คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 4..
ตอนนี้มีคำถามวนเวียนอยู่ในหัวของเขาเต็มไปหมด ร่างเล็กเดินออกมาจากตึกคณะวิทยฯ โดยระหว่างนั้นก็พิมพ์ข้อความบนโทรศัพท์ไปด้วย
'ทำไมถึงห้ามไม่ให้ไปกับพวกนั้นล่ะ'
หลังจากก้มลงดูข้อความ
เซฮุนเงยหน้าขึ้นมองไปตรงหน้า"ผมคงหาทางกลับร่างไม่สะดวก"
มินซอกเลิกคิ้วหน่อยๆ
'ยังไง'
ร่างสูงไม่ได้พูดอะไรอีก
ทั้งที่เห็นคำถามแต่กลับเดินสบายๆเช่นเดิมอย่างไม่คิดจะพูดอะไร พอเห็นอย่างนั้น
มินซอกก็ไม่ได้ซักไซ้ต่อและจึงเลิกสนใจเรื่องนี้ไปก่อน ถึงจะเพิ่งรู้จักกันไม่นาน
แต่ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว ทำไมเจ้าเด็กนี่ชอบทำตัวมีความลับทุกทีเลยนะ
เขาขยับนิ้วพิมพ์ข้อความใหม่'แล้วเตะจื่อเทาทำไม'ตอนที่สองคนนั้นโดนเตะเพราะพูดเรื่อง...ปลุกเจ้าชายนิทราอะไรนั่นเขาพอจะเข้าใจ
แอบเห็นด้วยนิดๆด้วยซ้ำ แต่เขาสงสัยเรื่องที่จื่อเทาโดนเตะตอนแรกมากกว่า
"หมั่นไส้มันน่ะ"
มินซอกหันไปมองหน้าร่างสูงแบบไม่เข้าใจ
เหตุผลแค่นี้มันง่ายไปรึเปล่า
"แค่นั้นแหละครับ" พูดแล้วก็ยิ้มออกมา
เออดี หมั่นไส้ใครก็เตะ...มินซอกกลอกตา
ก่อนจะก้มลงพิมพ์ข้อความต่อ 'จะไปตอนนี้เลยมั้ย'
"โรงพยาบาลน่ะเหรอครับ"
'ใช่'
"ฮยองไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า
เที่ยงนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลยนะครับ"
พอได้ยินอย่างงั้น
มินซอกก็เพิ่งรู้สึกตัวได้ว่าเขายังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงจริงๆ
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายกว่าๆแล้ว
แต่เขาคิดว่าการไปโรงพยาบาลนั้นก็ยังสำคัญกว่าอยู่ดี
'เดี๋ยวฉันไปหาอะไรกินแถวนั้นดีกว่า
เห็นบอกของอร่อยเพียบ' จริงๆนี่ล่ะมั้งที่สำคัญ
เซฮุนพยักหน้าให้ ตอนนี้มินซอกหยุดยืนรอรถเมล์ตรงป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย
พวกเขาสามารถนั่งรถเมล์เพียงต่อเดียวก็ถึงโรงพยาบาลนั้นได้เลย
ร่างเล็กเหม่อมองไปข้างหน้าระหว่างรอรถ เซฮุนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเช่นกัน อยู่ๆก็รู้สึกว่าบรรยากาศดำเนินไปอย่างอึดอัด มินซอกไม่รู้ว่าเขาควรจะทำอย่างไรดี ปกติแล้วเซฮุนจะเป็นคนชวนคุยตลอดเลยพอมาเจอตอนเงียบก็ทำเอามินซอกถึงกับทำอะไรไม่ถูก บางทีเขาควรชวนเซฮุนคุยหรือควรยืนตามปกติเหมือนไม่มีร่างสูงอยู่ข้างๆดี
ถือเป็นโชคดีที่ปวดหัวได้ไม่นานนักรถเมล์ที่รอก็จอดลงตรงหน้า
ทำให้ถอนหายใจออกมา เพราะนี่ยังไม่ใช่เวลาเลิกงานรถเมล์จึงมีที่ว่างให้นั่งเต็มไปหมด
มินซอกเลือกนั่งแถวๆเบาะหลังติดริมหน้าต่าง
ร่างสูงรอจนเขานั่งเรียบร้อยแล้วจึงทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเขา
การเดินทางนี้ช่างหน้าเบื่อหน่าย
ถึงการจราจรจะลื่นไหล แต่ระยะทางจากที่นี่ไปยังโรงพยาบาลแห่งนั้นใช้เวลาพอสมควรเนื่องด้วยระยะทางที่แลนสายวไกล
แถมยังเสริมด้วยบรรยากาศเงียบจากการที่ต่างคนต่างไม่รู้จะพูดอะไร
ในที่สุดมินซอกจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาฟังเพลง
"ฟังอะไรอยู่เหรอครับ" เซฮุนที่เหลือบมองมายิ้มๆเอ่ยถาม
บรรยากาศอึดอัดเบาบางจางลงไป
ยังไม่ทันที่มินซอกจะได้ตอบ
เซฮุนเอาหูของตัวเองแนบลงมากับหูซ้ายของเขาที่เสียบหูฟังเอาไว้จนมินซอกสัมผัสได้ถึงแก้มเนียนของอีกฝ่าย
ถึงจะไม่ได้รู้สึกอะไร
แต่การทำแบบนี้มัน...
ทำเอาใจเต้นไม่ปกติขึ้นมา
"อ๋อ
เพลงนี้..." ยิ่งได้รับรู้ได้ถึงการขยับเคลื่อนไหวของใบหน้าข้างๆก็ยิ่งทำให้ความคิดหยุดชะงัก
เมื่อรู้สึกตัว
มินซอกที่นิ่งค้างอยู่อย่างนั้นผละใบหน้าออก แล้วเบิกตากว้ามองเซฮุน
"ทำอะไรของนาย" กดเสียงตัวเองให้เบา
เอ่ยถามด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อมากขึ้นเล็กน้อย
"ฟังเพลงน่ะครับ
ไม่ได้เหรอ..." เซฮุนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงปกติที่สุดราวกับมันเป็นการกระทำที่ธรรมดาเหมือนที่เวลาเราหิวก็ต้องกิน
ง่วงก็ต้องนอน
"ได้
แต่ทำไมต้องวิธีนี้"
"ทำไมล่ะครับ"
เขาถามคำถามย้อนกลับที่ทำไมมินซอกถึงกับตอบอะไรไม่ได้
ใบหน้าคมเงยขึ้นสบตาเพื่อคาดคั้นคำตอบ
ก็มันน่าอายไม่ใช่เหรอ...
มินซอกที่เห็นคนสองสามคนบนรถเริ่มหันมาตามเสียงของเขา
ใบหน้ากลมก้มหน้างุดหยิบโทรศัพท์มากด
'มันตลก'
ดูข้อความเสร็จก็ขมวดคิ้ว"ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย....อ้ะ!
หรือฮยองเขิน"แล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่มออกกมา คำพูดนั้นทำเอาคนฟังผงะสุดตัว
'เขินบ้าอะไร' นี่ถ้าพูดได้เขาจะด่าร่ายยาวเลยทีเดียว
เขาแทบอยากจะลุหขึ้นยืนโวยวาย ฟาดสั่งสอนเจ้าเด็กนี่มักสองสามทีไปแล้ว
มาพูดจากวนอย่างนี้ได้ยังไง เขาเป็นพี่นะ
แต่ทำไม่ได้ไง
"ฮั่นแน่
อย่าอายสิครับ หน้าแดงไปหมดแล้ว"
เป็นอย่างที่เซฮุนพูด
ตอนนี้ใบหน้ากลมที่กำลังเบิกตากว้างขึ้นสีแดงเถือกพร้อมกับอุณหภูมิร้อน
ก่อนจะกัดริมฝีปากล่างของตนกระแทกนิ้วลงบนหน้าจอโทรศัพท์
'ไม่ได้เขิน'
"ถ้าไม่เขินแล้วทำไมผมฟังด้วยไม่ได้ล่ะครับ"
มินซอกชะงักนิ้ว
ใช่...ทำไมเขาถึงไม่ให้เซฮุนฟังด้วยนะ แต่แล้วก็ขยับนิ้วอีกครั้ง
'ปกติใครเขาทำแบบนี้กัน'
"คนที่เขาเป็นแฟนกันล่ะมั้งครับ"
คนที่ตอบกลั้วหัวเราะไม่ได้สังเกตเลยว่ามันทำให้คนตัวเล็กถึงกับหน้าแดงยิ่งกว่าเก่า
ลามขึ้นจนใบหู
'งั้นไม่ต้องฟังเลย'
"ผมล้อเล่นนะครับ
ผมไม่ใช่คนผมไม่ถือหรอก"เซฮุนโบกมือเป็นพัลวัน
คำพูดนั้นทำเอาคนฟังสะอึกไปเล็กน้อย
มันทำเอาร่างกายของเขาเริ่มทำงานช้าลงตามเดิม"ผมเบื่อแย่เลยนะ
ถ้าฮยองจะฟังเพลงแล้วทิ้งผมไว้อะ"เซฮุนทำหน้าเว้าวอนสุดฤทธิ์แบบที่ว่าคนมองรู้สึกขอร้อยให้ล้าน
ขอบ้านแถมรถยังไงยังงั้น
เม้มปากก่อนจะพิมพ์อีกครั้ง'จะทำอะไรก็ทำไป'เป็นข้อความที่หลังจากเห็นก็ทำเอายิ้มออกม่จนดวงตาจะกลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวแล้วแนบหูลงไปกับหูของอีกคนตามเดิม
เป็นเวลานับชั่วโมงกว่าจะมาถึง
พวกเขาเดินยังตลาดใกล้ๆเพื่อให้มินซอกได้หาอะไรทานก่อนที่จะไปยังโรงพยาบาลต่อ
เนื่องจากเป็นเวลาบ่ายสองกว่าๆตลาดจึงค่อนข้างว่างเพราะพวกคนที่ทำงานอยู่แถวนี้ถึงเวลาเข้างานกันหมด
ร้านขายอาหารที่รายล้อมอยู่รอบตัวทำเอามินซอกรู้สึกปลื้มปริ่ม
ขณะที่กำลังหยิบตะเกียบขึ้นคีบเส้นจาจังมยอนที่ตนเองซื้อมาเขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นได้
'ลืมของเยี่ยมไข้'เขาโชว์โทรศัพท์มือถือของตน
หลังจากอ่านเซฮุนพูดตอบทันที
"ไม่ต้องหรอกครับ"
'ต้องสิ
มันเป็นมารยาท'
"เปลืองเงินฮยองนะ"เซฮุนห้ามอย่างเกรงใจ
มินซอกนิ่งคิดเล็กน้อยก่อนจะพิมพ์ตอบในทันที
'ไว้ฉันจะเก็บนายทีหลัง'
"งั้นก็แล้วแต่เลยครับ" ใบหน้าคมพูดเสียงกลั้วหัวเราะ
มินซอกใช้เวลาไม่นานในการเลือกซื้อของฝาก
ถึงไม่รู้ว่าจะต้องซื้ออะไรไปเป็นของฝากแก่คนที่เป็นเจ้าชายนิทรา
แต่เพราะต้องมีคนเฝ้าอยู่ตลอดเวลาจึงเลือกที่จะซื้อของไปฝากแก่บุคคลนั้นมากกว่า
ตอนนี้พวกเขายืนอยู่หน้าโรงพยาบาลที่เทาและจงอินบอกว่าเซฮุนอยู่ที่นี่
คลี่แผ่นกระดาษออกดูหมายเลขห้องอีกครั้ง
มินซอกเอื้อมมือไปเคาะประตูอยู่สองสามทีก็ได้ยินเสียงขานรับ
เขายืนรอจนกระทั่งประตูเปิดออก
ใบหน้าหวานของเด็กหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกันปรากฎสู่สายตา เขาเป็นชายหนุ่มที่หน้าหวาน
ส่วนสูงไม่มากนักแต่ก็มากกว่าเขาอยู่เล็กน้อย
เซฮุนที่ยืนอยู่ข้างๆชะงักไปในทันที...จนเขารู้สึกได้
"สวัสดีครับ
มีอะไรเหรอครับ"ชายหนุ่มยิ้มมาให้อย่างเป็นมิตร
"อ่า...ผมอยู่มหาลัยเดียวกัน
มาเยี่ยมเซฮุนน่ะครับ"มินซอกที่เหล่มองร่างสูงแล้วจึงหันกลับมามองร่างบางของคนตรงหน้า
"อ้อ
เชิญครับๆ"เขายิ้มเชิญชวนผายมือออก มินซอกโค้งหัวให้เล็กน้อย
พร้อมกับยื่นถุงผลไม้ที่เขาซื้อมาให้
"นี่ของฝากครับ"
"โห
ผมชอบกินแอปเปิ้ลมากเลยหละ
ขอบคุณมากครับ"มินซอกคลี่มุมปากเล็กน้อยยิ้มตอบกลับไปเมื่อเห็นคนตรงหน้ายิ้มกว้างจนปากเป็นรูปสี่เหลี่ยมมาให้
ก่อนจะเดินเข้าไปสู่ห้องพักผู้ป่วยสีขาวสะอาดตา
เห็นร่างที่ลักษณะเหมือนกับร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆเขาอย่างกับถอดแบบกันมานอนนิ่งอยู่บนเตียงอย่างสงบ
เขารู้สึกชาวาบขึ้นมา ตารีหันกลับมามองร่างสูงข้างๆฉับพลับ
ตอนนี้ใบหน้าของเซฮุนสงบนิ่งมากจนมินซอกไม่กล้าทัก
"ทานกาแฟมั้ยครับ"เสียงของเด็กหนุ่มดังขึ้นขัดความคิด
เขาถามขึ้นขณะที่กำลังจะเปิดประตูตู้เย็นออก
"อ่า...ขอบคุณครับ"จริงๆเขาต้องการทีจะปฏิเสธไป
แต่เพราะเขาคิดจะสำรวจสักนิดหน่อยจึงตอบตกลงไป
เพื่อเบนความสนใจของแบคฮยอนไปอยู่ที่กาแฟ
มินซอกเดินไปหยุดอยู่ข้างๆเตียงผู้ป่วยมองใบหน้าคมที่อยูภายใต้หน้ากากออกซิเจน
ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็เดินมายื่นถ้วยกาแฟให้พร้มกับชวนไปนั่งที่โซฟา
"คุณเป็นอะไรกับเซฮุนเหรอครับ"หลังจากที่จิบกาแฟไปเล็กน้อย
เด็กหนุ่มคนนั้นก็ถามขึ้น
มินซอกนิ่งไปอย่างคิดไม่ทัน
เด็กหนุ่มเห็นร่างเล็กเงียบไปก็คิดว่าตัวเองเสียมารยาท "เอ่อ...ผมชื่อ บยอนแบคฮยอน
น่ะครับ "ร่างบางตอบพลางเกาศีรษะอย่างเหนียมอาย "เป็น...ครอบครัว...น่ะครับ"
พูดพลางเหลือบมองไปยังร่างที่อยู่บนเตียงแล้วหันมายิ้มให้
เป็นยิ้มที่ทำให้มินซอกรู้สึกแปลกๆ เซฮุนขมวดคิ้วเป็นปมทันที
"ผมคิมมินซอก
เป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยน่ะครับ"
"อ้ะ!"
จู่ๆแบคฮยอนก็ส่งเสียงร้องออกมา มินซอกมองงงๆ "คุณแก่กว่าผมเหรอเนี่ย" เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ
"...ครับ"
นึกว่าตกใจอะไรซะอีก
"โห...
ผมอยู่ปีหนึ่ง คิดว่าคุณเป็นเพื่อนเขาซะอีกแหนะ" ร่างบางยังคงทำตาโตอย่างตกใจ
"คุณหน้าเด็กสุดๆ รู้ตัวมั้ยเนี่ย"
"...ขอบคุณครับ"
มินซอกที่ไม่รู้ว่าควรจะดีใจกับคำชมนี้ดีหรือไม่ ตอบรับกลับไปเสียงเบา
เพียงครู่เดียวเสียงเพลงดังขึ้นพร้อมกับแรงสั่น
แบคฮยอนหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาดูก่อนจะกดรับ
"ฮัลโหล"
เขารับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงปกติของเขา
แต่มินซอกสัมผัสได้ว่ามันมีความรำคาญหน่อยๆแฝงอยู่ในน้ำเสียง
"ไม่เอา
กลับไปเหอะ" ขณะที่คุย แบคฮยอนกดเสียงให้เบาลง
"ก็ได้
ถ้างั้นฉันลงไปเอง" คราวนี้ฟังดูหัวเสีย มินซอกได้แต่ทำเป็นสนใจละเมียดกาแฟในแก้วของตน
โดยที่แอบฟังบทสนทนาฝ่ายเดียวของแบคฮยอนอยู่ ขณะเดียวกันก็หันไปมองทางเซฮุนด้วย
แต่ร่างสูงไม่มีท่าทีสนใจสิ่งใดเลยแม้แต่น้อยในที่สุดมือเล็กก็กดตัดสายไป
"ผมขอตัวสักครู่นะครับ
ฝากคุณดูเซฮุนหน่อยนะ"
"ได้ครับ"
มินซอกพยักหน้าหนักแน่น แบคฮยอนรีบขอบคุณก่อนจะรับโทรศัพท์แล้วก้าวเร็วออกจากห้องไป
มินซอกมองตามหลังของเด็กหนุ่มจนกระทั่งประตูปิดลง
นึกแปลกใจที่เขากล้าฝากเซฮุนทิ้งไว้กับตนทั้งๆที่เพิ่งจะรู้จักกันแท้ๆ
แล้วจึงหันกลับมายังเซฮุนที่ยืนอยู่ตรงของเยี่ยมไข้
ร่างสูงไล่พลิกดูป้ายชื่อผู้ส่งไปเรื่อยๆ
"ทำอะไรอยู่น่ะ"
เมื่อเห็นว่าในห้องไม่มีใครจึงพูดกับเซฮุนตามปกติ
"เปล่าครับ"
...อีกแล้ว
"เหรอ"
แต่ก็ไม่ใช่กงการอะไรของเขาที่จะต้องเข้าไปยุ่มย่ามให้น่ารำคาญ
ทั้งที่เห็นอยู่ชัดๆแท้ๆว่าเขากำลังหาอะไรบางอย่างอยู่
แต่ตอบเลี่ยงแบบนี้ก็ทำเอาร่างเล็กรู้สึกหงุดหงิด "ญาตินายนี่ไม่เหมือนนายเลยนะ"
ในหลายๆความหมายน่ะนะ
"ไม่ใช่"
เซฮุนโพล่งออกมาทันที
"หือ"
มินซอกหันขวับไปมองเซฮุน
รู้สึกได้ทันทีว่าบรรยากาศของคนตรงหน้าไม่เหมือนเดิม...แต่เขาคงไม่ควรจะไปซักไซ้อะไรเช่นเดิม
ตอนนี้มินซอกเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย
ใบหน้าซีดที่ดวงตาปิดสนิทราวกับว่านอนอยู่ปรากฎแก่สายตา
ช่างเหมือนกับอีกคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามเขาอย่างน่าใจหาย
"อ่ะ
เข้าไปสิ" มินซอกมองหน้า ชี้ไปยังร่างที่นอนอยู่บนเตียง
"ไม่ได้ครับ"
ใบหน้าคมส่ายไปมา
"ทำไมล่ะ"
ร่างเล็กขมวกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ตอนนี้เซฮุนเงยหน้าขึ้นมาแล้วสบตาเข้ากับเจา
"ไม่รู้ครับ
แต่ผมกลับเข้าไปไม่ได้" มินซอกเดินมาอยู่ข้างๆเขาถลึงตาจ้องหน้ายิ่งกว่าเดิม
แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็ยังคงเป็นใบหน้าไม่สะทกสะท้านเช่นเคย
"นี่ล้อเล่นรึเปล่า"
"เรื่องจริงครับ"
"ฉันไม่เชื่อหรอก
นี่จะแกล้งฉันเหรอ"
"ไม่ใช่นะครับ"
ตอนนี้เซฮุนยิ้มออกมาแล้ว ...ถึงจะเป็นยิ้มแบบอ่อนใจก็เถอะ
มินซอกเบ้ปาก
ทำท่าจะกดเซฮุนลงไปยังร่างของเขาเอง แต่กลับวูบผ่านไป
จนทำให้ร่างเล็กเสียหลักล้มลงไปบนเตียง
"ฮยองจะลักหลับผมเหรอครับ"
ร่างสูงหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นว่าตอนนี้มินซอกกำลังคร่อมร่างของเขาอยู่ในลักษณะล่อแหลม
มินซอกหน้าแดง รีบเด้งตัวขึ้นมาทันที
"ลักหลับบ้าอะไร"
หันค้อนไปมองใบหน้าที่หล่อที่กำลังอมยิ้มขำ
"ผมอนุญาตครับ
จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ" เซฮุนทำท่าผายมือเป็นเชิงอนุญาต
"เซฮุน!!"
มินซอกที่ตอนนี้หน้าแดงเถือกยิ่งกว่าเดิมขึ้นเสียงดัง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าคนข้างหน้าจะหยุดหัวเราะเลยสักนิด
เขาเม้มปากก่อนจะเดินไปอีกทางเพื่อสงบสติอารมณ์ ตอนนั้นเองที่ประตูก็เปิดออก
"ขอโทษนะครับ"
แบคฮยอนกลับมาแล้ว
เขากลับมาในสภาพหอบหายใจเหนื่อยเห็นได้ชัดว่าคงรีบวิ่งมา
ในตอนนั้นเซฮุนหุบยิ้มลงทันที
ปกติคนทั่วไปคงไม่ได้ไว้ใจขนาดที่กล้าฝากญาติตัวเองเอาไว้กลับคนที่ไม่ได้รู้จักหน้าค่าตาหรอกกแต่เขาคงจะต้องไปทำอะไรสักอย่างที่มันสำคัญมากๆ
สองมือเขาถือถุงน้ำและขนมกินจุกจิกอีกนิดหน่อย
"พอดีเพื่อนซื้อขนมมาฝาก ทานด้วยกันมั้ยครับ" พูดพร้อมเปิดถุงดูข้างใน "โห้ย! มีพุ้ดดิ้งสตรอเบอร์รี่ด้วยนะครับ!"
บางทีเขาอาจคิดมากไปเอง
"พอดีจะกลับแล้วน่ะครับ"
มินซอกยกมือขึ้นปฏิเสธ "ขอโทษที่มารบกวนนะครับ"
"ไม่เป็นไรครับ"
เขายิ้มหวานตอบกลับมา ทำเอามินซอกอดอิจฉาคนที่มียิ้มสดใสขนาดนี้ไม่ได้เลย
ร่างเล็กผงกหัวแล้วปิดประตูลง
ตอนนี้เซฮุนที่เดินอยู่ข้างๆ
ใบหน้าที้นิ่งจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่นั้นทำเอามินซอกไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมา
"ฮยอง"
ในที่สุดความเงียบก็ถูกทำลาย เซฮุนเรียกเขาเอาไว้ตอนที่เดินออกมาจากตึก
มินซอกพยักหน้าให้เล็กน้อย
"ตอนนี้อากาศดีนะครับ"
มินซอกชะงักไปครู่เดียว
เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ใบหน้ายังคงมองแน่วแน่ไปตามทางเดินเช่นเดิม
"อืม"
ตอบรับแค่ในลำคอ
สองคนก้าวอย่างเชื่องช้าไปตามทางออกสู่ถนนใหญ่
"ฮยองแวะกินข้าวเย็นเลยมั้ยครับ"
ร่างเล็กหยิบโทรศัพท์ของตนออกมา'ก็ดี'
หลังจากแวะกินร้านข้างทานเสร็จโดยแทบไม่ได้มีบทสนทนาอะไรกันเลย
พวกเขาจึงเดินมารอที่ป้ายรถเมล์
โชคดีที่ใช้เวลาไม่นาน รถเมล์มาแล้ว
คนตัวเล็กหันไปสบตากับเซฮุน แต่ราวกับเขามองบางสิ่งอยู่
อีกฟากของถนน เขายืนนิ่งงันไม่แม้แต่จะหันมา
นั่นทำให้มินซอกต้องหันไปมองตามแต่รถเมล์กลับแล่นเข้ามาจอดก่อน
บดบังจนไม่อาจมองไปฝั่งตรงข้ามได้
ในขณะที่มินซอกรีบวิ่งไปขึ้นรถเมล์ เซฮุนก็ยังคงยืนค้างอยู่ที่เดิม
จึงต้องเปลี่ยนไปส่งเสียงเรียกร่างสูงนั้นเบาๆ
เขาสะดุ้งแล้วหันมาสบตามินซอก
สายตานั้นทำเอาคนที่เห็นรู้สึกกังวล
เซฮุนตกใจอะไรบางอย่างอยู่...
แต่ยังถามไม่ได้ เซฮุนรีบวิ่งขึ้นรถเมล์ตามหลังเขามา
ตอนนี้รถไม่มีที่ว่าง
มีคนยืนอยู่ประมาณสองสามคน มินซอกเดินไปจับเสาตรงใกล้ทางออกแล้วปักหลัก
"..ฮยอง"
ในตอนที่รถเริ่มขยับตัวออก ร่างสูงก็เรียกเขาเสียงแผ่ว
น้ำเสียงเซฮุนเต็มไปด้วยความ...ประหลาดใจ
แปลกใจ ตกใจ หรืออาจทั้งหมดนั้น
มันมากขนาดที่มินซอกไม่คิดว่าจะได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ดังออกมาจากปากของร่างสูงได้
มินซอกเบนหน้าหันไปมองทันที
เห็นเซฮุนกำลังขมวดคิ้ว แววตาเต็มไปด้วยความ เขาพึมพำออกมาเสียงเบา
แต่ก็ดังมากพอที่มินซอกจะได้ยิน
"มีคนเห็นผม"
"...เขายิ้มให้ผม"
---------------------------------------------------------
หายไปนาน(มาก)TT ขอโทษจริงๆนะคะ
ตอนนี้มีตัวละครใหม่มาเพิ่มแล้วววววววววววว
แฮ่
:) Shalunla
ความคิดเห็น