คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [ Kyuwook ] illusion ? : Part lll ( End )
ภายในร้านค๊อฟฟี่ช็อปที่ถูกตกแต่งให้น่านั่งและดูอบอุ่นน่ารักชวนให้ลูกค้าแวะเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่วันนี้ดูหล่อเป็นพิเศษกับเสื้อตัวเก่งสีเขียวอ่อนกำลังนั่งรอชายหนุ่มร่างอวบอีกคนที่เค้านัดมาเพื่อจะได้มีเวลาเดินเที่ยวเล่นกันในวันหยุดอาทิตย์เช่นนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องระหว่างเค้ากับเรียวอุคขึ้นนี่ก็ผ่านไปแล้ว 2 เดือนมันช่างรวดเร็วเสียเหลือเกินและตลอดระยะเวลา 2 เดือนนี้คยูฮยอนเองก็ตามจีบซองมินไม่ขาด คอยชวนไปนู้นไปนี่บ้างล่ะ ซื้อขนมที่ซองมินชอบมาให้บ้างล่ะแต่ในหลายๆครั้งคยูฮยอนก็มักจะโดนซองมินปฎิเสธเสมอ
แต่ในวันนี้ซองมินตกลงยอมมาเที่ยวกับเค้าในวันหยุดซึ่งมันทำให้คนตัวสูงโปร่งที่มีความมั่นใจเต็มร้อยเกิดอาการประหม่าเล็กๆ คยูฮยอนเองก็หวั่นๆกลัวเรียวอุคจะขัดขว้างแผนการจีบซองมินของเค้าจริงอยู่ที่เรียวอุคยังคงไม่ค่อยชอบขี้หน้าเค้าแต่เรียวอุคก็ไม่เคยขัดขวางเค้าเลยแม้แต่น้อยซึ่งนั่นมันก็ทำให้เค้าสงสัยและรู้สึกผิดกับเรื่องที่ตนก่อ คยูฮยอนพิถีพิถันอย่างมากในการเลือกร้านค๊อฟฟี่ช็อปร้านนี้เพราะเค้าอยากให้ซองมินประทับใจในตัวเค้าแล้วจะได้ตอบตกลงคบกับเค้าเสียที
“ ไอ้หลุม ! ” ระหว่างที่คยูฮยอนคิดวางแผนเรื่องการมาเที่ยวกับซองมินในครั้งนี้ก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะเสียงแหลมที่เรียกตนออกจากภวังค์และไม่ต้องคาดเดาอะไรให้มากเรื่อง คนคนเดียวที่เรียกเค้าแบบนี้จะเป็นใครนอกเสียจาก คิมเรียวอุค!
“ เจ้าเตี้ยมาทำอะไรที่นี่แล้วซองมินล่ะอยู่ไหน ? ” เมื่อหันไปไม่พบคนที่ตนนัดไว้ก็เริ่มถามคนตรงหน้าทันที คยูฮยอนเองก็แอบหวั่นใจเหมือนกันครั้งนี้เรียวอุคอาจจะมาขัดขวางความสุขของเค้าก็เป็นได้
“ คือ ... แบบว่า ... ซองมินมาไม่ได้น่ะมันติดธุระกับครอบครัวก็เลยให้ฉันมาบอกนาย ” คนตัวเล็กอึกอักกับสิ่งที่ตัวเองถูกไหว้วานให้มาช่วยถึงแม้ว่าครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เค้าถูกซองมินวานให้มาหาคยูฮยอน
“ อ่าวหรอ ทำไมไม่โทรมาหานะ ? ” คยูฮยอนพูดพร้อมกับปรายตามองคนร่างเล็กตรงหน้าที่ตอนนี้ทำหน้าบอกบุญไม่รับเป็นอย่างมากก็เพราะที่ร้านนี้มันคนเยอะทำให้คนอย่างเรียวอุคอึดอัดและรู้สึกรำคาญอยากจะไปให้ไกลจากร้านและที่ตรงนี้
“ เออนี่หมดธุระของฉันแล้วงั้นฉันไปก่อนนะ ” เรียวอุคพูดก่อนจะทำท่าเดินออกไปแต่ก็ต้องหยุดกึกเมื่อมีมือหนาของอีกคนจับเข้าที่ต้นแขนอย่างจัง ส่งผลให้คนตัวเล็กหันไปหาเจ้าของมือหนานั่น
“ เฮ้ย !!!!!!!! ทำบ้าอะไรเนี้ยะ ” เรียวอุคตะโกนลั่นใส่หน้าคยูฮยอนซึ่งเป็นเจ้าของมือหนาที่จับอยู่บนต้นแขนของเค้า เรียวอุคพยายามจะบิดต้นแขนของตัวเองให้หลุดออกจากการเกาะกุม แต่แรงอันน้อยนิดของเรียวอุคนะหรือจะสู้แรงของคนร่างสูงได้ คยูฮยอนที่เห็นว่าคนตรงหน้าพยายามจะบิดแขนออกก็ยิ่งจับมันแน่นขึ้นกว่าเดิมแต่ก็ไม่กล้าลงแรงมากนักเพราะกลัวแขนของอีกคนจะหักคามือเสียก่อนท่าทางเงอะงะของเรียวอุคมันทำให้เค้ากลั้นขำเสียแทบตาย
“ ไหนๆก็มาแล้วไปเที่ยวเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ ถือว่าฉันพานายเที่ยวไถ่โทษเรื่องก่อนๆแล้วกัน ^O^ ” รอยยิ้มที่ดูจริงใจและสดใสของร่างสูงทำให้เรียวอุคนิ่งอึ้งไปกับรอยยิ้มนั่นที่เค้าเองไม่เคยเห็นจากคนร่างสูงนี้เลย แต่เมื่อตั้งสติได้เรียวอุคก็อยากเอาตัวพุ่งให้รถชนเสียจริงไม่น่าหลงไปกับรอยยิ้มที่เจ้านี่ส่งมาให้เล้ยย ! เรียวอุคถูกคยูฮยอนกึ่งลากกึ่งจูงมายังที่ที่มีคนพลุกพล่านซึ่งนั่นมันทำให้เค้าเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบแล้วนะ !!!!
“ นี่เจ้าเตี้ย ฉันพามาเที่ยวนะทำไมทำหน้ายังกะฉันพานายมาฆ่าแบบนี้ล่ะห๊ะ ? ” คยูฮยอนเองก็เริ่มไม่พอใจกับสีหน้าของคนตัวเล็กสักเท่าไหร่ ตั้งแต่ออกมาจากค๊อฟฟี่ช็อปคนตัวเล็กก็ยังทำหน้าบูดบึ้งไม่เปลี่ยนและดูมีทีท่าว่ามันจะบูดขึ้นเรื่อยๆเสียด้วย
“ ก็ฉันไม่อยากมานี่ คนก็เยอะอึดอัดแน่นไปหมด หายใจก็ไม่สบายแถมยังโดนคนนั้นคนนี้ชนอีกฉันจะตายเพราะที่แบบนี้ !!!! ” คนตัวเล็กพ่นคำพูดออกมาอย่างเหลืออดเค้าไม่ชอบจริงๆกับสถานที่แบบนี้อาจเป็นเพราะว่าตัวของเค้าเล็กทำให้ผู้คนที่เดินเบียดกันอย่างเนืองแน่นชนนิดชนหน่อยก็แทบปลิว ใบหน้าของคนตัวเล็กที่ตอนนี้ดูหงิกงอราวกับเด็กเล็กๆที่ไม่ได้ของเล่นจากพ่อแม่มันทำให้คยูฮยอนขำออกมาอย่างช่วยไม่ได้ นี่อาจไม่ใช่ครั้งแรกที่เรียวอุคมาบอกกับเค้าว่าซองมินไม่ว่างและนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เค้าต้องอยู่กับเจ้าคนตัวเล็กเพียงสองคน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่คยูฮยอนรู้สึกว่าเรียวอุคก็มีมุมน่ารักๆเหมือนกันและเค้าเองก็ชักจะชอบมุมน่ารักๆแบบนี้ของเรียวอุคซะแล้วสิ
“ นี่จะขำหาพระแสงดาบคาบค่ายอะไรของนายนักหนาห๊ะ ????!!!!!!!! ” คนตัวเล็กตะโกนลั่นเพราะคนตัวสูงกว่ายืนขำเค้าต่อหน้าประชาชีนับแสนมาเป็นเวลาเกือบสิบนาทีแล้ว
“ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า ... ก็ดูหน้านายสิตลกเป็นบ้าเลย ! ฮ่ะ ฮ่าา า โอเคๆฉันเลิกขำแล้วก็ได้ ” ปากก็พูดไปแต่มือนี่พยายามยกขึ้นมาปิดปากตัวเองทุกครั้งเมื่อเห็นหน้างอๆที่แสนจะเอาแต่ใจของเรียวอุค
“ หยุดไปเลยน้ะ !!!! หิวแล้วเลี้ยงข้าวฉันด้วย ... ว่าแต่กินไรดีน๊า ? ” ว่าพลางมองไปยังร้านค้าต่างๆที่รายล้อมตัวของคนทั้งคู่ สีหน้าของคนตัวเล็กร่าเริงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพูดถึงของกิน
“ อ่า าาา ! ฉันอยากกินขนมเค้ก ป่ะ ไปกินกัน ” ไม่รีรอคำตอบคนตัวเล็กคว้าข้อมือหนาของคนตัวสูงให้เดินตามตัวเองไป ส่วนคนตัวสูงก็ยอมตามอย่างงงๆพลางมองที่มือเล็กกว่าที่จับอยู่ตรงข้อมือของตน ก่อนจะระบายยิ้มออกมาน้อยๆกับความเป็นเด็กที่แสนเอาแต่ใจของคนตัวเล็ก ‘ ทีเมื่อกี้ฉันจับแขนยังดิ้นแทบตายแต่ทีนี้จูงมือฉันเองซะอย่างนั้นนะ คิมเรียวอุค ’
“ อะอ่าว นี่นายหยุดทำไม ไม่เข้าไปกินเค้กหรือไง ? ” คยูฮยอนพูดขึ้นหลังจากที่ตัวเค้าเกือบจะชนแผ่นหลังของคนตัวเล็กเพราะจู่ๆเรียวอุคก็หยุดเดินขึ้นมาเสียเฉยๆ
“ อ่ะ เอ่อ ... คือ .. คือฉันไม่อยากกินแล้วหน่ะ แบบว่ากลัวอ้วนอะ แหะๆ ” รอยยิ้มแห้งๆและคำพูดตะกุกตะกักของเรียวอุคทำให้คยูฮยอนสงสัยมากขึ้นกว่าเดิมแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปเพราะคิดว่าจะเป็นการก้าวก่ายจนเกินไป ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเดินออกจากหน้าร้านเสียงบุคคลที่สามก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ เฮ้ๆ เรียวอุค !!!! นั่นนายจะไปไหนน่ะ ? เข้าไปกินเค้กกับพวกเราก่อนซิ ” เสียงของบุคคลที่สามดังขึ้นพร้อมกับเรียกชื่อของเรียวอุคและนั่นก็ทำให้เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงก่อนจะหันกลับไปหาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ เอ่อ .. สวัสดีครับพี่ชินดง คือผมไม่รู้ว่าพี่มากินเค้กร้านนี้หน่ะ ” เรียวอุคโค้งให้กับชายหนุ่มร่างท้วมซึ่งทุกครั้งที่เค้าเจอกับชายหนุ่มคนนี้ก็จะได้รับรอยยิ้มใจดีและดูอบอุ่นทุกครั้งไป
“ ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ เข้าไปกินด้วยกันคนเยอะสนุกดีออก ซองมินคงชอบน่าดู ” ชายหนุ่มยังคงพูดไปยิ้มไปอย่างคนอารมณ์ดีผิดกับคู่สนทนาที่ตอนนี้หน้าหดลงเหลือเพียงสามเซ็น
“ ขอโทษนะครับคือผมมีธุระกับเจ้าหมอนี่หน่ะฮะ ผมคงไปนั่งทานด้วยไม่ได้ ^ ^ ” รอยยิ้มแห้งๆถูกส่งให้อีกคนพร้อมกับใบหน้าที่ซีดเซียวเป็นไก่ถูกต้มตอนไหว้เจ้าก็ไม่ปาน
“ อ๋อออออ !~~ มีแฟนเมื่อไหร่กันเรา ไม่เห็นจะบอกพี่เลยซองมินก็อีกคนเพื่อนมีแฟนทั้งที่ไม่คิดจะบอกกันเลย ” พูดออกไปเป็นเชิงแซวปนบ่นน้อยๆ
“ ไม่ใช่ครับ ! หมะ .. หมอนี่ไม่ใช่แฟนผม เราก็เป็นแค่ เพื่อนกันหน่ะฮะ ” เรียวอุครีบปฏิเสธทันควันทำให้ชายร่างท้วมหัวเราะออกมาน้อยๆกับความน่ารักของเจ้าน้องชายตัวดี
“ ฉันฟังมาตั้งนานแล้ว นายพูดถึงซองมินสองครั้งแล้วนายเป็นใคร ? พี่ชายซองมินหรือไง ” คำถามถูกส่งให้กับชายร่างท้วมพร้อมกับใบหน้านิ่งๆที่คาดเดาไม่ได้ว่ากำลังคิดอะไรแต่สายตาที่มองอีกคนนั้นบ่งบอกได้ดีว่ารู้สึกขุ่นเคืองเพียงใด
“ ฉันชื่อชินดง ... ฉันไม่ใช่พี่ชายซองมินหรอกแต่ฉันเป็นแฟนของซองมินหน่ะ ! ^______^ ” ชายร่างท้วมส่งยิ้มอันสดใสและไร้พิษภัยกลับมาให้กับคนร่างสูงที่ตอนนี้นิ่งอึ้งไปเรียบร้อย
“ ผมขอตัวก่อนนะฮะ ” รีบโค้งเป็นเชิงลาก่อนจะลากคนตัวสูงกว่าออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด เมื่อเห็นว่าลากมาไกลพอสมควรและผู้คนก็บางตาลงจึงปล่อยมือที่จับข้อมือของร่างสูงออก
“ นี่มันอะไรกัน ? ซองมินมีแฟนแล้วอย่างนั้นหรอ ? ไหนนายบอกว่าวันนี้ซองมินติดธุระกับครอบครัวไงแล้วทำไมผู้ชายคนนั้นอยู่กับซองมิน ? .. มันอะไรกันคิมเรียวอุคคคคคค ?! ” เรียวอุคถูกคยูฮยอนเขย่าร่างทั้งร่างจนสันคลอนไปตามแรงต้นแขนที่ถูกข้อมือแกร่งบีบก็รู้สึกเจ็บไปหมด
“ นะนี่ปล่อยฉันนะ ฉันเจ็บ ! คยูฮยอนฉันบอกว่าฉันเจ็บบบบบบบบบบบบบ !!!!!! ” เรียวอุคตะโกนใส่หน้าคนตัวสูงกว่าเมื่อพูดดีๆไม่รู้เรื่องก็ต้องตะโกนใส่หน้าให้มันรู้สึกตัว เพราะถ้าให้คนตัวสูงเขย่าต่อไปแขนของเค้าได้หลุดติดมือคยูฮยอนไปเป็นแน่แท้
“ งั้นนายก็อธิบายมาซิ ว่าเรื่องมันเป็นยังไง ? ” คยูฮยอนปล่อยแขนของเรียวอุคก่อนจะถอยออกมาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัวจนทำให้คนตัวเล็กขนลุกเลยทีเดียว
“ คือ ... ซองมินกับพี่ชินดงเค้าคบกันหลังจากที่นายตามจีบซองมินได้ 2 อาทิตย์ ซองมินมันพยายามจะบอกนายแต่ไม่มีโอกาส ส่วนเรื่องที่มันเบี้ยวนัดนายบ่อยๆก็เพราะว่ามันไม่อยากให้ความหวังนายแล้วก็กลัวพี่ชินดงเข้าใจผิด มันคิดว่าเบี้ยวนัดนายบ่อยๆเดี๋ยวนายก็เลิกไปเองแต่นายกลับนัดมันบ่อยขึ้น มันก็พูดไม่ออกว่ามันมีแฟนแล้วพอมันเห็นหน้านายมันก็ใจอ่อนสงสารฉันก็เลยต้องมารับหน้าแทนมันบ่อยๆ ... ขอโทษนะถ้าฉันพูดอะไรตรงไป ” เรียวอุคพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าของอีกคนที่ปกติจะร่างเริงปนทะเล้นและยังดูเจ้าเล่ห์ตลอดเวลา แต่ตอนนี้กลับทำหน้าอย่างกับหมาป่าป่วยหน้าตาเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดและนั่นก็ทำให้เรียวอุครู้สึกสงสารจับจิต อยากดึงคนตรงหน้ามากอดปลอบประโลมแต่มันคงไม่ดีแน่หากเค้าทำเช่นนั้น
“ ฉะ ... ฉันนี่มันโง่ชะมัดเลยขนาดเค้าทำถึงขั้นนี้แล้วฉันก็ยังโง่ตามตื้อเค้าอยู่นั่นแหละ .. ฮ้ะฮ่า โง่สิ้นดี ” คยูฮยอนปรับสีหน้าให้เป็นปกติและพยายามเค้นเสียงหัวเราะออกมา ไปหลอกเด็กเด็กมันยังรู้เลยว่าเสียงหัวเราะนั่นมันฝืดและดูฝืนขนาดไหน แววตาที่ดูเศร้าสร้อยนั่นก็เป็นตัวบอกได้ชัดว่าเจ้าของแววตารู้สึกเศร้ามากเพียงใด
“ นายไม่ได้โง่หรอก ... คนเราหน่ะยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อจะได้ครอบครองคนที่เรารักและนายก็แค่ทำในสิ่งที่นายอยากทำเพื่อให้ได้ซองมินมาเป็นแฟนของนาย ในเรื่องของความรักฉันคิดว่ามันไม่มีใครถูก ผิด โง่หรือฉลาดหรอกนะ ! ฉันมองว่าความรักมันเหมือนโจทย์เลขซะมากกว่า ” เรียวอุคพูดพร้อมกับนั่งลงข้างๆเจ้าของร่างสูงที่ตอนนี้มองเค้าด้วยแววตาสงสัยอยู่ในที เรียวอุคไม่รอให้ร่างสูงถามแต่กลับพูดต่อไปว่า
“ มันมีปมหรือเรื่องราวต่างๆให้เราต้องคิดหาคำตอบเสมอ เพราะงั้นเราคงไม่ผิดหากคำตอบที่เราคิดจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องแต่เราก็ไม่เห็นจะต้องไปสนใจเลยใช่มั้ย เมื่อข้อก่อนเราคิดผิดพลาดข้อต่อไปเราก็ต้องคิดให้ดีถี่ถ้วนก่อนจะกรอกคำตอบลงไปใหม่ ” เรียวอุคยิ้มให้กับร่างสูงที่นิ่งฟังเค้าพูดด้วยแววตาที่มองไม่ออกว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่เค้าได้แต่ยื่นมือไปบีบไหล่คนข้างๆด้วยความเป็นห่วงก่อนจะต้องตกใจเมื่ออยู่ๆคนตัวสูงก็เด้งตัวลุกขึ้นจากม้านั่งยาว
“ นายจะบอกว่าฉันไม่ควรจะเสียใจกับรักครั้งเก่าอย่างนั้นใช่มั้ย ? ” คยูฮยอนลุกขึ้นพลางทอดสายตาออกไปไกลแสนไกลอย่างไร้จุดหมาย
“ อือ ถึงนายจะดูบื้อๆโง่ๆไปบ้างแต่ก็เข้าใจที่ฉันอยากจะบอกได้รวดเร็วดีนะ ^ ^ ” รอยยิ้มที่จริงใจของเรียวอุคถูกส่งไปให้คนร่างสูงตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังจ้องมองเค้าด้วยสายตานิ่งเฉยเช่นเดิม
“ แต่ฉันจะต้องใช้เวลานานสักแค่ไหนน้ะ ? ฉันชอบซองมินมาก มากจนถึงขั้นมองไม่ออกว่าซองมินกับนายเป็นแค่เพื่อนกัน ” แววตาเศร้าสร้อยยังคงมีให้เห็นอยู่อย่างไม่ปกปิด
“ ฉันตอบไม่ได้หรอกนะว่านายต้องใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อลืมซองมินเพราะคนเรามันใช้เวลารักษาแผลไม่เหมือนกัน บางคนที่ภูมิคุ้มกันเยอะแค่เพียงไม่นานก็หายแต่กับบางคนที่ไม่มีภูมิคุ้มกันใดๆเลยอาจต้องใช้เวลานานกว่าแผลจะหายสนิท ” เรียวอุคมองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่เป็นห่วงแสนห่วงอยากจะทำมากกว่านี้แต่เค้าก็ทำไม่ได้ เค้ายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตัวเค้าเองจัดอยู่ในฐานะเพื่อนของคนตัวสูงกว่าได้หรือเปล่า
“ เรียวอุค ... นายอยู่เป็นเพื่อนฉันได้หรือเปล่า อยู่ได้มั้ย ? ... ” เสียงของคยูฮยอนเบาแทบจะเป็นเสียงกระซิบแต่สำหรับเรียวอุคแล้วเสียงนั้นกลับดังก้องไปทั้งหัวใจของเค้า เค้าบอกไม่ถูกว่าเค้าดีใจหรือเป็นอะไรเค้ารู้เพียงแค่ว่าตอนนี้ เค้าอยากอยู่ข้างๆคยูฮยอน !
“ อื้อ ! ได้ซิฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนาย ^ ^ ” เรียวอุคพยักหน้าพร้อมกับส่งรอยยิ้มสดใสไปให้อีกคนแต่แล้วก็ต้องหยุดนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง ตกใจจนแทบจะหยุดหายใจเมื่อคยูฮยอนกอดเค้าก่อนจะซบหน้าลงตรงไหล่เล็ก และไม่นานที่ใบหน้าคมซบลงที่ลาดไหล่ของคนตัวเล็กน้ำใสๆก็เอ่อล้นออกมาจากดวงตาจนทำให้เสื้อของคนตัวเล็กเปียกเป็นดวงๆ เรียวอุครู้สึกถึงอะไรเปียกๆที่ไหล่ของตนแต่ก็คลายความสงสัยลงเมื่อคนร่างสูงที่กอดเค้าอยู่กำลังสะอื้นตัวโยนนั่นทำให้เรียวอุคค่อยๆยกแขนทั้งสองข้างโอบกอดอีกคนไว้มือหนึ่งกอดรัดรอบเอวและอีกมือก็ลูบผมของคยูฮยอนเป็นเชิงปลอบใจ แต่ใครเล่าจะรู้ว่าตอนนี้ดวงตากลมของคนที่กำลังปลอบคนตัวสูงกว่าก็ได้มีน้ำใสคลออยู่พร้อมที่จะไหลลงมาทุกเมื่อหากแต่เจ้าของดวงตากลับปาดมันทิ้งเพื่อไม่ให้คยูฮยอนเห็น
................................ I L L U S I O N ................................
‘ เจ้าเตี้ย ! วันนี้ไปเจอฉันที่สวนสาธารณะที่เดิมนะ ฉันจะไปรอนายที่นั่นมีเรื่องอยากคุยด้วยหน่อย ถ้านายมาสายฉันจะแช่งให้นายตัวเตี้ยเป็นคนแคระและขอให้โหนกแก้มนายสูงขึ้นอีกสิบสามเซ็น !
จาก สุดหล่อโจคยูฮยอน ’
คนตัวเล็กที่อ่านข้อความจบก็แทบอยากจะปาโทรศัพท์ในมือทิ้ง นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นมือถือที่ตัวเองเก็บเงินซื้อล่ะก็อย่าหวังเลยว่ามันจะยังอยู่ในอุ้งมือน้อยๆนี่
“ โธ่ ! ไอ้คุณโจคยูฮยอนสุดหล่อ หน้าหรือดวงจันทร์กันแน่หลุมเยอะเป็นบ้า ว่าแต่คนอื่นตัวเองหล่อตายแหละไอ้โจหลุมมมมมมมมมมมม !!!!!! ” เมื่อปาโทรศัพท์ไม่ได้คนตัวเล็กจึงมีทางออกโดยการกรนด่าคนที่ส่งข้อความมาให้ตนผ่านหน้าจอมือถือซึ่งแน่นอนไม่มีปลายสายหรือคู่สนทนาด้วย =______________________=’’
ตั้งแต่วันนั้นที่คยูฮยอนได้รู้ความจริงทุกอย่างเรียวอุคก็คอยดูแลและอยู่เป็นเพื่อนกับคยูฮยอนตลอดเวลาจนตัวแทบจะติดกันเป็นตังเมอยู่แล้ว ในช่วงแรกคยูฮยอนไม่ยอมมาเจอหน้าซองมินเลยเอาแต่หลบหน้าเสมอก็มีแต่เรียวอุคนี่แหละที่คอยสอดส่องดูแลอาการของคยูฮยอนพยายามทุกอย่างที่จะทำให้คยูฮยอนกลับมาสดใส ร่าเริงเหมือนเดิมในระยะแรกอาการของคยูฮยอนน่าเป็นห่วงมากจนเรียวอุคไม่กล้าให้คนตัวสูงอยู่เพียงลำพังเลย
เรียวอุคใช้เวลาเกือบ 3 เดือนอยู่กับคยูฮยอนเสมอไม่ว่าจะตอนเช้า กินข้าวกลางวัน หรือแม้เดินไปส่งที่บ้านแต่พักหลังจะเป็นคยูฮยอนเสียมากกว่าที่เดินมาส่งคนตัวเล็กและการที่เรียวอุคทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจเพื่อคยูฮยอนนั้นก็เป็นผลเพราะตอนนี้คยูฮยอนกลับมาเป็นคนเดิมที่ขี้เล่น ทะเล้นและแสนซน มันทำให้เรียวอุคยิ้มออกมาได้ทุกครั้งที่เห็นแววตาของคยูฮยอนไร้ความเศร้าสร้อย
“ อ่า นี่แกเป็นบ้าไปแล้วจริงๆใช่มั้ย ? พักหลังนี่ฉันเห็นแกคุยคนเดียวตลอดเลย ” ซีวอนที่เพิ่งเดินเข้ามาเห็นอาการของเพื่อนตัวเล็กก็แอบเหงื่อตกและเริ่มจะคิดจริงๆว่าเพื่อนเค้าใกล้จะบ้าเต็มทีแล้ว
“ บ้าบ้านป้าแกดิ ! ฉันด่าไอ้หน้าหลุมอยู่มันบังอาจมาแช่งให้ฉันเตี้ยแถมยังแช่งให้โหนกแก้มฉันสูงขึ้นอีกตั้ง 13 เซ็น ! ” ว่าแล้วคนตัวเล็กก็จัดการฟ้องพร้อมโวยวายใส่เพื่อนตัวสูงทันที
“ ฉันเห็นแกด่ามันตลอดแต่แค่แปปเดียวแกก็รีบไปหามันเลย อย่างนี้เค้าเรียกอะไรน๊าาา าา ... ? ” ซีวอนพูดกลั้วหัวเราะเรียกให้อีกคนที่ถูกแซวเลือดสูบฉีดแก้มแดงปลั่งเป็นลูกตำลึงไปเป็นที่เรียบร้อย
“ บ้าบออะไรของแก จะไปไหนก็ไปไป๊ ! ... ขอให้พี่เยซองบอกเลิกแกภายในสามวันเจ็ดวันเทอญ อาแมน ” คนตัวเล็กที่ถูกล้อก็รีบกลบเกลื่อนด้วยการสาปแช่งอีกคน
“ ยากว่ะ ! เพราะฉันกับเปาเปารักกันมากกกกกกกกก ~~~ ... ” ยั่วโมโหเพื่อนตัวเล็กเสร็จก็รีบวิ่งออกไปเพราะต้องออกไปรับแฟนสาว (?) ที่มหาลัยทิ้งให้คนตัวเล็กเดินออกจากห้องเพียงคนเดียว เรียวอุคเดินเลาะมาตามโถงทางเดินที่ตอนนี้ค่อนข้างจะไร้ผู้คนก็นี่มันเลิกเรียนตั้งนานแล้วนี่น่าคนก็ต้องกลับกันไปเกือบหมดแล้วสิ เค้าเลือกที่จะเดินไปยังสวนสาธารณะที่ได้นัดกับคนตัวสูงไว้
ในระหว่างที่เดินทางไปทีสวนสาธารณะเรียวอุคก็ได้คิดอะไรเรื่อยเปื่อยทั้งเรื่องของคนอื่นและเรื่องของตัวเอง เค้าก็ไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่หรอกนะว่าตัวเองเป็นอะไรแต่พักหลังมานี่ถ้าวันไหนเค้าไม่ได้เจอหน้าคยูฮยอนจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปตัวเป็นๆไม่มาให้เห็นอย่างน้อยก็ขอฟังเสียงหรือไม่ก็ข้อความก็ยังดี ...
เค้าจะรู้สึกดีมากๆหากมีคนตัวสูงอยู่ข้างกายเสมอเค้าชอบให้คนตัวสูงอยู่กับเค้าตลอดเวลาและเค้าก็ไม่ชอบเลยเวลาที่มีผู้หญิงมาเข้าใกล้คยูฮยอน เค้าอยากจะเข้าไปแทรกตรงกลางระหว่างผู้หญิงคนนั้นกับคยูฮยอนจริงๆแต่เค้าก็ต้องห้ามตัวเองไม่ให้ทำแบบนั้นและถึงแม้ว่าเค้าจะรู้สึกอะไรต่างๆนานาแต่พออยู่กับคนตัวสูง เรียวอุคก็ยังคงตีหน้านิ่งแสร้งไปว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับคนตัวสูงมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน
เรียวอุคใช้เวลาเกือบสามสิบนาทีในการเดินมาที่สวนสาธารณะที่อยู่ใกล้ๆกับโรงเรียนซึ่งปกติแล้วใช้เวลาไม่นานนักในการมาถึงที่นี้แต่วันนี้คนตัวเล็กได้เดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยทำให้ใช้เวลาเดินทางมานานกว่าปกติ เมื่อมาถึงสวนสาธารณะเรียวอุคก็ตรงไปที่ม้านั่งยาวที่มีคนร่างสูงนั่งอยู่ก่อนแล้ว
“ นี่นายคลานมาหรือไง ทำไมถึงช้าขนาดนี้ห้ะ ? ! ” คยูฮยอนที่หันไปเจอคนที่หย่อนตัวลงนั่งข้างๆก็แทบจะกระโจนใส่หน้าเพราะเค้ารอคนตัวเล็กนี่อยู่นานแล้ว
“ โว๊ะ ! นายนี่มันขี้บ่นจริงๆ .. แล้วเรื่องที่นายบอกอยากคุยมันเรื่องอะไรล่ะ ? โดดเรียนอีกแล้วล่ะสิวันนี้ฉันไม่เห็นนายที่โรงเรียนนายจะโดดเอาโล่เลยหรือไงนะ ” เรียวอุคส่ายหน้าน้อยๆกับพฤติกรรมที่ชอบโดดเรียนของคยูฮยอน
“ นายตั้งหากที่ขี้บ่น คิมเรียวอุค ! ” หันไปยั่วโมโหคนตัวเล็กก่อนจะพูดถึงธุระของตน
“ เรื่องที่ฉันอยากจะบอกนายก็คือ ... ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับนายแล้ว ” สิ้นเสียงของคยูฮยอนคนตัวเล็กก็แทบจะหยุดหายใจ สมองเบลอไปหมด เรี่ยวแรงที่เคยมีก็เหมือนถูกยึดไปเสียดื้อๆ
“ หนะ หนะ หนะ ... นายหมายความว่ายังไง ? ฉันทำอะไรไม่ดีทำไมนายต้องบอกว่าไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันแล้ว ? อ๋อ ! หรือนายโกรธที่ฉันมาช้า อย่างนั้นฉันขอโทษนะ ” น้ำเสียงที่รู้สึกผิดและแสนจะเว้าวอนให้อีกคนหายโกรธถูกกลีบปากเรียวสวยพูดออกมาอย่างเร่งรีบ
“ เปล่าหรอกเรียวอุค ... นายน่ะดีมากเลยนะนายคอยดูแลฉัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันก็มีนายนี่แหละที่อยู่เป็นเพื่อนฉันมาโดยตลอด เพราะฉะ ... ”
“ ถ้าฉันดีแล้วทำไมนายต้องบอกว่าอยากเลิกเป็นเพื่อนกับฉันล่ะ ? หรือนายไม่อยากให้ฉันตามติดนายคอยบ่นนายอย่างนี้ นายเบื่อ นายรำคาญฉันใช่มั้ยล่ะ ? ก็ที่ฉันต้องคอยบ่นนาย คอยตามติดนายมันก็เพราะตัวนายนั่นแหละนายมันทำอะไรเองไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่เป็น หนะ .. หนะ .. หนะ .. นายมันบ้าที่สุดโจคยูฮยอน !!!!!! ” ยังไม่ทันที่คนตัวสูงจะได้พูดจบประโยคคนตัวเล็กกว่าก็พูดแทรกขึ้นมาและที่ทำให้คยูฮยอนตกใจมากที่สุดเลยก็คือ ดวงตาของคนตัวเล็กเริ่มมีน้ำใสคลอที่หางตา จมูกเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ เสียงก็สั่นเครือ ใช่! ใช่แล้วเรียวอุคกำลังร้องไห้ คิมเรียวอุคกำลังร้องไห้ !!!!
“ นายก็รู้ว่าฉันมันไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องแล้วจะมาอยู่กับฉันทำไมเล่า ? ทำไมไม่ไปไกลๆจากฉันซะ ” คยูฮยอนจ้องมองคนตัวเล็กที่กำลังน้ำหูน้ำตาไหลอย่างกับเขื่อนแตก
“ ก็ฉันต้องคอยดูแลนายยังไง ฮึก .. ถ้านายไม่มีฉันนายก็จะ อึก .. จะทำอะไรได้ไม่ดี นายต้องมีคนดูแล อึก ... ” เรียวอุคสะอื้นตอบไปอย่างยากลำบาก เหมือนหัวใจจะหยุดเต้นไปเสียเฉยๆแค่คยูฮยอนไล่ให้เค้าออกไป เรียวอุคคนนี้ก็แทบจะยืนไม่ไหวแล้ว
“ ฉันโตแล้ว ฉันดูแลตัวเองได้ นายไม่ต้องมาดูแลฉันแล้ว ” คยูฮยอนยังคงพูดเสียงเรียบและจ้องมองคนตัวเล็กที่ตอนนี้ก้มหน้าปาดน้ำตาและปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นสุดฤทธิ์
“ ไม่ ! ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้นฮึก ฉะ.. ฉันจะคอยดูแลนายต่อให้นาย ฮึก ...ไล่ฉันอีกกี่ครั้งฉันก็จะ ฮึก .. ไม่ไปไหน ! ... อย่าใจร้ายกับฉัน ฮึก .. เลยคยูฮยอน ขอให้ฉัน ฮึก .. ได้อยู่ดูแลนาย ............. ขอให้ฉันได้แอบรักนายอย่างต่อไปเถอะนะ ฮึก” เรียวอุคพยายามพูดออกมาให้ครบและชัดทุกคำพูดแต่เสียงสะอื้นก็เล็ดลอดออกมา ท้ายประโยคเรียวอุคพูดเบาแทบจะกลายเป็นเสียงกระซิบแต่นั่นก็ดังพอจะทำให้คนตัวสูงระบายยิ้มเต็มใบหน้า
“ ก็เพราะแบบนี้ยังไงล่ะ ฉันเลยไม่อยากเป็นเพื่อนกับนายอีกต่อไปแล้ว ” คยูฮยอนดึงคนตัวเล็กที่กำลังร้องไห้อย่างหนักเข้ามากอดอย่างเต็มรัก ก่อนจะกดหน้าของคนตัวเล็กเข้ากับอกแกร่งของตนแต่คนตัวเล็กกว่าก็พยายามเสียเหลือเกินที่จะออกไปให้พ้นๆจากคนใจร้ายคนนี้ที่ออกปากไล่แต่กลับกอดเค้าไว้แน่น
“ เพราะนายดีกับฉันมาเสมอ ความห่วงใย ความใส่ใจ ความรักที่นายมอบให้ฉัน มันทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้นมาได้ ที่ฉันบอกว่าไม่อยากเป็นเพื่อนนายอีกต่อไปแล้วไม่ใช่ว่านายไม่ดีแต่นายดีมาก ... มากเสียจนฉันอยากให้นายเลื่อนขั้นมาเป็นแฟนของฉัน ^___________________^ ” เรียวอุคหยุดที่จะดิ้นและทุบตีอกแกร่งนั่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจากอกของคนตัวสูงก่อนจะจ้องไปที่แววตาของคนตัวสูงด้วยความสงสัย
“ นี่ฉันพูดขนาดนี้แล้วนายไม่เก็ตหรือไง ? ให้ตายเถอะทำไมแฟนฉันมันบื้อขนาดนี้นะ ! ” บ่นออกไปเล็กๆแต่ก็ไม่ได้คิดมากเพราะความซื่อของคนตัวเล็กนี่แหละที่ทำให้เค้าหลงรัก
“ ฉันรักนาย คิมเรียวอุค ! ” ก้มลงกระซิบที่ข้างหูของคนตัวเล็ก ก่อนจะขโมยจุ๊บเบาๆที่แก้มใส
“ อ๊ะ ! หนะ หนะ นี่นายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ! ” เมื่อรู้สึกว่าตัวเองโดนขโมยหอมแก้มก็ร้องลั่นพร้อมกับจับแก้มที่โดนหอมด้วยใบหน้าที่แดงขึ้นเรื่อยๆก่อนจะหลบสายตากรุ้มกริ่มของคนตัวสูงกว่า
“ อะไรกันไม่สะอื้นแล้วนี่ ... สงสัยเวลาอยากให้หยุดร้องไห้คงต้องบอกรักซะแล้วละมั้ง ” มือหนาจับใบหน้าหวานเชิดขึ้นให้สบตากับตนพลางใช้มือทั้งสองข้างเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าของคนตัวเล็ก
“ ถะ .. ถ้าฉันไม่ร้องไห้นายจะไม่บอกรักฉันหรือไง ? ” ใบหน้าหวานแดงก่ำพูดไปแล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองตาหรือไม่ก็แทรกแผ่นดินหนีสายตาคมที่จ้องเค้าอยู่ให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย
“ ฮ่ะฮ่า าา า าา ฉันจะบอกนายทุกวันเลยดีมั้ย ? ว่าแต่นายยังไม่ได้บอกรักฉันเลยนะบอกมาเดี๋ยวนี้คิมเรียวอุค ” รู้ทั้งรู้ว่าคนตัวเล็กคิดยังไงกับตนแต่ก็ยังมิวายแกล้งคนตัวเล็กให้เขินหนักกว่าเดิม
“ ฉะ .. ฉะ ... ฉันก็บอกไปแล้วนี่ !!!!!~~~~ ”
“ นี่อย่ามาเบี้ยวนะนายบอกฉันตอนไหนกัน ? ”
“ ก็เมื่อกี้นี้ไงนายไม่ได้ยินหรือไงห๊ะ !!!!! ”
“ ฮึ ! ไม่ได้ยินไหนบอกรักให้มันชื่นใจหน่อยสิ ” คยูฮยอนยื่นหน้าเข้าไปใกล้เรียวอุคก่อนจะยิ้มรอฟังคำบอกรักจากคนตัวเล็กกว่าพร้อมกับจ้องเข้าไปในดวงตากลม คนตัวเล็กจะหนีก็ไม่ได้ในเมื่อตัวก็ถูกกอด หน้าก็ถูกล็อคให้จ้องกับดวงตาคม
“ ฉะ ... ฉะ ... ฉันรักนาย ” พูดออกมาอย่างยากลำบาก ไม่ใช่ว่าถูกบังคับแต่หากเป็นเพราะเขินอายเสียมากกว่าจึงทำให้ตะกุกตะกัก
“ อะไรนะ ... ไม่ได้ยินเลยอีกรอบซิ ”
“ ฉันบอกว่าฉันรักนาย ”
“ ห๊าา า าา า า ~~~~ นายว่าอะไรกลายๆนะ ใครจะกลายร่างหรอ ? ”
“ ปั๊ดโธ่เว้ย ! ฉันบอกว่าฉันรักนายยยยยยยยยยยย ! ได้ยินมั้ยฉันรักนาย โจคยูฮยอนนนนนนนนนนนน !!!!!!!!~~~~~ ” เรียวอุคตะโกนออกไปสุดเสียงและนั่นมันก็ทำให้เค้าอยากขุดหลุมฝังตัวเองเพราะตอนนี้คนในสวนสาธารณะที่มีไม่มากนักได้กลายมาเป็นสักขีพยานการบอกรักของ คิมเรียวอุค ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ =////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////=! ” < ใบหน้าของเรียวอุค
“ ^_________________________________________^ ” < ใบหน้าที่แสนจะแป้นแล้นของโจคยูฮยอน
“ ทำไมนายชอบแกล้งฉันจังเลยนะ คยูฮยอน ” ปากว่าแต่หน้านี่ซุกอยู่ที่อกอุ่นเพื่อปิดบังความเขินอายจากโมเม้นต์ตะกี้
“ ก็แกล้งนายแล้วมันสนุกดีนี่ แถมเวลานายเขินยังน่ารักมากๆเลย ... อ๊า าา า !!!~~ แฟนใครน่ะน่ารักจัง ” กระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นเพราะเริ่มจะหมั่นเขี้ยวคนตัวเล็กในอ้อมกอดขึ้นมา
“ จำไว้นะว่าคนที่แกล้ง คิมเรียวอุค ได้มีแค่ฉัน ... โจคยูฮยอน เท่านั้นเข้าใจมั้ย ” คนตัวเล็กในอ้อมกอดพยักหน้ารับพร้อมกับกอดเอวของคนตัวสูงแน่น
“ คนที่จะอยู่เคียงข้าง โจคยูฮยอน ได้ก็ต้องเป็นแค่ คิมเรียวอุค คนนี้คนเดียว ... เข้าใจหรือเปล่า ไอ้หน้าหลุม ? ” เรียวอุคเงยหน้ามองคยูฮยอนด้วยแววตาที่แสนจะน่ารักทั้งจะยังคำพูดที่น่ารักนั่นอีกทำให้คยูฮยอนอดใจไม่ไหวขโมยหอมแก้มอีกสักฟอด
“ เข้าใจแล้วครับ ... เจ้าเตี้ยน้อย ” และคำตอบก็เรียกรอยยิ้มแสนหวานจากคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดีก่อนที่คนตัวสูงจะก้มลงประทับจูบลงบนกลีบปากสวยได้รูปนั่น แม้มันจะเป็นเพียงจูบที่บางเบาไม่ได้ลึกซึ้งอะไรแต่กลับทำให้ใจสองใจของคนสองคนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างช้าๆ
ในวันนี้โจทย์เลขที่เค้าทั้งสองเฝ้าค้นหาคำตอบก็ได้ถูกเฉลยออกมาเสียที โจทย์เลขที่มีความเข้าใจผิดเป็นปม และมีเรื่องราวต่างๆระหว่าง โจคยูฮยอน และ คิมเรียวอุค เป็นตัวแสดงวิธีทำที่ทำให้คนทั้งคู่ได้เข้าใจและรักกัน ส่วนคำตอบของมันก็คงไม่ต้องบอกแล้วล่ะว่าถูกหรือผิด ... ในเมื่อคนสองคนมีความสุขมากมายเพียงนี้ ตราบใดที่พวกเค้ายังจับมือกันเดินไปแบบนี้ต่อให้มันจะเป็นคำตอบที่ผิดพวกเค้าก็ไม่สนใจมันแล้วล่ะ ...
................................ I L L U S I O N ................................
Ryeowook Talk
หลายคนคงสงสัยกันใช่มั้ยล่ะครับว่าสโตกเกอร์ที่ไรเตอร์แก่ๆพูดถึงตั้งแต่พาร์ทแรกหน่ะที่แท้แล้วเป็นใคร ? ผมจะเฉลยให้ครับว่าจริงๆแล้วสโตกเกอร์ที่ทุกคนอยากรู้ที่แท้ก็คือ .... โจคยูฮยอน แฟนของผมเองละฮับ ( ก้มหน้าหลบความอาย =_______= ” ) อันที่จริงผมเองก็ไม่ได้อยากรู้เรื่องนี้หรอกนะเพียงแค่ผมถามเค้าว่า ‘ ทำไมถึงชอบซองมินแล้วทำไมถึงคิดว่าฉันเป็นแฟนกับซองมิน ? ’ คยูฮยอนก็ตอบกลับมาว่า ‘ ก็วันนั้นฉันเดินไปแถวๆร้านขนมเห็นซองมินอยู่ในร้านเค้าดูโดดเด่นกว่าคนอื่นและดูน่ารักกว่าผู้หญิงที่อยู่ในร้านเสียอีกจะว่าซองมินเป็นรักแรกพบของฉันก็ได้นะ
แต่แล้วซองมินก็จูงมือนายออกมาจากร้านตรงไปที่สวนนั้นฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมขาถึงตามพวกนายไป พอตามไปเห็นพวกนายกำลังหยอกล้อกันอย่างสนุก รอยยิ้มและเสียงหัวเราะมันทำให้ฉันคิดว่านายกับซองมินเป็นแฟนกัน ’ ไงละครับความคิดตื้นๆของแฟนผมคิดมาได้ยังไงว่าผมกับซองมินเป็นแฟนกัน ? ให้ตายเหอะแล้วใครจะกดเอ้ย ! แล้วใครจะเป็นเซเมะละครับในเมื่อเราเป็นอุเคะด้วยกันทั้งคู่ (-*-) แฟนผมนี่มันโง่ สมองตื้นจริงๆเลยสงสัยผมต้องหาน้ำมันตับปลาหรือไม่ก็ปลาทะเลน้ำลึกให้คยูฮยอนกินสักหน่อยแล้วเผื่อจะฉลาดขึ้นบ้าง ( =w= ) ... เอ๋ ! ซองมินเป็นรักแรกพบของคยูฮยอนเลยหรือไงแล้วผมล่ะเป็นรักแบบไหนของหมอนั่นนะ ? อื้มมมมมมมมมม ... ช่างเหอะครับคิดไปก็ปวดกะบาลซะเปล่าๆถึงผมจะไม่ใช่รักแรกพบแต่ผมก็จะเป็นรักสุดท้ายของผู้ชายที่ชื่อ โจคยูฮยอน ครับผม
( คยู : เฮ้ยจะบอกรักกันก็บอกดีๆหน่อยสิ อุค : นายก็บอกไรเตอร์แก่ๆซิแกเป็นคนแต่งนะ ! ไรเตอร์ : เรียวอุคหนูเรียกแค่ไรเตอร์เฉยๆก็ได้ลูกไม่ต้องมีแก่ๆหรอก =___________=”” )
----------------------------- I L L U S I O N E N D -----------------------------
________________________________________________________________________________________________________
ว้าวววววววววววว !!!!~~~~~ ในที่สุดช็อตฟิคเรื่อแรกของไรเตอร์ก็จบลงไปแล้วฮับป๋ม ^O^
เนื้อหามันอาจไม่ค่อยปะติดปะต่อหรือมันจะโดดๆข้ามๆสักเล็กน้อยยังไงไรเตอร์ก็ขออภัยครับ.
หลายคนอาจจะมองว่าไรเตอร์แปลก ‘ ชินมิน ’ งั้นหรืออ ? ไรเตอร์ว่าคู่นี้น่ารักดี > <” ในพาร์ทสุดท้ายนี้เราก็รู้กันแล้วว่า
ใครเอ่ยคือ สโตกเกอร์ ! และก็เป็นดั่งคาด ..... พ่อพระเอกหน้าหลุมเอ้ย ! หน้ามนของเรานั่นเอง !!!!! >O< 5555555’
ตอนจบไรเตอร์พยายามเขียนให้มันหวานสุดๆแต่ว่าความสามารถไรเตอร์มีแค่นี้อ่ะ ฮรึกกกกก ! (_ _)”
ความหวานมันเลยไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่ , ใจจริงไรเตอร์อยากให้หวานกว่านี้แบบมดเรียกแม่ แต่ก็นะได้แค่นี้จริงๆค่ะ w-
แต่ก็นะนี่แหละครับช็อตฟิคสไตล์ไรเตอร์ มึนๆ งงๆ จบแบบเอ๋อๆ ไม่แปลกหากจะโดนรีดเดอร์บางคนด่า 55555 >”<
ไรเตอร์ไม่รู้ว่าแต่งออกมาสนุกโดนใจรีดเดอร์มากแค่ไหน แต่ก็ต้องขอบคุณทุกกำลังใจและทุกคอมเม้นต์จริงๆฮับ >/\<
แล้วเจอกันใหม่กับช็อตฟิคเรื่องหน้า ... รีดเดอร์ไม่ขอ ไรเตอร์ก็จะลงแม้ว่ามันจะป่วงแค่ไหนก็ตาม TT^TT
- ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกคนติชมและขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่อ่านฟิคป่วงๆของไรเตอร์ ... ขอบคุณจริงๆฮับ (:
ความคิดเห็น