คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Intro
“ทำไมยังไม่ยอมทำตัวตามสบายกับชั้นหละ??”
ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวในอ้อมกอดของเขาที่ทำสีหน้าไม่พอใจอยู่
ดวงตากลมชายสายตามองขึ้นไปเล็กๆก่อนจะหันหน้าเสไปทางอื่นแล้วถอนหายใจเสียงดัง
“เฮอะ!เห็นมั้ยว่าชั้นทำตัวตามสบายอยู่ ขอบใจที่เป็นห่วง!”
หญิงสาวพูดจาประชดประชันก่อนจะลุกขึ้นทั้งที่ยังคงเปลือยกายไปยังโต๊ะเครื่องแป้งใกล้ๆก่อนจะหยิบยาคุมกำเนิดแล้วยกน้ำขึ้นมาดื่มอย่างหัวเสีย ชายหนุ่มตามเข้าไปโอบทางด้านหลังทั้งๆที่รู้ว่าหญิงสาวที่ตนกำลังกอดนั้นไม่พอใจหากแต่เก็บอาการเอาไว้
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นหละ ไม่น่ารักเอาซะเลยนะ”
มือหยาบจับคางเรียวให้หันมามองหน้าตนพรางลูบมันไปมา หญิงสาวปัดมือนั้นออกก่อนจะหยิบผ้ามาเช็ดปลายคางของตนด้วยความรังเกียจ
“ชั้นไม่ได้อยากจะน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนอย่างผู้หญิงของคุณ!!”
หญิงสาวพูดอย่างไม่เกรงกลัว แม้ว่าคนตรงหน้าเธอจะมีอิทธิพลในสังคมมากและยังเป็นคนคอยช่วยเหลือเรื่องงานของน้องชาย แต่เธอกลับไม่เคยยินดีซักครั้งที่ต้องมาร่วมรักกับชายคนนี้
“เพราะไม่เหมือน...นั่นคือเสน่ห์ที่ทำให้ผมหลงรักคุณ...”
ชายหนุ่มพูดพร้อมจับคางเรียวของหญิงสาว ในขณะที่ร่างบางสะบัดหน้าอย่างเสียอารมณ์ก่อนจะถอนหายใจ ใบหน้าหวานใช้หางตาหันมามองชายหนุ่มที่โอบกอดเธออยู่
“อย่าคิดจะมาพูดเล่นกับชั้น ฮันกยอง นายมันก็แค่ผู้ชายเฮงซวย บ้ากาม ทุเรศ และเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ...”
หญิงสาวพูดด้วยท่าทางและน้ำเสียงเหยียดหยาม หากแต่ชายหนุ่มยังคงหัวเราะในลำคอร่วนก่อนจะมองหญิงสาวด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป...
“แต่ยังไงซะ ผู้ชายเฮงซวยคนนี้ก็ขึ้นชื่อว่า ผัว ของเธอนะ คิมยูริ ไม่สิ ควอนยูริต่างหาก...”
ฮันกยองค่อยๆลูบแก้มเนียน หญิงสาวยืนนิ่ง...เธอจำต้องยอม...เพื่อวันข้างหน้า...เพื่ออนาคตของน้องๆของเธอ...เพื่อรอวันแก้แค้นให้แม่ของเธอเอง...
“พี่ยูริกลับมาแล้ว~”
เสียงใสร้องเรียกเมื่อเห็นพี่สาวของตนกลับมาถึงบ้าน ร่างเล็กรีบวิ่งไปกอดพี่สาวคนโตที่อายุห่างกันถึง7ปี ยูริลูบผมน้องสาวของตนเบาๆก่อนจะกอดตอบอย่างอบอุ่น ร่างเล็กผละออกมาก่อนจะยิ้มให้ยูริอีกครั้ง
“ทำไมวันนี้กลับดึกจังหละค่ะ???”
“พี่ติดธุระนิดหน่อยจ้ะ ว่าแต่ แทยอนเป็นเด็กดีรึเปล่าค่ะ??? เลิกเรียนแล้วกลับบ้านเลยรึเปล่า???”
ยูริเอ่ยถามคำถามเดียวกับเวลาที่เธอกลับบ้านมาแทบทุกเย็นตั้งแต่น้องสาวตรงหน้าของเธอ คิมแทยอน ยังอายุเพียง7ขวบ จนตอนนี้อายุจะ21แล้วยังคงเป็นคำถามเดิมอยู่...แทยอนทำหน้ามุ่ยจนเรียกเสียงหัวเราะจากยูริ
“พี่ถามแทอย่างนี้ทำอย่างกับว่าแทเป็นเด็กแหนะ แทโตแล้วนะค่ะ อีกอย่างวันนี้แทแวะไปเอารายงานที่หอของเพื่อนแปปเดียวแล้วก็รีบกลับบ้านเลย เป็นไง แทเป็นเด็กดีไหม??”
แทยอนพูด ยูริยิ้มก่อนจะหยิกแก้มน้องสาวของตนเบาๆอย่างเอ็นดู
“เป็นเด็กดีจ้ะๆ”
ยูริพูดพร้อมรอยยิ้ม เพราะเธอหวงน้องสาวของเธอมาก...ทั้งชีวิตเหลือเพียงน้องสาวและน้องชายที่เธอต้องดูแลอีกสองคน สองคนเท่านั้นที่เธอรักมากจนยอมสละชีวิตและอนาคตของตนเองได้...เพราะพ่อเป็นคนเจ้าชู้ทำให้แม่หนีออกมาจากบ้านใหญ่พร้อมลูกเล็กทั้ง3...ก่อนที่แม่จะต้องประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตอนแทยอนอายุ7ขวบ...ซึ่งเธอเป็นพี่ใหญ่อายุเพียง14 หลังจากนั้นก็ต้องดูแลน้องทั้งสองมาตลอด...เธอไม่รู้สึกว่าเหนื่อยเลย กลับบ้านมาก็จะมีรอยยิ้มและการต้อนรับจากแทยอนเสมอๆ...มันทำให้เธอไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
“อ้าวพี่ยูริกลับมาแล้วหรอครับ? ผมทำอาหารเย็นเสร็จแล้วนะ”
ชายหนุ่มอายุราวๆ24ปีเดินออกมาจากครัวพร้อมทั้งอาหารมากมายที่วางบนโต๊ะ แทยอนรีบดึงแขนยูริไปนั่งทันที...
“นี่พี่แจจุง ทำไมพี่ทำอาหารเก่งจังเลยหละ???”
แทยอนเอ่ยถามพี่ชายที่นั่งลงข้างๆตน
“ก็เพราะพี่หมั่นหาอะไรๆมาลองทำใหม่ๆดูบ้างหนะสิ ส่วนเราหนะ เอาแต่กินๆๆๆ ดูสิ เดี๋ยวซักวันจะลงพุงจนหมูละอาย”
แจจุงพูด แทยอนทำหน้าบึ้งก่อนจะทะเลาะกับแจจุงเหมือนเด็กๆ ยูรินั่งมองน้องทั้งสองด้วยรอยยิ้ม...
“นี่แจจุง อย่าตีน้องอย่างนั้นสิ!”
ยูริเอ็ดน้องชายที่แม้จะทะเลาะกันเรื่องตอนกินข้าวเสร็จก็ยังคงทะเลาะกันไม่เลิก...แต่ถ้าถึงขั้นที่มาตีแทยอนขนาดนี้เธอเองก็คงนิ่งไม่ไหวเหมือนกัน
“โธ่พี่ยูล ผมตีเบาๆเองนะ ยัยแทแกล้งเจ็บต่างหาก”
“ยังไงก็อย่าตีน้องสิ แล้วถ้าพี่ไม่อยู่พี่จะไว้ใจฝากน้องไว้กับเราได้มั้ยแจจุง!”
ยูริเริ่มเอ็ดเสียงเข้มกว่าเดิม จนแจจุงเริ่มกลัวยูริ...แม้เขาจะตัวใหญ่กว่ายูริก็จริง แต่ยังไงคนตรงหน้าก็เป็นพี่สาวของเขา และยังเป็นเสมือนตัวแทนของคุณแม่ที่เสียไป...
“อย่าว่าพี่แจเลยค่ะพี่ยูล แทแกล้งพี่แจเค้าเองแหละ”
“แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นจริงแจก็ไม่ควรจะไปตีน้องเค้า รู้มั้ยว่าเราเหลือกันแต่3คนนะ ถ้าไม่รักกันแล้วใครจะมารักเรา”
ยูริสั่งสอนน้องทั้งสอง ก่อนจะสะบัดหน้าหนีแล้วนั่งกอดอกฟึดฟัด ดูท่าทางของยูริจะอารมณ์เสียน่าดู...แจจุงกับแทยอนมองหน้ากันก่อนจะค่อยๆเข้าไปกอดยูริจากคนละข้างกัน
“ขอโทษนะค่ะที่ทำให้พี่ยูลหงุดหงิด...”
แทยอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อยๆอย่างล้าๆ...ยูริถอนหายใจเสียงยาวก่อนจะโอบน้องทั้งสองแล้วลูบผมน้องสาวของตนเบาๆ ในขณะที่อีกมือก็ตบบ่าน้องชายของตนไป...
“พี่เองก็ต้องขอโทษที่หงุดหงิดเกินจริงไป...ขอโทษนะแจจุง แทยอน...หมู่นี้พี่รู้สึกไม่สบายนิดหน่อยหนะ”
“ไปหาหมอมั้ยครับ???”
แจจุงเอ่ยถาม ยูริส่ายหน้า
“เอาเงินที่จะพาพี่ไปหาหมอ เก็บไว้สร้างฐานะดีกว่านะแจ...ซักวัน แจก็ต้องสร้างบริษัทที่เป็นของตัวเอง...แล้วถึงตอนนั้นก็ต้องใช้เงินในการดูแลแทแทนพี่อีกด้วยนะ....”
“พี่ยูลอย่าพูดเหมือนเราไม่มีเงินสิ...เมื่อก่อนที่ผมกับแทยังเรียนอาจจะใช่ที่พูดยูลต้องลำบากหาเงินคนเดียว แต่ตอนนี้...ผมมีงานทำ มีเงินเดือนแล้วนะ แค่พาพี่ไปหาหมอแค่นี้เอง...”
แจจุงพูด ยูริส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มก่อนจะกอดน้องทั้งสองเข้ามาแน่นขึ้น
“ไม่เลยแจจุง...เงินพวกนั้นซักวันก็ต้องหมด...พี่ไม่คิดอยากจะให้เราต้องมาฟุ่มเฟือยกับพี่หรอก..แล้วจำเอาไว้นะแจ...ซักวัน...ถ้าพี่ไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว แจต้องดูแลแทให้ดีนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น...ต้องดูแลแทให้ดีนะ...”
“พี่ยูลอย่าพูดอย่างนั้นสิค่ะ”
แทยอนพูดในขณะที่แทบจะร้องไห้...ยูริหัวเราะนิดๆก่อนจะลูบผมน้องสาวของตนเบาๆ
“เวลาหนะ มันไม่แน่นอนหรอกนะ....”
“ฮัลโหล”
ชายหนุ่มรับโทรศัพท์เบอร์แปลกด้วยเสียงเรียบ...ในตอนนี้คิดแค่ว่าปลายสายนั้นจะเป็นลูกค้ารายใหม่หรือรายเก่ากันแน่...ก็แค่ธุรกิจที่ต้องเสแสร้งสร้างความดีไปวันๆ...น่าเบื่อสิ้นดี...ถ้าไม่ติดว่านี่เป็นธุรกิจประจำตระกูลเค้าแล้วหละก็ ไม่มีทางที่เค้าจะมานั่งบริหารให้เมื่อยหรอกนะ..
(โห ไอ้น้องคนนี้ นี่ถ้าชั้นรู้ว่าแกไม่คิดจะรับสายชั้นขนาดนี้ชั้นจะไม่โทรมาหาแกเลยนะไอ้ทงเฮ)
ชายหนุ่มเด้งตัวจากเก้าอี้เลื่อนอย่างตกใจ ก่อนจะยิ้มหัวเราะเล็กๆกับเสียงปลายสายที่คุ้นดี
“โหพี่ ก็คนมันนึกว่าลูกค้าโทรมาซะอีกนิ ว่าแต่พี่เถอะ ทำไมจู่ๆถึงโทรมาเนี่ย”
ลีทงเฮ นักธุรกิจหนุ่มที่กำลังไฟแรงพอๆกับเพื่อนของเขาอย่างโจวคยูฮยอน ชายหนุ่มพูดยิ้มอย่างดีใจในขณะที่เลขาที่เดินเข้ามายังมึนงงกับสิ่งที่เขากำลังเป็น
(ก็พอดีชั้นว่าง ก็กะว่าจะแวะกลับบ้านไปพักผ่อนหน่อยหนะ)
ลีอินซอง พี่ชายของทงเฮตอบกลับ
“แล้วอินฮวามามั้ยพี่???”
(โห นี่แกคิดถึงแค่อินฮวาใช่มั้ยเนี่ย??? ไอ้น้องคนนี้)
“ถ้างั้นพี่ฮเยจินสบายดีมั้ยพี่??? แล้วมีแววจะมีหลานอีกคนมั้ย???”
(ไอ้นี่ ไม่ลูกชั้นก็เมียชั้น ทำไมแกไม่ไปมีลูกเมียเองซะเลยหละว่ะ??)
“ก็รอพี่มาสอนให้ผมจีบหญิงเนี่ยแหละ”
(เฮ้ย อย่างแรกนะเว้ย แค่เดินเข้าไปเรียบๆยิ้มเล็กๆแล้วพูดว่า ชื่ออะไรจ้ะสาวๆ...แค่นี้เอง ชั้นเชื่อนะเว้ย ว่าแกจะไม่ทำให้เสียชื่อคาสโนว่าเก่าอย่างชั้น)
“ระวังพี่ฮเยจินมาได้ยินจะเข้าใจผิดเอานะพี่”
(เข้าใจผิดอะไรจ้ะทงเฮ?)
ปลายสายเปลี่ยนเสียง ทงเฮหัวเราะร่า เมื่อยังคงมีเสียงร้องโอดครวนของพี่ชายของตนอยู่ไม่ไกลจากปลายสาย
“เปล่าครับ ว่าแต่พี่สบายดีมั้ย??? แล้วจะกลับมาวันไหน???”
(พี่มาถึงตั้งนานแล้วจ้ะ ตอนนี้พักอยู่บ้านแล้วเรียบร้อย แล้วตอนนี้ก็กำลังคิดว่าจะพาบางคนไปนอนหยอดน้ำเกลือโรงพยาบาลหรือเข้าเฝือกซักเดือนสองเดือนไปเลย)
ทงเฮอดไม่ได้ที่จะต้องหัวเราะเล็กๆ ที่ตอนนี้ปลายสายมีเสียงร้องของอินซอง พี่ชายของตนพร้อมด้วยเสียงแสนดุของฮเยจิน...ท่าทางตอนนี้พี่สะใภ้ของเขากำลังคิดว่าพี่ชายของเขาต้องการจีบสาวๆเหมือนสมัยเมื่อก่อนแน่ๆ
(ฮัลโหลครับ คุณเป็นใครครับ? ตอนนี้พ่อกับแม่ของผมกำลังเล่นหยอกกันอยู่ ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ผมจะขอวางสายแล้วนะครับ)
เสียงเล็กๆที่เขาจำได้ดีพูดเป็นวรรคๆอย่างน่ารัก ทงเฮหัวเราะเบาๆ
“นี่อาทงเฮเองครับอินฮวา”
(อาทงเฮหรอครับ! ง่า ตอนนี้อินฮวามาหาอาทงเฮแล้วนะ รีบทำงานแล้วกลับมาเล่นกับอินฮวาเร็วๆนะครับ!)
“ครับผม งั้นเดี๋ยวอาทำงานก่อนนะครับ อย่าซนหละ”
(อินฮวาไม่ใช่ปะป๊ากับหม่ามี้นะ อินฮวาไม่ซนหรอก^&^)
“ครับๆ งั้นเอาไว้ตอนเย็นเจอกันนะครับ”
(ครับผม ตั้งใจทำงานนะครับอาทงเฮ)
“ครับๆ”
ปลายสายวางลง ทงเฮอดยิ้มไม่ได้กับครอบครัวที่ทั้งน่ารักและมีความสุขมากเสียจนเขายังอิจฉา เมื่อก่อนอินซองเป็นคนเจ้าชู้จนเมื่อมาเจอกับฮเยจิน หญิงสาวที่ทำสามารถกำหลาบพี่ชายของเขาอย่างอยู่หมัด และในตอนนี้ยังมีพยานรักอย่างอินฮวาอีก
“เป็นอะไรไปว่ะทงเฮ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คนเดียว ชั้นยังไม่อยากมีเพื่อนเป็นคนบ้านะเว้ย”
คยูฮยอนเดินเข้ามาอย่างไม่ต้องมากพิธี ชายหนุ่มยิ้มให้เพื่อนก่อนจะผายมือเชิงบอกให้นั่งลง
“ได้ข่าวว่าพี่ชายนาย อินซอง กับฮเยจินพร้อมด้วยอินฮวากลับมาแล้วหนิ?”
“อืมใช่ ข่าวเร็วดีนี่ ชั้นยังพึ่งรู้เมื่อกี้เอง”
“ก็มันแน่หละ ชั้นเป็นทายาทเจ้าของสายการบินยักษ์ใหญ่นะเว้ย ทำไมจะไม่รู้”
“นั่นสินะ ลืมไปเลยหวะ”
ทงเฮพูดอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ความจริง เขากับคยูฮยอนก็นับว่ารู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เพียงแต่พึ่งมาสนิทกันจริงๆก็เมื่อ 5 ปีก่อนหน้านี้เล็กน้อยเท่านั้นเอง
“นี่แล้วได้ข่าวบ้างมั้ย...เรื่องของ...พี่สาวนาย”
ทงเฮเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง แม้จะโดนหางตาของคยูฮยอนจ้องเข้าใส่แต่เขาก็ยังยิ้มให้...ท่าทางจะยังคงได้ได้ข่าวของโจว จีอา พี่สาวของคยูฮยอนที่เสียสติและหายตัวออกจากบ้านไปเมื่อ7ปีก่อน
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ เย็นนี้ชั้นกะจะไปเล่นกับหลานให้สบายๆหน่อย ถ้านายมาทำชั้นเครียดก่อน ชั้นก็หมดอารมณ์เล่นกับหลานพอดี”
“....ชั้นฝากมุนบินได้มั้ย??....”
คยูฮยอนเอ่ยถาม ทงเฮมองหน้าเพื่อนของตนที่มีสีหน้าเคร่งอย่างสงสัย
“นายจะไปไหนรึเปล่า???”
“ใช่...พรุ่งนี้ควอนยูริจะเดินทางไปฝรั่งเศสเพื่อไปจัดโชว์ให้กับบริษัทเครื่องเพชรที่นั่น...ไม่ใช่แค่ควอนยูริคนเดียว แต่เจสสิก้า จอง ก็จะไปด้วยเหมือนกัน...โอกาสอย่างนี้หาไม่ได้ง่ายๆหรอกนะ”
“แกคงไม่คิดจะกินของเหลือจากไอ้ฮันกยองหรอกนะ....”
ทงเฮพูด...คงมีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ไม่รู้ว่า ควอนยูริ เป็นผู้หญิงที่ฮันกยองกำลังหลงระเริงอยู่ด้วย...
“ชั้นไม่ได้หมายถึงยัยควอนยูริ ชั้นหมายถึงเจสสิก้าต่างหาก...ผู้หญิงที่เป็นน้องสาวของเมียมัน และยังเป็น...คนที่มันห่วงใยด้วยสิ...”
“ห่วง???...”
ทงเฮสงสัยกับสิ่งที่เพื่อนของตนกำลังพูดถึง...จริงอยู่ว่าฮันกยองเป็นคาสโนว่าเจ้าเสน่ห์ แต่เขากลับได้ข่าวแค่ว่า ฮันกยองดูท่าจะใจดีกับน้องสาวของยูริที่ชื่อ คิมแทยอน เท่านั้นนี่...
“อืม...น่าแปลกใจใช่มั้ยหละ?? ว่านอกจากคิมแทยอนแล้ว ยังมีเจสสิก้าจองคนนั้นอีก...อย่างคิมแทยอนหนะ ชั้นว่าแกจีบสบายอยู่แล้ว...”
“จีบเจิบอะไรของแก...”
“ก็ชั้นแค่อยากให้แกช่วย...ช่วยทำให้เด็กน้อยใสซื่อที่ชื่อคิมแทยอนที่ฮันกยองมันห่วงนักห่วงหนานั่นแปดเปื้อน...ทำให้ไอ้ฮันกยองมันไม่คิดจะห่วงนังเด็กนั่นอีก...”
“แต่นั่นมันผู้หญิงนะเว้ย อีกอย่างก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไอ้ฮันกยองมันด้วย แค่เป็นห่วง อีกเดี๋ยวถ้ามันได้ก็ทิ้งเองด้วยซ้ำ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้มากเรื่อง”
“ฮึ แกนี่ไม่คิดจะหาข้อมูลบ้างเลยนะ...”
คยูฮยอนพูดก่อนจะโยนซองสีน้ำตาลให้กับเพื่อนของเขา ทงเฮรีบเปิดมันออกอย่างสงสัย ก่อนจะต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น...
“ใช่แล้ว...สิ่งที่จะยืนยันได้ว่า ผู้หญิงสองคนนั้นไม่ใช่ของที่ไอ้ฮันกยองมันจะทิ้งขว้างได้ง่ายๆยังไงหละ....”
เป็นยังไงกันบ้างค่ะ??? สนุกมั้ย??? หรือยังไงก็บอกกันหน่อยน้า...พอใจรึเปล่า...โอ้ะๆ ตัวละครอื่นๆจะค่อยๆออกมานะค่ะ^^ แล้วเรื่องตอนท้ายนั่น....ไม่บอก!!อิอิ เอาไว้เดี๋ยวก็จะรู้กันเองนะค่ะ ^^ อย่าลืมติดตามกันนะค่ะ^^
ความคิดเห็น