ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ★junseung; รัตนโกสินทร์โปรเจค เรื่องที่สอง
ไต๋เติ้ล : รัตนโกสินทร์โปรเจค เรื่องที่สอง
โปรเจค : รัตนโกสินทร์โปรเจค
คู่พระ-นาง : พ่อพยงค์ กับ แม่ซึ้งใจ
ผู้จับปลายปากกา : กี้กิ่ง’พลัสวัน
เรทติ้ง : เด็กอ่านได้ผู้ใหญ่อ่านก็ได้~
แนะนำ : ควรศึกษาละครเรื่องทาสรัก ไม่ก็วนิดา ถ้าจะดีควรจะเป็นทวิภพ-w-
"เห้ยยยย! เฮียเนี่ยนะมีความรัก?
กับใครที่ไหนเมื่อไหร่ แล้วเขาว่าไงเขาชอบเฮียไหม?"
โจงกระเบนสีเหลืองสดกับเสื้อผ้าแพรชมพูอ่อน
ใครมันจะกล้าแต่ง ถ้าไม่ใช่ แม่ซึ้ง- -
"เฮียตอบฉันสิ ฉันอยากรู้~ "
"เฮียจะตอบเอ็ง แต่เฮียขอถามเอ็งก่อนได้ไหม?"
หัวทุยๆพยักหน้ารัว ความอยากรู้มันมีมากกว่าที่จะระแวง
"เอ็งใส่ชุดแบบนี้ ควายมันไม่ขวิดเข้าให้หรอกหรือ?"
"ขวิดไม่ขวิดก็วิ่งมาโน้นแล้วละเฮีย"
ชี้โบ้ชี้เบ้ไปด้านหลังลูกพี่ลูกน้อง
"เย้ยยยย"
หันหลังกลับมาดูก็พบว่าโดนหลอกเข้าให้
"ไอ้ห่าเอ้ยย เอ็งแม่งขยันแกล้งคนอ่ืนเขาไปทั่วเลยนะเอ็ง"
"ก็เฮียโง่ให้ฉันหลอก ฉันก็หลอกตามที่เฮียโง่ไง"
เอ่ยเสร็จก็วิ่งหนีไป ส่วนทางด้านคุรท่านมองดูละก็...
"กลับมาเลยนะไอ้ซึ้ง มาให้ข้าจับไปโบยเดี่ยวนี้เลย"
ถ้าใครมาเห็น ว่าที่ลูกเขยคุณหลวงอินทร์
กำลังวิ่งไล่จับกับพ่อคนงามแห่งกรุงสยาม รู้ถึงไหนก็อายเขาถึงนั้นละ
พ่อคุณแม่คุณเอ๊ยยยยย
"ไอ้ซึ้งง เอ็งอย่าขึ้นเรือนใหญ่นะ วันนี้มีงานสำคัญ"
พูดไปหอบไป แต่คนอย่างไอ้ซึ้งใจจะฟังอย่างไรเล่า
ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ วิ่งขึ้นเรือนใหญ่ในทันที
"ไอ้ซึ้งงงงง เอ็งลงมาเดี๋ยวนี้"
ผ่าง!!
"จ้างให้ฉันก็ไม่ลงหรอกเฮีย เฮียแก่เองตามจับฉันไม่ทัน
เลยใช้อุบายไม่ให้ขึ้นเรือน ฉันรู้หรอกหน่า"
เปิดประตุเรือนเสียงดัง แล้วหันหลังกลับมาล้อเลียนคนแก่
ก่อนจะต้องหน้าซีด เพราะ…..
"ลูกซึ้งใจ แม่บอกแล้วไงว่าไม่ให้ขึ้นเรือนใหญ่
แขกของเจ้าคุณพ่อเค้ามา เอ็งก็ไม่เคยฟัง ต้องให้แม่โบยใช่ไหม"
เสียงแหลมของผู้เป็นแม่ดังขึ้นเสียดแก้วหู ทำให้หันหน้ากลับมาไม่ทัน
มองไปรอบเรือนมีแต่แขกเหรื่อมากมาย
แต่คนอย่างไอ้ซึ้งจะยอมให้แม่โบยง่ายๆได้อย่างไร
ไหนไหนก็ไหนไหนแล้ว ทำงานเขาเสียก็ให้มันเสียถึงที่สุด
แล้วสองขาก็เริ่มวิ่ง(บนเรือน) หลบตรงนั้นตรงนู้นที
วิ่งไปเรื่อยจนไปถึงห้องเจ้าคุณพ่อ
เข้า..
ไม่เข้า...
เข้า…
ไม่เข้า...
"ห้ามเข้านะ ซึ้งใจ! แขกเจ้าคุณพ่ออยู่"
แหม่ะ! งั้นไอ้ซึ้งจะเข้า!
ผ่าง!!!
"อ้าว ลูกซึ้งใจมายังไงเล่าลูก"
คุณหลวงวรเทพกัดฟันพูด ใครไม่ได้ยินก็หูบอดแล้วละ
ตะโกนกันเสียงดังทั้งแม่ลูก วิ่งกันบนเรือนอีก
"ซึ้งใจออกมาบัดเดี๋ยวนี้! "
เสียงแหลมของคุณหญิงยังส่งมาให้แสบแก้วหูเล่น
เจ้าคุณพ่อ ต้องอยู่ข้างหญิงแม่
แล้วใครละ..
หึหึ
ว่าแล้วก็วิ่งไปหลบหลังแขกของเจ้าคุณพ่อ
"ถ้าหญิงแม่จะมาโบยซึ้งก็ต้องโบยแขกเจ้าคุณพ่อด้วย!"
มือเรียวจับเข้าที่แขนของแขกเจ้าคุณพ่อแล้วหลบอยู่ข้างหลัง
โผล่หน้ามาตะโกนหาหญิงแม่ดังกล่าว
"ซึ้งใจ! พูดอะไรออกมาน่ะลูก ตบปากตนเดี๋ยวนี้"
ทางด้านคุณหลวงวรเทพก็เอามือกุมขมับ
ระหว่างที่สองแม่ลูกยังคงเถียงกันต่อไป
คำพูดของแขกที่มาก็พาลทำทุกคนเงียบ
"ลูกสาวคุณหลวง น่ารักดีนะขอรับ"
-----------------------------------------------------------------------------------------
"ย่าห์!! ไอ้บ้า!! ฉันเป็นผู้ชายนะ! ลูกสาวลูกเสิวอะไร"
มือบางรัวหมัดลงบนหมอนปักลาย ระบายอารมณ์โกรธแค้น
"คิดว่าไปต่างเมืองแล้วดีนักหรอห๊า"
"ไอ้ซึ้ง เอ็งช่วยระลึกด้วยว่าเอ็งไม่ได้อยู่คนเดียว
เฮียนอนกะเอ็ง เฮียจะนอนถ้าเอ็งจะบ่น
ช่วยบ่นแบบไร้เสียงให้เฮียหน่อย"
"เฮียไม่หมั่นไส้ไอ้ยงโย่ยงหยกนั้นหรอ
มันทำให้เฮียต้องมานอนพื้นห้องฉันนะ"
พยายามชักจูงแนวร่วม
"เขาชื่อพ่อพยงค์ เป็นทูตสยามในประเทศฝรั่งเศส
ไม่ใช่ยงโย่ยงหยกของเอ็งหรอกนะ"
มือใหญ่แย่งหมอนมาจากร่างเล็กแล้วก็เอาอุดปากเรียวนั้น
"หุบปากได้แล้วเอ็ง เฮียจะนอน"
"เฮียแม่ง เห็นคนอื่นดีกว่าน้อง"
"อ้อ! เฮียจะบอกไว้อีกอย่างนะ
พ่อพยงค์น่ะ
เพื่อนรักเฮียเอง"
ขากรรไกรล่างของหน้าเรียวตกลงมาในทันที
"อะ.. อะไรนะเฮีย"
-----------------------------------------------------------------------------------------
"ซึ้งไม่รำ!"
เอ่ยตักทันทีที่หญิงแม่บอกว่าให้รำขอขมาแขก ที่ไปรบกวนเขา
"ลูกต้องรำ ไปทำงานเขาเสียแล้วต้องขอโทษ"
คนเป็นแม่พยายามอธิบาย
"ลูกก็รำสวย เรียนมาตั้งแต่เด็ก ทำไมเล่าถึงจะไม่รำ"
"หญิงแม่จำไม่ได้หรอกหรือ ที่หญิงแม่ขอให้ซึ้งเรียนรำ
ซึ้งก็เรียน เรียนรำตัวนางด้วยนะ ตัวนางนะหญิงแม่
แล้วซึ้งยอมแต่ซึ้งบอกว่าอย่างไร
ซึ้งบอกว่าซึ้งเรียนแต่ซึ้งจะไม่รำออกงาน ไม่รำออกงาน!"
"แต่ลูกซึ้ง"
"หญิงแม่เป็นแม่ซึ้ง หญิงแม่ก้ต้องรู้ว่าซึ้งเป็นชาย มิใช่หญิง!"
ร่างบางที่นั่งพับเพียบเอ่ยด้วยความตัดพ้อ
"หญิงแม่ก็รู้ว่าซึ้งไม่ชอบหน้าไอ้ทุตนั้น"
"งั้นแม่ให้เลือก ว่าซึ้งจะพาพ่อพยงค์เขาไปเที่ยวหรือจะรำ"
"ซึ้งไม่เลือกอะไรทั้งนั้น!"
หน้าใสยุ่งเหยิง
"อะไรที่มีพ่อพยงค์ของแม่ ซึ้งไม่เอาทั้งนั้น!
ให้มันรู้ไปสิ่ว่าตระกูลนี้เห้นคนอื่นสำคัญกว่าลูกในไส้!"
"ไอ้ซึ้ง เอ็งตบปากเลยนะ พูดอย่างนี้กับหญิงแม่ได้อย่างไร"
เฮียที่นั่งอยู่นานสองนาน เห็นเหตุการณ์เริ่มไม่ดี
"ถ้าลูกไม่ไป แม่จะห้ามซึ้งออกจากเรือน
จะถึงงานลอยกระทงแล้ว ซึ้งคงไม่อยากพลาดหรอกใช่ไหม"
ไม่สงสัยเลย ว่าไอ้ซึ้งมันได้ร้ายมาจากใคร- -
"ไปเที่ยวก็ได้ครับ..."
พูดเสียงอ่อยก่อนจะคลานเข่าลงเรือนไป
เอาวะ พาไอ้ทูตไปเที่ยวแล้วก็หนีไปคนเดียว คุ้ม-w-
-----------------------------------------------------------------------------------------
"ลอยลอยกระทง ลอยลอยกระทง
ลอยกระทงกันแล้วขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง~"
หนุ่มน้อยในโจงกระเบนสีเขียวสดกับเสื้อผ้าแพรสีฟ้าคราม
ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่าเป็นใคร กำลังระรื่นอยู่กับเทศกาลที่กำลังจะมาถึง
มือบางกำลังทำบายศรีรอบกระทงอย่างประณีต
ปากเรียวฮัมเพลงอย่างสบายใจ
จนลืมไปว่าวันนี้ต้องพาคุณหลวงพยงค์ ไปงานลอยกระทงเช่นกัน~
"นี่ไอ้ซึ้งง เอ็งดูสุขใจนะเนี่ย~"
"ก็วันนี้มีงานลอยกระทงอะเฮีย
หญิงแม่ให้ซึ้งไปด้วยล้า~ ไปคนเดียวได้ด้วยนะเนี่ย"
ปากเอ่ยเจื้อยแจ้ว ในขณะที่มือบางก็ยังทำบายศรีต่อไป
"กระทงฉันสวยไหมละเฮีย ฉันทำเองเลยนาาา"
"สวยๆ เอ็งเนี่ยนะ เกิดเป็นหญิงไปเลยไม่ดีกว่าหรือ
ทำอะไรดีกว่าทาสหญิงในเรือนตั้งมาก"
กระโดดหลบกองใบตองที่ปามา
"เอ็งเนี่ยน้า ไม่ยอมรับความจริงเลย
เอ้อ! หญิงแม่เอ็งให้มาบอกว่า
อย่าลืมพาพ่อพยงค์เขาไปเที่ยวด้วยละ"
ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ แล้วก็เดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะเยาะเย้ย
"เที่ยวให้สนุกนะเอ็งง ฮ่าๆๆๆ"
พลันที่ลูกพี่ลูกน้องได้บอก รอยยิ้มที่แย้มกว้างกลับหุบลงในทันใด
ราวกับเทียนที่ถูกลมพัดวูบเข้าให้ ก่อนเรียวปากบางจะแสยะยิ้มขึ้น
ก็ให้มันรู้ไปสิ่ ว่าพ่อพยงค์น่ะ จะรับได้ไหม
-----------------------------------------------------------------------------------------
ลูกชายคนเดียวของคุณหลวงวรเทพ
ในเสื้อผ้าแพรสีเหลืองสดกับโจงกระเบนสีส้ม
เข้ากันได้ดีจริงจริง= =;;;
เดินคู่มากับคุณหลวงพยงค์ในชุดราชประแตนโจงกระเบนแดง
มองไปก็เข้ากัน แต่รอยยิ้มบนหน้าคุณหลวง
ดูจริงใจกว่าการแยกเขี้ยวของแม่ซึ้งเป็นอย่างมาก
"คุณหลวงอายุเท่าไร"
โพล่งขึ้นมาโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง
"อีกสามยามก็จะยี่สิบสองปีแล้วละ"
แย้มยิ้มบางเบาให้กับท่าทีของคนอายุน้อยกว่า
"อย่างงี้ซึ้งก็เรียกคุณหลวงว่าพี่ได้ใช่ไหม"
พูดเจื้อยแจ้ว แต่ไม่หันมามองหน้าคนที่เอ่ยถึง
ขาเรียวยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ
"อย่าคิดว่าซึ้งหมดคดีกับพี่นะ ซึ้งเป้นชาย จำเอาไว้ด้วย"
หันมากชี้หน้าคนที่เรียกว่าพี่
"อ่า ซึ้งเป็นชาย"
พยักหน้าอย่างแกนๆ กลั้นขำกับใบหน้าที่จริงจังของผู้เป้นน้อง
"แล้วพี่ชายไปสนิทกับเฮียตอนไหน"
มือเรียวล้วงเข้าไปในถุงแดง ก่อนจะหยิบเงินออกมาจำนวนหนึ่ง
"ลุงง ซึ้งขอผีเสื้อนะ" ว่าแล้วก็ยื่นเงินจ่ายให้ลุงไป
ก่อนที่ะรับน้ำตาลปั้นมาไว้ในมือ
ลิ้นเรียวเล็กค่อยเก็บความหวานของน้ำตาลที่ละน้อย
"พี่ชายๆ พี่ชายตอบคำถามซึ้งสิ"
"ก็รู้จักกันนานโขแล้วละ ตั้งแต่ก่อนที่จะไปฝรั่งเศสแล้วละ"
ตาคมมองไปที่น้ำตาลปั้นในมือเล็ก ก่อนจะยิ้มมุมปาก
"พี่พยงค์ อยากลองหรอ?
ซึ้งว่าพี่พยงค์น่าจะชอบอันกระโน้นมากกว่า"
ว่าแล้วก็ฉวยจับข้อมือใหญ่แล้วเดินนำไป
"น้ำซ่า"
"เห็นเฮียบอกว่าพี่พยงค์ชอบกินน้ำมะเน็ด ลองกินซาสี่บ้างไหมละ"
พยักเพยิดหน้าไปทางโหลแก้วสีต่างๆ
ไม่รอคำตอบจากร่างสุง ปากเรียวก็เอ่ยสั่งออกไป
"ป้าแจ่ม ซึ้งขอซาสี่ให้พี่ชายถุงนึง ซึ้งไม่เลี้ยงนะ ซึ้งไม่มีเงินสักเฟื้องแล้ว"
ยิ้มเผล่
"แล้วไม่กินหรอ? "เมื่อจ่ายเงินครบร่างสูงก็หันมาถามเด็กตัวเล็ก
"ก็บอกว่าไม่มีเงินแล้ว พี่พยงค์กินไปคนเดียวเถอะ
หญิงแม่ทำโทษไม่ได้ให้เงินมาสักเฟื้องเลย"
เหมือนประโยคหลังจะเอ่ยพูดกับตนเอง
"เอาไหมละ เดี๋ยวพี่เลี้ยง"
"ไม่ได้นะ หญิงแม่บอกว่าห้ามรบกวนพี่พยงค์"
ตากลมมองกวาดไปรอบตัวก่อนที่จะฉุดข้อมือใหญ่แล้ววิ่งไปที่ริมท่าน้ำ
"ลืมไปว่าต้องมาลอยกระทง! พี่พยงค์เอากระทงมาป้ะเนี่ย?"
แล้วก็ได้คำตอบจากหน้างงของท่านทูต
"มาลอยด้วยกันมา แล้วรู้ไหมว่าลอยกระทงคืออะไร"
ถามไปฮาๆ แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้ตากลมยิ่งเบิกกว้าง
"จำไม่ได้ว่าคืออะไร แต่เขาบอกว่าถ้าใครมาลอยด้วยกัน จะเป็นเนื้อคู่"
"น้ำเน่ามาก-__,-
ซึ้งไม่ใช่เด็กสาวแรกแย้มที่ต้องมาเขินอะไรกับคำแบบนี้
แล้วทีหลังถ้าจะเล่นนะ บอกซึ้งก่อนก้ได้ จะได้เขินให้=w=”
เสียงหัวเราะขอทั้งสองก็ดังขึ้น มือเรียวเอื้อมไปจับกลุ่มผมของอีกฝ่าย
“ขอโทษนะพี่ชาย”
"โอ้ย!"
ว่าแล้วก็ทำการดึงผมออกมาสองสามเส้น
ก่อนจะใส่ลงไปในกระทง รวมกับผมของตน
"ประเพณีเขาบอกให้ลอยผมลงไปด้วย
จะได้เอาเรื่องร้ายๆไปจากตัว"
"รู้เรื่องเยอะจังนะเรา"
ยื่นหน้าบางมาทำกระซิบ
"อย่าบอกหญิงแม่นะพี่ชาย หญิงแม่ให้ซึ้งท่อง
บอกว่าจะได้เล่าให้พี่ชายฟัง"
"ไม่ไหวเลย ผู้ใหญ่เนี่ยนะ" หน้าใสทำหน้าเอือมพร้อมส่ายหัวไปมา
"เขาคงอยากให้ซึ้งจำได้ด้วยกระมัง"
ว่างพลางกลั้นขำใบหน้าใสที่ยังคงส่ายหน้าอยู่อย่างนั้น
"จำได้ไม่ได้ก็ต้องมาเล่าให้คนแถวนี้ฟังให้ได้ละ= ="
ยิ้มทะเล้นล้อเลียนก่อนที่จะเริ่มฉุดคุณหลวงพยงค์อีกครั้ง
"คราวนี้จะไปไหนอีกเล่า"
"ไปลอยโคม!!!"
-----------------------------------------------------------------------------------------
ร่างบางที่ง่วนอยู่กับการจุดโคมให้เข้าที่
พร้อมกับการสอนท่าทางการจับโคมให้ถูกวิธี(?)
"อย่าถามซึ้งนะว่าทำไมถึงต้องลอยโคม"
ตากลมสบเข้ากับสายตาอีกฝ่าย
"เรื่องนี้หญิงแม่ไม่ได้ให้ท่องมา -w-"
"เรื่องนี้พี่รู้"
"ลอยทำไม?"
"ลอยด้วยกัน ใจจะได้ไปด้วยกันไง"
"ซึ้งเขิน พอใจไหมคุณหลวงพยงค์~"
ล้อเลียนเข้าให้ ก่อนจะกระตุกโคมเบาๆเป้นเชิงให้ปล่อยไปได้แล้ว
ตากลมมองตามดวงโคมที่ลอยขึ้นไปแล้วยิ้มออกมาบางเบา
แววตาดูมีความสุขนั้นทำให้คุณหลวงต้องยิ้มตาม
"ไม่เคยลอยโคมหรือ"
"หญิงแม่ไม่ให้ซึ้งลอยโคม บอกว่ามันอันตราย"
พุดไป สายตาก็ยังคงจับจ้องไปที่หมู่โคมบนท้องฟ้า
"สวยสวยทั้งนั้น ไม่เห้นจะอันตรายตรงไหนเลย"
"ของสวยสวย บางทีก็อันตรายเหมือนกันนะ"
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาบางเบา
"เฮ้~ พี่ชายพูดเหมือนโดนสาวทีไหนทิ้งรักกระนั้น~"
ยิ้มกว้างแหย่กระแซะแซว
"หน้าอย่างพี่ชายสาวที่ไหนจะทิ้งรักเนี่ย
ไม่มีใครเขามาหลงตั้งแต่แรกมากว่า "
ว่าแล้วก้ระเบิดเสียงหัวเราะ
"ก็นี้ไง สวยสวยอย่างซึ้งยังอันตรายปากร้ายขนาดนี้เลย"
ตีหน้านิ่งเหมือนไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะเดินแยกออกไปอีกฝาก
"จะให้บอกกี่ครั้งห้ะ! ว่าซึ้งเป็นผู้ชาย
ซึ้งไม่สวยโว้ยยย!"
----------------------------------------------------------------------------------------
"ฉันไม่สงสัยเล้ยยย ว่าสนิทกับเฮียได้อย่างไร"
ตบเข่าไปฉาดใหญ่
"ก็พูดจาไม่เข้าหูเหมือนกันเยี่ยงนี้ ไม่รู้ว่าใครกัันแน่ที่เป็นตัวการ"
"แม่ซึ้งก็ เห็นว่าแม่ซึ้งเป้นคนกัดคุณหลวงเขาก่อนมิใช่"
แม่กวางยกแก้วน้ำขึ้นจิบ ก่อนที่จะรินใส่แก้วอีกใบให้เพื่อน
"คุณหลวงเขาอายุมากกว่าแม่ซึ้ง ทำไมไปลามปามเขาถึงกระนั้นเล่า"
"ก็พี่ชายเขาเป้นเพื่อนกับเฮีย
เล่นกับเฮียได้ก็ต้องเล่นกับพี่ชายได้"
ซึ้งใจเริ่มหน้างอ เมื่อโดนแม่กวางเอ็ดเข้าให้
"แม่ซึ้งยังไม่รู้จักเขาดีพอ แม่ซึ้งก็ไม่ควรไปลามปามเขา
เดี่ยวเขาจะด่าไปถึงคุณหลวงวรเทพกับหญิงแม่ได้นา
ว่าไม่สั่งสอนลูกให้ดี"
"ฉันไม่น่ามาเล่าให้แม่กวางฟังเลย โดนเทศยิ่งกว่าหญิงแม่เทศอีกนะเนี่ย"
ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน
"ฉันกลับเรือนดีกว่า อยู่นี่โดนแม่กวางเอ็ดให้
หูฉันจะชาหมดแล้ว"
แล้วร่างบางก็เดินออกจากร้านน้ำชาไป
ทิ้งให้เพื่อนของตนนั่งส่ายหน้าให้กับความดื้อด้าน
-----------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากที่โดนใช้ให้ไปไหนมาไหนกับคุณหลวงพยงค์
ความสนิทที่มีก็ทำให้รู้อะไรมากขึ้น
ว่านิสัยที่เคยเห้นว่าเป็นยอดคนมันมิใช่
มันเหมือนไอ้เฮียมองดูที่นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่เรือนไม่มีผิด!!
ระหว่างที่เดินเล่นอยู่กลางตลาด ด้วยความที่ไม่ได้ดูทาง
จึงไม่รู้ว่าได้เดินมาตรงกลางรางรถรางเข้าแล้ว
กว่าจะรุ้ตัวอีกทีก็เมื่อมีคนมาฉุดเข้าอ้อมแขนไปเรียบร้อย
"คิดอะไรอยู่ละสาวน้อย~"
เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นข้างๆ จนต้องฉุดตัวเองกลับมาจางภวังค์
"มองทางบ้างสิ เดี๋ยวโดนเฉี่ยวขึ้นมา รถเขาจะเป้นรอยไปได้นา"
"ไอ้คุณพี่พยงค์!"
"ขอรับ กระผมเอง"
เอ่ยล้อเลียนพลางโค้งให้ร่างบาง
"ปล่อยฉันได้แล้ว! อย่าคิดว่าเป็นพี่แล้วจะมาทำรุ่มร่ามใส่ฉันนะ!"
ตีเข้าที่มือใหญ่ที่ตระคองเอวตนอยู่
"ฉันไม่ใช่เด็กสาวในเรือนของพี่พยงค์นะ"
"อยากเป็นก็บอกมา เดี๋ยวพี่จะจัดให้เป็นที่หนึ่งเลย"
แล้วก็โดนมือบางฟาดกลางหลังดังอั่ก
"ปากดีตั้งแต่เจอยันวันนี้
ให้ตายเถอะคารมของพี่แต่ละอย่างทำฉันอยากอ้วก"
หน้าเอือมๆของร่างบางทำอีกฝ่ายอมยิ้ม
"จะให้ฉันบอกกี่ครั้งว่าฉันไม่ใช่เด็กสาวที่ต้องมาเขินกับอะไรแบบนี้"
"พี่ก็แค่หวังว่าสักวัน จะหันมามองกันบ้าง"
ตีหน้าเศร้าจนร่างบางใจหาย
"ฉันก็มองอยู่"
นิ้วเรียวชี้ไปที่ตาตัวเอง
"เห็นไหมว่ามองอยู่"
"ไม่ได้ให้มองแบบนั้น"
ร่างสูงถอนหายใจเมื่อร่างบางไม่รับมุก
"พี่ก็เลิกเจ้าชู้ให้ได้ก่อนเถอะ แล้วฉันจะมองแบบที่อยากให้ฉันมอง"
----------------------------------------------------------------------------------------
"ลูกซึ้งแต่งตัวเสร็จยังลูก แม่ขอแบบไม่จี๊ดจ๊าด
เอาแบบผุ้ดีนะลูก แห่ขันหมากพี่สักทีเอาแบบปกติสุขหน่อย"
"ยิ้งเป็นงานเฮีย ซึ้งต้องให้จี๊ดสิแม่"
แล้วร่างบางก็เดินออกจากเรือนด้วยโจงกระเบนเขียวสด
พร้อมกับเสื้อผ้าแพรสีเหลืองอ๋อยตัวเก่ง มิวายหนีบกิ๊บสีแดง
"โก้ไหมแม่" ยักคิ้ว
"แม่จะเป็นลมม ไปเปลี่ยนเถอะนะแม่ขอ"
"ชุดนี้เพื่อเฮียเลยนะแม่"
สีหน้าของคนเป็นแม่บ่งบอกว่าไม่ไหวกับชุดนี้จริงจัง
"ก็ได้ เดี๋ยวซึ้งเปลี่ยนให้"
ว่าแล้วก็เดินเข้าเรือนไปอีกรอบ
ใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งก่อนจะเดินออกมา
เสื้อผ้าแพรสีขมพูอ่อน ประกอบด้วยโจงกระเบนสีชพู
และกิ๊บเครื่องเงินรุปผีเสื้ออีกอัน
"โอ้ยยย~ ลูกซึ้งของแม่ แต่งตัวแบบคนก็เป็น"
"ซึ้งไปเปลี่ยนกลับแล้ว"
"แหม๊ๆๆ ลุกซึ้งก็ รีบไปเถอะเดี๋ยวจะไม่ทันฤกษ์ทันยามพอดี"
ว่าแล้วหญิงแม่ก็กระวีกระวาดไปหน้าเรือน
ก่อนที่จะสั่งให้ขบวณขันหมกเคลื่อนไปที่บ้านคุณหลวงอืนทร์
ทางด้านไอ้ซึ้งใจก็คุยกับว่าที่ลุกเขยคนใหม่ของคุณหลวงอินทร์
"วันนี้แต่งตัวดีนะเอ็ง"
"ฉันก็แต่ตัวดีมานานแล้ว เฮียไม่มีบุญมองมากกว่า"
"เออ เฮียขอบใจเอ็งที่ไม่แต่งตัวเรียกไอ้ทุยมาขวิดขบวนเฮียวันนี้ละกัน"
ว่าแล้วก็ตบหัวทุยๆนั้นไปทีนึง
"แต่งตัวอย่างนี้เอ็งสวยขึ้นเป้นกองเลยนะ
แล้วกิ๊บนี้ไปเอามาจากไหนวะ"
"เฮียตบปาก ตบปากเดี๋ยวนี้! ฉันไม่สวย!"
ปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรงมาก
"ส่วนกิ๊บนี้นะหรอ
ไอ้คุณพยงค์ให้มา"
"แหม๊ หวานกันจังนะเอ็ง"
"หวานบ้าบออะไรเล่าเฮีย จะให้ฉันติดกิ๊บแดงมากับชุดนี้เนี่ยนะ
เข้ากันตายละเฮีย"
"พูดเหมือนเอ็งเคยใส่ชุดเข้ากันสักวันน่ะ- -"
"ขอให้ฤกษ์เสียไปขอแม่โยไม่ทันเห้อะ สาาาาาธุ"
ยกมือขึ้นจรดหน้าผากก่อนจะวิ่งไปหาหญิงแม่
"ไอ่ห่าซึ้งงง"
----------------------------------------------------------------------------------------
เอ้า มาละเหวยมาละวา
ใครมีมะเดื่อมาแลกมะดัน ใครมีลูกจันทร์มาแลกลูกจาก
เอ้า มาละเหวยมาละวา
ใครมีมะกรูดมาแลกมะนาว ใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขย
เมื่อขบวณขันหมากเคลื่อนผ่านเรือนต่างๆ
ก็มีคุณหญิงคุณนายคุณชายคุณหลวง ข้าทาสบริวาร
ออกมาร้องรำทำเพลงด้วยกัน
แล้วเมื่อผ่านหน้าเรือนคุณหลวงบพิตร ลุกชายคนเดียวก็ลงมาร่วมด้วย
ใช่, คุณหลวงพยงค์นั่นแหละ
"คนสวยของพี่~~ "
ปรี่เข้ามากอดเอวลูกชายหลวงวรเทพในทันใด
ก่อนจะโดนศอกกลับไปในทันที
"ของพี่พยงค์เมื่อไหร่ห้ะ? ไอ้คนขี้ตู่"
ว่าแล้วก็แลบลิ้นใส่ก่อนจะเดินหนีไปร้องรำกับขบวณกลองยาว
"วันนี้คนสวยติ๊ดกิ๊บเครื่องเงิน!!"
เอ่ยอย่างตกใจ
"กิ๊บเครื่องเงิน ผีเสื้อ ผีเสื้อ"
"ของพี่พยงค์นั้นแหละ- -"
เอ่ยอย่างเอือมๆก่อนจะรำกับกลองยาวต่อไป
"ติดกิ๊บของพี่ แสดงว่าติดใจพี่"
"เหนื่อยไหม? ปล่อยมากี่ครั้งซึ้งก็ไม่เขินอายบิดตัวเนี้ย"
"ไม่เหนื่อยเพราะหญิงซึ้งเคยบอกว่าจะมองพี่~~~"
ยิ้มหน้าบาน
"คงไม่มีวัน
เพราะรอให้พี่พยงค์เลิกเจ้าชู้ ก็เหมือนรอให้สุริยันดับหมอดไป"
แล้วขาเรียวก็ทำการเดินไปหาว่าที่ลูกเขย
ก่อนจะไปหัวร่อต่อกระซิกกับแม่กวาง
ทิ้งให้คุณหลวงพยงค์หยุดยืนนิ่งอยู่คนเดียว
----------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากเสร็จพิธีการต่างๆ
ทั้งการทำบุยตักบาตร รับไหว้ แห่ขันหมาก
ก็มาถึงพิธีรดน้ำสังข์
"พ่อพยงค์ น้าขอให้มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวของพ่อดูให้น้า
จะเป็นการรบกวนรึเปล่า"
"เอ่ออ คือผมยังไม่มีแววว่าจะเข้าหอเลยนะขอรับ"
ยิ้มแหยๆ
"มันจะเป็นการสมควรหรือขอรับ"
"ช่วยน้าหน่อยเถอะนะ น้าขอร้อง
จะไปเอาไอ้ซึ้งมาก็ไม่ได้ ไอ้ลูกคนนี้กระโดกกระเดกสะ"
ว่าพลางกุมขมับ ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
"พ่อพยงค์อยากได้อะไร เดี๋ยวน้าหามาให้เลยนะ"
"ก็ได้ขอรับ"
ยกยิ้มมุมปากตามนิสัย
ถ้าจะขอตัวลูกชายคุณน้า คงจะให้ได้สินะขอรับ
"ขอให้รักกันนานนานนะ"
"มีอะไรก็พูดคุยกัน อย่าได้เก็บไว้ในใจให้บาดหมาง"
ญาติผู้ใหญ่พากันเดินวนเวียนรดน้ำสังข์ให้คู่บ่าวสาว
บ้างก็อวยพรต่างๆนานา บ้างก้แนะเรื่องชีวิตในเรือน
จนวนมาถึงลูกชายคนเดียวของคุณหลวงวรเทพ
"ฉันไม่รู้จะอวยพรยังไงดีละ
ชีวิตฉันไม่เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาสะด้วย"
ยกมือเกาท้ายทอยแก้เก้อ พลางยิ้มแห้งๆ
"เท่าที่ผ่านมาก็มีแต่เรื่องที่ค่อยอยากจำสักเท่าไร
อ่า~ ฉันนี้แย่จังเลยนะเอาเรื่องส่วนตัวมาพูดเนี่ย"
"นี่เอ็งยังลืมมันไม่ได้อย่างนั้นรึ"
เจ้าบ่าวกระซิบลอดไรฟัน
"ช่างมันเถอะเฮีย วันดีของเฮียแท้ๆอย่ามาสนใจกับเรื่องของฉันเลย"
ว่าแล้วก็แย้มยิ้มกว้างที่ดูฝืนพิกล
"งั้นก็รักกันนานๆละกันนะแม่โย นะเฮีย"
แล้วร่างเล็กในชุดสีชมพูก็เดินลงเรือนไป
โดยให้เหตุผลกับเจ้าคุณพ่อว่าอยากไปเดินเล่น
ทางด้านร่างสูงที่ได้ยินทุกคำพูด เห็นทุกสีหน้า
ก็รีบขอตัวเดินตามไป
----------------------------------------------------------------------------------------
ร่างบางที่เดินไปเรื่อยในสวนบ้านคุณหลวงอินทร์
ใจก็พลางคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้ ก่อนที่จะเดินไปหยุดที่ศาลาริมน้ำ
เปลือกตาบางค่อยๆปิดลง ก่อนจะพาตัวเองเข้าห้วงภวังค์ไป
"อ้าวซึ้ง ไม่ได้เจอกันนานโข เป็นกระไรบ้างเล่า"
เสียงทักทายคุ้นหูดังขึ้นพลันต้องลืมตาตื่น
เสียงอย่างนี้ อย่านะ ได้โปรดอย่ากลับมา
"ทำหน้าอย่างนั้น จำข้าไม่ได้หรือ ข้าไอ้ต๊อปไง"
"หวะ หวัดดี"
"นี่ดวงใจของข้า ชื่อซึ้งเหมือนเอ็งเลยนะ"
ผู้มาใหม่แนะคนข้างกายให้ฟัง
ราวกับหัวใจถูกบีบ
เจ็บเจ็บจนพูดไม่ออก
คิดว่าจะทำใจได้แล้ว แต่กลับตรงกันข้าม
เมื่อมาโดยไม่บอกกล่าว ใจก็เจ็บจนอธิบายไม่ออก
"เอ็งรีบพาแม่ซึ้งของเอ็งขึ้นไปงานก่อนเถอะ ค่อยลงมาคุยกัน"
กว่าจะเค้นคำพูดออกมาได้ ช่างยากยิ่งนัก
"งั้นอีกประเดี๋ยว ข้าลงมาหาละกัน"
พูดพลางหันไปหาคนรัก
"ไปกันแม่ซึ้ง เดี๋ยวแม่โยจะรอนาน"
เมื่อร่างสองร่างที่เข้ามากรีดแทงใจเดินลับไป
น้ำตาก็พาลไหลออกมาเสีย
ไร้เสียงสะอื้น มีแต่น้ำไร้สีไหลออกมาจากตาคู่สวย
กระนั้นมีมือคู่หนึ่งเข้ามาปาดออกให้อย่างอ่อนโยน
"ถ้าอยากจะร้องก็ร้องให้พอ พี่จะอยู่ข้างๆเอง"
ตากลมที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาหันมองยิ้มอ่อนโยนที่ส่งมาให้
"พี่จะไม่ถามว่าเป็นอะไร เพราะรู้ว่าไม่มีสิทธ์ในเรื่องนั้น"
ร่างบางยังคงสะอื้นไห้ไม่หยุด
"ถ้าเขาสำคัญกับใจซึ้งมาก ก็จงร้องออกมาให้พอ
เพราะถ้าเขาสำคัญขนาดนั้น
ถึงพี่ขอให้ซึ้งหยุดร้อง ซึ้งก็คงไม่หยุด"
หน้าใสเริ่มไร้คราบน้ำตาแหลือแต่ตาบวมที่การร้องไห้ฝากทิ้งไว้
วงหน้าเรียวหันมาหาคนข้างกาย
"ขอโทษนะพี่พยงค์ ต้องมาลำบากพี่แท้ๆ
ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงทิ้งไปหาอีกคน"
ตากลมเริ่มสั่นระริกอีกครั้ง แต่แล้วก้แย้มยิ้มกว้าง
"ที่จริงซึ้งไม่ต้องไปคิดเรื่องเก่าๆแล้วก็ได้
ก็ซึ้งมีพี่พยงค์ทั้งคนแล้วนิ่"
แล้วร่างบางก็ลุกเดินหนีไปทิ้งให้อีกฝ่ายเห็นใบหูขาวที่แดงอยู่ลิบๆ
----------------------------------------------------------------------------------------
"นี่ๆ ตกลงเอ็งกับไอ้พยงคืถึงไหนแล้ววะ เล่าให้เฮียฟังบ้างดิ่"
พูดใส่ร่างที่นั่งร้อยมาลัยอยู่กลางเรือน
"ก็เหมือนเดิม"
"โหววววว แบบนี้ก็ไม่สนุกอะสิ่-3-"
ทำหน้าตาผิดหวัง
เข้ากับหน้าเฮียม๊ากมากมากอ่ะ
"เอ็งระวังไว้เถอะ แม่คูหาจะมาคาบไปก่อน
เฮียเห็นแม่สาวนั้น มาเจ๊าะแจ๊ะกับคุณหลวงของเอ็งอยู่บ่อยๆ"
"ก็บอกว่าไม่ได้เป้นอะไรกันหน่าเฮีย
ใครจะมายุ่งกับพี่พยงค์ก็ไม่เกี่ยวกับฉัน"
"ทำเป็นบอกว่าไม่เกี่ยวกับฉัน
ใจเอ็งลอยไปเรือนคุณหลวงบพิตรแล้วไหมนั้นนะ"
ก่อนจะโดนกำดอกมะลิปาเข้าหน้าไป
"สักวันฉันจะยุให้แม่โยขอหย่ากับเฮีย"
ว่าพลางมือก็เก็บปลายด้ายแล้ววางพวงมาลัยไว้บนพาณ
"หัดทำตัวผู้ดีแบบเมียสะบ้าง ระวังเหอะแม่โยจะไปปิ๊งผู้ดีอังกริด"
แล้วก็เดินลงเรือนไปหาหญิงแม่ที่เรือนใหญ่
----------------------------------------------------------------------------------------
ร่างเล็กสองร่างกับทหารอีกหนึ่งนาย
นั่งอยู่ในร้านน้ำชาชื่อดังแถวละแวกโรงหนังเฉลิมกรุง
"นี่แม่กวาง~ ฉันคิดถึงแม่โยจังเลย"
"แม่โยเขาไปกิจกับเจ้าคุณพ่อเขาแค่สองเดือนเอง"
พูดพลางยกน้ำชาขึ้นจิบ
"ไออุ่นไม่กินอะไรหรือ?" ก่อนจะได้คำตอบเป็นเพียงการส่ายหน้าเบาๆ
"สองเดือนแต่ไปไกลโขถึงอังกริดเชียวนะแม่กวาง"
หยิบปาท๋องโก๋เข้าปากไปหนึ่งตัว
"แม่กวางไม่คิดถึงแม่โยบ้างหรือ"
"คิดถึงน่ะคิดถึง แต่เดี๋ยวแม่โยเขาก็กลับมาแล้ว
อีกสองสัปดาห์แม่โยก็กลับมาแล้ว"
ลูบหัวเพื่อนของตนไปทีนึง
"เอ้ะนั้นมันคุณหลวงพยงค์มิใช่? แล้วมากับใครละนั้นนะ"
คำพูดของเพื่อนทำเอาหัวทุยๆที่ฟุบลงกับโต๊ะเงยหน้าขึ้นมา
มองไปตามทางที่เพื่อนตนมองไปแล้วก้ต้องเจอกับร่างสูงคุ้นตา
กับหญิงสไบสีฟ้าอ่อน ตากลมโตนั้นชวนมองยิ่งนัก
แต่สิ่งที่ทำให้ไม่สบอารมณืไปมากกว่านั้น
คือวงแขนแกร่งที่โดนแขนเรียวของแม่นั้นเกี่ยวไว้
"เห็นว่าชื่อแม่คูหา ลูกหญิงแม้นเพื่อนของคุณหลวงบพิตรนะขอรับ"
ไออุ่นคลายข้อสงสัย แต่กลับทำให้วงหน้าใสขมวดคิ้วเข้าไปอีก
ตากลมเริ่มมีน้ำตาคลอ
"แม่กวางฉันกลับก่อนนะ แถวนี้บรรยากาศมันไม่ดี
พาลอารมณ์จะเสียเปล่าๆ"
ว่าแล้วก็ฉวยเอาถุงแดงของตนแล้วเดินออกจากร้านน้ำชาไป
ทางด้านคุณหลวงพยงค์เห้นหลังบางคุ้นตาที่รีบเดินออกจากร้านน้ำาไปวูบหนึ่ง
ก็พาลจะคิดถึงเจ้าของโจงกระเบนสีแสบสัน พอมาไร่เรียงดุอีกทีก็ได้รู้ว่า
เจ้าของหลังบางโจงกระเบนสีน้ำเงินนั้น คือคนคนเดียวกัน
จึงรีบปรี่เข้าาร้านน้ำชาไปเมื่อเห็นแม่กวางนั่งมองตนอยู่
ทิ้งให้หญิงสไบฟ้ายืนอยู่คนเดียว
"แม่กวาง ซึ้งใจละ?"
ถามด้วยความร้อนรน
"เห็นเดินออกไปเมื่อตะกี๊นะขอรับ"
แถมไม่ลืมที่จะเหน็บแหนมใส่คุณหลวงไปอีกดอกหนึ่ง
"พอดีเห้นอะไรที่มันขัดหูขัดตา ก็เลยพาลอารมณ์เสียน่ะคุณหลวง"
แล้วร่างเล็กก้ลุกขึ้นยืนตามด้วยทหารในเรือน
"ลาละครับคุณหลวง"
"อ้อ แล้วทีหลังจะควงใคร
ก็ระวังสายตาชาวบ้านบ้างนะขอรับ
คนที่เขาให้ใจคุณหลวงไป ไม่ใช่มีน้อยๆนะขอรับ"
----------------------------------------------------------------------------------------
แล้วร่างสุงก็วิ่งตามร่างบางที่เดินหายเข้าไปในผู้คน
สายตาคมสอดส่องไปทั่วก่อนจะเห็นร่างบางนั่งอู่ที่ท่าน้ำ
ท่าเดิมที่เคยไปลอยกระทงด้วยกัน
ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปหา ก่อนที่ต้องหยุดยืนอยู่ข้างหลัง
"คุณย่าขอรับ ซึ้งน่าจะเชื่อที่คุณย่าสอนซึ้งไว้นะขอรับ
ว่าไม่ควรให้ใจใครเขาไปง่ายๆ"
หย่อนขาลงน้ำเบาๆก่อนจะขยับไปมา
"ถ้าคุณย่าอยู่กับซึ้งคงจะดีไม่น้อยเลยนะขอรับ
ซึ้งคงไม่เจ็บขนาดนี้เป็นรอบที่สองหรอกนะขอรับ"
แก้้มใสยกยิ้มบงเบา มองอย่างไรก็รู้ว่าเป้นรอยยิ้มที่ฝืนขนาดไหน
"ซึ้งคิดถึงคุณย่าจังเลยขอรับ"
"เดี๋ยวซึ้งกลับเรือนก่อนนะขอรับคุณย่า"
ปาดน้ำตาเสร็จว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน พอหันหลังกลับมาก็ต้องตกใจ
ก่อนที่จะเบี่ยงตัวหนี แต่อีกฝ่ายกลับจับแขนเรียวเล็กก่อนจะกระตุกเบาเบา
"ซึ้งจะกลับบ้าน"
อีกฝ่ายกลับสวมกอดเข้าแน่น ยิ่งทำให้น้ำตาพาลไหลออกมาอีก
"จะเอาอะไรกับซึ้งอีก ฮึก.. ใจซึ้งก็เอาไปแล้ว
เล่นกับมันพอรึยังละคุณหลวง คืนมาได้แล้ว ฮึก.."
มือเรียวดึงกิ๊บเครื่องเงินผีเสื้ออกพร้อมกับถอดสร้อยเงินรูปดาว
ก่อนจะจับมือหนาแบออกพร้อมวางลงไป
"เอาของของคุณหลวงคืนไปได้แล้ว ฮึก…"
"อย่าคิดว่าซึ้งไม่รู้ว่าคุณหลวงมีสาวในเรือนรึไม่
แค่หญิงคนนั้น เขาติดกิ๊บเหมือนซึ้ง ซึ้งก็รู้แล้วว่าคนที่บอกซึ้ง
ว่ากิ๊บสั่งทำของคุณหลวงมันก็สั่งทำให้สาวทั่วราช ฮึก.."
"ซึ้งไม่รู้ว่าคุณหลวงทำไปเพื่ออะไร"
ตากลมพร้อมน้ำตาช้อนมองอย่างตัดพ้อ
"ช่วยลืมว่าเคยรู้จักกัน ขอแค่นั้นได้ไหม"
----------------------------------------------------------------------------------------
"เฮีย ฉันว่ามันอาการหนักแล้วนา
แม่ซึ้งก็ไม่ยอมกินข้าวกินปลามาสามวันแล้ว
แถมยังกักตัวเองอยู่แต่ในห้อง"
เมื่อโดนคุณหลวงวรเทพวานให้มาดูลูกชายคนเดียวที่อยู่ในอาการซึมเศร้า
ก็ได้เสวนากับเฮียของแม่ซึ้ง
"ฉันไม่ชอบไอ้คุณหลวงพยงค์นั้นจริงๆเล้ย
ไม่รักเขา ยังมาทำนิสัยอย่างนี้"
"เฮียว่าไอ้พยงค์ก็ไม่ต่างกับไอ้ซึ้งมันหรอก"
"เฮียก็แก้ตัวให้เพื่อนนะสิ่
ถ้ารักจริงทำไมปล่อยให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้กันเล่า"
ว่าแล้วก็นั่งเถียงกันอยู่หน้าเรือนของแม่ซึ้งใจ
ก่อนจะตกใจกับเสียงที่ออกมาจากเรือน
"ออกไป ซึ้งบอกให้ออกไป ออกไปสิ่!"
----------------------------------------------------------------------------------------
แม่ซึ้งที่กำลังนอนซมเพราะพิษไข้
เนื่องจากไม่กินข้าวกินปลา และการร้องไห้เป็นเวลานาน
นั่งกอดหมอนอยู่บนเตียงก่อนที่จะต้องตะโกนออกมาสุดเสียง
เมื่อคุณหลวงพยงค์ปีนหน้าต่างเรือนเข้ามา
ก่อนที่จะต้องสลบไปเพราะพิษไข้อีกระลอก
คุณหลวงพยงค์รบเปิดประตูเรือน
เป็นที่แปลกใจของร่างสามร่างหน้าเรือน
"ไอ้พยงค์"
"คุณหลวง"
"ขอผ้ากับขันน้ำหน่อยได้ไหม เอาอาหารชุดใหญ่มาเลยก้ได้"
สั่งงานรัวจนข้าทาสในเรือนวิ่งแทบไม่ทัน
แต่ทุกคนในเรือนเริ่มชื้นใจ เมื่อมีคนสามารถเข้าไปดูคุณหนูคนเดียวของเรือนได้
ว่าแล้วคุณหลวงก้ทำการเช้ดตัวให้ร่างที่นอนซมอยุ่
ก่อนที่จะฟุบหลับไปข้างๆเตียง
"ซึ้ง ตื่นมากินข้าวกอ่นได้ไหม"
เขย่าร่างบนเตียงเบาเบา
"จะได้หายไวไวไงละ"
เปลือกตาบางค่อยๆปรือขึ้น กระพริบตาถี่ๆอีกสองสามรอบเพื่อปรับสายตา
ก่อนจะพบว่าคนตรงหน้าเป้นใคร
"อย่ามายุ่งกับซึ้ง"
ปัดมือหนาที่จะยื่นเข้ามาทาบหน้าผาก
"ไปหาแม่สาวคูหาของคุณหลวงเถอะ
ซึ้งรู้ว่าหญิงแม้นกำลังหาทางหมั้นหมายคุณหลวงกับแม่นั่นอยู่"
สรรพนามที่อีกฝ่ายใช้เรียก ดูห่างเหินยิ่งนัก
ราวกับคมดาบที่ปักลงมากลางใจ
"ใจพี่มิเคยคิดสเน่หากับผู้ใด"
"แล้วแขนเรียวที่เคยเกาะเกี่ยวในตอนนั้นเล่า
อย่ามาปฏิเสธว่ามิคิดสเน่หา"
"ถ้าไม่ใช่ซึ้งพี่ก็ไม่เคยคิดสเน่หา"
"คารมของคุณหลวงใช้กับหญิงใดมานักต่อนักแล้ว
ซึ้งไม่เคยที่จะไหวหวั่น
อาจเพราะที่คุณหลวงใช้มากับทุกคนกระมัง
ซึ้งจึงมิคิดจะหวั่นไหวกับคารมพวกนี้"
"เรื่องแม่คูหา พี่มิได้ตั้งใจจริงๆ
เจ้าคุณพ่อแค่ฝากให้พาเดินชมเมืองเท่านั้น"
ได้ทีก็ขึ้นมานั่งข้างๆร่างที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่
"ลงไปเลยคุณหลวง"
ร่างสูงเริ่มใจชื้นเมื้อเห้นรอยยิ้มเล็กๆบนมุมปากบาง
"ลงไปนะขอรับ"
"ไม่ลง~~"
"ลงไปนะครับ พี่พยงค์"
ร่างสูงแถมไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อได้ยินชื่อตนเองที่เสียงหวานเอ่ยออกมา
"ซึ้งไม่โกรธพี่แล้วใช่ไหม"
"หายตั้งแต่เรื่องแม่คูหาอะไรนั้นแล้วขอรับ-w-"
ยิ้มหวานให้ใจพองโตก่อนจะโดนสวมกอดเข้าแน่น
"พี่พยงค์เหมือนเด็กเลย"
เมื่อร่างสูงผละออกก่อนจะวางหัวบนตักอุ่น
"เอากิ๊บกับสร้อยมาคืน"
หยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อก่อนจะโชว์ให้เจ้าของตักนุ่มดู
"เดี๋ยวติดให้นะ"
"ไม่ต้องง เดี๋ยวซึ้งติดเอง"
ว่าแล้วก็หยิบกิ๊บรุปพี่เสื้อมามองดูก่อนที่จะเห็นแสงสีชมพูที่สะท้อนเข้าตา
"ทับทิมหรอ? ไม่เอาแล้ว ของแพงแพงแบบนี้ซึ้งไม่รับ"
"รับไปเถอะ"
ว่าแล้วก็ยัดใส่มือกลับไป
"ถือว่าเป้นของหมั้นอันนึงละกัน"
----------------------------------------------------------------------------------------
"คุณหลวงพยงค์ รัก ซึ้งใจนะครับ"
"รักมากกว่าอีก(.///////////////.)
"ซึ้งเขินแล้วก็น่ารักดีนะ"
ก่อนจะหอมแก้มไปฟอดใหญ่
"ไปตายไปคุณหลวง!"
จบบริบูรณ์----------------------------------------------------------------------------------------
เสวนาพาเพลิน;
รีอัพ จาก บ้านอสูรไทย
Qreaz. 10
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น