ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC INUYASHA] Destiny พิชิตชะตา สัญญารัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ♣ Destiny ♣ Chapter 01

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.46K
      66
      30 ก.ค. 60

     

    ข่าวการสูญเสียผู้นำตระกูลอย่าง “อินุไทโช” ไปนั้นแพร่สะพัดไปทั่วทุกที่อย่างรวดเร็ว งานศพของเขาและภรรยาถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่   ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของชนชั้นสูงและคนรับใช้ เจ้าบ้านแห่งตระกูลต่างๆ ต่างพากันมาแสดงความเสียใจกับลูกชายคนโตของตระกูล ผู้ที่ยังคงมีสีหน้านิ่งเฉยดั่งปกติ หากทว่ากลับมองดูเด็กน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างอ่อนโยน

    เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นในหมู่ผู้คนที่มาร่วมงาน พวกเขาต่างพูดกันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อาจเป็นเพราะแม่ของอินุยาฉะที่แอบมีชู้แล้วรวมหัวกันเพื่อฆ่าอินุไทโช และหวังฮุบมรดก แต่น่าเสียดายที่ชู้หักหลังเลยฆ่าทั้งสองคน เมื่อข่าวลืออันไร้ที่มาที่ไปนี้เริ่มเป็นที่ถกเถียงภายในงาน มีหรือที่เด็กน้อยจะยอมทนฟังผู้คนว่าแม่ของเขาได้

    “ท่านแม่น่ะ.....ไม่ใช่คนแบบนั้น!” อินุยาฉะตะโกนเสียงดัง

    ทุกคนต่างมองมาที่เขาเป็นตาเดียว สายตาของผู้คนมองดูเขาราวกับเป็นสิ่งน่าขยะแขยง อินุยาฉะมองไปรอบๆ เสียงก่นด่าของผู้คนวนเวียนอยู่ภายในหัว

    “เจ้าเด็กบ้านั่นมันอะไรน่ะ...” “ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยจริงๆ” “เป็นแค่ลูกเมียน้อยแท้ๆ”  “ที่แกกับแม่มีที่อยู่ทุกวันนี้ก็เพราะท่านอินุไทโชแท้ๆ” ฯลฯ

    “ไม่......ไม่นะ หยุด หยุดนะ หยุดดดด!

     

     

     

    ดวงตากลมโตสีอำพันจับจ้องกรอบรูปของชายร่างสูงและหญิงสาวผมสีดำในชุดกิโมโนกำลังแย้มยิ้มอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข บนหิ้งสีดำที่มีป้ายชื่อของทั้งคู่เต็มไปด้วยดอกไม้ เด็กหนุ่มผมสีเงินเดินมายังห้องนั้น เขาหยุดยืนบริเวณประตู มองดูเด็กน้อยที่นั่งนิ่งไม่ขยับ

    เมื่อรู้สึกถึงสายตาที่กำลังมองมา เด็กน้อยจึงหันไปทางร่างสูง เมื่อเห็นอีกฝ่าย ดวงตากลมโตก็ชื้นไปด้วยน้ำตา

    “ท่านพี่...”เด็กน้อยเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ ใบหน้าอันแสนเศร้าทำให้หัวใจของคนที่มองดูรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้กระทั่งเมื่อผู้เป็นพ่อตายไป เขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือเจ็บปวดเท่ากับที่เห็นเด็กคนนี้ร้องไห้เลย

    “ท่านพ่อ...เรียกผมมาพบไม่ทราบว่ามีอะไร...”

    “ลูกคิดยังไงกับเรื่องท่านน้าอิซาโยยและอินุยาฉะ”

    “......” ดวงตาสีอำพันจับจ้องผู้เป็นพ่อนิ่ง โดยไม่ตอบอะไร ผู้เป็นพ่อมองลูกชายก่อนถอนหายใจ

    ดวงตาของลูกชายที่แสนเย็นชาคนนี้ มักเปลี่ยนไปเสมอในยามที่มองน้องชาย แต่เจ้าตัวไม่เคยรู้เลย และก็มักจะเฉยชากับผู้คนรอบข้างเสมอ น้อยนักที่เด็กคนนี้จะยอมรับใคร

    อินุไทโชรู้ดีว่ากำลังมีบางอย่างจะเกิดขึ้น หลังจากเวลานี้ไปแล้วเขาคงไม่มีโอกาสได้พบลูกชายคนนี้อีก เพราะความรักทำให้เขาต้องการปกป้องคนสำคัญของเขา และคนสำคัญที่ต้องอยู่ต่อไป รวมถึงคนที่จะปกป้องและดูแลเด็กคนนั้นด้วยเช่นกัน

     “เส็ตโชมารู ลูกมีสิ่งที่อยากปกป้องหรือเปล่า?

    “.......”

    เขาไม่ตอบ ตาคมมองพ่อของเขาที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนิ่ง ชายร่างสูงใหญ่ที่มีผมสีเงินยาวสวมชุดสูทแบบตะวันตกสีขาวและเนคไทสีเทาเข้าคู่กัน ดวงตาสีเดียวกันของพ่อจ้องเขาราวกับว่าจะล้วงเอาความลับที่ปิดซ่อนไว้ภายในใจของเขาออกมา

    “แล้วสักวันลูกจะเข้าใจ เส็ตโชมารู”

     

    นั่นคือคำพูดประโยคสุดท้ายในชีวิตของอินุไทโช พ่อของเขาที่พูดกับเขาเอาไว้ในคืนก่อนวันที่จะเกิดเพลิงไหม้ที่เรือนเล็ก ซึ่งท่านพ่อยกเรือนหลังนั้นให้อิซาโยยซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของเขาและอินุยาฉะลูกชายอายุแปดขวบของเธออาศัยอยู่

    เมื่อตอนนั้นเขาไม่เข้าใจความหมายของคำพูดเหล่านั้น และไม่เข้าใจว่าทำไมท่านพ่อที่เรียกเขาไปพบที่ห้อง จู่ๆก็ถามคำถามนั้นขึ้นมาเสียเฉยๆ เหมือนกับว่า....

    เป็นคำสั่งเสียครั้งสุดท้าย...

     

    ท่านพ่อ...นี่คือสิ่งที่ท่านอยากจะบอกข้าเหรอครับ...

     

     

    “ท่านพ่อกับท่านแม่จะไม่กลับมาแล้วใช่ไหมครับ” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่เดินมาหยุดยืนข้างๆด้วยดวงตาเศร้าหม่นพร้อมกับน้ำตามากมายที่ไหลออกมา โดยไม่มีทีท่าว่าจะยอมหยุด

    เส็ตโชมารูย่อตัวลงข้างๆ คว้าตัวร่างเล็กเข้ามากอดเอาไว้แน่น และยกมือขึ้นลูบหัวเพื่อหวังปลอบโยนให้ความรู้สึกเศร้าของเด็กคนนี้เบาบางลง

    “นายยังมีพี่อยู่นะ” อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นและคำพูดอ่อนโยนของอีกฝ่าย ทำให้อินุยาฉะต้องปล่อยโฮออกมาอย่างห้ามไม่อยู่อีกต่อไป

    “ท่านพี่...”

     

     

     

     

     

    …………………………………

     ท่านแม่ นี่มันเรื่องอะไรกันครับ!?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามคนเป็นแม่ด้วยความตกใจ หญิงสาวในชุดกิโมโนผ้าไหมแสนสวยราคาแพงยิ้มแสยะมองลูกชายตัวเองที่มีท่าทีตื่นตระหนก เมื่อเธอพึ่งบอก ข่าวดี ให้เขาฟัง ทั้งที่ลูกคนนี้ปกติออกจะเยือกเย็นแท้ๆ

    แม่บอกว่าลูกต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศหญิงสาวยกชาขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์

    ท่านแม่ แต่เราพึ่งจะเสร็จงานพิธีศพของท่านพ่อ และท่านน้าอิซาโยย....

    ใครใช้ให้เจ้าพูดถึงนังตัวดีนั่น!” ถ้วยชาเนื้อดีแตกกระจายบนพื้น เสียงเพล้งดังไปทั่วห้อง เมื่อผู้เป็นแม่เขวี้ยงมันใส่ลูกชายอย่างไม่พอใจ

    ขอโทษครับ....เส็ตโชมารูไม่ตอบโต้ เขามองแม่ตัวเองที่หันหลังเดินไปเปิดผ้าม่านของกระจกบานใหญ่บริเวณระเบียงออก หญิงสาวมองลงไปยังต้นไม้ใหญ่ด้านล่าง เซ็ตโชมารูนึกสงสัยและสังหรณ์ใจเมื่อเห็นเด็กน้อยผมสีเงินนั่งชันเข่าก้มหน้าอยู่

    อินุยาฉะ...

    ถ้าเจ้าไม่ยอมไปล่ะก็ แม่นี่แหละจะส่งเจ้าเด็กเหลือขอนั่นไปสถานเลี้ยงเด็กเมื่อผู้เป็นแม่เอ่ยเสียงเย็นเชื่องช้า ดวงตาสีอำพันพลันไหววูบ เขาจ้องมองแผ่นหลังบางของแม่นิ่ง

    หญิงสาวหันกลับมาเผชิญหน้ากับลูกชาย และนั่นทำให้เธอยิ้มออกมา ใบหน้าที่มักไร้ความรู้สึกอยู่เสมอนั่น แสดงสีหน้าลำบากใจเป็นด้วยสินะ

    เธอรู้ว่าลูกชายของเธอกำลังหลงใหล เอ็นดู เจ้าเด็กนั่น อยู่ การที่จะเอามันมาอ้างให้อีกฝ่ายทำตามคำสั่ง สำหรับเธอแล้วไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย ...

    เจ้าจะยอมทำตามที่แม่บอกแล้วใช่ไหม?” หญิงสาวเอ่ยถาม  เมื่อสีหน้าที่ลำบากใจของลูกชายเมื่อครู่ กลับมาเป็นราบเรียบเช่นปกติ เมื่อไหร่ที่เส็ตโชมารูตัดสินใจเด็ดขาดได้แล้ว สีหน้ามักจะเรียบเฉย เย็นชาแบบนี้เสมอ และเขาก็ไม่เคยคิดเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจไปแล้ว

    ครับ ท่านแม่ คำตอบที่ได้รับทำให้เธอพอใจไม่น้อย เธอยิ้มตอบลูกชาย ก่อนเดินกลับมายังโต๊ะน้ำชาอีกครั้ง และทันทีที่เธอหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม คำพูดของลูกชายก็ทำให้เธอลุกพรวดขึ้นมาจ้องเขาตาถลึงทันที

    แต่ถ้าผมไป ท่านแม่ต้องสัญญากับผมว่าจะไม่ยุ่งกับอินุยาฉะเด็ดขาด

    เจ้ากล้าดีถึงขนาดกล้าต่อรองกับแม่แล้วงั้นหรือ เส็ตโชมารู...หญิงสาวเอ่ยเสียงต่ำเรียบนิ่ง แต่แฝงไว้ด้วยความยะเยือกในคำพูด เส็ตโชมารูรู้ได้ทันทีว่าแม่ของเขากำลังโกรธมาก

    ผมไม่ได้ต่อรอง...แต่ท่านแม่อย่าลืมว่าบ้านหลังนั้น ท่านพ่อยกให้กับเด็กคนนั้นและท่านน้าเส็ตโชมารูอธิบาย บ้านที่เขาพูดถึงคือบ้านอินุคามิ ซึ่งสร้างและตกแต่งแบบสไตล์ญี่ปุ่น เป็นบ้านหลังที่อินุไทโชและอิซาโยยเคยอาศัยอยู่ร่วมกันก่อนที่อินุยาฉะจะเกิด

    ผู้เป็นแม่มองลูกชายตัวเองอย่างโมโห เธอไม่ได้เลี้ยงลูกให้มาต่อต้านเธอแบบนี้ สายตาแน่วแน่ที่จ้องมาไม่ได้ล้อเล่น ถ้าหากเธอไม่ยอมตกลง อีกฝ่ายก็ไม่มีทางทำตามที่เธอขอแน่

    ฉันรู้น่า! ถึงฉันจะไม่ชอบมันแม่ลูกก็ตาม” หญิงสาวบอกอย่างหัวเสีย คำพูดและกิริยาผู้ดีที่แสดงต่อหน้าลูกชายเมื่อครู่มลายหายไป ดวงตาคมของหญิงสาวมองอีกฝ่ายอย่างดุดัน

    “ฉันไม่สนใจสิ่งมีชีวิตเล็กๆไร้ค่าแบบนั้นหรอก จะอยู่บ้านหลังไหน แค่มันไม่มายุ่งกับเรื่องของตระกูลแค่นั้นก็พอ”เธอพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความหยามเหยียดอย่างไม่ปิดบัง ขณะเดินผ่านลูกชายไปยังประตูและไม่ลืมปิดประตูเสียงดังปังลั่นห้องอย่างหงุดหงิด

    เหมือนกันทั้งแม่ทั้งลูก! นังนั่นก็ท่านพี่ แล้วนี่ลูกมันก็เส็ตโชมารูอีก

     พวกแกคิดจะแย่งคนสำคัญของฉันไปหมดเลยงั้นสิ !

    เมื่อผู้เป็นแม่ออกไปแล้ว เส็ตโชมารูก็เดินไปยืนข้างหน้าต่างเมื่อครู่ มองดูเด็กน้อยที่ยังคงนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ที่เดิม เขาเองก็ไม่เข้าใจ ตัวเขาไม่คิดว่าตัวเองจะแคร์หรือสนใจร่างเล็กมากขนาดนี้

    ไม่เข้าใจว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เขาก็เริ่มใส่ใจเด็กคนนั้นมากขนาดที่เขาเองก็ไม่เข้าใจ...

    อยากอยู่ข้างๆ....อยากปกป้อง....

     “ทำไมกันนะ.....”

     





    TBC.

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ตอนแรกมาแล้วนะคุคิ๊ ๆ  อยากมีท่านพี่เช่นท่านเซ็ตจริงๆเล้ยย รีดเดอร์เองก็อยากใช่เปล่า คึๆ

      ขอที่โทษที่มาช้า หวังว่าทุกคนจะติดตามกันต่อไปนะ  ~\(≧▽≦)/~

    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×