คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Replace I เกมที่หนึ่ง:เรื่องราวหลังเลิกเรียนของโรงเรียนม.ต้น เทย์โค Part 1
คนแปล: Omaew
คนเช็คคำ: Tori
แปลEng: mocopersonal [tumblr]
*****นิยายเรื่องนี้แต่งโดยทาง Officail เอง เราแค่นำมาแปลและปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อความสะดวกในการอ่านเท่านั้น*****
_______________________________________
เกมที่หนึ่ง:เรื่องราวหลังเลิกเรียนของโรงเรียนม.ต้น เทย์โค
Part 1
ชมรมบาสเก็ตบอลของโรงเรียนเทย์โคเป็นแชมป์การแข่งขันบาสเก็ตบอลม.ต้นระดับประเทศได้ถึงสามสมัยติดต่อกัน นอกเหนือจากสถิติอันรุ่งโรจน์นี้ ยังมีเหล่าอัจฉริยะที่ผู้คนต่างกล่าวขานกันว่าสิบปีจะมีครั้งหนึ่ง เกิดขึ้นถึงห้าคน พวกเขาแข็งแกร่งที่สุดและเป็นที่รู้จักกันในชื่อ”เจเนอเรชั่นปาฏิหารย์” พวกเขาคือ “เจเนอเรชั่นปาฏิหารย์”ผู้สามารถทำให้คติประจำเทย์โคที่ว่า “รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” เป็นจริงขึ้นมาได้ อัจฉริยะทั้งห้าคนนั้นคือ อาคาชิ มิโดริมะ มุราซากิบาระ คิเสะ อาโอมิเนะ และอีกคนหนึ่งที่อัจฉริยะทั้งห้าให้การยอมรับ ผู้เล่นมายาคนที่หก คุโรโกะ เท็ตสึยะ
เรื่องราวเหล่านี้ จะเป็นเรื่องราวก่อนที่พวกเขาจะถูกเรียกเป็นปาฏิหาริย์และเป็นที่กล่าวขานไปทั่วประเทศ เรื่องราวก่อนที่พวกเขาจะค้นพบความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตัวเอง
“เธอปฏิเสธไปยังงั้นเหรอ!?”
“น..นี่ อย่าเอะอะไปสิ ชู่!!”
โมโมอิ ซัทสึกิ รีบวางนิ้วลงที่ปากของเธอเองเป็นเชิงเตือนให้เพื่อนร่วมชั้นของเธอ อิสึมิ ยาโยอิ ลดเสียงลง อิสึมิเองก็รีบเอาสองมือปิดปาก ก่อนจะหันมองดูรอบๆ
หลังคาบเรียนที่หกจบลง ทั้งชั้นเรียนต่างสงเสียงอื้ออึง แบ่งเป็นสองกลุ่มคือพวกที่เตรียมตัวจะกลับบ้าน กับพวกที่เตรียมตัวไปทำกิจกรรมชมรมต่อ ไม่ได้มีใครสนใจทั้งสองคนที่กำลังแอบคุยกันอยู่หลังห้องเลย
อิสึมิ กับ โมโมอิ ต่างวางมือไว้ทาบอกอย่างโล่งใจ ก่อนที่โมโมอิจะตรงไปที่ประตูของห้องเรียน และพูดเจือยิ้มทำเหมือนเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับอิสึมิว่า
“ชั้นมีกิจกรรมชมรมต่อ เพราะงั้น... ”
“เดี๋ยวสิ!”
ทันทีที่เห็นโมโมอิฉีกยิ้มขณะออกจากห้อง อิสึมิรีบคว้ามือขอเธอเอาไว้ ก่อนที่จะวางมือทั้งสองลงบนบ่าของโมโมอิ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ แล้วถามเสียงค่อย
“จริงๆเลยนะ ทำไมเธอถึงต้องปฏิเสธด้วยล่ะ คนที่มาสารภาพรักก็เป็นถึงกัปตันทีมวอลเลย์บอลเลยนะ หน้าตาดีมาก แถมยังมีแฟนคลับอีก เธอบอกปฏิเสธคนแบบนั้นไปได้ยังไงกัน!”
“ก..ก็ชั้นยังไม่รู้จักเขาดีพอ”
โมโมอิกวาดสายตาลงกับพื้นรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย อิสึมิจึงเขย่าไหล่ที่จับอยู่อย่างระอาใจ
“เธอก็ค่อยๆทำความรู้จักเข้าไปหลังคบกันก็ได้! เสียดาย! น่าเสียดายจริงๆ! ซัทสึกิ นี่มันก็คนที่หกแล้วนะที่มาสารภาพรักกับเธอในปีนี้!”
อึสึมิยังคงเขย่าตัวโมโมอิต่อไป ก่อนที่จู่ๆก็หยุดกะทันหัน
“ซัทสึกิ... อย่าบอกนะว่า....”
ดวงตาของเธอเป็นประกาย
“หรือว่าเธอมีคนที่ชอบอยู่แล้ว?”
“อ้ะ!?”
แก้มของโมโมอิเปลี่ยนเป็นสีแดงแวบนึง ซึ่งแน่นอนว่าไม่อาจรอดพ้นสายตาของอิสึมิไปได้ เธอยึดไหล่โมโมอิไว้แน่นก่อนที่แสดงท่าทีมั่นใจราวกับจะบอกว่า”หึ จับได้แล้วล่ะ”
“โอ๊ะ โอ๋ ไม่น่าล่ะ คนคนนั้นเป็นใครกัน? อาโอมิเนะคุงเหรอ!?”
“ไม่ใช่หรอกน่า! ตานั่นเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กเท่านั้นล่ะ เป็นเพราะตานั่นชอบทำตัวไร้ระเบียบ ชั้นเลยจำเป็นต้องคอยดูแล.......ไม่มีทางมีเหตุผลอะไรอีกแน่นอนจ๊ะ! [//คนแปล:ใจร้ายยยยยย]
“อย่างง้านเหรอ เพื่อนสนิทสมัยเด็กที่ต่อมาวันนึงกลายเป็นคนรัก โรแมนติกจัง เพอร์เฟคมาก แบบนี้เอาไปตีพิมพ์ใน MA ยังได้
“MA? มันคืออะไร?”
“นิตยสารชื่อ Margaret น่ะ เรียกย่อๆว่า MA “
อิสึมิถอนหายใจแบบเซ็งนิดๆ ก่อนที่จะตีหน้าผากโมโมอิเบาๆ
“ซัทสึกิ เธอควรจะอ่านโชโจวมังงะ(การ์ตูนสาวน้อย)สักหน่อยนะ เอาแต่อ่านแต่หนังสือที่เกี่ยวกับบาสเก็ตบอลอยู่ได้ ขนาดดูทีวีเธอยังดูแต่เทปทีมบาสโรงเรียนใช่ไหมล่ะ เธอควรจะอ่านโชโจวมังงะ บ้างนะ คาดหวังในความรักให้มากขึ้นอีกสักนิดนึง โดนสารภาพรักเยอะขนาดนี้ จะไม่สนใจเรื่องความรักเลยได้ยังไงกัน?”
“ชั้นก็ไม่ได้...ไม่สนใจเรื่องความรักเลยซักหน่อย”
โมโมอิเอ่ยเสียงอ่อย เธอรู้ตัวว่าหน้าของตัวเองตอนนี้เป็นสีแดงไปแล้วจึงเบือนหน้าหนีและผละออกจากการจับกุมของแขนอิสึมิเพื่อไม่ให้เจ้าตัวจับได้
“ถ้าไม่ไปตอนนี้ต้องสายแน่ๆเลย... ชั้นไปก่อนล่ะจ๊ะ” หลังจากโบกมือและบอกลาให้อิสึมิ โมโมอิรีบมุ่งหน้าไปยังโรงยิมทันที
วันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับชมรมบาสเก็ตบอล
ไม่ใช่เพราะมีการจัดการแข่งขันกับโรงเรียนอื่นแต่เป็นเพราะ อาทิตย์หน้าเป็นอาทิตย์ก่อนสอบกลางภาคของโรงเรียนม.ต้นเทย์โค ต่อให้มีความสามารถทางกีฬามากมายขนาดไหนก็ตาม พวกเขาก็ยังเป็นแค่นักเรียนและต้องเข้าสอบด้วย วันนี้จึงถือเป็นการรวมตัวกันครั้งสุดท้ายของแต่ละชมรมก่อนจะมีการสอบ
หากรวมวันสอบทั้งหมดสี่วันเข้ากับช่วงหนึ่งอาทิตย์ก่อนสอบก็จะเป็นเวลาทั้งหมดถึง11วัน ที่ห้ามทำกิจกรรมชมรมใดๆ สำหรับสมาชิกชมรมที่ชื่นชอบการเล่นบาสเก็ตบอลเป็นชีวิตจิตใจแล้วถือเป็นช่วงเวลาที่แสนทรมาน กิจกรรมวันนี้จึงมีความสำคัญกับพวกเขาอย่างยิ่ง
ด้วยเหตุนี้ โมโมอิ ที่เข้ามาในยิมแล้วได้ยินจากรุ่นพี่ปี 3 ว่า วันนี้จะมีแค่การฝึกซ้อมพื้นฐานจึงเบิ่งตาด้วยความประหลาดใจ
“มีแค่การฝึกซ้อมพื้นฐาน... แค่นั้นพอหรอคะ”
โมโมอิคิดว่าเธอได้ยินที่รุ่นพี่พูดผิดจึงถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ รุ่นพี่ทำเพียงพยักหน้าและตอบว่าใช่
“อาคาชิคุงเป็นคนบอกเองว่าวันนี้จะซ้อมแค่พื้นฐาน*(Basics)น่ะ”[การฝึกซ้อมพื้นฐาน จะได้แก่ วิ่งรอบสนาม การวิ่งซอยเท้า วิ่งส่งลูกสามคนอ้อมหลัง วิ่งไปกลับ ฯลฯ ซึ่งมักเป็นการวอร์มก่อนการซ้อมจริง//คนแปล]
“อาคาชิคุง?”
โมโมอิมองไปยังเหล่าสมาชิกชมรมที่กำลังฝึกซ้อมและมองเห็นอาคาชิอยู่ในกลุ่มที่กำลังวิ่งรอบสนามบาส อาคาชิยังคงฝึกซ้อมอย่างจริงจังเหมือนกับทุกครั้ง
“ถ้าอาคาชิว่าอย่างนั้น เขาก็คงมีเหตุผลล่ะนะ”
“นั่นสินะ”
หลังจากได้ยินพวกรุ่นพี่พูดคุยกันเช่นนั้น โมโมอิ ก็ยอมรับการตัดสินใจนั้น แม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนัก แต่ถ้าเป็นสิ่งที่อาคาชิเสนอมา เธอก็ไม่คิดจะคัดค้านใดๆ
สิ่งที่อาคาชิเสนอมักอยู่นอกเหนือความคาดหมายของทุกคน ทว่าทุกครั้งทุกคนก็จะรู้สึกขอบคุณกับความเหมาะสมของผลลัพธ์ที่ตามมาหลังจากนั้นอยู่เสมอ
ตัวอย่างที่ดีที่สุดคงเป็นเมื่อครั้งที่อาคาชิค้นพบผู้เล่นมายาคนที่ 6 ของเจเนอเรชั่นปาฏิหาริย์
“นั่น... เกี่ยวข้องกับการสั่งให้ผมออกมานั่งสังเกตการซ้อมหรือเปล่านะครับ”
โมโมอิสะดุ้งด้วยความตกใจกับเสียงที่ดังขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“คุณโมโมอิ เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”
“เท็ตสึคุง!?”
คนที่พูดเมื่อครู่นี่คือ คุโรโกะ เท็ตสึยะ ซึ่งโมโมอิกำลังหาอยู่นั่นเอง
คุโรโกะกำลังยืนอยู่นอกสนาม สวมชุดปกติสำหรับซ้อม ข้างๆโมโมอิ ทำเพียงแค่สังเกตการฝึกซ้อมเท่านั้น
“ท..เท็ตสึคุง ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ล่ะจ๊ะ อ..เอ๋!? สังเกตการซ้อม!?”
อารามตกใจ โมโมอิจึงหลุดถามออกมาเสียงสูง ซึ่งก็ไม่ใช่ปฏิกิริยาที่แปลกอะไร หากจู่ๆคนที่คุณหาอยู่ก็โผล่ออกมาตรงหน้าของคุณ
“วันนี้อาคาชิคุงบอกให้ผมสังเกตการณ์ฝึกเพียงอย่างเดียว ทำไมกันนะครับ...”คุโรโกะพึมพำ
ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มจะมีใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์เช่นเคย แต่น้ำเสียงก็บ่งบอกได้ว่า เจ้าตัวกำลังไม่พอใจ
“อาคาชิคุง สั่งให้สังเกตการซ้อมเหรอ?” โมโมอิที่หายตกใจแล้วถาม
“ใช่ครับ” คุโรโกะตอบ
“ถ้าอาคาชิคุงว่าอย่างงั้น นายก็นั่งสังเกตการซ้อมไปเงียบๆเถอะ”
รุ่นพี่แตะบ่าคุโรโกะเบาๆก่อนจะออกไปซ้อม
“แต่วันนี้เป็นการซ้อมครั้งสุดท้ายก่อนการสอบทั้งที”
คุโรโกะถอนหายใจเล็กน้อย
ในเมื่อพวกรุ่นพี่ต่างพูดเช่นนั้น การตัดสินใจครั้งนี้จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ คุโรโกะจึงทำได้อยู่แค่นั่งข้างๆโมโมอิ แล้วคอยดูคนอื่นฝึกซ้อมเท่านั้น
โมโมอิมองไปรอบๆสนาม แต่ก็ยังคงให้ความสนใจกับสมาชิกมายาคนที่ 6 ของเจเนอเรชั่นปาฏิหาริย์คนนี้อย่างมาก เธอหวนนึกถึงคำพูดของอิสึมิ
“หรือว่าเธอมีคนที่อยู่ชอบแล้ว?”
โมโมอิเหลือบมองคุโรโกะซึ่งกำลังจ้องมองไปยังสนามแบบไม่กะพริบตา
บางทีเธออาจจะชอบคนที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆเธอ.... เด็กหนุ่มผู้ที่ตัวตนช่างแสนจืดจาง...
หากจะให้ว่ากันตามตรง ตัวเธอก็พึ่งเริ่มจะสนใจคุโรโกะเมื่อไม่นานมานี้เอง เรื่องเริ่มจากเหตุการณ์เล็กๆ เมื่อ 2- 3 วันก่อน หลังเลิกกิจกรรมชมรม เหล่าสมาชิกชมรมบาสพากันแวะที่ร้านสะดวกซื้อตามปกติ โมโมอิเองก็อยู่ด้วย แต่ด้วยความที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว จึงไม่สามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มหนุ่มๆได้
เธอจึงทำได้แค่มองอยู่ห่างๆ ใบหน้าของเธอในตอนนั้นคงกำลังแสดงสีหน้า “ถึงอย่างงั้นก็เหอะ.. น่าอิจฉาพวกเขาจังเลย” อยู่แน่ๆ
ในตอนนั้นเองที่คุโรโกะโผล่มาอยู่ตรงหน้าเธอ
“ผมไม่ต้องการมันแล้ว... รับไว้ด้วยเถอะครับ”
“เอ๋!?”
คุโรโกะส่งแท่งไม้ของไอติมที่ทานแล้วให้เธอ ด้วยความที่มันกะทันหันมาก โมโมอิจึงไม่ทันได้โต้ตอบอะไรและรับแท่งไม้นั้นมาอย่างงๆ
“อะไรเนี่ย...” เธอจดจ้องมองดูแท่งไอติมอย่างสงสัยก่อนที่จะเจอกับคำว่า”ไม้ฟรี”
เหตุการณ์นั้นเองที่สปาร์คหัวใจของโมโมอิ
ทุกๆการกระทำของคุโรโกะช่างดูสมบูรณ์แบบในสายตาของโมโมอิ เขาสังเกตได้ถึงอารมณ์ของเธอในตอนนั้น และทำให้เธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มได้อย่างไม่ยากเย็น ไม่ใช่เพียงเท่านั้น คุโรโกะกลับไม่แสดงท่าทีว่าเธอเป็นหนี้บุญคุณเขาแต่อย่างใด
หากจะว่ากันตามจริง ไม่มีใครรู้ว่าคุโรโกะคิดอะไรอยู่ในตอนนั้น แต่ตัวโมโมอิก็เลือกดื้อที่จะเชื่อในแบบเธออยากจะเชื่อ
นั่นเป็นเหตุให้เธอเริ่มสนใจในตัวคุโรโกะ
ตั้งแต่เธอเริ่มให้ความสนใจคุโรโกะ เธอก็ค้นพบหลายๆเรื่องเกี่ยวกับตัวเขาที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ทันสังเกต เช่น ระหว่างการแข่ง ท่าทีของคุโรโกะจะเปลี่ยนไปอย่างมาก จากที่ดูอ่อนแอไปเป็นคนที่น่ายำเกรง ทุกครั้งที่เธอเห็นคุโรโกะที่เป็นแบบนั้น ความสนใจในตัวเขายิ่งมากขึ้น
หรือว่านี่... หรือว่านี่จะเป็นความรัก?
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เธอก็ไม่รู้อยู่ดีว่า ความรู้สึกนี้เรียกว่า”ความรัก” ได้หรือเปล่า การจะบอกว่าแท่งไม้จากไอติมแท่งหนึ่ง เป็นจุดเริ่มต้นของความรัก ช่างดูน่าขันแม้กับตัวเธอเอง
ถ้าอิสึมิรู้เรื่องนี้เข้า เธอคงจะบอกว่า ”เธอน่ะคิดมากไปแล้ว!” แต่นี่เป็นครั้งแรกที่โมโมอิรู้สึกสนใจในตัวผู้ชายคนนึง ซึ่งเป็นความรู้สึกครั้งแรกที่ควรทะนุถนอมเอาไว้ ดังนั้นเธอจึงต้องตัดสินใจเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง
เธอจึงเห็นความจำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์ตรงหน้า และถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ทำให้เธอสัมผัสกับความรู้สึกที่ทำให้หัวใจเต้นไม่หยุด โมโมอิก็จะใช้ความสามารถเฉพาะตัววิเคราะห์คนตรงหน้า
เสียงเฮจากสนามดึงโมโมอิออกจากห้วงความคิด
“โอ้โห!!”
การฝึกซ้อมกำลังอยู่ในช่วงฝึกส่งลูก ผู้เล่นสามคนจะต้องสปริ้น(วิ่งแบบเร่งเร็ว)และส่งลูกให้กันจากฝั่งหนึ่งของสนามไปอีกฝั่งหนึ่งแล้วจึงชู้ต จังหวะเมื่อครู่เป็นลูกชู้ตของอาโอมิเนะซึ่งอยู่ในตำแหน่งหลังแป้นบาส หันหน้ามาทางโมโมอิ ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะทำแต้มได้จากการชู้ตลูกอ้อมจากข้างหลังแป้นกลับไปลงห่วง
“ตานั่นยังทำเป็นเล่นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน”
“แต่เขาก็เก่งจริงนะครับ”
คุโรโกะเอ่ยราวกับจะตอบรับคำพูดลอยๆที่โมโมอิพูดกับตัวเอง
“อาโอมิเนะคุงนี่แข็งแกร่งมากจริงๆ”
คุโรโกะพูดก่อนที่จะเอียงตัวก้มเก็บลูกบาสทีกลิ้งมาอยู่ข้างๆเขา
จังหวะนั้นเองที่โมโมอิรู้สึกว่าเธอพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมอาคาชิถึงสั่งให้คุโรโกะสังเกตการณ์ฝึกอยู่นอกสนาม..
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Free Talk : ดีจ้าทุกคน มือใหม่หัดแปล Omaew ขอรับ เรียกโอเฉยๆก็ได้
ขอบคุณที่อ่านจบพาร์ทแรกจ้า บอกตามตรงว่าใช้เวลานั่งคิดคำไทยที่เหมาะสมนานอยู่เหมือนกัน
เพราะศัพท์บางตัวมันแทนคำตรงๆไม่ได้ แถมภาษาอังกฤษไม่ค่อยมีคำลงท้าย อ่ะ นะ ครับ เล่นเอาต้องคิดเองซะวุ่น
ใครที่อ่านฉบับญี่ปุ่นได้แล้วเห็นว่าควรปรับปรุงตรงไหนบอกได้น้าา
อ้อ! เกือบลืมโปรเจ็คนี้สำเร็จไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ Tori คอยช่วยเกลาสำนวนให้ลื่นไหลและคอยจัดวางหน้ากระดาษให้ 5555+
เดี๋ยวจะพยายามปั่นแปล อัพพาร์ทใหม่เรื่อยๆ ช่วยติดตามกันต่อด้วยนะขอรับ ^W^b
ความคิดเห็น