คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : รักมันตรงกับเจ็บ ตอนที่ 2 คนที่ไม่ควรรู้จัก
รักมันตรงกับเจ็บ
เจสสิก้ารีบร้องโวยวายในขณะที่ตอนนี้เธอถูกจับแต่งตัวก่อนจะดันมาหลังเวทีเตรียมรอเวลาของชุดฟินาเล่ที่เป็นจุดเด่นของงานที่ตนกำลังใส่อยู่ ยูริส่ายหัวกับหญิงสาวรุ่นน้องที่ดูเหมือนจะยังไม่พร้อมในขณะที่เวลาก็ใกล้เข้ามาทุกที
“ไม่มีเวลามาอายแล้ว กล้าเข้าไว้ จำไว้ว่างานนี้เป็นงานของเจสนะ ถ้าอยากจะให้ใครๆเห็นว่าเจสไม่ใช่เด็กก็ทำซะ!”
ยูริพูดก่อนจะผลักเจสสิก้าออกไป หญิงสาวหันไปมองทางผู้ชม...ก่อนจะเปลี่ยนแปลงลักษณะการย่างก้าวอย่างมั่นใจตามสไตล์ของสาวสมัยใหม่อย่างเธอ... ผมยาวถูกรวบขึ้นไปมัดเป็นจุดก่อนจะถูกรวบด้วยสร้อยพันไปรอบๆผม สร้อยคอเพชรน้ำงามทำให้เรียวคอสวยดูโดดเด่นมากขึ้น ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มให้มีสีหวาน ในขณะที่ช่วงล่างแตกต่างจากชุดอื่นๆที่เป็นกระโปรงยาวคลุมกับรองเท้าส้นสูง แต่ชุดที่เจสสิก้ากำลังสวมนั้น เป็นรูปแบบของกางเกงฟูขาสั้นสีเนื้อกับช่วงบนโชว์หน้าท้องและต้นแขนพร้อมปล่อยผ้าผืนยาวไปตามลมโบกไปข้างหลัง ข้อเท้าถูกใส่ด้วยเพชรน้ำงามทั้งสองข้าง ข้อมือมีกำไรเพชรลักษณะที่คล้ายๆกันอยู่เช่นกัน...หญิงสาวเดินแบบอย่างมั่นใจราวกับเป็นนางแบบมืออาชีพ จนยูริที่แอบอยู่หลังเวทีอดที่จะปรบมือให้ไม่ได้ หญิงสาวเดินกลับเข้าไปยืนที่จุดเด่นของงาน ก่อนที่นางแบบคนอื่นๆจะเดินสวนเธอออกมาเรื่อยๆจนครบทุกชุด เจสสิก้าเดินออกไปอีกครั้งจนอยู่ด้านหน้าสุดรับเสียงปรบมือเสียงดังอย่างประทับใจก่อนที่ทุกคนจะเดินกลับไปที่หลังเวทีในเวลาที่มีโชว์ปิดงาน
“เจสสิก้าสุดยอดเลย พี่ยังอึ้งเลยนะ”
ยูริพูดอย่างดีใจก่อนจะยื่นเสื้อคลุมให้ เจสสิก้ารับมาก่อนจะถอดสร้อยข้อเท้าแล้วรับรองเท้าส้นสูงมาใส่จากพนักงานดูแลเพชรที่กำลังเก็บเพชรของนางแบบทุกคนรวมถึงเธอด้วย เจสสิก้าถอดเพชรออกทั้งหมดก่อนจะหันมาถอนหายใจกับยูริอย่างเหนื่อยใจ
“เจสกลัวแทบตายเลยนะพี่ยูล”
“เอาหน่า ยังไงก็ผ่านมาแล้ว ถือเป็นประสบการณ์ไง^^ ยังไงซะก็ดีกว่าไปโดดบันจีจัมพ์เนาะ”
“เกี่ยวอะไรกับโดดบันจีจัมพ์ค่ะ??”
“ไม่รู้สิ แต่พี่ดีใจที่งานเสร็จซักทีก็เลยพูดๆไปแค่นั้นเอง^^”
“แหม ก็เจสเป็นคนรับผิดชอบงานนี้นิก็เลยต้องทำ คอยดูนะ จะบอกพี่ฮันให้เล่นงานพี่ยูลให้หนักเลย!!”
เจสสิก้าพูด ในขณะที่หญิงสาวอีกคนหัวเราะพรางยิ้มแห้งๆให้ นั่นสินะ เจสสิก้านึกว่ายูริเป็นคนรักของฮันกยองนี่หน่า..เพราะเจสสิก้าไม่ชอบใจต้าเอสที่มาแต่งงานกับฮันกยองเป็นทุนเดิม พอมียูริพี่สาวที่รู้ใจจึงดีใจเป็นเท่าตัว
“งั้นเจสไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะค่ะ แล้วไปกินอาหารอร่อยๆที่ภัตตาคารชั้นบนกันค่ะ”
“จ้ะ^^”
ยูริยิ้มแห้งๆให้กับเจสสิก้าที่เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าแทน...ถ้าเจสสิก้ารับรู้สาเหตุที่เธอเข้าใกล้ฮันกยองคงโกรธเป็นแน่...เพราะฮันกยองเป็นคนที่ดีกับเจสสิก้าทุกอย่าง ตามใจเจสสิก้าทุกอย่างราวกับเป็นน้องสาวแท้ๆ...ใช่ เจสสิก้าเป็นคนที่มีชะตากรรมเดียวกับแทยอน...แม้มันจะไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่มันเป็นถึงสาเหตุที่ทำให้เจสสิก้าถูกรังเกียจจากครอบครัวที่คิดว่าเป็นครอบครัวแท้ๆมาตั้งแต่เด็กๆ
“ถ้าเธอรู้เรื่อง...จะรับได้มั้ยนะ...”
“ว่าไงครับคุณฟินาเล่แสนสวย”
เสียงเรียกร้องทักระหว่างทางในขณะที่เจสสิก้ากำลังเดินเตรียมไปเปลี่ยนเสื้อผ้า...หญิงสาวหันมามองอย่างสงสัย ก่อนจะเจอกับคนที่ดูคุ้นหน้า แต่เธอเองก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร
“คุณเป็นใครค่ะ? แขกในงานงั้นหรอ? ทำไมชั้นคุ้นหน้าคุณจัง”
เจสสิก้าพูดก่อนจะยิ้มให้อย่างเป็นมิตรในขณะที่คนตรงหน้าเธอก็ยิ้มให้เช่นกัน...
“ครับ ผมเป็นคนในงาน คุณเจสสิก้า จอง สินะครับ”
“เรียกเจสเหมือนคนอื่นๆก็ได้ค่ะ ว่าแต่คุณชื่ออะไรค่ะ?”
“ผม โจว คยูฮยอนครับ ผมรู้สึกไม่ผิดหวังเลยที่มางานนี้”
“ขอบคุณค่ะ คุณคยูฮยอน”
“เรียกคยูเฉยๆก็ได้ครับ”
“ว่าแต่คุณอยู่คนเดียวหรอค่ะ???”
“ครับ พอดีผมแอบโดดงานบริษัทมาดูงานเพราะได้รับบัตรมาหนะครับ”
“อ๋อ ค่ะ^^”
เจสสิก้ายิ้มให้อย่างไม่รู้ตัวว่ากำลังติดกับของคนตรงหน้า...คยูฮยอนที่เธอคุ้นเคยอาจเป็นคนที่ฮันกยองเคยบอกในช่วงที่เธอมักเข้าไปดูงานในบริษัท... คนที่ถือเป็น ‘ศัตรูตัวฉกาจ’ สำหรับฮันกยอง ทั้งในทางธุรกิจและชีวิตความเป็นจริง
“งั้นคุณจะช่วยไปกินข้าวกับคนเดียวดายอย่างผมได้มั้ยครับ?”
“คงไม่ได้หรอกค่ะ เพราะชั้นจะไปกินข้าวกับพี่ยูริ”
“งั้นผมขอติดสอยไปกินอีกคนได้มั้ย??”
“ถ้าคุณรับปากว่าจะเป็นคนเลี้ยงนะค่ะ”
“แน่นอนครับ เพราะกระเป๋าผมหนะ ไม่ใช่เบาๆนะ”
เจสสิก้าหัวเราะกับเสียงพูดติดตลกของคยูฮยอน...ใบหน้าคมที่ดูอ่อนโยนและดูเป็นคนอบอุ่นนั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกใจสั่นไม่ใช่น้อย...
“งั้นเดี๋ยวชั้นขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะค่ะ”
“ครับ ผมจะรออยู่ตรงนี้นะครับ”
“ใช่แก เป็นไง ชั้นเจ๋งมั้ย ทีนี้แหละ พี่ชายชั้นจะได้มีแฟนซักที”
แทยอนพูดอย่างออกรสชาติกับเพื่อนสนิทอย่างซอจูฮยอน เพื่อนร่วมมหาลัยแสนสนิทด้วย แต่ด้วยที่ว่าทั้งจูฮยอน(ซอฮยอน)และเจสสิก้า เพื่อนสนิททั้งสองต่างเร่งเรียนเพื่อไปสานต่องานความฝันที่ต้องการด้วยความที่บอกเหตุผลว่า ‘ไม่อยากแก่’ แต่แทยอนเรียนตามปกติทำให้เรียนได้ช้ากว่าเพื่อนทั้งสอง แต่เธอก็ตั้งใจเรียนมากจนตอนนี้ล้ำหน้าเพื่อนรุ่นเดียวกันมาหนึ่งปีก็ถือว่าดีแล้ว
(มันคุ้มแล้วหรอแท??)
“คุ้มอะไรของแก?”
(ก็ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนไม่ดีหละ)
“โหนี่แก วันนั้นแกก็เห็นนี่ ว่าเค้าหนะใจดีจะตาย คนใจร้ายที่ไหนจะวิ่งไปช่วยเด็กที่เกือบถูกรถชนบ้างหละ”
แทยอนพูด เพราะวันนั้นเธอกับจูฮยอนนึกพิลึกไปเที่ยวกันที่แถบย่านชานเมืองแต่ด้วยว่าเป็นวันหยุดที่ทุกคนต่างเร่งรีบกลับบ้านไปหาครอบครัวที่บ้านนอกกันยกครัวทำให้รถเยอะกว่าปกติ ในวันนั้นเธอเห็นยุนอาไปช่วยเด็กน้อยเอาไว้ นั่นทำให้เธอประทับใจ และต้องให้พี่สาวคนนี้เป็นพี่สะใภ้ของตนเอง
(แกนี่น่ากลัวนะ เห็นแค่นั้นก็อยากได้เค้าเป็นพี่สะใภ้แล้ว)
“เอ้า ก็ชั้นไม่อยากมีหลานตอนแก่นี่”
(เออๆ เรื่องของแกเถอะ แต่ตอนนี้ชั้นขอวางสายก่อน ได้เวลาไปทำงานแล้ว เห็นว่าต้องไปสัมภาษณ์ไอ้ตัวร้าย คุณชายผู้ร่ำรวยกว่าบก.ของสำนักข่าวของชั้น)
“โห ท่าทางไม่สบอารมณ์นะแกเนี่ย”
(ก็แน่หละ ไอ้หมอนี่ที่ชั้นกำลังจะไปสัมภาษณ์เป็นคนที่เด้งให้ชั้นไม่ได้ไปงานเครื่องเพชรที่ปารีสของยัยเจส)
จูฮยอนตอบไป ชื่อในวงการข่าวของเธอเป็นซอฮยอนเพราะทางผู้ใหญ่ของสำนักเห็นว่าชื่อเพราะว่าชื่อจริงของเธอ ในขณะที่เพื่อนสนิทเธออย่างเจสสิก้าและแทยอนเรียกเธอว่าจูฮยอนจนชินปากไปเสียแล้ว
“เออๆ อย่าฆ่าเค้าก่อนจะละกันนะแก ชั้นไม่อยากไปเยี่ยมเพื่อนในคุก”
(แกไม่ได้เยี่ยมในคุกหรอกหน่า...ได้เยี่ยมในที่เยี่ยมผู้ต้องหาอาชญากรรมระดับชาติต่างหาก เพราะหมอนี่เป็นบุคคลสำคัญมากกกก!!!)
“ดูเหมือนแกไม่ได้สำนึกเลยนะว่าหมอนั่นเป็นเสมือนเจ้านายอีกคนของแกหนะ - -*”
แทยอนพูดอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะยกกาแฟขึ้นมาจิบเล็กๆ
(ใช่!ชั้นไม่เคยคิดว่าหมอนั่นมันดีหรือวิเศษวิโสมาจากไหน แต่ถ้าชั้นฆ่าหมอนั่นได้ ชั้นคงเอามีดสปาต้ากรีดหน้ามันแล้วหละ)
“แกนี่น่ากลัวนะ”
(พึ่งรู้รึไง)
“เออ”
แทยอนตอบไปก่อนจะส่ายหัวอย่างระอา ยังไงซะเพื่อนสาวของเธอที่แม้จะคิดเรื่องพิลึกๆเพราะแค่ไม่ได้ไปงานที่ปารีสของเจสสิก้าแค่นั้น...เพราะแค่รู้สึกจะมีรางไม่ดีก็เลยอารมณ์เสียที่ไม่ได้ไป - -
(แกอ่ะ ไปเป็นเพื่อนชั้นหน่อยสิ ให้ชั้นไปรับแกก็ได้นะ)
“ไม่อ่ะ ไม่อยากเห็นการฆาตกรรมสดหรือต้องตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมฆ่า”
(เค้าล้อเล่นนะตัวเอง ตัวเองน่าจะเข้าใจเค้านี่ ไปกับเค้าน้า~)
จูฮยอนงัดมุกง้อมาใช้พรางทำเสียงเหมือนเด็กๆ
“แกอายุเท่าไหร่??”
(21ปี เด็กใช่มั้ยหละ >w<)
“ไอ้แก่อยากเด็ก รีบไปทำงานซะ”
(ไอ้เพื่อนใจร้ายT^T โหดร้ายกับเค้าอ่ะ)
“เออหน่า แล้วถ้าคืนนี้แกว่างจะมานอนบ้านชั้นก็ได้นะ คืนนี้พี่ยูลไม่อยู่ เหงาจะแย่”
(อย่าบอกว่าเหงาทั้งๆที่เธอก็ยังคงมีเค้านะที่รัก T^T ชั้นช้ำใจที่เธอเอาชั้นเป็นข้ออ้างเพียงเพราะทะเลาะกับเขาT^T)
แทยอนถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจกับเพื่อนของเธอที่ตอนนี้เริ่มบ้าไม่สมกับอายุอานามที่ขึ้นเลข2ไปแล้วก็ยังมิวายทำนิสัยเด็กๆแบบนั้นอีก(แม้บางครั้งเธอจะทำมันบ่อยกว่าเพื่อนก็เถอะ - -)
“จะมาไม่มา ถ้าไม่มาจะได้ไม่ต้องรอ จะได้หลับไปก่อนเลย แล้วให้แกนอนที่ห้องพักคนเดียว!”
(แกก็รู้ว่าบ้านชั้นมันอยู่ต่างจังหวัดตั้งไกล...ไอ้เด็กบ้านนอกอย่างชั้นพอมีงานก็ต้องมานอนหอพักให้ใกล้ที่ทำงาน แต่ว่าบ้านแกมันใกล้กับที่ทำงานชั้นมากกว่า แถมพี่ชายแสนใจดีของแกก็จะได้ไปส่งชั้นตอนเช้าด้วยใช่ม้า....แล้วก็นะ....)
“สรุปจะมาไม่มาหละค่ะคุณเพื่อนที่รัก”
(แหม คำตอบก็คือไป โอเคมั้ย? งั้นชั้นไปทำงานก่อนนะจะได้ไปบ้านแกเร็วๆ บาย)
“อืมบาย ตั้งใจทำงานหละ”
ปลายสายกดวางไป แทยอนถอนหายใจเล็กๆ ตอนนี้เธอหลบมาร้านกาแฟเมื่อซื้อหนังสือเสร็จตามที่บอกกับแจจุงเอาไว้...แม้ตอนแรกจะเห็นแจจุงออกมาซื้อกาแฟร้านนี้ด้อมมองอยู่นานกว่าแจจุงจะไป เธอจึงได้มานั่งทานกาแฟอยู่อย่างนี้คนเดียว รอเวลาให้แจจุงอยู่กับยุนอาซัก2-3ชั่วโมงละกัน...เพราะความจริงแล้วไม่ใช่แค่เพราะในวันนั้นที่เห็นยุนอาช่วยเด็กน้อย แต่เป็นเพราะเธอแอบค้นห้องพี่ชายแล้วพบรูปของหญิงสาวเต็มไปหมดต่างหาก...คิคิ แม่สื่อแม่ชักอย่างเธอไม่พลาดแน่ >w<
“เอ่อ คือ ผมขอนั่งด้วยคนได้มั้ยครับ??”
แทยอนเงยหน้ามองคนมาใหม่...คุ้นๆแฮะ
“อ๋อเชิญเลยค่ะ ว่าแต่ คุณชื่อว่าอะไรหรอค่ะ?”
“ผม ลีทงเฮครับ”
ชายหนุ่มตอบก่อนจะยื่นนามบัตรให้ หญิงสาวรับมาก่อนจะยิ้มรับ
“อ๋อ นักธุรกิจหนุ่มคนนั้นนั่นเอง ถึงว่าคุ้นๆหน้าคุณที่ไหน”
“^.^”
ชายหนุ่มยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แทยอนยิ้มตอบอย่างไม่คิดอะไร...ในขณะที่ชายหนุ่มสั่งกาแฟไปเรื่อยๆพร้อมทั้งกินขนมด้วยนิดหน่อย...จู่ๆเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แทยอนและชายหนุ่มตรงหน้าเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกันแต่เสียงนั้นกลับเป็นของคนตรงหน้า... เสียงเรียกเข้าเหมือนกันเลยแฮะ แทยอนคิดในใจ
“ฮัลโหล...จริงหรอ??...ตอนนี้อาอยู่แถวๆสวนสาธารณะนั้นแหละ อยู่ในร้านกาแฟ ให้ปะป๊ากับหม่ามี้มาส่งสิครับ...ครับ...งั้นเดี๋ยวเจอกันครับ”
แทยอนมองคนตรงหน้าสนทนาอย่างรวดเร็ว เขาวางสายลงก่อนจะหันมายิ้มให้เธอ
“เอ่อ คุณชอบไปสวนสนุกรึเปล่าครับ?”
“หืม?”
แทยอนสงสัยกับสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังถามจนเลิกคิ้วขึ้นสูง ชายหนุ่มยิ้มให้อีกครั้ง
“พอดีหลานของผมเขาแอบหนีพ่อแม่เค้ามาหา แต่ผมไม่ค่อยชอบไปสวนสนุกเท่าไหร่ เห็นคุณเป็นผู้หญิงก็เลยอยากให้คุณช่วยดูแลหลานผมหน่อย”
“แล้วทำไมคุณไม่ไปกับหลานคุณด้วยหละค่ะ?”
“ผมไปครับ แต่ผมแค่ไม่อยากจะต้องไปนั่งเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกกับหลานเท่านั้นเอง...พอดีว่าถ้ามีคนเห็นแล้วไปทำข่าวก็เสียชื่อนักธุรกิจแย่สิครับ”
ประโยคหลังที่ชายหนุ่มเอามือมาป้องปากให้เธอได้ยินนั้นเล่นเอาหญิงสาวหัวเราะเล็กๆในเมื่อคนตรงหน้าทำเสียงน่ารักดูเหมือนคนกลัวเสียฟอร์มจริงๆยังไงอย่างงั้น
“ก็ได้ค่ะ ชั้นไม่มีอะไรทำพอดี”
แทยอนพูด...ในเมื่อเธอต้องการปล่อยช่วงเวลาไปซัก2-3ชั่วโมงอยู่แล้วก็คงไม่เป็นไรถ้าหากไปกับชายหนุ่ม อีกอย่างสวนสนุกเป็นที่ๆเต็มไปด้วยผู้คน เขาไม่ทำอะไรเธอหรอก แล้วยังมีหลานเค้าอีกคน
...คิคิ พี่แจกับพี่ยุนได้อยู่กันนานแน่...
...แม้จะผิดแผนนิดหน่อย แต่ก็ดีเกินคาดแฮะ...
ความคิดแล่นผ่านทั้งสองคนอย่างไม่ทันรู้ความคิดของกันและกัน ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตรอีกครั้ง รอจนกระทั่งจู่ๆมีเด็กน้อยเดินมาที่โต๊ะของพวกเขา
“อ้าวอินฮวา มาเร็วจังเลยนะครับ”
“ก็บอกปะป๊ากับหม่ามี้ก็มาเลยนี่ครับ แล้วนี่ใครอ่ะอาทงเฮ?? พี่สาวคนสวยเป็นแฟนของอาทงเฮหรอครับ??”
เด็กน้อยถามอย่างใสซื่อ แทยอนและทงเฮหน้าแดงก่อนจะยิ้มให้กับเด็กน้อย
“เปล่านะครับ พี่จะเป็นคนที่พาอินฮวาไปเที่ยวเล่นไง”
แทยอนตอบพร้อมยิ้มให้กับอินฮวา
“อ่า~อาทงเฮติดงานหรอ???”
“เปล่าครับ พอดีอารู้สึกไม่สบายจะขอทำหน้าที่เป็นสารถีกับกระเป๋าเงินพอครับ ส่วนพี่สาวจะพาอินฮวาเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกแทนอาไง”
ทงเฮตอบก่อนจะลูบหัวอินฮวาเล็กๆ แทยอนมองทงเฮกับหลานก่อนจะยิ้มเล็กๆกับท่าทางน่ารักๆของทงเฮที่ไม่เห็นจะดูเคร่งขรึมอย่างที่จูฮยอนเคยบอกไว้เลย
“พี่สาวยิ้มใหญ่เลย แอบชอบอาทงเฮของอินฮวาหรอครับ^&^”
“เปล่านะครับ พอดีพี่เห็นท่าทางอาของอินฮวาแตกต่างกับที่เพื่อนของพี่บอกก็เลยนึกหัวเราะหนะครับ^^”
แทยอนตอบก่อนจะยิ้มให้กับอินฮวา...เด็กน้อยตรงหน้าน่ารักจนอดไม่ได้ที่จะอุ้มเจ้าร่างเล็กมานั่งตัก
“พี่สาวชื่ออะไรหรอครับ?”
“แทยอนครับ คิมแทยอน”
แทยอนตอบกลับก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะนั่งโยกไปมาเล่นอย่างสนุกสนาน...แทยอนหันไปมองเมื่อรู้สึกเหมือนถูกจ้องอยู่
“มีอะไรติดหน่าชั้นงั้นหรอค่ะ?”
“ปะ ปะ เปล่าครับ พอดีผมอยากรู้ว่า
เอ่อ...เพื่อนของคุณพูดอะไรถึงผมบ้าง?? แล้วเคยเจอผมหรอ?”
เมื่อวานซ้อมกับพี่อินซองมาได้แค่นี้รึไงเนี่ย โอ้ย...ทงเฮคิดทั้งๆที่ยังคงยิ้มให้แทยอน
“ก็เพื่อนของชั้นเค้าเป็นนักข่าว เค้าบอกว่าคุณเป็นคนเคร่งขรึมและดูน่ากลัวมากหนะค่ะ”
“อาของอินฮวาน่ารักจะตายไป เมื่อวานยังเอาถุงน่องของแม่มาใส่ให้อินฮวาดูตอนอินฮวาร้องไห้อยู่เลยครับ^^”
อินฮวาพูดในขณะที่ทงเฮหน้าแดงเขินอายกับสิ่งที่หลานน้อยของเขากำลังเล่าให้แทยอนฟัง...หญิงสาวอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินเล็กๆก่อนจะหันไปมองท่าทางของทงเฮที่ดูลุกลี้ลุกลน...ดูเหมือนว่ามันเป็นเรื่องจริง
“เอ่อ เก็บเงินด้วยครับ แทยอนกับอินฮวาไปรอหน้าร้านเลยนะ เดี๋ยวผมจะตามไป แล้วอินฮวาอย่าเล่าอะไรเมื่อวานให้พี่เค้าฟังอีกหละ รู้มั้ยว่าอาอายเค้าT^T”
ทงเฮพูด แทยอกนับอินฮวาพยักหน้าก่อนจะพากันเดินออกไป ทงเฮมองตามร่างบางที่ออกไปกับอินฮวาอย่างหลงใหล...ไม่รู้มีอะไรมาดลใจเขาทำให้รู้สึกหลงเสน่ห์ของแทยอนอย่างไม่ทันตั้งตัว คงเพราะไม่เคยคิดว่าต้องเข้าหาผู้หญิงคนนี้มาก่อนหละมั่ง...เพราะยังไงซะครั้งนี้ที่เขาต้องทำคือต้องแก้แค้น....
ตอนที่สองแล้ว เป็นไงกันบ้างเอ่ย?? อิอิ อินฮวาน่ารักเนาะ>w<(แต่งเองเขินเองไอ้บ้า - -) ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามผลงานของไรเตอร์นะค่ะ >w<
ความคิดเห็น