ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fate/stay night:Angel code (Fan Fic)

    ลำดับตอนที่ #4 : Angel 2:The queen and i

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 54


                   ขอแสดงความยินดี
    อันเนื่องมาจากความสามารถและสติปัญญาอันสูงส่งของท่าน
    ท่านได้รับการเชื้อเชิญให้เข้าร่วมสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์อันทรงเกียรติ
    ที่จะถูกจัดขึ้นอีกครั้งภายในเมืองฟุยุกิโดยได้รับการสนับสนุนจาก
    สมาคมจอมเวทย์
    หากท่านมีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาตร์
    อันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ขอให้มา พบกับตัวแทนของสมาคมจอมเวทย์ ณ โบสถ์
    โรซาลีโดยเร็วที่สุดพร้อมนำจดหมายฉบับนี้มาด้วย
                                                                                                                   ขอแสดงความนับถือ
    นี่คือเนื้อความในจดหมายสีแดง
    โดยปกติแล้วหากคนทั่วไปได้รับจดหมายแบบนี้ก็คงจะโยนทิ้งทันทีที่อ่านเสร็จ
    แต่ไม่ใช่สำหรับอากิหรือพูดให้ถูกก็คือไม่ใช่สำหรัจอมเวทเช่นอากิเป็นแน่
    จอมเวทเกือบทุกคนจะต้องเคยได้ยินได้ฟังเรื่องของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์มาแล้วบ้างไม่มากก็น้อย การต่อสู้อันทรงเกียรติ การอัญเชิญวิญญาณวีรชนและจอกศักดิ์สิทธิ์ที่บันดาลความปรารถนาให้เป็นจริง แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงแค่เรื่องเล่าที่ไม่ต่างจากนิทานก่อนนอน.....
    แต่ตอนนี้อากิกำลังได้รับการเชื้อเชิญให้เป็นส่วนหนึ่งของนิยายก่อนนอนนั้น
    ชั่วขณะหนึ่งความรู้สึกหลากหลายเกิดขึ้นในสองช่วงจังหวะหัวใจเต้นของหญิงสาว
    จังหวะแรกคือความรู้สึกลิงโลดอย่างที่สุด เธอกำลังจะได้เป็นส่วนหนึ่งของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์!!ราวกับฝันเป็นจริง!! เธอจะได้บอกอำลากับโลกความจริงอันแสนน่าเบื่อหน่ายและได้เป็นส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องเยี่ยมหรือดีกว่านั้นเธออาจจะได้เป็นตัวเอกของนิยายเรื่องนั้นเลยก็ได้
    เธออาจเป็นเจ้าหญิงบอบบางที่รอคอยการมาถึงของอัศวินรูปงาม
    หรืออาจเป็นวีรสตรีผู้กล้าพร้อมดาบในตำนานเข้าต่อสู้กับจอมมารร้าย
    ช่างชวนฝันจนแทบทนไม่ ไหว...
    แต่ในจังหวะการเต้นครั้งที่สองความสงสัยและความไม่แน่ใจก็เข้ามาแทนที่
    "ใจเย็นก่อนอากิ"เธอเตือนตัวเอง นี่อาจเป็นแค่โฆษณาชวนเชื่อของพวกนักต้มตุ๋นหรือกลเม็ดใหม่ๆของพวกยากูซ่าก็ได้ ในสมัยที่การเดินออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านคนเดียวในเวลากลางคืน ก็สามารถถือเป็นการเสี่ยงชีวิตแบบหนึ่งได้นั้นเราไม่ควรจะเชื่อในสิ่งที่ได้รู้หรือเห็นโดยปราศจากหลักฐานที่น่าเชื่อถือเสียก่อน
    ..........
    ตอนนี้เย็นมากแล้ว
    หลังจากใช้เวลาตัดสินใจอยู่สักพักอากิก็ตัดสินใจจะลองไปที่โบสถ์โรซาลีดู
    "ลองไปดูสักครั้งคงไม่เสียหายอะไร ต่อให้ไม่ไมีอะไรก็ยังถือเป็นการเดินออกกำลังกายได้"นี่คือเหตุผลที่อากิบอก ตัวเอง แม้จะไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักแต่ก็ไม่เสียหายที่จะลอง...
    "ควรจะชวนฟุยุคิไปด้วยดีไหมนะ?"ความลังเลเกิดขึ้นในใจของอากิ"ถ้ามีหมอนั้นไปด้วย คงจะทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น..."
    "ไร้สาระ!!"เสียงอีกเสียงหนึ่ง ตอบกลับ "พาฟุยุคิไปด้วยจะได้อะไรขึ้นมา หมอนั่นไม่ใช้จอมเวทด้วยซํ้า เพราะเอาแต่พึ่งพาหมอนั่นแบบนี้น่ะแหละเธอถึงได้อ่อนแอยังไงล่ะ อยากจะกลับไปเป็นแบบเมื่อก่อนหรือไง"
    "ใช่..."อากิูดกับพูดตัวเอง เบาๆ"เราไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถึงไม่ต้องพึ่งฟุยุคิเราก็ดูแลตัวเองได้"
    อากิตัดสินใจจะไปที่โบสถ์โรซาลีโดยลำพัง เมื่อมาย้อนคิดดูแล้วการที่เธอตัดสินใจเช่นนั้นอาจเป็นเพียงเพราะอารมณ์โกรธของเธอมากกว่าเหตุผลที่เธอใช้บอกตัวเแองในตอนนั้นก็เป็นได้
    และการตัดสินใจนี้จะหลอกหลอนเธอไปชั่วชีวิต...
    ..........
    เนื่องจากประตูโรงเรียนปิดไปแล้วจึงต้องออกแรงปีนกำแพงกันบ้างเล็กน้อย(ซึ่งเล่นเอาหอบอยู่เหมือนกัน)
    ตอนนี้อากิมาถึงหน้าประตูโบสถ์เป็นที่่เรียบร้อย
    สูดหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมความกล้าและผลักบานประตูโบสถ์เข้าไป
    โบสถ์โรซาลีนั้นเป็นโบสถ์แบบสถาปัตยกรรมตะวันตกรูปแบบโกธิคที่สวยงามมาก กระจกสีรูปเทวทูตและนักบุญ โต็ะทำพิธีมิสซาหรูหรา เชิงเทียนราคาแพงที่ตกแต่งอย่างดีและดอกไม้หลากสีสันที่ประดับอยู่ตามจุดต่างๆของโบสถ์ แต่นั้นก็เป็นเพียงรูปโฉมในเวลากลางวันเท่านั้น โบสถ์โรซาลีในตอนนี้มืดมิดปราศจากสีสัน เงียบสงัดจนอากิได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น มีเพียงเสียงสลัวๆจากเทียนเล่มเล็กๆบนเชิงเทียนที่มอบแสงสว่างให้กับตัวโบสถ์
    จอมเวทหญิงลังเลเล็กน้อยก่อนจะเริ่มก้าวขาอย่างช้าๆเข้าไปในความมืด ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระมัดระวังราวกับมีกับดักมากมาย
    รอเธออยู่ในตัวโบสถ์ ควาสงสัยเพิ่มทวีในทุกจังหวะการเต้นของหัวใจ ฝ่ามือเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็นเยียบ
    "ยินดีต้อนรับ"
    เสียงๆหนึ่งดังขึ้นในความมืดมิด อากิสะดุ้งสุดตัว
    เจ้าของเสียงคือหญิงชราร่างสูงในชุดซิสเตอร์ ผมสีดอกเลายาวประบ่า ผิวหยาบกร้านและริ้วรอยบนใบหน้าบ่งบอกถึงช่วงชีวิตอันยาวนาน นัยตาคมปราดและดวางตาสีฟ้านํ้าทะเล เสียงของเธอก้องกังวาลในความมืดสะท้อนไปตามผนังโบสถ์
    อากิรู้สึกโล่งใจขึ้นมากเมื่อได้เห็นใบหน้าอันคุ้นเคย
    "สวัสดีค่ะ ซิสเตอร์โรซ่า...."
    "สวัสดี คุณแองเจล่า ดิฉันคิดว่าตอนนี้คงเป็นเวลาที่ไม่เหมาะนักที่จะมาที่โบสถ์หรอกนะ"ซิสเตอร์ โรซ่าตอบกลับด้วยนํ้าเสียงราบเรียบ
    หลังจากอาการโล่งใจหมดไปอากิก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าเธอช่างโชคร้ายแค่ไหนที่มาพบซิสเตอร์ชราในตอนนี้
    หญิงชราผู้ นี้คือซิสเตอร์โรซ่า เอ็มพิเรียน่าผู้ดูแลของโบสถ์และอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนสตรีเซนต์โรซาลี ซิสเตอร์สูงวัยผู้มีนิสัย เย็นชาเข้มงวดและเ้จ้าระเบียบจนเป็นที่เกรงกลัวของของนักเรียนในโรงเรียนทุกคนรวมถึงอากิด้วย
    "ดิฉันหวังว่าคุณคงมีคำอธิบายที่ดีในเรื่องนี้นะคะ"ซิสเตอร์มาเรียกล่าวพลางใช้สายตาตรวจสอบสภาพของอากิ
    "การแอบเข้ามาในโรงเรียนในเวลาเช่นนี้นั้นมีโทษหนักมากทีเดียว"ซิสเตอร์ชราจบประโยคของเธอพร้อมกับจ้องเข้าไปในดวงตาของอากิเพื่อรอคอยคำตอบ จอมเวทสาวไม่สามารถคิดหาข้อแก้ตัวใดๆได้เลย น้อยคนนักที่จะสามารถต้านทานพลังของดวงตาสีฟ้าเปี่ยมอำนาจคู่นั้นได้ เธอจึงได้แต่นิ่งเงียบราวกับเด็กๆที่ถูกจับได้ว่าทำผิด
    "ว่ายังไงล่ะคะ คุณแองเจล่า คุณมีธุระอะไรที่นี่งั้นหรือ"
    ตอนนี้สถานการณ์ของอากินั้นเลวร้ายอย่างที่สุด เธอมองไม่เห็นทางออกใดๆจากสถานการณ์เช่นนี้ไปได้เลยว่าแล้วว่าการมาที่นี่ตามที่จดหมายนั่นบอกต้องเป็นการหาเรื่องใส่ตัว ตอนนี้เหลือทางเลือกอยู่ไม่มากในสถานการณ์เช่นนี้
    1.บอกความจริงไปเสีย ยังไงซะซิสเตอร์โรซ่าก็คงจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องไร้สาระแล้วไล่เธอกลับบ้านไปแต่อากิจะต้องเจอกับการลงโทษของซิสเตอร์โรซ่าในวันรุ่งขึ้น
    2.ใช้เวทมนต์จัดการกับซิสเตอร์ให้เธอลืมเรื่องที่เกิดขี้นเสีย แต่อากิไม่มีความมั่นใจในเวทมนต์ของเธอเลย เธอศึกษาเวทมนต์ของตระกูลจากตำราเก่าแก่ที่คุณแม่เหลือทิ้งเอาไว้ด้วยตนเองและจากพี่สาวของเธอเพื่อใช้ป้องกันตัวแต่ก็ทำได้ไม่ดีมากนักหากใช้สุ่มสี่สุ่มห้าล่ะก็เธออาจจะส่งซิสเตอร์โรซ่าไปนอนโรงพยาบาลเลยก็เป็นได้
    ช่วงเวลาแห่งความเงียบงันผ่านไปอย่างน่าอึดอัด ซิสเตอร์โรช่ายังคงนิ่งเงียบจ้องมองอากิที่อับจนหนทาง
    อากิตัดสินใจยื่นจดหมายสีแดงให้กับซิสเตอร์ เธอตัดสินใจเลือกวิธีแรกที่เสียหายและยุ่งยากน้อยกว่า ตอนนี้เหลือเพียงอธิบายว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแค่ความเข้าใจผิดเล็กๆน้อยๆแล้ว เธอก็กกำลังจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้พร้อมกับจะมารับบทลงโทษในวันรุ่งขึ้นแทน
    แล้วทุกอย่างก็จะดำเนินไปอย่างที่มันควรจะเป็น....
    "ตัดสินใจดีแล้วงั้นหรือ"ซิสเตอร์มาเรียกล่าวด้วยนํ้าเสียงเรียบเฉยเช่นเคย
    "เอ๋?"
    "คุณแองเจล่า คุณตัดสินใจดีแล้วสินะที่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์นี้"
    "เอ๊ะ!?อะ....ค่ะ"
    "ยอดเยี่ยม เท่านี้สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ตัวฉันในฐานะผู้ดูแของสงครามในครั้งนี้มีหน้าที่ที่จะต้องอธิบายรูปแบบของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ให้เธอเข้าใจ"
    "ซิสเตอร์เป็นอะไรนะคะ!"
    "ผู้เข้าร่วมสงครามจะได้รับสถานะ"มาสเตอร์""ซิสเตอร์โรซ่าไม่สนใจคำพูดของอากิ"มาสเตอร์ทั้ง7คนจะต้องทำการอัญเชิญวิญญาณ วีรชนหรือ"เซอแวนท์"ออกมาได้ซึ่งประกอบไปด้วยคลาสทั้ง7อันได้แก่เซเบอร์ แลนเซอร์ อาเซอร์ ไรเดอร์ แคสเตอร์ แอสซาซินและเบอเซอเกอร์และจะได้รับ"อาญาสิทธิ์"เื่พื่่อแสดงถึงสิทธิในการครอบครองและควบคุมเซอแวนท์ของตน"
    "ผู้ที่เป็นมาสเตอร์จะสามารถใช้ตราอาญาสิทธิ์เพื่อออกคำสั่งกับเซอแวนท์ของตนได้โดยคำสั่งนั้นจะถือเป็นเด็ดขาด และไม่สามารถขัดขืนได้ ซึ่งตราอาญาสิทธิ์จะลดลงในทุกๆครั้งที่ใช้และจะหายไปเมื่อครบ3ครั้ง ผู้ที่สูญเสียเซอแวนท์หรือตราอาญาสิทธิ์ไปจะถือว่าหมดสภาพต่อสู้และต้องถอนตัวออกจากการต่อสู้โดยจะได้รับการคุ้มครองจากทางโบสถ์โรซาลีอย่างเต็มที่"
    "ส่วนผู้ที่เหลืออยู่เป็นคนสุดท้ายจะได้รับการบันดาลพรจากจอกศักดิ์สิทธิ์ให้สมความปรารถนา ทั้งโชคลาภ ชื่อเสียง อำนาจ ทุกสิ่งทุกอย่างจักเป็นของผู้ชนะ!"
    "และในที่สุด ณ ตอนนี้หลังจากเสียเวลาไปถึง10ปี ทุกสิ่งทุกอย่างก็พร้อมสรรพเหลือเพียงแค่การอัญเชิญเซอแวนท์ตนสุดท้ายออกมาเท่านั้น สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ก็จะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งอย่างแท้จริง!!"ถึงตอนนี้นํ้าเสียงของซิสเตอร์โรซ่าไม่ได้เรียบเฉยตามปกติอีกต่อไปแต่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นจนอากิรู้สึกได้
    "เอ่อ...ซิสเตอร์คะ หนูมีเรื่องสงสัยค่ะ"
    "อะไรหรือ คุณแองเจล่า"เสียงของซิสเตอร์ชรากลับมาเรียบเฉยตามเดิมอีกครั้ง
    "ที่ว่า"สมความปราถนา"เนี่ยหมายถึงความปราถนาทุกอย่างเลยหรือคะ"
    "ใช่แล้ว"
    "ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆก็ตาม?"
    "ถูกต้อง"
    "งั้นถ้าเกิดว่าความปรารถนานั้นเป็น...ความปราถนาที่ชั่วร้ายล่ะคะ"
    ริมฝีปากของซิสเตอร์โรซ่าค่อยๆกรีดออกเป็นรอยยิ้มเย็นยะเยือกที่อากิไม่เคยเห็นมาก่อนและมั่นใจว่าเธอจะไม่อยากเห็นอีกเป็นแน่
    ""ความปรารถนาที่ชั่วร้าย"งั้นหรือ"ซิสเตอร์โรซ่าหัวเราะออกมาเบาๆ
    "สิ่งที่เรียกว่าความปรารถานานั้นล้วนกำเนิดมาจากส่วนลึกในจิตใจอันดำมืดของมนุษย์ทั้งสิ้น ไม่ว่าเหตุผลเริ่มต้นของความปรารถนานั้นจะสวยหรูหรือสูงส่งพียงใดแต่สิ่งที่กำเนิดจากความมืดมิดนั้นลงท้ายก็จะกลายเป็นความมืดมิดเช่นเดียวกันเพียงแต่จะช้าหรือเร็วนั้นก็จะขึ้นอยู่กับเวลาและความตั้งใจของเจ้าของความปราถนานั้นๆ ขอให้คุณจดจำสิ่งนี้ไว้ให้ดี"
    "ส่วนเรื่อง"ความปราถนาที่ชั่วร้าย"ของคุณนั้น ก็เป็นสิทธิของคุณเองที่จะตัดสินว่าสิ่งนั้นคือความชั่วร้ายหรือไม่และถ้าหากคุณต้องการจะหยุดยั้งสิ่งเหล่านั้นก็มีวิธีทางอยู่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น"
    "คืออะไรหรือคะ"คำพูดของซิสเตอร์โรซ่าทำให้อากิรู้สึกหนาวสะท้าน
    "การเป็นผู้ชนะในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ยังไงล่ะ แน่นอนว่าความปรารถนาของคุณเองคงจะไม่ใชสิ่งชั่วร้ายในสายตาของคุณอย่างแน่นอนมิใช่หรือ?"
    "เอ่อ...คงใช่...มั้งคะ?"อากิไม่แน่ใจนักว่าเธอเข้าใจสิ่งที่ซิสเตอร์โรซ่าพูดมาทั้งหมดหรือเปล่า
    "เอาเถอะ ยังไงซะตอนนี้ก็ดึกมากแล้วดิฉันคงต้องขอให้คุณแองเจล่ากลับไปก่อน หากมีคำถามอะไรก็ขอให้มาพบดิฉันได้ทีนี่ได้ทุกเมื่อและขอแนะนำให้รีบทำการอัญเชิญเซอแวนท์ออกมาโดยเร็วที่สุดนะคะ"
    "ขอบคุณมากค่ะ ซิสเตอร์โรซ่า"
    "ดิฉันก็เช่นกัน คุณแองเจล่า ขอให้พรแห่งพระบิดาคุ้มครองเส้นทางที่คุณจะก้าวเดิน"
    ..........
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×