คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #75 : ปริศนารักแชงกรีล่า
นิยายแนวอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ของ moonlightsonata เรื่อง ปริศนารักแชงกรีล่า ดำเนินมาถึงตอนที่ 23 แล้ว นิยายเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของริน หญิงสาวชาวไทยที่วันหนึ่งเมื่อเธอฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่าตนเองความจำเสื่อมและมาอยู่ในดินแดนแชงกรีล่าที่ไม่คุ้นเคย และเป็นเสมือนโลกใหม่สำหรับเธอ แต่โชคดีว่าผู้ที่พบและช่วยเหลือเธอ คือ หมอนรัญญ์หรือหมอก้อง หนุ่มชาวไทยที่ข้ามมิติมาอยู่ในดินแดนแห่งนี้ด้วยเช่นกัน และเพื่อความปลอดภัย เขามักจะแนะนำใครๆ ว่ารินคือภรรยาของเขา นอกจากนี้ รินยังได้พบกับเยซาน ราชทูตและนาวังแห่งเทนซินที่ปักใจเชื่อว่าเธอคือรินเซน หญิงคนรักที่หายตัวไป การใช้ชีวิตในดินแดนแห่งนี้ยังทำให้รินต้องผูกพันกับเอเมล หรือเทพกระบี่อสูร มือสังหารฝีมือดีที่ได้รับจ้างวานให้สังหารริน แต่โชคชะตาเล่นตลกให้เขากลายเป็นผู้ช่วยชีวิตและผู้พิทักษ์ของเธอแทน จึงต้องติดตามกันต่อไปว่ารินจะสามารถกลับเมืองไทยได้หรือไม่ และผู้ชายคนใดที่จะเป็นผู้ครอบครองหัวใจของเธอ
กลวิธีสำคัญที่ moonlightsonata นิยมใช้เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับเรื่อง คือ การทิ้งปริศนา และความลับในอดีตของตัวละครไว้เป็นระยะๆ การเขียนในลักษณะนี้นับว่าช่วยกระตุ้นความสนใจใคร่รู้ของผู้อ่าน ขณะเดียวกันก็สร้างความน่าติดตามให้กับเรื่องได้เป็นอย่างดี เพราะผู้อ่านมักอยากจะทราบความจริงที่ยังปกปิดซ่อนเร้นไว้ และอยากตามติดการคลี่คลายปริศนาของผู้เขียนว่าจะใช้วิธีการเช่นไร และแยบคายเพียงใด ทั้งนี้ ปริศนาและความลับที่ปรากฏในเรื่องไม่ควรมีปริมาณที่มากนัก ก็จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้อ่านให้ติดตามอย่างใจจดใจต่อจนกว่าจะถึงบทเฉลย
ทว่านิยายเรื่องนี้กลับมีปมปริศนาและความลับอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ขาดจุดเน้นว่าเรื่องใดมีความสำคัญมากกว่ากัน เพราะจะพบว่าตัวละครหลักเกือบทุกตัวต่างก็มีความลับและอดีตอันซ่อนเร้น และนับวันยิ่งทวีมากขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องราวของรินที่เต็มไปด้วยความลับและปริศนา นับตั้งแต่ความเป็นมาที่แท้จริงของรินขณะที่อยู่เมืองไทย ความคล้ายคลึงกันระหว่างรินกับรินเซน ใครเป็นผู้พารินข้ามมิติมายังแชงกรีล่า เหตุใดจึงต้องพารินมาที่แชงกรีล่าแห่งนี้ ผู้ใดจ้างวานฆ่าเธอ และใครที่เป็นวิญญาณผู้หวังดีที่ของร้องให้เจ้าแม่อัมปูช่วยเธอไว้ เหตุใดครั้งแรกที่เจ้าแม่โบเลอูพบรินแล้วทำให้นึกถึงภาพเด็กหญิงวัย 10 ขวบที่กอดเธอร้องไห้ และชายตี๋ใส่แว่นที่เมื่อรินนึกถึงครั้งใดก็ทำให้เธอรูสึกเจ็บปวดคือใคร รวมทั้งยังมีความลับของเอเมลว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นใคร และน้องสาวที่ถูกแยกจากเอเมลไปตั้งแต่เด็ก ขณะนี้จะเป็นเช่นไร หรือแม้แต่รินเซนและรินแท้ที่จริงคนทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันอย่างไร นอกจากนี้ยังพบว่า เมื่อ moonlightsonata เปิดปริศนาใดๆ ไว้แล้ว มักจะไม่ค่อยสานต่อ พัฒนาหรือคลี่คลายปริศนาและความลับดังกล่าว แต่กลับเปิดปริศนาและความลับใหม่ๆ อยู่เสมอ จึงทำให้นิยายเรื่องนี้เต็มไปด้วยปริศนาและความลับ โดยยังปราศจากการคำตอบ ซึ่งการดำเนินเรื่องเช่นนี้อาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกอึดอัดและเบื่อได้ เพราะตามอ่านมาเท่าใด ก็ไม่ได้ทราบคำตอบเสียที ในแง่นี้ moonlightsonata ควรจะรีบปิดหรือคลี่คลายปริศนาและความลับที่ไม่สำคัญไปเป็นระยะๆ และคงไว้แต่เฉพาะปริศนาหลักหรือความลับสำคัญที่ใช้เป็นแกนกลางในการพัฒนาเรื่องให้ไปถึงจุดสูงสุด ก่อนที่จะคลี่คลายและเฉลยในตอนท้าย ก็จะช่วยให้เรื่องน่าติดตามมากขึ้น
ในนิยายเรื่องนี้นอกจากจะมีโครงเรื่องหลัก (plot) ที่ผูกอยู่กับการดำเนินชีวิตและเรื่องราวของรินขณะที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนแชงกรีล่าแล้ว ยังมีโครงเรื่องย่อย (sub-plot) อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งโครงเรื่องย่อยเหล่านี้มักจะเป็นการอธิบายขยายความเรื่องราวของตัวละครอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับริน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวชีวิตของหมอก้อง ที่ยังคงไม่คิดจะหาทางกลับเมืองไทย จนกว่าจะตามพบฟ้าภรรยาที่พลัดหลงของเขาได้ รวมทั้งยังมีเรื่องราวความวุ่นวายในชีวิตของเยซานทั้งเรื่องราวความรักที่เขาพยายามตามหารินเซน ขณะเดียวกันยังต้องระมัดระวังตนจากการลอบสังหารของผู้ที่ต้องการจะได้อำนาจและตำแหน่งนาวังของเทนซินแทนเขา อีกทั้งยังมีเรื่องราวชีวิตของเอเมล ที่หนทางชีวิตเขาเริ่มเข้ามาพัวพันกับทั้งรินและเยซานมากขึ้น เพราะว่าคนทั้งคู่คือเป้าหมายในการลอบสังหารของเขา การเขียนนิยายที่มีโครงเรื่องย่อยจำนวนมากเช่นนี้ ผู้เขียนจำเป็นต้องมีการวางแผนการเขียนมาเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้โครงเรื่องย่อยๆ เหล่านี้กลบโครงเรื่องหลักที่ต้องการเสนอ ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ละเลยโครงเรื่องย่อยที่เปิดไว้เหล่านี้ไปพร้อมกันด้วย สำหรับเรื่องราว ปริศนารักแชงกรีล่า ที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเปิดโครงเรื่องย่อยไปพร้อมกับโครงเรื่องหลักเท่านั้น ยังไปไม่ถึงขั้นการพัฒนาโครงเรื่องเท่าใดนัก จึงไม่สามารถที่จะให้ความเห็นในประเด็นนี้ได้ในขณะนี้
ในส่วนของการบรรยายนั้น เนื่องจากนิยายเรื่องนี้มีฉากสำคัญอยู่ที่ดินแดนแชงกรีล่า ซึ่งนับเป็นดินแดนใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในความรับรู้ของผู้อ่านนัก ด้วยเหตุนี้ moonlightsonata จึงให้ความสำคัญกับการบรรยายเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับผู้อ่าน ทั้งในเรื่องของฉาก บรรยากาศ ชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี การปกครอง และการแต่งกายไว้อย่างละเอียด โดยที่ผู้อ่านจะได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ไปพร้อมกับรินด้วย อนึ่ง ข้อสังเกตเกี่ยวกับบทบรรยายที่พบคือ สัดส่วนระหว่างบทบรรยายกับบทสนทนาในเรื่องมักจะไม่สมดุลกันนัก เพราะในบางบทจะพบว่ามีบทสนทนาเรียงต่อกันเป็นจำนวนมากจนแทบจะไม่พบบทบรรยายเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในบทแรกๆ ตั้งแต่บทที่ 1-5 ขณะเดียวกันในบางบทก็ดูประหนึ่งว่าจะมีการแยกกันระหว่างบทบรรยายกับบทสนทนา กล่าวคือ บางครั้งก็มีบทบรรยายขนาดยาวเรียงต่อติดต่อ 3-4 ย่อหน้า ต่อจากนั้นก็จะเป็นบทสนทนาที่มีความยาวประมาณ 1-2 หน้า โดยที่แทบจะไม่มีบทบรรยายคั่นเลย จึงเห็นว่า moonlightsonata น่าจะสร้างสมดุลในการวางระหว่างบทสนทนากับบทบรรยายไม่ให้มีลักษณะแยกส่วนกันอย่างชัดเจนเช่นนี้ อาจจะเป็นการสลับระหว่างบทสนทนากับบทบรรยายในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน ก็จะช่วยแก้ปัญหาในประเด็นนี้ได้ สำหรับในประเด็นเรื่องคำผิดนั้น พบว่า moonlightsonata มีความพิถีพิถันในเรื่องนี้มาก จึงพบคำผิดน้อยมาก คำผิดที่พบมีเพียง 5 คำ คือ คู่ เขียนเป็น คู ปรากฏ เขียนเป็น ปรากฎ เพิ่งนึก เขียนเป็น พึ่งนึก ฤๅ เขียนเป็น ฤา และ เสน่ห์ เขียนเป็น สเน่ห์
นอกจากนี้ สัดส่วนความสั้น ยาวของแต่ละบทก็นับเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการจูงใจให้คนผู้อ่านอยากหรือไม่อยากที่จะติดตามเรื่องด้วยเช่นกัน ในนิยายเรื่องนี้ยังดูเหมือนว่า moonlightsonata ยังไม่ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากนัก เพราะเนื้อหาในแต่ละตอนยังขาดความสมดุล จะเห็นได้ว่าในบทแรกๆ จะมีขนาดสั้นมาก จนบางครั้งอาจรวม 3-4 ตอนเป็นตอนเดียวกันได้ แต่บทหลังๆ เริ่มมีขนาดยาวขึ้นเรื่อยๆ และบางบทก็มีขนาดยาวมาก จนเห็นควรว่าน่าจะแบ่งเป็น 2 หรือ 3 ตอน ด้วยเหตุนี้จึงอยากให้ moonlightsonata คำนึงถึงสมดุลในเรื่องนี้ด้วย เพราะว่าบางบทยาวมาก อาจทำให้ผู้อ่านบางคนเบื่อเมื่ออ่านถึงช่วงท้ายๆ ได้
--------------------------------------------
ความคิดเห็น