ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟาร์มรัก [Thisis LOVE]

    ลำดับตอนที่ #5 : chapter 5

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 57


    บทที่ 5

     

    “เชี่ยเค้กกกกกก          ตุ๊บ” ไอ้เค้กมันเล่นผลักผมลงกลางเตียงเลย แถมแรงมึงใช่เหมือนคนทั่วไปที่ไหน มึงแดรกหมีความเป็นอาหารรึไงวะ

    “กูลองดูว่าเตียงมันนอนได้ดีหรือป่าว กูไม่อยากนอนเตียงแข็งๆ” เหตุผลฟังขึ้น แต่มึงใช้กูเป็นตัวทดสอบเนี่ยนะ

    “สัสเค้ก เตียงบ้านนี้นุ่มจะตายไป ไม่อยากนอนก็ไม่ต้องนอนเว๊ย”

    “หึ ปูผ้าให้กูด้วยล่ะ”

    “ไม่ทำโว๊ยยยยยยย”

     

    “ตุ๊บ!!” เสียงหมอนลอยกระแทกเต็มๆ หน้ากู ไอ้เลว ใช้กูปูผ้าคลุมเตียงดีๆไม่ได้รึไงวะ ทำไมต้องใช้กำลังด้วยวะ

    “ทำดีๆ หรือว่าอยากโดนอีกสักใบ หึ”

    “เออๆๆๆๆ กูทำก็ได้วะ” แล้วผมก็สวมบทตัวเองเป็นคนใช้สักครู่ ต้องมาเตรียมห้องนอนให้ไอ้โจรนี่แหละ หนอย แค่บ้านรวยนิดรวยหน่อยทำเองไม่เป็นรึไงวะ

     

     

     

     

    แต่ก่อนที่ท่านผู้อ่านจะงงไปมากกว่านี้นะครับ เดี๋ยวกระผมจะอธิบายให้ฟังนะว่าทำไมเชี่ยเค้กถึงได้มาอยู่บ้านผมตอนนี้ จำได้ไหมว่าที่มันไปบ้านผมที่เชียงรายครั้งก่อนน่ะแหละ ไม่รู้มันไปตอแหลอะไรมาเหมือนกัน พ่อกับแม่ผมถึงบอกกับให้มานอนที่บ้านเป็นเพื่อนผม เพราะว่าผมนอนคนเดียวไม่ได้นะสิ ผมกลัวโจรเข้าบ้านมากกว่าเจอผีซะอีก ซึ่งผมเคยบอกพ่อกับแม่ไปแล้วนะว่าหมู่บ้านนี้มันไม่มีโจรอะไรหรอก แต่แม่น่ะสิเสนอให้มันมานอนเป็นเพื่อนซะงั้น แถมคุณนายเพียงดาวยังใจดีให้กุญแจบ้านมาอีกด้วย ไม่รู้ว่ามันไม่ใส่มนต์อะไรกับแม่ผม ถึงได้ไว้ใจกันซะขนาดนั้นเชียว ทั้งๆ ที่เจอกันวันเดียวเองนะนั่น หรือไม่งั้นมันก็อาจจะเสนอหน้ามาเองมากกว่า แล้วมันจะมาทำไมวะ  

     

     

     

    แถมมันบอกว่ามันน่ะรู้จักกับไอ้ข้าวอยู่แล้ว โทรบอกไอ้ข้าวแล้วด้วยว่าจะมานอนเป็นเพื่อนผม เล่นเอาผมงงตาแตกกันเลยทีเดียวว่า มึงสองคนไปรู้จักกันตอนไหนวะ ทำไมกูไม่รู้อยู่คนเดียว แถมตอนที่ผมเล่าให้ไอ้ข้าวฟังว่าไอ้เค้กคือโจรบุกบ้านผม มันก็ไม่เห็นว่าอะไรเลยนี่หว่า หรือว่ามันลืมบอกผม มิน่าถึงขำเอาเป็นเอาตายขนาดนั้น กูว่าแล้วเชียวว่ากลิ่นมันทะแม่งๆ  รอพรุ่งนี้ก่อนเหอะมึงเอ๊ย หลายคดีรอมึงแน่ไอ้ข้าวเน่า เตรียมตัวตายได้เลย เดี๋ยวกูจองโลงไว้รอมึงด้วย

     

     

     

     

    แถมตอนนี้ผมต้องจัดห้องนอนให้มันอยู่ ทั้งที่มันมานอนนะครับ แต่แมร่งไม่ค่อยจะทำอะไรเลย นอกจากมากวนผมให้เสียอารมณ์อยู่นั่นแหละ ไม่ว่าจะปูที่นอนรอบสี่สามแล้ว เพราะมันมัวแต่กวนจนหลุดลุ่ยหมดเลย ผมปูมันก็ดึงผ้าออก ไม่งั้นก็มานั่งเตียงตอนที่ผมปูผ้ายังไม่เสร็จ “นี่ มึงจะนอนป่ะ ถ้านอนนะ เชิญมาทำเองเลย” แต่ขอประทานโทษนะ เพราะไอ้เค้กมันไม่สนใจเสียงของผมเลย แถมเดินลงไปเปิดตู้เย็นเอาเบียร์มานั่งจิบหน้าทีวีละครับ ปล่อยให้ผมสาปส่งมันไปปูผ้าไปจนเสร็จ

     

     

     

     

    ผมรู้ละครับว่าเมื่อกี้ทำไมบ้านถึงไม่มีคนอยู่ ก็เพราะไอ้โจรหน้าตาดีที่กำลังดูสารคดีอยู่นั่นแหละ ที่ออกไปซื้อของเพิ่มเติม มันบอกว่าลืมอาหารหลักอาหารเสริมอะไรไม่รู้ของมันที่เอาไว้ตอนจะติวนั่นแหละ ซึ่งอาหารเสริมมันนะทั้งสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่หลายยี่ห้อ มึงจะมาติวรึมาเมากันแน่วะ ยังดีที่มีหมู เห็ด เป็ด ไก่ ช้าง ม้า วัว ควาย เห้ย สามอันหลังนี่ไม่ใช่ละ แถมนี่เพิ่งจะเริ่มเปิดเทอม กูยังไม่มีอะไรมาติวให้หรอกนะ แค่นั้นยังไม่พอนะครับ เพราะมันยังบอกว่าตั้งใจเอาเหล้ามาตุนไว้ด้วย แต่ดันลืมไว้ที่ห้องและขี้เกียจกลับไปเอารอบสอง มึงพร้อมติวมากขนาดนั้นเลยรึไงวะ

     

     

     

     

    แถมกว่าจะจัดห้องจนเสร็จเล่นเอาเหงื่ออกอีกรอบเลย มันเป็นธุระอะไรของผมกันเนี่ย เลยไปหยิบน้องเสือในตู้เย็นมากระป๋องนึง แล้วก็ไปนั่งโซฟาเดียวกับไอ้เค้ก ซึ่งตอนนี้มันกำลังตั้งอกตั้งใจดูอย่างมากกับไอ้ไส้เดือนที่มันกระดึ๊บๆ อยู่ใจจอ ยังกะมันเป็นญาติฝ่ายไหนของมึง แลดูยังกับมึงสื่อสารกับัมนได้ยังงั้นแหละ

     

     

    “หน้าเหมือนมึงเลยว่ะ ฮ่าๆๆๆ” ผมนั่งชี้ไส้เดือนตัวโตที่มันพยายามจะมุดลงดินอยู่  ผมขำใส่มันสักสองสามทีแล้วก็ต้องหยุดกระทันหัน ลืมไปๆ ว่ามันมาทำไม อย่ามัวแต่ขำกันสิ เก็กฟอร์มไว้ไอ้มิลล์ แล้วผมก็หันไปหาไอ้โจรหน้าไส้เดือนที่กำลังมานั่งโซฟาเดียวกับผม

     

    “นี่ไอ้เค้ก ตกลงมึงเสล่อมาบ้านกูทำไมวะ หอมึงไม่มีให้อยู่รึไงกัน”

    “ก็กูบอกแล้วไงว่ามานอนเป็นเพื่อนมึง”

    “เพื่อนกู กูไปเป็นเพื่อนกับมึงตอนไหนวะ อย่ามามั่วนะเว๊ยเชี่ยเค้ก” กูไปตกลงคบค้าสมาคมกับมึงตอนไหนวะไอ้โจรหน้าไส้เดือนเอ๊ย

     

     

    “เอาน่า ยังไงก็รู้จักกันไว้ คนกันเองทั้งนั้น”

     

    “.........”คนกันเอง หือออ กันเองตรงไหนวะ  คือตอนนี้กูงงเป็นอย่างมาก กูงงกว่าเดิมนะ แถมพูดจาไม่มีการขยับผิวหน้าเลยครับ มึงไปฉีดฟอร์มาลีนมารึไงวะ ถึงทำหน้าตาเฉยชาได้ขนาดนี้

     

    “ตามนั้นแหละมึง”มันตอบ ผมได้แต่นั่งครุ่นคิดสักครู่ ไอ้เค้กมันเห็นเลยประทานพลังงานมหาศาลบนมือของมันมาขยี้หัวผมซะกระจุยกระจายทั้งหัว แล้วก็ปล่อยให้ผมนั่งงงต่อไปที่โซฟา ส่วนมันก็ลุกไปข้างบนห้องเรียบร้อยละ

     

     

     

    “สัส” ตัวอะไรก็ได้ ช่วยวิ่งไปกัดมันทีเหอะ น่าหมั่นไส้วะ

     

     

     

    ผมนั่งคิดทบทวนบนโซฟาคนเดียว คือไม่เข้าใจว่า ไอ้โจรหน้าหล่อที่กำลังเดินเผ่นผ่านในบ้านผมตอนนี้มันคิดอะไรของมันกันแน่ ทั้งๆ ที่ไม่เคยจะรู้จักกันแท้ ก็แค่พ่อของผมกับพ่อของมันดันโคตรจะสนิทกัน แล้วลูกๆ อย่างพวกผมจะต้องสนิทกันตามเนื้อเรื่องด้วยหรอ แถมไอ้โจรนั่นก็ไม่เคยจะตอบคำถามที่ได้เรื่องได้ราวสักที พูดเองเออเองอยู่คนเดียว แถมตอนไปบ้านผมที่เชียงรายก็ไม่ได้พูดจาทำหน้านิ่งๆ ไม่แสดงออกทางสีหน้าหรือท่าทางเลย หรือว่าตอนนั้นมันตอแหลกันหว่า คิดไปก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ อึดอัด งง อารมณ์เสียเว๊ยยยยย คิดไม่ออกก็ขอดิ้นบนโซฟาสักนิดนะ “อ๊ากกกก  ตุ๊บ!!!” แหะๆ ดิ้นเยอะไปหน่อยเลยตกโซฟาเลย เจ็บจังฟร่ะ

     

     

     

     

     

     

     

    “ไอ่เตี๊ย”

     

    มาอีกละ คำๆ นี้ กูโครตเกลียดมึงเลยไอ้เค้ก แถมยังเล่นซะตกอกใจหมดเลย กูกำลังเล่นเกมส์ Flappy bird สุดฮิต เพลินๆ กำลังบินได้สวยเลย ต้องมาชนท่อซะละ อุตส่าห์จะทำสถิติสักร้อยแต้มสักหน่อย ทำไมต้องมาตอนกูเล่นเกมส์ทุกทีวะเนี่ย แถมมันยังทำหน้าเฉยๆ เวลาเรียกผมด้วยคำๆ นั้น มันเห็นแล้วโคตรหมั่นไส้อ่ะ อยากกระโดดตีนคู่ถีบยอดหน้าสักที ถ้าผมสามารถกระโดดถึงนะ

     

     

     

     

    “มีไร” มีแต่เสียงที่ตอบมันครับ เพราะตอนนี้อารมณ์เสียเป็นอย่างมาก ใครบอกเล่นเกมส์แล้วฆ่าคนไม่ได้วะ แมร่งเกมส์มันก็มีแค่นี้ ทำไมอารมณ์เสียได้ถึงขีดสุดวะ อยากสอยไอ้นกเฮ็งซวยมาย่างซะเลยนี่

     

     

     

    “กูหิว” มันเดินมาอยู่ข้างหลังผมละ เพราะสัมผัสถึงพลังงานบางอย่างได้ เอานกย่างสักที่ไหมล่ะ เดี๋ยวฆ่ามันก่อนนะ เห้ย นอกเรื่องละ มึงหิวแล้วบอกกูทำไมวะ เห็นกูเป็นเซเว่นรึไงวะ

     

     

     

    “เซเว่นแถวหอมึงก็มี ไปดิ” ผมบอกมันไป แต่ตาก็ยังจ้องเล่นโทรศัพท์อยู่

    “ไม่อยากไป ทำให้กินหน่อย ของอยู่ในตู้นะซื้อไว้แล้ว เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน” แล้วมันก็เดินจากไป เห้ย กูไม่ใช่แม่บ้านร้านอาหารตามสั่งนะ แต่กูยังไม่ได้บอกนิน่าว่าจะทำให้ เอาเป็นว่าขอทำสถิติใหม่อีกสักรอบดีกว่า มันจะแน่สักแค่ไหนวะไอ้นกบ้าเนี่ย ส่วนมึงจะหิวก็เรื่องของท้องมึง ไม่ใช่ท้องกูสักหน่อยนิน่า ช่างมันเหอะ

     

     

     

    ผมเล่นเกมส์ไปเกือบร้อยรอบละมั้ง สถิติสูงสุดได้เยอะมาก 29 แต้ม เจ๋งป่ะวะ ขอเซฟรูปหน้าจอนี้ไปอวดเพื่อนดีกว่า ฮ่าๆๆๆๆ แต่กำลังจะอัพลงไอจี แมร่งเพื่อนแต่ละคนมันได้คะแนนกันเป็นร้อยๆ ละ ของกูได้แค่ยี่สิบกว่าเนี่ยนะ จากนั้นรูปที่ผมเซฟไว้ก็ถูกกดลบทิ้ง เพื่อไม่ให้มีหลักฐานแสดงความโคตรกากของตัวเองเครื่อง ดีนะที่ไหวตัวทัน ไม่งั้นถ้าอัพไปมีหวังถูกล้อตายเลยไอ้มิลล์เอ๊ย

     

     

     

     

    “ตึก ตึก ตึก” เสียงฝีเท้าของคนที่กำลังเดินลงบันไดมา และตอนนี้มันกำลังอยู่หลังโซฟาที่ผมกำลังนอนเล่นอยู่ มึงเป็นโจรหรือผีวะถึงชอบมาเงียบๆ ข้างหลังเนี่ย

     

    “พรึ่บ”

    “เห้ย” ไอ้เค้กมันดึงโทรศัพท์จากมือผมไป แล้วเก็บใส่ในกระเป๋าเสื้อของชุดนอนลายตารางขาวฟ้าของมัน แถมทำหน้าเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นบนโลกนี้ แต่ที่เกิดขึ้นเวลานี้คือ มึงจะโดนมิใช่น้อยนะไอ้เค้ก

    “เอาคืนมานะเว้ยไอ้เค้ก มึงอย่ามานิสัยแบบนี้นะเว๊ย” ผมโวยวายใส่มัน แมร่งนิสัยโคตรแย่มากเลย อยากทำไรก็ทำ ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย

    “มานี่      หมับ!” มันลากผมให้ลุกจากโซฟา แถมลากตามตูดมันยิกๆ แรงควายของมันเล่นเอาข้อมือจะละเอียดแล้วนะ โคตรเจ็บเลย ผมได้แต่โวยวายคนเดียว แต่ขอโทษนะ เหมือนเสียงตดไร้กลิ่นไร้เสียงที่หาได้มีคนสนใจไม่

     

     

     

    แล้วตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่หน้าตู้เย็นในครัว กำลังยืนดูว่าตู้เย็นจะทักทายอะไรกับผม เห้ย จะบ้าไปละ ตู้เย็นมันทักทายได้ที่ไหนกันเล่า

     

     

    “ทำอะไรสักอย่างซะ” ไอ้เค้กปล่อยมือผม แล้วก็เปิดตู้เย็นออกมา แต่กูไม่มีอารมณ์ทำเว๊ย ผมเลยยืนดูบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์และเพื่อนเมา ที่นอนแผ่หลาในตู้เย็น คงจะหนาวกันใช่ไหม โถๆ ช่างน่าสงสารซะจริง

     

     

    “มึงเป็นไร”ไอ้เค้กเห็นผมยืนยิ้มกวนๆ อยู่หน้าตู้เย็น มันเลยประทานฝ่ามืองามๆ ลูปกระหม่อมหนึ่งฉาด กูไม่ใช่ลูกทาสนะเว้ย เอาแต่ต่อยตีกูนั่นแหละ ขอเอาคืนสักทีดีไหมวะ และขณะที่กำลังหันไปเพื่อจะขอคืนสักป๊าป แต่ดันเจอสายตานิ่งๆ พร้อมกับร่างกำยำของไอ้เค้ก ดูกูกลายเป็นลูกหมาเลยวะ ใจแป้วขึ้นมาทันที แถบมันเอาฝ่ามือควายๆ ของมันจับหัวผมหันหน้ากลับไปทางตู้เย็นเหมือนเดิม ทำไมกูอ่อนด๋อยขนาดนี้วะ ผู้ชายเหมือนกันนะเนี่ย

     

    “โอ๊ย ไอ้เชี่ยเค้ก ตีกูอยู่นั่นแหละ กูจะบอกพ่อกู กูไม่ทำให้หรอก อยากแดรกก็ทำเองซิวะ” ผมกำลังเดินหนี แต่ถูกมือไอ้เชี่ยเค้กจับไว้แล้วลากมาหน้าตู้เย็นเหมือนเดิม

     

     

    สรุปว่ายังไงผมก็ต้องทำอาหารมื้อดึกให้มันได้แดรกสมใจมันใช่ไหมเนี่ย ถึงกับยืนกอดอกเฝ้าผม ให้ผมขนเอาของต่างๆมา โดยมันช่วยถือให้ แต่พอผมขนผักกับเนื้อและอื่นๆออกมาไว้ในครัวเสร็จสรรพ ไอ้เค้กก็จรลีตัวเองไปห้องรับแขกเฉยเลย ถ้ากูแอบใส่ยาพิษมึงคงไม่รู้สินะ ทำไมผมต้องบ้ามาทำอาหารตามคำสั่งไอ้เค้กด้วยเนี่ย ขณะทำอาหารก็สาปแช่งไปด้วยทำไปด้วย ขอเผาพริกเผาเกลือแช่งด้วยดีไหมเนี่ย คงจะอร่อยนะมึง พอรู้ตัวอีกทีมือไม้ก็กวัดแกว่งมีดและตะหริวทำอาหารอย่างคล่องแคล่ว ราวกับหัตถ์เทพเจ้าอย่างงั้นเลย เมนูที่ผมทำตอนนี้ก็คือยำเนื้อย่างกับสปาเก็ตตี้ซีฟู๊ด แลดูเหมาะกับกระเพาะอย่างมันละในเวลาดึกๆ อย่างนี้ ตอนที่เอาของออกตู้เย็นยังไม่ทันรู้สึกอะไร เพราะจับๆ มาทั้งนั้น แล้วพอทำเสร็จถึงกับอึ้ง เพราะว่าไอ้เค้กมันเล่นซื้อสารพัดอย่างตุนไว้ในตู้เย็นจริงๆ ทำไมรู้สึกตะหงิดๆ แปลกๆ ว่ามีวัตถุดิบที่ทำอาหารจริงๆ ได้ครบเลย ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้ขอเอาพริกขี้หนูแม้วทั้งเม็ดแอบยัดในเนื้อกับกุ้งสักหน่อยเหอะ ขอให้อร่อยนะไอ้โจรบ้าเอ๊ย

     

     

     

     

    “ตึก!!!” เสียงจานอาหารวางบนโต๊ะหน้าโซฟาที่มันนั่งดูสารคดีอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับสัตว์พิษนี่แหละ เข้ากับมึงมากเลยนะ พวกมนุษย์เจ้าเล่ห์เพทุบายมีพิษสงมากมายเนี่ย

    “กินให้อร่อยล่ะ” ผมพูดแค่นี้แหละ มันหันมามองหน้าผมนิ่งๆ อีกละ ซึ่งไม่รู้ว่ามันต้องการสื่ออะไร ดังนั้น เมื่อไม่รู้ว่ามันสื่ออะไรอยู่ ผมเลยกะจะเดินกลับไปเก็บของในครัว

    “เดี๋ยว” มันจับมือผมแล้วกระชากให้นั่งลงบนโซฟาข้างๆ มัน แมร่งโครตเจ็บเลย

    “มีไรอีกมึง อาหารก็ก็ทำให้แล้ว ปล่อยดิ กูจะไปเก็บของในครัว” มันนั่งนิ่งๆ มองหน้าผมเหมือนกำลังฟังผมอยู่ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่นะ

     

    “มึงแอบใส่อะไรในอาหารรึป่าว” หลังจากมันจ้องหน้าผม มันก็พูดสักที แต่เอ๊ะ หรือว่ามันจะรู้วะ ว่าผมแอบใส่ยัดพริกไว้ในเนื้อกับกุ้งอ่ะ มึงมีญาณทิพย์หรือเลี้ยงลูกหรอกกันแน่ฟร่ะ

     

    “ใส่อะไร ถ้าไม่กินก็ไม่ต้องกินก็ได้” ผมพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด เหมือนที่มันกำลังทำอยู่ตอนนี้

     

    “งั้นมึงลองกินดูสักคำ อ่ะ” มันพูดเสร็จก็ตักเนื้อในจานให้ผม เห๊ยมึง นั่นมันชิ้นที่กูใส่พริกนี่หว่า เหมือนว่าจะเป็นพริกขี้หนูแม้วด้วยนะนั่น ชิบหายละ เม็ดเดียวสามารถระเบิดกระเพาะได้เลยนะนั่น มึงเลี้ยงลูกกรอกไว้จริงๆ หรือเปล่าวะ มันแม่นเกินไปละ

     

    “เออ....กูไม่กินเนื้อตอนดึกอ่ะ มันย่อยยากอ่ะ” ผมแก้ตัวไปได้เฉียดไป เพราะมันตักเนื้อจะจ่อปากผมแล้ว รอดไปๆ อันที่จริงผมก็ไม่ใมช่คนไม่ทานเผ็ดนะ แค่อาหารไหนที่ผมว่ามันไม่เข้าก็จะค่อยกิน อาหารอันไหนต้องมีรสเผ็ดก็กินแบบเผ็ดๆ น่ะแหละ แต่ว่า พริกเม็ดนี้ขอบายละกัน มันขึ้นชื่อเกินไป กลัวลำไส้ระเบิด แหะๆ ไอ้เค้กมันเลยเอาไปวางในจานเหมือนเดิม แต่แค่นั้นยังไม่พอครับ

     

    “อ่ะอ้าปาก อันนี้ย่อยง่าย”

    “เห๊ยยยยย” ไอ้เค้กใช้มืออีกข้างดันท้ายทอยผมไม่ให้ถอยได้ ส่วนมืออีกข้างมันตักกุ้งมาจ่อปาก และตอนที่กำลังเผลออ้าปากนี่แหละมันดันยัดกุ้งตัวโตเข้าปากผมทันที

     

    “มั่นใจฝีมือตัวเองหน่อยดิ” มันพูดแล้วหลุดยิ้มมุมปาก เฟ็ดเฟ่แล้วไงล่ะทีนี้ ผมว่ามันคงเลี้ยงลูกกรอกไว้จริงๆ  ก็กุ้งที่มันตักมาอ่ะ เป็นตัวที่ผมยัดพริกไว้ด้วย สุดยอดครับอร่อยมาก หมึกแดงคอนเฟิร์มคร้าบบ ถุย!!

     

    ตอนนี้ผมรู้สึกวูปวาปไปทั้งหน้า และหู และรู้สึกเหงื่อเริ่มฝุดขึ้นเต็มตัวเลยครับ ไม่ไหวแล้วโว๊ยยย มันโครตเผ็ดเลยพริกนี้อ่ะ ไอ้เค้กเห็นผมกำลังอยู่ไม่สุขมันเลยมองหน้าผมแปลก แต่เห็นแอบยิ้มมุมปากอีกละ

     

    “ไม่อร่อยหรอ ไหนว่าฝีมือดีไงวะ หึหึ” แล้วมันก็ก้มหน้าไปกินอาหารที่อยู่ตรงหน้า ผมได้แต่ถลึงตาใส่มัน แต่ทำได้แปปเดียวเท่านั้นแหละ ไม่ไหวละขอตัวหาไรแห้เผ็ดก่อน แล้วผมก็ลุกจากโซฟาที่ทีไอ้โจรที่กำลังกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยอยู่

     

    ผมต้องเอาน้ำแข็งมาอมไว้ เพราะไม่อยากกินน้ำเย็นอ่ะ มันจะจุกอ่ะดิ โชคดีที่ไอ้โจรนั่นมันซื้อเตรียมไว้ด้วยเหมือนกัน ผมอมจนลิ้นกับปากชาไปหมดละ หายเผ็ดสักที ผมสงสัยว่าไอ้เค้กมันรู้ได้ไงวะว่าอันไหนมันมีพริกอยู่ ถ้ามันจะมั่วล่ะก็ จะโชคดีเกินไปไหมน่ะ พอรู้สึกว่าร่างกายกลับเข้าโหมดปกติแล้วผมก็เก็บของในครัวให้เข้าที่เหมือนเดิมตามสไตล์ผม เพราะห้องนี้เป็นห้องของผมครับ ไอ้ข้าวมันไม่ค่อยมาใช้ห้องนี้เท่าไหร่ นอกจากมาต้มมาม่ากิน หรือไม่งั้นก็มากวนผมทำอาหารนั่นแหละ ข้าวของทุกอย่างเลยถือว่าเป็นของผมครับ ซื้อมาไว้เกือบทั้งหมดแน่ะ เห็นแล้วมันมีความสุขดีครับ เวลามีเครื่องครัวครบมือ ทำอาหารอะไรก็คล่องเลย แถมอร่อยด้วย ฝีมือเทพจริงๆ นะเราเนี่ย

     

     

     

     

    ผมเก็บของเสร็จแล้วก็กลับไปที่ห้องรับแขกที่ไอ้เค้กกำลังนั่งคุยโทรศัพท์กับสาวๆของมัน พูดจ๊ะจ๋าน่ารำคาญ ตอแหล เวลาคุยกับกูนี่แทบจะหาคำสุภาพไม่ได้เลย ยกเว้นคุยต่อหน้าพ่อกับแม่เหมือนที่อยู่ที่บานนั่นแหละ พอผมกำลังจะนั่งโซฟาอีกตัวที่มันอยู่ติดกัน ไอ้เค้กก็วางสายพอดี

     

    “อาหารอร่อยเหมือนเดิมนะ” มันเก็บโทรศัพท์ใส่กางเกง แล้วหันมาบอกผมด้วยสีหน้าท่าทางและน้ำเสียงที่โคตรจะเรียบและเนียบมาก ต่างจากที่มันคุยโทรศัพท์ตะกี้เลย แมร่งโคตรตตอแหลอ่ะ

     

    “แน่นอนน ฝีมือกูขั้นเทพ” ผมบอกมันพร้อมกับยืดอกเล็กน้อยโชว์ความเทพของตัวเอง แต่เหลือบเห็นจานอาหารทั้งสองจานที่มันเหลือเนื้อกับกุ้งอย่างละหนึ่งชิ้น

     

    “ทำไมมึงกินไม่หมดล่ะ ไหนว่าอร่อยไม่ใช่หรอ”

     

    “กูไม่ชอบกินเผ็ดเท่าไหร่ หึหึ” มันหยิบจานออกไป แล้วเอาไปล้างที่ห้องครัว แต่เอ๊ะ มันหมายความว่าไงวะ ไม่ค่อยกินเผ็ด แต่ยำก็เผ็ดระดับนึงมันก็กินไปหมด สปาเก็ตตี้ก็ด้วยนิน่า ไม่เห็นเหตุผลที่มันเข้ากันเลยนี่หว่า หรือว่ามันรู้ว่าผมแอบเอาพริกใส่จริงๆ วะ จะไปถามมันก็ไม่ได้ เดี๋ยวมันจะหาว่าผมแอบแกล้งมัน ซึ่งคนที่โดนก็อาจจะเป็นผมเอง งั้นก็ช่างมันเถอะ โว๊ยยย ท่านมิลล์อารมณ์เสียโว๊ย แก้แค้นก็ไม่สำเร็จ รอก่อนเหอะมึง เดี๋ยวมึงต้องโดนสักครั้งบ้างล่ะเว๊ย

     

     

     

    “เห้ยยย อะไรวะเนี่ย” ไอ้เค้กมันอยู่ข้างหลังผมแล้วก็สะบัดน้ำที่ติดบนมือใส่หัวผม แถมเอามือมาเช็ดเสื้อผมอีก นี่มึงจะเกินไปละ

     

    “ก็อย่างที่เห็น ไม่เป็นไรหรอก มึงก็ยังไม่ได้อาบน้ำนี่นา” มันพูดเสร็จก็เดินอ้อมมานั่งโซฟาแล้วก็เปลี่ยนช่องไปดูรายการฝรั่งสักอย่างนี่แหละ ที่พิธีกรกำลังแดกงูตัวเล็กๆ ที่บังเอิญว่ายน้ำผ่านมา แมร่งเคี้ยวยังกับหมากฝรั่งเลย ยึ๋ยยย รายการอะไรมันเนี่ย ไอ้เค้กเป็นโรคจิตรึป่าวเนี่ย

     

    “ไอ้เค้ก เอาโทรศัพท์กูคืนมา”

    “อ่ะ” มันหยิบโทรศัพท์ของผมส่งคืนมาให้อย่างง่ายดาย ผมรู้สึกระแวงๆ ไงไม่รู้แหะ เดี๋ยวพูดเองเออเอง ทีตอนนี้พูดง่ายจังวะ มึงเป็นมนุษย์ที่โคตรประหลาดเลย

    ..............................................................................

     

     

    หลังจากทำเสร็จธุระที่มันไม่ใช่สาระของผมแล้ว ก็ขอจรลีพลีกายใต้ฝักบัวเย็นๆ ชำระร่างกายที่เต็มไปด้วยคราบเหงื่อจากตอนที่กินพริกนั่นแหละ เล่นเอาเหนียวตัวได้ใจมาก คิดแล้วก็น่าโมโหจริงๆ คนอะไรวะ แมร่งมีญาณทิพย์รึไงวะ หึ่ย

     

     

    พออาบน้ำเสร็จก็ขอตัวเตรียมเข้านอนก่อนนะครับ โดยการเล่นโซเชี่ยวเน็ตเวิร์คทั้งหมดที่มีก่อนนอน แหะๆ ทั้งเฟสบุ๊ค ไอจี โซเชี่ยวแคม ทวิตเตอร์ ไม่เยอะนะว่าไหม เค้าก็เล่นกันประมาณนี้แหละมั้ง เล่นให้มันเพลินๆ แล้วก็ง่วงหลับไป แต่ผมก็ทำมาหลายครั้งแล้ว แต่ยิ่งเล่นยิ่งตาสว่างแห๊ะ ไม่เห็นจะง่วงเลย เล่นจนไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆในโลกเนตเวิร์คแล้ว งั้นผมก็ขอนอนละกัน เพราะมันใกล้จะตีสองกว่าแล้ว นอนๆๆๆๆ

     

     

    ส่วนไอ้โจรนั่นก็เข้าห้องนอนตั้งแต่เอาโทรศัพท์มาคืนผมแล้ว สบายจริงนะมึง  นี่มึงมานอนเป็นเพื่อนกูหรือว่ามานอนพักโรงแรมกันวะ โครตจะเอาแต่ใจเลย ช่างมันเหอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไอ้ข้าวมันก็มานอนเป็นเพื่อน มึงจะได้ไปสักที

     

     

    “ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงไรว ใครมาเคาะห้องกูเนี่ย กำลังจะเคลิ้มหลับเลย ช่างแมร่ง กูจะนอนเว๊ย เคาะให้มือแตกไปเลย ถ้าเป็นโจรก็ฝากไอ้โจรห้องข้างๆ จัดการละกัน แรงยิ่งกว่าหมีความ ฝันดีนะครับคุณโจรกระจอก

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×