ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Frog Prince รักต้องมนต์ของเจ้าชายกบ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 57


    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเรื่องเล่าของนิทานที่สุดแสนจะโรแมนติกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องราวของเจ้ากบน้อยที่สุดแสนจะน่าเกลียด น่ากลัวกับเจ้าหญิงผู้เลอโฉม ถ้าท่านพร้อมแล้วที่รับรู้เรื่องราวที่สุดแสนจะโรแมนติกนี้ไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า ณ ปราสาทอันใหญ่โต โมฬารแห่งหนึ่ง มีเจ้าชายรูปงามองค์หนึ่งอาศัยอยู่ แต่เจ้าชายช่างน่าสงสารยิ่งนัก เจ้าชายรูปงามถูกแม่มดใจร้ายสาปให้กลายเป็นกบที่แสนจะน่าเกลียด น่ากลัว แต่เจ้าชายจะสามารถกลับร่างเดิมเป็นเจ้าชายรูปงามได้อีกครั้งก็ต่อเมื่อพระองค์เจอรักแท้ เจ้าชายจะต้องเจอหญิงที่ทำให้พระองค์รักนางผู้นั้นจนหมดหัวใจ และนางก็ต้องรักเจ้าชายในร่างกบที่น่าเกลียด น่ากลัวเช่นนี้จนหมดหัวใจเช่นกัน ถ้าเจ้าชายไม่สามารถทำได้สำเร็จ พระองค์จะต้องกลายเป็นเจ้ากบที่สุดแสนจะน่าเกลียด น่ากลัวเช่นนี้ไปตลอดกาล แต่แล้ววันหนึ่ง ในขณะที่เจ้าหญิงแอบหนีออกมาเล่นลูกบอลนอกวัง ก็ได้พลาดทำลูกบอลอันแสนรักตกลงไปในบ่อน้ำบริเวณนั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เจ้าหญิงได้แต่ร้องไห้ แล้วก็ร้องไห้ แต่แล้วจู่ๆก็มีเจ้ากบน้อยที่แสนจะน่าเกลียดได้ปรากฎตัวออกมาอยู่ต่อหน้าของเจ้าหญิง แต่ที่มันดูจะพิเศษว่ากบตัวอื่นๆ นั้นคือกบตัวนั้นสามารถพูดได้ และเจ้ากบยังได้อาสาช่วยองค์หญิงเก็บลูกบอลขึ้นมาจากบ่อน้ำนั้นอีกด้วยแต่เจ้าหญิงจะต้องรักษาสัญญา 3 ประการที่เจ้ากบน้อยนั้นขอไว้ด้วย มิเช่นนั้นเจ้าหญิงจะไม่ได้รับลูกบอลของนางคืน ดังนั้นเธอจึงยอมรับปากแต่โดยดี แต่ดูเหมือนเจ้าหญิงจะไม่สามารถรักษาสัญญานั้นไว้ได้ เพราะเธอรู้สึกรังเกียจเจ้ากบน้อยตัวนั้นอย่างมาก จนในที่สุดเจ้าหญิงจึงได้ตัดสินใจคิดจะกำจัดเจ้ากบน้อยตัวนั้นออกไปจากเธอให้ได้ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม และในที่สุดเจ้าหญิงก็ทำมันได้สำเร็จ แต่แล้วในระหว่างที่เจ้ากบน้อยอันแสนจะน่าเกลียดตัวนั้นกำลังจะจากเจ้าหญิงไป จู่ๆเจ้ากบน้อยอันแสนจะน่าเกลียดเมื่อสักครู่นี้ก็กลับกลายมาเป็นเจ้าชายหนุ่มรูปงาม แต่เพียงเวลาไม่นานเจ้าชายก็ต้องกลับกลายเป็นกบอีกครั้งและพระองค์จะต้องกลายเป็นกบไปชั่วนิรันดร์ จบ~~~~~~’

                    เอ๊ะ ! จากที่อ่านมันไม่ได้เป็นความรักที่สุดแสนจะโรแมนติกตรงไหนเลย ? เจ้าหญิงก็ไม่ได้รักกับเจ้าชาย ส่วนเจ้าชายก็ยังกลายเป็นกบขี้เหร่ไปชั่วชีวิตอีก -_- ฮ่าๆๆๆ ผู้แต่งท่าจะเพี้ยนนะ เรื่องราวอย่างนี้มันต้องเป็นเปลี่ยนจากเรื่องรักสุดแสนจะโรแมนติกเป็นรักสุดแสนจะรันทดของเจ้าชายกบยังจะเข้าซะกว่าอีก ก็รักของเจ้าชายมันไม่ได้สมหวังหนิ        เจ้าหญิงก็สวยแต่รูปจริงๆๆ แค่กบตัวเดียวก็ต้องกำจัดมันด้วย ใจร้าย ! ใจร้ายที่สุด ว่าแต่เรื่องนี้มันคือเรื่องอะไรนะ รู้สึกว่าคุ้นๆๆนิดๆๆ ฉันจึงพลิกหน้าปกหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาดู

                    เจ้าชายกบ ฉันอุทาน เจ้าชายกบแต่ฉันว่าตอนจบมันแปลกๆๆนะ ตอบจบมันไม่ใช่ว่าเจ้าหญิงกับเจ้าชายอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขในวังหรอกหรอ ฉันพอจะจำได้นะ ถึงแม้จะเคยอ่านเรื่องนี้ตอนเด็กๆๆแค่ครั้งเดียวก็ตาม ผิดเรื่องหรือเปล่าไหนของพลิกดูอีกที

                    เจ้าชายกบ จะดูกี่ทีมันก็เรื่องเจ้าชายกบ งั้นดูชื่อผู้แต่งแล้วกัน

                    ผู้แต่ง......

                    ฉันพยายามพลิกหน้าหนังสือเล่มนี้อยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่เห็นเจอชื่อผู้แต่งของหนังสือเล่มนี้ ช่างมันเถอะ จริงๆแล้วฉันก็ไม่น่าหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านตั้งแต่แรกแล้ว เก่าจะตายแถมยังเหม็นอีกด้วย ฝุ่นก็เกาะเต็มไปทั่วหนังสือเลย แต่ก็ไม่รู้ทำไมเมื่อกี้นี้มันดันเกิดสะดุดตาฉันเข้า แล้วมือมันก็เผลอไปหยิบออกมาซะได้หนิ -_- เก็บไว้ที่เดิมดีกว่า แต่หน้าสุดท้ายนี่มันอะไรกัน

                    คำใบ้ คำใบ้หรอ?

                    กบขี้เหร่จะกลายเป็นเจ้าชายอีกครั้งตอนหกโมงเย็น แต่ก็จะกลับกลายเป็นกบขี้เหร่อีกครั้งตอนหกโมงเช้าของวันถัดไปอีกเช่นกัน คำใบ้นี้มันอะไรกัน เลดี้งงจริงๆๆ ไม่เอาแล้ว ไม่อ่านๆๆ เก็บๆๆๆ

     

                    ยัยเลดี้!!! ไปอยู่ที่ไหนมาห๊า!!!”

                    ยัยเลดี้!!! ไปอยู่ที่ไหนมาห๊า!!!”

                    มิโซะกับโชยุสองสาวเพื่อนซี้ของฉัน พอพวกเธอพบฉันเข้าหลังจากที่เดินวนหาฉันอยู่ภายในหอสมุดกันมาหลายรอบ ก็ตะโกนโหวกแหวกโวยวายลั่นหอสมุดทันที

                    เสียงดังไปแล้ว เดี๋ยวก็โดนเจ้าหน้าที่ว่าเอาหรอก

                    นั้นไง ฉันยังพูดไม่ขาดคำเลย จู่ๆก็มีเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของหอสมุดเดินมาเตือนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จนทำให้สองสาวพี่น้องไม่กล้าที่จะสบตาเจ้าหน้าที่สาวผู้นั้นเลยทีเดียว

                    คุณค่ะ กรุณาเงียบด้วยค่ะ เห็นป้ายหรือเปล่าค่ะ ตัวออกจะใหญ่ ห้ามส่งเสียงดัง รบกวนผู้อื่น ผู้ดีต้องมีมารยาท ต้องรู้จักเกรงใจ’”

                    เธอพูดขึ้นพร้อมกับชี้มือไปที่ป้ายใหญ่ๆหน้าหอสมุดที่มีตัวอักษรใหญ่มากติดอยู่ ป้ายนั้นใหญ่มากจริง ถ้าใครมองไม่เห็นเนี้ยนะ ต้องตาบอดไม่ก็ตาถั่วแล้วล่ะ แต่เพื่อนของฉันอย่างหลังมากกว่า
                    ขอโทษค่ะ มิโซะกล่าวขอโทษ และเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ไม่กล้าที่จะสบตาเจ้าหน้าที่สาว

                    ขอโทษด้วยค่ะ โชยุกล่าวขอโทษขึ้นบ้าง และเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเช่นกัน จากนั้นทั้งสองพี่น้องก็ลากตัวฉันออกไปจากหอสมุดอย่างไม่ทันตั้งตัวทันที

                    รีบออกมาทำไม ฉันยังไม่ได้อ่านหนังสืออะไรเลยนะ ฉันพูดด้วยความไม่พอใจ ถึงแม้จริงๆ จะได้อ่านไปแค่เล่มเดียวก็ตาม ซึ่งเป็นแต่นิทานหลอกเด็กอีกต่างหาก

                    ช่างเถอะหน่า แล้วเธอไปไหนมาหาตั้งนาน มิโซะถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ

                    ใช่ๆๆ เลดี้ไปไหนมา โชยุพูดเสริม

                    ก็อยู่ในหอสมุดไง ฉันตอบได้อย่างหน้าตาเฉย

                    นี่เธอพูดอย่างกับว่าหอสมุดนี้มันเล็กมากเลยใช่ไหม ใช่ว่าจะเดินหาสักชั้น สองชั้นก็จะเจอเลยงั้นล่ะ แถมยังกว้างอีกด้วย แทบจะวิ่งเล่นได้เป็นวันๆๆเลยนะ เดินไปไหนก็ไม่บอก ฉันกับโชยุขอไปห้องน้ำกันแปบเดียว พอเดินกลับมาก็ไม่เจอเลดี้แล้ว เดินหาตั้งนาน มิโซะกล่าวอย่างไม่พอใจ

                    ใช่ๆๆ โชยุเห็นด้วย โชยุกล่าวเสริมอีกครั้ง
                    ขอโทษ เดินหาหนังสือเพลินไปหน่อย ฉันตอบกลับอย่างรู้สึกผิดเล็กๆ
                    เดินเพลิน เดินไปถึงชั้นสิบเลยเนี้ยนะ ฉันล่ะเหนื่อยแทบแย่ แล้วไหนบอกว่ายังไม่ได้อ่านหนังสือสักเล่มเลยไง มิโซะเริ่มพูดเสียงดังขึ้นด้วยความโกรธนิดๆ

                    ใช่ๆๆ โชยุก็เห็นด้วย โชยุเห็นด้วยอีกครั้ง
                    ฮ่าๆๆ ขอโทษอีกที
                    ไม่ต้องขอโทษแล้ว จะกลับบ้านแล้ว มิโซะกล่าว

                    ใช่ๆๆ โชยุจะกลับบ้านแล้วด้วยเหมือนกัน โชยุกล่าว
                    กลับแล้วหรอ แต่ฉันยังไม่ได้อ่านอะไรเลยนะ ฉันทำสีหน้าตกใจเล็กน้อย
                    ไม่ต้องอ่านอะไรแล้ว เย็นขนาดนี้กลับบ้านเถอะนะ มิโซะกล่าว ฉันจึงก้มลงไปมองที่นาฬิกาข้อมือของตัวเอง
                    ห้าโมงเย็นแล้ว O_O งั้นกลับก็ได้ ไม่น่าเชื่อว่าเวลามันจะผ่านไปเร็วขนาดนี้ ตั้งแต่เช้าฉันยังอ่านหนังสือไปได้เพียงเล่มเดียวเท่านั้นอีกต่างหาก เสียเวลาของวันหยุดจริงๆๆ

                    “เลดี้ต้องไปส่งฉันที่บ้านนะ” มิโซะกล่าว

                    “ไม่ใช่ล่ะ เลดี้ต้องไปส่งโชยุที่บ้านต่างหาก” โชยุกล่าวขึ้นบ้าง

                    “เลดี้ต้องไปส่งฉัน” มิโซะกล่าวขึ้นอีกครั้ง          

                    “เลดี้ต้องไปส่งฉัน” โชยุกล่าวขึ้นด้วยอีกครั้ง

                    มิโซะกับโชยุจับแขนฉันกันคนละข้างพร้อมกับผลัดกันดึงสลับไปมา เหมือนเด็กสองคนกำลังยืนทะเลาะเพราะแย่งตุ๊กตาคุณหมีกันอยู่

                    “นี่พวกเธอสองคน บ้านของพวกเธอมันก็หลังเดียวกัน ที่เดียวกัน ห้องเดียวกัน พ่อแม่เดียวกันไม่ใช่หรือไง ห๊า!

                    ฉันกล่าวขึ้นหลังจากที่สองคนนั้นเริ่มทะเลาะกันเสียงดังมากขึ้น และก็ไม่ใช่อะไรเลย เจ้าหน้าที่คนเดิมเมื่อกี้นี้ เธอเริ่มมองขวางมาที่พวกเราสามคนอีกครั้ง

                    “จริงด้วย”

                    มิโซะพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าที่ดูเหมือนจะเพิ่งนึกออกตอนนั้นจริงๆ แถมยัยโชยุน้องสาวก็ยังพยักหน้าเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดอีก ส่วนฉันก็ได้แต่ถอนหายใจออกไปด้วยความเหนื่อยใจ อ่อ มิโซะกับโชยุ พวกเขาสองคนเป็นฝาแฝดกันค่ะ มิโซะเป็นพี่ส่วนโชยุเป็นน้อง เป็นเพื่อนกับฉันมานานแล้วตั้งแต่เด็กๆเลย              

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×