ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] The Only One is You - MyungYeol

    ลำดับตอนที่ #8 : Be the only one ♡

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 57







    "มึงงงง มึงได้ข่าวป่ะ คุณแอลจะซื้อคฤหาสถ์หลังละ 2 พันล้านวอนให้มันอ่ะ!! หึ่ย!! กูเกลียดมัน!" นายแบบคนหนึ่งที่หน้าตาจัดว่าธรรมดารีบคาบข่าวใหม่ล่าสุดที่กำลังกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์อยู่ในขณะนี้มาบอกเพื่อนคู่หูคนสนิท

     

    นายแบบร่างบางคนเดิมที่คิดตั้งแง่กับซองยอลมาตั้งแต่ต้นได้ฟังข่าวก็เริ่มบันดาลโทษะ สองมือกำมือแน่นเข้าหากันด้วยความโกรธแค้นและความอิจฉาริษยา

    จิตใจร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟเผาที่ซองยอลกำลังจะได้ดี

     

    "มันไปยั่วคุณแอลอีท่าไหนว่ะ ทำไมคุณแอลถึงได้หลงมันนัก!" นายแบบน่าตาธรรมดาคนเดิมก็ยิ่งพูดเติมเชื้อไฟให้เพื่อนสนิทที่จัดได้ว่าเป็นนายแบบระดับแถวหน้าของวงการเช่นเดียวกับซองยอลให้ยิ่งเพิ่มความเกลียดชังมากขึ้นไปอีก

     

    ใบหน้าสวยเฉี่ยวยกยิ้มร้ายๆก่อนจะเอ่ยตอบเพื่อนสนิทและเพื่อให้ตัวเองสบายใจ

    "หึ...กูว่ามันคงใกล้จะโดนเขี่ยทิ้งแล้วหล่ะ คุณแอลถึงได้ซื้อไปปิดปากมัน"

    เสียงหัวเราะเม้าท์กันสนุกปากดังลั่นออกมานอกห้องให้คนที่ถูกพาดพิงต้องหยุดยืนชะงัก

     

    '....ไม่ต้องไปฟังคำพูดของใครอีก แล้วก็อย่าคิดไปเอง..' คำพูดของคุณแอลดังก้องเข้ามากลบทับความรู้สึกที่เริ่มจะหวั่นไหวอีกแล้วของเขา ซองยอลสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา แต่ก่อนที่มือบางจะบิดกลอนประตูเพื่อเปิดเข้าไปเผชิญหน้ากับนายแบบคู่อริสองคนนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นซะก่อน

     

    "ขอโทษนะครับพี่ๆทั้งสองคน ผมทนฟังมามากเกินพอแล้ว...พวกพี่เลิกพูดว่าพี่ซองยอลซักทีเถอะครับ...แล้วบ้านหลังละพันล้านวอนขนาดนั้นมันคงไม่ใช่แค่เศษเงินที่พี่แอลจะซื้อให้ใครก็ได้หรอกนะครับ"

     

    นายแบบระดับแถวหน้าคู่อริเบอร์1ของซองยอลปลายตามามองคนที่พูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

     

    "..น้องซองจง น้องคิดว่าน้องเป็นใครไม่ทราบถึงได้กล้ามาว่าพวกพี่แบบนี้...อย่านึกนะว่าเป็นลูกไฮโซแล้วจะไม่มีใครกล้าทำอะไร เหอะ..เป็นแค่นายแบบปลายแถวแท้ๆ" ใบหน้าสวยเฉียวเอ่ยสวนกลับซองจงแทบจะในทันที

     

    "ผมไม่ทราบหรอกครับว่าใครจะมาทำอะไรผมได้บ้าง แต่ไอ้การที่พี่ว่าคนอื่นลับหลังแบบนี้ตัวพวกพี่เองนั่นแหละครับที่จะเสีย"

     

    "นี่! มันจะมากไปแล้วนะแก!" นายแบบสองคนเริ่มวางท่าหาเรื่องร่างเล็กที่กำลังจะโดนรุม เพราะภายในห้องแต่งตัวตอนนี้มีเพียงแค่พวกเขา 3 คน

     

    "อ้อ..แล้วก็อย่าคิดนะครับว่าการที่พี่ไปเสนอตัวให้พี่ซูโฮถึงที่แล้วถูกปฏิเสธจะไม่มีใครรู้ คนเค้ารู้กันหมดแหละครับแต่แค่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเท่านั้นเอง"

     

    ดวงตาเฉียวคมเบิกกว้างด้วยความตกใจที่มีคนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

     

    "นี่นาย! น..นายรู้ได้ยังไง!"

     

     

    เสียงกรีดร้องดังลั่นจนซองยอลที่ยืนอยู่ด้านนอกต้องยกมือขึ้นปิดหู ชายหนุ่มยืนรอซักพักนายแบบคู่กรณีสองคนก็เปิดประตูปึงปังออกมานอกห้อง

     

    และทันทีที่สองคนนั้นเห็นหน้าซองยอล สายตาจงเกลียดจงชังจ้องมองเขาจนแทบจะกินเลือดกินเนื้อก่อนจะกรีดร้องอีกรอบด้วยความอับอายที่ซองยอลเองก็คงจะรู้แล้วเช่นกัน

     

     

    ชายหนุ่มเปิดประตูเข้ามาในห้องก็เห็นน้องซองจงกำลังยืนถอนหายใจอยู่

     

    "เอ่อ..ขอบใจมากนะซองจง...พี่เองก็.."

     

    "อ้าวพี่ซองยอล! มาแล้วหรอครับ ผมขอแสดงความยินดีกับเรื่องเรือนหอหลังใหม่ของพี่ด้วยนะครับ อิอิ"

    ซองยอลรู้สึกทั้งขอบคุณและอยากขอโทษคนตรงหน้าไปพร้อมๆกัน เขารู้สึกวางตัวลำบากทุกครั้งที่ต้องอยู่ต่อหน้าน้องซองจง เพราะถ้าเขาไม่ได้เข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตของคุณแอล น้องซองจงก็คงจะเป็นคนนั้น คนที่คุณแอล...

    "ห้ามมองผมด้วยสายตาแบบนั้นเด็ดขาดนะครับ ไม่ว่าชีวิตนี้พี่ซองยอลจะรู้จักพี่แอลหรือไม่ก็ตาม เราผมกับพี่แอลก็เป็นได้เพียงแค่พี่น้องกันเท่านั้นแหละครับ.......งั้นถ้าพี่ซองยอลยังไม่สบายใจ ผมจะให้พี่ซองยอลพิสูจน์อะไรบางอย่าง"

     

    "หืม? จะให้พี่พิสูจน์อะไรหรอ?" เขาเริ่มงุนงงในคำพูดของคนตรงหน้า

     

    "พี่ซองยอลเคยเข้าห้องนอนของพี่แอลที่บ้านใหญ่รึยังครับ? พี่ซองยอลลองแอบไปซักครั้งสิครับ แล้วพี่ซองยอลจะรู้ว่าผมไม่ใช่คนๆนั้นของพี่แอลมาตั้งนานแล้ว" น้องซองจงยิ้มหวานให้เขาอย่างบริสุทธิ์ใจ น้องเป็นคนน่ารักมากจริงๆ

     

    "ลองแอบไปดูนะครับ อย่าให้พี่แอลรู้เชียว เดี๋ยวหลักฐานจะหายซะก่อน อิอิ" น้องซองจงยืนคุยยืนแซวเขากับคุณแอลนิดหน่อยพี่ๆช่างแต่งหน้าก็เข้ามา

     

    แต่คำพูดที่น้องซองจงทิ้งไว้เป็นปริศนาให้เขาลองเข้าห้องนอนคุณแอลซักครั้ง เขาเริ่มอยากรู้แล้วสิว่ามันจะมีอะไร

    ใจเขาลึกๆก็หวังให้มันเกี่ยวกับตัวเขาเช่นกัน

     

     

    เย็นวันนั้นคุณแอลนัดทานข้าวที่โรงแรมหรูแต่เขาบอกปฏิเสธและให้คุณแอลกลับไปรอที่คอนโดก่อน และเพื่อไม่ให้คุณแอลสงสัยและซักไซร้เขามากไปกว่านี้ เขาเลยต้องอ้างข้อเสนอเอาตัวเข้าแลกอีกตามเคย และอีกฝ่ายก็ยอมความอย่างง่ายดายซะจนน่าหมั่นไส้ซะจริงๆ T . T

     

     

    .....เขาโทรออกหาพี่ซองกยู เขารู้ว่าเขาสมควรพูดคุยอะไรบางอย่างกับพี่ซองกยูซักหน่อย แต่ก่อนที่เขาจะตัดสินใจวางสายเพราะนึกถึงความสัมพันธ์ที่เขาเคยทำไม่ดีไว้ในอดีต คนปลายสายก็รับสายก่อนทันที

     

    แต่เสียงนี้ไม่ใช่เสียงพี่ซองกยู

     

    แต่เป็น...พี่อูฮยอน!?

     

    "พี่อูฮยอน?! พี่รับโทรศัพท์พี่ซองกยูได้ไงอ่ะ! แล้วนี่มัน 3 ทุ่มแล้วนะ!"

     

    "ยอลลี่ น..นาย รู้แล้วสินะ ฮือออออ"

     

    สรุปก็คือพี่อูฮยอนแวะไปหาพี่ซองกยูเรื่องเซ็นสัญญาจองพื้นที่โฆษณาในนิตยสารที่กำลังจะหมดสัญญาในเดือนหน้านี้ แต่กลายเป็นว่าเมื่อคนเหงาสองคนมาเจอกันและเคยรู้จักกันมานาน พี่อูฮยอนกับพี่ซองกยูก็เลย......

     

    "คุณซองกยูอาบน้ำอยู่ นายจะไปบ้านตระกูลคิมหรอ? แล้วทำไมไม่ให้คุณแอลพาไปหล่ะ?"

     

    "ผมอยากไปดูอะไรบางอย่างในห้องคุณแอล น้องซองจงบอกว่าห้ามให้คุณแอลรู้ก่อนเด็ดขาด"

     

    "งั้นรอแป๊บ แล้วตอนนี้นายอยู่ไหน เดี๋ยวพี่กับคุณซองกยูจะได้ไปรับ"

     

    เขาบอกชื่อสตูดิโอที่เขาทำงานอยู่และรอประมาณชั่วโมงกว่าๆ พี่ซองกยูกับพี่อูฮยอนก็มาถึง

    พี่ชายเขาสวมผ้าพันคอแน่นหนาจนเขาอดไม่ได้ที่จะล้อๆแซวๆอย่างขำขัน พี่อูฮยอนก็เอื้อมตัวจากเบาะหน้ามาตีเขาด้วยความเขิน

     

    เขารู้สึกผ่อนคลายมากจริงๆที่พี่อูฮยอนคือคนๆนั้นของพี่ซองกยูเพราะมันทำให้เขาได้พูดคุยกับพี่ซองกยูอย่างสบายใจมากขึ้น

     

    แต่อย่าเพิ่งลืมกันหล่ะว่าพี่อูฮยอนทำอะไรไว้กับเขาบ้าง ไอ้ยาอะไรนั้นเมื่อสองอาทิตย์ก่อนทำเขาเดินไม่ได้ไปหลายวัน รวมถึงคุณแอลเองที่ลุกไปทำงานแทบไม่ไหว

    ....เดี๋ยวเขาจะขอเอาคืนพี่ชายสุดที่รักบ้างซะหน่อยนะ คิคิ

     

    เขามาถึงบ้านใหญ่ก็เริ่มทำตัวไม่ถูกแต่เพราะมีพี่อูฮยอนมาเป็นเพื่อนเขาเลยไม่ค่อยเคอะเขินมากเท่าไหร่ เขาแจกลายเซ็นและถ่ายรูปกับพวกคุณป้าแม่บ้านนิดหน่อย ก็ขอเริ่มทำภารกิจสำคัญที่เป็นเป้าหมายในการมาบ้านตระกูลคิมครั้งนี้

     

    "น้องซองยอล ห้องไอ้แอลอยู่ชั้น3 นะครับ ขึ้นลิฟท์ไป แล้วเลี้ยวขวานะ...เข้าไปแล้วก็จะรู้"

    พี่ซองกยูหันมายิ้มให้เขาก่อนจะเดินจูงมือพี่อูฮยอนไปนั่งรอที่โซฟา

     

    เขากดลิฟท์ขึ้นมาชั้น3 ชั้นนี้มีประตูห้องเพียงแค่สองห้อง ห้องหนึ่งอยู่ทางซ้าย ส่วนอีกห้องคือห้องที่เขากำลังจะเปิดประตูเข้าไป

     

    ภายในห้องของตกแต่งทุกอย่างเป็นสีดำหมด สีที่คุณแอลชอบ เฟอร์นิเจอร์แทบทุกชิ้นล้วนแล้วแต่เป็นสีดำ กลิ่นหอมอ่อนๆของคุณแอลยังคละคลุ้งอยู่ในห้องให้ได้รู้ว่าเป็นห้องของคุณแอลจริงๆ  เขาเดินสำรวจห้องเรื่อยๆจนเจอเข้ากับตู้ใส่ของสีดำขนาดใหญ่และทันทีที่เขาเปิดออกเขาก็แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

     

    ตู้ใบใหญ่ถูกดีไซน์อย่างสวยงาม แสงไฟภายในตู้ส่องกระทบภาพสมัยม.ต้นที่เขาเพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ ทุกๆอย่างเกี่ยวกับตัวเขา นิตยสารแทบทุกฉบับที่เกี่ยวกับตัวเขาถูกเก็บไว้อย่างดี แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไปก็คือภาพตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ยักษ์สีขาวที่เขาจำได้ขึ้นใจ เพราะมันยังวางอยู่ในห้องนอนที่บ้านเขา ตุ๊กตาหมีที่มีแฟนคลับคนหนึ่งส่งมาให้ เขาจำได้ดีเพราะเป็นของขวัญที่เขาได้รับตอนงานวันเกิดอายุครบ18ปี ผู้ให้จ่าหน้ากล่องพัสดุจากต่างประเทศ ซึ่งถ้าเขาจำไม่ผิดน่าจะส่งมาจากประเทศอังกฤษ มันเป็นของขวัญเพียงชิ้นเดียวที่ส่งมาจากต่างประเทศเพราะตอนนั้นเขาเองก็เป็นแค่นายแบบปลายแถว

     

    น้ำตาเขาไหลทะลักอย่างกลั้นไม่อยู่ คุณแอล...ส่งให้เขาจริงๆหรอ

     

    เขาทรุดลงนั่งบนพรมพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเป็นสาย เขารู้ทุกอย่างแล้ว รู้แล้วว่าคุณแอลเลือกเขาไม่ใช่เพราะเขาเป็นนายแบบและแค่ต้องการอยากจะนอนกับเขาเพียงเท่านั้น ทุกคำพูดที่คุณแอลเคยพูดมันกำลังดังสะท้อนเข้ามาในหัวเขาอีกครั้ง

     

    'เซ็กส์สำหรับผม มันเป็นเพียงแค่การแสดงความเป็นเจ้าของเพียงเท่านั้น มันเป็นเพียงแค่เสี้ยวเดียวของความรู้สึกที่มีให้ซองยอลเท่านั้น'

     

    '...ห้ามยกผมให้ใครอีก..ผมจะเลือกคนที่ผมจะเลือกเท่านั้น'

     

    น้ำตาเขาไหลทะลักออกมาไม่ยอมหยุด ความรักของเขามันเทียบไม่ได้เลยกับความรักของคุณแอล เขาไม่รู้ว่าควรจะรักคุณแอลยังไงดีให้คู่ควรกับความรักที่บริสุทธิ์แบบนี้

     

     

    แต่แล้วจู่ๆ เสียงเรียกเข้ามือถือของเขาก็ดังขึ้นมา

     

    น้ำตาที่คิดว่าพยายามกักเก็บได้แล้ว กลับไหลทะลักออกมาเหมือนเขื่อนแตก มือบางกำมือถือแน่นอย่างทำอะไรไม่ถูก หน้าจอที่ขึ้นชื่อคนโทรเข้าถูกบดบังไปด้วยม่านน้ำตา

     

    'คุณแอล'

     

     

    "ค..ครับ" เขาพยามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ให้เสียงสั่นๆของเขาทำให้อีกคนไม่สบายใจ

     

    แต่คนปลายสายกลับรู้ดีแทบทุกอย่าง ไม่ใช่สิ...รู้จักเขาดีมาตั้งนานแล้วต่างหาก

     

    "ซองยอล?.. เป็นอะไรรึเปล่า ตอนนี้คุณอยู่ไหน? ผมมาที่สตูดิโอพี่ทีมงานบอกว่าคุณออกไปกับพี่อูฮยอนพี่ซองกยู"

    .

    .

    .

    .

    ทำไมเขาถึงได้มาเจอคนดีๆแบบนี้ พระเจ้ารักเขามากถึงเพียงนี้เชียวหรือถึงได้ส่งคนๆนี้มาให้กับเขา เขากลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่อยู่อีกแล้ว

     

    "ฮึก ฮือออ คุณแอล ผมรักคุณแอลครับ ผมรักคุณแอล รักคุณแอลมากๆ ผมรักคุณแอลมากๆนะครับ ฮืออออ"

     

    ".....ซองยอล..คุณเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมถึง...?

     

    "ฮึก...ทำไมคุณแอลถึงได้....ฮืออออ" เขาเอาแต่ร้องไห้ ประโยคที่จะพูดก็ดันขาดช่วงไปซะเฉยๆ

     

    "...บอกมาว่าคุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมไปหา"

     

    "ไม่ต้องครับ! ฮึก...เดี๋ยวผมจะไปหาคุณแอลเอง"

    เขารีบปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆเต็มปอด เขาพร้อมแล้วที่จะรักคนๆนี้อย่างไม่มีอะไรมาทำให้เคลือบแคลงใจอีกแล้ว

     

    ซองยอลลงมาข้างล่างก็รีบขอร้องให้พี่อูฮยอนไปส่งเขาที่คอนโดคุณแอล พี่อูฮยอนดูตกใจเล็กน้อยที่เห็นเขาตาบวมๆแต่พี่ก็ไม่ได้ซักถามอะไร พี่อูฮยอนลูบหัวเขาเบาๆก่อนจะหยิกแก้มเล่นๆอย่างปลอบปะโลม

     

    .

    .

    .

     

     

    .....เขาหยุดยืนอยู่หน้าห้องคุณแอล มือบางเอื้อมไปกดปุ่มเพื่อให้คนข้างในได้รับรู้ว่ามีคนมาหา และรอเพียงไม่นานคุณแอลก็เปิดประตูออกมา ความรู้สึกที่เอ่อล้นทำให้เขารีบวิ่งเข้าไปกอดคนตรงหน้าแทบจะในทันที  ร่างหนาเซถลาเกือบจะล้มแต่ก็โอบกอดเขากลับแน่นๆเช่นกัน

     

    ใบหน้าหวานเงยขึ้นประทับริมฝีปากของตัวเองให้คนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา เขาอยากเป็นฝ่ายรักคุณแอลก่อนบ้าง อยากทำทุกอย่างที่จะทำได้ให้คนตรงหน้ามีความสุข

     

    ริมฝีปากอิ่มก็ตอบรับก่อนจะส่งลิ้นร้อนๆเข้ากอบโกยความหวานจากริมฝีปากบาง ซองยอลยกมือขึ้นประคองใบหน้าหล่อเหลาก่อนจะเริ่มรุกหนักขึ้นจนคุณแอลเริ่มแปลกใจ

     

    รสจูบที่มอบให้กันอย่างดูดดื่มทำให้ร่างบางเริ่มขาดอากาศหายใจ ซองยอลผละออกพร้อมกับโผเข้ากอดคนตรงหน้าแน่นๆอีกครั้ง

     

    อ้อมกอดแข็งแรงก็กอดตอบทันทีถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

    และเพราะการกระทำแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้น้ำใสๆไหลรินลงจากดวงตาคู่สวยอีกรอบ

     

    เสื้อยืดสีดำของชายหนุ่มเริ่มเปียกชื้นจนเจ้าตัวสัมผัสได้

     

    "อยากบอกอะไรผมรึเปล่า?......ทำไมจู่ๆ ซองยอลถึง บอกรักผมหล่ะ"

     

    ใบหน้าหวานส่ายหน้าไปมากับอกแกร่งไม่ยอมพูดอะไรอีก ถ้าเขาพูดอะไรออกไปตอนนี้ เขาคงร้องไห้จนสติแตกแน่ๆ

    ร่างบางทำได้แค่กอดตอบแน่นๆ เขาไม่อยากให้คนตรงหน้าหายไปไหน อยากให้คนตรงหน้าอยู่กับเขาแบบนี้ไปตลอด

     

    "ตอนแรกผมว่าจะปิดร้านทำเซอร์ไพร้อะไรซักหน่อย.....แต่ผมว่าคงไม่ต้องแล้วหล่ะมั้ง"

     

    จู่ๆคุณแอลก็ผละเขาออกก่อนจะล้วงหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง

     

     

     

    ......โลหะสีเงินทรงกลมวาววับขนเขาแทบหยุดหายใจ

     

     

     

    "...ซองยอลบอกรักผมแล้วนะ งั้นผมจองแล้วนะ ผมจะไม่ปล่อยให้ซองยอลไปไหนอีก"

     

    คุณแอลยกมือของเขาขึ้นสวมโลหะสีเงินลงบนนิ้วนาง มันสวยและพอดีกับนิ้วของเขา

     

     

    เขาไม่รู้จะพูดอะไรกับคนตรงหน้าอีกแล้ว หมดสิ้นคำพูดที่สวยหรู เขาทำได้เพียงโอบคนตรงหน้าเข้ามาจูบ...จูบไปพร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลลงมาเป็นสาย

    ทั้งรสชาติของริมฝีปากหนาและน้ำตาของเขามันช่างไม่เข้ากันเลยจริงๆ เขาหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตาแล้วจูบคนตรงหน้าต่อ

     

     

    'คุณแอลจะได้ยินบ้างไหม ได้ยินรึเปล่าหนึ่งคำที่มันล้นใจ'

     

    ขอบคุณนะครับที่เข้ามารักผม

     

     

     

     

     

    'Dear Lee Sungyeol

    .....Happy Birthday To You. Even I'm living far away from you, but you are still the only one for me. I  wish you all best and achieve all your goal.

                         From 'L'ondon Fan'






     

    TALK♡♡♡♡♡♡♡ ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามมาโดยตลอดนะคะขอบคุณมากๆคะ เรื่องนี้เหมือนแต่งตามอารมณ์ขึ้นๆลงๆ 55555 เดี๋ยวพี่ยอลแรง เดี๋ยวก็อ่อนยวบ 55555 แต่สุดท้ายก็......    ขอบคุณทุกๆคนมากจริงๆคะ ไรท์แอบเปิดเรื่องใหม่ไว้เรื่องนึง เกริ่นๆว่าเป็นแนวๆเด็กมหาลัยนะ ใครชอบแนวนี้ก็ตามอ่านได้เลยนะ ส่วนเรื่องนี้ขอบคุณมากๆกับคอมเม้นของทุกคนจริงๆ ไรท์แอบอิจฉาพี่ยอลนิดๆ 555555 ใครเป็นเหมือนกันบ้าง ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามมากๆเลยคะ♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×