ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Replace - kuroko no basuke novel แปลไทย

    ลำดับตอนที่ #9 : Replace I เกมที่สาม:วิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดของชมรมบาสเก็ตบอลโรงเรียนม.ปลายเซย์ริน

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 57


    คนแปล: Omaew
    คนเช็คคำ: Tori
    แปลEng: mocopersonal [tumblr]
    Warning:มุกของอิสึกิเป็นแบบแปลง ไม่ได้แปลเป๊ะ เพื่อรรถรสของการรับชม? ความแป๊ก?
    _______________________________________

    เกมที่ 3 วิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดของชมรมบาสเก็ตบอลโรงเรียนม.ปลายเซย์ริน


    เกี่ยวกับคนชื่อ คิโยชิ เทปเปย์ ฮิวงะ จุนเปย์เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับตัวเขาไว้ว่า

    คนพิลึก

    ทุกสิ่งที่เขาทำทั้งหมดล้วนแปลกประหลาด และนั่นก็คือ คิโยชิ เทปเปย์

    นี่คือเรื่องเมื่อตอนที่คิโยชิกลับมาที่ชมรมบาสเก็ตบอลของเซย์รินแล้ว วันหนึ่งในหลายวันของภาคการเรียนใหม่

    คิโยชิผู้ซึ่งมาปรากฏตัวทันก่อนจะเริ่มซ้อมแบบฉิวเฉียดเป็นครั้งแรก ตรงเข้าไปค้นล็อคเกอร์ของตัวเองเพื่อหาของบางอย่างในทันทีที่มาถึง

    ฮิวงะที่ดันบังเอิญอยู่ในห้องชมรมในขณะนั้นไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าเกิดอะไรขึ้น

    ไม่ว่ายังไงหมอนั่นก็เป็น "คนพิลึก" จะให้ไปตกใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่หมอนั่นทำก็เหนื่อยกันพอดี

    ระหว่างที่ปล่อยให้คิโยชิจนปัญญาของเขาไป ฮิวงะก็รีบเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อเพื่อเตรียมฝึกแล้วตั้งท่าจะออกจากห้อง ในจังหวะนั้นเอง

    ฮิวงะ คอยเดี๋ยวคิโยชิเรียกเขา

    ชายหนุ่มมองฮิวงะด้วยสีหน้าจริงจัง

    ทว่าจากประสบการณ์แล้ว สีหน้าจริงจังแบบนี้จะต้องตามมาด้วยอะไรที่ตะลึงจนต้องอ้าปากค้างอีกแน่ และเพราะอย่างนั้น ฮิวงะจึงเบื่อสีหน้าแบบนี้เสียแล้ว น่ารำคาญจริงๆ หมอนี่เลิกทำหน้าแบบนี้ซะทีเถอะ

    มีอะไร?”

    คิโยชิที่ยังคงมีสีหน้าจริงจังแบบเดิมเอ่ย

    ชั้นคิดว่าชั้นทำกระเป๋าตังค์หายล่ะ

    เหรอ... งั้นก็ไม่ต้องมาบอกชั้น ไปแจ้งกรรมการนักเรียนแล้วส่งคำร้องแจ้งของหายซะ แล้วก็นะชั้นจะไม่ให้นายยืมเงินเลยแม้แต่แดงเดียว!

    สุดยอดเลย ฮิวงะ นายพูดรวดเดียวหมดนั่นโดยไม่หยุดหายใจได้ด้วย!

    ชั้นต้องใช้ความเร็วขนาดนี้ล่ะเวลาจะพูดกับนาย ไม่งั้นเสียเวลาตายชัก ถ้างั้นชั้นไปก่อนนะ

    เดี๋ยวก่อน! เรื่องนี้เกี่ยวกับนายนะ

    หา?”

    ฮิวงะที่ก้าวเท้าออกไปนอกประตูแล้วหันกลับมา รู้สึกคาใจ

    กระเป๋าตังค์ของนายจะมาเกี่ยวอะไรกับชั้น

    เพราะในกระเป๋าตังค์ของชั้นมีเงินอยู่น่ะ

    หยุดพูดไร้สาระน่า

    มันไม่ใช่เงินของชั้นน่ะสิ

    หมายความว่ายังไง ถ้ามันไม่ใช่เงินของนาย งั้นของใคร?”

    เงินงบชมรมน่ะ

    งบชมรม? อ๋อ เงินของชมรมนี่เอง...เอ๊ะ?”

    เมื่อความหมายของคำนั้นเข้าไปในหัวของฮิวงะได้ เขาก็ชะงักไป

    (เฮ้ย เดี๋ยวก่อนนะ หมอนี่พึ่งพูดอะไรที่สำคัญมากๆออกมารึเปล่า...)

    ลางสังหรณ์ไม่ดีนั้นพาลพาให้ฮิวงะเริ่มมีเหงื่อ

    ปกติแล้วถ้ามีเค้าลางแบบนี้ ก็หมายความว่าจะมีเรื่องแย่มากๆเกิดขึ้น

    เมื่อวานนี้ ทางโรงเรียนให้งบของแต่ละชมรมสำหรับเทอมนี้มาน่ะ ริโกะบอกว่า"ให้นายเก็บไว้ก่อนละกันแล้วก็ส่งเงินทั้งหมดมาให้ชั้น ชั้นก็เลยเก็บมันไว้ในกระเป็าตังค์...

    แล้วนายก็ทำหาย!?”

    ฮิวงะถามขัดคิโยชิขึ้นอย่างรีบร้อน

    อื้อ...คงงั้น

    ยังจะมา "คงงั้นอีก! นี่มันอะไรกัน!! นายทำบ้าอะไรลงไป!!

    ชั้นทำกระเป๋าตังค์หายไง

    ชั้นไม่ได้ให้แกตอบคำถาม!! ถ้าไม่มีงบล่ะก็ จะเปลี่ยนลูกบาส หรือ จะสั่งตัดชุดแข่งเอย ก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น!

    รอเดี๋ยวก่อนครับ

    รอไม่ได้แล้ว! เอ๋ ว้ากกกก!!

    ฮิวงะแหกปากด้วยความตกใจพร้อมกับถอยหลัง

    ห้องนี่น่าจะมีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น ทำไมถึงมีเสียงที่สามดังขึ้นได้

    ผมได้ยินที่พวกคุณสองคนพูดกันแล้วครับ ผมมีวิธีอยู่

    บุคคลที่สามในห้องแห่งนี้-คุโรโกะ เท็ตสึยะ ตัวตนของเขาวันนี้จืดจางมากจนไม่มีใครสังเกตเห็น

    คุโรโกะ นายมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!?”

    ฮิวงะเอามือทาบหน้าอกเพื่อปลอบหัวใจที่เต้นแรงของตัวเอง

    ผมอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่แรกแล้วครับ

    คุโรโกะเกาแก้มตัวเอง

    เมื่อกี้ที่บอกว่ามีวิธี? วิธีอะไรเหรอ?”

    คิโยชิที่ทำเพียงแค่เบิ่งตากว้างกับการปรากฏตัวขึ้นกระทันหันของคุโรโกะเอ่ยถาม

    รุ่นพี่คิโยชิทำกระเป๋าตังค์หายสินะครับ ในเวลาแบบนี้มันจะมีลำดับขั้นตอนในการหาของหายอยู่ครับ เริ่มแรกให้ไปตรวจสอบก่อนว่ามีใครพบกระเป๋าตังค์ใบนั้นแล้วนำมาส่งคืนที่กรรมการนักเรียนหรือยัง หลังจากนั้นค่อยไปตะลอนทุกที่ที่รุ่นพี่คิโยชิไปมาวันนี้ ผมว่าแค่นี้ก็น่าจะหาเจอแล้วครับ

    “...คุโรโกะวันนี้นายกินอะไรผิดสำแดงเข้าไปรึเปล่า

    การได้ยินคุโรโกะพูดยาวมากขนาดนี้เป็นเรื่องที่หายาก ฮิวงะแปลกใจเล็กน้อยจึงยื่นมือเข้าหาหน้าผากของอีกฝ่ายเพื่อจะวัดไข้

    ผมก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วครับ

    คุโรโกะยังคงใบหน้าไร้อารมณ์ไว้เช่นเดิม พลางโยกหลบมือของฮิวงะ

    คิโยชิวางแขนขวาของตัวเองบนมือซ้าย พร้อมกับใช้มือขวาเท้าคางของตัวเอง หลังจากใช้ความคิดอยู่เงียบๆครู่หนึ่ง เขาก็พยักหน้าพร้อมมองมาที่คุโรโกะ

    จริงด้วย ทำอย่างที่ว่าน่าจะดีที่สุด คุโรโกะนายนี่สุดยอดไปเลยนะ อย่างกับนักสืบ

    ผมอ่านนิยายสืบสวนอยู่บ่อยครับ

    จริงเหรอ!? งั้นพูดไอประโยคที่พูดอยู่ตลอดให้ฟังหน่อยสิ

    อะไรเหรอครับ?”

    คุโรโกะเอียงคออย่างงุนงง อันนั้นไงคิโยชิเอ่ยพลางหันไปหาฮิวงะ

    คนร้ายก็คือ...นายนั่นแหล่ะ!

    พูดอะไรของแก! ไอบ้านี่!!

    ฮิวงะเห็นคิโยชิชี้นิ้วใส่หน้าของเขาอย่างอุกอาจก็ขว้างรองเท้าบาสใส่หัวอีกฝ่ายในทันที

    มันใช่เวลามาเล่นไหม! ยังไงก็ช่าง ไปหาตามวิธีของคุโรโกะซะ!

    ได้ยินฮิวงะสั่งการแบบนั้น ทั้งนักสืบจำเป็นและหนุ่มที่มีรอยจ้ำรองเท้าผงกหัวรับ
                

     

    ขั้นแรกของการค้นหา:ไปที่กรรมการนักเรียนเพื่อสอบถาม จบลงด้วยความเสียเปล่า

    กระเป๋าตังค์ของคิโยชิไม่ได้อยู่ที่นั่น แล้วก็น้า~ คนของคณะกรรมการนักเรียนบอกว่า ไม่มีใครเก็บกระเป๋าตังค์ได้สักใบทั้งวันนี้ทั้งเมื่อวานเลย

    โคงาเนอิที่กลับมาจากกรรมการนักเรียนมารายงานผลที่โรงยิมอย่างร่าเริง ส่วนฮิวงะกับพวกที่เหลืออยู่ที่โรงยิม

    “...ถ้างั้น การค้นหากระเป๋าตังค์ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนที่สองครับ

    คุโรโกะก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่ออ่านบันทึกในมือของตน

    นี่อะไรน่ะ?”

    คากามิผลุบขึ้นมามองเศษกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งในนั้นบันทึกเวลาและสถานที่จำนวนหนึ่งเอาไว้

    นี่เป็นบันทึกบอกว่ารุ่นพี่คิโยชิทำอะไรตลอดทั้งหนึ่งวันนี้ครับ เราจำเป็นต้องตามรอยบันทึกนี้ในการค้นหา

    ตามรอย...ต้องหาหมดนี่เลยเรอะ!?”

    ครับ

    คุโรโกะพูดยืนยันกระชับสั้นได้ใจความ คากามินิ่งไป

    ถ้างั้นแบ่งเป็น 2-3กลุ่ม แยกกันหาน่าจะเร็วกว่า

    อิสึกิ ชุนเสนอแนะ ทว่าฮิวงะกลับส่ายหัวคัดค้าน

    ไม่ ทุกคนจะหาในที่เดียวกัน พฤติกรรมของคิโยชิมันประหลาดเกินไป ถ้าใช้คนน้อยเกินไปหาไม่เจอหรอก!

    ชั้นว่าชั้นก็ปกติอยู่นะคิโยชิยิ้มระรื่น ไม่มีแม้แต่เค้ารอยความเขินอายอยู่บนใบหน้า

    สมาชิกที่เหลือเห็นอาการงี่เง่าแบบนั้นก็รู้สึกหนาวขึ้นมาเล็กน้อย

    คนที่ฮิวงะเรียกว่าเป็นคนพิลึก คิโยชิ ถ้าพวกเขาจะต้องมาตามรอยกิจกรรมทั้งวันของชายหนุ่มคนนี้ล่ะก็..."

    “...งั้นเริ่มจากไปไหนก่อนล่ะ?”

    โคงาเนอิถามคุโรโกะอย่างวิตกกังวล

    เริ่มแรกไปที่สระน้ำหลังบล็อกอาคารเรียนครับ

    "สระน้ำ? แถวนั้นมีสระน้ำด้วยเหรอ?"

    โคงาเนอิส่งเสียงร้องด้วยความประหลาดใจ มิโตเบะ ริวโนะสึเกะที่อยู่ข้างๆเขาก็มีสีหน้างุนงง

    ในจังหวะนั้นเอง อึซึกิก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าเลิกลั่ก

    "สระอะไปสระน้ำ!!"

    เมื่อชมรมบาสเก็ตบอลไปถึงบริเวณหลังบล็อกอาคารเรียนของโรงเรียนเซย์ริน ก็อดไม่ได้ที่จะร้องอุทานออกมา

    "น..นี่เหรอ สระน้ำ...?"

    "นี่เรียกว่าสระน้ำได้ดวยเหรอ..."

    "มันก็ควรจะเรียกว่าสระน้ำอ่ะนะ"

    แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่บริเวณนี้จะมีสระน้ำอยู่

    สิ่งที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาก็คือ ทุ่งนาขนาดใหญ่ประมาณสระว่ายที่มีขนาด 25เมตร และถึงจะเรียกว่าทุ่งนาแต่สิ่งที่อยู่ข้างในก็ไม่ใช่ข้าวแต่เป็นวัชพืชน้ำแทน

    ก่อนหน้านี้ที่นี้เคยถูกใช้งานโดยชมรมเกษตร ก่อนที่ชมรมจะถูกยุบตัวลง ทำให้ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากใคร และไม่มีใครจำที่นี่ได้ในที่สุด

    คิโยชิซึ่งเมินสีหน้าตกใจของสมาชิกชมรม ตรงไปที่สระน้ำนั้น ไม่สิทุ่งนานั้นแล้วนั่งยองๆลง

    "ถ้าพวกนายดูๆดี จะเห็นว่ามีพวกปลาเล็กๆอยู่ในน้ำน่ะ พอเห็นว่าพวกมันมาอยู่ในที่แบบนี้ แล้วก็พยายามอย่างมากเพื่อให้อยู่รอด เดี๋ยวอยู่ดีๆพวกนายก็จะรู้สึกอยากมาที่นี่แล้วมาให้กำลังใจพวกมันเองล่ะ"

    "หรือก็คือ ตอนเช้านายมาที่นี่ทุกวันเพื่อมาให้อาหารปลา"

    "อื้อ สนุกมากเลยล่ะ"

    "ไอบ้า!!"

    ฮิวงะที่เปี่ยมไปด้วยความโกรธเตะใส่คิโยชิไปดอกหนึ่ง ทำให้เขาเสียการทรงตัว แล้วแกว่งแขนไปมาคล้ายกับกำลังว่ายน้ำหวังจะให้กลับมาทรงตัวได้เหมือนเดิม แต่ทว่า...

    ซ่า

    ลงท้ายเจ้าตัวก็ตกลงไปในทุ่งนาอยู่ดี

    "ท...ทำอะไรของนายเนี่ย หวา เปียกหมดเลย..."

    คิโยชิใช้มือพยุงตัวขึ้นจากน้ำก่อนหันกลับมาเพื่อจะบ่น-แต่จู่ๆก็นิ่งเงียบไป

    "จริงๆเลย นายจะระมัดระวังตัวให้มันน้อยได้ขนาดไหนกัน! ถือเงินเยอะขนาดนี้ แล้วยังจะมาเล่นใกล้ๆน้ำเนี่ยนะ!? เคยคิดบ้างไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้านายพลาดลื่นตกน้ำน่ะ!"

    จังหวะที่คิโยชิหันกลับมานั้น ฮิวงะก็เริ้มบ่นไม่หยุดเป็นชุดพลางถอดรองเท้าและถุงเท้าของตัวเอง แล้วพับแขนเสื้อยืดขึ้นให้ถึงช่วงข้อศอก

    "ฮิวงะ?"

    คิโยชิเบิ่งตากับการกระทำที่แปลกไปของฮิวงะ

    "เอาล่ะ อย่ามัวแต่ยืนอยู่ตรงนั้น คิโยชิ! งมหาในน้ำไปสิ!"

    ว่าอย่างนั้นแล้ว ฮิวงะก็เดินลงเข้าท้องนาเช่นกัน

    "อย่างนี้นี่เอง...ที่ว่าถ้าคนน้อยเกินไปจะหาไม่ได้สินะ"

    อิสึกิฉีกยิ้มก่อนตามฮิวงะลงไปงมหาของในน้ำด้วยเท้าเปล่า สมาชิกชมรมคนอื่นที่เห็นดังนั้นแล้วจึงลงมาร่วมงมในน้ำเช่นกัน ฮิวงะสั่งให้ปีหนึ่งมองหารอบๆท้องนาไป และแล้วการตามล่าหากระเป๋าตังต์จึงได้เริ่มต้นขึ้น

    "คิโยชิ กระเป๋าตังค์งนายมีจุดเด่นอะไรบ้างไหม?"

    ซึจิดะ ซาโตชิ ถามขณะที่กำลังแหวกกอวัชพืชออกจากกัน

    "เป็นกระเป๋าตังค์ไนล่อนสีฟ้าที่มีลายฮานาฟุดะน่ะ อ๊ะ แล้วก็มีจี้พระที่ซื้อมาช่วงที่ไปไปทัศนศึกษาตอนม.ต้นด้วย เตะตามากๆเลยล่ะ"

    สึจิดะได้ยินคำตอบของคิโยชิก็ตอบรับว่า"โอเค เข้าใจแล้ว" ก่อนจะเริ่มงมหาอย่างไม่ปริปากใดๆสักคำ แล้วด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงงมหาอยู่ในท้องโคลนด้วยเท้าเปล่าเป็นเวลาประมาณ 15 นาที

    "อ๊ะ นี่มัน!" โคงาเนอิตะโกนขึ้นอย่างกระทันหัน

    "เจอแล้วเหรอ!?" ทุกคนมองมาที่เจ้าตัว

    โคงาเนอิชูสิ่งที่เขาหาเจอด้วยความดีใจ

    "นี่มัน น่าคิดถึงอะไรอย่างงี้! ดินสอเปลี่ยนไส้พวกนี้!"

    "มันใช่เวลามาย้อนวัยม้ายยยยย!!"

    ฮิวงะจับดินสอเปลี่ยนไส้เมื่อครู่แล้วขว้างไปสุดแรงของตัวเอง

    "ดินสอของช้านนนนน!!!"

    โคงาเนอิครวญครางพรางห่อไหล่

    คิโยชิเข้ามาปลอบใจเขา

    "น่า อย่าเสียใจไป ไม่ต้องห่วงหรอก ดินสอเปลี่ยนไส้เดี๋ยวนี้ก็ยังพอหาซื้อได้อยู่"

    "ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคุยเรื่องแบบนี้เข้าใจไหม!! " ฮิวงะพูดโพล่งขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

    ในจังหวะนั้นเอง คุโรโกะกับพวกที่ไปหาบริเวณรอบๆท้องนาก็กลับมาพอดี

    "รุ่นพี่ มันไม่ได้อยู่ในที่รอบๆสระเลย พวกเราไม่เจออะไรที่คล้ายจะเป็นกระเป๋าตังค์เลยครับ"

    "หาเจอที่สระไหมครับ?"

    ฮิวงะได้ยินรายงานของคากามิกับคุโรโกะแล้วจึงถอนหายใจก่อนเอ่ย

    "ทางนี้ก็หาไม่เจออะไรเลย สงสัยคงหายที่อื่น"

    ฮิวงะกับพวกที่เหลือพากันออกจากทุ่งนาก่อนตัดสินใจไปยังสถานที่ถัดไป

    ร้านขายอาหาร เมื่อนึกได้ว่าวันนี้เป็นวันที่เท่าไหร่ สมาชิกชมรมก็ถึงกับกัดริมฝีปาก

    "คิโยชิ...ช่วงพักกลางวัน นายมาซื้อขนมปังที่นี่อย่างนั้นเหรอ?"

    โคงาเนอิถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คิโยชิตอบอย่างร่าเริง

    "เพราะชั้นไม่ได้กินนานแล้วน่ะ ขนมปังเนื้อหมูดำแผ่น...อะไรสักอย่างนี่แหล่ะ"

    "แล้วไหงไม่สนใจจำชื่อขนมปังซะได้เล่า!"

    อิสึกิได้ยินโคงาเนอิว่าก็พูดขึ้นว่า"นายกำลังสนใจผิดประเด็นแล้ว"

    "คนแออัดขนาดนี้ แต่กลับกล้า...ถืองบชมรมเอาไว้..."

    คากามิเองก็กัดแก้มเม้มปากเป็นเส้นตรงตัวเองอย่างอดไม่ได้

    พวกเขาต่างเคยอยู่ในเหตุการณ์และเคยเผชิญหน้ากับการต่อสู้แย่งชิงขนมปังอันดุเดือดมาด้วยตัวเองแล้วจึงไม่คาดคิดว่าคิโยชิจะกล้าถืองบชมรมไว้กับตัวแล้วเข้าไปท้าชนกับฝูงชนจริงๆ

    ทุกคนไม่พูดอะไรออกมาพักหนึ่ง เป็นคุโรโกะที่ทำลายความเงียบนั้นด้วยโทนเสียงที่ราบเรียบ

    "มีความเป็นไปได้ระหว่างที่เข้าไปเบียดกระเป๋าตังต์อาจจะหล่นหาย แยกย้ายกันไปหาเถอะครับ"

    "แต่...ดูจากรูปการณ์ อาจจะโดนขโมยไปแล้วก็ได้"

    คากามิออกความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ดูเหมือนว่าทุกคนเองก็คิดถึงความเป็นไปได้นี้ไว้แล้วเช่นกัน จึงหันมามองคุโรโกะเพื่อรอความเห็นจากเขา

    "มองโลกในแง่ดีไว้ก่อนเถอะครับ"

    "นี่มันแค่ปลอบใจตัวเองไม่ใช่เรอะ!"

    "ใช่ ใช่แล้ว ทุกคนยอมรับความจริงกันหน่อยเถอะ"

    "นายไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้นล่ะ!" คิโยชิตัวต้นเหตุของทุกสิ่งอย่างถูกรุมตะโกนใส่

    "รู้ตัวใช่ไหมว่าทั้งหมดนี่มันเป็นเพราะแก!? ถ้าเงินถูกขโมยที่ร้านขายอาหารจริงล่ะก็เรื่องใหญ่เลย รู้ไหม!?”

    ฮิวงะสวดยับ ทว่าคิโยชิกลับตบบ่าเขาพร้อมเอ่ยปลอบใจ

    "เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว ใจเย็นหน่อย"

    "โอกาสที่จะถูกขโมยไปมันน้อยมากเลยล่ะ เพราะงั้นวางใจได้"

    "อะไรทำให้นายมั่นใจได้ขนาดนั้น?"

    ฮิวงะเห็นคิโยชิมีท่าทีมั่นใจเหลือเกินจึงนิ่วหน้าถาม

    "ต้องมั่นใจสิ ก็เพราะชั้นไม่ได้เข้าไปเบียดกับใครเขาเลยด้วยซ้ำ"

    "อะไรนะ!?"

    "ถึงชั้นจะอยากกินขนมปังหมูดำแผ่นอะไรสักอย่างนั่นขนาดไหน ชั้นก็จำได้ขึ้นมากระทันหันว่ามีนัดกับริโกะน่ะ"

    "นัดกับริโกะ...หรือว่า...!"

    "ช่าย ที่ห้องคหกรรม ชั้นมีนัดร่วมชิมอาหารกับเธอน่ะ"

    "ว..ว่าไงน้าา?" ทุกคนตกตะลึงอีกครั้งหนึ่ง

    "ร่วมชิมอาหาร? อย่าบอกนะว่านายกินเข้าไปแล้ว!?"คำถามนั้นมาจากโคงาเนอิ

    มิโตเบะเข้ามาจับหน้าผากของคิโยชิ จับชีพจร ด้วยสีหน้าราวกับจะบอกว่า"ยังไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"

    ทุกคนมองมาที่เขาอย่างกังวลใจ แต่คิโยชิก็ยังคงยิ้มระรื่นอยู่ดี

    "ชั้นสบายดี แค่แปลกตรงที่ว่าหลังจากชั้นกินเข้าไปแล้ว ความทรงจำชั้นก็หายไปช่วงหนึ่งน่ะ พอตื่นมาอีกทีก็มาอยู่ในห้องกระจายเสียงแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยเล่าเรื่องจริงอันน่าช็อคออกมาอย่างไม่คิดมาก

    "สูญเสียความทรงจำ!?"

    "จะว่าไปแล้ว นายไปอยู่ในห้องกระจายเสียงได้ยังไง!เดินแบบไม่ได้สติไปที่นั่นเรอะ!?"

    "จากห้องคหกรรมมาห้องกระจายเสียง มีความเป็นไปได้ที่กระเป๋าตังค์จะหล่นระหว่างทางครับ"

    "คุโรโกะ ในเวลาแบบนี้ไม่ต้องนิ่งขนาดนั้นก็ได้!"

    แต่ไม่ว่าพวกเขาจะพูดคุยถึงพฤติกรรมอันแปลกพิลึกของคิโยชิมากมายแค่ไหน กระเป๋าตังค์ใบนั้นก็ไม่มีทางที่จะปรากฏตัวขึ้นมาเอง พวกเขาจึงจำเป็นต้องหากันต่อไป

    ทั้งกลุ่มรวบรวมแรงใจที่แทบจะแตกสลายหายไปหมดแล้วของตนกลับคืนมา แล้วเริ่มต้นค้นหาอีกครั้งหนึ่ง

    เริ่มจากบริเวณรอบๆร้านขายอาหาร ถัดมาเป็นห้องคหกรรม สุดท้ายก็เฉลียงทางเดินจากห้องคหกรรมไปยังห้องกระจายเสียง ทว่าอย่าว่าแต่จะหากระเป๋าตังค์เจอเลย พวกเขาไม่พบแม้แต่ร่องรอยของมันเลยแม้แต่นิดเดียว

    สุดท้ายทุกคนจึงกลับไปยังสถานที่ที่คิโยชิรู้สึกตัวว่ากระเป๋าตังค์หาย

    "ชั้นกำลังทำความสะอาดอยู่ตรงนี้ ตอนที่รู้สึกตัวว่ากระเป๋าตังค์มันหายไปน่ะ"

    ในตอนนั้นไม่มีใครอยากพูดอะไรออกมาสักคำเดียว

    "ไม้กวาดด้ามมันสั้นใช่ไหมล่า? ต้องก้มตัวลงเพื่อกวาดพื้นเป็นอะไรที่เมื่อยเอว ชั้นก็เลยมายืดตัวเพื่อจะนวดเอว ทุบเอวไปสองสามที ก็เป็นตอนนั้นล่ะที่ชั้นรู้ตัวว่ากระเป๋าตังค์ที่อยู่ในกระเป๋าหลังของกางเกงมันหายไป ตอนนั้นชั้นตกใจมากจริงๆนะ!"

    เสียงดังของคิโยชิสะท้อนไปทั่วลานกว้างของโรงเรียนเซย์ริน

    หลังเลิกเรียนห้องของคิโยชิรับหน้าที่ทำความสะอาดบริเวณลานกว้าง

    "แล้วทำไมมันต้องเป็นลานกว้างด้วย! มันจะใหญ่เกินไปแล้ว!"

    ฮิวงะครวญคราง

    ถึงจะเป็นแค่ลานกว้างของโรงเรียน แต่ที่แต่ละมุมจะมีพื้นที่ซึ่งปลูกพวกต้นไม้ไว้อยู่

    แค่คิดว่าจะต้องควานหาของก็ทำให้เหนื่อยได้แล้ว

    สมาชิกชมรมบาสเก็ตบอลค้นหามาทั่วแล้วถึง4ที่มองไปยังลานกว้างขนาดใหญ่มหึมาพร้อมกับความคิดที่ต้องหาจนมืดค่ำ ยังไม่ทันได้ลงมือหาทุกคนก็รู้สึกเหนื่อยทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ

    ทว่ากลับมีหนึ่งในพวกเขาเดินออกจากกลุ่มแล้วตรงไปยังพุ่มไม้

    เขาคนนั้นก็คือ คุโรโกะ เท็ตสึยะ

    "คุโรโกะ..."

    คากามิเรียกเขา คุโรโกะมองไปยังพุ่มไม้ก่อนเอ่ย

    "เราจะยอมแพ้ไม่ได้ครับ"

    ไม่ว่าโอกาสที่จะหาพบจะเหลือต่ำเพียงใดก็ยอมแพ้ไม่ได้ นี่เป็นความเชื่อของเด็กหนุ่มที่เจ้าตัวยึดถึงอย่างมั่นคงมาจนถึงวันนี้

    คากามิที่แต่เดิมรู้สึกหมดหวังเล็กน้อยหัวเราะขึ้นมาในทันที

    "...งั้นเหรอ นั่นสินะ"

    คากามิตบแก้มตัวเองด้วยมือทั้งสองข้าง เรียกใจตัวเองกลับมาแล้วมุ่งหน้าไปยังพุ่มไม้

    สมาชิกในชมรมที่เหลือต่างได้รับอิทธิพลจากทั้งคู่ค่อยๆเริ่มหาตามพุ่มไม้และตัวลานกว้าง

    "รู้สึกได้เลยว่าการทำความสะอาดลานกว้างนี่มันไม่มีทางเสร็จจริงๆ"

    "อ๊ะ กวาดสายตาหาที่วางไม้กวาด มุกแหล่มไปเลย!"  

    "เออ เออ รีบไปหาเร็วๆเข้า"

    "เอวชักเริ่มเมื่อยจริงๆซะแล้วแหะ"

    หลังจากได้เห็นสมาชิกทุกคนคุยกันไปด้วยหาไปด้วย คิโยชิก็ตาเป็นประกายด้วยความซาบซึ้งจนฮิวงะคำราม"อย่าอู้เซ่!!"

    และแม้ว่าพวกเขาจะหาในลานกว้างแล้วก็ยังคงไม่พบกระเป๋าตังค์

    หากยังคงหาแบบนี้ต่อไป ก็จะทำให้ต้องเลื่อนการฝึก ฮิวงะจึงตัดสินใจให้กลับมาที่โรงเยิมก่อน

    "อ๋าาา มันจะไปอยู่่ที่ไหนได้น้า?"

    โคงาเนอิพูดงึมงำขณะที่ลงไปนอนแผ่หรากับพื้น แขนทั้งสองข้างเหยียดออก พร้อมกับกลิ้งไปกลิ้งมา

    "อาจจะมีคนเก็บกระเป๋าตังค์ใบนั้นได้วันนี้ แล้วกะเอามาคืนที่กรรมการนักเรียนพรุ่งนี้ก็ได้ อดทนรอหน่อย" สึจิดะตบบ่าคิโยชิ"ใช่ไหมล่ะ?"

    แต่คิโยชิกลับส่ายหัว

    "ไม่เป็นไรหรอก ปล่อยไว้แบบนี้เลยละกัน ตัดใจกันดีเหอะ"

    "ว่าไงนะ!?"

    คำพูดไม่คาดคิดนั้นทำเอาทุกคนนิ่งและมองมาที่คิโยชิ

    "ตัดใจ?...คิโยชิ นายเอาจริงๆอย่างงั้นเหรอ!!"

    สึจิดะเบิ่งตามองด้วยความประหลาดใจ คิโยชิมองเขาก่อนยิ้มน้อยๆให้

    "อื้อ"

    "อื้อนี่มันหมายความว่ายังไง..."สึจิดะพูดอะไรไม่ออก

    คิโยชิมองหน้าทุกคนก่อนเอ่ย

    "เรื่องเกี่ยวกับกระเป๋าตังค์ใบนั้น ไม่ต้องสนใจแล้วล่ะ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยชั้นตามหานะ"

    สมาชิกชมรมทุกคนเริ่มรู้สึกอยู่เฉยไม่ได้ พวกเขามองหน้ากันไปมาด้วยความสับสน

    และเพื่อปลอบใจหรืออาจจะเพื่อให้กำลังใจพวกเขาคิโยชิจึงพูดต่อว่า

    "ชั้นทำกระเป๋าตังค์หายก็จริง แต่การที่เราได้มาช่วยกันหาในวันนี้ก็ทำให้ชั้นได้ค้นพบอะไรบางอย่าง"
    ชายหนุ่มเว้นวรรคครู่หนึ่งก่อนพูดต่อ

    "สายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างพวกเราจะทำให้พวกเราสามารถชนะ วินเทอร์คัพได้แน่!"

    "นี่มันใช่เวลามาพูดอะไรแบบนี้ไหม เจ้าบ้า!!"

    ผัวะ!

    ในช่วงเวลาเสี้ยววินาทีเดียว ฮิวงะก็ซัดเข้าที่หัวของคิโยชิ ก่อนยืนทำท่าทางเอาเรื่องอยู่ตรงหน้าคิโยชิที่กำลังย่อตัวลงพลางกุมหัวของเขาเอง

    "ฟังนะ! ไม่มีใครสนใจเลยสักนิดว่ากระเป๋าตังค์นายจะหายหรือไม่หาย! ประเด็นคือของที่อยู่ข้างในกระเป๋านั้นต่างหาก! ซึ่งนั่นก็คือ งบชมรมเทอมนี้ของเรา!

    "จริงด้วย!" คิโยชิเงยหน้าราวกับนึกขึ้นได้กระทันหัน

    "นี่แกพึ่งจะจำได้อย่างงั้นเรอะ!"

    นี่ก็เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ฮิวงะแหกปากใส่คิโยชิ

    "น่า น่า" อิสึกิปลอบเขาก่อนพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

    "แต่ว่านะ ในเมื่อสถานการณ์กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว เราจำเป็นจะต้องคิดถึงว่าจะทำยังไงในกรณีที่นี่หากระเป๋าตังค์ใบนั้นไม่เจอจริงๆ พวกเรามีใครพอจะมีวิธีหาเงินดีๆบ้างไหม"

    "จำเป็นต้องคิดจริงๆสินะ..." 

    ฮิวงะถอนหายใจก่อนพูดเสียงอ่อย

    "โฮ่ง!"

    ทันใดนั้นเองเสียงลูกหมาเห่าก็ดังขึ้นในโรงยิม

    ที่นอกประตูนั้นมีมาสค็อตของชมรมบาสเก็ตบอล เท็ตสึยะ เบอร์สอง

    "เบอร์สอง...อ๊ะ"

    คุโรโกะเหมือนจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เขาวิ่งเข้าหาเบอร์สองก่อนก้มตัวลงข้างๆมันจากนั้นจึงหันกลับมา

    "ไม่ใช่ว่านี่คือกระเป๋าตังค์ของรุ่นพี่คิโยชินะครับ"

    "อ๋า!!"

    คุโรโกะถือกระเป๋าตังค์สีฟ้าไว้ในมือ ที่ซิบมีจี้พระห้อยอยู่

    "ใช่ อันนี้ล่ะ กระเป๋าตังค์ของชั้น"

    "เยี่ยมไปเลย!!เบอร์สองเป็นคนเก็บได้เหรอ!?"  โคกาเนะอุ้มเบอร์สองขึ้นมาแล้วหมุนตัววนไปรอบๆอย่างมีความสุข

    "โฮ่ง โฮ่ง"

    "ดีจังเลย ดีจังเลยน้า ขอบคุณน้า~~~"เจ้าตัวหมุนเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ

    แต่ทว่า

    "ไม่มี! ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลย!?"

    "ว่าไงนะ!?"

    พอได้ยินคำพูดชวนช็อคจากฮิวงะ โคกาเนะก็เสียหลักร่วงลงกับพื้นและเพื่อไม่ให้ทับเจ้าเบอร์สอง เจ้าตัวก็อุตส่าห์ยกแขนของตัวเองเอาไว้สูงๆ

    ฮิวงะซึ่งเป็นคนเช็คกระเป๋าตังค์ทุกซอกทุกมุมกลืนน้ำลายเอื๊อก

    "ถ้าไม่อยู่ในกระเป๋าตังค์ก็หมายความว่า..."

    "บอกแล้วใช่ไหม พวกนาย! นี่มันเลยเวลาไปแล้วนะ ทำไมถึงยังไม่เริ่มการฝึกของวันนี้อีก!?"

    "อย่าได้คิดเชียวนะ ว่ายังอีกนานกว่าจะถึง วินเทอร์คัพน่ะ!"

    และในตอนนั้นเอง คนที่เข้ามาก็คือ ไอดะ ริโกะ

    ริโกะผู้ซึ่งยังไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นวางมือทั้งสองข้างไว้ที่บั้นท้ายจับจ้องมาที่พวกเขา

    "ร..ริโกะ"

    ฮิวงะกำลังเตรียมตัวเตรียมใจจะอธิบายให้เธอฟัง...

    "อ๊ะ จริงสิ เทปเปย์ ตอนนี้จะฝากไอ้นี่ไว้กับนายได้รึยัง? ที่ชั้นพูดไว้เมื่อวันก่อน งบเทอมนี้ของชมรมน่ะ"

    "อ้ะ...?"

    "จะอ้ะทำไม เมื่อวานนี้ชั้นไม่ได้บอกหรอว่า พรุ่งนี้ชั้นจะให้งบชมรมกับนายไปเก็บไว้"

    "อ้ะ อย่างงั้นหรอกเหรอ?"

    คิโยชิหันหน้ามาหาพวกพ้องของเขาที่วันนี้ไว้เนื้อเชื่อใจกันเป็นพิเศษ ก่อนส่งยิ้มระรื่นให้อย่างนิ่งๆ

    "ขอโทษที ชั้นจำผิดไปน่ะ"

    ในจังหวะนั้น ทุกคนจากชมรมบาสเก็ตบอลนอกเหนือจากคิโยชิต่างก็กำลังคิดแบบเดียวกันหมด

    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า คิโยชิถูกกระหน่ำโจมตีด้วยเสียงว้ากโวยวายและฝูงกำปั้นจากทุกคน
    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    FREETALK: สวัสดีขอร้าบบ Omaew กลับมาแล้วว พึ่งแปลอีกตอนขอเซย์รินเสร็จซึ่งตอนนั้นยาวกว่าฮ่าๆ ต่อไปขึ้นเล่มสองแล้ว แต่มีคราวร้ายคือ โอเปิดเทอมแล้ว555เลยลังเลว่าควรจะโพสต์ตอนที่แปลแล้วstockไว้ให้อ่านกันก่อนดีไหม เผื่อคนแปลอาจงานยุ่งจนดองฮาาา หลังๆอาจจะต้องให้คุณ Tor iมาลงให้แทน ตอนที่แปลตอนนี้รู้สึกฉากกัดกันของคิโยชิกับฮิวงะมาก เลยพยายามแปลให้เข้าใจอย่างเต็มที่ ไม่เก็ทอะไรตรงไหนแปลไม่เข้าใจ เม้นบอกไว้ได้นะ อ่อ เม้นให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีนะขอร้าบบบ
    ส่วนข้างล่างนี่คือมุกตัวจริงของญี่ปุ่นขอรับCredit mocopersonal@tumblrเจ้าเดิมจ้าา
     

    Ike ni ike! “ 池に行け!
    Houki wo houki shiro! ホウキを放弃しろ!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×