คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Replace I เกมที่หนึ่ง:เรื่องราวหลังเลิกเรียนของโรงเรียนม.ต้น เทย์โค Part 7
คนเช็คคำ: Tori
แปลEng: mocopersonal [tumblr]
*****นิยายเรื่องนี้แต่งโดยทาง Officail เอง เราแค่นำมาแปลและปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อความสะดวกในการอ่านเท่านั้น*****
_______________________________________
เกมที่หนึ่ง:เรื่องราวหลังเลิกเรียนของโรงเรียนม.ต้น เทย์โค
Part 7
การแข่งขันดำเนินไปเป็นการเล่นอยู่ฝั่งเดียว
ด้วยการเล่นที่ไม่มีแบบแผนของอาโอมิเนะ การชู้ตระยะไกลของมิโดริมะ การบุกของคิเสะที่ทำให้คู่แข่งหมดท่า แล้วก็ยังมีมิสไดเรคชั่นของคุโรโกะที่ทำให้เขาหายไปได้ภายในชั่วพริบตา
พวกเด็กนักเรียนม.ปลายทำแต้มไม่ได้แม้แต่แต้มเดียว แม้ว่าจะมีโอกาสได้ลูกบ้างก็จะถูกแย่งไปภายในไม่กี่ชั่ววินาที ผลก็คือพ่ายแพ้อย่างยับเยิน
โมโมอิกับที่เหลือออกจากสวนสารธาณะทิ้งกลุ่มเด็กม.ปลายซึ่งพูดอะไรไม่ออกหลังพ่ายแพ้อย่างหมดรูปเพราะความแข็งแกร่งที่ห่างชั้นกันเกินไป ไว้เบื้องหลัง
และแม้ว่าคุโรโกะต้องการให้พวกเด็กม.ปลายมาขอโทษ แต่โมโมอิกลับบอกว่า "ชั้นไม่อยากเห็นหน้าพวกนั้นอีกแม้แต่วินาทีเดียว" และไม่รับคำขอโทษของพวกนั้น
ปีหนึ่งที่ได้ลูกบาสคืนมาแล้วรู้สึกประทับใจที่ได้มีโอกาสเห็นการเล่นในแมทช์เหล่าผู้ที่จะได้รับฉายาว่าเจเนอเรชั่นปาฏิหารย์ในอนาคต เขาพร่ำพูดว่า"ขอบคุณครับรุ่นพี่!'"อย่างไม่หยุดปากก่อนขอตัว
ทั้ง5คนเองก็เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง เพื่อไปส่งคุโรโกะถึงบ้าน
ระหว่างที่เดินอยู่โมโมอิจึงคำถามที่มีอยู่ในใจกับมิโดริมะและคิเสะ
"ทัังสองคนมาที่นี่เพราะเป็นห่วงเท็ตสึคุงเหมือนกับอาโอมิเนะคุงเหรอ?
"ไม่ใช่ชั้นมาเพราะมีของบางอย่างจะให้เธอต่างหาก"
ว่างั้นแล้วมิโดริมะก็หยิบกล่องกล่องหนึ่งออกมาจากกระเป๋า
มันคือกล่องบรรจุดินสอที่มีคำว่า"ยูชิมะ เท็นจิน"พิมพ์กำกับไว้ (ยูชิมะเท็นจินเป็นชื่อวัดจ้า//ผู้แปล)
มิโดริมะยื่นกล่องใส่ดินสอนั้นให้โมโมอิ
"นี่เป็นค่าตอบแทนที่ให้ชั้นยืมถ่ายเอกสารสมุดจดของเธอ อาวุธสุดท้ายของชั้นในการสอบ ดินสอกลิ้งแบบทำพิเศษ
"ดินสอกลิ้ง!?"
โมโมอิยื่นมือไปรับกล่องด้วยความตกตะลึง คิเสะมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"แบบทำพิเศษแปลว่ามิโดริมัจจิเป็นคนทำเองเหรอ?"
"นี่ละคือความหมายของการทำทุกอย่างเท่าที่เราสามารถจะทำได้ล่ะ" มิโดริมะยิ้มอย่างภาคภูมิ
คิเสะเข้ามาใกล้เพื่อโบกมือไปมาตรงหน้าเขาก่อนเอ่ย
"บอกตามตรงนะถึงวิธีการพูดเหมือนจะเท่ แต่นายไม่ได้ดูเท่เลยสักนิด"
"อ๊ะ ดินสอมี3แท่งเท็ตสึคุงชั้นให้เธอแท่งนึง"
โมโมอิบอกกับคุโรโกะ หลังจากส่องดูของภายในกล่อง
"อ่า แบบนั้นจะดีหรอครับ"
"ดีสิจ๊ะ" โมโมอิยิ้มให้คุโรโกะ
"เท็ตสึคุง ข้อมือเคล็ดอยู่ ต้องไม่สะดวกตอนทำข้อสอบแน่ๆ คิดซะว่าเป็นกำลังใจจากชั้นละกัน"
"งั้นผมจะรับมันไว้ครับ" คุโรโกะรับดินสอจากโมโมอิแล้วจ้องมองมัน
ถึงเธอจะบอกว่าเพื่อเป็นกำลังใจ แต่นั่นเป็นความจริงแค่ครึ่งหนึ่งและข้ออ้างอีกครึ่งหนึ่งนั่นก็คือ เพื่อให้สิ่งของไว้เป็นที่จดจำสำหรับเรื่องในวันนี้
หลังจากได้กลับบ้านด้วยกันโมโมอิก็เข้าใจสิ่งหนึ่งได้ในที่สุด
เท็ตสึคุงนี่เท่จริงๆเลย!
โมโมอินึกเชื่อมั่นเช่นนั้นซ้ำไปซ้ำมา
เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของเพื่อนคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเป็นการแข่งที่เล่นตุกติก เด็กหนุ่มก็จะไม่ลังเลที่จะลงแข่ง คนประเภทนี้หาได้ยากมากแล้วในสังคมปัจจุบัน
แล้วคนแบบนี้จะมีใครไม่ชอบไปได้ยังไงกัน
หัวใจของโมโมอิเต็มไปด้วยความคิดหวานแหววของความรัก
ระหว่างที่มิโดริมะกำลังเล่าให้คุโรโกะกับอาโอมิเนะฟังเกี่ยวกับเบื้องหลังตำนานดินสอกลิ้ง โมโมอิกับคิเสะก็เดินตามหลังเขาไป
"แล้วทำไมคีจังถึงไปที่สวนสาธารณะล่ะ"
"อยากรู้เหรอ?" คิเสะเริ่มฉีกยิ้ม
"ถ้าเธอเต็มใจจะบอกชั้นก็อยากรู้จ้ะ"
"งั้นถ้าชั้นยอมบอก โมโมจจิเองก็ต้องอธิบายให้ตรงตามความจริงที่สุดเลยนะ"
"หืม? อธิบาย?”
คิเสะเข้ามาใกล้หูของโมโมอิราวกับต้องการที่จะกระซิบ วางมือไว้ที่ปากของตัวเอง แล้วเอ่ยเสียงเบา
"ชั้นแค่อยากรู้ว่าจะมีพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคุโรโกจจิ หลังจากกลับบ้านด้วยกันรึเปล่า? ตกลงว่ามีไหม?"
"อ๋า!?" โมโมอิมองคิเสะด้วยความช็อค
คิเสะขยิบตาให้เธอ
“แล้วก็น้า จริงๆแล้วชั้นคิดว่าโมโมจจิชอบอาโอมิเนจจิ แต่ดูเหมือนว่าเธอก็ชอบคุโรโกจจิมากเหมือนกัน ตกลงว่าเธอชอบคนไหนเหรอ?”
โมโมอิเบิ่งตากว้าง ช่างเหนือความคาดหมายที่คิเสะสามารถมองเธอออกไดัถึงขนาดนี้
นี่คงจะเป็นกรณีที่ว่าคนนอกมองเห็นสถานการณ์ได้ดีกว่าคนในสินะ
โมโมอิหัวเราะ
ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆไปแล้วยังไงอย่างนั้นเลยนะ
"หา หัวเราอะไรล่ะเนี่ย บอกชั้นหน่อยสิ บอกชั้นหน่อยสิ ชั้นอุตส่าห์ยอมพูดไปหมดแล้วน้า เพราะงั้นโมโมจจิก็ต้องเล่าให้ชั้นฟังด้วยสิ"
"โอ๋ ชั้นควรจะพูดดีไหมน้า"
"เอ๋? อาการแบบนี้ แปลว่ามีอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นสินะ?" คิเสะคาดเดาได้อย่างแม่นยำ
"ฮิฮิ งั้นชั้นจะบอกแค่ว่ามีความคืบหน้าพอสมควรจ้ะ"โมโมอิพูดด้วยรอยยิ้ม
"เอ๋? ว่าไงน้าาาาาาาาา!? จริงเหรอ!?" คิเสะพูดเสียงดังด้วยความประหลาดใจ ทำเอาอาโอมิเนะหันกลับมาถาม
"เฮ้! พวกนายสองคนทำอะไรกันอยู่"
"ไม่มีอะไร แต่บอกอาโอมิเนจจิไม่ได้เด็ดขาด!"
"หา? พูดงั้นหมายความว่าไง!?"
"เพราะว่า....โมโมจจิเราบอกไม่ได้ใช่มะ?"
โมโมอิทำเพียงแค่ยิ้มมองมาที่เขาแล้วจงใจพูดเปลี่ยนเรื่อง
"อื้ม อาคาชิคุงอุตส่าห์บอกว่าไม่ให้เถลไถลสุดท้ายก็เตร่ข้างนอกกันตั้งนานแน่ะ"
โมโมอิจงใจบ่นเป็นเหตุให้คุโรโกะเกาแก้มตัวเองอย่างขัดเขิน
"งั้นเหตุการณ์วันนี้ต้องเก็บเป็นความลับจากอาคาชิคุงนะครับ"
"เหตุการณ์พวกนี้เนี่ยนะ!?" คิเสะหลุดปากในทันที
"ว่ากันตามตรง หมอนั่นคงจับได้แน่" มิโดริมะเองก็เห็นด้วยกับคำพูดของอาโอมิเนะ
"เดี๋ยวยังไง มุราซากิบาระก็คงบอกความจริงกับอาคาชิแน่"
"หืม? มีอะไรเกี่ยวกับชั้นงั้นเหรอ?"
"อ๊ะ!" อาโอมิเนะตกใจเมื่อจู่ๆมุราซากิบาระก็โผล่มาข้างหน้าพวกเขา
"มุราซากิบาระคุงยังไม่กลับบ้านเหรอครับ" คุโรโกะซึ่งเป็นคนที่หวาดผวาน้อยที่สุดในตอนนี้เอ่ยถาม
"งืมมมม~ ชั้นก็กะว่าจะกลับบ้านละแต่ลืมรสชาติของแท่งแครกเกอร์รสน้ำพริกเผามะเขือเทศไปไม่ได้ เลยมาเดินหาร้านที่ขายน่ะ สุดท้ายก็ซื้อมาได้จากร้านสะดวกซื้อร้านที่สาม เลยอยากเอามาให้คุโรจินชิมสักนิด
มุราซากิบาระหยิบถุงพลาสติกที่เต็มไปด้วยแท่งแครกเกอร์ออกมา
"ขอบคุณครับ" คุโรโกะรับไว้
"จริงสิครับ มุราซากิบาระคุงช่วยเก็บในวันนี้เป็นความลับจากอาคาชิคุงได้ไหมครับ?"
"หืม? ทำไมล่ะ?" มุราซากิบาระมีท่าทีงุนงง
"เพราะถ้าอาคาชิคุงรู้ว่าพวกเราเข้าเกมเซ็นเตอร์เพื่อที่จะไปเอาขนม เขาต้องโกรธแน่นอนเลยครับ"
"ถ้าอย่างงั้นก็ได้ ชั้นก็ไม่อยากโดนอาคาจินด่าเหมือนกัน" มุราซากิบาระตกลงในทันที
โมโมอิกับคิเสะอดไม่ได้ที่จะปรบมือพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งใจที่คุโรโกะเก่งดัานการพูดโน้มน้าว
"ถ้างั้นเรื่องวันนี้ให้เป็นความลับระหว่างเราหกคนนะครับ"
"ความลับอย่างนั้นเหรอ..." คำพูดที่ออกไปในเชิงหวานแหววนั้นทำให้โมโมอิมีความสุขมากเหลือเกิน
คุโรโกะส่งยิ้มอบอุ่นให้แล้วพูดกับโมโมอิ
"ถึงเราจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับอาคาชิคุงไม่ได้...แต่วันนีผมมีความสุขมากจริงๆครับ"
นี่ช่างเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นแต่ก็เปราะบางที่จะถูกประทับไว้ในหัวใจของโมโมอิตลอดไป
ไม่กี่เดือนต่อมา
แต่ละคนต่างเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในภายตัวของเขาเอง
เริ่มจากพรสวรรค์ที่เบ่งบานกระทันหันของอาโอมิเนะ
สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยยึดพวกเขาไว้ด้วยกันอย่างแน่นหนาก็เริ่มพังทลายลงอย่างเงียบๆ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Freetalk : จบไปแล้วสำหรับตอนแรก และอาจจะเป็นตอนเดียวที่โอซอยเป็นตอนย่อยขอรับ กำลังแปลตอนสั้นอยู่อีกตอนเพราะงั้นเดี๋ยวตอนที่สองซึ่งเกี่ยวกับไคโจวจะเอามาลงในไม่ช้า ฮาาาา ตอนนี้จบในซึ้งกินใจเป็นอันอธิบายเรียบร้อยว่า ทำไมคนที่ไม่ได้สนิทสนมอะไรกับมิโดริมะเป็นพิเศษ อย่างคุโรโกะถึงได้มีดินสอทำพิเศษสุดเฮงของเจ้าตัวได้ คำบรรยายตอนจบทำร้ายจิตใจและฟิลลิ่งคนแปลๆด้พอควร เอาเป็นว่าเจอกันครั้งหน้าจ้าา
ปล ไหนๆก็จบหนึ่งตอนใหญ่แล้วเม้นความรู้สึกต่อเนื้อเรื่อง หรือ ติชมการแปลและความถูกต้องของโอให้ปรับปรุงได้เลยนะ
ความคิดเห็น