ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ➹。Are you r e a d y? ♡ ( IKON SF/OS )゜

    ลำดับตอนที่ #1 : ➹ He came from the sky (DoubleB)

    • อัปเดตล่าสุด 25 ม.ค. 58



    He came from the sky

    BOBBY x BI

    @SQWEEZ



     

     

     

     

     

    สายฝนที่ล่วงหล่นลงมากระทบกับพื้น ปรากฏการณ์ที่ถูกอธิบายตามหลักของวิทยาศาสตร์ น้ำระเหยเป็นไอน้ำ กลายเป็นเมฆ ทำปฏิกิริยาบนฟ้านั่นก่อนที่ฝนจะตกลงมา

     

    ผมเกลียดฝน

     

    เพราะทุกครั้งที่ผมคิดถึงใครบางคน ฝนจะตกลงมา

     

    พี่ชายของผม

    ครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่

    ผมเสียเขาไปในวันฝนตก และคิดถึงเขาในวันฝนตก เหตุผลแค่นี้มันพอที่จะทำให้ผมเกลียดฝนแล้วสินะ

    ไม่รู้ว่าบังเอิญ หรือพระเจ้าจงใจตอกย้ำผมกันแน่

     

     

    วันนี้เป็นวันเสาร์ที่อากาศค่อนข้างมืดมัว เมฆฝนตั้งเค้าตั้งแต่เช้า ผมแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงยีนส์ แล้วก็รองเท้าผ้าใบสีดำเรียบๆ ไม่ลืมที้จะถือร่มออกมาด้วย เจ้าของร้านดอกไม้จำผมได้หลังจากที่ผมมาที่นี่ทุกเดือน เขาจัดช่อดอกเดซี่ให้ผมแบบที่เคยทำ หลังจากเตรียมของทุกอย่างเสร็จผมก็ขึ้นรถเมล์ไปยังสถานที่ประจำ

     

     

    "พี่จินฮวานครับ ผมมาแล้วนะ"

     

    วางช่อดอกไม้ลงที่หน้าหลุมศพของพี่จินฮวาน พี่ชายของผมประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อน หลังจากวันนั้นผมก็ซื้อดอกเดซี่สีขาวที่เขาชอบและเอามาให้เขาที่นี่ทุกเดือน

     

    "ผมคิดถึงพี่จัง"

     

    พ่อกับแม่เสียตั้งแต่ตอนที่ผมยังเป็นเด็ก เรามีกันสองพี่น้องมาตลอด พี่จินฮวานคอยดูแลผม คอยอยู่ข้างๆ เขาเป็นทุกอย่างสำหรับผม การสูญเสียคนๆนี้ทำให้จากที่ผมเคยร่าเริงกลับกลายเป็นคนเงียบขรึม พูดน้อย เพื่อนฝูงที่เคยมีก็ไม่ไปเจอ เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง จากที่ไม่เคยยุ่งกับอบายมุข ตอนนี้ผมทั้งสูบบุหรี่ ทั้งกินเหล้า

     

    รู้ดีว่าพี่จินฮวานคงไม่ชอบที่ผมเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่ชอบ แต่มันห้ามไม่ได้

     

    ผมไม่ใส่ใจตัวเอง

    แล้วก็ไม่ใส่จะหาความสุข

    ก็ไม่รู้จะมีความสุขไปทำไม

     

     

     

    ฝนตกอีกแล้ว

     

    จากหลุมศพของพี่จินฮวาน ผมเดินทอดน่องมาจนถึงเนินเขา ตรงนี้จะสามารถมองเห็นเมืองทั้งเมืองได้ 

     

    สวยดี 

    แต่มันก็แค่นั้น

     

    ฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยตัดสินใจกลับบ้าน ระหว่างทางที่เดินลงมาจากภูเขา ผ่านหลุมศพ ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าหลุมศพของพี่จินฮวาน

     

    ใครน่ะ

     

    หน้าตาไม่คุ้นว่าจะเป็นคนรู้จัก 

    เขาใส่บีนนี่สีดำ เสื้อยืดสีน้ำเงินเข้ม กางเกงยีนส์ขาดๆ แถมยังยืนตากฝน ไม่ยอมกางร่ม

     

    ผมทนดูเขาเปียกไปทั้งตัวแบบไม่ได้ เลยเดินเข้าไปหา

     

    "คุณครับ ทำไมมายืนตากฝนแบบนี้" ผมถามเขาก่อนจะยื่นร่มไปกางให้ น้ำฝนสาดมาโดนตัวผมเล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นไร

     

    เขาไม่ตอบ สายตาคู่นั้นหันมามองผมนิ่ง ใบหน้าพินิจพิเคราะห์อะไรอยู่สักพัก ก่อนจะยิ้มกว้าง

     

    "คิมฮันบินใช่มั้ย"

    "...ใช่ครับ"

     

    เขารู้จักผมด้วย

     

    "จินฮวานขอร้องให้ฉันมาหานาย"

     

    อะไรนะ?

    พี่จินฮวานขอรองเขาให้มาหาผม

    มันจะเป็นไปได้ไง ในเมื่อ...

     

    ผมเริ่มสังเกตดีๆ เมื่อดูใกล้ๆแล้วผู้ชายคนนี้ไม่ได้เปียกฝน เหมือนน้ำฝนมันทะลุผ่านร่างของเขาไปเฉยๆ

     

    บ้าน่า

     

    "ขอแนะนำตัวอีกที"

     

    ผมถอยหลังออกมา รู้สึกถึงลางสังหรณ์แปลกๆ

     

    "ฉันชื่อบ๊อบบี้"

     

    "ฉันเป็นเทวดาที่ถูกขอร้องโดยพี่ชายของนาย จินฮวานอยากให้นายมีความสุข"

     

    อะไรกันวะเนี่ย

     

    "ต่อจากนี้ หน้าที่ของฉันคือทำให้นายมีความสุขกับชีวิต คิมฮันบิน"

     

     

     

     

     

    ผมคิดว่าผมฝัน

     

    แต่มารู้ตัวอีกทีว่าตัวเองคิดผิดก็ตอนที่ 'บ๊อบบี้' ตามผมกลับมาที่ห้อง หมอนั่นเดินทะลุประตูเข้ามาหน้าตาเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    เทวดาหรือผีกันแน่

     

    "เทวดาเฟ้ย"

    "นี่...รู้ด้วยหรอว่าผมคิดอะไร"

    "เออเดะ"

     

    มันจะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว บนโลกเรายังมีเรื่องแบบนี้อยู่ด้วยหรอ

     

    ผมพยายามไม่สนใจเขา เดินไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบเบียร์ออกมาหนึ่งกระป๋อง

     

    "ฮันบิน" บ๊อบบี้ที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงพูดขึ้นขณะที่ผมกำลังจะเปิดฝา

     

    "อย่าดื่มเลย"

    "แต่..."

    "เหอะน่า ทิ้งๆไป"

     

                    ผมชักสีหน้า แต่ก็ยอมทิ้งเบียร์กระป๋องนั้นลงถังขยะ เสียดายก็เสียดายนะ เงินนะนั่น แต่ก็ยอมได้ไง เห็นแก่สายตาดุๆนั่นหรอก

     

     

     

     

     

    เอาจริงๆเลยปะ ผมโคตรจะไม่ชิน

     

    จะชินได้ไง อยู่ดีๆก็มีผู้ชายหน้าขาวๆ ตาตี่ๆมานั่งอยู่ในห้อง นั่งจ้องผมแทบทั้งวัน แตะตัวก็ไม่โดน เดินทะลุห้องได้อีก บางทีสะดุ้งตื่นมากลางดึกผมก็เห็นเขานั่งนิ่งๆอยู่มุมห้องคิดว่าจะขนลุกมั้ยล่ะ!

     

    นิสัย...นอกจากจะโคตรไม่เกรงใจแล้วยังชอบพูดจาขวานผ่าซาก ถึงจะมีมุมที่ใจดีและขี้เป็นห่วงอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่เขาจะแสดงออกมาในรูปแบบของการบ่น

     

    แต่ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงยอมทำตามคำสั่งของบ๊อบบี้ไปซะทุกเรื่อง เขาห้ามผมดื่มเบียร์ ห้ามสูบบุหรี่ บังคับให้ผมอาบน้ำสระผมให้สะอาด บังคับให้ผมออกไปซื้อของกินที่มีประโยชน์มากกว่าอาหารแช่แข็งมาตุนไว้ นี่ตกลงมาทำให้มีความสุขหรือมาเป็นเทรนเนอร์สุขภาพกันแน่?

     

    ไม่ว่าผมจะทำอะไรเขาก็รู้ทันหมดทุกอย่าง แถมยังรู้เรื่องของผมดีจนน่าตกใจ ทั้งสีที่ชอบ หนังเรื่องโปรด งานอดิเรก อาหารที่ชอบ นิสัยใจคอ เรื่องตอนเด็กๆ 

     

    พี่จินฮวาน พี่บอกอะไรเขาไปบ้าง

     

    บ๊อบบี้เอาแต่พูดเรื่องเกี่ยวกับผม แต่พอถามเกี่ยวกับพี่จินฮวาน เขากลับไม่ยอมตอบ จนเค้นเอาเข้ามากๆ ก็ยอมตอบมาประโยคนึง

     

    "เขาสบายดี แต่ไม่สบายใจ"

    "ทำไม"

    "ก็นายเป็นแบบนี้ไง จะมีพี่ชายที่ไหนสบายใจถ้ารู้ว่าน้องตัวเองกลายเป็นคนอมทุกข์ เอ้า! วิ่งต่อ"

     

    ตอนนี้ผมอยู่ที่สวนสาธารณะ โดนบ๊อบบี้สั่งให้ตื่นมาวิ่งตั้งแต่หกโมงครึ่ง เหตุผลคือร่างกายจะได้ฟิตแอนด์เฟิร์ม นี่จริงๆก็ไม่ได้ไม่อยากมาหรอก ง่วงก็ง่วง แต่ขัดไม่ได้

     

    ผมไม่เคยมาสวนสาธารณะตอนนี้ มีผู้คนออกมาวิ่งออกกำลังกายมากมาย ที่น่าแปลกคือมีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆสองคนมาวิ่งเหยาะๆไปด้วยกัน ดูแล้วน่าเอ็นดูดี

     

    "โอ้ย!"

     

    จู่ๆเด็กตัวเล็กก็สะดุดล้มลงไปที่พื้น ผมเห็นว่าเข่าของเขามีเลือด เลยจะเดินเข้าไปดู

     

    "ชานอู! บอกแล้วไงว่าให้มองพื้นด้วย" เด็กอีกคนเดินเข้ามาดุไปหนึ่งยก ก่อนจะก้มมองแผลที่หัวเข่า "เจ็บมั้ย"

     

    "...เจ็บอ่ะ จุนเน่ เจ็บ" เด็กตัวเล็กเบะปากเหมือนจะร้องไห้

     

    "อย่าร้องนะ! เป็นน้องพี่ต้องเข้มแข็งสิ"

    "อะ..อื้ม! เข้มแข็ง!"

     

    เป็นพี่น้องกันหรอ

    ...น่ารักดีนะ

     

    "ปะ เราไปหาหม่าม้ากัน"

    "ครับ!"

     

    แล้วพวกเขาก็ค่อยๆเดินกันไปอีกทาง ผมเผลอมองภาพนั้นแล้วยิ้มออกมา

     

    "เด็กตัวแค่นั้นยังเข้มแข็งได้เลย แล้วนายล่ะฮันบิน"

    "เฮ้ย ไม่เกี่ยวกันแล้ว นั้นเขาหกล้มนะ"

    "เออ เปรียบเทียบเฉยๆ เป็นน้องจินฮวานก็ต้องเข้มแข็งนะเว้ย"

     

    ผมทำหน้าเบื่อหน่ายใส่บ๊อบบี้ เขาเทศน์ผมมากี่ครั้งแล้วนะครั้งแต่วันแรกที่เจอกัน อืม...เกือบๆสองเดือนแล้ว

     

    แล้วไหนว่าจะทำให้ผมมีความสุขกับชีวิต

    ตอนนี้ยังไม่รู้สึกอะไรเลย

     

    "นี่นายสบประมาทฉันหรอ ฮันบิน"

    "เลิกอ่านใจผมสักทีเถอะน่า"

    "ไอ้เด็กหัวแข็ง นายไม่เห็นน่ารักแบบที่จินฮวานเล่าเลยอะ"

     

    "ผมก็เป็นของผมแบบนี้แหละ เป็นเทวดาก็รีบๆกลับสวรรค์ไปได้แล้วไป ความสุขอะไรนั่นไม่ต้องมีก็ได้"

     

    ผมพูดออกไปด้วยอารมณ์

    จริงๆไม่ได้หมายความแบบนั้นเลยสักนิด

     

    "ฮันบิน"

    "..."

    "ไม่ได้คิดแบบนั้นก็อย่าพูดออกมาสิ"

    "หยุดอ่านใจผมสักที!!"

     

    ผมขึ้นเสียง ใบหน้าของบ๊อบบี้เปลี่ยนไปจากเดิม ไม่มีรอยยิ้มขี้เล่นเหมือนก่อน

     

    แต่ก็ช่างเขาสิ

     

    รู้นะว่าเหนื่อยที่จะต้องมาติดอยู่กับผม

    เด็กดื้อ หัวแข็ง อมทุกข์ อย่างผม

    การจะทำให้ผมมีความสุขมันคงยากมากสินะ

     

    พี่จินฮวานครับ

    พี่ไปขอร้องเขาทำไม

     

    "พี่ชายนายเขาเป็นห่วงนายนะโว้ย เขาอยากให้นายมีความสุข ทำแบบนี้ถ้าไม่คิดถึงตัวเอง ก็คิดถึงจินฮวานบ้างเถอะ ฮันบิน"

     

    หยุดพูดได้มั้ย

    ผมไม่อยากร้องไห้ตอนนี้

     

    "ไม่มีใครอยากให้อุบัติเหตุนั่นเกิดขึ้น จินฮวานไม่อยากทิ้งให้นายอยู่คนเดียว เขาอยากดูแลนายต่อไป แต่เรื่องนั่นมันเกิดขึ้นไปแล้ว จินฮวานอยู่กับนายไม่ได้แล้ว อย่างน้อยก็หัดรักตัวเองหัดดูแลตัวเองซะบ้างสิวะ! อย่าทำให้พี่ชายต้องไม่สบายใจสิ!"

     

    "...ฮึก..."

     

    ผมนั่งลงกับพื้น ก้มหน้าลงปล่อยให้น้ำตาไหล พยายามกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นหลุดออกมา

     

    "นี่...อย่าร้องไห้"

     

    บ๊อบบี้เดินเข้ามานั่งข้างผม มือนั่นยกขึ้นมาวางบนไหล่ ไม่สิ...เขาวางมือบนไหล่ผมไม่ได้ ก็เป็นเทวดานี่

     

    "แต่ฉันกอดนายได้นะ"

     

    จู่ๆเขาก็ดึงผมไปกอด ทำไมกันนะ ทั้งๆที่เมื่อก่อนผมแตะตัวเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ผ่านมาจากตัวเขา

     

    รู้สึกดีจังแฮะ

     

    "ไม่มีใครไม่เคยสูญเสียหรอกนะฮันบิน เราทำอะไรไม่ได้หรอกนอกจากยอมรับมันและเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ"

    "แต่ว่า...ผม..."

    "นายไม่จำเป็นต้องขังตัวเองไว้กับความทุกข์หรอกนะ"

    "..."

    "จินฮวานอยากเห็นนายยิ้ม"

    "..."

    "ฉันก็ด้วยนะ"

     

     

     

    จำไม่ได้แล้วว่าวันนั้นผมนั่งร้องไห้อยู่นานเท่าไหร่ มันคงนานมากอยู่เหมือนกันเพราะวันต่อมาตาผมปูดเป็นลูกมะนาว บ๊อบบี้หัวเราะผมใหญ่ อย่างกับว่าตัวเองไม่เกี่ยวอย่างนั้นแหละ แต่ช่างเถอะ เพราะหลังจากการร้องไห้ครั้งนั้นแล้วผมรู้สึกดีขึ้นมาก เหมือนกับว่าได้ระบายความทุกข์ที่มีอยู่ออกไปกับน้ำตา

     

    ผ่านมาอีกหกเดือนเดือน บ๊อบบี้ยังอยู่กับผม บังคับให้ผมทำโน่นทำนี่เหมือนเดิม เขายังเป็นเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือตัวผม ตอนนี้ผมสามารถยิ้มและหัวเราะกับสิ่งต่างๆได้เหมือนเดิมแล้ว ผมพูดมากขึ้น ร่าเริงมากขึ้น กลับไปติดต่อกับเพื่อนฝูงเหมือนเดิม เหล้าบุหรี่อะไรก็เลิกแล้ว ตอนแรกก็ทุลักทุเลหน่อย แต่โดนบ๊อบบี้บ่นทุกวัน ก็เลยสำเร็จจนได้

     

     

    ฝนไม่ตกแล้ว

    และผมก็ไม่เกลียดฝนแล้ว

     

     

    ตอนนี้ผมก็...ยังคิดถึงพี่จินฮวานอยู่

    ก็ยังมีเศร้าๆบ้าง

    แต่ผมไม่ปล่อยให้ตัวเองเศร้านานหรอก

     

    การมีความสุขมีดีกว่าเป็นไหนๆ

    ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าจะมีความสุขไปทำไม 

    เพื่อพี่จินฮวาน

    เพื่อตัวผมเอง

    และเพื่อบ๊อบบี้ด้วย

     

    "ตอนแรกฉันโคตรเครียดอ่ะ เห็นสภาพแล้วคิดว่าต้องยากแน่ๆ เด็กมืดมนอย่างนายเนี่ย"

    "เด็กมืดมนอย่างผมมันทำไมหรอครับ"

    "ก็เปล่าหรอก แต่จะบอกชอบนายตอนยิ้มมากกว่า"

     

    วันนี้ผมพาเขามาที่หลุมศพของพี่จินฮวาน เอาดอกเดซี่แบบที่พี่ชอบมาให้ก่อนจะเดินมานั่งเล่นที่เนินเขา ผมยังชอบวิวตรงนี้เสมอ เลยอยากให้อีกคนได้ดูด้วย

     

    "ขอถามหน่อยดิฮันบิน"

    "ครับ?"

    "ตอนนี้มีความสุขรึยัง"

     

    ...อืม

    จริงๆก็มีนะ

    มีมาสักพักแล้ว

    ก็เพราะมีบ๊อบบี้อยู่ คอยสั่งนั่นสั่งนี่ คอยมาบ่น คอยมาสอน คอยทำให้ผมยิ้ม หัวเราะ และรู้สึกดีแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ถ้าบ๊อบบี้ไม่ดึงผมขึ้นมาจากความทุกข์ ป่านนี้จะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้

     

    ขอบคุณนะ

     

    "เฮ้ย เขินนะ มาขอบคุณอะไร"

    "นี่ยังไม่เลิกอ่านใจผมอีกหรอ!"

     

    เออ อ่านๆไปเลยนั่นแหละ

    เพราะถ้าให้พูดออกมา ก็คงไม่กล้าหรอก

     

    "แล้วถ้าต้องอยู่คนเดียวอีก จะมีความสุขมั้ย"

    "...ทำไมถึงถามแบบนั้น"

    "เพราะฉันต้องกลับไปแล้ว ฮันบิน"

     

    บ๊อบบี้ยิ้มให้ผม

     

    ผมเริ่มรู้สึกว่ายิ้มไม่ออก

     

    "สิ่งที่จินฮวานขอ ฉันทำสำเร็จแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่ฉันจะต้องกลับไปแล้วล่ะ"

     

    ไม่ไปได้มั้ย

    ...คงไม่ได้

    เทวดาก็ต้องอยู่บนสวรรค์สินะ

     

    "คราวนี้นายต้องทำตามที่ฉันขอบ้างนะ"

    "..."

    "เป็นเด็กดี ดูแลตัวเอง กินผักเยอะๆ เวลานอนอ่ะห่มผ้าด้วย เดี๋ยวเป็นหวัด อย่ากลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกล่ะ ฉันกับจินฮวานรู้หมดนะ"

    "ถ้าเหงาก็หาแฟนสักคน แล้วก็ดูแลเขาดีๆ อย่างน้อยก็เอาให้ได้แบบที่ฉันดูแลนายนะเว้ย ฮ่าๆๆ"

     

    บ้าชะมัด

    ผมอยากร้องไห้จัง

     

    "คิดถึงกันบ้างนะฮันบิน"

     

    ผมมองเห็นร่างของบ๊อบบี้กำลังโปร่งแสงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนในหนังบางเรื่องที่เคยดู ผิดกันตรงที่นี่ไม่ใช่หนัง เขากำลังจะไปจริงๆ

     

    "โชคดี"

    "โชคดีครับ"

     

    บ๊อบบี้หายไปแล้ว

    ร่างของเขาโปร่งแสงหายไปจนเหลือไว้แค่อากาศว่างเปล่า

     

    หัวสมองของผมก็ว่างเปล่า

    ไม่มีเขาอยู่ด้วยแล้ว

     

     

     

     

    วันนี้ฝนตก

    ผมยังคงคิดถึงพี่จินฮวาน

    ผมยังคงคิดถึงบ๊อบบี้

    แต่ผมไม่เศร้าอีกต่อไปแล้ว

    เพราะบนโลกใบนี้ยังมีอีกเป็นพันล้านสิ่งที่สามารถทำให้เรามีความสุข ไม่จำเป็นจะต้องไปยึดติดกับอดีตที่เราไม่สามารถย้อนกลับไปใช้ชีวิตในช่วงนั้นได้

     

    ตอนนี้ผมมีความสุขแล้วนะครับพี่จินฮวาน

    ผมดูแลตัวเอง กินผัก แล้วก็นอนห่มผ้าทุกคืนเลยนะ 

     

     

    แล้วจะรอจนกว่าจะได้เจอกันอีกครั้งนะครับ

    เทวดาบ๊อบบี้

     

     

     

                    END J

     







     

     

    TALK <3

    หมั่นไส้บ๊อบบี้ขี้เต๊าะน้องงะ /ตบ

    อันยองค่า ./. ลงตอนแรกให้ลองอ่านกันก่อนเลย เป็นดับเบิ้ลบีเรื่องแรกๆ

    ที่ลองแต่งออกมา ไม่มั่นใจมากๆ ที่เขินมากๆนะ U_U/ อยากให้ลองอ่านลองคอมเม้นกันหน่อยนะคะ

    ถ้าไม่ชอบอะไรตรงไหนก็จะได้เอาไปปรับปรุง

    คอมเม้นได้ที่นี่และที่แทค #อยรดชฟ นะคะ รักส์

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×