ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชีวิตติดปีกนักเรียนการบินญี่ปุ่น!My Life of aviation school!

    ลำดับตอนที่ #3 : ระหว่างที่สับสน...จนไปสอบ

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 56


    ระหว่างที่สับสน เหมือนมีอะไรมาดลใจให้เข้าไปท่องเว็บ”เด็กดี” ในวันนั้น

    และระหว่างที่ท่องเว็บอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน ผมก็เจอหัวข้อหนึ่ง

    “รับสมัครนักเรียนการบินญี่ปุ่น รุ่นที่4

    ด้วยคำว่าการบินทำให้ผมแวะเข้าไปดูในหัวข้อดังกล่าว....แล้วพบว่าทุนนี้คือทุนศึกษาต่อ มัธยมปลายที่ประเทศญี่ปุ่น และเป็นประเทศที่ใครๆใฝ่ฝัน ในเวลานั้นผมไม่รอช้าที่จะอ่านรายละเอียดของทุนดังกล่าว

    ซึ่งผมก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า “.....แล้วเราจะสู้คนอื่นเขาได้หรอ เราก็ไม่ได้ฉลาดมากมายอะไร....”

    แต่คำคำหนึ่งมันแย้งขึ้นมาในสมองของผม “...พ่อเคยบอกว่าอย่าบอกว่าตัวเองทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ลงมือทำ..”

    พอผมคิดขึ้นมาได้เลยไม่รอช้าที่จะไปปรึกษาพ่อเรื่องจะมาสอบ พ่อของผมเป็นคนใจกว้างครับซึ้งท่านก็ไม่ห้ามผมให้ไปสอบ รร. ดังกล่าวและท่านก็บอกว่า แค่ว่า

    “อนาคตลูก....ลูกเป็นคนเลือกเองพ่อเป็นแค่ฝ่ายสนับสนุนเท่านั้น”

    พ่อผมใจกว้างไหมหล่ะครับ โชคดีที่เกิดเป็นลูกพ่อนะครับ หลังจากนั้นผมไม่รอช้าในการกรอกใบสมัครครับ

    ซึ่งตอนนั้นผมเลือกวิธีกรอกใบสมัครแบบผ่าน อินเตอร์เน็ตซึ่งสะดวกสบายมากเลยครับ พอได้รับการยืนยันจากทาง”สมาคมนครศรีธรรมราช-ญี่ปุ่น”ก็เหลือแค่ส่งหลักฐานการสมัครไปทางไปรษณีย์ครับผม

    หลังจากนั้นผมก็เริ่มเตรียมตัวสอบ ด้วยการทบทวนบทเรียนราวกับเรียนใหม่แต่แรก ทั้งหนังสือม.สามหรือ ระดับอื่นๆ เพื่อเตรียมตัวสอบอย่างเต็มที่ (เพราะผมรู้ว่าผมโง่มากกกเลยต้องพยายามทำให้เต็มที่)

    แล้วทั้งแล้วพอถึงวันที่ใกล้สอบ พบก็ค้นพบข่าวร้ายที่สุดในรอบหลายเดือน ว่า

    วันที่สอบเข้าเรียนโรงเรียนการบินญี่ปุ่น มันตรงกับวันสอบสำคัญของทางโรงเรียนปัจจุบันครับซึ่งเป็นเรื่องที่ใครก็ไม่อยากให้เกิดใช่ไหมหล่ะ.... และแล้วผมก็เลือกที่จะไปสอบของโรงเรียนครับ เพราะอารมณ์ในตอนนั้นผมไม่มีความมั่นใจเลยว่าผมสอบได้โรงเรียนการบินญี่ปุ่น แล้วซึ่งการสอบของโรงเรียนจะชี้ชะตาว่าผมจะได้อยู่ แผนการเรียนไหน ซึ่งผมก็ได้ละทิ้งการสอบ โรงเรียนการบินญี่ปุ่นไป อย่างน่าเสียดาย

    การสอบของโรงเรียนผ่านไปผมได้รับคัดเลือกให้เรียนสาย ศิลป์ญึ่ปุ่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า

    ซึ่งผมก็รู้สึกแฮปปี้ไปกับมัน หลังจากวันนั้นไม่กี่วันคุณพ่อได้รับโทรศัพท์จากทางสมาคม ว่า

    “จะมีการสอบโรงเรียนการบินรอบที่2 และรอบนี้จะเป็นรอบสุดท้ายจะให้น้องมาสอบไหม”

    คุณพ่อหันมาถามผมอย่างเร่งด่วนว่าจะไปสอบไหม? อารมณ์ในตอนนั้นผมลังเลมากๆเลยครับ แต่อย่างที่ว่าถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ ผมเลยตอบพ่อไปว่า “ไปสอบครับ” .......


    และแล้ววันสอบก็มาถึง ผมมีชื่อสอบเป็นอันดับสุดท้าย (คงเพราะสมัครคนสุดท้ายครับ)

    วันสอบถ้าจำไม่ผิดมีวิชา อังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เป็นพื้นฐานครับ แต่มีวิชาหนึ่งคือ

    สังคมศึกษา ดันกลายเป็นความรู้ทั่วไปของประเทศญี่ปุ่นซะงั้น เอิ่ม......

    “ถามว่านายกคนปัจจุบันของญี่ปุ่นคือใคร?”

    “ออนเซนคืออะไร?”

    “สถานฑูตญี่ปุ่นในไทย อยู่เขตอะไร?”

    ผมก็คิดในใจว่าแล้ว ข้าพเจ้าจะรู้ไหมนิ ด้วยการได้รับการฝึกฝนการเดาข้อสอบมาอย่างดีจาก รร.เก่า

    ก็ไม่รีรอที่จะพูดว่า “จ้ำจี้มะเขือเปาะแปะ.....”ในการเลือกข้อสุ่มครับฮ่าๆๆ ผมก็ไม่ได้หวังอะไรจากข้อนี้แล้ว

    มาถึงการสอบข้อเขียน ด้วยความโชคดีครับที่การสอบปีนี้ที่ผมได้หัวข้อที่ผมสามารถตอบได้ดีคือ

    “ทำไมถึงอยากเรียนโรงเรียนการบินญี่ปุ่น”

    ผมอ่านหัวข้อแล้วไม่รอช้าในการ ระบายความคิด ความรู้สึก ที่มีต่อเครื่องบิน ว่าทำไมผมถึงอยากไป

    ผมว่าหลายคนก็มีเหตุผลต่างๆกันไปสำหรับผมแล้ว “การได้เห็นเครื่องบินมันทำให้ผมมีความสุข”

    นี้คือธีมที่ผมเขียนไปในวันนั้นครับ...ผมใช้เวลาไม่ถึง ชั่วโมงในการเขียนหัวข้อนี้และแล้วมันก็เสร็จครับ

    หลังจากสอบข้อเขียนแล้วก็ได้ เข้ารับการสอบสัมภาษณ์ครับ แต่ด้วยชื่อผมอยู่สุดท้ายเลยรอคิวกันนานเลยครับ การสอบสัมภาษณ์จะให้เข้าไปสอบทีละ 2ครอบครัวครับซึ่งของผมได้สอบคู่กับ..

    นักเรียนนอกคนหนึ่งผมสีทอง มาพร้อมกับแม่เขาครับ นางฆ่าผมด้วยการรัวภาษาญี่ปุ่นใส่ครูที่มานั้งสัมภาษณ์ ทำเอาผมตายไปเลยครับ แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ที่จะฟาดฟันกับนางเมื่อทางครูเขาหันมาถามผม

    ผมก็รัวภาษาไทยและตอบอย่างมั่นใจ ราวกับเป็นผู้นำอาเซียนในตอนนั้น555

    เอาเส่ะ ให้มันรู้ซะบ้างประธานชมรมละครมันสตอเก่งแค่ไหน ฮ่าๆๆๆแต่แล้วทั้งแล้วการสัมภาษณ์ผมจะไม่ตอบให้ตึงเครียดมาก ผมแค่สร้างความประทับใจให้กับกรรมการ ให้เขาเห็นบางอย่างในตัวเรา

    แต่แล้วคำถามนี้ก็เข้ามา.....”น้องอยากเป็นอะไรในอนาคต?”

    อ่าว?? แล้วเราอยากเป็นอะไรหล่ะ เฮ้ยๆแป๊ปๆยังไม่ได้คิดเลย.....ผมคิดในใจ ชอบเครื่องบินนะ แต่จะให้ไปเป็นสจ๊วตไอ้เราก็เตี้ยไป ยกของขึ้นที่เก็บไม่ถึงแน่ๆ-.- ให้ไปเป็นไพร็อตก็ไม่ไหวมั้ง ทำเครื่องบินตกก็ซวยเลย.... เอาไงดีหล่ะ?? แต่ด้วยสมองอันคิดบทละครบ่อยๆ ผมเลยตอบเขาไปว่า

    “ผมอยากทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นครับ....และแน่นอนว่าการทำงานนั้นภาษาเป็นเรื่องสำคัญผมจึงคิดว่าการได้เรียนภาษาในสถานที่จริงและได้ใช้จริงมันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ เพราะเดี่ยวนี้ประเทศญี่ปุ่นเปิดกว้างด้านการท่องเที่ยวมาก ผมจึงอยากใช่โอกาสตรงนี้พื่อพัฒนาตัวเอง และเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวทั้งในไทยและในญี่ปุ่นครับผม” คุณพ่อปรบมือ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

    ผมตอบคำถามนี้ไป คนผมทองข้างๆผมถึงกะเงิบไปเลยทีเดียวฮ่าๆๆถ้านางตอบว่านางอยากเปนนางฟ้าก็คงไม่ผิดเพราะนางเงิบอยู่55555

    การสอบผ่านไปด้วยดีครับผมรอแต่วันประกาศผลสอบแค่นั้นแระครับผม พอถึงวันประกาศผล

    ผมสอบติดครับ ผมดีใจมากๆเลย เรียกได้ว่าอารมณ์ในตอนนั้นอยากจะปั่นจักรยานไปบอกเจ๊หงษ์ขายก๊วยเตี๋ยวหน้าหมู่บ้าเลยครับ ยินดีกว่าพ่อถูกหวย แม่ได้แชร์ ปู่ได้ป็อกเก้าอีก ฮ่าๆๆ มันอธิบายไม่ถูกเลยทีเดียว

    หลังจากวันนั้นข่าวการสอบติดของผมก็แพร่กระจายไปทั้งตะกูล หมู่บ้าน โรงเรียน ชุมชน มาแสดงความยินดีกันใหญ่ แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่กี่วัน....ผมเปิดทีวีดูแล้วผมถึงกับช็อคพูดไม่ออกไปเลยครับ.....

     

    โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ
    พูดคุยกับผมได้ที่ 
    https://www.facebook.com/bboat.chaiyasit

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×