ ก่อนจะพบกับต้นเหตุ แล้วเขาก็พบเข้ากับเจ้าต้นเหตุที่ทำให้พวกเขาตกใจเมื่อครู่
ดวงตากลมโตสีทองวาววับนั้นจ้องมาทางพวกเขา
“เมี๊ยว” ก่อนจะร้องเหมือนเยาะเย้ยกับความขี้ขลาดของเด็กหนุ่มแล้ววิ่งหายเข้าโพร่งหญ้าไป
คาโงเมะมองดูแล้วก็อดขำออกมาไม่ได้
ที่พวกเขาตกใจกับแค่แมวดำตัวเดียว
“ยัยบ้า หัวเราะอยู่ได้”
“ก็มันตลกจะตายนี่ หมาแบบนายกลัวกับแค่แมวเนี่ยนะ”
“เธอพูดดีไปนะ เธอก็ร้องเสียงหลงเหมือนกันแหละน่า”อินุยาฉะเถียงกลับ
กับแค่เขาชื่ออินุไม่ได้หมายความว่าเขาจะตกใจแมวไม่ได้ซะหน่อย เขาก็คนนะเว้ย!
“เอาเถอะ ฉันไม่เถียงกับนายแล้ว เรารีบเดินต่อไปให้ถึง
แล้วรีบกลับออกไปกันเถอะ ไม่รู้ปานนี้คนอื่นๆจะไปถึงกันหรือยัง”
“อย่าหนี!” เสียงตะโกนดังขึ้นท่ามกลางความมืด
ก่อนจะมีเงาดำๆวิ่งออกมาจากความมืดของป่าอย่างรวดเร็วพร้อมชนเข้ากับพวกเขาทั้งคู่ที่หันไปสนใจ
“กรี๊ด” คาโงเมะร้องกรี๊ด เมื่อเธอถูกใครบางคนชนเข้าอย่างแรง
ด้วยความตกใจเลยปล่อยแขนที่คล้องอินุยาฉะเอาไว้ออกจนเซลงไปนั่งกับพื้น
“คาโงเมะ!” อินุยาฉะร้องขึ้น ก่อนส่องไฟฉายไปทางเงาคนที่ผ่านไปนั่น
แต่น่าเสียดายที่คนนั้นวิ่งเร็วมากจึงเห็นเพียงหลังของอีกฝ่าย แต่ไม่ทันที่เขาจะตัดสินใจวิ่งตามไป
เขาก็สัมผัสได้ถึงเสียงฝีเท้าจากทางข้างหลังที่ตรงมาทางพวกเขา เขาสังหรณ์ใจว่าอาจเป็นพรรคพวกของเจ้าคนนั้น
เลยรีบหันไปสาดไฟฉายใส่ทางนั้นทันที
“เฮ้ย”
ก่อนจะพบกับร่างสูงที่ร้องขึ้นด้วยความตกใจพร้อมยกแขนขึ้นปิดใบหน้าที่ถูกแสงส่องเข้าตรงๆในความมืดทำให้ตาเขาพร่าไปชั่วขณะ
อินุยาฉะรีบใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือไฟฉายคว้าแขนของร่างที่สูงกว่านั้นเอาไว้
“แกเป็นใคร” อินุยาฉะตวาด ก่อนอีกฝ่ายเหมือนจะปรับสายตาได้
ยกมือออกจากหน้า พร้อมสบถใส่อีกคน
“แกนั่นแหละ มาขวางทำไม...หะ ดูสิมัน...”
น้ำเสียงที่หัวเสีย
เมื่อครู่พลันเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่เบาลงและดูราวกับแปลกใจกับภาพที่ได้เห็น
อินุยาฉะจับจ้องใบหน้าของอีกคน หน้าตาหล่อเหลากับดวงตาสีม่วงที่ลุ่มลึกราวกับเก็บซ่อนปริศนาเอาไว้ภายใน
ดวงตาสีม่วงที่มองมาทางเขาของชายหนุ่มร่างสูงเรือนผมสีดำในชุดเสื้อเชิ๊ตสีเทามีท่าทีประหลาดใจขณะที่มองตรงมาทางเขาและเบนสายตาไปที่คาโงเมะที่อยู่ข้างๆ
“อินุยาฉะ
นายไม่เป็นไรนะ” คาโงเมะที่ได้สติลุกขึ้น มองเงาทั้งสองที่กำลังประจันหน้ากันอยู่
“นายเป็นใครกันหะ” อินุยาฉะเอ่ยอย่างหัวเสียใส่อีกคน คนตรงหน้าคิดจะทำอะไรกันแน่
แล้วเจ้าคนเมื่อกี้ที่ชนพวกเขาเป็นพวกเดียวกับคนตรงหน้าหรือเปล่า แต่ไม่ทันได้เกิดเรื่องอะไรต่อ เสียงฝีเท้ากลุ่มหนึ่งตรงเข้ามาทางพวกเขา
พร้อมเสียงหนึ่งดังขึ้น
“พวกนายไม่เป็นอะไรนะ” มิโรคุเอ่ยขึ้นด้วยเสียงร้อนรน
พร้อมกับร่างสูงอีกคนที่ดูท่าทางหัวเสียไม่น้อย
“มิโรคุคุง โคงะคุง”คาโงเมะเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ
ก่อนแสงไฟจากดวงไฟรอบๆจะสว่างขึ้น “ไฟสว่างแล้ว”
“พวกรุ่นพี่น่าจะเป็นคนเปิดน่ะ”มิโรคุเอ่ย
“แกเป็นพวกเดียวกับเจ้าคนเมื่อกี้สินะ” โคงะเอ่ยอย่างหัวเสีย
เมื่อมองไปที่ร่างสูงที่ถูกอินุยาฉะจับเอาไว้ ร่างสูงในเสื้อเชิ๊ตสีเทา กางเกงสีดำกับรองเท้าหนังที่เปื้อนดิน
ดูๆแล้วไม่เหมือนกับชายในเสื้อฮู้ดสีดำที่พวกเขาเจอ
แต่ก็ไม่แน่ว่าจะไม่ใช่พวกเดียวกัน
“พวกนายเจอหมอนั่นแล้ว?”ร่างสูงเอ่ยถาม
“จัดการไปแล้ว”โคงะเอ่ยพลางยักไหล่เพื่อบอกว่าเจ้าคนพรรค์นั้นไม่ใช่คู่มือของเขาแม้แต่น้อย
“เจ้าหมอนั่นดวงไม่ดีเท่าไหร่
เจอโคงะน็อคสลบไปแล้วล่ะ พวกรุ่นพี่กำลังตามครูมาจัดการอยู่ พวกฉันได้ยินเสียงร้องเลยตามมาดู
กลัวว่าจะเกิดเรื่องน่ะ”มิโรคุเอ่ยอธิบาย
หลังจากที่พวกเขาจัดการเสร็จก็รีบติดต่อรุ่นพี่แล้วตรงมาเลย
กลัวว่าจะเกิดเรื่องกับเจ้าเพื่อนรักของเขา
“หึ งั้นฉันก็ไม่มีเรื่องจะต้องอยู่นี่แล้ว ไปละ”
“นายคิดว่านายจะไปไหนกันหะ”
อินุยาฉะจับอีกฝ่ายไว้แน่น เมื่อร่างสูงสะบัดแขนทำท่าจะหนี
“เด็กน้อย ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเจ้าบ้านั่น
ถ้าฉันเป็นคนร้ายนายจับฉันไม่อยู่หรอกนะจะบอกให้” ชายหนุ่มร่ายยาวพลางแสยะยิ้ม
ทำเอาอินุยาฉะอดหมั่นไส้ไม่ได้
“นี่นาย!” อินุยาฉะตวาดเสียง
ก่อนอีกฝ่ายจะหันมาเปลี่ยนเป็นคนจับอินุยาฉะเอาไว้แทน
“อินุยาฉะ!” คาโงเมะร้องขึ้น เมื่ออินุยาฉะถูกจับไขว่แขนไว้ข้างหลัง
ไม่ว่าจะพยายามออกแรงดิ้นยังไงก็ดูเหมือนจะสู้แรงของร่างสูงไม่ได้
“พวกนายก็แค่เด็กมาทดสอบความกล้าล่ะสิ
ฉันไม่มีเวลามาเล่นด้วยหรอกนะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นข้างหูของอินุยาฉะ โคงะเห็นแบบนั้นก็รีบเข้าไปกะจะคว้าอีกคนกลับมา
“ทุกคนใจเย็นๆนะ” มิโรคุเข้าไปกั้นกลางทันที
ก่อนที่จะเกิดเป็นเรื่องใหญ่โตไปกว่านี้ เพราะขนาดอินุยาฉะยังขัดขืนไม่ได้
คนๆนี้ต้องไม่ธรรมดา ถ้าเกิดอีกฝ่ายเป็นคนร้ายจริงๆ พวกเขาอาจจะสู้ไม่ไหว
อินุยาฉะอาจจะบาดเจ็บอีกด้วยก็ได้
“ถ้าคุณไม่ได้เป็นอะไรกับคนก่อนหน้านี้
งั้นขอให้คุณปล่อยเพื่อนเราแล้วไปกับเราได้ไหมครับ”มิโรคุเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“มิโรคุ เจ้าบ้า แกจะพูดดีกับเจ้าบ้านี่ทำไมหะ”อินุยาฉะเอ่ยโวยพลางดิ้นไปมาด้วยความโมโหที่ตัวเองขัดขืนแรงเจ้าบ้าคนนี้ไม่ไหว
ทั้งที่ปกติไม่มีใครสู้เขาได้แท้ๆ
“ถ้าสาวน้อยคนนี้ขอให้ฉันอยู่
ฉันจะอยู่ก็ได้นะ” ชายหนุ่มหันไปทางคาโงเมะด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวมองมาทางพวกเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ปล่อยฉันนะเว้ย เจ้าบ้านี่”อินุยาฉะขัดขืนแต่แล้วก็ถูกอีกฝ่ายรั้งแขนไว้จนนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ตัวใหญ่เท่าไหร่แต่ทำไมถึงได้แรงเยอะขนาดนี้
คิดได้แบบนั้นอินุยาฉะก็ได้แต่เจ็บใจ
“แกนี่มัน”โคงะกัดฟันกรอด แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร
เพราะอินุยาฉะอยู่ในมืออีกฝ่ายและดูจากการเคลื่อนไหวแล้วคงไม่ใช่ใครที่เขาจะสู้ด้วยได้ง่ายๆเหมือนกัน
“คุณช่วยปล่อยอินุยาฉะได้ไหมคะ”คาโงเมะเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าสถานการณ์อาจจะแย่มากขึ้น
“งั้นแลกกับเบอร์เธอได้หรือเปล่า”
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงด้วยยิ้มทะเล้น ทำเอาทุกคนหน้าเหวอ ก่อนอินุยาฉะจะหันมาโวยใส่อีกคน
“นี่แก!”
เห็นแบบนั้นชายหนุ่มก็หัวเราะออกมา ก่อนคลายมือออก
แล้วผลักอินุยาฉะเสไปหาหญิงสาว
“ฮ่าๆ ล้อเล่นน่า”
“เห็นนายท่าทางมั่นอกมั่นใจ เลยอดเล่นด้วยไม่ได้น่ะ”
ร่างสูงเอ่ย รอยยิ้มของอีกฝ่ายทำให้เส้นเลือดของอินุยาฉะเดือดปุดๆ
“ไอ้เจ้าบ้านี่!” อินุยาฉะหันไปโถมตัวจะเข้าไปหาร่างสูง
แต่ถูกมิโรคุคว้าตัวไว้ซะก่อน
“ใจเย็นก่อน อินุยาฉะ”มิโรคุเอ่ยปราม
ดูท่าแล้วอีกฝ่ายคงไม่ได้คิดจะทำร้ายอินุยาฉะ หรือทำร้ายพวกเขา
“อินุยาฉะ
นายอยู่เฉยๆเถอะ”คาโงเมะเอ่ยกับอีกคน อินุยาฉะเหลือบมองร่างสูง
ก่อนเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
“ทุกคน พวกนายไม่เป็นไรนะ”
เสียงคุ้นหูของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นเรียกให้พวกเขาหันไปสนใจ
“ซังโกะจัง”คาโงเมะทักขึ้น
เมื่อเพื่อนสาวคนสนิทวิ่งมาหาพวกเธอพร้อมกับลูกสมุนคนสนิทของโคงะอีกสองคน
“คาโงเมะจังไม่เป็นอะไรนะ”
เธอเอ่ยถามพลางสำรวจดูตามร่างกายของเพื่อน คาโงเมะส่ายหน้า
ก่อนซังโกะจะสำรวจไปรอบๆ อินุยาฉะที่ท่าทางหัวเสีย มิโรคุที่ยิ้มแห้งๆมาทางเธอ และโคงะที่เอาแต่จ้องร่างสูงอีกคนด้วยแววตาขุ่นเคือง
คนแปลกหน้าที่มีผมสีดำยาว ดวงตาสีม่วง ผิวขาวซีดในเสื้อเชิ้ตสีเทากับกางเกงสีดำ
รองเท้าผ้าใบสีดำ ท่าทางสูงสง่าดูแล้วคงไม่ใช่นักเรียนแน่ๆ
“นั่นใครน่ะ”ซังโกะเอ่ยถามขึ้น
“คนร้าย”
อินุยาฉะตอบขึ้น
“อะไรนะ?” ซังโกะร้องอย่างตกใจ
“ฉันมาเที่ยวพักผ่อนน่ะ
แล้วบังเอิญถูกเจ้าคนที่พวกเธอจับได้ขโมยของไปเลยวิ่งตามมาเจอเพื่อนพวกเธอเข้าน่ะ”ร่างสูงอธิบายอย่างใจเย็น
ทำเอาอินุยาฉะที่ฟังไม่ชอบใจนัก
“โกหกชัดๆ”อินุยาฉะเอ่ยขึ้น
ก่อนถูกคาโงเมะตีเข้าที่แขนเบาๆ เพื่อปรามให้อีกฝ่ายระวังคำพูด
“น่าจะเข้าใจผิดกันน่ะซังโกะจัง” มิโรคุเอ่ยอธิบาย พร้อมส่งสายตาให้ซังโกะว่าพวกเขาควรจะเคลียร์สถานการณ์ตึงเครียดนี่เสียที
“อย่างนี้นี่เอง งั้นตามพวกเรามาเถอะค่ะ” ซังโกะเอ่ยขึ้นโดยไม่ถามอะไรต่อ
ส่งสายตาให้มิโรคุ ก่อนเธอจะเดินนำพวกเขาไป โดยมีร่างสูง คาโงเมะและพวกโคงะตามหลังไป
“เจ้าบ้านั่น มันโกหกชัดๆเลยไม่ใช่หรือไง”อินุยาฉะเอ่ยอย่างหัวเสีย
“เอาน่าๆ เราไม่รู้หรอกว่าโกหกหรือเปล่า
พวกนายไม่บาดเจ็บก็ดีเท่าไหร่แล้ว”มิโรคุเอ่ยต่อพลางจับไหล่แล้วคล้องคอเจ้าเพื่อนตัวดีให้ตามไป
.................................................
ทุกอย่างจบลงอย่างราบรื่น คนร้ายถูกตำรวจจับตัวไป
อาจารย์เลยให้เด็กๆกลับห้องไปพักผ่อน เหลือก็แต่อินุยาฉะที่รู้สึกไม่วางใจกับชายหนุ่มที่พวกเขาพบ
เลยเดินตามอีกฝ่ายไป
“ไม่คิดจะขอโทษกันหน่อยหรือไง”
อินุยาฉะเอ่ยขึ้นกับชายหนุ่มที่กำลังจะเดินออกจากประตูโรงแรม
ชายหนุ่มหยุดยืนแล้วหันมาทางเขา อินุยาฉะกวาดตามองอีกคนตั้งแต่หัวจรดเท้าเป็นครั้งแรก
อีกฝ่ายสูงกว่าเขาจนน่าหมั่นไส้แววตานั้นลุ่มลึกจ้องเข้าไปยังดวงตาของอินุยาฉะราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่างสะกดให้อินุยาฉะต้องมองตอบ
“เด็กน้อย ถ้ามีคนที่จะต้องขอโทษนั่นมันนายตังหาก”ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเอือมๆ
“ทำไมฉันต้องขอโทษนาย?” อินุยาฉะขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
“เฮ้อ ช่างมันเถอะ ฉันไปล่ะ”ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ
ก่อนหันหลังจะเดินออกไปแต่ก็ถูกอินุยาฉะเดินเข้าไปขวางเอาไว้
“อีกอย่างนายไปทำอะไรในที่มืดๆแบบนั้น” อินุยาฉะมองอีกฝ่ายอย่างจับผิด คนดีๆที่ไหนจะไปในที่ๆไม่มีคนแบบนั้นกัน
“มันไม่เกี่ยวกับนายนี่” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
“นายเป็นพวกเดียวกับเจ้านั่นใช่มั้ยล่ะ”
“เด็กน้อย” ร่างสูงยกมือขึ้นจับไหล่สองข้างของอินุยาฉะแน่น
“นายอย่ายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ให้มากจะดีกว่านะ”
“ไม่อย่างนั้นแล้ว......”
ร่างสูงเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ใบหูอีกคน ก่อนกระซิบต่อ “จะถูกจับกินเอาง่ายๆนะ”
ร่างสูงเคลื่อนหน้าออกยิ้มบางๆให้
ก่อนจะเดินผ่านร่างบางไป
“พูดบ้าอะไรของนายหะ!”
“เฮ้ยยย อินุยาฉะ” เสียงของเพื่อนรักดังมาแต่ไกล
มิโรคุวิ่งเข้าไปคว้าตัวเพื่อนตัวดีที่เขาตามหาตัวอยู่เอาไว้แน่น
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจะตามไปหาเรื่องร่างสูงคนนั้นอีกแล้ว
“มิโรคุ นายปล่อยฉัน!”อินุยาฉะมองดูแผ่นหลังของชายหนุ่มลับหายไปที่หัวมุมประตูทางเข้าโรงแรม
มิโรคุเห็นแบบนั้นก็ปล่อยเพื่อนรักออก
“ใจเย็นๆ น่า” เขาเอ่ยปราม เพื่อนเขาคงไม่ชอบใจที่ตัวเองแพ้ให้กับร่างสูงคนนั้นในเหตุการณ์เมื่อกี้ถึงได้หัวเสียขนาดนี้ แถมยังต่อหน้าโคงะกับคาโงเมะอีก
“ชิ เจ้าบ้านั่นมันใครกัน”
“เอาน่าๆ วันนี้พักผ่อนเถอะ
พรุ่งนี้เราต้องกลับกันแล้วนะ ไปๆ กลับห้องกันเถอะ”
มิโรคุร่ายยาวด้วยรอยยิ้มพลางดันหลังเพื่อนตัวดีที่เดือดปุดๆให้ตรงกลับห้องแล้วพักผ่อนเสียที
เขาคนนั้นคงไม่ใช่คนร้ายอะไร
ท่าทางดูเป็นผู้ดีอย่างไม่น่าเชื่ออีกตังหาก....
แล้วก็ไม่น่าจะหมายตาทำร้ายอินุยาฉะ....
เพราะถ้าคนแบบนั้นหมายตาอินุยาฉะเข้า
เพื่อนเขาคงถูกจับไปต้มยำทำแกงได้ง่ายๆแล้วล่ะนะ.....
TBC.
------------------------------------------------------------------
ไม่รู้ว่ามีใครรู้มั้ยนะว่าคนที่พวกอินุเจอคือใครกันแน่?
หวังว่าจะมีคนรอเจอคุณพี่ชายได้นะ
ไม่นานเกินรอแล้ววว
ไว้พบกันใหม่ตอนหน้านะรีดเดอร์ทุกคนน ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
//โค้งงามๆ
ความคิดเห็น