*
ตกเย็นแล้วผมก็ยังง่วนคิดเปลี่ยนตัวเองอย่างที่แม่บอกไอ้สองข้อแรกมันไม่เท่าไหร่หรอก แต่มันยากข้อที่สามเนี่ยดิ!!! ผมวิ่งวนไปวนมาในห้องเป็นรอบที่สามล้าน(?) ใส่แว่นอย่างเป็นจริงเป็นจัง ผมจริงจังนะเว้ย!!! อะไรที่เกี่ยวกับเปียโนผมจริงจังทุกอย่างแหละ!!
ผมเดินไปหน้ากระจกที่มีรูปของเปียโนเเปะอยู่รอบทั้งสี่ด้านก่อนจะมองตัวเองในกระจก
“ (-_____-+) ”
ไม่เอาๆดุไป
“ =______= ”
ดูซื่อบื้อๆแฮะ
“ ^__________^ ”
ทำไมเหมือนคนบ้าวะไอ้เหี้ย!!!
“ นี่กูทำอะไรอยู่เนี่ย..TOT ” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ สาบานว่าเดือนสถาปัตย์อย่างอัครพลคนนี้กำลังเล่นหน้าตัวเองกับกระจก!
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
“ .......... ” ผมกดรับโทรศัพท์โดยที่ไม่ได้มองหน้าจอ
[...นายซัลเจย์....คือฉันรบกวนอะไรนายหน่อยได้ไหม.....] เสียงหวานคุ้นหูดังมาจากโทรศัพท์ของผม เสียงใครที่ไหนล่ะ.....นางฟ้าบ้านตรงข้ามนี่ไง!!
เปลี่ยนตัวเอง....
ซัลเจย์คนใหม่..........
[ ฮัลโหล....] เสียงเปียโนเรียกสติผม ให้ผมตื่นจากภวังค์
“ อืม.....มีอะไรหรือเปล่า? ”
[ คือ........น้องฉันพาเพื่อนมากินเหล้าที่บ้านแล้วฉัน.....]
“ แพ้กลิ่นแอลกอฮอล์..”
[ รู้ได้ยังไงน่ะ!! O_O!! ]
“ อะ....เอ่อ...กูเดาเอา!.... ” ผมรีบตอบเปียโนอย่างลนลาน เชี่ย! เกือบแล้วไหมล่ะ! ประโยคเมื่อครู่ที่ผมตอบไปนั่นคือผมรู้มา
และดูเหมือนเจ้าตัวจะตกใจพอสมควร ผมเลยตอบกลบเกลื่อน
[ อ๋อ......คือฉันจะไปขอค้างบ้านนาย.....ได้หรือเปล่า....]
ฉันจะไปขอค้างบ้านนายได้หรือเปล่า ฉันจะไปขอค้างบ้านนายได้หรือเปล่า ฉันจะไปขอค้างบ้านนายได้หรือเปล่า ฉันจะไปขอค้างบ้านนายได้หรือเปล่า....
เป็นสาวเป็นแส้(?)มานอนค้างบ้านผู้ชายอย่างกูได้ไง!
“ ได้สิ..” ไหนๆเปียโนของผมอุตส่าห์โทรมาขอทั้งที ไม่ให้ก็กระไรอยู่! ผมยิ้มอย่างห้ามไม่อยู่พลางมองรอบห้องตัวเองไปด้วย
เชี่ย!
รูปเปียโนจะเก็บยังไงวะ! แต่มาคืนเดียวเองยังไงก็เก็บก่อนดีกว่า =_=; กันพลาด
[ งั้นเดี๋......]
“ อย่าพึ่งมา! อยู่ในบ้านมึงไปก่อน! ห้ามมารอหน้าบ้านด้วยมันดึกแล้วเดี๋ยวกูไปรับเอง!” ผมพูดรวดเดียวจบแล้วตัดสายเปียโนทิ้ง ก่อนจะรีบเก็บรูปที่มีทั้งหมดรอบห้องออกแบบรีบๆเพราะกลัวร่างเล็กจะรอนาน ผมคว้ารูปของเปียโนใส่ในกล่องของขวัญที่ถูกแกะไว้แล้ว(หาอย่างอื่นไม่ทัน) และเปิดประตูตู้เสื้อผ้าวางมันลงในส่วนที่ลึกที่สุด
ผมเป็นพวกไม่ชอบปิดประตูห้อง ความถึงแตกยังไงล่ะว่าผมแอบชอบเปียโนเพราะแม่ดันมาเห็นนี่แหละ! =_=
ผมวิ่งไปที่ชั้นล่างและออกไปกดกริ่งหน้าบ้านเปียโนอีกตามเคย สักพักร่างเล็กของเปียโนวิ่งออกมา ผมมองอย่างอึ้งๆเพราะดูท่าตอนที่เปียโนวิ่งออกมาเหมือนโดนคนวิ่งไล่ซะมากกว่า
“ พี่เปียโนวววววววววววววววววว! ซ๊ากกกกกกกกกกกกแก้วเด้!! *_______* ”
เสียงเด็กผู้ชายน่าจะเป็นเพื่อนของไวโอลินพูดขึ้น ร่างเล็กวิ่งกระหืดกระหอบมาหลบหลังผมกำชายเสื้อผมไว้แน่น
“ ฉันบอกว่าฉันแพ้ไง TOT ” เปียโนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้และตอบไอ้เด็กนั่น มันหัวเราะร่าและพยักหน้าก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน
“ เปียโน....”
“ อื้อ "
“ ปล่อยมือจากชายเสื้อกูได้ยัง? ” ผมถามเสียงล้อๆ แต่ในใจกลับแรงและเร็ว ร่างเร็วสะดุ้งแล้วมองมือตัวเองก่อนจะปล่อยมือออก
“ ขะ....ขอโทษนะ "
“ อืม......อย่าทำอีกล่ะ......ใจกูสั่น "
PIANO PART
อะไรของหมอนี่นะ...
พูดอย่างนั้นหมายความว่ายังไงกัน......
ซัลเจย์คว้าข้อมือผมก่อนจะดึงไปเบาๆ ขายาวๆของนายนั่นทำให้ผมเกือบต้องวิ่งตาม ไม่เชิงหรอก...แค่เดินเร็วๆT^T พอมาถึงหน้าประตูบ้านของนายซัลเจย์ ไม่ทันที่นายซัลเจย์จะเดินไปที่ห้องรับแขกเพียงแค่ปิดประตูลง คุณน้าก็วิ่งมา...ในมือถือ...หนังสือการ์ตูน......=0=;
“ อะไรกันค๊าาาาาาาาาาาาาาาา~ แหนะ! จับไม้จับมือ.. ” คุณน้าทำเสียงแหลมและหรี่ตามองมือหนาที่จับข้อมือผมไว้ด้วยสายตากรุ่มกริ่ม ซัลเจย์รีบปล่อยออกอย่างลนลาน
ฉันมันน่ารังเกียจมากนักรึไง =_=;;
“ มาแหนะเหนอะ'ไรแม่! วู๊!! ” ซัลเจย์พูดเสียงกวนๆ ใส่คุณน้า ผมได้แต่มองขำๆ
“ ไม่คุยกับแกละ....หนูเปียโน.......ทานอะไรมารึยังจ๊ะ? ว๊าย! ทำไมผิวนุ่มขนาดนี้!! แม่อิจฉา! ” คุณน้าหันมาพูดกับผมบ้าง เธอโอบตัวผมไว้หลวมๆเหมือนเอ็นดู ผมยิ้มตอบกลับไปคุณน้าก็จับนู่นจับนี่บนตัวผมจนซัลเจย์ต้องดึงมือคุณน้าออก
“ พอและๆ คนนี้หวง! ”
“ O_____O! ”
“ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด! ให้ได้อย่างนี้สิ! ” คุณน้ากำมือเป็นกำปั้นทำท่าเย่สแบบดีใจสุดขีด ผมมองทั้งซัลเจย์ทั้งคุณน้าอย่างงงๆ จนคุณน้ายิ้มขำ
“ ทำไมว่าที่ลูกสะ.....!!!! อื้ออออออออ อ่อยแอ้!!!!!!! ” มือหนาของซัลเจย์แทบจะตะปบเข้าที่ปากของแม่ตัวเองทันทีทั้งที่ยังพูดไม่จบประโยค ผมยืนงงจนหน้าที่เอ๋ออยู่แล้วของผมมันเอ๋อกว่าเดิม นายซัลเจย์เลยปล่อยมือออกจากคุณน้าและเดินขึ้นห้องไป
อ้าว แล้วฉันล่ะ!?
นายนี่มัน!!!
“ ลูกคนนี้.......ปอดแหกจริงๆ " แม่ของซัลเจย์พึมพำเบาๆ
“ เอ่อ.....คุณน้าฮะ ซัลเจย์ได้บอกรึเปล่าว่าวันนี้ผมจะมาขอรบกวน....ค้างที่นี่คืนนึง..”
“ จริงเหรอจ๊ะ!? * 0 * ” คุณน้ายิ้มดีใจและปรบมือพร้อมกับทำหน้าเคลิ้ม.....(?)
“ ฮะ " ผมตอบกลับเสียงปกติ คุณน้าโผเข้ามากอดผมเต็มแรงจนผมเสียหลักเซนิดๆผมได้ยินแม่ของนายซัลเจย์พูดเหมือนสวดมนต์ประมาณว่า ฝันฉันจะเป็นจริง....ฝันฉันจะเป็นจริง....
ส่วนผมไม่กล้าทำอะไรจึงให้คุณน้ากอดอยู่อย่างนั้น
“ แม่! เผลอไม่ได้เลยนะ! ” เสียงทุ้มของนายซัลเจย์โวยวายดังจากด้านหลัง ผมสะดุ้งตกใจเพราะเสียงของซัลเจย์ก็ดังพอสมควร เหมือนกับว่าคุณน้าจะไม่ยอมปล่อยกอด มือหนาของซัลเจย์เลยเเกะมือของคุณน้าออกและกระตุกผมไปยืนข้างๆ
ทำไมแค่โดนกระตุก........ก็เซไปง่ายๆล่ะ? TOT
“ นี่ก็......เผลอไม่ได้เลย......”
ตาคมกริบปรายตามามองผมและทำเสียงกวนส้น(?) ผมพึ่งจะเงยหน้าสังเกตนายซัลเจย์ก็พบว่านายนี่ใส่เฮดโฟนอันเบอเร่อที่คอและคาดผมด้วยที่คาดผมสีช็อคโกแลต....
นายใช่ซัลเจย์ผู้ชายบ้านตรงข้ามนี่อยู่มหาลัยเดียวกับฉัน คณะเดียวกันกับฉัน ดาวคณะที่ขี้เก๊กสุดๆ ที่น้องฉันกำลังคลั่งไคล้อยู่รึเปล่าเนี่ย!
ซักพักคุณน้าก็ชวนผมทานข้าวซึ่งผมก็บอกท่านไปแล้วว่าผมทานมาเรียบร้อยแล้วแต่ท่านก็บอกว่าจะโกรธมากๆถ้าผมไม่ยอมทานฝีมือของท่าน
น่ารักจริงๆครอบครัวนี้
ยกเว้นลูกชายเขาไว้ก็ได้ =___=;
ทีแรกนายซัลเจย์บอกว่าจะให้ผมนอนห้องนอนที่ว่างไว้แต่คุณน้าบอกว่ายังไม่ได้ทำความสะอาดประมาณว่าจะยัดเยียดให้ผมนอนกับนายนั่นให้ได้ ซัลเจย์ก็ต้องยอมแม่ของตัวเองไปตามระเบียบ =_=; แต่นึกได้ผมลืมเอาของใช้มาเกือบทั้งหมด ถึงตอนนี้ผมจะอาบน้ำใส่ชุดนอนแล้วก็เถอะ แต่ผมพึ่งทานข้าว ผมต้องแปรงฟัน..
“ ซัลเจย์.....คือ........ฉันต้องไปเอาของที่บ้านน่ะ....เดี๋ยวฉันมานะ...” ผมบอกร่างสูงเสียงเบา เหมือนพูดเองเออเองเพราะนายนั่นใส่เฮดโฟนและวุ่นอยู่กับการอ่านรายงาน
“ ไปทำไม? "
ได้ยินด้วย!?
“ ฉันต้องแปรงฟัน....”
“ กูมีที่ซื้อไว้ ใช้อันนั้นก็ได้นี่ครับ -_- " นายซัลเจย์ตอบเสียงเรียบ
“ ฉันต้องใช้แปรงที่หมอให้มา.....ฉันดัดฟันนะT^T ”
“ แล้ว.......จะทำยังไง ป่านนี้ทั้งบ้านมึงกลิ่นเหล้าคลุ้งแล้วมั้ง! ” ร่างสูงพูดประชดประชันแล้วนั่งกระดิกขาต่อไป
แต่ก็จริง กลิ่นคลุ้งเต็มบ้านแน่ๆ TOT
น้องกัสก็ใช่เล่นซะที่ไหนเมาแล้วชอบวิ่งไล่ให้คนอื่นกินเหล้าเนี่ย!!
“ U__________U ” ผมทำหน้าหงอยและทิ้งตัวนั่งบนเตียง จะโทรไปบอกให้ไวโอลินหยิบมาให้ดีมั้ยนะแต่รายนั้นชอบทิ้งโทรศัพท์ไปทั่วผมต้องคอยหาให้ตลอด..
“ ครับๆรู้แล้ว ไปเอาให้ก็ได้.........แต่มีข้อแลกเปลี่ยน......ตกลงแล้วนะ....” นายซัลเจย์พูดเองคิดเองเออเอง และเดินออกไป
ข้อแลกเปลี่ยน?
ไม่มีอะไรหรอกมั้ง....มั้งอีกแล้ว ._.
SUNJAY PART
ผมยิ้มผิวปากอย่างอารมณ์ดี เดินมาที่บ้านของ(ว่าที่)แฟนโดยไม่กดกริ่งอะไรทั้งสิ้น จริงๆผมไม่ใช่คนที่ติดเฮดโฟนอะไรนี่หรอกนะผมไม่ใช่พวกชอบตัดขาดจากโลกภายนอกซักเท่าไหร่ เฮดโฟนนี้พ่อส่งมาให้ตั้งแต่อายุ18เห็นจะได้มันมีประโยชน์ก็ตอนนี้!
ผมใส่ปิดหู
งงดิ! ผมหูแดงเพราะเขินเปียโนนั่นแหละ! -///////////////-
แค่นี้ผมยังเป็นขนาดนี้แล้วถ้าคืนนี้....นอนห้องเดียวกัน....ไม่อยากจะคิด!
ตัวขาวๆ....หน้าสวยๆที่หลับพริ้ม...ขนตาสวยงอนเป็นแพ....ขาขาวๆเวลาที่นอนพลิกตัว....
เหี้ย! ไม่คิดดิวะเจย์!!!
"แกร๊ก!” เสียงเปิดประตูของผมทำให้ทุกคนในบ้านชะงักกึก จ้องผมเป็นตาเดียว ผมมองนิ่งๆแต่สายตาเบนไปเห็นน้องไวโอลินกำลังถูกไอ้น้องที่มันวิ่งไล่เปียโนตอนแรกคร่อมอยู่โดยน้องไวโอลินนอนราบไปกับพื้นและไอ้เด็กนั่นคร่อม
“ พี่ซัลเจย์! มะ.....มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิดนะ!!!! ” น้องไวโอลินพูดเสียงลนลานและผลักอกเพื่อนออก ผมขมวดคิ้วนิดๆ
ฉันให้เบอร์นายกับน้องของฉันไป...
ประโยคที่ผมได้ยินตอนนั้นให้คิดเข้าจริงๆแล้วน้องไวโอลิน....คงชอบผมสินะ...
เชื่อดิ! ถ้ามันไม่ใช่ผมมันจะให้เปียโนมาขอเบอร์ผมทำไม? แล้วถ้ามันกล้าจริงทำไมไม่มาขอเอง? และที่ผมเห็นเมื่อกี้ถ้ามันไม่กลัวผมเข้าใจผิดมันจะผลักอกไอ้เด็กคนนั้นทำไม?
“ กูคิด? กูคิดอะไร?” ผมถามลองเชิง
“ ก็....คิดว่าผมกับไอ้กัส...”
“ กูไม่สนพวกมึงหรอกครับ =_= ห้องเปียโนอยู่ไหน? " ผมถามเร่งๆ ใจจริงอยากไปแว๊บดูห้องเปียโนอ่ะแหละ ฮ่าๆๆๆ อยากดูอยากรู้อยากเห็น *0*
“ ขึ้นบันได ทางขวา! ”
ผมไม่สนใจเสียงฮึดฮัดของไวโอลินและเดินขึ้นบันไดมาที่ห้องของเปียโนอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะมองขวามือตามที่ได้ยินมาก็เจอประตูที่มีป้ายแขวนว่า...
พี่สาวเหล็กดัด '+++++++'
พี่สาว? ฮ่าๆๆๆๆๆ ดูท่าเจ้าตัวจะไม่ได้ทำเองด้วยซ้ำแต่เท่าที่เห็นเปียโนยอมไปซะทุกคนนั่นแหละ ไวโอลินเลยดูเอาแต่ใจไงล่ะ -_-
ผมเปิดประตูเข้าไปสำรวจห้องของ(ว่าที่)แฟนได้ไม่นานก็มีสายเข้ามา
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
“ ............. ”
[ ซัลเจย์......ลืมแปรงสีฟันของฉันแล้วเหรอ ] เสียงงุ๊งงิ้งน่ารักของเปียโนบ่นเล็กๆ ผมอมยิ้มและตอบกวนอารมณ์ร่างเล็กในสาย
“ ยังไม่ลืม อยู่ในห้องมึงเนี่ย ”
[ นะ..นาย!!!!! ทำไมไม่บอกให้ไวโอลินไปหยิบให้ล่ะ U_U นาย...นายนี่มัน....โอ๊ย!...นายนี่!! ] เปียโนพูดซ้ำไปซ้ำมาเหมือนจะด่าแต่ก็ไม่ด่าซักที ผมยิ้มให้กับเสียงหงุดหงิดๆที่ดูไม่น่ากลัวซักนิด
ช่วงนี้....ผมยิ้มโคตรบ่อย.....
เพราะ.......
คนในสาย.........คนนี้แหละ.....
“ รู้แล้วน่า! กูเห็นมันเมาๆกันแล้วเลยถามทางแล้วมาหยิบเองไง แล้วของมึงอยู่ไหนอ่ะ?”
[ ในห้องน้ำสิ.....อยู่ในแก้วน้ำที่ฉันใส่ไว้แก้วมีหูสีชมพู...หยิบมาทั้งแก้วเลยนะ ]
ผมมองหาแก้วน้ำสีชมพูแล้วก็เจอมันวางไว้บนชั้นวางของในห้องน้ำ ห้องน้ำของเปียโนแทบไม่มีเครื่องสำอางค์ซักชนิด แชมพูเด็ก ครีมอาบน้ำ แล้วก็ขวดอะไรไม่รู้อีกสองขวด
ผมคว้าแก้วที่มีสารพัดแปรงนั่นมาไว้ในมือและพูดบอกคนในสาย
“ เดินมาที่หน้าต่างทีดิ๊!! " ผมเดินมาที่ผ้าม่านสีขาวในห้องของเปียโนก่อนจะเปิดมันออก
ร่างเล็กที่อยู่ในชุดนอนยืนมองผมและเอียงคอนิดๆ ผมยิ้มยิงฟันส่งไปให้กะจะให้เปียโนใจเต้น(?)เล่นๆ แต่...เปียโนนิ่งว่ะ! TOT
ปิดหน้าต่างกับผ้าม่านลงอีกต่างหาก!!! แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
มึงไม่หวั่นไหวกับยิ้มหล่อของกูเหรอ? ซักนิดก็ไม่เหรอ? มึงมีใครอยู่แล้วใช่มั้ยเปียโนถึงไม่หวั่นไหวกับกูอ่ะ TTOTT
“ เฮ้ย! เปียโน...เฮ้ย!! ” เปียโนไม่ได้ตัดสายครับแต่เปียโนเงียบไป..
ผมเดินลงมาที่ชั้นล่างโดยมีสายตาไอ้เด็กนั่นมองมาอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่กับสายตาละห้อยของไวโอลิน ผมเดินออกมาแล้วกลับที่บ้านตัวเอง ก่อนจะรีบขึ้นไปที่ห้องของตัวเองทันที
เปียโนเงียบทำไมอ่ะ!?????? ยิ่งคิดยิ่งสงสัย..หรือว่าจะเขิน? แบบในหนังอะนะ! >//////////////< ผมนึกในใจแบบเพ้อฝันพลางเดินขึ้นห้องไปด้วยพอผมเปิดประตูเข้าไปในห้อง..
“ O//////////////O ” ผมมองเปียโนที่หน้าแดงอยู่ที่ริมหน้าต่างที่เดิม โทรศัพท์ยังอยู่คามือตัวเองแต่...ยังไม่ได้ตัดสาย ผมเดินเข้าไปใกล้ๆและโน้มตัวลงมาเสมอระดับหน้าผมกับหน้าเปียโน ยิ่งมองยิ่งหมั่นเขี้ยว!
“ จุ๊บ..” ผมจรดริมฝีปากเบาๆที่ริมฝีปากบางก่อนจะผละออกมาและยิ้มให้ร่างบางจนตาหยี ร่างของเปียโนทรุดลงจนผมคว้าไว้ในอ้อมแขน โทรศัพท์หล่นกระแทกพื้น ผมกระซิบที่หูของร่างเล็กเบาๆว่า
“ ข้อแลกเปลี่ยนไง...”
ความคิดเห็น