คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ♣ Destiny ♣ Chapter 03
“ท่านพ่อ!
ท่านแม่!”
ดวงตากลมโตสีอำพันมองพ่อแม่ของตัวเองอย่างไม่ละสายตา
เขาทำได้เพียงเรียกชื่อของทั้งคู่เท่านั้น เขาตื่นขึ้นมาท่ามกลางบ้านที่เริ่มเต็มไปด้วยเปลวเพลิงและพบว่าสองคนที่อยู่เบื้องหน้าเขามีคราบเลือดอยู่มากมาย
แต่กลับไม่แสดงสีหน้าเจ็บปวดใดๆออกมา กลับยิ้มให้กับเขาอย่างอ่อนโยน
“รีบออกไปจากที่นี่...กันเถอะครับ”เด็กน้อยบอกเสียงสั่นเครือ
เปลวเพลิงที่ลุกลามอยู่รอบห้องและภาพตรงหน้าทำให้เขารู้สึกใจไม่ดี
เขาไม่รู้สึกร้อน
ตราบใดที่เขาสวมกิโมโนสีแดงที่ท่านแม่มอบให้
แต่ไม่ใช่สำหรับท่านพ่อและท่านแม่ที่บาดเจ็บอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้
“อินุยาฉะ
พ่อกับแม่รักลูกเสมอนะ” ทั้งคู่เอ่ยบอกกับเด็กน้อยด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตา
พวกเขารู้ว่าเวลาแบบนี้ต้องมาถึง
แต่ไม่นึกเลยว่าจะต้องให้เด็กน้อยมาเห็นพวกเขาจากไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้ แต่เพื่อปกป้องเด็กน้อยตรงหน้า
เพื่อให้อีกฝ่ายมีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อสิ่งนั้นแล้ว....
พวกเรารักลูกนะ อินุยาฉะ...
“ท่านพ่อ!
ท่านแม่!”
โครม !
เพดานบนหลังคาที่ถูกเปลวเพลิงเผาไหม้ร่วงหล่นลงตรงหน้าเด็กน้อย
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง พ่อแม่ของเด็กน้อยถูกบดบังหายไปท่ามกลางเปลวเพลิงที่โหมลุกไหม้
มือเล็กพยายามหยิบซากไม้ตรงหน้าออกอย่างไร้สติ
“ท่านพ่อ! ท่านแม่!”น้ำใสไหลอาบสองแก้ม ตะโกนเรียกบุคคลที่รักด้วยเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ
“ฮึก...ท่านพ่อ
ท่านแม่”ดวงตาสีอำพันฉายแววหม่นเศร้า เปลวเพลิงและซากไม้เบื้องหน้าสะท้อนอยู่ในดวงตาอันขุ่นมัว
ความเจ็บปวดแสนทรมานในคืนนั้นไม่มีวันจางหายไปได้....ตลอดกาล
ท่านพ่อ ท่านแม่....
............................
“คุณหนูเจ้าค่ะ คุณหนู!”
มือเหี่ยวย่นของหญิงชราเขย่าปลุกเด็กหนุ่มให้ตื่นจากนิทราอันโหดร้าย
“ท่านพ่อ
ท่านแม่...”ดวงตากลมลืมขึ้นช้าๆ น้ำใสยังไหลออกมาจากหางตาอย่างที่เด็กหนุ่มไม่รู้ตัว
เขามองดูหญิงชราที่คว้าตัวเขาเข้าไปกอดไว้แน่นอย่างอ่อนโยน
“ไม่เป็นไรแล้วนะเจ้าคะ
คุณหนูอินุยาฉะ”
“ย่าชิมาดะ...ฮึก”เด็กหนุ่มร้องไห้โฮออกมา
ยามเช้าที่แสนสดใสส่องแสงจ้าอยู่หลังบานประตูเลื่อนกระดาษของห้องนั้น ความฝันที่คอยวนเวียนตามหลอกหลอนเด็กหนุ่มคนนี้ทุกค่ำคืน
แม้เวลาจะผ่านมานานหกปีแล้วก็ตาม
“คุณหนูเปิดเทอมแล้วนะเจ้าคะ
ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปทานอาหารเช้ากันเถอะเจ้าคะ”เมื่อเด็กหนุ่มเริ่มใจเย็นลง
หญิงชราจึงเอ่ยบอกให้ลุกไปโรงเรียนด้วยรอยยิ้ม
“ครับ”เด็กหนุ่มตอบ
ก่อนหญิงชราจะขอตัวออกไปเตรียมอาหารเช้าที่ห้องครัว
ถ้ามันเป็นแค่ความฝันก็คงจะดี...
“งั้นผมไปนะครับ”เด็กหนุ่มในชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนเอกชนเอ่ยลา
หญิงชรากอดเขาไว้อีกครั้ง
“คุณหนูต้องเข้มแข็งและก้าวต่อไปนะเจ้าค่ะ”
“ผมรู้ครับ”เด็กหนุ่มเอ่ยรับด้วยรอยยิ้ม
ชิมาดะยิ้มตอบเขาก่อนจะมองแผ่นหลังของคุณหนูซึ่งตอนนี้อายุได้สิบสี่ปีแล้ว
เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆนะเจ้าคะ....ท่านเส็ตโชมารู
กริ๊ง
กริ๊ง
เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น
ทำให้หญิงชราเดินไปรับ เธอตกใจจนแทบทำหูโทรศัพท์ตกเมื่อได้ยินเสียงของคนที่โทรมา
“นายน้อย...”
หญิงชราเอ่ยแผ่วเบา เธอยังไม่อยากเชื่อหูตัวเองนัก เพราะนายน้อยเส็ตโชมารูไม่เคยติดต่อกลับมาเลยนับตั้งแต่จากไปในครั้งนั้น
แต่เธอก็รู้ว่าอีกฝ่ายคอยส่งเงินและคอยดูแลอยู่ที่ไหนสักแห่ง
“เขา...สบายดีไหมครับ”
“สบายดีเจ้าคะ”
หญิงชรามีน้ำใสซึมอยู่ที่ดวงตา เธอรู้สึกตื้นตัน
เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายยังคงเป็นห่วงคุณหนูของเธอ
“......”
แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป
เธอจึงตัดสินใจถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน เพราะนับวันเด็กน้อยของเธอก็เริ่มไขว้เขว่
ไม่เชื่อว่าเส็ตโชมารูจะกลับมารับเขาอีกครั้ง
“นายน้อยจะกลับมาหรือยังเจ้าค่ะ”
“ยังครับ....”
น้ำเสียงทุ้มฟังดูเจ็บปวด
เหมือนกับว่าอีกฝ่ายกำลังข่มใจและกำหมัดแน่นอย่างรู้สึกเจ็บใจ
“ผมจะกลับไปตอนวันเกิดอายุครบสิบแปดของเด็กคนนั้น”
“ทำไมล่ะเจ้าคะ?”หญิงชราถามอย่างไม่เข้าใจ
แต่ดูท่าอีกฝ่ายจะรู้สึกลำบากใจไม่น้อยที่จะตอบคำถามนี้
“เป็น..ข้อตกลงน่ะครับ”
“แต่...”
เมื่อได้ยินเธอจะเอ่ยท้วง อีกฝ่ายก็รีบตัดบทอย่างเร่งรีบ
ซึ่งเธอก็ไม่รู้เพราะสาเหตุใด จะเป็นเพราะคำถามของเธอที่ทำให้ลำบากใจ หรือเพราะ ข่าวลือ
ที่เธอได้ยินมากันแน่
“ผมต้องไปแล้ว
ขอบคุณนะครับ”
และสัญญาณก็ตัดไป
หญิงชรามองหูโทรศัพท์ ดวงตาของเธอมีน้ำใสไหลลงมาช้าๆ ไม่ว่าจะเพราะแบบไหนก็ตาม แต่เธอควรจะต้องบอกนายน้อยเอาไว้
ว่าเธอคงอยู่ดูแลเด็กคนนี้ได้อีกไม่นานแล้ว...
“ฉันจะพยายามอยู่กับคุณหนูจนถึงวันนั้นนะเจ้าค่ะ
นายน้อย...”
…………………………………..
“คิเคียวอยู่ไหม?”เด็กหนุ่มในชุดยูนิฟอร์มเอ่ยเรียกชื่อหญิงสาวเจ้าของบ้านไม้ทรงญี่ปุ่นหลังนี้
ภายในบ้านเงียบสนิท เขาเดินเข้าไปตามทางเดินเรื่อยๆ
บ้านของหญิงสาวอยู่ในศาลเจ้าซึ่งใกล้กับบ้านของเขา เขามักจะมาเล่นกับหญิงสาวที่เป็นเหมือน
‘พี่สาว’ คนนี้ของเขาเสมอ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้มองว่าเธอเป็นพี่สาวอีกแล้ว
นับตั้งแต่เมื่อสองสามปีก่อน
“คิเคียวอยู่ไหนน่ะ” อันที่จริงแล้วเขาถูกห้ามไม่ให้มาที่นี่เกือบสองอาทิตย์ได้แล้ว
การไม่ได้เจอหน้าอีกฝ่ายมาเกือบสองอาทิตย์
มันทำให้เขารู้สึกเป็นกังวลอย่างบอกไม่ถูก
“แค่กๆ”เสียงไอดังขึ้นทำลายความเงียบจากห้องหนึ่งของบ้าน
เด็กหนุ่มเดินอย่างรวดเร็วตรงไปยังห้องนั้น
เมื่อเขาเปิดบานประตูออกก็พบหญิงสาวที่ตามหานอนอยู่บนฟูกที่นอนด้วยสีหน้าซีดเซียว
“คิเคียว!”เด็กหนุ่มปรี่เข้าไปนั่งลงข้างๆ
หญิงสาวลืมตาที่สะลึมสะลือขึ้นมอง เธอฉายแววไม่พอใจ เมื่อเจอเด็กหนุ่มที่เธอพยายามห้ามไม่ให้มาที่นี่
เพื่อหวังไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอกำลังเป็นอะไร
“เกิดอะไรขึ้น เธอเป็นอะไร!?”
“อินุ..ยาฉะ ฉันบอกนาย..แล้วใช่ไหม ว่าอย่ามาบ้านฉัน”คิเคียวบอกอย่างไม่พอใจ
แต่อินุยาฉะไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ
เพียงแต่มองดูและแสดงสีหน้าเจ็บปวดจนคิเคียวอยากจะลุกเดินหนีไปให้พ้นๆ
ถ้าไม่ติดว่า....มันถึงที่สุดแล้ว
ทำไมนายต้องมาวันนี้....ทำไมอินุยาฉะ...ทำไม
“เธอเป็นอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้!?”อินุยาฉะเริ่มร้อนรน
เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับคิเคียวตอนนี้ดี เธอดูทรมานอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ปกติหญิงสาวตรงหน้าเขาออกจะแข็งแรงและกล้าหาญ มั่นใจในตัวเอง ยิ่งตอนนี้เธอก็ใกล้จะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังได้อยู่แล้ว
แล้วทำไม....
“อินุยาฉะ...นายออกไปจากบ้านฉัน
เดี๋ยวนี้”คิเคียวเอ่ยเสียงแข็ง
เธอไม่อยากให้เด็กหนุ่มตรงหน้าต้องเห็นใครจากไปต่อหน้าต่อตาเหมือนกับพ่อแม่ของเขา
เพราะแค่นั้นก็เป็นฝันร้ายสำหรับเด็กคนนี้มากพอแล้ว....
จะให้อินุยาฉะรู้ว่าเธอเป็นโรคที่ไม่อาจรักษาได้และตายจากเขาไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้เด็ดขาด...
“ไม่! ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น
ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้แหละ”
อินุยาฉะโน้มเข้ามาจะช่วยพยุงคิเคียวขึ้น
แต่ก็ถูกเธอตวาดใส่เสียงดังจนต้องชะงัก
“หยุดนะอินุยาฉะ!”
อินุยาฉะมองหน้าหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ สีหน้าเสียใจและผิดหวังแสดงออกมาผ่านสีหน้าอย่างชัดเจน
การที่เขารู้สึกห่วงคนตรงหน้าที่เขารัก
มันผิดมากงั้นเหรอ?
“ทำไมล่ะ....ทำไม ทำไมเธอจะต้องว่าฉัน
ฉันเป็นห่วงเธอนะ!”
ทำไม? ก็เพราะถ้านายรู้นายจะทำสีหน้าแบบนี้ไงล่ะ...
คิเคียวคิดอย่างหัวเสีย
อินุยาฉะคือคนสำคัญของเธอ คือ น้องชาย ที่เธอเฝ้าดูแลมาตลอดนับแต่วันที่เส็ตโชมารูฝากเขาไว้ที่บ้านอินุคามิ
เธอพยายามปกป้องเด็กคนนี้มาโดยตลอด และไม่อยากให้เด็กคนนี้เสียใจมากที่สุด...
ฉันไม่อยากจากนายไป
เหมือนที่หมอนั่นทำ...
“ฉันรู้ อินุยาฉะ ขอโทษนะ”คิเคียวถอนหายใจ
ภาพใบหน้าแสนเจ็บปวดของเด็กหนุ่มทำให้เธอทนต่อไปอีกไม่ได้ เธอเอื้อมไปจับมืออินุยาฉะเอาไว้
มือของเด็กหนุ่มอบอุ่นต่างจากมือของเธอที่เย็นเฉียบตอนนี้เสียเหลือเกิน
“คิเคียว...ทำไมล่ะ
ทำไม”อินุยาฉะไม่อาจเอ่ยความรู้สึกอึดอัดและคำพูดมากมายออกมาได้ เพียงแต่ถามอีกฝ่ายว่าทำไมเท่านั้น
“ฉันอยู่ข้างๆเธอไม่ได้อีกแล้วล่ะ”หญิงสาวเอ่ยบอก
ราวกับคำพูดที่คุ้นหู ถ้อยคำที่คล้ายคลึงกับใครบางคนที่เขารอคอยเสมอมา
“อินุยาฉะ ขอโทษนะพี่อยู่กับเราไม่ได้
เพราะพี่ต้องไปที่ไกลแสนไกล”
อินุยาฉะหลับตาลงสลัดคำพูดที่อยู่ในส่วนลึกของความทรงจำออก
ความทรงจำอันหลอกลวง ก่อนลืมตาขึ้นสบกับคิเคียวด้วยดวงตาที่ขุ่นมัว
“เธอจะทิ้งฉันไป...เหมือนกับท่านพ่อท่านแม่
แล้วก็...”
“ฉันไม่ได้ทิ้งเธอ พวกเขาเองก็เช่นกัน” หญิงสาวเอ่ยกำชับ
เมื่ออีกฝ่ายเริ่มพูดตัดพ้อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอรู้ดีเรื่องที่อีกฝ่ายเปราะบางเกินไปกับเรื่องที่ต้องเสียคนที่รักไปต่อหน้าต่อตา
“แต่พวกเธอก็จะทิ้งฉันไว้ข้างหลังแล้วก็จากฉันไป”
เด็กหนุ่มตัดพ้อมืออุ่นกอบกุมมือขาวซีดที่เริ่มเย็นให้แน่นขึ้น
“เธอยังมีหมอนั่นอยู่นะ” คิเคียวกำชับถึงคนในความทรงจำและคำสัญญาที่พวกเขาเคยมี
ดวงตาของอินุยาฉะไหววูบ คนๆนั้นมีอิทธิพลกับตัวเขามากกว่าที่ตัวเขาเองคิดเสียอีก
“เขา...อาจจะลืมฉันไปแล้ว
คนๆนั้นไม่มีทางกลับมาอีกแล้ว”น้ำเสียงของเด็กหนุ่มเริ่มสั่นเครือ เธอบีบมืออีกฝ่ายแน่นขึ้นส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ
“ไม่ใช่หรอก....หมอนั่น
จะต้องกลับมารับนาย...แน่ๆ นายบอกฉันเองนี่ อินุยาฉะ...” เธอระบายยิ้มให้อินุยาฉะ
ทั้งที่ใบหน้านั้นขาวซีดแต่รอยยิ้มกลับทำให้เธอมีเสน่ห์เสมอ รอยยิ้มที่ทำให้เขาหลงรักเธอ
“ว่าสัญญากันแล้ว” หญิงสาวเอ่ย
“ฉัน...”
คิเคียวมองดูอีกฝ่ายที่มีน้ำตาคลอหน่วยและเริ่มร้องไห้ออกมาเงียบๆ
กี่ครั้งที่เธอเห็นอีกฝ่ายร้องไห้ เธอเคยสงสัยว่าเส็ตโชมารูที่ดูเย็นชาคนนั้น
ทำไมถึงได้เอ็นดูเด็กคนนี้และฝากเขาไว้ที่บ้านหลังนั้น
และจากไปด้วยรอยยิ้มที่แสนเศร้าแบบนั้น
เธอยังจำมันได้ดีรอยยิ้มในขณะที่โอบกอดร่างเล็ก
รอยยิ้มแสนเศร้าที่ไม่เคยคิดว่านายน้อยผู้เย็นชาอย่างเส็ตโชมารูคนนั้นจะยิ้มออกมาได้
แต่เมื่อได้อยู่กับเด็กคนนี้....เธอก็เข้าใจความรู้สึกของเขาได้เลย
คนๆนั้น เขาทำทุกอย่างลงไปก็เพื่อเด็กคนนี้...
“พอแล้วล่ะ ตอนนี้นายต้องคอยดูแลย่าชิมาดะแทนส่วนของฉันแล้วล่ะนะ”
หญิงสาวบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง
หวังซ่อนน้ำใสที่เริ่มซึมออกมาคลออยู่ที่หางตา
เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเป็นห่วงและเศร้ากับเรื่องของเธอไปมากกว่านี้
ฉันไม่อยากจากนายไปไหนหรอกนะ
ตราบใดที่ความโหดร้ายของโลกนี้ยังคงไม่เลือนหาย
นายจะต้องพบเจอกับเรื่องที่ทำให้เจ็บปวดมากขึ้นกว่านี้ ฉันเองก็อยากคอยอยู่ข้างๆ
คอยปกป้องอยู่ข้างๆ
“คิเคียว...”
แต่มันก็ไม่ได้แล้วล่ะ....
“อินุยาฉะ ฉันรักนายนะ เข้มแข็งเข้าไว้ น้องชายของฉัน”
นายต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้นะ...อินุยาฉะ
และนั่นก็คือคำพูดสุดท้ายของคิเคียวที่บอกกับอินุยาฉะ
ก่อนที่เธอจะค่อยๆหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า เธอยังคงระบายยิ้มบางๆบนใบหน้าพร้อมกับน้ำใสที่ไหลจากหางตา
แม้จะรู้สึกแย่ที่ต้องให้เด็กหนุ่มมาเห็นเธอจากไปต่อหน้าต่อตา
แต่ถึงกระนั้นเธอก็ดีใจที่ได้เห็นหน้าเด็กคนนี้ ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป...
และนึกขอบคุณเส็ตโชมารูที่ทำให้เธอมีโอกาสดูแลเด็กคนนี้
หึ ..เส็ตโชมารู
นายต้องกลับมารับและดูแลเด็กคนนี้ให้ดีๆ
ไม่งั้นฉันจะมาจากยมโลกตามมาหลอกหลอนนายเลย...คอยดูสิ
อินุยาฉะเม้มปากแน่นพยายามอดกลั้นน้ำตาที่จะไหลออกมา
แต่ความรู้สึกข้างในมันเอ่อล้นท่วมในอก
ภาพของหญิงสาวที่เป็นทั้งพี่สาวและคนที่เขาหลงรักกำลังนอนนิ่งอยู่ตรงหน้า
แม้ใบหน้าจะประดับยิ้มอ่อนโยนที่ทำให้เธอดูสวยเหมือนทุกครั้ง
แต่ความเย็นเชียบของมือบางที่เขากอบกุมไว้ บ่งบอกว่าอีกฝ่ายไม่มีทางตื่นขึ้นมาคุยกับเขาได้อีกแล้ว
“คิเคียว...คิเคียว!!!!!!”
ทำให้เขาไม่สามารถอดกลั้นความเศร้าและเสียใจเอาไว้ได้
เขาตะโกนเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างไร้สติ
และนั่นเป็นอีกครั้งที่การจากลาพรากเอาคนที่รักของเขาไป...
TBC.
------------------------------------
อินุผู้น่าสงสาร......งื้ออออออ
ต้องมีคนอยากเอาไรเตอร์ถ่วงน้ำแน่=【】="
หวังว่าทุกคนจะตั้งตารอตอนต่อไปกันนะง้าบบบ
//เผ่นนนนนนนนนนนนนนนนนนน
ความคิดเห็น