คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : รักมันตรงกับเจ็บ ตอนที่ 8 หวาดหลัว
ตอนที่ 8 หวาดหลัว
3 เดือนต่อมา
และแล้ววันนี้แทยอนก็ถูกฮเยจินรับจากมหาวิทยาลัยมายังที่บ้านของพวกเขา อินฮวารีบวิ่งเข้ามาหาแทยอน หญิงสาวยิ้มก่อนจะดึงเด็กน้อยออกแล้วนั่งยองๆลงให้ความสูงใกล้เคียงกับเด็กน้อยตรงหน้า
“ทำไมพี่แทยอนมีเรียนแค่ครึ่งวันเองหละครับ? หม่ามี้สั่งให้พี่แทยอนโดดเรียนมาหาอินฮวาหรอ?”
“เปล่าครับ พี่มีเรียนแค่ครึ่งวัน”
“ง่า ทีของอินฮวาทำไมมีเรียนทั้งวันเลย น่าเบื่อมากๆเลย”
“แต่การเรียนเป็นสิ่งที่ดีนะครับ”
แทยอนพูดก่อนจะลูบหัวเด็กน้อยตรงหน้าอย่างเอ็นดู ตอนนี้เธอรู้จักกับครอบครัวนี้มาร่วม3เดือนเสียแล้ว ซึ่งฮเยจินกับอินซองที่ยังไม่ยอมกลับด้วยเหตุผลบางอย่างพาเธอมาที่นี่แทบทุกวันเท่าที่จะทำได้
“อ้าว แทยอน มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ซักพักแล้วหละพี่ทงเฮ”
สรรพนามที่ดูเหมือนความสัมพันธ์ของเธอกับทงเฮคืบหน้าเข้าใกล้กันมากขึ้น นั่นเป็นสิ่งที่ทงเฮหวาดกลัว คยูฮยอนผู้คอยคิดแต่จะแก้แค้นเร่งรัดเค้าเหลือเกิน ตอนนี้เขาแทบไม่เหลือเวลาให้คิดเสียแล้ว
“อินฮวาครับ อาของยืมตัวพี่แทยอนหน่อยนะ”
“อย่าทำให้พี่แทยอนเจ็บตัวนะครับ^^”
อินฮวาพูดพร้อมรอยยิ้มซุกซนเป็นเด็กๆ ฮเยจินกับอินซองที่ลอบมองทั้งสองห่างๆก่อนจะถอนหายใจ แล้วรีบโทรหาใครบางคนในขณะที่ทงเฮพาแทยอนออกไปที่สวนหลังบ้าน
“ฮัลโหล ซุน...เธอช่วยทำตามที่ชั้นเคยขอก่อนหน้านี้ทีนะ ขอร้อง...ขอบใจจ้ะ”
“นี่แท ผมมีเรื่องจะบอก”
“เรื่องอะไรหละค่ะพี่ทงเฮ”
หญิงสาวถามพรางยิ้ม รอยยิ้มแบบนั้น น้ำเสียงแบบนั้น...เค้าหลงรักคนตรงหน้าจริงๆ...หลงรักเกินกว่าจะถอนใจออกแล้วในตอนนี้ เขายอมรับ ว่าผู้หญิงตรงหน้าให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปจากจียอน...คนตรงหน้าเปรียบเสมือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเขา...แต่สิ่งที่เขายังไม่รู้คือ หัวใจของเธอเองก็กำลังเต้นแรงไม่แพ้กับใจของเขาเหมือนกัน...
“ฟังให้ดีนะ”
“...”
หญิงสาวเงียบรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะจับบ่าของร่างบาง แล้วจู่ๆเขาก็ดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดอย่างโหยหาราวกับเธอเคยจากเขาไปไกลแสนไกล
“พี่รักแท พี่รักแทมาก...แทเป็นเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างของพี่”
“...!!”
หญิงสาวตกใจกับคำพูดของชายหนุ่ม ในตอนนี้ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ พร้อมกับอุณหภูมิที่ขึ้นสูง
“แทคิดกับพี่ยังไง?”
ทงเฮผละออกมาจากแทยอนก่อนจะยิ้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วลูบผมของหญิงสาวเบาๆ ริมฝีปากบางสั่นเล็กๆก่อนจะยิ้มตอบ
“แทก็รักพี่ค่ะ”
ชายหนุ่มยิ้มอย่างดีใจก่อนจะกอดหญิงสาวอีกระรอบ คราวนี้เธอไม่ปล่อยให้เขาโอบกอดเธอแต่เพียงผู้เดียว วงแขนเล็กโอบกอดทงเฮเอาไว้ ทั้งสองกอดกันจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจกันและกัน ตอนนี้บอกไม่ได้เลยว่าทั้งคู่กำลังมีความสุขขนาดไหน
“พี่มีเรื่องจะขอ ได้มั้ย?”
น้ำเสียงของทงเฮดูเหมือนกำลังเครียดมากขึ้นจากเดิม ทั้งสองผละออกจากกัน ตอนนี้ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกเศร้าหมองอย่างน่าประหลาดแตกต่างจากก่อนหน้านี้ แทยอนพยักหน้าเล็กๆเป็นคำตอบพร้อมรอยยิ้มที่ให้กำลังใจเขา
“ถ้าแทเรียนจบ เราแต่งงานแล้วไปอยู่ที่ต่างประเทศกันนะ ที่ๆไม่มีใครรู้จักเราทั้งคู่”
“ถ้าแทเรียนจบแทก็ต้องย้ายไปต่างประเทศกับพี่ยูลอยู่แล้ว”
“ไม่ใช่ ย้ายไปอยู่กับพี่คนเดียว...ไปอยู่ด้วยกันแค่สองคน...รอให้เรื่องนั้นมันจบลงก่อนแล้วค่อยกลับมา”
“อะไรกันพี่ทงเฮ แทกำลังจะเรียนจบเดือนหน้าแล้วนะ ไม่ให้เวลาแทคิดเลยหรอ? แล้วเรื่องนั้นมันเรื่องไหน?”
“พี่ขอร้องแทยอน พี่ขอร้อง ได้โปรด...ถ้าเลยตอนนั้น...”
ชายหนุ่มที่จับบ่าหญิงสาวก้มหน้าลงพร้อมน้ำเสียงที่เหมือนกับเขากำลังจะร้องไห้...ใช่ เขากำลังจะร้องไห้เพราะแค่คิดถึงวันที่จะไม่ได้เห็นดวงตากลมที่สดใสและน้ำเสียงของเธอ...วันไหนที่สิ่งที่กำลังเป็นเธอแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชาและความเศร้าหมอง...เขาไม่อยากทำลายมันเลยจริงๆ...ชายหนุ่มสกัดกั้นน้ำตาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้หญิงสาวนิดๆ แทยอนยิ้มตอบก่อนจะเข้าโอบกอดชายหนุ่ม
“คะ แทจะทำตามที่พี่บอก...”
“พี่ฮเยจิน...”
ยูริที่นิ่งไปชั่วขณะเมื่อยามได้เห็นใบหน้าที่ไม่เห็นมานานหลายปีมาปรากฏตรงหน้าของเธอ คนตรงหน้าเข้ามากอดยูริ
“เราผอมขึ้นมากเลยนะยูริรู้ตัวบ้างมั้ย?”
“พี่ฮเยจิน พี่อินซอง พวกพี่มาได้ไง”
ยูริผละออกมองหน้าสาวที่ตนนับถือ ฮเยจินยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะลูบหัวยูริเบาๆ
“เจ็ดปีมานี่คงลำบากมากสินะ”
ฮเยจินที่นั่งลงที่โซฟายิ้มให้กับยูริก่อนจะรีบชาที่ยูริชงให้มา อินซองเองก็รับมาเช่นกัน
“ค่ะ แต่ความลำบากมันก็อยู่คู่กับชั้นมาตั้งแต่จำความได้แล้วหละ”
“เรื่องของแทยอน...เรารู้รึยัง?”
“พี่เจอแทยอนด้วยหรอค่ะ?”
“จ้ะ พี่เจอเด็กคนนั้น แต่เด็กคนนั้นเค้าจำพี่ไม่ได้หรอกนะ เพราะครั้งแรกที่เจอเค้าพึ่งอายุได้3ปีกว่าเองหนิ”
“นั่นสินะ แทยอนเป็นเด็กน่ารักนะค่ะ...ชั้นคิดไม่ออกเลยจริงๆว่าถ้าวันหนึ่งแกรู้เรื่องของแกขึ้นมาจะต้องทำสีหน้ายังไงกับแก จะพูดคุยยังไงให้เหมือนเดิม รอยยิ้มนั่นก็คงจะหายไปด้วย ชั้นคิดไม่ออกเลยจริงๆ”
ยูริบอกความอัดอั้นภายในใจของตนกับฮเยจิน ที่รู้จักมาตั้งแต่สมัยม.ต้น รวมถึงรุ่นพี่หนุ่มอย่างอินซองที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับฮเยจินมานาน แต่ในตอนนี้ที่คู่กลับแต่งงานมีลูกด้วยกันเสียแล้ว
“เรื่องของเรากับฮันกยอง...พี่รู้หมดแล้วนะ...”
“ค่ะพี่ฮเยจิน...ชั้น...ชั้น..”
“ไม่ต้องพูดอะไรยูริ...พี่รู้ดีว่าเราไม่อยากคิดถึงมัน...”
“พี่ฮเยจินค่ะ ชั้นอยากหนีออกจากประเทศนี้ ชั้นบอกแจจุงกับแทยอนไว้แล้ว ว่าเมื่อไหร่ที่แทยอนเรียนจบ จะย้ายไปต่างประเทศทันที...ตอนนี้ เวลาเหลือน้อยแล้ว”
“พี่เตือนเราไว้อย่างนะ...ทำตามสิ่งที่ตนเองต้องการดีกว่า...ขอร้อง..อย่าฝืนใจตัวเองอีก เข้าใจพี่มั้ย?”
“...”
ยูรินิ่งเงียบกับคำพูดของฮเยจิน ก่อนจะยิ้มให้
“แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง...มันสายเกินกว่าจะแก้แล้วค่ะพี่ฮเยจิน”
ราวๆสามเดือนแล้วสินะ ที่เขาไม่ได้เจอกับร่างบางนั่นเลย ไปหาที่ร้านก็หลบหน้าไปหลังร้าน เวลาเจอกันโดยบังเอิญ ก็เดินหนีเขา แจจุงเดินเข้าไปในร้านทันทีที่เห็นว่าร่างบางที่เป็นเจ้าของร้านออกมาอยู่ตรงเคาท์เตอร์
“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับ...”
ไม่ทันไรที่เสียงบางยังพูดไม่จบประโยค เธอก็รีบเดินหลบเข้าไปหลังร้าน แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว มือเร็วของเขาคว้าเธอเอาไว้ทันทีที่เธอออกมาจากเคาท์เตอร์ก่อนจะดึงพยายามให้เธอหันหน้ามาคุยกัน เพียงแค่หญิงสาวยังไม่ยอมหันมา...กลัว...กลัวว่าน้ำตาจะไหล...กลัวจะลืมคนตรงหน้าไม่ได้...กลัว...กลัวว่าเขาจะจากไปตลอดกาล...
“หันมาคุยกันสิยุนอา”
“พี่แจจุงค่ะ ขอร้อง ปล่อยชั้นเถอะ...”
“ไม่ยุนอา หันมาคุยกับพี่ดีๆ เราเป็นอะไร หลบหน้าพี่มาสามเดือนแล้วนะ”
“ยุนไม่เป็นอะไร พี่ปล่อยยุนได้แล้ว”
“อิมยุนอา! หันหน้ามาสิ”
ชายหนุ่มดึงหญิงสาวให้หันมา ใบหน้าหวานหันมาตามแรงที่เขาจับไหล่เธอพลิกกลับมา พร้อมหยดน้ำตาหยดแรกไหลลงมาที่แก้มสีอมชมพู ดวงตาของเธอกำลังดูหมองอย่างเห็นได้ชัดจนชายหนุ่มแปลกใจ
“ปล่อยชั้นไปเถอะค่ะพี่แจจุง...ขอร้อง...”
“ไม่ ยิ่งเธอร้องไห้พี่ยิ่งไม่อยากปล่อยเธอไป...”
ชายหนุ่มดึงหญิงสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะลูบเรือนผมนั่นแล้วสูดดมอย่างโหยหา...เป็นเวลานานเท่าไหร่ที่ไม่ได้เข้าใกล้เธอ...เป็นเวลาเท่าไหร่ที่เหมือนหัวใจเต้นช้าลง...
“ยุนไม่ใช่คนที่พี่ควรเข้าใกล้...ไม่ใช่เลย...”
“ทำไมถึงพูดแบบนั้นหละ...พี่ไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะ...”
แจจุงปล่อยหญิงสาวออกจากพันธนาการที่เขารั้งเธอเอาไว้ ก่อนจะเช็ดน้ำตาของเธอเบาๆ
“ชั้นหลอกให้พี่ตายใจ ชั้นหลอกให้พี่เข้าใกล้ ชั้นหลอกพี่มาตลอด! ชั้นต้องการได้ข้อมูลของบริษัทที่พี่ทำงานอยู่ ชั้นต้องการล้างแค้นฮันกยองที่ทำร้ายพี่จีอา ชั้นต้องการทำร้ายพี่ ชั้นต้องการทำแบบนั้น ได้ยินมั้ย เพราะฉะนั้นออกห่างจากชั้นได้แล้ว ไปให้ไกลจากชั้นได้แล้ว!!!”
หญิงสาวกลั้นใจพูดออกไปอย่างไม่ยั้งคิดก่อนจะรีบวิ่งออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี...จนมาถึงยังสวนสาธารณะที่เธอเจอกับแจจุงเป็นครั้งแรกหลังจากกลับมาจากญี่ปุ่น...ยังไม่พ้นสถานที่ๆเกี่ยวข้องกับเขาสินะ พลันน้ำตาไหลริน ร่างบางไร้เรี่ยวแรงเข่าของเธออ่อนลงก่อนที่มันจะลงไปกองกับพื้น...สัมผัสความเย็นยามหิมะตกลงมามือเล็กพยุงไม่ให้หน้าของเธอคว่ำล้มลงไป พร้อมกับกอบกำหิมะเอาไว้ให้เต็มมือ...
“พี่คงเกลียดชั้นแล้ว...บ้าจริงเลยนะ ทั้งๆที่เป็นคนพูดเองแท้ๆ...แต่ทำไม...น้ำตาจะไหลทำไม...ฮึก...”
หญิงสาวร้องออกมา หิมะเริ่มตกหนักขึ้น จู่ๆหลับมีผ้ามาคลุมตัวเธอเอาไว้ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง...แจจุง นี่เขายังตามเธอมาอีกหรอก ยุนอาลุกขึ้นก่อนจะหันหลัง แต่แจจุงเข้ามากอดเธอเอาไว้จากทางด้านหลัง...ใบหน้าของเขาลดต่ำลงมาใกล้กับใบหูของเธอ...ลมหายใจที่รดรินแสดงถึงอาการเหนื่อยหอบของเขาที่ตามหาเธอมาได้ซักพักหนึ่ง
“อย่าพยายามทำแบบนั้นยุนอา...พี่รู้ว่าเราไม่อยากให้พี่เข้าใกล้เพราะคยูฮยอน...พี่รู้...”
“...งั้นก็ไปให้ไกลสิค่ะ...ไปไกลๆจากชั้น”
“ไม่...พี่จะไม่ยอมกลายเป็นไอ้ขี้อายอีกเป็นครั้งที่สอง...พี่ไม่ยอมห่างจากเธออีกแล้ว...”
“แต่พี่ต้องทำนะ ชั้นไม่อยากจะให้พี่.....”
“พี่รักเธอยุนอา...พี่รักเธอตั้งแต่สมัยที่อยู่ที่ญี่ปุ่น...พี่หลงรักเธอมาตลอด...”
ทันทีที่เขาพูดแทรกเธอมา หัวใจของทั้งสองเต้นแรงพร้อมด้วยอุณหภูมิที่เพิ่มมากขึ้นจนไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็นรอบๆกาย...
“พี่ไม่อยากจากเธอไปไหนอีกแล้ว...ขอร้อง อย่าวิ่งหนีออกมาอย่างนี้อีกนะ...”
“...”
ยุนอาพยายามกลั้นใจที่จะไม่พูดอย่างยากลำบาก ในเวลานี้ อากาศเย็นกับเสียงลมพัดพร้อมด้วยหิมะที่ตกกำลังกลายเป็นบรรยากาศที่ดูอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ
ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะพลิกหน้าของเธอให้หันมาหาเขา
“...พี่กำลังจะย้ายไปต่างประเทศ หลังจากนั้นเราคงไม่ได้เจอกันอีก...”
“...!!!”
“แหม ไอ้คุณชายชิมค่ะ ชั้นอยากจะบอกว่า นายเป็นคนที่กวนประสาทมาก!!!!”
จูฮยอนท้าวเอวชี้หน้าของชางมินที่นั่งอยู่ นี่เขาเรียกตัวเธอมาสัมภาษณ์เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว ถึงจะได้เงินเยอะ แต่ได้การเรียกตัวมาตามใจชอบแบบนี้มันก็น่าหงุดหงิดเหมือนกัน
“กิริยาไม่ดีเอาซะเลยนะยัยต่างด้าว นั่งลง”
แต่ยังไงไอ้น้ำเสียงที่ดูมีอำนาจนี่ก็ยังคงได้ผลเสมอ จูฮยอนนั่งลงทันที ก่อนจะจ้องหน้าชางมินอย่างเอาเป็นเอาตาย เธอเดินเข้าออกบ้านนี่จนจะรู้ทุกซอกทุกมุม ขนาดว่ามันมีพื้นที่กว้างขวางมากเกินกว่าจะเป็นบ้านคนด้วยซ้ำไป ไอ้คุณป้าที่ปากเสียกับเธอตอนแรกก็กลายเป็นคนสนิท
“แล้วเรียกมานี่มีอะไร?”
“อยากเรียก มีปัญหาม่ะ?”
“เฮ้ๆ นี่ชั้นยังมีงานอื่นอีกนะ งานพวกนั้นก็ต้องมาเคลียร์ให้เสร็จก่อนเดือนหน้าด้วย”
จูฮยอนพูดก่อนจะตบโต๊ะเสียงดัง ชางมินจิบน้ำชาเล็กๆก่อนจะวางมันลงอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“วันนี้ชั้นให้เธอนอนที่นี่หน่า ไม่ต้องห่วงหรอก”
“อยากนอนตายหละ”
“ช่างมันเถอะ ว่าแต่ทำไมต้องเคลียร์ให้เสร็จก่อนเดือนหน้า”
ชางมินเอ่ยถาม...ไม่รู้สิ แต่รู้สึกเหมือนอีกหนึ่งเดือนต่อจากนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเธอมากสินะ ถึงพยายามอย่างเอาเป็นเอาตาย ขนาดว่าบก.ของสำนักพิมพ์ที่เขาโทรไปขอยังบอกว่าเธอเร่งรัดจนตอนนี้ดูเหมือนกำลังเครียดจนเขายังนึกเป็นห่วง...เอ้ะ!นี่เขาเป็นห่วงเธอ...แปลกๆๆๆ
“เปล่าหรอก...แค่คิดว่าจะเจอเรื่องดีก็อดที่จะทำงานให้มันเสร็จเร็วๆไม่ได้...แค่นั้นเอง”
“ความจริงแล้วในเดือนหน้าหลังจากแทยอนเรียนจบ ทั้งพี่แจจุง พี่ยูลจะย้ายไปต่างประเทศ...ยัยจูฮยอนเลยขอตามไปด้วยหนะค่ะ...”
“แล้วคุณหละเจสสิก้า”
“ชั้นเองก็จะไปเหมือนกัน ก็เลยอยากมาลาก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ”
เจสสิก้าพูดพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ...คยูฮยอนที่ตอนนี้กำลังสับสนข้างใน เขาจะทำยังไงต่อในเมื่อหมากของเขากำลังจะหนีไป...ไม่ใช่แค่เจสสิก้า แต่รวมถึงแทยอนและยูริที่จะวิ่งหนีเรื่องพวกนี้ไป...ไม่มีทาง...เขาไม่ยอมแน่...
“งั้นเหรอ ขอให้โชคดีนะครับ ผมไม่รู้ว่าเดือนหน้าจะว่างพอไปส่งที่สนามบินรึเปล่าด้วยสิ”
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่คุณอวยพรให้นี่ก็ดีมากแล้ว”
ทั้งสองคุยกันอีกซักพัก...เป็นเวลาสามเดือนแล้วสินะ ที่คยูฮยอนพยายามใกล้ชิดเจสสิก้า แต่ดูเหมือนเธอจะนิ่งกับความสัมพันธ์พวกนั้นเหลือเกิน...มันทำคนให้คนใจร้อนอย่างคยูฮยอนต้องมาทนนั่งนิ่งเฉยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...เหมือนเขากำลังเป็นแมวเชื่องมากเสียกว่าราชสีห์ที่กำลังเป็นต่อเธอ มันน่าขำจริงๆ...
“งั้นชั้นขอตัวก่อนนะค่ะ เดี๋ยวพวกที่บ้านจะว่าเอาอีก”
“ครับ งั้นผมไปส่งที่รถนะ”
ทั้งสองเดินไปยังรถของเจสสิก้า หญิงสาวยิ้มให้ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป ชายหนุ่มมองรถคันนั้นจนลับตาไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ก่อนที่มันจะกลายเป็นใบหน้านิ่งพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายดั่งไฟแค้นที่กำลังเผาไหม้ในตัวของเขาอยู่
“งั้นคงต้องเร็วขึ้นอีกหน่อยสินะ...หวังว่าแกคงไม่ชักตายกับเกมส์ของชั้นไปก่อนนะฮันกยอง ฮึ!”
เฮ้อ~ทำไมมันเร็วอย่างนี้น้า~~ไรเตอร์กำลังเหนื่อยล้ากับการตามอารมณ์ของตัวละครแปลกๆ - - ที่ไรเตอร์สร้างคาแรคเตอร์ขึ้นมาเอง นี่มันเป็นตัวละครที่สารพัดของตัวน่าหมั่นไส้นี่หว่า -.- เฮ้อ คิคิ ไรเตอร์ขอโทษที่มาอัพช้านะค่ะ ยังไงก็ขอบคุณคนที่ติดตามมาตลอดนะค่ะ^^
ความคิดเห็น