ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC INUYASHA] Destiny พิชิตชะตา สัญญารัก

    ลำดับตอนที่ #5 : ♣ Destiny ♣ Chapter 04

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 61


    การต้องจากใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องง่าย ......

     

                เด็กหนุ่มผู้สวมชุดยูนิฟอร์มมัธยมปลายของโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งของอังกฤษ มองออกไปนอกหน้าต่างห้องเรียนที่ท้องฟ้าถูกเมฆสีดำระบายจนหม่องหม่น ไม่นานหยาดน้ำก็ตกลงมากระทบหน้าต่าง เสียงของอาจารย์หน้าชั้นราวกับเสียงบทสวดที่ทำให้เขาอยากจะลุกออกไปให้พ้นๆจากห้องเรียนอันแสนน่าเบื่อ

                วันนี้ยังคงเป็นอีกวันที่น่าหงุดหงิด เมื่อเสียงระฆังหมดคาบเรียนดัง เขาไม่รอช้าที่จะลุกออกจากที่นั่งและเดินผ่านหญิงสาวมากมายที่ปรี่มาอออยู่หน้าประตูห้องเรียนเพื่อจะสังเกตการกระทำทุกอย่างของเขา ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอาการอะไรออกมานั้น ทำให้เขาได้รับฉายาว่า .เจ้าชายผู้เยือกเย็น” อ่า มันช่างน่าประทับใจที่มีคนมาเรียกแบบนั้น สำหรับคนอื่นล่ะก็คงใช่ แต่เขาไม่สนใจของพรรค์นั้นหรอก

                เขามาหยุดอยู่ที่วังวนของสวนกุหลาบที่ซึ่งไม่ค่อยมีคนโผล่เข้ามานัก เด็กหนุ่มนั่งลงบนพื้นหญ้าที่ชื้นแฉะ และเอนตัวลงนอนอย่างไม่สนใจว่าเครื่องแบบราคาแพงของเขาจะเปื้อนเลยแม้แต่น้อย เขาแหงนหน้ามองท้องฟ้า น้ำใสที่หยดลงบนใบหน้าทำให้เขารู้สึกดีขึ้นบ้าง ความว่างเปล่าในอกมันครุ่นมัวทุกครั้งที่นึกถึงเด็กคนนั้น.....

                    มันแลดูเป็นเรื่องงี่เง่า แต่เชื่อสิ ใครๆก็มีคนสำคัญกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่เจ้าชายผู้เยือกเย็นคนนี้ ....

               

                “โอ๊ะ โอ ดูสิฉันเจอใครเข้าเนี่ย” เสียงทุ้มของผู้มาใหม่ที่แสดงน้ำเสียงยียวนกวนโมโหเขาอย่างชัดเจนดังขึ้น เจ้าตัวเดินออกมาจากอีกฟากของโพรงกุหลาบ และหยุดยืนอยู่ที่หัวของเขา

                เซ็ตโชมารูลุกขึ้นทันทีที่เห็นใบหน้ายียวนนั่น เด็กหนุ่มผมสีดำที่มีใบหน้าหล่อเหลา แต่แฝงด้วยออร่าร้ายกาจในรอยยิ้ม เขาไม่ใช่ใครอื่น แต่คืออีกคนของโรงเรียนที่ใครๆต่างเรียกว่า “ศัตรูตลอดกาลของเจ้าชายผู้เยือกเย็น” น่าขำเนาะว่ามั้ย? ที่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรหมอนี่ก็จะตามจองเวรเขาไม่เลิก ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ เขาก็ไม่เคยได้อยู่อย่างสงบๆเลยสักครั้งเดียว

                “นายต้องการอะไร”

                “แหม่ เย็นชาจังนะ” ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาเซ็ตโชมารู “ฉันก็แค่เข้ามาทักทาย และไม่คิดว่าการที่นายมานอนแบบนี้จะทำให้นายดูเท่เหมือนพระเอกเอ็มวีเพลงเศร้าวัยใสอะไรแบบนั้นเลยสักนิด”

                “ฉันไม่เข้าใจที่นายพูด แต่ถ้าอยากมีเรื่อง ฉันก็จะจัดให้”

                “โอ๋ๆ นายก็รู้ นาราคุ คนนี้ ไม่เคยหาเรื่องใครก่อน......จริงมั้ย?” รอยยิ้มที่แสนยียวนจากนาราคุทำให้เซ็ตโชมารูอยากยกหมัดต่อยเข้าให้ที่หน้าอีกฝ่ายหนักๆสักทีจริงๆ  แต่เขาก็เก็บมันเอาไว้และเลือกที่จะเดินหนี เพราะรู้ดีว่าหากมีเรื่องกัน มันจะไม่จบง่ายๆ

                “เฮ้ๆ จะหนีไปไหนล่ะ.....” นาราคุไม่รอช้าที่จะเข้ามาขวางเขาเอาไว้

                “.......” เซ็ตมารูไม่ตอบ เพียงแต่จ้องอีกฝ่ายเพื่อเป็นการบอกว่าให้หลีกไปซะ

                “ทำหน้าตาน่ากลัวเชียวนะ ฉันก็แค่......”นาราคุหยิบบางอย่างออกมากจากเสื้อนอกของเขา ก่อนชูมันขึ้นตรงหน้าของเซ็ตโชมารู และเขาก็ไม่พลาดที่จะเลี่ยงหลบมือของเซ็ตโชมารูที่หวังจะคว้ามันเอาไว้

                “เจ้ารูปนี่มีความสำคัญกับนายมากสินะ......” ใช่แล้วมันคือภาพถ่ายของเด็กคนนั้น....เด็กคนที่เป็นคนสำคัญของเขา

                “ไม่สิ....บางทีอาจจะเป็นคนในรูป?” นาราคุกระตุกยิ้มและนึกสนุกกับปฏิกิริยาที่แสนหายากตลอดเวลาที่เขาหาเรื่องอีกฝ่ายมา ครั้งนี้มันบอกเขาว่าเขารู้จุดอ่อนของอีกฝ่ายแล้ว

                “เอาคืนมาซะ”

                “ฉันคืนให้นายแน่ ก็แค่อยากรู้ว่าเด็กนี่น่ะน้องนายงั้นเหรอ? แต่ฉันว่าไม่เห็นเหมือนเลยนะ” นาราคุมองรูปไปมาและยกขึ้นทาบกับเซ็ตโชมารู ซึ่งเขาทำไปก็เพราะอยากจะกวนประสาทอีกคนให้แน่ใจเท่านั้น

                “.........”

     

     

                “ไม่เล่นด้วยเลยแหะ เอาไป” นาราคุยักไหล่ เบ้หน้าด้วยความเซ็งที่เหมือนไปกระตุกต่อมอีกคนจนอีกฝ่ายเริ่มเหมือนมีฉากหลังเป็นปีศาจที่แยกเขี้ยวใส่พร้อมจะเขมือบเขาเข้าไปอย่างไงอย่างงั้น ทำให้เขาตัดสินใจปล่อยรูปใบนั้นต่อหน้าของอีกฝ่าย ก่อนเซ็ตโชมารูจะคว้ามือหยิบรูปนั้นเอาไว้ ก่อนนาราคุจะยิ้มกว้างแล้วเดินถอยออกมา

    “ฉันยังต้องไปหาสาวๆต่อล่ะนะ ไว้เจอกันพ่อเจ้าชายแสนดี” และที่เขายอมถอยแต่โดยดีก็เพราะเขาเจอบางอย่าง บางอย่างที่ทำให้เขารู้ว่า เขาจะเอาชนะอีกฝ่ายได้

    เซ็ตโชมารูยืนมองรูปถ่ายใบนั้นนิ่ง พลันคิดถึงรอยยิ้มสดใสและน้ำเสียงร่าเริงที่มีให้แก่เขา เขาไม่อาจลืมมันได้เลย และคิดว่าคงไม่มีทางลืมได้ การรอคอยที่จะได้พบกันอีก มันทรมานเกินไป....และเขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมานั่งเฝ้ารอคอยอะไรบางอย่างได้แบบนี้เลยจริงๆ

     

    “พี่อยากรีบกลับไปหานายจริงๆ......อินุยาฉะ”

     

     

                            …………………………………………………………………………………………..


    ภายในห้องอันมืดสลัว มีเพียงแสงของโคมไฟที่ให้แสงสว่างแก่ห้องแห่งนี้ บนเก้าอี้ข้างโต๊ะเขียนหนังสือตัวยาวมีชายหนุ่มเรือนผมสีเงินนั่งอ่านหนังสือแนวสืบสวนเล่มหนึ่งอยู่  เขาอ่านมันอย่างตั้งใจราวกับกำลังครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่าง แต่ขณะที่เขากำลังสนใจเนื้อเรื่องในบรรทัดต่อไปอยู่นั้น เสียงสั่นของวัตถุสีดำบนโต๊ะก็ทำให้เขาเหลือบมองมาให้ความสนใจกับมัน และเมื่อเขาเห็นชื่อ “จาเค็น” ทีปรากฏอยู่บนหน้าจอ เขาก็ไม่ลังเลที่จะวางหนังสือเล่มนั้นลงและหยิบมือถือนั่นขึ้นมา

       “มีอะไร”

      “นายน้อยครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ” น้ำเสียงของพ่อบ้านประจำตระกูลอินุไทโชร้อนรนจนทำให้ร่างสูงรู้สึกประหลาดใจ เพราะการที่จาเค็นโทรมาหาเขาจะต้องมีเรื่องมารายงานหรือบอกเล่าให้เขารู้เกี่ยวกับเรื่องของที่บ้านหรือเด็กคนนั้นเสมอ.... เพราะนี่คือสิ่งที่เขาขอให้อีกฝ่ายทำก่อนที่เขาจะมาที่นี่ และแน่นอนว่าต้องปิดเป็นความลับกับท่านแม่ของเขา

     “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

     “คิเคียวตายแล้วขอรับ....” ชื่อของบุคคลที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินนั้นทำให้เขาประหลาดใจ แต่ก็ยิ่งทำให้เขาตกใจยิ่งกว่า เมื่อรู้ว่าคนๆนั้นได้จากไปแล้ว

    “อะไรนะ” เส็ตโชมารูอดที่จะเผลอเปล่งเสียงออกมาด้วยความสงสัยไม่ได้ ในเมื่อคิเคียวเป็นหญิงสาวที่แข็งแรงและเข้มแข็งมากๆคนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นคนที่คอยปกป้องน้องชายของเขาคนนั้นตลอดมา แล้วทำไมจู่ๆถึงได้......

     “ผมก็ไม่อยากจะพูดแบบนี้หรอกนะครับ......”จาเค็นถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดูเหมือนว่าชายแก่นั้นจะหนักใจไม่น้อยกับเรื่องที่เขากำลังจะเอ่ยต่อไปนี้

     “นายน้อยขอรับ ท่านฟังสิ่งที่กระผมจะพูดให้ดีๆนะขอรับ....” เส็ตโชมารูนิ่งฟังอย่างตั้งใจ

    “ท่านแม่ของท่าน.... จริงๆแล้ว คิดที่จะกำจัดเด็กคนนั้นขอรับ”

     เส็ตโชมารูกำมือถือไว้แน่น ดวงตาของเขาฉายแววแห่งความตกใจอย่างเห็นได้ชัด แต่เขาก็ยังคงเงียบแล้วปล่อยให้ปลายสายพูดต่อไป

    “แต่ว่าคิเคียวคนนั้นมารับกรรมแทนขอรับ”

     เมื่อสิ้นประโยคที่ปลายสายพูด เขาก็ไม่รอที่จะถามออกไปถึงสิ่งที่คว้างอยู่ในอกของเขาตอนนี้

    “นายจะบอกฉันว่า ท่านแม่ผิดสัญญากับฉันงั้นเหรอ” เส้๖โชมารูเอ่ยถาม น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่งแต่แฝงด้วยความไม่พอใจนั้น ทำให้ปลายสายขนลกซู่ไปทั้งตัว

    “กระผมมิกล้าขอรับ แต่กระผมต้องบอกความจริงเรื่องนี้กับท่าน เพราะตอนนี้ท่านแม่ของท่านได้หายไปจากบ้านได้สองวันแล้วขอรับ” เขาเอ่ยบอกด้วยเสียงที่พยายามข่มให้นิ่งที่สุด แม้ในใจของเขาจะรู้สึกหวั่นกลัวกับสิ่งที่เขาได้บอกกับเด็กหนุ่มก็ตาม

    “อะไรนะ แล้วทำไมถึงพึ่งมาบอกฉัน”

    “กระผมคิดว่าท่านออกไปเที่ยวตามปกติน่ะขอรับ แต่ว่าครั้งนี้ท่านยังไม่กลับมาและกระผมเองก็ไม่ทราบว่าท่านจะกลับมาด้วยหรือเปล่าขอรับ”

    “........” เส็ตโชมารูข่มตาลงพร้อมสูดลมหายใจเขาเฮือกหนึ่ง เพื่อหวังสงบสติและจิตใจที่ว้าวุ่นของตัวเอง ก่อนตัดสินใจเอ่ยกับปลายสายต่อว่า

    “จาเค็น  จองตั๋วให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะกลับญี่ปุ่นเดี๋ยวนี้เลย”

     คำสั่งที่ได้รับทำให้จาเค็นถึงกับตื่นตระหนก เพราะแม้เขาจะตัดสินใจบอกความจริงเหล่านี้กับอีกฝ่าย แต่ก็ไม่คิดว่านายน้อยของเขาจะตัดสินใจออกคำสั่งเช่นนี้

    “แต่นายน้อยครับ”    ในใจของพ่อบ้านได้แต่ประหลาดใจกับสิ่งที่นายน้อยของเขากำลังจะทำ ...ความสำคัญที่อินุยาฉะมีต่อท่านเส็ตโชมารูมันมากมายถึงขนาดนี้เลยอย่างงั้นหรือ.....

    “ทำตามที่ฉันสั่ง ส่วนเรื่องรายละเอียดอื่นๆไว้ฉันกลับไปถึงแล้วค่อยว่ากัน”

    เซ็ตโชมารูเอ่ยเสียงเข้ม  ทำให้จาเค็นที่อยู่ปลายสายได้แต่ตบปากรับคำ เพราะรู้ว่าไม่ควรจะไปขัดคำสั่งของอีกฝ่าย

    “เข้าใจแล้วครับ ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยครับ”

    เมื่อเอ่ยจบร่างสูงก็กดวางสาย ก่อนวางมือถือของตัวเองลงบนโต๊ะแล้วกำมือทั้งสองของตัวเองแน่นด้วยความรู้สึกผิดหวังละคลความไม่พอใจในอก เขาได้แต่เหม่อคิดถึงการกระทำของท่านแม่ของเขา

    ท่านแม่...... นี่ท่านจะผิดสัญญาอย่างงั้นเหรอครับ......



    TBC.

    ----------------------------------------------------------------------

    ได้ลงตอนใหม่แล้ววววว  คิดถึงทุกคนมากๆเลยยยยย

    ไม่เจอกันกี่เดือนแล้วเนี่ย รีดเดอร์ต้องอยากเอาไรท์ไปโยนทะเลแน่ๆ งื้อออออ ///หลบแหที่เหล่ารีดโยนมา

    มาลงตอนใหม่ให้แล้วนะฮะ แล้วคิดว่าน่าจะมีตอนต่อๆไปตามมาอีกไม่นานนี้แน่นอนนน

    (*^^*)

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×