ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 “เอาคืน”
ไม่ถึงอาทิตย์กับสถานที่ใหม่ ผมกับไอแม็คสร้างวีรกรรมไว้เยอะมากทั้งดีและไม่ดีไม่รู้เป็นอะไร วันๆ มันไม่ค่อยอยู่สุขกันเท่าไหร่
“เลย์…เย็นนี้ไปเล่นบาสเปล่า” ไอเตี้ยเอ้ยเข้าใจชวนจริงนะแก
“ไม่อ่ะ…เล่นไม่เป็น…แล้วก็ไม่อยากหัดเล่นด้วย” ผมบอกปฏิเสธไปครับ
“ไมว่ะ…โห…เล่นอะไรให้เป็นผู้ชายมั่งดีนายอะ” มันย้อนผมครับ
อันที่จริงในตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้ตัวหรอกครับว่าผมเป็นเกย์ แต่พอมันมาพูดแบบนี้แล้วมันก็เลยสะกิดใจเล็กน้อย
“อืม..ไปก็ไป” ผมยอมเออออไปกับมัน เพื่อที่ไม่ให้มันมาย้อนผมอีก
อีกอย่างวันนี้ก็วันศุกร์ด้วยเด็กคงรีบกลับบ้านกันคงมีคนเล่นไม่เยอะเท่าไหร่หรอก อันนี้ผมคิดเองครับ
แต่พอมาถึงสนามบาสในตอนเลิกเรียน
“โห…ไรว่ะ ไม่กลับบ้านกันอีก” แม็คอุทานขึ้น
“บอกแล้วว่าอย่าเล่นเลย คนมันเยอะเดี๋ยวก็โดนลูกหลงหรอก” ผมพยายามกล่อมมันให้เปลี่ยนใจอยู่ครับ
“ไง…มึง” เสียงนี้ผมจำได้แล้วครับ
“มาเล่นบาสหรอ ระวังนะโว้ย…ฮา..ฮา” ไอนี้มันจะกวนตีนผมไปถึงไหนเนี๊ย ผมโคตรเกลียดมันเลยครับ
“แม็คจะเล่นอยู่รึเปล่าบาสอ่ะ” ผมหันไปถามไอแม็คแบบไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
“ไม่เป็นไร…ไม่เล่นก็ได้” มันคงจะเข้าใจผมครับ
“ทำไมไม่เล่น…” ไอแม็คทำหน้างงหลังจากได้ยินประโยคนั้นของผม
“ถ้าจะเล่นนายเล่นคนเดียวนะ แล้วทำแบบวันนั้นให้ด้วย” ผมบอกกับแม็ค
“ไม่แล้วหล่ะ วันนี้ไม่อยากเล่นแล้ว” ดูมันดิครับ ยืมมือฆ่าคนซะหน่อยกลับปฏิเสธได้ มันไม่รู้ใจผมเอาซะเลย
“เราว่า มันจำหน้าเราได้นะ” แม็คพูดข้างหูผมเบาๆ ครับ
อ้าวซวยเลย แล้วต่อไปกูจะให้ใครแก้แค้นให้หล่ะทีนี้
“ปะ..ปะเหอะ มันเดินมาทางนี้แล้ว” แม็คบอกผม วันนี้มันเป็นอะไร ทำไมมันปอดแหกแบบนี้ก็ไม่รู้
“เฮ้ยมึงอะ…เอานี้”
“โอ้ย…ใครว่ะแม่ง” ไอนั้นครับ มันเอาลูกบาสขว้างใส่หัวไอแม็ค มันคงจะเจ็บมากร้องแบบไม่เก็บอารมณ์ไม่สมกับเป็นลูกครูเลย
“กวนตีนเข้านะมึง” โหไอนั้นมันชี้หน้าบอกไอแม็คครับ ไอแม็คก็หน้าเสียดิคราวนี้
ก็เลยต้องเป็นหน้าที่ผมที่ต้องลากเพื่อนรักที่กำลังเอ๋อแดกออกมาจากอาคารกีฬา
ตอนนี้นะครับ ผมสงสารไอแม็คมากเลย ที่โรงเรียนเก่าผมนะเด็กจะสุภาพกันมาก ไม่มีอะไรแบบนี้หรอกครับ คืออย่างน้อยก็จะไม่มีเด็กเถื่อนแบบนี้อยู่ และที่สำคัญไอแม็คไม่เคยโดนแบบนี้ด้วย
“เลย์…เรากลับบ้านกันปะ” น่าสงสารครับ มันน้ำตาคลอด้วย
“เป็นไรเปล่า…” ผมถามมันด้วยความเป็นห่วงครับ
แต่สิ่งที่มันแสดงกลับมาก็คือ
“ฮือ…ฮึ…ฮึ…” เอาแล้วครับ มันร้องไห้แล้ว โดยมีผมยืนโอบไหล่มันไว้ แล้วมันเอาหน้าซบลงมาที่ไหล่ผม
“ร้องทำไม…ไม่เป็นไรหรอกนะ…แค่นี้เอง…” ผมพยายามปลอบมันครับ อันที่จริงผมก็มีส่วนผิดอยู่มาก เพราะไอคนที่ทำไอแม็คร้องไห้มันเป็นคู่กรณีกับผม แต่ที่แม็คมันเป็นแบบนี้ก็เพราะมันพยายามปกป้องผม คิดได้แบบนี้ ผมก็เริ่มน้ำตาคลอเบ้า
ถ้าใครผ่านไปผ่านมาและเห็นภาพนี้ก็คงคิดว่า เด็กสองคนกำลังร้องไห้เพราะผู้ปกครองไม่มารับแน่นๆ
สรุปว่านั่นเป็นเหตุการณ์ที่ผมกับไอแม็คจำได้อย่างดี และไม่เคยลืม มันเป็นเรื่องเด็กๆ ครับ แต่มันมีอะไรไม่รู้ที่ทำให้ผมกับไอแม็คสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก
ไม่น่าเชื่อนะครับว่า ผมกับไอแม็คจะคบกันได้นานโดยที่ไม่เบื่อหน้ากัน หรือเบื่ออันนี้ต้องถามมันดู แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาจนผมกับไอแม็คขึ้นชั้น ม.3 แล้ว และไอแม็คก็เริ่มมีผู้หญิงมาชอบ เพราะอะไรหรอครับ ก็มันหล่อไง ผมก็พึ่งยอมรับตอนนี้เองว่ามันหล่อ หน้ามันออกไปทางพ่อมัน คือพ่อมันเป็นลูกครึ่งอังกฤษกับไทยครับ โดยที่ปู่มันเป็นคนอังกฤษย่ามันเป็นคนไทย แล้วพ่อมันก็แต่งงานกันแม่มันที่เป็นคนไทย และได้มันออกมา งงเปล่าครับ ถ้างงย้อนกลับไปอ่านใหม่นะครับ
ตอนนี้ผมกับไอแม็คไม่ได้ตัวเตี้ยเหมือนเดิมแล้ว ด้วยผลบุญจากที่เรากินนมกับขนมปังเป็นอาหารกลางวันมาตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าๆ และก็ช่วง ม.2 - ม.3 เป็นช่วงที่เด็กผู้ชายร่างกายกำลังยืด ทำให้ตอนนี้จากที่ต้องนั่งหน้าสุดของห้อง ก็ได้ย้ายมาเกือบหลังสุดของห้อง แต่ผมกับมันก็ยังขยันเรียนเหมือนเดิมแหละครับ
“เลย์…น้อง ม.2 เค้าชอบเราหว่ะ” แม็คเดินมาบอกผมขณะที่ผมกำลังนั่งทำการบ้านอยู่ที่ห้องสมุด
“อืม…ดีแล้ว” ผมตอบมันไปเบาๆ
“เค้าชอบเรามากเลยนะโว้ย” เพื่ออะไรนิมึง กรูจะทำงาน
“ก็ดีแล้วไง” ผมยังก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ
“เค้าถามว่าเรามีแฟนยัง” เอ้าตามใจมึง จะพูดอะไรก็ตามใจมึง
“เราตอบว่ามีแล้ว” รีบเล่ารีบหมดนะมึงกูจะทำงาน
“เราบอกว่า เรากับนายเป็นแฟนกัน” ฉิบหายแล้ว………..
“ทำไมนายบอกแบบนี้ว่ะ…” ผมถามมันแบบอึงๆ
“นายก็ไปดูหน้าน้องเค้าดิ แม่งโคตรปัญญาอ่อนเลย” มันด่าผู้หญิงที่มาชอบมันได้อย่างไม่ละอายใจเลยครับ
“เราก็เลยตัดปัญหาซะ…” แต่เสือกเอากรูไปเกี่ยวด้วยเนี๊ยนะ
“ทำไรอยู่ว่ะ” มันเริ่มสำนึกที่จะถามผมแล้วครับ
“การบ้าน…”
“วิชาไร…” มันถามผม
“วิชาเพื่อนแม่นาย” ผมกวนตีนมัน
“อ๋อ……ภาษาไทย” ยังจำได้ไหมครับ อาจารย์เพื่อนแม่ไอแม็ค แกตามมาสอนชั้น ม.3 ของผมด้วย
“ลอกต่อนะ…” กรูรู้แล้วหล่ะ กูกำลังเร่งอยู่นี้ไง
“เลย์…ไปที่อื่นเถอะ” ไอนี้กรูบอกจะทำงานชวนไปไหนอีกหล่ะ
“เลย์…ไอบาสมา” ไอบาสคือไอคนที่ทำลูกบาสกระแทกหน้าผม แล้วก็ขว้างลูกบาสใส่หัวไอแม็คครับ คือผมสองคนตกลงกันว่า จะเรียกมันว่าไอบาส
ผมนิ่งเงียบซักพักแล้วบอกไอแม็คว่า “ปะ…กลับบ้านกันเถอะ วันนี้ท่าทางซวยอีกแล้ว”
ผมเก็บของบนโต๊ะแล้วเดินออกไปกลับไอแม็ค โดยที่ผมไม่มองหน้ามัน เชื่อไหมครับ ตั้งแต่เกิดเรื่องในสมัยที่ผมกับไอแม็คอยู่ ม.1 ผมก็ไม่เคยมองหน้ามันแบบเต็มๆ อีกเลย จะว่าเกลียดก็ได้ครับ แต่ไอแม็คอะครับ มองมันตลอด ไอนี้ท่าทางมันจะแค้นมาก
ช่วง ม.3 เป็นช่วงที่พวกผมต้องเข้าค่ายลูกเสือกันในช่วงเดือนมกราคม และช่วงนี้เองครับที่เป็นช่วงที่เกิดจุดเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างในชีวิตผม และทำให้ผมรู้ตัวว่าผมเป็นเกย์มาจนถึงทุกวันนี้
“เลย์…เย็นนี้ไปเล่นบาสเปล่า” ไอเตี้ยเอ้ยเข้าใจชวนจริงนะแก
“ไม่อ่ะ…เล่นไม่เป็น…แล้วก็ไม่อยากหัดเล่นด้วย” ผมบอกปฏิเสธไปครับ
“ไมว่ะ…โห…เล่นอะไรให้เป็นผู้ชายมั่งดีนายอะ” มันย้อนผมครับ
อันที่จริงในตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้ตัวหรอกครับว่าผมเป็นเกย์ แต่พอมันมาพูดแบบนี้แล้วมันก็เลยสะกิดใจเล็กน้อย
“อืม..ไปก็ไป” ผมยอมเออออไปกับมัน เพื่อที่ไม่ให้มันมาย้อนผมอีก
อีกอย่างวันนี้ก็วันศุกร์ด้วยเด็กคงรีบกลับบ้านกันคงมีคนเล่นไม่เยอะเท่าไหร่หรอก อันนี้ผมคิดเองครับ
แต่พอมาถึงสนามบาสในตอนเลิกเรียน
“โห…ไรว่ะ ไม่กลับบ้านกันอีก” แม็คอุทานขึ้น
“บอกแล้วว่าอย่าเล่นเลย คนมันเยอะเดี๋ยวก็โดนลูกหลงหรอก” ผมพยายามกล่อมมันให้เปลี่ยนใจอยู่ครับ
“ไง…มึง” เสียงนี้ผมจำได้แล้วครับ
“มาเล่นบาสหรอ ระวังนะโว้ย…ฮา..ฮา” ไอนี้มันจะกวนตีนผมไปถึงไหนเนี๊ย ผมโคตรเกลียดมันเลยครับ
“แม็คจะเล่นอยู่รึเปล่าบาสอ่ะ” ผมหันไปถามไอแม็คแบบไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
“ไม่เป็นไร…ไม่เล่นก็ได้” มันคงจะเข้าใจผมครับ
“ทำไมไม่เล่น…” ไอแม็คทำหน้างงหลังจากได้ยินประโยคนั้นของผม
“ถ้าจะเล่นนายเล่นคนเดียวนะ แล้วทำแบบวันนั้นให้ด้วย” ผมบอกกับแม็ค
“ไม่แล้วหล่ะ วันนี้ไม่อยากเล่นแล้ว” ดูมันดิครับ ยืมมือฆ่าคนซะหน่อยกลับปฏิเสธได้ มันไม่รู้ใจผมเอาซะเลย
“เราว่า มันจำหน้าเราได้นะ” แม็คพูดข้างหูผมเบาๆ ครับ
อ้าวซวยเลย แล้วต่อไปกูจะให้ใครแก้แค้นให้หล่ะทีนี้
“ปะ..ปะเหอะ มันเดินมาทางนี้แล้ว” แม็คบอกผม วันนี้มันเป็นอะไร ทำไมมันปอดแหกแบบนี้ก็ไม่รู้
“เฮ้ยมึงอะ…เอานี้”
“โอ้ย…ใครว่ะแม่ง” ไอนั้นครับ มันเอาลูกบาสขว้างใส่หัวไอแม็ค มันคงจะเจ็บมากร้องแบบไม่เก็บอารมณ์ไม่สมกับเป็นลูกครูเลย
“กวนตีนเข้านะมึง” โหไอนั้นมันชี้หน้าบอกไอแม็คครับ ไอแม็คก็หน้าเสียดิคราวนี้
ก็เลยต้องเป็นหน้าที่ผมที่ต้องลากเพื่อนรักที่กำลังเอ๋อแดกออกมาจากอาคารกีฬา
ตอนนี้นะครับ ผมสงสารไอแม็คมากเลย ที่โรงเรียนเก่าผมนะเด็กจะสุภาพกันมาก ไม่มีอะไรแบบนี้หรอกครับ คืออย่างน้อยก็จะไม่มีเด็กเถื่อนแบบนี้อยู่ และที่สำคัญไอแม็คไม่เคยโดนแบบนี้ด้วย
“เลย์…เรากลับบ้านกันปะ” น่าสงสารครับ มันน้ำตาคลอด้วย
“เป็นไรเปล่า…” ผมถามมันด้วยความเป็นห่วงครับ
แต่สิ่งที่มันแสดงกลับมาก็คือ
“ฮือ…ฮึ…ฮึ…” เอาแล้วครับ มันร้องไห้แล้ว โดยมีผมยืนโอบไหล่มันไว้ แล้วมันเอาหน้าซบลงมาที่ไหล่ผม
“ร้องทำไม…ไม่เป็นไรหรอกนะ…แค่นี้เอง…” ผมพยายามปลอบมันครับ อันที่จริงผมก็มีส่วนผิดอยู่มาก เพราะไอคนที่ทำไอแม็คร้องไห้มันเป็นคู่กรณีกับผม แต่ที่แม็คมันเป็นแบบนี้ก็เพราะมันพยายามปกป้องผม คิดได้แบบนี้ ผมก็เริ่มน้ำตาคลอเบ้า
ถ้าใครผ่านไปผ่านมาและเห็นภาพนี้ก็คงคิดว่า เด็กสองคนกำลังร้องไห้เพราะผู้ปกครองไม่มารับแน่นๆ
สรุปว่านั่นเป็นเหตุการณ์ที่ผมกับไอแม็คจำได้อย่างดี และไม่เคยลืม มันเป็นเรื่องเด็กๆ ครับ แต่มันมีอะไรไม่รู้ที่ทำให้ผมกับไอแม็คสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก
ไม่น่าเชื่อนะครับว่า ผมกับไอแม็คจะคบกันได้นานโดยที่ไม่เบื่อหน้ากัน หรือเบื่ออันนี้ต้องถามมันดู แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาจนผมกับไอแม็คขึ้นชั้น ม.3 แล้ว และไอแม็คก็เริ่มมีผู้หญิงมาชอบ เพราะอะไรหรอครับ ก็มันหล่อไง ผมก็พึ่งยอมรับตอนนี้เองว่ามันหล่อ หน้ามันออกไปทางพ่อมัน คือพ่อมันเป็นลูกครึ่งอังกฤษกับไทยครับ โดยที่ปู่มันเป็นคนอังกฤษย่ามันเป็นคนไทย แล้วพ่อมันก็แต่งงานกันแม่มันที่เป็นคนไทย และได้มันออกมา งงเปล่าครับ ถ้างงย้อนกลับไปอ่านใหม่นะครับ
ตอนนี้ผมกับไอแม็คไม่ได้ตัวเตี้ยเหมือนเดิมแล้ว ด้วยผลบุญจากที่เรากินนมกับขนมปังเป็นอาหารกลางวันมาตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าๆ และก็ช่วง ม.2 - ม.3 เป็นช่วงที่เด็กผู้ชายร่างกายกำลังยืด ทำให้ตอนนี้จากที่ต้องนั่งหน้าสุดของห้อง ก็ได้ย้ายมาเกือบหลังสุดของห้อง แต่ผมกับมันก็ยังขยันเรียนเหมือนเดิมแหละครับ
“เลย์…น้อง ม.2 เค้าชอบเราหว่ะ” แม็คเดินมาบอกผมขณะที่ผมกำลังนั่งทำการบ้านอยู่ที่ห้องสมุด
“อืม…ดีแล้ว” ผมตอบมันไปเบาๆ
“เค้าชอบเรามากเลยนะโว้ย” เพื่ออะไรนิมึง กรูจะทำงาน
“ก็ดีแล้วไง” ผมยังก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ
“เค้าถามว่าเรามีแฟนยัง” เอ้าตามใจมึง จะพูดอะไรก็ตามใจมึง
“เราตอบว่ามีแล้ว” รีบเล่ารีบหมดนะมึงกูจะทำงาน
“เราบอกว่า เรากับนายเป็นแฟนกัน” ฉิบหายแล้ว………..
“ทำไมนายบอกแบบนี้ว่ะ…” ผมถามมันแบบอึงๆ
“นายก็ไปดูหน้าน้องเค้าดิ แม่งโคตรปัญญาอ่อนเลย” มันด่าผู้หญิงที่มาชอบมันได้อย่างไม่ละอายใจเลยครับ
“เราก็เลยตัดปัญหาซะ…” แต่เสือกเอากรูไปเกี่ยวด้วยเนี๊ยนะ
“ทำไรอยู่ว่ะ” มันเริ่มสำนึกที่จะถามผมแล้วครับ
“การบ้าน…”
“วิชาไร…” มันถามผม
“วิชาเพื่อนแม่นาย” ผมกวนตีนมัน
“อ๋อ……ภาษาไทย” ยังจำได้ไหมครับ อาจารย์เพื่อนแม่ไอแม็ค แกตามมาสอนชั้น ม.3 ของผมด้วย
“ลอกต่อนะ…” กรูรู้แล้วหล่ะ กูกำลังเร่งอยู่นี้ไง
“เลย์…ไปที่อื่นเถอะ” ไอนี้กรูบอกจะทำงานชวนไปไหนอีกหล่ะ
“เลย์…ไอบาสมา” ไอบาสคือไอคนที่ทำลูกบาสกระแทกหน้าผม แล้วก็ขว้างลูกบาสใส่หัวไอแม็คครับ คือผมสองคนตกลงกันว่า จะเรียกมันว่าไอบาส
ผมนิ่งเงียบซักพักแล้วบอกไอแม็คว่า “ปะ…กลับบ้านกันเถอะ วันนี้ท่าทางซวยอีกแล้ว”
ผมเก็บของบนโต๊ะแล้วเดินออกไปกลับไอแม็ค โดยที่ผมไม่มองหน้ามัน เชื่อไหมครับ ตั้งแต่เกิดเรื่องในสมัยที่ผมกับไอแม็คอยู่ ม.1 ผมก็ไม่เคยมองหน้ามันแบบเต็มๆ อีกเลย จะว่าเกลียดก็ได้ครับ แต่ไอแม็คอะครับ มองมันตลอด ไอนี้ท่าทางมันจะแค้นมาก
ช่วง ม.3 เป็นช่วงที่พวกผมต้องเข้าค่ายลูกเสือกันในช่วงเดือนมกราคม และช่วงนี้เองครับที่เป็นช่วงที่เกิดจุดเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างในชีวิตผม และทำให้ผมรู้ตัวว่าผมเป็นเกย์มาจนถึงทุกวันนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น