ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิจารณ์นิยาย

    ลำดับตอนที่ #65 : … Killer Online เมื่อนักฆ่าอยากเป็นนักบุญ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 158
      0
      9 ส.ค. 55

    ลิงก์นิยาย http://writer.dek-d.com/mimaruko/story/view.php?id=574867
     
              นิยายแฟนตาซีของ Reana~Rika   เรื่อง … Killer Online  เมื่อนักฆ่าอยากเป็นนักบุญ  ที่โพสต์ถึงตอนที่ 25 ซึ่งมีตอนพิเศษเพิ่มมาอีก 1 ตอน นิยายเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวคนกลุ่มหนึ่งที่ชะตาลิขิตให้ต้องโคจรมาพบกันทั้งในชีวิตจริงและในเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบเล่มเกมนี้ก็มีทั้งนาย หรือ ตะวันดับแสง  มือสังหารฝีมือดี  ที่เลือกอาชีพนักบวชในเกม  วัฒน์ หรือ E-01 เจ้าพ่อมาเฟียตัวเอ้  ที่รู้จักกันในนาม  ตะวันเมฆา  หัวหน้ากิลที่ใหญ่และเก่งที่สุดในเกมนี้  เซบาเตียนหรือเชน  ดาราหนุ่มผู้พิทักษ์ความยุติธรรม  ที่เลือกเป็นบุนโด  สมุนที่รักและชื่นชมตะวันเมฆามาก  หรือแม้แต่ผู้หมวดที่ต้องการจับตัวทั้ง E-01 และตะวันดับแสงก็ยังชื่นชอบเกมนี้ด้วยเช่นกัน  ซึ่งบางคนก็เป็นมิตรกันในโลกความจริง  แต่กลับเป็นศัตรูหรือคู่แข่งกันในโลกของเกมก็ได้ หรือบางครั้งก็มีในลักษณะตรงข้ามด้วยเช่นกัน  ทว่าเมื่อโลกในชีวิตจริงและโลกของเกมไม่ได้แยกกันเด็ดขาดอย่างที่เข้าใจ  เส้นแบ่งระหว่างชีวิตจริงกับชีวิตในเกมเริ่มจะพร่าเลือนลงทุกขณะ  จนชีวิตทั้งสองโลกเริ่มผสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียว  ผู้คนที่อยู่ในทั้งสองโลกจะตัดสินใจต่อชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไร  ก็ต้องตามลุ้นกันต่อไป

              นิยายเรื่องนี้สร้างความน่าสนใจและชวนให้ผู้อ่านติดตาม   นับตั้งแต่เปิดเรื่องด้วยความลึกลับของสถาบันวิจัยและพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง  ที่ผู้มีอำนาจในสถาบันวิจัยแห่งนี้สั่งฆ่านักวิจัยของคนกว่า 60 ชีวิตเมื่อพวกเขาพัฒนางานวิจัยชิ้นหนึ่งได้สำเร็จ  จากนั้นเรื่องราวของสถาบันวิจัยแห่งนี้ก็หายไปจากเรื่อง  และค่อยๆ เปิดเผยที่ละน้อยว่าผลการทดลองงานวิจัยที่เป็นเหตุให้ต้องสังหารหมู่นักวิจัยทั้งหมดในโครงการมีความเชื่อมโยงกันระหว่างบริษัทเกมคอมพิวเตอร์ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูง  เพราะบริษัทได้ผันตัวเองมาเป็นบริษัทเกมชั้นนำที่นำผลการวิจัยชิ้นเอกที่พัฒนาได้มาเป็นสินค้าสำคัญเพื่อใช้ครอบครองโลก และแผนการที่วางไว้กำลังจะมีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จเพราะเกมนี้ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ  

    การใช้เกมคอมพิวเตอร์มาเป็นเนื้อหาหลักของนิยายเรื่องนี้ก็ไม่ต่างจากนิยายแนวนี้เรื่องอื่นนัก  เพราะเกมที่ปรากฏในเรื่องไม่ต่างจากเกมที่ผู้อ่านคุ้นเคยในชีวิตจริงนัก  ทั้งยังให้ตัวละครเป็นส่วนหนึ่งของเกมที่ต้องเก็บเลเวล  กิล และทำภารกิจต่างๆ ด้วย  แต่ผู้เขียนก็เพิ่มมิติและความน่าสนใจให้กับเรื่องโดยสร้างให้เรื่องราวต้องดำเนินไปเป็นในลักษณะสลับเรื่องราวไปมาระหว่างโลกในชีวิตจริงกับโลกในเกม   ซึ่งดูเหมือนว่าโลกทั้งสองต่างกันและไม่น่าที่จะมาส่งผลให้กันและกันได้  ทว่าโลกทั้งสองที่ว่านี้กำลังเริ่มเคลื่อนเข้ามาใกล้กันมากขึ้น เพราะตัวละครสำคัญที่อยู่ในโลกจริงและโลกในเกมต่างเป็นบุคคลกลุ่มเดียวกันที่มีความสัมพันธ์กันทั้งเป็นมิตรและศัตรู   ขณะเดียวกันผู้เขียนยังได้เปิดประเด็นใหม่ให้เรื่องดูน่าสนใจและน่าติดตามมากขึ้น  เมื่อเริ่มเปิดเผยว่าโลกในเกมที่เราคิดว่าเป็นโลกเสมือนที่สร้างขึ้นนั้น  จริงๆ แล้วอาจไม่ใช่ก็ได้  เพราะพื้นที่บางส่วนของเกมนี้ก็คือชุมชนที่มีอยู่จริงในโลก  เช่น หมู่บ้านลับแล 

    ความยากประการหนึ่งของการเขียนเรื่องในแนวนี้คือ  การสร้างความสมจริงเพื่อให้ผู้อ่านคล้อยตามเรื่องราว  เหตุการณ์ และเหตุผลเบื้องหลังที่ผู้เขียนนำเสนอ   โดยส่วนตัวเริ่มรู้สึกเคลือบแคลงสงสัยความสมจริงของนิยายเรื่องนี้   นับตั้งแต่ผู้เขียนเปิดประเด็นหมู่บ้านลับแล  และให้เอลิส หนึ่งในตัวละครของหมูบ้านแห่งนั้นเป็นผู้เปิดเผยว่าแท้ที่จริงแล้วพื้นที่แห่งนี้มิใช่เกม  แต่เป็นโลกแห่งหนึ่งที่ถูกกวาดล้างมาเมื่อ 660 ปีก่อน นับตั้งแต่มีรูปแบบของเกมนี้เกิดขึ้น  และสถานที่แห่งนี้ยังอยู่นอกเหนือระบบการทำงานด้วยความคิด  ซึ่งเป็นระบบหลักของการเล่นเกมนี้   เมื่อความจริงถูกเปิดเผยขึ้นเช่นนี้  ก็ทำให้ผู้วิจารณ์เกิดข้อสงสัยว่า  เมื่อเมืองลับแลอยู่นอกระบบความคิดอันเป็นกลไกสำคัญในการขับคลื่อนเกมนี้  แล้วเหตุใดผู้ที่อยู่ในเกมจึงสามารถมาเยือนสถานที่แห่งนี้ได้   เช่นเดียวกับคนที่อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้จะเข้าไปอยู่ในระบบคิดของเกมได้อย่างไร   ความเคลือบแคลงประการต่อมาก็คือ  หากพิจารณาจากจากระยะเวลาที่เลื่อมซ้อนกันระหว่างเมืองลับแลกับโลกแห่งความจริง  เพราะในโลกแห่งความจริงเกมนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา  แต่ในเมืองลับแลเกมนี้ส่งผลต่อชีวิตคนเมืองนี้มานานถึง 660 ปี  เมื่อเป็นเช่นนี้ก็แสดงให้เห็นว่า  เมืองลับแลน่าจะเป็นโลกต่างมิติที่อยู่คู่ขนานกับโลกแห่งความจริงมีช่วงเวลาต่างกันอย่างน้อยก็ 1 ต่อ 110 ปี  เมื่อเป็นเช่นนี้หากคนในสองโลกข้ามไปมาระหว่างกันก็น่าจะจะมีผลต่อการดำรงชีวิตของพวกเขาด้วย  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  เรอัน  สมาชิกของเมืองลับแลที่ตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งความจริงแล้ว  กลไกของเวลาในตัวเขาจะปรับให้เข้ากับเวลาในโลกแห่งความจริงได้อย่างไร  เพราะเวลาในเมืองลับแลเร็วกว่าโลกความจริงถึง 110 เท่า 

    นอกจากนี้  นักเขียนยังได้นำจุดเด่นของเกมมาเป็นปัจจัยหลักในการนำเสนอเรื่องครั้งนี้ด้วย  นั่นคือ การใช้นามแฝง และการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของผู้เล่นก่อนที่จะเล่นเกม  จึงทำให้ผู้เล่นเกมส่วนใหญ่แม้ในชีวิตจริงจะเคยพบกัน  แต่เมื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ในเกมไปมากก็ไม่อาจจำกันได้  การทำเช่นนี้นับว่าช่วยลดลักษณะคู่ตรงข้ามของตัวละครในโลกความจริงให้พร่าเลือนลง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างตัวละครที่ทำงานผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจ  และกลุ่มผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่เป็นศัตรูกันในชีวิตจริง แต่สามารถกลายเป็นเพื่อนกันในเกมคอมพิวเตอร์ที่เล่นอยู่ก็เป็นได้   ซึ่งเงื่อนไขนี้อาจเอื้อให้เกิดความร่วมมือระหว่างคนสองกลุ่มก็เป็นได้  เพราะโดยส่วนตัวเห็นว่าแนวโน้มของเรื่องในท้ายที่สุดทั้งตำรวจและผู้ร้าย  คือ ตะวันดับแสง และวัฒน์ หรือ E-01  อาจจะต้องร่วมมือกับผู้หมวด เพื่อโค่นล้มและกำจัดเจ้าของบริษัทเกมที่วางแผนครอบครองโลก

      อย่างไรก็ดี  การที่ตัวละครแต่ละตัวต่างมีรูปร่างหน้าตา  บุคลิก  บทบาท และชื่อที่ต่างกันระหว่างโลกจริงและโลกในเกมเช่นนี้   ทำให้ตัวละครในเรื่องมีจำนวนเพิ่มขึ้นในลักษณะเกือบเป็นทวีคูณซึ่งอาจสร้างความสับสนให้ผู้อ่านได้   ไม่ว่าจะเป็นจำนวนตัวละครที่มีปริมาณมากเท่านั้น  แต่ผู้เขียนยังเพิ่มความซับซ้อนให้กับตัวละครด้วยการเพิ่มมิติของเงื่อนไขในเชิงพื้นที่เข้าไปด้วย  กล่าวคือ  หากจะแบ่งตัวละครด้วยเกณฑ์ของพื้นที่อาจแบ่งได้เป็นสี่กลุ่มใหญ่ๆ  คือ ตัวละครที่ปรากฏตัวเฉพาะในโลกความจริง  เช่น  พิทักษ์  พ่อของเมษ นายตำรวจที่รอดจากการสังหารของตะวันดับแสง  และ เอก เพื่อนของวัฒน์และเป็นลูกชายของเพื่อนพิทักษ์  ตัวละครที่ปรากฏตัวเฉพาะทั้งในโลกความจริงและในโลกของเกม  เช่น นาย/ตะวันดับแสง  เมษ  พลอย  เชน/บุนโด  วัฒน์/ตะวันเมฆา  ตัวละครปรากฏตัวเฉพาะในโลกของเกมเท่านั้น  เช่น  กิลหรือ Mr. Skill  และเฟย่า และตัวละครในเมืองลับแล เช่น เรอัน เอลิส และ ลูซิเฟอร์   ซึ่งตัวละครในกลุ่มนี้ก็แยกเป็นกลุ่มย่อยลงไปได้อีก คือ  ตัวละครที่ปรากฏตัวเฉพาะในเมืองลับแลและในเกม  เช่น ลูซิเฟอร์  และ เอลิส  และตัวละครที่ปรากฏตัวเฉพาะในโลกความจริงและในเมืองลับแล เช่น  เรอัน  ด้วยเหตุนี้  ผู้อ่านจึงต้องทำการบ้านมากขึ้นด้วยการพยายามจดจำตัวละครและบทบาทของตัวละครทั้งหมดทั้งในโลกแห่งความจริงและในโลกของเกมที่ปรากฏสลับกันไปมาอยู่ตลอดเวลา  จึงจะสามารถติดตามเรื่องราวได้อย่างต่อเนื่อง

    การสร้างตัวละครที่ซับซ้อนและมีปริมาณมากเช่นนี้    ผู้เขียนคงจะต้องช่วยผู้อ่านด้วยการบรรยายลักษณะของตัวละครแต่ละตัวอย่างละเอียดก็จะช่วยลดความสับสนนี้ได้  แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า  Reana~Rika  ยังไม่ให้ความสำคัญในประเด็นนี้ไม่มากนัก  โดยเฉพาะการบรรยายรูปร่างหน้าตาของตัวละคร  ซึ่งส่วนใหญ่มักจะให้ภาพรวมกว้างๆ  จนทำผู้อ่านจินตนาการภาพตัวละครตัวนั้นๆ ได้เพียงภาพร่างคร่าวๆ  เท่านั้น  เช่น บรรยายถึง ตะวันดับแสง (ในเกม)  ว่า ... เขาเลือกปรับผมให้ยาวขึ้นจนถึงกลางหลัง  เปลี่ยนเป็นสีขาวและรวบไว้หลวมๆ เปลี่ยนสีตาเป็นสีน้ำเงินเข้ม .... ทำให้ใบหน้าคม ดูอ่อนโยน ใจดี ...  หรือ บุนโดว่า ชายร่างยักษ์สูงเกือบสองเมตรกล้ามใหญ่  หัวโล้นสะท้อนแสงแดด หรือ ตะวันเมฆา ว่า  ...หน้าตาหล่ออย่างที่สมควรจะมีคนมาขอลายเซ็นจริงๆ .. แม้ว่าจะหล่อน้อยกว่านาย... หมอนั่นมีเส้นผมสีดำเข้มยาวระต้นคอตามทรงเท่ๆ ใบหน้าคม  ล่ำสัน  รูปร่างสมส่วน  เหมาะที่จะเป็นายแบบ

    สำหรับการเขียนนั้นพบว่า  ผู้เขียนบรรยายเรื่องได้เป็นอย่างดี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบรรยายเรื่องราวในโลกของเกม  จนดูประหนึ่งว่าผู้เขียนก็เป็นผู้หนึ่งที่ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกัน  จึงสามารถถ่ายทอดบรรยากาศภายในเกม  วิธีการเล่น  รวมไปถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นระหว่างเล่นเกมได้เป็นอย่างดี  แต่เป็นที่น่าเสียดายว่ามีคำสะกดผิดอยู่จำนวนหนึ่ง  เช่น  สัญชาตญาณ  เขียนเป็น  สัญชาติญาณ  เคาน์เตอร์  เขียนเป็น เคาเตอร์  สละสลวย  เขียนเป็น สระสลวย  เวท  เขียนเป็น เวทย์  เพลี่ยงพลั้ง  เขียนเป็น เพรี่ยงพรั้ง  ครณา  เขียนเป็น  ครนา  กลับตาลปัตร  เขียนเป็น  กลับตารปัด  ล่ำสัน  เขียนเป็น  ล่ำสั้น  ภักดี  เขียนเป็น  ภัคดี  สบาย  เขียนเป็น  สะบาย  คฤหาสน์  เขียนเป็น  คฤหาส  อนุญาต เขียนเป็น  อนุญาติ  อู้อี้  เขียนเป็น  อู้อี้  ปะทะ  เขียนเป็น ประทะ  มั้ย  เขียนเป็น  มั๊ย  คลุมเครือ  เขียนเป็น  ครุมเครือ เปอร์เซ็นต์  เขียนเป็น  เปอร์เซน  ครั้งแรก  เขียนเป็น  ครั้งแลก  ต่างหู  เขียนเป็น  ต้มหู  เฮ้ย  เขียนเป็น  เห้ย  คมกริบ  เขียนเป็น   คมกลิบ  หา หรือฮะ  เขียนเป็น ห๊ะ  เกียรติ  เขียนเป็น  เกียรติ์ และ พะอืดพะอม  เขียนเป็น พอืดพอม  ซึ่งคำผิดเหล่านี้ลดทอนความสมบูรณ์ของเรื่องไปอย่างน่าเสียดาย

     

     

    ---------------------------

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×