คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ♣ Destiny ♣ Chapter 01
ข่าวการสูญเสียผู้นำตระกูลอย่าง “อินุไทโช”
ไปนั้นแพร่สะพัดไปทั่วทุกที่อย่างรวดเร็ว
งานศพของเขาและภรรยาถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่
ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของชนชั้นสูงและคนรับใช้
เจ้าบ้านแห่งตระกูลต่างๆ ต่างพากันมาแสดงความเสียใจกับลูกชายคนโตของตระกูล
ผู้ที่ยังคงมีสีหน้านิ่งเฉยดั่งปกติ
หากทว่ากลับมองดูเด็กน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างอ่อนโยน
เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นในหมู่ผู้คนที่มาร่วมงาน
พวกเขาต่างพูดกันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อาจเป็นเพราะแม่ของอินุยาฉะที่แอบมีชู้แล้วรวมหัวกันเพื่อฆ่าอินุไทโช
และหวังฮุบมรดก แต่น่าเสียดายที่ชู้หักหลังเลยฆ่าทั้งสองคน เมื่อข่าวลืออันไร้ที่มาที่ไปนี้เริ่มเป็นที่ถกเถียงภายในงาน
มีหรือที่เด็กน้อยจะยอมทนฟังผู้คนว่าแม่ของเขาได้
“ท่านแม่น่ะ.....ไม่ใช่คนแบบนั้น!” อินุยาฉะตะโกนเสียงดัง
ทุกคนต่างมองมาที่เขาเป็นตาเดียว
สายตาของผู้คนมองดูเขาราวกับเป็นสิ่งน่าขยะแขยง อินุยาฉะมองไปรอบๆ
เสียงก่นด่าของผู้คนวนเวียนอยู่ภายในหัว
“เจ้าเด็กบ้านั่นมันอะไรน่ะ...”
“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยจริงๆ” “เป็นแค่ลูกเมียน้อยแท้ๆ” “ที่แกกับแม่มีที่อยู่ทุกวันนี้ก็เพราะท่านอินุไทโชแท้ๆ”
ฯลฯ
“ไม่......ไม่นะ
หยุด หยุดนะ หยุดดดด!”
ดวงตากลมโตสีอำพันจับจ้องกรอบรูปของชายร่างสูงและหญิงสาวผมสีดำในชุดกิโมโนกำลังแย้มยิ้มอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
บนหิ้งสีดำที่มีป้ายชื่อของทั้งคู่เต็มไปด้วยดอกไม้
เด็กหนุ่มผมสีเงินเดินมายังห้องนั้น เขาหยุดยืนบริเวณประตู
มองดูเด็กน้อยที่นั่งนิ่งไม่ขยับ
เมื่อรู้สึกถึงสายตาที่กำลังมองมา เด็กน้อยจึงหันไปทางร่างสูง เมื่อเห็นอีกฝ่าย
ดวงตากลมโตก็ชื้นไปด้วยน้ำตา
“ท่านพี่...”เด็กน้อยเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ
ใบหน้าอันแสนเศร้าทำให้หัวใจของคนที่มองดูรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แม้กระทั่งเมื่อผู้เป็นพ่อตายไป เขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือเจ็บปวดเท่ากับที่เห็นเด็กคนนี้ร้องไห้เลย
“ท่านพ่อ...เรียกผมมาพบไม่ทราบว่ามีอะไร...”
“ลูกคิดยังไงกับเรื่องท่านน้าอิซาโยยและอินุยาฉะ”
“......” ดวงตาสีอำพันจับจ้องผู้เป็นพ่อนิ่ง โดยไม่ตอบอะไร
ผู้เป็นพ่อมองลูกชายก่อนถอนหายใจ
ดวงตาของลูกชายที่แสนเย็นชาคนนี้ มักเปลี่ยนไปเสมอในยามที่มองน้องชาย
แต่เจ้าตัวไม่เคยรู้เลย และก็มักจะเฉยชากับผู้คนรอบข้างเสมอ น้อยนักที่เด็กคนนี้จะยอมรับใคร
อินุไทโชรู้ดีว่ากำลังมีบางอย่างจะเกิดขึ้น
หลังจากเวลานี้ไปแล้วเขาคงไม่มีโอกาสได้พบลูกชายคนนี้อีก
เพราะความรักทำให้เขาต้องการปกป้องคนสำคัญของเขา และคนสำคัญที่ต้องอยู่ต่อไป
รวมถึงคนที่จะปกป้องและดูแลเด็กคนนั้นด้วยเช่นกัน
“เส็ตโชมารู
ลูกมีสิ่งที่อยากปกป้องหรือเปล่า?”
“.......”
เขาไม่ตอบ ตาคมมองพ่อของเขาที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนิ่ง ชายร่างสูงใหญ่ที่มีผมสีเงินยาวสวมชุดสูทแบบตะวันตกสีขาวและเนคไทสีเทาเข้าคู่กัน
ดวงตาสีเดียวกันของพ่อจ้องเขาราวกับว่าจะล้วงเอาความลับที่ปิดซ่อนไว้ภายในใจของเขาออกมา
“แล้วสักวันลูกจะเข้าใจ เส็ตโชมารู”
นั่นคือคำพูดประโยคสุดท้ายในชีวิตของอินุไทโช
พ่อของเขาที่พูดกับเขาเอาไว้ในคืนก่อนวันที่จะเกิดเพลิงไหม้ที่เรือนเล็ก ซึ่งท่านพ่อยกเรือนหลังนั้นให้อิซาโยยซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของเขาและอินุยาฉะลูกชายอายุแปดขวบของเธออาศัยอยู่
เมื่อตอนนั้นเขาไม่เข้าใจความหมายของคำพูดเหล่านั้น
และไม่เข้าใจว่าทำไมท่านพ่อที่เรียกเขาไปพบที่ห้อง จู่ๆก็ถามคำถามนั้นขึ้นมาเสียเฉยๆ
เหมือนกับว่า....
เป็นคำสั่งเสียครั้งสุดท้าย...
ท่านพ่อ...นี่คือสิ่งที่ท่านอยากจะบอกข้าเหรอครับ...
“ท่านพ่อกับท่านแม่จะไม่กลับมาแล้วใช่ไหมครับ” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่เดินมาหยุดยืนข้างๆด้วยดวงตาเศร้าหม่นพร้อมกับน้ำตามากมายที่ไหลออกมา
โดยไม่มีทีท่าว่าจะยอมหยุด
เส็ตโชมารูย่อตัวลงข้างๆ คว้าตัวร่างเล็กเข้ามากอดเอาไว้แน่น และยกมือขึ้นลูบหัวเพื่อหวังปลอบโยนให้ความรู้สึกเศร้าของเด็กคนนี้เบาบางลง
“นายยังมีพี่อยู่นะ” อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นและคำพูดอ่อนโยนของอีกฝ่าย
ทำให้อินุยาฉะต้องปล่อยโฮออกมาอย่างห้ามไม่อยู่อีกต่อไป
“ท่านพี่...”
…………………………………
“ท่านแม่ นี่มันเรื่องอะไรกันครับ!?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามคนเป็นแม่ด้วยความตกใจ หญิงสาวในชุดกิโมโนผ้าไหมแสนสวยราคาแพงยิ้มแสยะมองลูกชายตัวเองที่มีท่าทีตื่นตระหนก
เมื่อเธอพึ่งบอก ข่าวดี ให้เขาฟัง ทั้งที่ลูกคนนี้ปกติออกจะเยือกเย็นแท้ๆ
“แม่บอกว่าลูกต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ”หญิงสาวยกชาขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์
“ท่านแม่ แต่เราพึ่งจะเสร็จงานพิธีศพของท่านพ่อ
และท่านน้าอิซาโยย....”
“ใครใช้ให้เจ้าพูดถึงนังตัวดีนั่น!” ถ้วยชาเนื้อดีแตกกระจายบนพื้น เสียงเพล้งดังไปทั่วห้อง
เมื่อผู้เป็นแม่เขวี้ยงมันใส่ลูกชายอย่างไม่พอใจ
“ขอโทษครับ....” เส็ตโชมารูไม่ตอบโต้
เขามองแม่ตัวเองที่หันหลังเดินไปเปิดผ้าม่านของกระจกบานใหญ่บริเวณระเบียงออก
หญิงสาวมองลงไปยังต้นไม้ใหญ่ด้านล่าง
เซ็ตโชมารูนึกสงสัยและสังหรณ์ใจเมื่อเห็นเด็กน้อยผมสีเงินนั่งชันเข่าก้มหน้าอยู่
อินุยาฉะ...
“ถ้าเจ้าไม่ยอมไปล่ะก็ แม่นี่แหละจะส่งเจ้าเด็กเหลือขอนั่นไปสถานเลี้ยงเด็ก”
เมื่อผู้เป็นแม่เอ่ยเสียงเย็นเชื่องช้า ดวงตาสีอำพันพลันไหววูบ เขาจ้องมองแผ่นหลังบางของแม่นิ่ง
หญิงสาวหันกลับมาเผชิญหน้ากับลูกชาย และนั่นทำให้เธอยิ้มออกมา ใบหน้าที่มักไร้ความรู้สึกอยู่เสมอนั่น
แสดงสีหน้าลำบากใจเป็นด้วยสินะ
เธอรู้ว่าลูกชายของเธอกำลังหลงใหล เอ็นดู เจ้าเด็กนั่น อยู่
การที่จะเอามันมาอ้างให้อีกฝ่ายทำตามคำสั่ง สำหรับเธอแล้วไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย
...
“เจ้าจะยอมทำตามที่แม่บอกแล้วใช่ไหม?” หญิงสาวเอ่ยถาม เมื่อสีหน้าที่ลำบากใจของลูกชายเมื่อครู่
กลับมาเป็นราบเรียบเช่นปกติ เมื่อไหร่ที่เส็ตโชมารูตัดสินใจเด็ดขาดได้แล้ว
สีหน้ามักจะเรียบเฉย เย็นชาแบบนี้เสมอ และเขาก็ไม่เคยคิดเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจไปแล้ว
“ครับ ท่านแม่” คำตอบที่ได้รับทำให้เธอพอใจไม่น้อย
เธอยิ้มตอบลูกชาย ก่อนเดินกลับมายังโต๊ะน้ำชาอีกครั้ง และทันทีที่เธอหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม
คำพูดของลูกชายก็ทำให้เธอลุกพรวดขึ้นมาจ้องเขาตาถลึงทันที
“แต่ถ้าผมไป
ท่านแม่ต้องสัญญากับผมว่าจะไม่ยุ่งกับอินุยาฉะเด็ดขาด”
“เจ้ากล้าดีถึงขนาดกล้าต่อรองกับแม่แล้วงั้นหรือ เส็ตโชมารู...”หญิงสาวเอ่ยเสียงต่ำเรียบนิ่ง แต่แฝงไว้ด้วยความยะเยือกในคำพูด
เส็ตโชมารูรู้ได้ทันทีว่าแม่ของเขากำลังโกรธมาก
“ผมไม่ได้ต่อรอง...แต่ท่านแม่อย่าลืมว่าบ้านหลังนั้น
ท่านพ่อยกให้กับเด็กคนนั้นและท่านน้า”เส็ตโชมารูอธิบาย บ้านที่เขาพูดถึงคือบ้านอินุคามิ
ซึ่งสร้างและตกแต่งแบบสไตล์ญี่ปุ่น เป็นบ้านหลังที่อินุไทโชและอิซาโยยเคยอาศัยอยู่ร่วมกันก่อนที่อินุยาฉะจะเกิด
ผู้เป็นแม่มองลูกชายตัวเองอย่างโมโห
เธอไม่ได้เลี้ยงลูกให้มาต่อต้านเธอแบบนี้ สายตาแน่วแน่ที่จ้องมาไม่ได้ล้อเล่น
ถ้าหากเธอไม่ยอมตกลง อีกฝ่ายก็ไม่มีทางทำตามที่เธอขอแน่
“ฉันรู้น่า! ถึงฉันจะไม่ชอบมันแม่ลูกก็ตาม”
หญิงสาวบอกอย่างหัวเสีย คำพูดและกิริยาผู้ดีที่แสดงต่อหน้าลูกชายเมื่อครู่มลายหายไป
ดวงตาคมของหญิงสาวมองอีกฝ่ายอย่างดุดัน
“ฉันไม่สนใจสิ่งมีชีวิตเล็กๆไร้ค่าแบบนั้นหรอก จะอยู่บ้านหลังไหน
แค่มันไม่มายุ่งกับเรื่องของตระกูลแค่นั้นก็พอ”เธอพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความหยามเหยียดอย่างไม่ปิดบัง
ขณะเดินผ่านลูกชายไปยังประตูและไม่ลืมปิดประตูเสียงดังปังลั่นห้องอย่างหงุดหงิด
เหมือนกันทั้งแม่ทั้งลูก! นังนั่นก็ท่านพี่ แล้วนี่ลูกมันก็เส็ตโชมารูอีก
พวกแกคิดจะแย่งคนสำคัญของฉันไปหมดเลยงั้นสิ
!
เมื่อผู้เป็นแม่ออกไปแล้ว เส็ตโชมารูก็เดินไปยืนข้างหน้าต่างเมื่อครู่
มองดูเด็กน้อยที่ยังคงนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ที่เดิม เขาเองก็ไม่เข้าใจ
ตัวเขาไม่คิดว่าตัวเองจะแคร์หรือสนใจร่างเล็กมากขนาดนี้
ไม่เข้าใจว่าตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่เขาก็เริ่มใส่ใจเด็กคนนั้นมากขนาดที่เขาเองก็ไม่เข้าใจ...
อยากอยู่ข้างๆ....อยากปกป้อง....
“ทำไมกันนะ.....”
TBC.
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนแรกมาแล้วนะคุคิ๊ ๆ อยากมีท่านพี่เช่นท่านเซ็ตจริงๆเล้ยย
รีดเดอร์เองก็อยากใช่เปล่า คึๆ
ขอที่โทษที่มาช้า
หวังว่าทุกคนจะติดตามกันต่อไปนะ ~\(≧▽≦)/~
ความคิดเห็น