ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักมันตรงกับเจ็บ[SJ SNSD TVXQ ETC.]

    ลำดับตอนที่ #5 : รักมันตรงกับเจ็บ ตอนที่ 3 คุณชายเพี้ยน(100%)

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 54



    รักมันตรงกับเจ็บ

    ตอนที่ 3 คุณชายเพี้ยน

     

    “เอ่อคือ คุณป้าค่ะ เมื่อไหร่ชายน้อยของคุณป้าเค้าจะลงมาซักทีหละค่ะ หนูนั่งจนตะคิวกินไปสามรอบได้แล้วค่ะ - -*”

    จูฮยอนเอ่ยถามกับคนรับใช้ของบ้านที่ดูเป็นมิตรเอาเสียเลย...ดูท่าทางวันนี้คงไม่ได้กลับไปนอนบ้านแทยอนเร็วอย่างที่คิด ก็ไอ้คนที่จะให้สัมภาษณ์ไม่ยอมลงมาซักที่หนะสิ น่าหงุดหงิดชะมัด

    “นี่ๆ ให้มันน้อยๆหน่อยนะ ชั้นมีอายุเป็นพี่ของเธอเอง ถึงจะเป็นคนเก่าคนแก่ของบ้านก็เถอะ แล้วอีกอย่าง กล้ามาเรียกชายน้อยตามชั้นได้ยังไง อย่างเธอต้องเรียก คุณท่านชางมินนะจ้ะ จะบอกไว้ก่อน”

    อีป้านี่แก่ไม่เจียมสังขาร อย่าให้ชั้นมีเงินเมื่อไหร่นะ แม่จะไล่เฉดตั้งแต่คุณชายของบ้านยันคนรับใช้ ซะเลย ... จูฮยอนคิดในใจอย่างนึกแค้นได้แต่เค่นยิ้มอย่างเหลืออด เธอต้องมาทำงานบ้าๆนี่คนเดียว โดนกลั่นแกล้งชัดๆ

    “ถ้าคุณไม่อยากจะอยู่ก็กลับเลยก็ได้นะครับ ผมไม่ได้ว่าอะไร...”

    เสียงของคุณชายของบ้านพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบที่ฟังดูน่าเกรงขามแต่มันกลับไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับร่างบางที่นั่งรอเขาอยู่เป็นชั่วโมงเอาเสียเลย

    “ถ้าคุณพูดถึงขนาดนั้นชั้นก็ไม่อยากขัดน้ำใจงั้นลาก่อนนะค่ะ^^...”

    จูฮยอนยิ้มก่อนจะเดินไปทางประตูบ้านก่อนจะมีเสียงประหนึ่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เรียกเธอกลับมานั่งยังที่เดิม

    “แต่ผมแค่ไม่รับประกันอาชีพของคุณก็เท่านั้นเอง...บอกอเค้าจะว่ายังไงนะถ้าบอกว่าลูกน้องกลับบ้านโดยไม่แตะงานเลยซักนิด”

    “ชั้นหมายถึงลาก่อนการกลับบ้านหนะค่ะ ชั้นจะรอจนกว่าคุณจะเดินลงมาให้ชั้นสัมภาษณ์T^T

    ร่างสูงย่างก้าวลงมาช้าๆอย่างไม่รีบร้อนในขณะที่อีกคนแทบลุกเป็นไฟ เพราะแต่ละก้าวของเขาช่างเชื่องช้าเสียเหลือเกิน

    “ถ้าคุณเดินมาอุ้มผมได้คงอุ้มไปแล้วใช่มั้ย?”

    เสียงของชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อมานั่งยังฝั่งตรงข้ามเธอแล้ว จูฮยอนยิ้มให้อย่างกัดฟัน รู้ตัวแล้วทำไมไม่รีบลงมาฟ่ะ คอบดูเถอะ แม่จะพ่นกบาลให้ซักวัน ... นั่นมันก็ได้แค่ความคิดเบื้องลึก (เล็กๆ) ของหญิงสาวเท่านั้น ถ้าทำจริงบอกอของสำนักที่เทิดทูนคุณชายอย่างกับอะไรดีได้เพ่นกบาลเธอกลับจนแตกแน่

    “เอ่อ งั้นเริ่มกันเลยละกันนะค่ะ”

    “ผมจะมาบอกว่า ผมไม่อยากให้สัมภาษณ์แล้ว”

    หญิงสาวเลือดปูดๆขึ้นหัวอย่างเหลืออด...ให้เธอนั่งรอมาเป็นชั่วโมงเพื่อมาฟังคำบอกว่าไม่อยากให้สัมภาษณ์แล้วเนี่ยนะ อยากจะบ้าตาย!!

    “แต่ว่าชั้นมีหน้าที่ต้องสัมภาษณ์ให้เสร็จภายในวันนี้นะค่ะ กรุณาช่วยพูดอะไรที่มันเป็นไปได้หน่อย อีกอย่างคุณเป็นคนต้องการให้สัมภาษณ์เองตั้งแต่แรกนะค่ะ!!

    “เธอนี่พูดไม่รู้เรื่องรึไง ชั้นไม่อยากจะให้ผู้หญิงอย่างเธอสัมภาษณ์ คนอะไร ไม่รู้จักมารยาท จ้องคนอื่นตั้งแต่ข้างบนจนข้างล่าง มานั่งรอนิดหน่อยก็บ่น นี่เธอเห็นชั้นเป็นใคร ชั้นเป็นคนที่เธอต้องคอยเอาใจนะ ชั้นเปรียบเสมือนเจ้านายคนที่สองของเธอ แต่เธอไม่ให้ความเคารพชั้นเอาซะเลย รู้ใส่หัวของเธอไว้ซะบ้างก็ดีนะ ว่าชั้นหนะ จะเด้งเธอให้ออกจากงานเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ แล้วเธอก็ไม่มีสิทธิ์มาด่าชั้นปาวๆด้วย!!

    ชางมินเถียงกลับเสียงดังจนจูฮยอนที่นั่งหน้านิ่งยังสะอึก...คำพูดของคนตรงหน้ามีอิทธิพลต่อเธอจริงๆ...มันก็จริงอย่างที่เขาพูด เธอก็ลูกน้องที่ต้องทำตามคำสั่งเจ้านาย เขาเปรียบเสมือนเจ้านายอีกคนที่ต้องตามใจไม่ใช่มาตะคอกแบบนี้

    “งั้นถ้าคุณไม่สะดอกจะให้สัมภาษณ์ชั้นก็ขอตัวกลับก่อน แล้วถ้าคุณทนชั้นไม่ไหวจริงๆคุณก็โทรบอกกับทางสำนักงานเองละกันนะค่ะ ว่าต้องการเปลี่ยนคนสัมภาษณ์ ที่ไม่ใช่ชั้น!!

    จูฮยอนเก็บของอย่างหงุดหงิดจนเห็นได้ชัด ชางมินหัวเราะเยาะเหมือนกับเห็นหญิงสาวตรงหน้าเป็นเพียงชีวิตเล็กๆที่อยู่ในกำมือของเขา เหมือนดั่งนกน้อยในรังของพญาอินทรีย์ที่สามารถจ้องจะเอาชีวิตได้ทุกเมื่อ

    “ชั้นจะบอกอะไรเธอให้เอาบุญ...”

    มันได้ผล หญิงสาวที่กำลังจะเดินออกจากบ้านอย่างรีบร้อนหยุดเดินก่อนจะหันกลับมามองคนที่นั่งเชิดด้วยอาการที่ไม่เป็นมิตร

    “ชั้นบอกกับทางสำนักพิมพ์ไปว่า ชั้นอยากจะลงนิตยสารฉบับหน้าซึ่งมันจะต้องพิมพ์อย่างเร็วที่สุดอีก3วัน หรือช้าที่สุดอาทิตย์หน้า...น่าทึ่งใช่มั้ยหละ? ชั้นบอกด้วยนะ ว่าให้หนังสือทั้งเล่มนั้นเป็นชั้นซะส่วนใหญ่ด้วยยิ่งดี คนพวกนั้นรีบตอบกลับเลยเชียวหละ...เจ้าพวกเห็นแก่เงินพวกนั้นหนะ”

    “คุณจะใช้เงินในอำนาจไหนก็ตามชั้นไม่ว่า แต่ใช้เงินเพื่อจะด่าคนอื่น โดยเฉพาะเพื่อนๆที่ทำงานหรือแม้กระทั่งบอกอของชั้นมันยอมไม่ได้ ในเมื่อพวกเรามีหน้าที่ที่ต้องทำ คุณเองก็รู้นี่ว่าตัวเองก็คนใหญ่คนโต ยังมีหน้ามาเอาเงินฟาดหัวสั่งโน่นสั่งนี่คนอื่นไปเรื่อยแบบนี้มันใช้ได้แล้วรึไงกัน ก่อนคิดจะว่าคนอื่นก็ชะโงกมองเงาตัวเองว่ามันดีแล้วรึเปล่าที่คุณทำแบบนี้!!

    จูฮยอนว่าอย่างเหลืออด มันได้ผล ร่างสูงนั่นยืนก่อนจะเดินเข้ามาประชันหน้ากับเธออย่างเหลือดอด อาการของคนทั้งสองไม่ต่างกันเลย...

    “งั้นเหรอ แล้วเธอคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาด่าคนอื่นในบ้านของเขาแบบนี้หละ...คิดว่าตัวเองวิเศษณ์มาจากไหน เธอมันก็แค่เศษขยะที่ชั้นจะเอาไปทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ ชั้นย้ำกับเธอหลายรอบแล้วนะ”

    “แล้วไงหละค่ะ ไล่ออกเลยสิ ไม่ต้องมาขู่ให้ชั้นมัวกลัวอย่างนี้ ทำเลยสิ ไล่ออกเลย ชั้นเองก็เหลืออดแล้วเหมือนกัน!!

    “อย่ามาท้าชั้นนะ เพราะชั้นพูดจริงทำจริง!!

    “ก็ไม่ได้ท้า ชั้นบอกให้นายไล่ชั้นออกเลยไง เอาเลย จะบอกให้บริษัทอื่นไม่รับชั้นทำงานก็ได้ ชั้นไม่ง้อ ถ้าทำงานที่ประเทศนี้ไม่ได้ก็ไปต่างประเทศ ถ้ามันยังหนีคุณไม่พ้นก็แค่ฆ่าตัวตายประชดชีวิต คนตกงานนับร้อยก็ทำกัน ไม่เห็นจะยาก...อ๋อ แล้วถ้าคุณนึกหงุดหงิดอยากฆ่าชั้นตอนนี้เลยก็ได้นะ ชั้นไม่ว่า อยากจะรู้เหมือนกันว่าฆ่าคนแล้วไม่ติดคุกมันยังจะมีรึเปล่ากับพวกใช้อำนาจในทางที่เสื่อมขนาดนั้น!

    หญิงสาวเดินสะบัดไปอย่างไม่ใยดีกับร่างที่เธอพึ่งด่ามาหมาดๆ ชายหนุ่มเค่นหัวเราะก่อนจะเดินไปดึงหญิงสาวเข้ามาก่อนจะลากเธอเข้าไปในห้องทำงานของเขาในทันที... แรงที่เหนือกว่าทำให้เขาโยนเธอไปบนโซฟานุ่มในห้องทำงานอย่างง่ายดาย

    “นี่อะไรของนายกันเนี่ย!!

    “ก็อยากสัมภาษณ์ไม่ใช่รึไง!! ก็รีบๆสิ ชั้นไม่มีเวลามานั่งพูดเล่นกับเธอมากนักนะ!!

    คิ้วที่แทบจะขมวดเข้าหากันอย่างต้องการคำตอบกับสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังทำ...มันดูมึนงงไปเสียหมด เมื่อกี้เขาพึ่งไล่เธอไปนี่...ไหงถึงมาพาเธอมาแล้วสัมภาษณ์ทันทีหละ

    “นี่อะไรของนาย เมื่อกี้ก็จะไล่ท่าเดียว ทีนี้ก็จะให้สัมภาษณ์ บ้ารึเปล่า”

    “อย่ามาลีลาเล่นตัว อยากให้ชั้นสนใจนักรึไง! ชั้นแค่ไม่อยากให้มีใครมาบ่นชั้นอย่างเธอ ถ้าเธอไปก็คงไปเล่าให้ใครต่อใครฟังจนขายขี้หน้ากันพอดี”

    “งั้นเหรอ แค่ห่วงหน้าตัวเอง ไม่สำนึกผิดเอาเสียเลย...”

    “ถ้าเธอไม่สัมภาษณ์ชั้นจะปล้ำเธอมันตรงนี้แหละ เอามั้ย!!

    ชายหนุ่มเดินเข้ามาก่อนจะล๊อกแขนบางทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว หญิงสาวเขยิบหน้าถอยหนีอย่างหวาดๆกับใบหน้าเอาจริงเอาจังที่เข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ...

    “สัมภาษณ์แล้ว เอาหน้าออกไปซะ!!


     

    ...ไอ้ชางมินจะทำได้ดีรึเปล่าว่ะ? บอกให้ถ่วงเวลาให้นานที่สุดเนี่ย ...

    ทงเฮคิดในใจในขณะที่ตอนนี้หลานรักของเขา อินฮวากับแทยอน ผู้หญิงที่เขาต้องทำให้เธอเจ็บกำลังเล่นเครื่องเล่นกับอยู่ไม่อยากจะคิดเลยว่าซักวันเขาจะต้องทำร้ายผู้หญิงคนนี้ให้ลงคอ...เขาต้องทำมันจริงๆงั้นหรอ ทำผู้หญิงที่ไม่เคยมีความผิดเลยงั้นหรอ...

    “พี่แทยอนร้องเสียงดังสุดๆเลย ^&^

    “ก็มันน่ากลัวนี่ครับอินฮวา T^T อย่าคิดจะลากพี่กลับไปเล่นอีกรอบนะ คิดแล้วสยอง”

    “ทำไมพี่แทยอนไม่เห็นเหมือนหม่ามี้เลย หม่ามี้ช๊อบชอบมันจะตายไป”

    “ท่าทางว่าหม่ามี้ของอินฮวาจะเป็นหญิงแกร่งนะครับ =0=

    “ใช่ หม่ามี้ของอินฮวาหนะแข็งแรงมากเลยนะ ต่อยปะป๊าครั้งเดียว ปะป๊าหงายเงิบเลยหละ^&^

    “นั่นใช่เรื่องน่ายินดีด้วยหรอเนี่ย?? =0=

    ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังคุยกับเด็กน้อยเจ้าปัญหา ทงเฮก็เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มที่กลบเกลื่อนความคิดที่กำลังแล่นในหัวของเขาเอาไว้...

    “คุณทงเฮค่ะ รู้สึกว่าพี่สาวของคุณจะพาอินฮวาเล่นเครื่องพวกนี้บ่อยนะค่ะ”

    “ไม่บ่อยหรอกครับ แค่ทุกครั้งที่มีโอกาส ^^ ทำไมครับ กลัวหรอ?”

    “มากค่ะ T^T

    แทยอนตอบกลับด้วยสีหน้าที่ดูกังวล ถ้าหากต้องกลับไปเล่นอีกเธอขอวิ่งกลับไปขัดจังหวะเป็นกอขอคอ ของพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ของเธอเสียดีกว่า

    “อาทงเฮ พี่แทยอน อินฮวาอยากกินไอติมจังเลย~

    เสียงใสของเด็กตัวเล็กที่ยังอยู่ในวัยซุกซนเอ่ยพูดอย่างอ้อนๆกับผู้ใหญ่ทั้งสอง แทยอนกับทงเฮยิ้มเล็กๆก่อนที่ทั้งสองจะนั่งลงในระดับเดียวกับอินฮวาพร้อมๆกัน

    “งั้นเดี๋ยวอาพาไปนะครับ คุณแทยอน ผมรบกวนไปด้วยกันหน่อยนะครับ”

    “ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ แล้วอีกอย่าง ไม่ต้องเรียกคุณแทยอนก็ได้ค่ะ คุณอายุมากกว่าชั้น มันจะทำให้ชั้นดูแก่เกินตัวไปหน่อย”

    “ฮาฮา ครับ งั้นแทยอนช่วยไปเป็นเพื่อนผมกับอินฮวาด้วยนะครับ”

    “ด้วยความยินดีค่ะ^0^

    แทยอนยิ้มก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดิน ในขณะที่ทงเฮจับมือของอินฮวา เด็กน้อยเดินเร่งไปเคียงกับแทยอนโดยลากน้าชายของตนเองไปด้วย ก่อนจะไปจับมือแทยอน หญิงสาวหันมามองมือเล็กที่เข้ามาจับตนก่อนจะยิ้มให้ ทั้งสามเดินไปด้วยกันเหมือนอย่างครอบครัวอย่างกลมกลืน...

     

    “อร่อยจังเลยครับ^&^

    “อย่ากินเยอะสิครับอินฮวา เดี๋ยวก็อิ่มก่อนกลับไปกินข้าวเย็นพอดี”

    ทงเฮพูด หลานชายตัวน้อยยังคงยิ้มแป้นทะเล้นให้เค้าอย่างน่ารัก แทยอนยิ้มกับสองอาหลานก่อนที่จะหยิบทิชชู่มาเช็ดที่ปากให้กับอินฮวาเบาๆ

    “เห็นมั้ยอินฮวา กินเลอะเทอะ”

    ทงเฮพูดแหย่หลานเล่น โดยที่ไม่ดูตัวเองที่กินเลอะปากเหมือนๆกัน แทยอนกับอินฮวามองหน้ากันอย่างรู้ก่อนจะยิ้มหัวเราะ

    “หัวเราะอะไรกันนะ!

    ทงเฮทำท่าทางขึงขังเหมือนโกรธเล็กๆ ในขณะที่คนตรงหน้าทั้งสองรู้ดีว่าอาการอย่างนี้ไม่ใช่โกรธแน่ๆ มือเล็กป้องปากของตัวเองบอกกับแทยอนเบาๆ หญิงสาวหน้ามุ่ยเล็กๆก่อนจะทำตามที่เด็กเล็กข้างๆที่บอกมา...หญิงสาวหยิบกระดาษทิชชู่ก่อนจะนำมันมาเช็ดมุมปากให้กับทงเฮ แล้วยิ้มให้กับชายหนุ่ม...ใบหน้าเนียนของเขาเริ่มขึ้นสีระเรื่อ ไม่เคยมีสาวที่ไหนมาทำอย่างนี้ให้เขานี่นะ...

    “อาทงเฮก็เหมือนกันแหละ คิคิ ดูสิ ต้องให้พี่แทยอนเช็ดให้เลย คิคิ”

    “ไม่ต้องมายอกย้อนเลยนะไอ้ตัวแสบ อีกเดี๋ยวก็จะได้เวลากลับบ้านแล้ว”

     

     

    “แล้วรู้มั้ยครับว่างานนั้นเล่นเอาผมขายหน้าไปทั้งงานเลยหละ”

    “จริงหรอค่ะ คิคิ”

    เจสสิก้ากับคยูฮยอนที่คุยกันอย่างออกรส ในขณะที่ยูริที่นั่งมองอยู่อย่างไม่สบอารมณ์...เจสสิก้าลืมไปรึเปล่านะว่าคยูฮยอนเป็นศัตรู เขาไม่ใช่คนที่ควรจะรู้จักมักจี่ด้วยเลยซักนิด ไม่ควรไปทำความคุ้นเคยกับ...คู่แค้นของฮันกยอง

    “เจสสิก้า พี่ว่าเรารีบกลับโรงแรมกันเถอะ พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับแต่เช้านะ”

    ยูริลุกขึ้นจากโต๊ะขัดจังหวะคนสองคนที่นั่งในฝั่งตรงข้ามโต๊ะกลมนี้...เจสสิก้ากับคยูฮยอนเงยหน้าขึ้นมามองยูริ

    “แต่เจสกำลังสนุกเลยนี่ค่ะพี่ยูล ขอคุยเล่นอีกนิดเดียวนะค่ะ”

    “ไม่ได้เจสสิก้า เรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญนะ”

    “แต่เจสกำลังสนุกจริงๆนี่ อีกอย่างขอร้องพี่ฮันแปปเดียว เค้าก็ใจดีให้เลื่อนเที่ยวบินแล้ว ไม่เห็นต้องรีบเลย”

    “เจสสิก้าจอง นี่ไม่ใช่มาเที่ยวเล่นนะ พี่บอกให้กลับก็คือกลับ ไม่มีข้อแม้!!

    ยูริเอ็ดเจสสิก้าเสียงแข็ง หญิงสาวหันไปมองหน้าชายหนุ่มอย่างยิ้มๆก่อนจะลุกขึ้นตามคำสั่งของยูริ... หญิงสาวผิวเข้มตรงหน้าที่อายุมากกว่าเธอเป็นคนมีเหตุผล ที่โกรธจนขนาดเรียกชื่อเต็มของเธอคงมีเรื่องจริงๆ...แต่ก็นะ ในเมื่อมันยังสนุกอยู่นี่...คุยเล่นนิดเดียวเอง...นิดเดียวเอง...หญิงสาวเดินตามยูริไป โดยที่คนตรงหน้าที่กำลังเดินนำเธอไม่รู้เลยว่านามบัตรของชายหนุ่มมันถูกสอดไว้ในกระเป๋าเสื้อสูดคลุมของหญิงสาวเอาไว้...มือเรียวหยิบมันขึ้นมามองเล็กๆ...ก่อนจะยิ้ม...ในขณะที่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่เดิมมองสองสาวที่เดินออกไปจนลับตา

    “ไม่เห็นจะยากเลยซักนิด...ฮึ ฮันกยอง แล้วแกจะได้รู้จักชั้นให้มากขึ้นแน่...แต่ผ่านทางเจสสิก้าจองแล้วกันนะ...”

     

     

    “เมื่อไหร่ยัยแทจะกลับมานะ นี่มันก็สองทุ่มแล้ว ไปมัวเที่ยวเล่นที่ไหนอีก!

    แจจุงที่โมโหเลือดขึ้นหน้าอย่างเดือดดาลกับน้องสาวของเขาที่ไม่ยอมมาที่ร้านดอกไม้ตามนัด ในขณะที่ยุนอามองห่างๆอย่างห่วงๆ...

    “งั้นยุนว่าพี่แจจุงไปตามแทยอนเถอะค่ะ เดี๋ยวยุนปิดร้านเอง”

    “ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ช่วยปิดเอง...งั้นเอางี้ พี่ว่าเราปิดร้านแล้วไปหาแทยอนด้วยกันดีกว่า เด็กคนนี้ทำไมไม่ชอบรับโทรศัพท์นะ!

    แจจุงพูดอย่างเหลืออดกับน้องสาวที่ไม่ตรงเวลา...เป็นห่วงเสียจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้วมากกว่า ยุนอาเก็บของก่อนจะเดินมาหาแจจุง

    “เสร็จแล้วค่ะ”

    “อืม...งั้นเดี๋ยวถ้าหาแทยอนเจอพี่จะพาเราไปส่งที่บ้านละกันนะ”

    “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวยุนโทรบอกให้คนที่บ้านมารับก็ได้”

    “ไม่ได้หรอก พี่เป็นสาเหตุให้เรากลับบ้านดึก เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง”

    “แต่ว่า...”

    “ไม่ต้องมามีแต่เลยนะ จะขัดใจพี่เหมือนยัยแทอีกคนรึไงกัน”

    แจจุงพูดก่อนจะใช้โทรศัพท์ที่ถืออยู่แตะลงไปที่ปลายจมูกของร่างบาง ยุนอายิ้มเล็กๆก่อนจะดันแจจุงออกไปนอกร้าน แล้วปิดร้าน ในขณะที่ชายหนุ่มช่วยดึงบานเลื่อนลงมาด้วย

    “เสร็จแล้วค่ะ”

    “อ่า~ดีเลย งั้นไปหาแทยอนกัน”

    แจจุงพูด ในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินไปที่รถ จู่ๆ ข้อความก็เข้ามายังโทรศัพท์ของแจจุง ชายหนุ่มกดเปิดมันดูก่อนจะหันมาหายุนอา

    “แทยอนกลับบ้านแล้วหละ งั้นพี่ไปส่งเรากลับบ้านเลยละกัน”

    “อ้าว? แล้วใครไปส่งแทยอนหละค่ะ?”

    “ก็คงเป็นยัยซอเพื่อนสนิทยัยแทมารับกลับบ้านหนะ เห็นว่าเย็นนี้จะมาค้างที่บ้านพี่ด้วย”

    “อ๋อค่ะ”

    ทั้งสองขึ้นไปนั่งบนรถ แจจุงอยู่ในตำแหน่งของคนขับ ในขณะที่ยุนอานั่งอยู่ข้างๆคนขับอย่างเขินๆ...ใบหน้าหวานแดงระเรื่อขึ้นสีอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่ชายหนุ่มหันมามอง พลันแสงจากรถที่ผ่านออกไปทำให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวชัดขึ้นเล็กน้อย มือหนาจับใบหน้าหวานให้มาประจันหน้ากับตนเอง ก่อนจะเอาหน้าผากของตนเองไปอังกับยุนอา...หญิงสาวหน้าแดงตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกในขณะที่คนตรงหน้าเธอหลับตาพริ้ม

    “ก็ไม่ได้มีไข้หนิ ทำไมหน้าแดงหละ?”

    ชายหนุ่มปล่อยใบหน้าของหญิงสาวพร้อมทั้งเอาหน้าของตนเองออกมา ยุนอาหน้าแดงก่อนจะรีบหันหน้าไปอีกทางอย่างรวดเร็ว

    “อาจเป็นเพราะร้อนก็ได้ค่ะ ไม่มีไรหรอกค่ะ”

    “ยังไงเย็นนี้ก็นอนเร็วๆหละ ไม่งั้นจะเป็นไข้เอา”

    “ค่ะ...”

    ยุนอาตอบกลับในขณะที่มือบางจับที่อกข้างซ้ายของตนเอง...ไม่มีหน้าอก เอ้ย!ไม่ใช่ หัวใจเต้นแรง แรงมากจนแทบทะลักออกมา ชายหนุ่มขับรถออกไปช้าๆ ในขณะที่ยุนอานั่งกลับมาเอาหลังพิงเข้ากับพนักพิงเหมือนเดิม

    “บอกทางพี่ให้ดีๆหละไม่งั้นหลงนะ”

    “เอ่อ...ค่ะ...”

    หญิงสาวตอบกลับ ตอนนี้เขาจะรู้มั้ยนะว่าหัวใจดวงน้อยๆพองโตขนาดไหน...แล้วร่างเล็กนั่นหละ จะรู้มั้ยนะ ว่าหัวใจของเขาก็พองโตไม่แพ้กัน


     

    กรี๊ดกร๊าด!! เป็นไงกันบ้าง ตอนนี้โผล่มามี 4 คู่โผล่มาให้เดาเล่นๆอย่างนึกคึก คิคิ ถูกใจกันบ้างมั้ยเอ่ย??? อิอิ ^^ ยังไงก็อย่าลืมติดตามผลงานกันต่อไปด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ^^

    ปล.ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรักษาสุขภาพด้วยนะคะ ขนาดตอนนี้ไรเตอร์ยังเป็นเลย T^T




    + +
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×