ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Replace - kuroko no basuke novel แปลไทย

    ลำดับตอนที่ #8 : Replace I เกมที่สอง:หนังสือสีขาวแห่งวัยรุ่นฯ ปิดเทอมฤดูร้อนยังไม่จบหรอกนะ~

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ค. 57


    คนแปล: Omaew
    คนเช็คคำ: Tori
    แปลEng: mocopersonal [tumblr]

    Warning1: เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสมาชิกไคโจวทั้งหมด(เขียนก่อนศึกไคโจวเซย์รินรอบสอง) สำหรับใครที่จำสมาชิกทีมนี้ไม่ได้แนะนำให้ไปดูหน้าและจำชื่อมาใหม่ก่อน(ฮาาาา)
    Warning2: ฮายาคาวะเป็นพวกพูดเร็วรัว และพูด ร ล ไม่ชัด เช่น โอเระที่แปลว่าชั้น ก็พูดว่า โอเอะ รึไม่ก็โอเฮะ ซึ่งอ่านในมังงะแปลไทยไม่ได้แปลตรงนี้ไว้ โอเลยแปลให้เข้ากับบรรยากาศเรื่องจ้าาา
    Warningสุดท้าย :ตอนนี้ยาวจ้าาาาาาา

    _______________________________________
    เกมที่สอง:
     หนังสือสีขาวแห่งวัยรุ่นของโรงเรียนม.ปลายไคโจว~ ปิดเทอมฤดูร้อนยังไม่จบหรอกนะ~

    เสียงดังกึกก้องดังขึ้น เมื่อลูกบาสที่ถูกไล่ตามมาตลอดระยะเวลา40นาทีถูกส่งลงห่วงพร้อมกับทำให้ตาข่ายสั่นไหว
                    เป็นเวลาเดียวกันกับที่นกหวีดถูกเป่าบอกสัญญาณหมดเวลาการแข่งขัน
                    98 ต่อ 110
                    การแข่งขันในช่วงฤดูร้อนที่ร้อนระอุจบลงแล้ว
                    แต่ว่าฤดูร้อนของพวกเขายังไม่จบหรอกนะ
                    "พวกนายรู้ไหมว่าองค์ประกอบหลักสามอย่างของปิดเทอมหน้าร้อนคืออะไร?"
                    คำถามที่ถูกถามขึ้นกระทันหันทำให้คิเสะหยุดชะงักขณะที่กำลังยื่นมือไปหยิบชุดเครื่องแบบของตัวเองจากตู้ล็อกเกอร์เก็บเสื้อผ้า
                    "สามองค์ประกอบหลัก? หมายความว่ายังไงเหรอครับ? นี่เป็นปัญหาเชาว์รึเปล่าเนี่ย"
                    คิเสะถามบุคคลที่เป็นคนตั้งคำถามก่อน โมริยามะ โยชิทากะ
                    ที่นี่คือห้องเปลี่ยนชุดของชมรมบาสเก็ตบอลโรงเรียนม.ปลายไคโจวนั่นเอง
                    เป็นเวลากว่าหนึ่งอาทิตย์แล้วหลังจากการแข่งระหว่างไคโจวกับโทโอในรอบ8ทีมสุดท้าย ในการแข่งขันอินเตอร์ไฮ หลังจากแมทช์นั้นสมาชิกชมรมบาสเก็ตบอลของไคโจวก็ปรับอารมณ์ตัวเองแล้วเริ่มการฝึกประจำวันใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เวลาก็เป็นสิ่งที่ทุกคนมีเท่ากัน เพื่อให้ชนะในแมทช์ต่อไป พวกเขาทำได้แค่ฝึกให้หนักมากขึ้นเท่านั้น
                    หลังจากผ่านช่วงฝึกหนักของวันและล้างตัวแล้ว คิเสะก็กำลังจะเปลี่ยนชุดแต่กลับโดนถามด้วยคำถามที่เกริ่นไว้ข้างต้น
                    คิเสะกำลังรอคอยคำตอบของโมริยามะ โดยไม่ทันคาดคิดว่าพวกที่เหลือจะเริ่มวาดท่วงท่าฉีดน้ำยาดับกลิ่นใส่ตัวเขารวมทั้งเมินที่จะพูดตอบอะไรไปด้วย
                    "นี่ๆ รุ่นพี่โมริยามะครับ? อย่าทิ้งปัญหาเชาว์ไว้กลางคันสิ"
                    "มันไม่ใช่ปัญหาเชาว์ มันคือหลักการของโลกใบนี้ต่างหาก"
                    หลังจากฉีดน้ำยาดับกลิ่นเสร็จ โมริยามะก็ตอบพลางเสยผมที่พึ่งเป่าแห้งมาหมาดๆ คิเสะมีท่าทีงุนงง
                    "หลักการ? สามองค์ประกอบหลักของปิดเทอมหน้าร้อน?"
                    "ใช่แล้ว สามองค์ประกอบหลักที่มีอยู่เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับปิดเทอมหน้าร้อน สิ่งนั้นคือ 'ดอกไม้ไฟ' 'ชุดยูกาตะ' แล้วก็ 'เกมทดสอบความกล้า' "
                    "...."
                    สุดท้ายสิ่งที่โมริยามะอยากจะพูดก็คือนี่เองสินะ คิเสะไม่รู้จะพูดอะไรดี แต่โมริยามะกลับเมินคิเสะแล้วพูดต่อ
                    "ทว่า ทั้งสามองค์ประกอบหลักนี่มีสิ่งที่สำคัญมากจนขาดไปไม่ได้อยู่ นายรู้ไหมว่ามันคืออะไร?"
                    "ไม่มีครับ ผมไม่รู้" ใจจริงแล้วคิเสะอยากจะพูดต่อว่า "...ว่าคุณพูดเรื่องอะไรของคุณอยู่แม้แต่นิดเดียว"
                    แต่ชมรมบาสเก็ตบอลให้ความสำคัญกับระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง เขาจึงไม่สามารถบอกปัดคำพูดของรุ่นพี่ตัวเองได้ซะทีเดียว
                    "สิ่งที่จำเป็นต้องมีสำหรับองค์ประกอบกอบทั้งสามของหน้าร้อนชนิดที่ว่าไม่สามารถละทิ้งไปได้เลยก็คือ หญิงสาวผู้น่ารัก ยังไงล่ะ!"
                    ดูเหมือนโมริยามะจะมั่นอกมั่นใจกับข้อเท็จจริงข้อนี้มาก แม้ว่าจะไม่ได้พูดด้วยเสียงดังแต่ดูเหมือนสะท้อนกึกก้อง
                    "ถ้าเราไม่รุกคืบในปิดเทอมหน้าร้อนนี้ หน้าร้อนของพวกเราก็จะไม่จบ จริงไหม คิเสะ?"
                    "คงอย่างงั้นมั้งครับ"
                    เขารู้สึกได้ว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะไปในทางที่ดีแน่ คิเสะรีบใส่เสื้อผ้าของตัวเอง แต่ในจังหวะที่เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกำลังจะติดกระดุมอยู่นั่นเอง แขนของเขาก็ถูกยึดไว้
                    คิเสะตกใจ หันกลับไปมองว่าใครเป็นคนจับแขนของตนไว้  -ปีสอง ฮายาคาวะ มิทสึชิโระ
                    ฮายาคาวะแสดงสีหน้าจริงจังแล้วยัดบางอย่างใส่มือของคิเสะ
                    "ม...มันคืออะไรครับ?" คิเสะจ้องมองสิ่งที่อยู่บนมือของตัวเอง
                    สิ่งที่ฮายาคาวะส่งให้เขาคือ สเปรย์กระป๋อง บนกระป๋องมีฉลากเขียนว่า สำหรับดับกลิ่น(กลิ่นส้ม)
                    "อ้างอิงจากการสืบค้นทางอินเทอร์เน็ตของชั้น ผู้หญิงจะไม่เกลียดผู้ชายที่มีกลิ่นส้ม"
                    โมริยามะพูดด้วยความมั่นใจขณะมองคิเสะที่กำลังงุนงงอยู่ กลิ่นจางๆของสบู่และกลิ่นส้มโชยมาจากตัวของโมริยามะ ดูเหมือนน้ำยาดับกลิ่นที่เขาใช้อยู่เมื่อครู่นี้คืออันที่อยู่ในมือของคิเสะ ไม่สิ ไม่ใช่แค่โมริยามะ ตัวฮายาคาวะเองก็มีกลิ่นส้มด้วย
                    (เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!?)
                    เมื่อถูกล้อมด้วยผู้ชาย2คนที่จู่ๆก็เกิดเสพติดกลิ่นส้มขึ้นมากระทันหันแบบนี้ คิเสะทำได้แค่อยู่นิ่งๆไม่พูดอะไรเท่านั้น
                    ฮายาคาวะจับมือคิเสะข้างที่ไม่ได้ถือสเปรย์แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ยกให้สูงที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
                    "เอิ่ม.. รุ่นพี่ฮายาคาวะ!?"
                     ไงก็แอ๊วแต่ สเปย์หน่อยเถอะ
     (ไงก็แล้วแต่ สเปรย์หน่อยเถอะ)
                    "หา!? พูดว่าอะไรนะครับ! เรื่องนั้นไว้ก่อน รุ่นพี่ช่วยอย่าออกเสียงเป็นบางคำได้ไหมตรับ แบบนี้เหมือนพูดเป็นรหัสลับเลย!"
                     “หัดมีเอ้เหี่ยมหน่อย! นี่ยังไม่เข้าใจอะไฮอีกเหอ!” (หัดมีเล่ห์เหลี่ยมหน่อย! นี่ยังไม่เข้าใจอะไรอีกเหรอ!)
                    "ไม่เข้าใจสักนิดเลยครับ!"
                    เห็นคิเสะที่ต่อสู้เพื่อขัดขืนอย่างสุดหนทาง โมริยามะจึงทำใจแข็งเพื่อตัวของคิเสะเอง เขาส่ายหัว หยิบกระป๋องสเปรย์เมื่อครู่นี้แล้วฉีดเข้าที่หลังของคิเสะ
                    "อ๋าาาาา! นี่ท..ทำอะไรน่ะครับ!? เง้อ ทำไมมันกลายเป็นอย่างนี้ไปได้เนี่ย!?"
                    "ถ้าจะให้พูดก็คือ พวกเราจะไปจีบสาวกันน่ะสิ"
                    คิเสะดวงตาเบิ่งกว้างชะงักไปในทันที
                    -
                    หลังจากพระอาทิตย์ตกดิน หนุ่มร่างสูงจำนวนหนึ่งก็มารวมตัวกันที่หน้าทางเข้าโรงเรียน
                    ไม่จำเป็นต้องบอกก็เดาได้อยู่แล้วว่าพวกเขาคือ ผู้เล่นตัวจริงของชมรมบาสเก็ตบอล โรงเรียนม.ปลายไคโจว
                    เมื่อเห็นว่าทุกคนมาครบหมดแล้ว  โมริยามะจึงพยักหัวอย่างพึงพอใจและยิ้มแย้มพลางเอ่ย
                    "ดีล่ะ ถ้างั้นก็ไปจีบสาวกันเดี๋ยวนี้เลย!"
                    "เฮ้ย เดี๋ยวก่อนสิ!"
                    "มีอะไรเหรอ คาซามัตสึ"
                    โมริยามะที่กำลังก้าวเท้าไปข้างหน้า วางเท้าลงแล้วหันกลับมามองคาซามัตสึ ยูคิโอะ
                    "ทำไมชั้นถึบต้องร่วมขบวนกับพวกนายไปทำเรื่องแบบนั้นด้วยฟะ!" ชายหนุ่มจับจ้องโมริยามะด้วยความไม่พอใจ
                    มีกลิ่นส้มจางๆโชยมาจากตัวเขาเช่นกัน
                    เช่นเดียวกับคิเสะ เขาถูกดักจู่โจมด้วยน้ำยาดับกลิ่นรสส้ม แต่ต่างกับคิเสะตรงที่เจ้าตัวถูกเรียกมาที่หน้าทางเข้าโรงเรียนโดยไม่รู้เหตุผลจนกระทั่งเมื่อครู่นี้
                    คาซามัตสึจ้องโมริยามะ สีหน้าบ่งบอกอย่างเรียบง่ายว่า "กำลังอารมณ์ไม่ดี"
                    โมริยามะตอบกลับไปด้วยสีหน้าเป็นธรรมชาติ
                    "เพราะอินเทอร์เน็ตบอกไว้ว่า เวลาจีบสาวอัตราประสบความสำเร็จจะสูงขึ้นเมื่อมีพวกเยอะ"
                    "ให้ตายสิ พวกนาย!"คาซามัตสึตั้งท่าจะทักท้วงต่อ แต่ก็ถูกขัดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นของฮายาคาวะ
                     “เย้! ฮุ่นพี่โมอิ๊ยามะ ผมจะพยายามเต็มที่เอยคับ!”
     (เย้! รุ่นพี่โมริยามะ ผมจะพยายามเต็มที่เลยครับ!)
                    "อืม.. นายควรจะแสดงอาการขัดขืนซะหน่อยนะ"
                    "เฮ้ย ฟังชั้นนะ!" ด้วยความหงุดหงิด คาซามัตสึเตรียมซัดหมัดเหล็กตามปกติสักสองสามหมัดใส่พวกนั้นเพื่อสั่งสอน แต่มือของเขาก็ถูกยึดไว้อย่างนิ่มๆเสียก่อน
                    "น่า น่า เย็นหน่อยน่า เที่ยวเล่นนานๆทีก็เป็นความคิดที่ไม่เลวนะ"
                    "โคโบริ.."
                    สมาชิกตัวจริงที่เป็นผู้เป็นคนมากที่สุด โคโบริ ปล่อยมือของคาซามัตสึแล้วยิ้มน้อยๆ
                    "แล้วก็ ถ้าฮายาคาวะเกิดทำอะไรเลยเถิดขึ้นมา นายมาด้วยจะช่วยคุมได้ง่ายกว่า"
                    "มันก็..."
                    สมกับเป็นสมาชิกตัวจริงที่มีเหตุผลมากที่สุดของทีม และเพราะว่าสิ่งที่โคโบริพูดมีน้ำหนักมาจริงๆ คาซามัตสึจึงทำได้แต่ยอมเข้ากลุ่ม จีบสาวอย่างไม่เต็มใจนัก
                    คิเสะอาศัยจังหวะนี้เปรยขึ้นเช่นกัน "เอ่อ... ผมกลับบ้านได้รึยังครับ" เลยโดนคาซามัตสึส่งสายตาส่งแววตาทิ่มแทงราวกับจะบอกว่า "คิดจะหนีไปคนเดียวเรอะ  ไม่มีวันซะหรอก!!" ลงท้ายจึงทำได้เพียงแต่ตัดใจยอมแพ้ "ไม่มีอะไรครับ ถือซะว่าผมไม่ได้พูดละกัน"
                    เช่นนั้นแล้ว ทั้งกลุ่มจึงเริ่มออกเดินไปยังสถานีรถไฟ
                    อ้างอิงจากการสืบค้นทางอินเทอร์เน็ตของโมริยามะบริเวณหน้าสถานีเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการจีบหญิง"
                    แม้ว่าจะเป็นเวลาเย็นแล้ว ไอความร้อนที่แผดเผาของฤดูร้อนก็ยังคงอยู่
                    ระหว่างที่กำลังโบกพัดแถวคอเสื้อของตัวเองเพื่อให้เย็นลงอยู่นั้น คิเสะก็พูดกับโคโบริซึ่งเดินอยู่ข้างๆ
                    "ไม่คิดเลยนะครับ ว่ารุ่นพี่โคโบริจะสนใจอะไรแบบนี้เหมือนกัน"
                    "เรียกว่าสนใจก็ไม่ถูกนะ"
                    โคโบริมองไปยังคาซามัตสึและคนอื่นๆซึ่งเดินอยู่ข้างหน้าพวกเขา
                    คาซามัตสึยังคงยืนกรานซ้ำไปซ้ำมากับโมริยามะและฮายาคาวะว่า "ชั้นไม่ได้อยากมาด้วย! ชั้นมานี่เพราะต้องคอยตามพวกนายต่างหาก!"
                    โคโบริยิ้มแล้วพูดแบบให้คิเสะได้ยินคนเดียวว่า
                    "ถึงข้ออ้างจะเป็นการสร้างสีสันให้หน้าร้อน แล้วไปจีบหญิงด้วยกันก็เถอะ แต่ชั้นคิดว่า นี่อาจจะเป็นเพราะโมริยามะเป็นห่วงคาซามัตสึแล้วฉุกคิดไอเดียนี้ขึ้นก็ได้"
                    "อ๋า? เป็นห่วง?"
                    โคโบริพยักหน้า คาซามัตสึกับที่เหลือไม่ได้สังเกตเห็นทั้งสองคนข้างหลังคุยกันเลยแม้แต่น้อย
                    "แมทช์กับโทโอนั่นผ่านไปแค่อาทิตย์เดียวเอง แต่คาซามัตสึกลับฟื้นตัวได้แล้ว แถมยังกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งวินเทอร์คัพอีก"
                    "เป็นพลังใจที่เข้มแข็งมากครับ ผมนับถือเขาจริงๆ"
                    "โมริยามะกังวลว่าหมอนั่นกำลังฝืนตัวเองอยู่รึเปล่า"
                    "หา?"
                    "คาซามัตสึน่ะ รู้ตัวอย่างดีเลยล่ะว่าทำไมถูกเลือกเป็นกัปตัน แล้วหมอนั่นเองก็เข้าใจว่าตัวเองที่เป็นกัปตันมีผลต่อคนรอบข้างยังไง ซึ่งนั่นคือเหตุผลว่าทำไมหมอนั่นถึงได้ทิ้งความรู้สึกส่วนตัว พยายามอย่างหนักเพราะอยากจะทำหน้าที่ของตัวเอง ถึงอย่างนั้น ถ้าฝืนตัวเองมากเกินไปล่ะก็หมอนั่นจะต้องทนไม่ไหวเข้าสักวันแน่ 
    เพื่อไม่ให้รู้สึกกดดันเกินไป การพักผ่อนเป็นครั้งคราวจึงเป็นสิ่งจำเป็นน่ะ"
                    "อย่างนี้นี่เอง.." คิเสะหันไปมอง 3 คนที่เดินอยู่ข้างหน้า
                    คาซามัตสึยังคงยืนกรานซ้ำไปซ้ำมากับโมริยามะและฮายาคาวะ
                    เดิมทีคิเสะไม่ได้สนใจกลุ่มจีบหญิงเม่าไรเท่าไรนัก แต่เมื่อได้ยินว่าทำไปเพื่อให้คาซามัตสึได้ผ่อนคลายบ้าง เขาจึงไม่ขัดขวางความคิดนี้อีกต่อไป
                    (ให้ 1 วันผ่านไปแบบนี้ในช่วงปิดเทอมหน้าร้อน ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ)
                    คิเสะเริ่มที่จะตั้งหน้าตั้งตารอกับมันอย่างลับๆ
                    -
                    ในที่สุดทั้งกลุ่มมาถึงพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่โมริยามะพูดถึง: บริเวณหน้าสถานี
                    และสมกับเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่มีผู้คนเดินเข้าออกมากมาย หลายคนเป็นหญิงสาวในวัยเดียวกันกับคิเสะและคนอื่น
                    "แล้ว เราจะทำยังไงกัน?"
                    คาซามัตสึถามโมริยามะด้วยความรู้สึกคล้ายตื่นตระหนก
                    โมริยามะหรี่ตาเรียวก่อนเอ่ย
                    "เดี๋ยวคอยดู" ทุกคนร้อง 'ว้าว' ด้วยความชื่นชม  
                    ฮายาคาวะมองโมริยามะด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
                     “ฮุ่นพี่โมอิ๊ยามะ มีปะสบกาเอื้องจีบหญิงขนาดไหนคับ!?”
     (รุ่นพี่โมริยามะ มีประสบการณ์เรื่องจีบหญิงขนาดไหนครับ!?)
                    "แค่ครั้งเดียว" โมริยามะเล่นผมหน้าม้าของตัวเอง ยิ้มมุมปาก
                    "ครั้งเดียวเรอะ?"
                    คิเสะ คาซามัตสึ โคโบริ แข็งทื่อไป
                    "ครั้งนั้น- สำเร็จไหมครับ?"
                    "การพบเจออันไม่คาดคิดจบลงอย่างน่าเสียดาย"
                    โมริยามะได้ยินคำถามของคิเสะแล้วมองทอดสายตาไปไกล พลางนึกย้อนวันวาน
                    "ชั้นจะไม่มีวันลืมช่วงเวลานั้นไปทั้งชีวิต เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากแมทช์นั้น ชั้นเดินไปพูดกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่ฝั่งตะวันตก แถวสาม คนแรก"
                    "สัปดาห์ที่แล้ว!? นั่นมันระหว่างการแข่งของเรากับโทโอไม่ใช่เรอะ!? นายไปทำอะไรหลังจบการแข่งฟะเนี่ย!" คาซามัตสึเริ่มด่าด้วยความตื่นตระหนก โมริยามะไม่สะทกสะท้าน เล่าต่อ
                    "การพบเจอของเราเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่เดียว แม้ว่าชั้นจะพูดกับเธอ แต่เราก็ไม่ได้คุยกัน เธอตีตัวไปจากชั้นทั้งอย่างนั้น
                    "ตกลงว่า ทั้งหมดที่คุณทำก็คือพูดอะไรบางอย่างกับเธอ แล้วเธอพูดก็ไม่ได้ตอบคุณเลยสักคำสินะครับ" คิเสะวิเคราะห์อย่างใจเย็น โมริยามะ เอ่ยเล่าเรื่องต่อ โดยที่ยังคงไม่สะทกสะท้านใดๆ
                    "ตอนนั้นเองชั้นก็คิดได้ว่า ชั้นจะแค่นั่งอยู่เฉยๆแล้วรอให้การพบเจอครั้งต่อไปมาถึงไม่ได้ ชั้นต้องเรียนรู้ที่จะจีบหญิงด้วยตนเอง.... ใช่แล้ว การจีบหญิงเป็นหนทางสว่างไสวที่มีไว้ให้เลือกเดินไป ตั้งแต่ตอนนั้นมา ตอนกลางคืนชั้นก็เริ่มสืบค้นวิธีจีบหญิง แล้วก็ฝึกฝนมันจนทะลุปรุโปร่ง วันนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้ฝึกฝนความจริง!"
                    "งั้นแกก็ไปของแกเองสิเฟ้ย!" คิเสะเลือกที่จะอยู่เงียบๆข้างๆคาซามัตสึที่กำลังเกรี้ยวกราด
                    (รุ่นพี่โคโบริ ค..คุณนี่เป็นคนดีจริงๆเลยนะครับ! รุ่นพี่โมริยามะเรียกทุกคนออกมาเพราะว่าตัวเองอยากจีบหญิงชัดๆ!! )
                    รุ่นพี่โคโบริเป็นเหยื่อล่อของรุ่นพี่โมริยามะ
                    หลังจากถูกคาซามัตสึด่า โมริยามะก็แสดงสีหน้าผิดหวังพร้อมเอ่ย
                    "ถ้านายลองได้จีบผู้หญิงดูสักครั้ง นายจะมองเห็นความงามของมัน" ว่าแล้วเจ้าตัวก็สั่งการ
                    "ไงก็ช่าง โคโบริ นายไปก่อนเลย"
                    -
                    แล้วก็ไม่ทรยศความคาดหวังของคิเสะ โคโบริประสบกับความพ่ายแพ้แบบไม่มีชิ้นดี
                    ทุกคนคอยเชียร์โคโบริในระหว่างที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง นั่งเรียงกันเป็นแถวล้อมรอบสระน้ำพุเทียม ในตอนที่โคโบริหนีออกมาหน้าแดงด้วยท่าทีตื่นตระหนกแบบเขินอาย ทุกคนก็ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น
                     “ฮุ่นพี่โคโบฮิ ผมไฟติดอ๊ะคับ! จะจีบหญิงต้องทำงี้สินะคับ!” (รุ่นพี่โคโบริ ผมไฟติดละครับ !จะจีบหญิงต้องทำงี้สินะครับ!)
                    ฮายาคาวะดูเหมือนจะประทับใจมาก และพูดกับโคโบริอย่างตื่นเต้น
                    ได้ยินคำให้กำลังใจที่คลุมเคลือแบบนั้นจาก ฮายาคาวะ โคโบริผู้ซึ่งแต่เดิมคิดแค่ว่าการจีบหญิงเป็นอะไรที่ยุ่งยาก ก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เจ้าตัวเดินเข้าหาขอบกั้นสระของน้ำพุแล้วนั่งลง
                    "ใครก็ได้ช่วยขุดหลุมให้ชั้นฝังตัวเองที" เขากุมหัวก้มหน้าลง น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อยจากความอับอาย
                    "ค..โคโบริ นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"เมื่อได้ยินคาซามัตสึถาม โคโบริส่ายหัวให้
                    "รุ่นพี่โคโบริ... จริงสิ เมื่อกี้รู้สึกว่ามีโอกาสจีบสำเร็จไหมครับ?"
                    โคโบริแข็งกึกไปชั่วขณะหนึ่งเมื่อได้ยินคำพูดของคิเสะ
                    หลังจากเงียบกันไปพักหนึ่ง เจ้าตัวก็เอ่ยขึ้นเสียงเบา
                    "ไม่เลย เพราะชั้นคิดแต่ว่า เพื่อให้คาซามัตสึร่าเริงขึ้นหน่อย ชั้นก็เลย..."
                    "จะซื่อไปไหนคร้าบบ พูดก็พูดเถอะ คุณไม่ได้ยินที่รุ่นพี่โมริยามะพูดเมื่อกี้นี้เหรอ!? แล้วก็นะ เดี๋ยวนี้ต่อให้เป็นมีละครก็เถอะ ประโยคจีบหญิงอย่าง "คุณครับ อยากดื่มชาสักถ้วยไหม?"ก็ไม่มีให้เห็นแล้ว นี่มันประโยคจีบหญิงแบบไหนกันครับเนี่ย!?"
                    "ก็ชั้นรู้จักแต่ประโยคนี้นี่!!" โคโบริกุมหัวตัวเอง
                    "หลังจากชั้นพูดเสร็จนะ..ผู้หญิงคนนั้นก็หลุดหัวเนาะใหญ่เลยล่ะ ทำไมพวกผู้หญิงถึงโหดร้ายกันอย่างนี้"
                    "คนที่โหดร้ายน่ะคือรุ่นพี่โมริยามะต่างหากล่ะครับ"
                    "ไม่ ไม่ใช่ สิ่งที่โหดร้ายคือโลกใบนี้ที่ไม่สามารถเข้าใจความใสซื่อของพ่อหนุ่มนักกีฬาวัยรุ่นคนนี้ต่างหาก" โมริยามะตอบอย่างเยือเย็นพร้อมกับตบบ่าฮายาคาวะ
                    "ฮายาคาวะ ต่อไปตานาย"
                     เข้าใจแอ๊วคับ ผมไปเดี๋ยวนี้ห่ะ!” (เข้าใจแล้วครับ ผมไปเดี๋ยวนี้ล่ะ!)
                    เพราะอะไรไม่ทราบ ฮายาคาวะตะเบ๊ะก่อนเดินจากน้ำพุไป


                             

     “เป่าปะโยชน์คับ!”  (เปล่าประโยชน์ครับ! )
                    "เร็วชะมัด!!"
                    หลังจากนั้นหนึ่งนาที ฮายาคาวะก็กลับมาอย่างกระตือรือร้นทั้งที่พึ่งเผชิญความพ่ายแพ้แบบราบคาบมา
                     “ผมคุยกับเธอแอ๊ว พวกเธอก็พากันตกใจแอ๊วหนีหมดเฮยคับ!” (ผมคุยกับเธอแล้ว พวกเธอก็พากันตกใจแล้วหนีหมดเลยครับ!)
                    "ของตายล่ะ! ถ้าลองได้ยินใครพูดว่า"มาดูการแข่งคั้งหน้าของผมได้ไหมคับ กอุ๊ณามาเชียร์ผมด้วย!" เป็นใครก็หนีทั้งนั้นล่ะครับ!!"  คิเสะพูดโพล่งออกไป คาซามัตสึพูดต่อว่า
                    "แล้วก็นะ ทำไมนายถึงต้องไปหาผู้หญิงคนที่พึ่งปฏิเสธโคโบริไปด้วยล่ะ"
                     เพาะผมมีหน้าที่อีบาวน์คับ!” (เพราะผมมีหน้าที่รีบาวน์ครับ!)  (REBOUND คือการกระโดดเก็บลูกที่ชู้ตไม่เข้าไม่ว่าจะเป็นฝั่งตัวเองหรือฝั่งคู่แข่ง)
                    "มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ว้อย!" ได้ยินคาซามัตสึคำรามแบบนั้น โมริยามะก็ตบบ่าเขาพร้อมมองด้วยสีหน้าพึงพอใจ
                    "ทีนี่รู้ซึ้งถึงความสุขของการจีบหญิงรึยังล่ะ?"
                    "แกตาบอดรึไงฟะ!?"
                    โมริยามาะส่ายหัวให้กับคำปฏิเสธของคาซามัตสึก่อนเอ่ย
                    "ดูเหมือนว่านายจะยังไม่รู้สินะ ดีล่ะ ต่อไปเป็นตาของชั้น"
                    "แกควรจะออกไปตั้งแต่แรกแล้วเฟ้ย!"
                    "ก็นะ อย่าพูดแบบนั้นสิ คาซามัตสึ ดูให้ดีล่ะ ชั้นจีบสำเร็จแน่ แล้วนายก็จะเข้าใจความหมายที่แท้จริงขององค์ประกอบสามอย่างของปิดเทอมหน้าร้อน" ว่าแล้วโมริยามะก็ออกจากน้ำพุเทียมไปอย่างกระฉับกระเฉง
                     ฮุ่นพี่โมอิ๊ยามะ โชคดีคับ! ผมจะจับตาเฮียนฮู้อย่างตั้งใจเฮย!” (รุ่นพี่โมริยามะ โชคดีครับ! ผมจะจับตาเรียนรู้อย่างตั้งใจเลย!)  ฮายาคาวะพูดเชียร์เสียงดังไล่หลังโมริยามะขณะที่เขาเดินออกไป คิเสะซึ่งยืนอยู่ข้างๆเขาเอ่ยถามคาซามัตสึ
                    "ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ก่อนหน้าแล้วครับ ถึงรุ่นพี่โมริยามะจะไม่ถึงขั้นผมแต่เขาก็เรียกได้ว่าหน้าตาดีเลย ทำไมถึงยังไม่มีแฟนเหรอครับ?"
                    "นี่แกคิดจะพูดอวดเบ่งตัวเองง่ายๆอย่างงี้เลยเรอะ?"
                    กึด คาซามัตสึเหยียบเท้าคิเสะ
                    "อุ้บ!! ผิดไปแล้วครับ.." คิเสะขอโทษพลางสะกดกลั้นความความเจ็บ ก่อนที่คาซามัตสึจะเอ่ยขึ้น
                    "ส่วนที่ว่า ทำไมโมริยามะไม่มีแฟนน่ะ นั่นเป็นที่มาของอีกสมญานามนึงของหมอนั่น"
                    "อ๋า? อีกสมญานามนึง?"
                    "เห็นแล้วก็จะเข้าใจเองล่ะ"
                    คาซามัตสึทอดสายตามองไปยังโมริยามะที่กำลังอยู่ในช่วงจีบหญิงพอดี
                    -
                    ไม่กี่นาทีผ่านไป คิเสะเข้าใจสิ่งที่คาซามัตสึหมายถึงได้ในที่สุด
                    โมริยามะก้มหน้าอยู่ในห้วงความคิด เดินกลับมาที่น้ำพุโดยลำพัง
                    "แปลกจริง ก็เห็นอยู่ชัดๆว่าช่วงกลางๆบรรยากาศอยู่ยังดีเลย หรือว่ามันจะไม่มีหนทางไหนให้ผู้ชายกับผู้หญิงสื่อสารกันได้อีกแล้วกันนะ?"
                    "คนที่สื่อสารไม่ได้มันคุณต่างหาก รุ่นพี่โมริยามะ! เมื่อกี้คุณทำอะไรของคุณครับเนี่ย
    !
                    โมริยามะตอบกลับอย่างหน้านิ่ง หลังจากคิเสะพูดโพล่งออกมา
                    “นั่นเป็นวิธีการจีบหญิงที่มาจากนิสัยและหลักการโต้ตอบของชั้นเอง เริ่มจากชมอีกฝ่ายว่าเหมือนดอกไม้เพื่อให้หล่อนระวังตัวน้อยลง”
                    “เอ่อ...คำชมของนายนี่ทำคนช็อคจนขาดอากาศได้เลยนะ ชมคนที่พึ่งเจอกันได้ถึงขนาดนั้นเนี่ย... โมริยามะ นายนี่เป็นคนดีจริงๆเลย”
                    โคโบริพยักหน้าพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
                    ”รุ่นพี่โคโบริ
    คุณคิดว่ารุ่นพี่โมริยามะเป็นคนดีถึงขนาดไหนกันครับเนี่ย!? คุณถูกหลอกมาโดยตลอดแล้วครับ! ถูกหลอกแน่ๆ! ไม่คิดหน่อยหรอครับว่าคำพูดประโยคท้ายๆของรุ่นพี่โมริยามะมันหลุดโลกขนาดไหน!
                    ได้ยินคิเสะโวยวายแบบนั้น โมริยามะก็ยักไหล่มีท่าทีราวกับไม่เข้าใจ
                    “หลุดโลกตรงไหนกัน
    ? ชั้นแค่พูดว่า”การพบเจอของต้องเป็นสิ่งที่โชตชะตาลิขิตเอาไว้แน่”เท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ?
                    “คุณไม่ได้หยุดแค่นั้นน่ะสิ
    ! “นี่มันเป็นโชตชะตาที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ชั้นรู้สึกได้ว่าถ้าชั้นปล่อยมือของเธอไปตอนนี้ ชั้นจะไม่ได้พบกับเธออีกเลย นี่เป็นการพบพานแห่งโชตชะตา ชั้นจะไม่มีวันปล่อยเธอไป!” คุณพูดนี่ด้วยไม่ใช่รึไงคร้าบบ!?
                    “แล้วมันผิดตรงไหนกัน
    ?
                    “ยังจะมาถามอีกเหรอว่าผิดตรงไหน
    ! ได้เช็คความต้องการของตลาดบ้างรึเปล่าครับ! ทั้งหมดที่คุณทำเนี่ยมีแต่ทำให้ผู้หญิงคนนั้นกลัว!
                    “จริงเหรอ
    ? แปลกจัง ชั้นเห็นจากในเน็ตว่าพวกผู้หญิงแพ้ทางพวก ”การพบพานที่ถูกโชคชะตาลิขิตเอาไว้แล้ว” นะ”
                    “คุณเชื่อถืออินเทอร์เน็ตขนาดไหนกันครับเนี่ย
    !?” คิเสะแหกปากก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อยอ่อน
                    คาซามัตสึตบบ่าปลอบใจคิเสะพร้อมเอ่ย
                    “อย่างน้อยนายก็เข้าใจแล้วนิ โมริยามะเป็นพวกประเภทที่จะเดินไปยังทางสายมืดจนถึงที่สุดน่ะ ถ้าลงหมอนั่นเชื่ออะไรแล้วครั้งหนึ่ง ก็จะยึดถือมันไปจนจบนั่นแหละ เป็นที่มาของสมฐานาม”หนุ่มหล่อน่าสมเพช”ยังไงล่ะ”
                    “น่าสมเพชจริงซะด้วยสิครับ
                    คิเสะห่อไหล่อย่างช่วยไม่ได้
                    หลังจากผ่าน”หนุ่มหล่อน่าสมเพช”ไป กลุ่มจีบหญิงก็ผ่านสมรภูมิรบ 3ครั้งและพ่ายแพ้ทั้ง 3ครั้ง เปอร์เซ็นการชนะของพวกเขาอยู่ที่ 0 เปอร์เซ็น
                    “อย่างน้อยพวกเราควรจะชนะสักรอบสิ” โมริยามะมองมาที่คิเสะกับคาซามัตสึซึ่งกำลังนั่งอยู่บนขอบกั้นของน้ำพุเทียม

                    โมริยามะมองมาที่คิเสะกับคาซามัตสึซึ่งกำลังนั่งอยู่บนที่นั่งขอบกั้นน้ำพุเทียม
                    "ชั้นไม่ไปนะ! ชั้นตามมาที่นี่เพราะต้องมาคุมพวกนาย ไม่ได้มาเพื่อจีบหญิงสักหน่อย!!"
                    คาซามัตสึรีบส่ายหัวพลางโบกมือไปมาเป็นเชิงคัดค้าน
                    คิเสะที่นั่งอยู่ข้างๆจึงยกมือขึ้นแล้วเอ่ย
                    "ผมว่า....ถึงเราไม่มาจีบหญิงกันแบบนี้ ผมก็จัดนัดบอดให้ได้นะครับ แบบนั้นดีไหม? ตอนแข่งกับโทโอรุ่นพี่โมริยามะเองก็ยังบอกเลยว่า..."
                    "ทำอย่างนั้นไม่ได้" โมริยาะบอกปัดในทันที
                    "ตอนนั้นสิ่งที่ตกลงกันไว้คือ ถ้าพวกเราชนะ นายจะต้องแนะนำสาวๆให้ชั้น นายต้องหัดแยกแยะกรณีให้มันถูกซะมั่งว่าเราแพ้หรือชนะ
                    "แยกแยะให้ถูก...."
                    ได้ยินดังนั้นคิเสะก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกต่อไป
                    "เพราะงั้นฝากด้วยล่ะ นายต้องนำชัยชนะมาสู่ทีมให้ได้ ชั้นจะคอยดู"
                    -
                    คิเสะเดินออกมาจากน้ำพุ แบกน้ำหนักความคาดหวังของคนทั้งทีมเอาไว้
                    มีผู้หญิงมากมายเดินอยู่ข้างหน้าเขา ทุกคนต่างแอบลอบมองคิเสะแล้วเดินผ่านหน้าไป
                    นอกจากการเล่นบาสเก็ตบอลแล้ว คิเสะก็เป็นนายแบบด้วย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมก่อนหน้านี้จึงเป็นพวกผู้หญิงที่เป็นฝ่ายเข้าหาชายหนุ่มก่อนมาโดยตลอด หนนี้จึงถือเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่จะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
                    (ครั้งที่แล้วพวกเธอเข้าหาชั้นยังไงนะ?)
                    ความทรงจำของเขาไม่ชัดเจน นั่นเป็นเพราะตอนที่ถูกเข้าหา เขาก็จะสามารถหาเหตุผลง่ายๆในการบอกปฏิเสธได้อยู่เสมอ
                    (...ไม่สิ สิ่งสำคัญตอนนี้ไม่ใช่จะจีบยังไง แต่เป็นจะจีบคนไหนดีต่างหาก)
                    จากคำพูดของโมริยามะคือ ให้หาและเลือกเป้าหมายก่อนจู่โจม คำชมที่พื้นๆเกินไปจะใช้ไม่ได้
                    ปัญหาก็คือจะเลือกใครนี่สิ
                    คิเสะมองผู้คนไปรอบๆตัว ก่อนที่จะพบว่า มีบางอย่างแปลกไป
                    (ตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว รู้สึกเหมือนกับว่า...กลุ่มคนที่เดินอยู่ข้างหน้าชั้นจะเป็นกลุ่มเดิม? ยังไงชอบกล?
                    เพื่อไขความสงสัยของตัวเอง คิเสะเริ่มจับสังเกต ขณะนั้นมีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังเดินอยู่ตรงหน้าคิเสะหนึ่งในนั้นติดกิ๊บติดผมสีชมพูทำให้ง่ายต่อการจดจำ
                    และเพื่อไม่ให้คิเสะรู้ตัวว่าเหล่าสาวๆกำลังแอบลอบมองอยู่ พวกเธอจึงเดินผ่านคิเสะไปจนสุดปลายฝั่งหนึ่ง เดินตามขอบของบริเวณแล้วหันค่อยกลับมา-
                    "จริงๆเลย"
                    ผู้หญิงที่ติดกิ๊บติดผมสีชมพูทำทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรแล้วเดินผ่านหน้าคิเสะที่กำลังอึ้งอีกครั้งหนึ่ง พวกนั้นเดินวนรอบพื้นที่อีกครั้งหนึ่งแล้วเดินกลับมาอีกรอบ
                    หนำซ้ำ ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนอื่นๆก็ทำแบบเดียวกัน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงรู้สึกแปลกๆเมื่อครู่นี้
                    คิเสะนิ่งไปชั่วขณะหนึ่งก่อนจะคิดบางอย่างขึ้นได้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นความคิดบ้าบอสิ้นดี
                    (ไม่หรอกน่า ถึงยังไง ชั้นก็ทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก ใช่ไหม?)
                    และแม้ว่าเจ้าตัวจะคิดแบบนั้น คิเสะก็ชี้นิ้วชี้เหยียดตรงออกไปข้างหน้าอยู่ดี จากนั้นก็พูดขึ้นว่า
                    "ใครก็ตามที่นิ้วชั้นชี้โดน ให้เป็นคนนั้นล่ะ มีใคนสนใจไปดื่มชากับชั้นสักแก้วไหม?"
                    "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ"
                    "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ"
                    "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ"
                    "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ"
                    "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ"
                    "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ"
                    "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ
                    "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ" "ชั้นค่ะ"
                    "พอ พอ พอ!! พอก่อน! ขอทีเถอะ! นี่อย่าจับนิ้วชั้นสิ"
                    คิเสะโอดครวญขณะถูกรายล้อมไปด้วยเหล่าสาวๆ
                    -
                    ลงท้ายเนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะพาคนเยอะขนาดนั้นไปหาอะไรดื่มด้วย เขาจึงเลือก5คนจากกลุ่มผู้หญิง               พร้อมกับพาสมาชิกตัวจริงของทีมไปร้านอาหารครอบครัวที่อยู่แถวๆนั้น
                    "รู้สึกเหมือนนัดบอดนิดๆแหะ"โคโบริเอ่ยเสียงเบ่า หลังจากนั่งลงกับที่นั่ง
                    "ชั้นรู้อยู่แล้วว่านายต้องทำได้" คิเสะเห็นโมริยามะยิ้มกว้างแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถาม
                    "เอ่อ.. เอิ่ม ไม่ใช่ว่ารุ่นพี่โมริยามะกะจะพยายามจีบเองจนกว่าจะสำเร็จก่อนเหรอครับ?"
                    "ไม่คิดว่าบางครั้งโอกาสจะเป็นฝ่ายมาหานายเองบ้างเหรอ คิเสะ"
                    ท้ายที่สุด เมื่อได้เห็นว่าโมริยามะดูเป็นปลื้มขนาดไหน
                    กับสถานการณ์ในตอนนี้ คิสะก็อดยิ้มไม่ได้
                    อนึ่ง พวกสาวๆลุกออกจากที่นั่งของตัวเองกันหมดแล้ว
                    หลังจากทุกคนสั่งเครื่องดื่มแบบเติมใหม่ได้เป็นที่เรียบร้อย สาวๆทุกคนก็บอกขอตัวแล้วพากันไปเข้า       ห้องน้ำกันหมด พวกเธอคงกำลังเติมเครื่องสำอางค์ เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสังคมหลังจากนี้
                    ขณะที่ดื่มไอซ์ทีของตัวเองอยู่คิเสะก็มองเสไปทางคาซามัตสึอย่างไม่ได้คิดอะไร ก่อนที่จะต้องหลุดพ่นเครื่องดื่มออกปาก
                    "รุ่นพี่ครับ!?"
                    "ม...มะมะมะมีอะไร?" 
                    ท่าทีที่เรียกได้ว่าแทบจะส่งเสียง แกรก..แกรก ออกมาในจังหวะที่คาซามัตสึหันหน้ามาหาคิเสะ ทั้งตัวของเขาแข็งมื่อติดกับที่นั่ง
                    "ผมสิควรจะเป็นฝ่ายถามว่า'มีอะไร' ไหวรึเปล่าครับเนี่ย!?"
                    "ม...ไม่มีอะไรให้น่าห่วงหรอก..."
                    คาซามัตสึทำตัวคล้ายกับหุ่นยนต์ที่น้ำมันหมด ยกถ้วยกาแฟเย็นขึ้นมาอย่างเกร็งๆ ทว่ามือของชายหนุ่มสั่นแรงเกินไปจนทั้งกาแฟและน้ำแข็งหกออกมา
                    "เออะ..เอ๋? ไม่จริงน่า!! รุ่นพี่ครับ เย็นไว้ครับ! ถ้วย! วางถ้วยก่อน! เดี๋ยวผมเช็ดให้!"
                    คิเสะรีบหยิบผ้าเช็ดมือชุ่มน้ำเช็ดโต๊ะ และมีฮายาคาวะช่วยเก็บน้ำแข็งห่อใส่ผ้าเช็ดมือเอาไว้ได้
                    "รุ่นพี่ เป็นอะไรของคุณครับ?"
                    เป็นโคโบริที่ตอบคิเสะ
                    "คาซามัตสึไม่เคยพูดกับผู้หญิงมาก่อนน่ะ"คาซามัตสึก้มหน้าลงรึบางทีอาจจะแค่ต้องการพยักหน้ายอมรับ
                    "ไม่เคยพูดด้วยมาก่อน? แต่ก็น่าจะมีโอกาสคุยกับผู้หญิงที่อยู่ห้องเดียวกันตั้งเยอะไม่ใช่เหรอครับ?"
                    "เท่าที่ชั้นรู้ ตั้งแต่เข้าโรงเรียนมา หมอนั่นเคยพูดแต่ อืม กับไม่ เท่านั้น"
                    "แบบนั้นไม่เรียกว่าเคยพูดด้วยแล้วเหรอครับ?"
                    "แต่นั่นไม่ถือว่าได้พูดคุยจริงๆหรอก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพอจู่ๆให้หมอนั่นคุยกับผู้หญิงแบบนี้ เจ้าตัวถึงได้ตื่นตระหนกสุดขีดแบบนี้ยังไงล่ะ"
                    “ฮุ่นพี่คับผมปิ่มๆจะฮ้องไห้อยู่แอ๊วนะคับเนี่ย (รุ่นพี่ครับ...ผมปริ่มๆจะร้องไห้อยู่แล้วนะครับเนี่ย)
                    พอได้ฟังคำอธิบายจากโคโบริ คนที่ตรงไปตรงมาอย่างฮายาคาวะก็เริ่มน้ำตาไหลพรากเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนั่นน่าจะทำให้คาซามัตสึทนไม่ไหวอีกต่อไป ซัดเข้าที่หัวฮายาคาวะในทันที่
                    "ช...ชั้นไม่ได้กลัวเรื่องเล็กน้อยแบบนั้นหรอกน่า! ชั้นก็เป็นเป็นผู้ชายคนหนึ่งนะ เพราะงั้นวันนี้ชั้นจะต้องค...ค..คุยกับพวกเธอดีๆได้น่า!"
                    คาซามัตสึผู้ที่อย่างน้อยตอนนี้ก็สามารถกลับมาพูดปกติได้แล้วกลับหน้าแดงแจ๋ และแม้ว่าจะพูดออกมาเช่นนั้นก็เห็นได้อย่างชัดเจนมากว่า เจ้าตัวแค่ทำเป็นใจดีสู้เสือไปอย่างนั้นเอง
                    ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าออกลึกๆก่อนพูดเบาๆ "ต้องไหวสิ!"
                    แลดูไฟแรงมาก
                    และเพราะว่ามันดูไฟแรงมากเกินไป พวกที่เป็นฝ่ายดูอยู่จึงเริ่มรู้สึกไม่สบายใจนัก
                    "ถ้างั้นคาซามัตสึนายชอบผู้หญิงคนไหนล่ะ?"
                    คาซามัตสึ ผู้ซึ่งประหม่าเป็นอันดับ1ในตอนนี้ ได้คนที่ประหม่าเป็นอันดับ2 โมริยามะถาม
                    "นั่นก็...คน...ที่อยู่ทางขวาสุด..."
                    เพราะอะไรไม่รู้จู่ๆคาซามัตสึก็กลับไปเขินอายเหมือนเดิม ชายหนุ่มก้มหน้าลงแล้วพูดเบาๆอย่างขัดเขินแต่โมริยามะก็ยังอุตส่าห์ได้ยิน
                    "ขวาสุด?..อ๋อ นั่นเป็นผู้หญิงที่เจริญเติบโตดีมากเลยล่ะ อย่างนี้นี่เอง คาซามัตสึ นายชอบหน้าอกใหญ่ๆสินะ"
                    "ใหญ่...!? เฮ้ย นายพูดอย่างนั้นไม่ถูกนะ!"
                    "นายบิดเบือนความจริงไปไม่ได้หรอก ที่สำคัญก็คือ เธอเป็นสเปคที่นายชอบเพราะงั้น ต้องพูดกับเธอดีๆล่ะ"
                    ถ้าเป็นเวลาปกติ คาซามัตสึตะต้องตอกกลับมาด้วยคำพูดอย่าง "ไม่จำเป็นต้องให้นายมาบอกหรอก" แต่วันนี้เจ้าตัวกลับอ้ำอึ้งๆอยู่ตลอด หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เรียกคิเสะ
                    "คิเสะ..."
                    "มีอะไรเหรอครับ?"
                    คาซามัตสึมองไปยังฝั่งตรงข้ามของโต๊ะบริเวณช่วงที่พวกผู้หญิงจะนั่งเมื่อพวกเธอกลับมา ก่อนถาม
                    "ว..เวลาคุยกับผู้หญิง ค..คุยเรื่องอะไรดี?"
                    "เรื่องอะไร...ก็เรื่องปกติธรรมดามากๆอ่ะครับ"
                    "แล้วอะไรคือเรื่อง'ปกติธรรมดามากๆ'เล่า!?"
                    "ไม่รู้ถึงขนาดนั้นเลยหรอครับ!? อืม ขอผมคิดก่อนนะอย่างเช่น..ใช่แล้ว! อย่างรุ่นพี่โมริยามะไงครับ ชมพวกเธอว่าน่ารักหรืออะไรประมาณนั้น!แล้วก็ในช่วงเวลาที่เหมาะๆก็พูดอะไรที่สนุกๆ!"
                    "ชม...เรื่องสนุกๆ?"
                    หัวคาซาเริ่มหมุนด้วยความเร็วสูง
                    "ขอโทษจ้ะ ปล่อยให้รอซะนานเลย
    "
                    พวกสาวๆกลับมาจากห้องน้ำในจังหวะนั้นเอง
                    (ส..สาวๆพวกนี้มาอย่างจัดเต็มเลยนี่!)
                    คิเสะเบิ่งตากว้าง เมื่อเห็นสาวๆที่กลับมาถึง
                    เขียนตาอย่างประณีต ขนตาปลอมแบบหนา ผมยาวโค้งเป็นลอน ลิปสติกแบบเป็นประกายถูกทาบนปากของพวกเธอ แล้วก็การทำเป็นเผยให้เห็นอย่างไม่ตั้งใจของหน้าอกนั่นด้วย
                    เปรียบเทียบกับพวกเธอก่อนเข้าห้องน้ำ เลเวลอัพกันมาเลยทีเดียว
                    "อ๋า ทุกคนไปหยิบน้ำกันมาหมดแล้ว งั้นพวกเราไปหยิบของเราบ้างนะจ๊ะ"
                    สาวๆพูดคุยกันจ้อกแจ้กขณะเดินไปยังที่สำหรับหยิบเครื่องดื่ม
                    แต่คาซามัตสึกลับไม่ได้สนใจพวกเธอเลย ในหัวของเขาเต็มไปด้วยคำเหล่านี้
                    (ชม ทำให้ขำ ชม ทำให้ขำ ชม ทำให้ขำ)

                    ในที่สุดพวกสาวๆก็กลับมาประจำที่นั่งพร้อมเครื่องดื่มของตัวเอง ก่อนเสนอให้ทุกคนชนแก้วกัน
                    "จะให้ใครเป็นคนบอกคัมไป(ชนแก้ว)ดีล่ะ?" (คัมไปเป็นคำที่คนญี่ปุ่นใช้พูดเวลาชนแก้ว//คนแปล)
                    ผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามกับคิเสะส่งสายตาเร่าร้อนมาหาเขา แต่คนที่ควรจะได้รับหน้าที่นี้ควรเป็นของคนในชมรมซึ่งคิเสะให้ลำดับความสำคัญมากกว่า คิเสะจึงไม่ลังเลที่จะหันไปหาคาซามัตสึ
                    "งั้นให้รุ่นพี่คาซามัตสึเป็นคนบอกละกันครับ..."
                    หลังจากพูดออกไปแบบนั้น จู่ๆคิเสะก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว
                    คาซามัตสึจับถ้วยของตัวเอง
                    ทว่าในครั้งนี้มือที่ถือถ้วยนั้นไม่สั่นไหวเลย
                    คิเสะที่กังวลว่าชายหนุ่มจะตื่นตระหนกก็เบาใจเมื่อเห็นท่าทีแบบนั้น
                    (สมกับเป็นรุ่นพี่ ในช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้ พึ่งพาได้จริงๆ!)
                    คิเสะมองคาซามัตสึด้วยความไว้วางใจและความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยม
                    ทว่าในความเป็นจริงแล้วคาซามัตสึกำลังประหม่ามากจนไม่สามารถสั่นได้อีกต่อไป ในหัวของเขาตอนนี้มีแค่คำเพียงไม่กี่คำกังวาลกลับไปกลับมาอย่างไม่รู้จบ
                    (ชม ทำให้ขำ ชม ทำให้ขำ ชม ทำให้ขำ...)
                    ชายหนุ่มยืนขึ้น มองตรงหาสาวๆตรงหน้าตัวเองเป็นครั้งแรก
                    เหล่าสาวๆอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกำลังส่งยิ้มให้เขา
                    (ชม ทำให้ขำ ชม ทำให้ขำ ชม ทำให้ขำ...)
                    คาซามัตสึบีบแก้วแน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม
                    (ชม ทำให้ขำ ชม ทำให้ขำ ชม ชม...)
                    ขณะที่ยืนอยู่นั้น คาซามัตสึสามารถเห็นส่วนเปิดเผยของพวกสาวๆ-
                    (ทำให้ขำ!)
                    เขาชูแก้วขึ้นก่อนพูดด้วยเสียงอันดังว่า
                    "ถ..ถ้างั้นก็...อบไป!!!" (อบไป :oppaiแปลว่าหน้าอกใหญ่ๆ//คนแปล)
                    พยัญชนะตัวแรกของคำสุดท้ายออกเสียงกร่อนไปเล็กน้อย
                    ทว่ากลับไม่มีใครกล้าที่จะบอกเจ้าตัว
                    และด้วยเหตุนี้ การพบพานในฤดูร้อนที่สามารถกลับคืนมาได้จึงเริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับการจากลาของฤดุร้อนที่ไม่สามารถกลับคืนมาได้อีกเช่นกัน
                    แล้วพวกหนุ่มๆก็ได้อ้าแขนรับจุดจบของอีกวันหนึ่งในฤดูร้อนของพวกเขาทั้งอย่างนั้น
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    FREETALK: Omaew เองขอร้าบบ สารภาพว่าก่อนแปลต้องไปเปิดดูหน้าว่าแต่ละคนของสมาชิกไคโจวชื่ออะไรกันบ้างเพราะจำไม่ได้ ฮาา ตอนนี้แอบแปลยากนิดๆ แล้วก็แอบสงสาร ชินยะ นาคามูระคุง เล็กๆ เพราะโผล่มาช่วงที่แข่งกับเซย์รินรอบสอง เนื้อเรื่องก่อนนิยายเล่มนี้ออกเลยไม่มีบทเลย  อ่านตอนนี้แล้วชอบกัปตันนะจะกลัวผู้หญิงอะไรได้ขนาดน้านน น่าร้ากก 555+ เดี๋ยวตอนต่อไปที่เป็นตอนของทีมเซย์ริน เป็นตอนยาวเหมือนดัน ไว้เดี๋ยวแปลอีกตอนเสร็จแล้วจะเอามาลงน้าา 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×